-42-
หลังจากที่เหตุการณ์ข่าวฉาวที่ชายหนุ่มชิน พ่อซุปเปอร์สตาร์นักดนตรีชื่อดังแห่งเกาหลีขอผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เป็นแฟน
ข่าวลือสะพรัดที่กระจายออกไป ทำให้สาวน้อยทีเดินกลับมาถึงห้องตัวเองถึงกับลงไปนั่งกุมขมับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยที่เธอไมได้นึกมาก่อนเลยว่าเหตุการณ์มันจะบานปลายขนาดนี้ ต้องโทษความอ่อนประสบการณ์ต่อวงการข่าวฉาวที่มีอยู่ของเธอ
ซึง่มันน้อยนิดทำให้คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะแพร่สะพรัดได้เร็วเช่นนี้
'เรามันโง่เองที่ใจอ่อนช่วยเขา เรามันบ้าเองที่ไม่รอบคอบ'
คำสบถโทษตัวเองหลากหลายผุดขึ้นในห้วงความคิดของนาริที่ทำให้เอต้องมานั่งเครียดกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ทว่า แม้ที่จริงกับเรื่องปกติเธอคงจะรับมือได้ดีกว่านี้ แต่ทำไมคราวนี้ตอนที่เขาขอเป็นแฟนเธอ หากมันเป็นบทละครแต่ทำไมมันทำให้
ใจของนาริในจังหวะนั้นเต้นระทึกโครมครามและยินยอมมันโดยเต็มใจนะ
นารินึกขอโทษขอโพยกับเด็กชายที่เป็นดั่งดวงใจของเธอในสมัยอดีต ทั้งๆที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะขอตกลงปลงใจกับ
ชายหนุ่มที่มีสัญลักษณ์ว่าเคยพบกันมาก่อนโดยหมวกฟางขนาดเล็กหัวที่เธอเคยให้ไปเป็นของต่างหน้าในตอนนั้น
คงจะไม่มีใครบ้าเอาของรักของหวงที่ได้มาเอาไปขายไหนต่อไหน เขาต้องเก็บมันไว้อย่างดี เธอเชื่อเช่นนั้น
แต่นี่ทำไมชายหนุ่มชินที่ก้าวเข้ามายุ่งวุ่นวายชีวิตเธอกลับทำให้ใจของเธอสั่นไหวไม่แพ้เขา เพราะอะไรกันนะ...
หรือว่าเพราะตัวเธอเองนั่นแหละที่หลายใจ เป็นไปไม่ได้ ถ้าหลายใจขนาดนั้นถ้าเห็นหนุ่มหล่อที่เข้ามาในชีวิตเธอก่อนหน้านี้ไหนต่อไหน
ก็ต้องหลงไปหมดแล้วน่ะสิ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม..
ความคิดต่างๆในหัวมองของนาริที่กำลังตีกันมั่วถูกทำลายลงด้วยเสียงแง้มประตูที่เธออยากได้ยินที่สุดในชีวิต
ตอนนี้สิ่งที่เธอควรทำมากที่สุด คือการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า...! และผู้ปรึกษาก็มาถึงแล้ว!
"ว่าไงนาริ" เสียงใสของเพื่อนสาวโลวาน่าดั่งระฆังทางออกในขณะนี้ พร้อมด้วยรุ่นน้องอีก2คนที่มาตามหลัง
"ยินดีด้วยค่ะพี่นาริ! เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วนะคะ!" แนโทเนียและอาเรียกล่าวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงพลอยยินดีไปโดยโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
"โลวาน่า อาเรีย แอนโทเนีย พวกเธอต้องช่วยชั้น...!" นั่นเป็นเสียงวิงวอนที่สุดเท่าที่พวกเธอรู้จักนาริมา...
