GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 20 21 [22] 23 24 ... 32
ผู้เขียน หัวข้อ: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]  (อ่าน 4501 ครั้ง)
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #315 เมื่อ: 23-03-2011, 20:40:57 »

-30-

ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส วันนี้ท้องฟ้าปลอดโป่งและอากาศดีกำลังเย็นสบาย แสงแดดอ่อน ๆ ไม่แรงมากนัก

วันนี้เป็นวันหยุดแท้ ๆ ฉันกะว่าจะนอนตื่นสายโด่งซะหน่อยแต่ก็ดั้นตื่นเช้าซะได้ .. ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวชุดอยู่บ้านธรรมดา ๆ

เสื้อยืดลายทางสีฟ้าอ่อนสลับกับสีขาว และกระโปรงสีน้ำเงินยาวเหนือเข่าเล็กน้อยและเลทกิ้งสั้นสีเทาข้างในกระโปรงอีกทีเพื่อป้องกันกระโปรงเปิด

เมื่อคืน .. ก็ไม่มาจริงด้วยสินะ .. ฉันนั่งลงบนเตียงและหยิบตุ๊กตาแมวตัวที่คินจิให้ฉัน .. ฉันจ้องมองมันพลางนึกถึงเช้าเมื่อวาน ..



ย้อนกลับไปเมื่อเช้าวันวาน

“ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง” ครูประจำห้องพยาบาลถามฉันหลังจากแอนโทเนียเดินออกจากห้องไป

“ม .. ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ! หนู .. หนูสบายมาก !” ฉันยืนยันและพยายามลุกขึ้นมาแต่ครูดั้นห้ามไว้ซะก่อน

“แต่ครูไม่เห็นหนูจะสบายตามที่ปากบอกเลย เมื่อคืนนอนดึกใช่มั้ยเนี้ย”

“นิดหน่อยเองค่ะ”
ถ้าฉันเถียงครูว่าฉันเป็นพวกร่างกายไม่ตรงกับปาก ครูจะเชื่อฉันมั้ยนะ แต่ยังไงสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมานอนจนได้

“ครูไปทานข้าวก่อนนะจ้ะ ระหว่างนี้พักผ่อนจนกว่าจะดีขึ้นนะจ๊ะ” ครูกล่าวพลางมองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายของตัวเอง

และจึงค่อยเดินออกห้องไป ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวในห้องพยาบาล .. อย่างน้อยก็คุ้มละนะ ที่เมื่อคืนสอนไปหมดแล้วเพราะเกิดฮึดมีกำลังใจก็เลยสอนเพลินจนดึก

แต่ต้องแลกกับนอนดึก(มาก) ถึงอย่างนั้นคินจิก็ยังพูดไม่ค่อยชัดอยู่ดี แปลกนะทั้ง ๆ ที่ฉันกับคินจิพร้อมกันแต่ฉันกลับป่วยคนเดียว

แต่คินจิยังเป็นปกติดีไร้โรคภัยไข้หวัด สงสัยมันจะถึกละมั้ง แต่ตอนนี้ฉันรีบนอนให้เต็มอิ่มและรีบไปหาแอนโทเนียดีกว่า

เธอดูเป็นห่วงฉันมากเลย ฉันไม่อยากให้แอนโทเนียต้องกังวลเรื่องฉันด้วย ฉันนอนตะแคงหันหลังให้ประตูก่อนที่เปลือกตาจะค่อย ๆ ปิดลง

แอ๊ดด ..

