GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 26 27 [28] 29 30 ... 32
ผู้เขียน หัวข้อ: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]  (อ่าน 4498 ครั้ง)
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #405 เมื่อ: 24-04-2011, 14:16:46 »

เอาคู่จิ้น(พระเอก)ไปด้วยดีมั้ยหว่า ..

ไม่เอาไป ก็ไม่รู้จะแต่งยังไง แต่ถ้าเอาไป เค้าจะแต่งให้มันเกิดปัญหายังไงดีหว่า

หิ้วไปด้วยนั้นแหละ เดี๋ยวแต่งแบบโหล ๆ เอา = ="


  //me โดนถีบ

  ปล. อาจเปลี่ยนแปลงเป็นไม่หิ้วไปด้วย = =



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #406 เมื่อ: 25-04-2011, 22:31:17 »

เอาไปไม่หมดก็ไม่มันส์สิ Evil

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #407 เมื่อ: 01-05-2011, 14:41:35 »

เลยเทิร์นยูกิมา 3 วันแล้วนี่หว่า= =

ตาเพชรสินะ

ป.ล.ทุกคนลืมกันไปหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย ไม่ขุดจำไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย= =



● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #408 เมื่อ: 01-05-2011, 18:17:02 »

อ้างจาก: 一番の宝物 ที่ 01-05-2011, 14:41:35
เลยเทิร์นยูกิมา 3 วันแล้วนี่หว่า= =

ตาเพชรสินะ

ป.ล.ทุกคนลืมกันไปหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย ไม่ขุดจำไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย= =

เหะ เลยเทิร์นยูกิมาแล้วหรอ

เดี๋ยวมาลงพรุ่งนี้ตอนเย็น ๆ นะเออ =^=



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #409 เมื่อ: 02-05-2011, 19:54:10 »

-45-

หลังจากที่ฉันกับแอนโทเนียกดเงินเสร็จก็เดินไปที่ร้านอาหารที่อยู่ริมชายหาดทันที .. คินจิน่าจะมาด้วยแหะ ..

อ้ะ ไม่สิ คินจิไม่มาน่ะดีแล้ว ! คงต้องถามนู้นนี่ไปหมดแหง่ม ๆ .. แต่ฉันรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับคินจิยังไงไม่รู้แหะ

จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ มันยิ่งสู้ใครไม่ค่อยจะไหวอยู่ .. ไม่ ๆ ! ทำไมฉันต้องห่วงมันด้วยล่ะ เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่าแหะ

“อาเรีย เป็นอะไรหรอ เห็นทำหน้าเครียด ๆ” แอนโทเนียทักฉันขึ้น ฉันแอบสะดุ้งเล็กน้อย

“หะ อ่อ เปล่าจ้า กำลังคิดอะไรหลาย ๆ อย่างน่ะ แหะ ๆ ช่างมันเถอะ ไปกินข้าวกันดีกว่า !!” ฉันพูดเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

“รีบเดินไปไหนน่ะ หิวขนาดนั้นเลยหรอ” โลวาน่าตะโกนตามหลังมา เพราะตอนนี้ฉันอยู่ระยะที่ค่อนข้างไกลจากทุกคน

เพราะฉันเดินเร็วมาก .. เรียกว่าวิ่งเลยดีกว่า .. แต่ถึงตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดีแหะ .. ฉันควรโทรไปหาคินจิดีมั้ย

ฉันเพิ่งได้เบอร์มันมาตอนมันโทรผิดคนเมื่อวานหลังจากที่ฉันแอบดูรุ่นพี่ชินแกล้งสารภาพรักกับรุ่นพี่นาริแถมฉันเซฟเบอร์ไว้ด้วย

ฉันลองโทรไปดูดีกว่า

“ทุกคน เดี๋ยวฉันมานะ กินกันไปก่อนเลย ขอไปโทรหาพ่อแปบนึงนะ”

“มาไว ๆ นะ”
แอนโทเนียตอบกลับมาในขณะที่คนอื่นพยักหน้าตอบรับแล้วฉันจึงค่อยวิ่งจากไป ฉันควักโทรศัพท์มาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น

และรีบกดหาเบอร์ของคินจิ .. อยู่ไหนฟะ ! .. เจอละ แล้วฉันจะบอกคินจิว่ายังไงดี จะบอกว่าโทรผิดดีมั้ย ช่างมัน อ้าง ๆ ไปเหอะ

ฉักดปุ่มสีเขียวและหน้าจอโทรศัพท์ก็เปลี่ยนเป็นตัวเลขพร้อมกับคำว่า Calling ก่อนที่จะนำมันมาทาบกับหู

ตื๊ด .. ตื๊ด ..

เสียงรอรับสายดังขึ้นอย่างเรื่อย ๆ ..