"อ๋อ...ชั้นรู้แล้วล่ะ...อย่างนี้นี่เอง"
โลวาน่าที่พยักหน้าเออออเมื่อสรุปความได้ ค่อยๆเหลือบไปเห็นอาเรียและแอนโทเนียที่หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่งหลังจากรุ้ความจริง
"ใครๆก็น่าจะรู้กันหมดแล้วแหละ" มือของโลวาน่าเอื้อมไปฉุดหนังสือนิตยสารซุบซิบดาราเม้าท์แตกในมืออาเรียแบบไม่สนใจ
ว่าอีกฝ่ายจะวีนแตกแค่ไหน เพราะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่อาเรียอุบเงียบเอาไว้รอแก้แค้นภายหลัง
"เอ่อ ตอนนี้ข่าวก็ฉาวลงหลายหนังสือพิมพ์ หลายนิตยสารแล้วนะคะ" แม้ว่าคำพูดที่สุภาพอ่อนหวานของแอนโทเนียที่กล่าวเชิงปลอบ
ก็ไม่ได้ช่วยให้นาริโล่งใจเลย เมือ่เทียบกับกองนิตยสารและหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวเธอทั้งหมดมาอยู่ตรงหน้า ถ้าเป็นลมลมพับได้
เธอทำไปแล้วแน่ๆ...
"ยิ่งจะไปแก้ข่าวตอนีน้ก็ฉาวขึ้นอีก รับรองไทยมุงแหลกแหงๆเลย" และคำกล่าวของอาเรียที่ตรงโผงผางก็ยิ่งซ้ำเติมให้นาริยิ่งรู้สึกว่า
สถานการณ์รอบตัวตอนนี้เริ่มมืดมากกว่าแปดด้านเสียแล้ว
"แก้ข่าวเหรอ..." เสียงบ่นอุบอิบของคนใดคนหนึ่งในวงดังขึ้น หากมันคือเสียงที่ลอดออกมาจากปากของหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีน้ำเงิน
คนเดยีวในกลุ่มสาวๆที่นั่งล้อมวงตรงนี้
"อ้อ...!" คำที่เหมือนจะนึกอะไรออกดังขึ้นจากโลวาน่าเช่นเคย ทั้งหมดใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าเธอว่าจะมีแผนการอะไรกองขึ้นในสมองบาง
"เคยได้ยินไหม... ตอแหลเท่านั้นที่ครองโลก หึๆ...!!!" เสียงหัวเราะอันขึงขังที่ใช้ปิดประโยคฟังแล้วดูน่าขนลุกในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
และนี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนาริ
'ขั้นแรก ผู้ชายเป็นเครื่องมือที่เราต้องใช้ให้เกิดประโยชน์' ลำดับแผนการของโลวาน่าที่ย้ำไว้ผุดขึ้นในหัวของนาริที่ตอนนี้อยู่ในห้องเพียงลำพัง
ในเวลาโพล้เพล้ซึ่งใกล้เวลาจะได้ยินเพลงชาติของประเทศที่เธออยู่อีกรอบทางโทรทัศน์ทีเปิดอยู่แล้ว
เธอจ้องมองไปยังโทรศัพท์สีสวยของเธอ ไล่หาชื่อที่เมมไว้ในโทรศัพท์ที่เธอตั้งสรรพนามบ้าๆบอๆให้
'อีตาบ้า ชิน' และนั่นคือชื่อทีเธอกดหาอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย
ทว่า เมื่อเจอชื่อของเบอร์นั้นแล้ว เธอกลับชะงักนิ่งชั่งใจกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำ มันชั่งใจระหว่างเรื่องที่เกิดขึ้น
ถ้าหากแผนการนี้อนุมัติ จิตใต้สำนึกในใจของเธอที่รู้สึกรุ้มีความสุขต่อการได้เป็นแฟนกำมะลอต่อชายหนุ่มชิน อาจถูกกลบเกลื่อนไป
มันช่างตัดสินใจได้ยากเย็น แต่เมื่อต้องคิดกับเรื่องโดยรวมแล้ว สิ่งที่เธอกำลังจะทำน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
แม้จะทำให้หัวใจของสาวน้อยอาจชอกช้ำไปบางส่วนก็ตามที...