แต่เปลือกตาของฉันยังไม่ทันได้ปิดสนิทก็ถูกขัดขวางซะแล้ว ด้วยความรู้อยากเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตู

ฉันจึงลุกขึ้นมานั่งและหันมองไปที่บุคคลหนึ่งที่ประตู และฉันพบต้นเหตุที่ทำให้ฉันนอนดึก คินจิหายใจหอบเล็กน้อย มันวิ่งมาชัวร์เลย

และใบหน้าของเขาดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นฉันในสภาพอย่างนี้ อะไรฟะ แค่ฉันขอบตาคล้ำเอง ทำหน้ายังกับมีหลินปิงมานอนบนเตียงในห้องพยาบาล

“นายมาที่นี่ทำไมเนี้ย” ฉันดูคินจิตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อให้แน่ใจว่าดูไม่ผิดคน

“มา .. หา .. เธอ” คินจิพูดพลางหอบไปด้วย ห๊ะ มาหาฉันหรอ

“จะให้สอนอะไรอีกล่ะ เมื่อคืนฉันสอนไปเยอะมากเลยนะ น่าจะพูดได้แล้วนี่” ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ปล่าว .. แค่ะ .. เอ่อ ..”

“คำว่า แค่ บอกให้พูดเสียงยานไปเลย !”
ฉันเตือนคินจิ

“แล้วนายมาหาฉัน มีอะไร” ฉันกลับถามประเด็นต่อ

“ก็เพื่อน .. เพื่อนเธอบอกว่าเธอไม่สาบาย” คำว่าสบาย พูด สะ ยาวไปอีกแล้ว ! เมื่อคืนเน้นแทบตายว่าให้พูดติด ๆ สั้น ๆ ไปเลย

ประโยคนี้เกือบจะพูดไทยชัดทุกคำแล้วเชียว ! .. เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ยังไม่ใช่เรื่องที่ควรคิดในตอนนี้

“แล้วมาหาทำไมล่ะ” ฉันถามย้ำอีกรอบ

“ก็ .. ก็มาเฝา” พูดเสียงต่ำไปหน่อยแหะ เอาเถอะ อย่างน้อยก็ฟังพอรู้เรื่องละกัน

หลังจากที่คินจิตอบคำถามฉัน เขาก็ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งข้าง ๆ เตียงที่ฉันนอนอยู่

“แล้วมา เฝ้า ทำไมล่ะ” ฉันพูดเน้นคำว่า เฝ้า เพื่อให้คินจิรู้ทางอ้อมว่ามันออกเสียงอย่างนี้

“จิงสิ” จากนั้นคินจิก็ล้วงกระเป๋ากางเกงเหมือนว่ากำลังหาอะไรอยู่ จะว่าไปคินจิก็ยังมีปัญหาเรื่องออกเสียง ร ไม่ได้

แต่คงไม่เป็นอะไรหรอก ปกติคนไทยก็ไม่ค่อยออกเสียง ร เท่าไหร่ .. เอ .. ฉันมีแววเป็นครูสอนภาษาไทยนะเนี้ย โตขึ้นไปเป็นครูสอนภาษาไทยดีมั้ยนะ

ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเขาก็หยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนของเขา

“ฉันยิบมาให้” ดีที่มันไม่เพี้ยนพูดเป็นคำว่า ริบ เขายื่นตุ๊กตาแมวสีขาว ขนฟู่ฟ่องปกคลุมไปทั่วตัวดวงตากลมโตสีดำ

และปากรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มาเบื้องหน้าของฉัน แน่นอนมันคือตุ๊กตาที่คินจิให้ฉันมาเพื่อแลกกับการสอนมัน

“กรี๊ดด น่ารัก !” ฉันคว้ามันมากอดในอ้อมแขนพลางหมุนลำตัวส่วนบนไปมาเล็กน้อยเหมือนกล่อมให้มันหลับ

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ฉันว่าฉันซ่อนมันไว้ในกระเป๋าของฉันนะ หรือว่า ..

“เดี๋ยวนะ .. นี่นายรื้อกระเป๋าฉันหรอ !” ฉันตวาดใส่คินจิเล็กน้อย

“อ .. อื้อ .. ก็ .. นิหน่อย” คินจิยอมรับ ไม่ยอมสบตากับฉันราวราวกับว่ากลัวฉันจะบีบคอเขา เฮ้อ .. ช่างมันเถอะ

ฉันไม่ได้ซ่อนอะไรในกระเป๋านี่ .. เฮ้ย ! มันเข้าห้องฉันได้ไง ฉันล็อคห้องแล้วแถมกุญแจก็อยู่กับฉันนี่นา

“แล้วนี่นายเข้าห้องฉันได้ยังไง !! ฉันล็อคห้องไว้นี่ !”

