-52-
วันนี้นาริอาสาให้ชินกลับโรงเรียนไวๆ เนื่องจากว่าฉันมีสภาพราวกับศพขึ้นอืด ส่วนอาเรียก็รู้สึงกังวลปนเครียด แต่ที่นาริแนะนำให้กลับไวๆอาจเป็นเพราะว่าฉันจะได้กลับไปหมกตัวอยู่ในห้องก่อนที่เปิดประตูเข้าไปจะเจอพี่นั่นเอง
ในที่สุดก็ถึงโรงเรียนเวลาสิบโมงเช้ากว่าๆ นาริเดินมาส่งฉันถึงห้องก่อนจะถามอย่างไม่มั่นใจ
"แกแน่จะนะว่าอยู่ได้" เธอย้ำ ฉันได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าลง
"อืม ฉันไม่เป็นไรหรอกแก.. กลับห้องไปเถอะ เอางี้นะ ถ้าเกิดว่าฉันกลัวมากฉันจะย้ายไปนอนห้องแกซักสองสามคืน เอาไหม ?"
"โอเค"
เมื่อนาริเดินจากไปจนลับสายตาแล้ว ฉันทำได้เพียงแค่ยิ้มจางๆ แล้วหมุนตัวเปิดประตูห้อง
'ป่านนี้พี่คงยังไม่กลับมาหรอก..'
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างของห้อง เส้นผมสีน้ำเงินเข้มนั้นฉันจำได้ดี แต่พยามคุมสติตัวเองให้แน่นิ่ง แล้วค่อยๆพาร่างอันสั่นเทาเข้าไปด้านใน
"กลับมาแล้วหรอ"
ฉันไม่ทำแม้แต่เพียงจะตอบ ได้แต่เก็บข้าวของให้คงที่ ก่อนจะเดินชั้นหนังสือเพื่อหาอะไรมาอ่านคั่นเวลา
"จะกินอะไรมั้ย ?"
ฉันไม่สนใจคำถามนั้น ได้แต่เพ่งเล็งไปยังตู้หนังสือด้านหน้า เลื่อนสายตาหาสิ่งที่ต้องการ
"ตอบสิ"
"ไม่กิน" ฉันตอบสั้นๆ ก่อนจะหยิบหนังสือปกหนาสีเขียวเข้มออกมา นำมันไปวางไว้ที่โต๊ะหนังสือ ก่อนจะหมุนตัวกลับเพื่อหาทางเลี่ยงออกจากห้องนี้ไวๆ แต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อเห็นพี่มายืนอยู่ด้านหลังเสียแล้ว
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ฉันไม่พูดอะไรออกมาซักคำ เช่นเดียวกันกับพี่ที่ได้แต่ก้มลงมามองฉันที่ยังมีอาการดื้อดึงอยู่
มือหนาเอื้อมมาแตะแก้มฉันเบาๆจนฉันรู้สึกผงะตกใจ รีบปลีกตัวหนีออกมา เดินเข้าห้องน้ำไป เปิดน้ำใสสะอาดให้ไหลลงจากก๊อก ก่อนจะวักน้ำมาล้างแก้มที่ถูกจับด้วยท่าทางสะอิดสะเอียน สุดท้ายแล้วก็ต้องล้างหน้าไปด้วยเพราะรู้สึกถึงน้ำตาที่มันใกล้จะเอ่อไหลออกมา
"รังเกียจขนาดนั้นเลยรึไง" เสียงพี่ดังมาจากประตู ฉันไม่ตอบ พยามเบียดตัวเองออกจากห้องน้ำนี้ให้ได้ แต่ก็ถูกกระชากเหวี่ยงไปโดนกำแพงจนรู้สึกจุก
"โอ้ย..มันเจ็บนะ.."
"เธอบังคับให้พี่ทำแบบนี้ ไม่ทำแบบนี้ เธอก็ไม่พูด" ฉันเลื่อนนันต์ตาขึ้นไปจ้องด้วยอารมณ์โมโห รู้สึกว่าตัวเริ่มสั่นแรงขึ้นเรื่อย หวาดกลัวหรืออะไรฉันก็ไม่รู้เช่นกัน
ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเลยจริงๆ..