“ฮัลโหล” ในที่สุด .. เสียงของคนที่ฉันรอคอยก็ดังขึ้นมา

“อ .. เอ่อ .. ค .. คิน .. คินจิหรอ” นี่ฉันถามอะไรเนี่ย ก็ฉันโทรหาคินจินี่นา

“มีอะไรรีบ ๆ พูดมา ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่” น้ำเสียงของคินจิดูหวาดกลัวเล็กน้อยแต่ดูซีเรียสมากกว่า

“ค .. คือ .. สบายดีมั้ย” อ๊ากกก !! ฉันถามอะไรโง่ ๆ อีกแล้ว ตอนแรกฉันกะจะบอกว่าโทรผิดแต่พอคินจิรับสาย

ดั้นเกิดบ้าตื่นเต้นขึ้นทำไมไม่ทราบแล้วถามไปว่า คินจิหรอ จะอ้างว่าโทรผิดคงไม่ได้แล้ว ! คินจิเงียบไปซักพักแต่ไม่นานเท่าไหร่ก็ตอบกลับมา

“อื้อ สาบายดี”

“คินจิจ๋าาาาาาาาาาาาาา ~”
เสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

“ค่อยคุยกันทีหลังนะ !!” คินจิว่าแล้วสายก็ถูกตัดไป ปล่อยให้ฉันยืนงงกับสิ่งที่ฉันได้ยินตะกี้

ตอนนี้ฉันยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม โทรศัพท์ยังถูกทาบอยู่บนหูแม้ว่าจะวางสายไปแล้ว

เมื่อกี้มันอะไร เสียงของผู้หญิงคนนั้นคือใคร ทำไมถึงพูด จ๊ะจ๋า แถมคินจิบอกว่ากำลังยุ่งอยู่ด้วย

จะเป็นแฟนของเขารึเปล่า ไม่หรอกน่า หงิม ๆ แบบมันคงไม่มีใครเอาหรอก ! ปกป้องใครก็ไม่ได้

แต่ถ้าเป็นแฟนของเขาจริง คินจิก็น่าจะบอกอะไรฉันบ้างสิ

ไม่สิ ต้องเป็นพี่ไม่ก็น้องสาวแน่ ๆ ! .. ไม่มีอะไรหรอก .. แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของนิคหรือเปล่า

หรืออาจจะเป็นพวกบ้าผู้ชายตามตื๊อไม่เลิก .. แต่ส่วนมากพวกที่มันบ้าผู้ชายจะไปคลั่งรุ่นพี่ชินกันหมดนี่นา

ฉันเริ่มอยากกลับโรงเรียนตอนนี้ซะแล้วสิ .. แต่อยู่ ๆ จะกลับไปทั้ง ๆ ที่เพื่อนชวนมามันก็ยังไงอยู่

เอาน่า ไม่กี่วันเอง ! .. เดี๋ยวก็ได้กลับโรงเรียนแล้ว ..




ไม่รู้จะเอายังไงให้สนใจตามที่เกิ้ลบอกดี

เลยเอาแบบเน่า ๆ เนี้ยแหละ อาจจะสั้น(มาก)ไปหน่อย แต่รีบแต่งอ่ะเพราะมันเลยเวลาเย็นมาแล้ว

ขอโทษน้า =^='

  ปล. รู้สึกเหมือนจะแต่งห่วยลง T^T



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #410 เมื่อ: 02-05-2011, 20:33:42 »

ไม่ห่วยหรอก เรื่องเริ่มเข้าที่แล้ว =w=b



● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #411 เมื่อ: 02-05-2011, 21:58:33 »

อ้างจาก: ● ρєтсн™ ที่ 02-05-2011, 19:54:10
ไม่สิ ต้องเป็นพี่ไม่ก็น้องสาวแน่ ๆ ! .. ไม่มีอะไรหรอก .. แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของนิคหรือเปล่า

อ๊ากกกกก เมา

ตอนแต่งกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ เพื่อนชื่อนิคไง ดั้นเผลอพิมพ์ใส่แทนคินจิเฉย =[]='



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #412 เมื่อ: 03-05-2011, 13:00:42 »

-46-

หลังจากที่อาเรียกลับมาจากคุยโทรศัพท์กับพ่อตามที่เธอบอกไว้ ท่าทางแปลกประหลาดของเธอที่ฉันไม่เคยได้เห็นมาก่อน สีหน้าดูกระวนกระวายก็เห็นได้ชัด จนฉันต้องเอื้อมมือไปสะกิด

"อ๊ะ..มีอะไรหรอ ?"

"เป็นอะไรน่ะ ท่าทางรีบร้อนเชียว ?"

"อ๋อ..เอ่อ..อยากเล่นน้ำเร็วๆน่ะ!!"เธอรีบตอบฉับพลันจนชินสำลักอาหาร นาริขำก๊ากแทบตายแต่สุดท้ายก็หยิบน้ำไปให้ดื่ม

"ใจเย็นๆก็ได้นะ"ฉันยิ้มให้อาเรีย แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงด้านหลัง

"นี่ โลวีน่า! เธอรู้ไหม ว่าตอนที่ฉันขึ้นไปหยิบของให้เธอ ฉันพบกันน้องสาวเธอด้วยแหละ"เสียงหวานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน..ลินนั่นเอง

"หา! เธอเจอยัยนั่นหรอ แล้วยัยนั่นบอกว่ายังไงบ้าง ?"ฉันแอบเหลือบมองทางหางตาก็พบว่าสีหน้าพี่ดูเป็นกังวล หึ! กลัวว่าความลับจะแตกล่ะสิ!

"เอ๋ ?? ก็เปล่านี่นา  เธอแค่มองฉันเฉยๆ"

ไม่ดีแน่..ถ้าพี่เห็นฉันคงไม่ดีแน่ ฉันมาสนุกนะ!! ไม่ใช่มาเครียด!!

พรึบ!!

ว่าแล้วฉันก็รีบลุกพรวดพราดขึ้นมาจนทุกคนหันมามองอย่างงุนงง มือด้านขวาเอื้อมมาบีบจมูกแล้วพูดเสียงแหลมออกไป

"อ่า..คือว่า..เอ่อ..เลฟลืมของ!! เดี๋ยวไปเอามานะจ๊ะ !"