“ไปคาโมยกุญแจมาจากคูตอนลับ”
ง่าย ๆ แอบหยิบกุญแจอีกดอกของห้องฉันมาตอนครูหลับสินะ

“แล้ว .. สรุป .. ทำไมนายถึงมาเฝ้าฉัน แถมยังอุตส่าห์ขโมยกุญแจเพื่อเอาตุ๊กตามาให้” ฉันถามประเด็นอีกรอบ

เพราะดูเหมือนที่ผ่านมา คินจิจะหลีกเลี่ยงการตอบคำถามข้อนี้ หรือเป็นเพราะฉันพูดขัดเขาแล้วก็พาเปลี่ยนเรื่องตลอดนะ

คินจิเงียบไปประมาณ 10 วินาทีเหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ก็แค่ะ .. ตอบแทนเท่เธอสองฉันให้พูดไทยได้ท่าวนั้นและ” แต่หลังจาก 10 วินาทีนั้น คินจิก็ยอมตอบคำถามของฉัน

“งั้นหรอ .. แต่นายยังพูดผิดอยู่ 3-4 คำนะ” ฉันเตือนคินจิอีกรอบ เราทั้งคู่ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ .. ไม่มีใครพูดอะไร

“ฉันไปเลียนก่อนนะ” คินจิลุกขึ้นและเอาเก้าอี้ไปเก็บที่เดิม

“อื้ม ..” ฉันตอบกลับไปแต่ไม่ได้มองหน้าเขา

“แล้ว .. เจอกัน” ฉันยังไม่ทันได้ตอบกลับเขาก็หันหลังให้ฉันและเดินเพื่อออกจากห้องพยาบาล

ฉันได้แต่มองตามหลังของเขาจนลับสายตา .. ฉันเลิกกอดตุ๊กตาแมวในมือและวางมันหงายท้องบนตักของฉันแต่มือยังจับอยู่ทั้ง 2 ข้าง

นิ้วชี้จนถึงนิ้วก้อยทั้ง 2 ข้างจับหลังของตุ๊กตาเอาไว้ นิ้วโป้งวางบนท้องของตุ๊กตา  และค่อย ๆ กดนิ้วโป้งลงท่ท้องสีชมพูอ่อน ๆ ของมันอย่างนุ่มนวล

เพื่อให้มันส่งเสียงร้อง

“เมี้ยว เมี้ยว ~” ฉันจ้องมองตุ๊กตาอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น .. ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าทำไมในหัวของฉันมีแต่คินจิ

เขาก็แค่มาเฝ้าฉันและลงทุนขโมยกุญแจเพื่อเอาตุ๊กตาในกระเป๋ามาให้ฉันเพื่อตอบแทนที่ฉันสอนเท่านั้นแหละน่า จะเอาอะไรมาก .. แต่ทำไมนะ ..

ทำไมตอนที่คินจิบอกว่า 'ก็แค่ตอบแทนที่เธอสอนฉันให้พูดไทนได้เท่านั้นแหละ' ฉันกลับรู้สึกผิดหวัง เหมือนว่าฉันหวังอะไรจากเขาที่มากกว่า .. ตอบแทน

ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น .. ไม่มีอารมณ์จะทำอะไร .. ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ ..

“เอาน่า อาเรีย ! แค่ผิดหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตเท่านั้นเอง !” ฉันพูดกระซิบปลอบใจตัวเองเบา ๆ แต่ดูเหมือนไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่

“อ้าว ตื่นแล้วหรอจ้ะ นอนหลับเต็มอิ่มหรือยัง” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยจนเผลอกดที่ท้องของตุ๊กตาแมว

“เมี้ยว เมี้ยว ~” เสียงร้องของตุ๊กตาดังขึ้นตามกลไกที่อยู่ในตุ๊กตา

“ใครเอามาให้หรอจ๊ะ” ครูประจำห้องพยาบาลที่เพิ่งกลับมาหลังจากทานข้าวถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางยิ้มมาให้ฉัน

“อ๋อ .. เอ่อ .. เพื่อนเอามาให้ค่ะ ..” ทำไม .. ทำไมฉันต้องเจ็บที่พูดว่า เพื่อน .. ไม่สิ คินจิกับฉันอาจจะเป็นแค่คนรู้จักด้วยซ้ำ

คงยังไม่ถึงขั้นเพื่อนหรอก ..