นิ้วเรียวกดปุ่มสีเขียวบนแป้นโทรศัพท์คำสั่ง โทรออก หลังจากรอสัญญาณไม่กี่วินาที เสียงปลายสายของเขาก็ดังขึ้น
"ฮัลโหล ว่าไงจ๊ะแฟนจ๋า" ชาหยนุ่มชินออกน้ำเสียงล้อเลียนนิดหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาหยอกจริงๆหรือเพราะเล่นละคร แต่ยังไงก็ตามก็ต้องเคลียร์ธุระให้เสร็จ
บัดนั้น คำแนะนำของเพื่อนสาวโลวาน่าก็ผุดขึ้นมาอีกรอบเพื่อเรียกสติเธอ 'ขั้นสอง มารยาหญิงหรือลูกไม้โหด ใช้มันให้เต็มที่'
"นายต้องช่วยชั้น ด่วน... ไม่ยังงั้นชั้นจะเลิกช่วยนาย!" และดูเหมือนว่าจะเลือกใช้ทางเลือกสอง
..ลูกไม้โหด..
เช้าวันใหม่ กึ่งกลางเดือนแห่งฤดูร้อนที่ไทยเช่นนี้ บรรยากาศรอบๆโรงเรียนดูสดใส และมีแดดจ้าส่องตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าไม่ต้องเปิดไนห้องเรียน
ก็คงจะมีแสเพียงพอที่จะต้องใช้ ซึ่งค่าไฟที่ประหยัดส่วนนั้นกลับต้องไปผลาญกับค่าเครื่องปรับอากาศทำความเย็นแทน
แม้จะเป็นบรรยากาศที่ร่มรื่นสายตา แต่ร่างกายของเหล่าลูกคุณหนูทั้งหลายก็คงจะรับไม่ค่อยไหวถ้าจะต้องเดินออกมาข้างนอกห้อง
สาวน้อยนาริที่ยิ้มร่าเดินลงมาจากหอในชุดเครื่องแบบนักเรียนเรียบร้อย และกำลังจะไปที่โต๊ะโรงอาหารสังเกตปฏิกิริยาคนรอบข้าง
ตอนนี้ทุกอย่างเกือบจะใกล้เคียงความปกติ ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครมองเธอในฐานะข่าวฉาวอีกต่อไปแล้ว...!
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ" เสียงทักทายเพื่อนสาวและรุ่นน้องดังขึ้นพร้อมกันจากโต๊ะอาหารที่นัดไว้ เธอยิ้มตอบกลับก่อนนั่งลงข้างๆตัวโลวาน่าเพื่อนสาวเธอ
"ทุกอย่างโอเคใช่มั้ยคะ?" แอนโทเนียเริ่มถามถึงสถานการณ์รอบด้าน
นาริหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "แน่นอนจ้ะ ถ้าหากว่ามันไม่เรียบร้อย คงมีคนมองที่โต๊ะเราตั้งนานแล้ว"
"งั้นในนี้ก็เรียบร้อยเหมือนกัน" โลวาน่าโยนหนังือพิมพ์บันเทิงฉบับปึ้กซึ่งขึ้นข่าวบันเทิงเอเชียด้านใน
อาเรียคว้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นออกจากวง เป็นการตอกแก้แค้นโลวาน่ากับสิง่ที่ทำไว้เมื่อวานพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม
"หนูอ่านเอง" อาเรียลากเสียวก่อนจะเริ่มอ่านขึ้นอย่างฉะฉาน
"ข่าวฉาวเมื่อวาน เม้าท์ให้แซ่ด! ซุป'ตาร์แดนโสม ชุง คีชินยุน ออกมาแก้ข่าวขอผู้หญิงควงเป็นคนคู่ใจ!
'นั่นแค่ซ้อมน่ะครับ ตัวจริงผมจะไปขอวันนี้' พ่อหนุ่มซุป'ตาร์กล่าวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว พร้อมโชว์คลิปเสียงของหญิงสาวร่วมข่าว
ในเชิงว่านั่นแค่ซ้อมละคร เพราะชีเป็นแค่ญาติห่.างๆกับเขาที่มาช่วยซ้อมเพิ่มความมั่นใจ จะเป็นผ.ม.กันได้ไง!
หญิงสาวทั้งหลายที่อยู่รอบตัวเขามีความหวังมากขึ้นสุดๆ เพราะเจ้าตัวออกมาสารภาพว่าจะไปขอหญิงถึงบ้านเลย!