"เลฟ ?.."นาริขมวดคิ้วเป็นปม ฉันฉีกยิ้มให้ก่อนจะพูดเสียงแหลมอีก

"ตามไปหาที่ห้องด้วยก็ได้นะ"ว่าแล้วฉันก็รีบวิ่งกลับขึ้นห้องในโรงแรมทันที  เปิดประตูออกผัวะ แล้วรีบรวบผมสีน้ำเงินเข้มที่ยาวนี่เก็บไว้ใต้หมวกฟางสีขาว ก่อนจะหยิบแว่นกันแดดสีดำมาใส่บดบังใบหน้า ทุกคนที่วิ่งตามมาถึงกับงุนงงกับสถาการณ์ที่เกิดขึ้น

"โลวาน่า..เป็นอะไรรึเปล่าคะ ?"แอนโทเนียถามเสียงใส ฉันยิ้มให้ก่อนจะลากทุกคนให้เข้ามาในห้อง สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆบอก

"นับตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะถึงวันกลับ ห้ามทุกคนเรียกชื่อฉันเด็ดขาด ให้เรียกว่า 'เลฟ' แทน"

"หา ?!"สี่เสียงประสานกันทันที ฉันยิ้มจางๆก่อนจะตอบต่อไปอีก

"ฉันเจอพี่ชายของฉัน เราเพิ่งทะเลาะกันหนัก ก็เลยไม่อยากเจอน่ะ"

"อ้าว! โอกาสนี้ทำไมไม่ไปขอโทษเลยล่ะครับ ?"ชินถามอย่างงุนงง แต่ฉันกลับส่ายหน้า

"ไม่ได้หรอก เพราะมาสนุก ฉันก็ต้องไม่มีเรื่องเครียดไงล่ะ กลับไปค่อยเคลียห์กันก็ได้"

"แต่.."อาเรียทำท่าจะแย้ง แต่นาริที่รู้เรื่องดีกลับห้ามปราม

"ช่างเถอะอาเรีย การกระทำนี้ให้โลวาน่ามันตัดสินใจเองเถอะ"

"อื้ม.."อาเรียพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจ

"โอเคค่ะโอเค..งั้นเรียกว่า 'เลฟ' ละกันนะ"เธอกระพริบตา ฉันยิ้มให้ก่อนจะเกาแก้มเบาๆ

'นี่ฉันคิดชื่ออะไรของฉันเนี่ย!..ช่างเถอะ!!'

"เอ้อ แก แกกลัวว่าจะมีคนเห็นผมแกใช่มะ ?"นาริถามฉัน ฉันหันไปมองแล้วพยักหน้า เธอไม่ตอบอะไร แต่เดินไปหยิบวิกผมสีน้ำตาลยาวอีกอันก่อนจะยื่นให้ฉัน

"อ่ะ เอาไป ฉันให้ยืม เผอิญติดมือมาน่ะเผื่อได้ใช้"

"อื้ม! ขอบใจนะ!"

ฉันรู้สึกได้ถึงการมีเพื่อนมันดีอย่างนี้นี่เอง นาริให้ฉันยืมวิกผม ส่วนแอนโทเนียให้ยืมคอนแทคเลนส์ที่ติดมือมาสีน้ำตาลเช่นกัน มันช่วยปลอมตัวฉันได้อย่างง่ายดาย เสียอย่างเดียวคือใบหน้าฉันยังเหมือนเดิม แค่สีตาแตกต่างไปเท่านั้น แต่ยังดีที่ฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งหมวกฟางกับแว่นตากันแดดนั่นแล้ว

ไม่นานนักพวกเราทั้งหมดก็เดินลงไปด้านล่าง  หวังจะเล่นน้ำทะเล

ทุกคนเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน มีเพียงฉันที่นั่งเขี่ยทรายสีขาวนวลนี่คนเดียว

'ไม่มีอารมณ์จะเล่นอะไรแล้วล่ะ..'

สถานที่นี้ปลอดคน มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ป่านนี้โรงเรียนต่างๆคงกำลังเข้าเรียนอยู่ มีเพียงโรงเรียนพวกเราที่หยุดยาว เพราะฉะนั้นผู้คนถึงได้น้อยมาก ทะเลแห่งนี้จึงกว้างและโล่งปลอดโปล่งทันที

"มานั่งทำอะไรตรงนี้หรอครับ ? ไม่ไปเล่นน้ำทะเลกับเพื่อนๆหรอ ?"เสียงเข้มดังขึ้นเหนือหัว ฉันเงยหน้าหันไปมองก็พบชายคนหนึ่งยืนยิ้มให้อยู่

'แล้วคุณเป็นใครกัน มายุ่งอะไรกับฉันมิทราบ..'

นั่นเป็นคำตอบในใจ คำตอบที่แท้จริงคือฉันส่ายหน้า ก่อนจะหันกลับไปมองทะเลอย่างเดิม

"เฮ้ย! ชาร์ก! มัวทำอะไรอยู่วะ! วันนี้ตกลงจะไปเดินท่องเที่ยวแล้วค่อยกลับมาเล่นไม่ใช่รึไง! อ้าว ! นั่นผู้หญิงที่ไหนนั่น"ฉันเหลือบไปมองเสียงเรียกตะโกนด้านหลัง แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นพี่ชายยืนเรียกอยู่ คนคนนี้คงเป็นเพื่อนพี่เขาสินะ..

