ผู้ใช้:Mint2004/นิยาย/16
สารานุกรมเกมอินดี้
เรื่องนี้ รวบรวมมาจากที่นี่ เพื่อให้อ่านได้ง่าย สะดวกขึ้น
ไปที่หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
บทที่ 30 การสูญเสียและคำทำนายบทสุดท้ายที่เกิดขึ้น
รัตติกาลก็เข้าครอบงำท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าคืนนี้ก็เป้นใจต่อการรบนัก เพราะเป้นคืนพระจันทร์เต็มดวง แต่การสู้รบในสนามรบยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ พวกซอเรียนก็บุกขึ้นฝั่งเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ส่วนฝ่ายพันธมิตรแห่งแสงก็สู้รบอย่างลืมตายกันทุกคนลืมแม้กระทั้งความง่วงนอน ลืมแม้แต่ความหิว ทั้ง 2 ฝ่ายก็บาดเจ็บล้มตายกันมาก การสู้รบมันช่างทำให้กลางคืนของคืนนี้ช่างยาวนานนัก และการสู้รบก็ดำเนินต่อไปจนกระทั้งจะเช้าของวันใหม่ " ไอ้พวกซอเรียนพวกนี้มันไม่รู้จักเหนื่อยกันลยหรือ ข้าว่าข้าอึดแล้วนะ ข้ายังจะเริ่มไม่ไหวแล้วเลย " อลันหันหน้าไปพูดกับราฟาเอล " ข้าสิก็เหนื่อยแล้ว สู้ทั้งวันทั้งคืนแบบนี้อะ ถึงพวกเราจะผลัดกันพักบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเหนื่อยล้าลดลงเลยเพราะยิ่งสู้พวกซอเรียนก็ยิ่งรุกขึ้นฝั่งมากันอีก" ราฟาเอลพูดพร้อมเอามือปาดเหงือที่ใบหน้า "ถ้ายิ่งสู้กันแบบไม่ได้พักแบบนี้ พวกเราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ๆ นี่ขนาดแบ่งคนให้ไปพักและสลับกันสู้แล้วนะเนี่ย สงสัยต้องหาวิธีอะไรสักอย่างแล้วละ" เฮียโจพูดและหันมาทางอลันและราฟาเอล " ข้าก็คิดเช่นนั้นละเฮียโจ แต่นี่ก็ใกล้เช้าแล้วด้วย คงต้องสลับให้คนที่เหนื่อยมากๆและคนที่มีอาการบาดเจ็บทะยอยไปพักและรักษาตัวก่อน และให้คนที่มีแรงผลัดกันออกมาสู้อีก" อลันพูดเสริมอีกแรง และแล้วดวงตะวันแลแสงตะวันของวันใหม่ก็โผล่พ้นจากขอบฟ้า ยิ่งแสงแดดตกกระทบมาที่พื้นดินก็ยิ่งทำให้เห้นภาพที่น่าเศร้าและหดหู่ใจ เพราะมันคือภาพศพของทั้งซอเรียนและฝ่ายพันธมิตรแห่งแสง และภาพของพ้นดินและหญ้าที่แดงไปด้วยเลือด แต่ยังไงซะการสู้รบก็ดำเนินต่อไปอีกและยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดตอนไหน " ระวังเฮียโจ.. ฟิ้วๆๆ(เสียงธนูจากธนูของคิกิ)" คิกิตะโกนและยิงลูกธนู 3ดอก เข้าใส่ซอเรียนที่ตอนนี้กำลังเงือมดาบจะฟันเฮียโจจากด้านหลัง และลูกธนูทั้ง 3ดอกที่คิกิยิงก็ทำให้ซอเรียนสิ้นฤทธิ์ไปอีก1ตัว และได้ช่วยเฮียโจไว้ด้วย " ขอบใจนะคิกิ ถ้าไม่ได้เจ้าข้าคงแย่แน่ๆ" เฮียโจยิ้มและพูดขอบใจคิกิ คิกิก็หน้าแดงแบบอายๆและวิ่งไปรบสมทบกับวาเลนไทน์ต่อ " ฮันแน่ ได้กลิ่นความรักกลางสนามรบแล้ว ฮ่าๆๆ" อลันพูดแซวเฮียโจ "เอาเหอะน่ามัวแต่แซวข้า ข้างหน้าเจ้าซอเรียนอีก3ตัวจัดการซะข้าไม่ช่วยนะ" เฮียโจพูดบอกอลันเสร็จก็หันไปลุยกับซอเรียนต่อปล่อยให้อลันกับราฟาเอลลุยซอเรียข้างหน้าทั้ง3ตัว และขณะที่เฮียโจกับอลันพูดกันอยู่นั้น ก็มีบางสิ่งลอยตกมาโดนหลังของอลันและกลิ้งอยู่ที่พื้น อลันมองดูสิ่งที่ชนหลังและกำลังกลิ้งอยู่ที่พื้นและภาพที่อลันเห้นคือศรีษะของแคสก้าที่เป้น 1ใน5ขุนพลของเฮียโจเหมือนอลันนั้นเอง " เฮียโจ แคสก้าตายแล้ว ไอ้พวกซอเรียนบ้านั้นมันฆ่าแคสก้าตายแล้ว" อลันตะโกนบอกเฮียโจด้วยเสียงอันดังพร้อมกับน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา เฮียโจได้ยินดังนั้นก็รีบหันหลังและวิ่งมาหาอลันและได้เห็นอลันถือหัวของแคสก้าอยู่ " ขอบใจนะแคสก้าที่ร่วมรบกับข้ามาเป้นเวลานาน ข้าจะไม่ให้เจ้าตายเปล่า "เฮียโจพูดและกอดหัวของแคสก้าไว้ และเรียกทหารให้นำหัวของแคสก้าไปเก้บไว้ที่ เต้นท์ด้านหลังของสนามรบ และทั้งเฮียโจและอลัน สายตาจากที่เศร้าเพราะแคสก้าตายก็เปลี่ยนมาเป้นสายตาที่โกรธแค้นและเกรี้ยวกราดและพุ่งเข้าไปสู้กับซอเรียนอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ราฟาเอลรีบวิ่งไปเรียกวาเลนไทน์และคิกิให้ไปช่วยกันรบใกล้ๆกับเฮียโจและอลันที่ตอนนี้สู้รบแบบบ้าคลั่งอยู่ วาเลนไทน์และคิกิก็นำนักรบส่วนหนึงวิ่งตามราฟาเอลไปรบใกล้ๆกับเฮียโจและอลัน ยิ่งคิกิ วาเลนไทน์และราฟาเอล เห้นอลันและเฮียโจบ้าคลั่งแบบนี้แว ลยทำให้พวกเค้าต้องคอยอยู่ใกล้ๆเฮียโจและอลันตลอดไม่กล้าไปรบไกล เพราะทั้ง2อาจจะพลาดพลั้งแก่พวกซอเรียนได้
ตะวันขึ้นจนถึงยามสาย การรบก็ยังดำเนินต่อไปเป้นวันที่ 2 ทุกคนก็ต่างเริ่มเหนื่อยล้ากันแล้ว ไม่เว้นแม้แต่พวกซอเรียก็เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน แต่สงครามก็คือสงคราม แม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่ถ้าศัตรูอยู่ข้างหน้า ก็จะมีแรงสู้ต่อไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง ในขณะที่สนามรบข้างล่างกำลังรบกันอยู่ บนฟ้าซาร่าที่ขี่หลังราชามังกรเกเลี่ยนอยู่ก็ออกคำสั่งรบทางอากาศอยู่โดยทิ้งหินเหมือนเมื่อวาน แต่ซาร่าและมังกรเกเลี่ยนก็เริ่มรู้สึกมีอะไรเริ่มผิดปกติบางอย่าง ท้องฟ้าที่สว่างจ้าในยามสาย แต่ตอนนี้แสงเริ่มเบาบางลงทีละเล็กละน้อย จนซาร่าได้เห้นบางอย่างเลยให้ราชามังกรเกเลียนบินโฉบมาหาเฮียโจและตะโกนให้ทุกคนเงยหน้ามองดูอะไรบางอย่างบนท้องฟ้า พระอาทิตย์กำลังถูกความมึดบดบังที่ละนิดๆนั่งเอง "สุริยะคลาส" เฮียโจอุทานพร้อมด้วยสีหน้าที่เป้นกังวล และเฮียโจกำลังที่จะวิ่งไปที่ศุนย์บัญชาการบนเนินเขา แต่เฮียโจก็ได้เห้นวาเลนไทน์ที่ทรุดตัวนั่งตัวสั่นอยู่ เฮียโจเลยเรียกพวกราฟาเอลมาดูวาเลนไทน์เป็นอะไรไป "วาเลนไทน์ เธอเป้นอะไรไป ทำไมนั่งตัวสั่นแบบนี้ แล้วตัวเธอเย็นเฉียบเลย เธอกลัวหรือตกใจอะไร" ราฟาเอลถามด้วยสีหน้าที่ตกใจเหมือนกับคนอื่น เพราะทุกคนจะเคยเห้นวาเลนไทน์ที่ยิ้มแย้มเป้นบางครั้งและแข็งแกร่งในเวลารบ แต่ตอนนี้วาเลนไทน์กับนั่งตัวสั่นอยู่ " มันกำลังมา... มันกำลังมาแล้ว... " วาเลนไทน์พูดออกมาด้วยเสียงสั่นเบาๆแต่ทุกคนก็ได้ยิน และนี่เป้นครั้งแรกที่ทุกคนนอกจากโซเฟียที่ได้ยินเสียงวาเลนไทน์ เลยทำให้ทุกคนตกใจเข้าไปอีกที่เห้นวาเลนไทน์พูดได้ " นี่วาเลนไทน์เธอพูดได้หรือ เธอกำลังกลัวอะไร แล้วอะไรกำลังมา " อลันเอามือจับไปที่บ่าของวาเลนไทน์ทั้ง2ข้าง และเขย่าตัววาเลนไทน์แรงๆ เพื่อให้วาเลนไทน์ได้สติ แต่ยังไม่ทันที่วาเลนไทน์จะพูดอะไรต่อ ตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มจะมึดลงอีกครั้งแล้ว เพราะดวงอาทิตย์ใกล้จะถูกความมืดบางอย่างบดบัง อากาศรอบๆตัวก็เริ่มเย็นลงทันทีเย็นแบบเย็นเข้าไปถึงกระดูก ทำให้การสู้รบตอนนี้ได้หยุดลงชั่วขณะ เพราะทุกคนหยุดดูเหตการณ์ประหลาดในครั้งนี้ แม้แต่ทางเต้นท์ของราชากษัตย์อาเทอเรียที่ 3ที่กำลังวางแผนรบกันก็ยังต้องออกมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาทางด้านหลังของกษัตย์อาเทอเรียที่3ว่า "คำทำนายบทสุดท้ายได้เกิดขึ้นแล้ว และเทวีแห่งความมึดและความตายเทวีอาทรัมกำลังจะคืนชีพกลับมายังโลกมนุษย์อีกคร้งแล้วจากเทวีอาทรัมโดนเทวีลูซิสใช้ดาบแห่งแสงฟันจนสลายตัวไปเมื่อมหาสงครามครั้งที่แล้ว " และเมื่อดวงอาทิตย์ถูกความมึดกืนกินแสงจนหมดสิ้น ก็มีหมอกสีดำปกคลุมไปทั่ว และเหมือนมีความกดอากาศทำให้รู้สึกหายใจติดๆขัดๆหายใจไม่ทั่วท้องคาดว่าคงเกิดจากหมอกสีดำและอากาศที่เย็นเป็นแน่ และอยู่ๆก็ได้มีลมพัดอย่างรุนแรง แต่ลมนี้ได้พัดเอาหมอกสีดำพัดวนขี้นไปที่กลางอากาศจนก่อตัวเป็นลมหมุนสีดำขนาดใหญ่ได้พัดเอาเหล่าซอเรียนและฝ่ายนักรบปริวไปหลายคน และพอลมหมุนเริ่มที่จะสงบลง ก้เริ่มที่จะเห้นร่างๆหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ และพอลมหมุนสงบลง ก้เห้นเป้นหญิงสาวหน้าตาสวยงามผมยาวสีดพ ใบหน้าคล้ายๆกับรูปปั้นเทวีลูซิสที่ตั้งอยู่กลางเมืองเซาเทรินฟอร์ท แต่แววตาดูดุกว่ามาก ลอยตัวสงบนิ่งอยู่กลางอากาศ ใส่ชุดเกราะอ่อนสีดำทับกับเสื้อผ้าที่เป้นชุดคลุมยาวถึงปลายเท้านั้นคือเทวีแห่งความมึดและความตายอาทรัมนั่นเอง