ส่วนเจ้าตัวขอไว้อีกอย่างว่า 'อย่ามองจับผิดเธออีก เพราะของวันนี้จะเป็นของจริง' อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด
สาวๆทั้งหลายเตรียมรอรับขันหมากของควงในวันีน้ได้เลยเจ้าค่ะ!"
หลังจากจบประโยคสุดท้ายของข่าว สาวๆทั้งหมดค่อยๆหันหน้ามามองกัน โดยให้ความเห็นไม่ต่างกันเลย
'อยากถีบปากอีคนเขียนข่าวให้หายแรดจริงๆ'
แต่นาริที่เบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นเนื้อข่าวก็อดจะน้อยใจลึกๆไม่ได้ ดีแล้วเหรอ? ทีเธอทำแบบนั้น มันกลับกลายเป็นการทำร้ายความรู้สึกเธอ
ทางอ้อมเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น แต่ก็คงดีกว่าที่จะเป็นเป้าสายตาของหลายๆคนอีก
ร่างบางถูกสะกิดให้หลุดจากภวังค์ ก่อนจะค่อยๆหันมาเห็นกระเป๋าใบใหญ่ตรงหน้าเธอที่เอามาตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
"เอ่อ.. นี่อะไร?" นาริถามเสียงหวั่นๆ ซึ่งคำตอบก็เป็นไปตามที่เธอคาด
"ตามชั้นมาที่ห้อง เราจะแปลงโฉมกัน" ว่าแล้วทุกคนก็ผุดลุกขึ้น หิ้วปีกนาริไปที่ห้องของเธออีกครั้ง
โดยในสภาพที่เจ้าตัวยังเหลอหลากับสิ่งทีเกิดขึ้นอยู่
สาวน้อยผู้มีเรือนผมยาวถักเปียสีดำเข้มจากวิกที่ประดับไว้ แว่นตาปลอมหนาเตอะบดบังใบหน้าที่จริง การแต่งหน้าที่จัดจ้านโดยฝีมือของแอนโทเนีย
ที่ผิดกับลุคของตัวจริงแบบสุดๆ รวมถึงเสื้อผ้าสุดเชยที่เป็นชุดติดกระโปรงบานสีชมพูหวาน พร้อมกับรองเท้าผ้าใบสีชมแดงผูกริบบิ้นน่ารัก
ถ้าไม่มีใครบอก ก็คงหารู้ไม่ว่านี่คือ 'อึม ฮโยจอง' หรือ 'นาริ' ที่แปลงโฉมเรียบร้อย
"เชยมาก เชยแบบสุดๆ พวกแกคิดได้ไงเนี่ย" เสียงบ่นอุบอิบลอดไรฟันของนาริที่ต้องทำตัวให้ผิดลุข ด้วยผมยาวและกระโปรงที่แทบ
ไม่อยากจะใส่มาตลอดชีวิต บัดนี้มันต้องประดับอยู่บนเรือนร่างเธอแล้ว
"แบบนี้แหละดีแล้ว รับรองไม่มีใครจำได้ ว่าที่แฟนใหม่ของ นายชุง คีชินยุน" โลวาน่าตบบ่าให้อย่างมั่นอกมั่นใจ
"นางสาวพจมาน แซ่ลิ้ม!!!" นั่นเป็นชื่อที่โหลยโท่ยตามลุคการแต่งตัวของเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพื่อนสาวได้นแนวคิดมาจากละครเรื่องไหน
"เจ็บ...!" ผู้ที่ถูกตบบ่าเมือ่กี้สบถรอดไรฟันมาอีกรอบ ทำให้เพื่อนสาวผงะไปก่อนยิ้มเจื่อนๆในท่าทางขอโทษขอโพย
"ตอนนี้เพิ่งจะ6โมงครึ่งเอง นัดพี่ชินมาได้เลยค่ะ!!" แอนโทเนียรีบรายงานเวลาเพื่อให้ปฏิบัติตามแผนการอย่างโดยดี
ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกวงออกไปดักตรงสถานที่นัดพบของชายหนุ่มชินอีกรอบ
เขาคงตลกตายเลยที่ต้องมาขอสาวแสนเฉิ่มเชยเป็นแฟน ชักอยากเห็นสีหน้าเขาแล้วสิ ว่าจะยังพอจำได้ไหมว่าเป็นนาริผู้ช่วยของเขา...!