"เออๆ! ไปแล้ว!"ชายคนนั้นตอบกลับไป  ก่อนจะวิ่งไปหาพี่ชายทันที ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่พี่ไม่ได้ลงทุนเดินมาตามเพื่อน

"โล..เลฟ! ไม่มาเล่นด้วยกันหรอ!"แอนโทเนียพูดผิดพูดถูกบ้างถามฉัน ฉันยิ้มให้อีกทีก่อนจะลุกขึ้นแล้วลงไปเล่นด้วย

ตอนนี้พี่ไม่อยู่..ขอสุดเหวี่ยงเลยละกัน!



ไม่รู้ทำไมฉันเป็นคนที่กินจุเอาเสียมากๆเวลาถึงข้าวเย็น แต่ตอนนี้กลับทานไม่ลงซะงั้น

ฉันซื้อไอศกรีมแล้วถือไปทานบนห้อง ไม่ทันได้ถึงห้อง ฉันก็ทำการกินมันหมดซะแล้ว แต่ฉันก็ต้องชะงักเมื่อเจอผู้ชายที่ชื่อชาร์กนั่นอีก

'มันจะตามตอแยไปถึงไหนกัน!!'

"อ้าว ? เธอนี่นา จะไปไหนหรอ?"

"ฉันจะไปนอน"ฉันตอบเสียงเข้มอย่างหงุดหงิด ก่อนจะรีบสาวเท้าหนี ไม่ใช่เพราะรำคาญอะไรเขามากมาย แต่เป็นเพราะกลัวว่าจะเจอพี่แล้วเขาจะจำได้

เมื่อเดินหนีมาได้ไกล ฉันหันหลังกลับไปทั้งๆที่ยังเดินหน้าอยู่อย่างหวาดระแวง แต่เมื่อหันหน้ากลับมากับต้องชนกับแผงอกใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น

"โอ้ย..เจ็บชะมัดยาด.."ฉันพยามดันตัวขึ้น บุคคลที่ฉันเดินชนยื่นมือมาก่อนจะช่วยฉันให้ลุกขึ้น ฉันกล่าวขอบคุณและขอโทษทั้งสองอย่างพร้อมกัน แต่เมื่อมองหน้าชัดๆกลับต้องชะงัก

"อ๊ะ.."

"เธอ..หน้าคุ้นๆนะ"พี่ชายยื่นหน้าอย่างไม่มีมารยาทมาแนบชิดกับฉันเพื่อดูว่าเป็นใคร ฉันพยามผละหนีออกมาก่อนที่เขาจะจำได้ แล้วรีบวิ่งทันที

"เดี๋ยว!! เธอปลอมตัวทำไมน่ะ!"

หมดกัน! ที่ฉันยอมใส่วิกสีน้ำตาลกับคอนแทคเลนส์นี่มันไม่ช่วยอะไรเลยรึไงกันนะ !!

"พูดอะไรของคุณ! ฉันไม่รู้จัก ฉันเพิ่งพบคุณครั้งแรกนี่แหละ!"ใครบอกว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ ฉันพยามโกหกปิดบังเข้าไปเรื่อยๆจนเหงื่อไหล

"โลวาน่า!!"เสียงเข้มทำท่าจะดุดังขึ้นด้านหลังฉันจนตัวสั่น ฉันหลับตาปี๋ก่อนจะวิ่งเข้าห้องทันทีไม่สนใจเสียงเรียก

ปัง!!

นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว  ฉันนั่งเหม่อดูโทรทัศน์  ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

"ใครน่ะ ..นาริหรอ!?"

"อื้อ"

เสียงตอบออกมาหน้าประตู ทำไมเสียงมันแหลมแปลกๆจัง ? ช่างเถอะ เสียงทีวีฉันปะปนกับเสียงเธอล่ะมั้ง แล้วดูแปลกๆ

ฉันเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วเปิดออก แต่แล้วร่างใหญ่ก็อุกอาจเข้ามาในห้องทันที ฉันรีบปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะหันไปมอง นั่นเป็นจังหวะที่การโกหกเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วนั้นแตกสลายไปทันที

เพราะเวลานี้วิกผมสีน้ำตาลกับคอนแทคเลนส์นั้นได้กองอยู่บนโต๊ะแล้ว มีเพียงผมสีน้ำเงินเข้มกับดวงตาสีเดียวกับผมเท่านั้น ฉันยิ้มแหยๆเมื่อเจอพี่ตัวเอง

"อ้าว..มาได้ไงน่ะ..แปลกดีเนอะ"

"เธอจะโกหกอะไรอีก  เมื่อกี้ฉันก็เจอเธอไปบนทางเดินแล้ว"

"อะไร! เปล๊า! ฉันเพิ่งเจอพี่นี่แหละ"ฉันตอบเสียงอ้อมแอ้ม  รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบวิกผมกับคอนแทคนั่น

"แล้วนี่อะไร ?"

"คือ.."

หลักฐานชิ้นสำคัญแบบนี้ทำเอาฉันพูดไม่ออก งานนี้มีแต่ซวยกับซวย!

"เธอคิดจะหลบหน้าฉันพ้นรึไง"มือใหญ่กำยำกระชากแขนฉันจนเซไปตามแรง บีบแน่นจนฉันเจ็บจนดิ้นรน

"ปล่อยนะ!"

"ทำไม! กลัวอะไร! กลัวคนอื่นมองว่าผู้หญิงเอาผู้ชายเข้าโรงแรมรึไง!"

"หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ! พี่กำลังชวนฉันทะเลาะอยู่!"เหงื่อฉันแตกพลั่กอีกครั้งทั้งๆห้องนี้มีเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ

"ถ้าเธอต้องการแบบนั้นฉันก็สนองให้ได้เอามั้ยล่ะ!!"

"หยุดเลยนะ!! พี่กำลังเมา !!"

"ทำไม! รับไม่ได้รึไง! เปลี่ยนใจจะมาเป็นคนดีเอาตอนนี้เลยรึไง!"

"หยุด!!!"ฉันกรีดร้องลั่นก่อนจะผลักพี่ไปไกลๆจนล้มไปบนเตียง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธจัด

"อ้าว? นี่ถึงกับผลักลงมาบนเตียงเลยรึไงแม่สาวกระหายรัก!"

"ออกไปเลยนะ!"ฉันบอกเสียงเข้ม เล็บยาวจิกเข้าที่มือแน่นจนแสบร้อนไปหมด กลัวว่าเหตุการณ์ที่อยากให้เกิดและไม่อยากให้เกิดมันกำลังจะก่อตัวขึ้น

'ไม่ได้..ไม่ได้เด็ดขาด..เราเป็นพี่น้องกัน..เธอก็รู้ว่ามันผิด..'

พี่ไม่ตอบ  แต่กลับกระชากฉันไปบนเตียงแทนแล้วขึ้นคร่อม ก่อนจะก้มหน้าลงมาจนฉันลุกลี้ลุกลน พยามดิ้นพร่าน น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้มีเพียงความกลัวอย่างเดียว

"ดิ้นทำไมเล่า!!"

"หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!! เราเป็นพี่น้องกันนะ!!"ฉันพยามพูดจาให้พี่เข้าใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง

'เฮ้อ..ต่อจากนี้คงทำอะไรอีกไม่ได้แล้วล่ะโล..แกมัน..อ่อนแอจริงๆเลย'

ฉันพริ้มตาหลับปล่อยให้พี่ทำอะไรไปตามใจต้องการมัน ถึงแม้ว่าฉันจะเจ็บปวดกับการกระทำเช่นนี้ก็ตาม..



บทนี้เน่าโฮก แต่ต้องการให้เรื่องมันไปไวๆขึ้นน่ะ= =

เค้าไม่เคยแต่งแบบนี้เลย อ๊ากกก แต่งไปอายไป คิดแล้วอ่านแล้วหลายรอบ จะเอามันลงดีไหม!

ไม่เคยแต่งแบบนี้มาก่อน=[]= กลัวว่าแต่งไม่ดีเท่าไหร่ + ไม่อยากแต่งแบบนี้ให้ใครอ่านด้วย เค้าอายT^T

ป.ล.อย่าล้อนะเฟ้ย! มันต้องมีบ้าง แนวค้ำคอร์นี่นา=A='  แต่ยังดีที่เค้าเซ็นเซอร์ฉากต่างๆไว้ ไปคิดเอาเอง ! (หวังว่าคงไม่มีใครทำตามที่เค้าบอกนะ = =//)



一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #413 เมื่อ: 03-05-2011, 14:32:42 »

ต่อไปตาแนทสินะ= =



● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #414 เมื่อ: 03-05-2011, 15:41:01 »

อ๊ากกกกกกกก

เค้าคิดไปไกลแล้วอ้ะ >///<


  //me โดนถีบ



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
Ti'amo FG_..♥
Hero Member
*****
กระทู้: 3,480

เหลือเพียงความอ้างว้าง


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #415 เมื่อ: 03-05-2011, 18:53:56 »

คิดไปแล้ว ไม่ทันละเธอ 555 (ล้อเล่น =w=) //โดนถีบ


●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #416 เมื่อ: 09-05-2011, 10:02:46 »

เงอะ อีกวันเดียว เดี๋ยวหาเวลามาแต่งเน้อ

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #417 เมื่อ: 12-05-2011, 23:15:47 »

ถึงเทิร์นบิวมา 2 วันและ= =



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #418 เมื่อ: 12-05-2011, 23:37:45 »

จะล่มมั้ยหว่ากิจนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามาแต่ง ช่วงนี้หมดอารมณ์= =



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #419 เมื่อ: 13-05-2011, 14:13:49 »

-47-

  ร่างระหงของนาริค่อยๆทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า ไม่ใช่เพราะกิจกรรมในการท่องเที่ยวอะไรหรอก

แต่ว่าบางทีที่มีแฟนคลับเข้ามาหานายชินแฟนกำมะลอของเธอเนี่ยแหละ เธอก็ต้องรีบวิ่งหลบไปมุมอื่นทุกหนทุกครา

เพราะเหตุจะกลัวตกเป็นข่าวมือที่3อะไรทำนองนั้นอีก ถ้าชาตินี้เธอเลือกได้เธอคงไม่อยากมีดาราเป็นแฟนอะไรทั้งนั้น

มันช่างยุ่งยากมากเวลาที่มีนักข่าวมารุมล้อมถามเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวจุกจิกจู้จี้ แค่คิดก็แทบจะบ้าแล้ว

  แต่คิดถึงการที่เป็นแฟนกำมะลอกับนายชินคนนี้แล้ว ทำไมทุกครั้งที่เธอต้องแอคติ้งเป็นแฟนกับเขา มันกลับให้ความรู้สึกเมหือนเธอมีคู่รัก

จริงๆจังๆอย่างไรอย่างนั้น ก่อนนึกถึงตอนที่เธอในสภาพพจมารสุดเชยเดินเข้าไปหาเขาแล้วบอกว่าเธอคือนาริที่เขารู้จัก

สีหน้าของเขาในตอนนั้นอดทำให้เธอกระแอมขำออกมาไม่ได้ ดูดวงตาดำสนิทื้เบิกโพลงประกอบกับปากที่อ้าหวอระดับหนึ่งของเขาสิ

ขนาดตอนนั้นมันยังดูดีไม่ต่างจากตอนที่โพสท่าถ่ายแบ...!