และพอเทวีอาทรัมยื่นมือขวาไปข้างหน้าก็เกิดลำแสงสีดำพุ่งออกจากปลายมือของเทวีอาทรัมจำนวน 5ลำแสงด้วยกัน ลำแสงสีดำนี้ได้พุ่งเป้าไปที่ฝูงมังกรที่ซาร่าและราชามังกรเกเลี่ยนที่บินอยู่บนท้องฟ้า พวกมังกรเดรกและคิมสันเดรกก็รีบบินรวมกันตัวกันเพื่อที่จะไม่ให้ลำแสงสีดำนี้โดนซาร่าและราชามังกรเกเลี่ยน แต่ไร้ประโยชน์ มังกรเดรกและคิมสันเดรกที่โดนลำแสงนี้ผ่านตัวไปก็จะสลายกลายเป้นผุยผงไปทันที และไม่ทันที่ซาร่าและราชามังกรเกเลียนจะบินหลบ ลำแสงสำดำก็พุ่งโดนหน้าอกขอเกเลี่ยน แต่ก่อนที่ลำแสงจะโดนเกเลี่ยน เกลียนก็ได้สลัดซาร่าให้ร่วงหล่นจากหลังก่อนแล้วซาร่าเลยไม่โดนลำแสงนี้ และราชามังกรเกเรียนก็สลายกลายเป้นผุยผงไปต่อหน้าต่อตาซาร่าที่ตอนนี้กำลังตกลงไปด้านล่าง " เกเลี่ยน....." ซาร่าร้องตะโกนพร้อมทั้งน้ำตาและลอยตกลงมา แต่เฮียโจก็กระโดนรับตัวซาร่าไว้ทัน แต่ก็ทำให้เฮียโจแขนซ้ายหักไป1ข้างเพราะต้องรับร่างของซาร่าที่ตกลงมา เหล่ามังกรเดรกและคิมสันเดรก ที่เหลือเห้นราชามังกรเกเลี่ยนตายไปก็พุ่งเข้าใส่เทวีอาทร้มกันหมด แต่ไม่มีตัวไหนบินถึงตัวเทวีอาทรัมสักตัวเพราะมังกรทุกตัวที่บินเข้าไปใกล้เทวีอาทรัม จะสลายกลายเป้นผุยผงเหมือนกับที่โดนลำแสงสีดำจากอาทรัม เพราะเทวีอาทรัมเหมือนมีบาเรียสีดำรอบกายอยู่ และบาเรียนี้ขยายออกไปรอบตัวอาทรัมประมาณ2-3เมตร และเมื่อเหล่ามังกรสลายไปหมดแล้ว เทวีอาทรัมก็หลับตาพร้อมทั้งกางแขนทั้ง2ข้างให้เป้นรูปไม้กางเขนและเหมือนท่องคาถาอะไรสักอย่าง และสิ่งที่ทุกคนเห้นคือ จะมีเหล่าดวงไฟสีขาวพุ่งมาจากทุกทิศทุกทาง และมีอีกเป้นร้อยและพันดวงที่ลอยพุ่งออกมาจากเหล่าศพซอเรียนและศพมนุษย์ที่นอนตายอยู่ในสนามรบนี้ และกำลังพุ่งเข้ามาใส่ตัวของอาทรัมเต็มไปหมด ดวงไฟสีขาวนั่นก็คือเหล่าดวงวิญญานคนตายนั้นเอง เทวีอาทรับกำลังดูดกลืนกินวิญญานคนตายเพื่อมาเป็นพลังของตนเอง จนทำให้ทุกคนตกตะลึงกับภาพที่เห้น บางคนก็มือไม้อ่อน จับอาวุธไม่ไหวก็มีเยอะ บางคนทรุดนั่งหมดหวังกับภาพที่เห็น บางคนก็เร่มที่จะถอยหนีไปตั้งหลักด้สนหลังแล้ว ภาพนี้ยาวนานประมาณ10นาที จนกระทั้งดวงวิญญานสีขาวดวงสุดท้ายถูกดูดกลืนหายเข้าไปในตัวเทวีอาทรัม และพอเทวีอาทรัมลืมตาเท่านั้นเอง ก็เกิดมีแรงและพลังที่รุนแรงบางอย่างแพ่ซ่านออกมาจากตัวเทวีอาทรัมจะทำให้เหล่าซอเรียนและเหล่ามนุษย์กระเด็นและล้มกันตามๆกัน และเทวีอาทรัมก็ได้ค่อยๆลอยต่ำลงมาและยืนที่พื้นดินกลางสนามรบต่อหน้าต่อตาของเหล่าซอเรียนและเหล่าพันธมิตรแห่งแสง......................
หมวดหมู่: ชุมชน