“มีเพื่อนมาเยี่ยมหรอจ๊ะ .. ว่าแต่ตอนนี้รู้สึกดีมั้ย”

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ”
จากนั้นฉันก็ลงมาจากเตียงและถือตุ๊กตามาด้วย

“จ้ะ คืนนี้อย่านอนดึกนะจ๊ะ” ครูกำชับฉันก่อนที่จะปล่อยให้ฉันออกมาจากห้องพยาบาล .. ตอนนี้ฉันอาจจะไม่ได้คุยกับเขาแล้วก็ได้

ฉันสอนเขาหมดแล้วนี่ เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาหาฉันที่ห้องเหมือนแต่ก่อนแล้ว .. บ้าจริงฉัน ทำไมฉันต้องเศร้าด้วยล่ะแค่เขาไม่มาหาเอง

ไม่จริง ดีจะตาย ! ฉันจะได้ไม่ต้องนอนดึกอีกด้วย อีกอย่าง ฉันไม่มีทางชอบมันหรอก !! มันไม่ใช่สเป๊คฉันเลย

ฉันไม่ชอบผู้ชายที่อ่อนแอเหมือนผู้หญิง ตอนที่รูมเมทมันมาบุกห้องฉัน มันยังต้องให้ฉันปกป้องมันเลย ! ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ให้ผู้หญิงปกป้อง !!

เพราะฉะนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด ฉันคงจะหลงใหลเฉย ๆ เพราะแค่เขาเอาตุ๊กตาแมวมาให้ฉัน !



เอาน่า มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ฉันพยายามคิดไว้ว่า 'ฉันเกลียดผู้ชายที่อ่อนแอ' ในหัวเพียงอย่างเดียว

พอคิดอย่างนี้ได้แล้ว ฉันไม่น่าไปนั่งโง่รอคินจิมาเลย !

“เอาละ ! ไปหาอะไรทำคลายเครียดดีกว่า !!” ฉันพูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น ก่อนที่จะเดินออกห้องและปิดประตูล็อคห้องเรียบร้อย

“หวัดดี” เสียงชายหนุ่มคนนึงดังมาจากข้างหลัง ฉันหันหลังไปเพื่อดูโฉมหน้าเจ้าของเสียงที่ทักฉัน

“อ .. อื้ม หวัดดี !” โอ้ย ตกใจหมด หันหลังไปเจอคินจิยืนอยู่ตรงหน้า ตั้งรับแทบไม่ทัน

“จาไปไนรอ” คงจะถามว่า 'จะไปไหนหรอ' ยังออกเสียงจัตวาไม่ค่อยได้อยู่สินะ

“ไปหาอะไรทำน่ะ” ฉันพูดปัด ๆ

“ไปด้วยได้มั้ย” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะฉันไม่เคยคิดว่าคำนี้จะออกมาจากปากของเขา

“อื้อ” ฉันอนุญาตให้ไปด้วยแต่มีปัญหาที่ว่าฉันยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหน

“แล้วจะไปที่ไนหรอ” นั้นไง ดั้นมาถามคำถามที่ฉันไม่รู้อีก

“ก็ .. ไปหาอะไรทำไง”

“สาถานที่น่ะ”
ฉันเงียบไปซักพัก ตอบไม่ได้ฟะ ไม่รู้จะไปไหนดี รู้แค่อยากหาอะไรทำ

“ไปกินข้าวกัน” สุดท้ายคินจิก็เป็นฝ่ายชวนฉัน .. จะว่าไปฉันก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยแหะ

“อื้ม” ฉันยอมรับคำชวน .. เดี๋ยวสิ ! ฉันลืมชวนแอนโทเนีย ปกติฉันจะไปกินข้าวเช้ากับแอนโทเนียนี่นา

ถ้าฉันไม่ชวน เดี๋ยวแอนโทเนียน้อยใจแย่เลย

“คินจิ ! เดี๋ยวฉันชวนเพื่อนฉันกินข้าวก่อนนะ นายไปก่อนเลย !”