"มีอะไรจะพูดกับฉันก็รีบๆพูดมา" ฉันกระแทกเสียงแดกดันเต็มที่ส่งผลให้พี่หน้าเสียลงเล็กน้อย แต่ก็รีบปริปากถาม
"เรื่องเมื่อคืนนั้น.."
"อย่าพูดถึงมัน" ฉันกัดปากตัวเองก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น
"ทำไม !! รับไม่ได้รึไง !! เธอก็จำได้ไม่ใช่เหรอว่าตอนแรกเธอก็ยอมฉันแต่โดยดีน่ะ !!"พี่เริ่มขึ้นเสียงจนฉันหันไปมองตาโต มือใหญ่สองข้างกระชากแขนของฉันให้เข้าไปใกล้ตัวเขามากขึ้น
'ไม่..หยุดเดี๋ยวนี้..'
"หุบปากซะ !!"
"ไม่ ! เธอต่างหากที่ต้องหยุดพูด !" ว่าแล้วพี่ก็โน้มใบหน้าลงมาจนฉันหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็สายไปซะแล้ว
'บาปใหม่ได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง'"แก ร่าเริงหน่อยสิ ฉันอุตสาห์เลี้ยงข้าวมื้อนี้ให้แกเชียวนะ กินๆหน่อย"นาริท้วงเมื่อเห็นฉันนั่งเหม่อ ฉันสะดุ้งเฮือกตกใจก่อนจะหันไปมองเพื่อนสาว แล้วยิ้มแหยๆ
นั่นสินะ..นี่ก็ตอนเย็นแล้ว
หลังจากเมื่อเช้าจวบจวนบ่าย พี่ทำให้ฉันตกในอำนาจของความผิดแปลกและสิ่งที่ไม่อาจจะนำมาชดใช้หรือย้อนเวลาคืนไปได้
ไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้ชายคนนั้นคิดอะไรกันอยู่..ฉันตกเป็นของเขา..แต่ว่า..ฉันไม่พอใจเลยสักนิด
รู้ตัวดีอยู่แล้วล่ะ ว่าคราวนี้ต้องเป็นบาปครั้งใหญ่และหนักกว่าเก่า แต่ฉันกลับนอนเฉยๆ เหม่อลอยอย่างเดียวไม่สนใจสิ่งที่พี่กำลังปรนเปรอให้อยู่ เมื่อนึกถึงทีไรก็ปวดร้าว
เรื่องนี้จะให้นาริเข้ามายุ่งไม่ได้อีกแล้ว..มันสายเกินไปแล้ว.. ที่นาริทำมามันสูญเปล่า..ฉันจะบอกนาริไม่ได้เด็ดขาด.. นาริเหนื่อยกับเรื่องนี้มาก
พอแล้ว..ฉันควรจะจัดการตัวเองได้แล้ว..
มื้อเย็นจบไปโดยอาหารตกถึงท้องฉันเพียงแค่สี่คำ ฉันเดินขึ้นหอพักด้วยอาการเหม่อลอย เปิดประตูห้องเข้าไปก็พบว่าพี่กำลังคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงลินนั่นอย่างมีความสุข
อะไรกัน..ฉันเพิ่งเป็นของพี่ไป..แต่พอไม่นานถัดมา..พี่มานั่งอี๋อ๋อคุยกับผู้หญิงอื่น..
ความรู้สึกโกรธพุ่งเข้ามาในตัวฉันทันที แต่ฉันไม่สามารถตะโกนออกไปได้ ใช่แล้ว..เราเป็นเพียงพี่น้องกัน ฉันเป็นเพียงที่ระบายอารมณ์ของเขา..
นึกทีไรน้ำตาจะไหลอีกที เราเป็นพี่น้องกัน..แต่กลับทำเรื่องแบบนั้น..
สองมือค่อยๆเอื้อมผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาห่อตัวเองแล้วหลับไปทั้งน้ำตา
ตอนนี้ฉันรู้สึกระบมไปทั้งกายและใจ..
ทำอย่างไรถึงจะหลุดออกจากโซ่ที่พันธนาการนี้ได้นะ..
คิดไม่ออก =_= แบบนี้ไปเลยละกัน
เพราะอยากให้เรื่องไปต่อไวๆแล้ว