  นาริสะดุ้งตัวขึ้นสุดตัวแล้วจับที่หน้าอกข้างซ้ายของตน ก่อนจะส่ายศีรษะกลมกลึงไปมาเพื่อไล่ความคิดบ้าๆนี้ออก

 อะไรกัน! ชั้นคิดถึงนายชินเหรอ! เป็นไปไม่ได้!

เธอพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ระหว่างที่กำลังพยายามออกจากภวังค์อันแสนหวานของตนอยู่

เสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นก็สามารถปลุกเธอให้หลุดจากภวังค์ได้เป็นอย่างดี

 "ทำไม! รับไม่ได้รึไง! เปลี่ยนใจจะมาเป็นคนดีเอาตอนนี้เลยรึไง!"

 "หยุด!!!"

 "ออกไปเลยนะ!"

 "ดิ้นทำไมเล่า!!"

 "หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!! เราเป็นพี่น้องกันนะ!!"

  เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเร่าๆทำให้นาริเริ่มนึกถึงต้นตอของเสียงว่าเป็นใครที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่เช่นนี้

ก่อนนัยน์ตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้น เมื่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นผู้ร่วมเหตุการณ์นั้นคือ โลวาน่า เพื่อนของเธอ!

 รองเท้าคีบถูกเท้าเรียวยัดๆเข้าไปด้วยความเร่งรีบ ประตูห้องถูกปิดเสียงดังปังอย่างไม่ใยดี ในขณะนี้สิ่งที่นาริคิดไว้คือ

ต้องช่วยโลวาน่าให้ได้ มิเช่นนั้นเพื่อนสาวของเธออาจต้องจมอยู่กับความทุกข์เป็นหนที่สอง

 สองฝีเท้าวิ่งสามขุมมุ่งหน้าไปทางห้องหมายเลขที่เพื่อนสาวของเธอพักอยู่ เมื่อมาถึงประตูห้องจึงรู้ว่ามันถูกล็อคเอาไว้ด้วยกลอนประตู

มือเรียวพยายามทุบประตูให้คนข้างในห้องเปิดประตูที่กำลังปิดล็อคไว้อย่างแน่นหน้า

 ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าของห้งอที่อยู่ข้างในแม้แต่คนเดียว

 "โลวาน่า!!! เปิดประตู!!!" สาวน้อยพยายามเค้นเสียงตะโกนเรียกเพ่อนของตนให้หลุกจากภวังค์ตัณหาที่กำลังก่อตัวขึ้น

 "โลวาน่า! เธอไม่อยากได้ตราบาปตราที่สองติดตัวไปอีกตลอดชีวิตใช่มั้ย!" เสียงของนาริเริ่มลอดเข้าไปในใบหูของโลวาน่าที่กำลัง

รับรักจากพี่ชายด้วยความยินยอมอ่อนใจ ทว่าเมื่อเสียงของเพื่อนเธอที่ได้ยินทำให้เธอตื่นจากภวังค์ตัณหาที่กำลังถูกรุกรานอยู่เต็มที่

โดยพี่ชายของเธอ เรือนร่างที่เหลือแค่ชุดชั้นในเพียงสองตัวที่ยังเป็นอาภรณ์ที่เหลืออยู่บนร่างทำให้เธอเริ่มรับรู้ว่า

หากถูกปล่อยไว้อีกตราบาปครั้งที่สองจะบังเกิดขึ้นภายในไม่ช้า!

  ร่างน้อยในอ้อมกอดของผู้เป็นพี่ชายพยายามดิ้นเร่าๆขัดขืนอีกครั้ง หากพละกำลังของหญิงสาวมิสามารถต้านทานแรงกำลังของชายชาตรีได้

พี่ชายของเธอซึ่งกำลังรุกรานไปที่ซอกคอของเหยื่อตรงหน้าทำให้เขาไม่สนใจทั้งสิ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม้แต่จะทำให้น้องสาวเสียใจอีกครั้งก็ตาม

ริมฝีปากที่ว่างอยู่ทำให้โลวาน่าตัดสินใจจะเค้นเสียงตะโกนออกไปในสภาพที่เหนื่อยล้าแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเธอเองกำลังจะพูดอะไร

 "นาริ...! ช่วยชั้นด้วย!"

  ทางข้างนอกบุคคลที่กำลังตั้งใจจะพังประตูอยู่ด้วยร่างของตนที่กระหน่ำกระแทกเข้าไปไม่สามารถที่จะทำให้ประตูอันแน่นหนาพังลงได้

สถานการณ์อันแสนคับขันนี้เธอไม่สามารถจะแก้ไขมันด้วยตัวคนเดียวเสียแล้ว ดวงตาที่กวาดไปรอบๆจึงเห็นเด็กสาววัยละอ่อนกว่าตน

ที่กำลังเดินมาตรงหน้า ซึ่งเป็นคนที่เธอก็รู้จักเป็นอย่างดีอีกคนหนึ่ง การตัดสินใจที่ฉับพลันจึงทำให้ปากของเธอพลั้งพูดตะโกนเรียกออกมา

 "อาเรีย ช่วยชั้นหน่อย!!!" แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหากคนที่ล่วงรู้ความลับของเพื่อนสาวเธอเองจะมากขึ้น แต่อาเวียก็น่าจะเป็นคนที่รักเพื่อนนพ้อง

ไม่เอาความเสื่อมเสียของเพื่อนตนไปประจาณแก่ใครได้ง่ายๆ

  อาเรียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเริ่มงุนงงกับท่าทางของนาริที่ทุบประตูเร่าๆอยู่ข้างหน้าจึงคิดเอ่ยปากถามไถ่ขึ้น

 "พี่นาริทำอะไรอยู่น่ะคะ?"

 นาริที่แทบจะไม่มีเวลาอธิบายจึงเลือกที่จะตัดจบการอธิบายไป "ไม่ใช่เวลาถามนะ! ช่วยัช้นพังประตูหน่อย!!!" 

  ฝ่ายอาเรียที่ได้รับรู้ให้พังประตูเข้าไป จึงเริ่มรู้ว่าข้างในห้องต้องเกิดอะไรที่คับขันเป็นแน่ มือข้างหนึ่งจึงฉุดเข้ากระเป๋ากางเกงข้างซ้ายแล้ว

หยิบกระบอกปืนที่ติดตัวไว้ออกมา

 "งั้นพี่นาริหลบไป คราวนี้หนูเอาของจริงมา!" เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่ใส่จุกกอร์กเก็บเสียงปืนอยุ่เพราะเกรงว่าคนละแวกนี้

อาจตกใจเสียงปืนที่กำลังจะดังกระหึ่มขึ้นในไม่ช้า การกใส่ที่เก็บเสียงกระสุนจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

 "เอาเลย!" ทันทีที่นาริผละตัวออกจากประตู นิ้วเรียวของอาเรียก็เหนี่ยวไกยิงเข้าที่เหล็กยึดขอบประตูทั้งสองตัว

เพียงสองนัดกระสุนที่บั่นทำลายเหล็กยึดได้ภายในทันที แค่การกระแทกอีกครั้งเดียวของนาริก็สามารถโค่นบานประตูลงได้

  นาริที่เห็นว่าโค่นบานประตูลงได้แล้วจึงก้าวยาวเข้าไปในห้องดว้ยท่าทีร้อนรน ขณะอาเรียที่เก็บปืนลงพลางสบถอุบอิบในใจ

 'ดีนะที่หยิบผิดมา ไม่งั้นแย่แน่' อาเรียถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนวิ่งตามเข้าไป

  ภาพอันรัญจวนที่เกิดขึ้นอยู่กับเพื่อนสาวของตนอยู่ข้างหน้า ที่ผู้เป็นพี่ชายของเพื่อนสาวเธอกำลังฉุดกระชากชุดชั้นในท่อนบนของผู้เป็นน้องสาวออก

โดยมีมือเรียวน้อยปัดป้องไว้สุดความสามารถ ทำให้นาริหมดความอดทนประเคนเท้าเข้าใส่ร่างบึกบึนที่อยู่ตนหน้าโดยไม่สนว่าเขา

จะเป็นพี่ชายของเพื่อนเธอหรือเปล่า เรี่ยวแรงที่มากแต่เดิมบวกเข้ากับแรงโทสะทำให้ร่างของพี่ชายโลวาน่ากลิ้งถลาตกขอบเตียงไป

จึงได้โอกาสที่จะช่วยเพื่อนสาวเธอออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้

 "อาเรีย! ช่วยประคองโลวาน่าไปห้องชั้นหน่อย!"


  ร่างของเพื่อนสาวที่สั่นระริกด้วยความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อครู่ ทำให้อาเรียอดสงสัยไม่ได้ที่จะถามออกมา

ตามประสาคนที่ใจร้อนหุนหันพลั่นแพล่น "เอ่อ... มะกี้พี่ชายของพี่โลวาน่า กับพี่โลวาน่าเขา..."

คำถามของเธอกระตุกกลืนลงคอไปทันทีเมื่อเห็นแววตานิ่งปนหวาดกลัวของโลวาน่าที่เงยหน้าขึ้นจ้องอาเรียหยั่งเชิงไม่ให้ถามอะไรในตอนนี้

 "อาเรีย เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้เธอฟังเองทีหลังนะ ตอนนี้ขอให้โลวาน่าได้สงบจิตสงบใจก่อน" นาริเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

พลางลูบหลังของเพื่อนเพื่อปลอบปะโลมให้หายหวาดกลัวกับสิง่ที่ตนเผชิญหน้า

 อาเรียค่อยๆพยักหน้าแล้วปลีกตัวไปชงเครื่องดื่มอุ่นๆหวังให้บรรยากาศรอบๆได้หายตึงเครียดลงบ้างก็เท่านั้น...


 กลางดึกที่นาริออกมาเดินเล่นข้างนอกเพื่อปลดปล่อยเรื่องราววุ่นวายในหัวให้ลอยหายไปกับสายลมที่ปะทะหน้าของเธอ

ประกอบกับการมองทิวทัศน์ชายหาดที่ประกบกับคลื่นสมุทรในยามค่ำคืน ช่างเป็นภาพที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจยิ่ง

ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากที่จะนอนหลับสงบๆอยู่ตรงนี้ โดยไม่มีใครรบกวนให้ไปเผชิญปัญหาในชีวิตที่หนักอึ้งอีก

ยิ่งถ้าอยู่ตรงีน้กบัใครสักคนแล้ว...

 "อ้าว นาริ?"

 เสียงทุ้มอันคุ้นเคยปลุกเธอจากภวังค์ ศีรษะกลมกลึงของสาวน้อยหันขวับมาหาต้นตอของเสียงทันที

 "นายชิน! มาทำอะไรตรงนี้!" เธอแหวออกเมื่อบรรยากาศอันสงบจิตสงบใจถูกทำลายด้วยตัวปัญหาทางความคิดของเธอที่ยืน

ยิ้มลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงหน้า

 "ป่าว เดินเล่น" เขาตอบสั้นๆ

 "เหตุผลง่ายดีเนอะ" นาริแขวะกลับอีกครั้ง

 "เธอนี่อะไร เห็นมะกี้ยืนหลับตาพริ้มอยู่มะกี้ พอผมมาปุ๊บตะกุกตะกักแว้ดแหวทันทีเลยนะ..." เขาทิ้งช่วงประโยคไว้นิดหนึ่งให้สาว้นอยตรงหน้า

หันมาจ้องตาไม่กระพริบ

 "คิดถึงใครอยู่?" เขาสีหน้าเคร่งขรึมเป็นทะเล้นภายในบัดดล พร้อมกับประโยคที่ล้อเลียนสาวน้อยนาริซึ่งได้ผลใบหน้าของเธอกลายเป็นสีตำลึงสุก

ก่อนจะประเคนฝ่ามือเข้าที่ศีรษะของเขาเต็มๆ

 "บ้า! ใครจะไปคิดถึงนา...!" นาริรีบอุดปากตัวเองทันทีเมื่อกำลังจะเผลอพูดให้เขารู้ว่าคนที่เธอกำลังนกถึงอยู่คือเขา

 "นาย? เหรอ? แสดงว่าคิดถึงผมอยู่..! อ้อก!" ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะกล่าวจบ สันมือเรียวก็กระแทกเข้าที่หน้าท้องของเขาจังๆจนจุกแทบจะพูดต่อไม่ออก

 "ไม่ใช่ซะหน่อย! อย่ามามั่วว่าชั้นเป็นพวกแฟนคลับจอมบ้าคิดถึงนาย!"

  ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมานิดหนึ่ง แม้จะจุกอยู่แต่ก็อดจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างออกมาไม่ได้

 "จริงรึ?"

 "ทำไม?" สาวน้อยยักไหล่กลับ

 "ผมดีใจน่ะสิ" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้นาริกระตุกไปอีกรอบ

 "อะไรของนาย?" ทว่าเธอยังเก๊กฟอร์มไม่ยอมอ่อนข้อต่อเขาอยู่ดี

 "ก็ผมดีใจที่คุณเห็นผมเป็นคนปกติไม่ใช่ผีสางเทวดาที่ต้องมะรุมมะตุ้มปานจะกลืนกินตลอดเวลา และก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องมีใคร

คอยจ้องจับผิดลงข่าว รู้ไหมความรู้สึกอย่างีน้ผมหามานานแล้ว"

ชายหนุ่มลดระดับน้ำเสียงเมื่อพูดประโยคสุดท้าย เมื่อรู้แก่ใจดีว่าที่ผานมาคนรอบตัวเขาต่างรุมกันกดดันเขาตลอดเวลา

ไม่ว่าแฟนคลับหรือแม้แต่ผู้เป็นพ่อแท้ๆของเขาแต่ละคนต่างคาดหวังให้เขาทำสิ่งที่ไม่ค่อยจะเต็มใจทำเท่าไหร่นักทุกครั้งครา

มีเพียงการที่ขาได้มาพักร้อนอยู่กับคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจได้เป็นตัวของตัวเองก็ทำให้เขามีความสุขยิ่งนัก

 "อ...อืม" นาริกระแอมตอบกลับอย่างขวยเขินเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกหยอกชมอยู่ จริงของเขา ทีพ่ดมามีส่วนถูก

แม้เขาจะมีคนรุมสนใจตลอดเวลา ส่วนเธอไม่มีใครสนใจใยดีเลยมาแทบทั้งชีวิต กลับได้ความรู้สึกที่ว้าเหว่กดดันกับปัญหาทุกอย่างตรงหน้าเหมือนๆกัน

การที่เขาพูดออกมาเช่นนี้ก็นับว่าเหมือนเธอได้ระบายกับเขาด้วยเหมือนกัน แต่ก่อนที่บรรยากาศจะอบอวนอยู่ในภวังค์ไปมากกว่านี้

นาริจึงแสร้งพูดเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ

 "เอ้อ แล้วเรื่องที่ชั้นต้องปลอมตัวเป็นพจมารอะไรนั่น ชั้นต้องทำไปอีกนานแค่ไหน" เธอแหวออกมาอย่างเหลืออด

 "จนกว่า..."

 "จนกว่าอะไรเล่า?"

 "จนกว่ายัยแพทตี้จะเลิกตามตื๊อผม เข้าใจนะ" เขายิ้มบริหารเสน่ห์ให้อีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหนีออกไปสร้างความรำคาญใจให้กับนาริยิ่งนัก

 "หน็อย! ตาบ้าเอ๊ย! ทิ้งภาระให้กันดื้อๆเลยนะ ฮึ่ม!" แม้จะพร่ำด่า แต่ริมฝีปากของเธอกลับคลี่ยิ้มโดยไม่รู้ตัว...



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
ป้าย:
หน้า: 1 ... 26 27 [28] 29 30 ... 32