“อื้อ”
แล้วคินจิก็เดินลงบันไดหายไป ถ้าจำไม่ผิด แอนโทเนียน่าจะอยู่ห้อง 376 ที่อยู่ริมสุดทางเดินชั้นนี้

ฉันจึงวิ่งไปที่สุดริมทางเดินจนเจอห้อง 376

ก๊อก ก๊อก !

“แอน ~ ไปกินข้าวกัน !!” ฉันตะโกนแหกปากทันทีโดยไม่สนใจห้องข้าง ๆ

“เดี๋ยวฉันตามไปนะ ไปก่อนเลย !” แอนโทเนียตะโกนตอบกลับมาจากข้างในห้องโดยยังที่ไม่เปิดประตู

“งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันตะโกนอีกรอบและจึงรีบวิ่งไปที่โรงอาหารทันที




โอ๊ก ~ รู้สึกเน่า =^=

อันนี้รีบแต่งนิดหน่อย แหะ ๆ การบรรรยายเลยยังดูลวก ๆ



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #316 เมื่อ: 23-03-2011, 21:30:22 »

ตาเค้าแล้วสินะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาแต่งจ้ะ=3=



●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #317 เมื่อ: 23-03-2011, 22:02:07 »

อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 22-03-2011, 23:31:40
แนทขอแนะนำอย่างเกี่ยวกะประโยคที่ตัวพระของเพชรในเทิร์น

คนญี่ปุ่นถ้าพูดมาไทยมักจะออกสระเพี้ยนเปนเสียงสั้น ไม่ก้ตัวสะกดหาย

อย่าง

‘คุณนั่งคนเดียวหรอครับ’  ควรเป็น >>> "คุนั่งโคะเดียหรอคับ"

ที่แนทใช้ในเทิร์นมันเมหือนฝรั่งมากกว่านะ=__=

อันนี้เตือนถึงทุกคนด้วยนะจร๊า สำหรับการที่จะเอาตัวออริของตัวที่เปนเพื่อนซี้ปาท่องโก๋เข้ามา

ตอนที่ทุกคนเอาตัวเพิ่ลรักของตัวเองเข้ามาเหมือนว่านิสัยของทุกตัวจะกลายเป็นเหมือนกัน คือ

กุลละชะนี (//โดนตบ) แน่นอนชั้นสังเกตจากเทิร์นฟอง

ตัวชั้นแบบ "จ้ะ..ขอบใจนะที่เข้าใจชั้นน่ะ" แบบสุภาพอ่อนหวานจนขนลุก ทั้งๆที่ในเทิร์นชั้นเองแบบ "เห้ย แก...!" ผิดกันเลยเหมือนผีเข้า-ออก=_=

ของแนทถ้าจะบรรยายตัวนางของเพชร ตัวนางชีจะไฮเปอร์แอคทีฟมาก อย่างฉากนี้ที่เดินเปนผีกะหร่อง

จาก “ม..ไม่เป็นไรจ๊ะ ร..เราไปหาอะไรทานกันดีกว่านะ...”

ควรจะเป็น "ม..ม.. ไม่เป็นไร!! แหะๆ... เราหาอะไรกินดีกว่าเนอะ เนอะ...! แหะๆ..." นี่คือลักษณะนิสัยของคนไฮเปอร์เวลาแรงใกล้หมดแต่ยังฟอร์ม

และจาก “จะพาฉัน..ไปไหน..”

ควรเป็น "อ...โอ๊ย~ จะพาช้านไปหนาย~!" ใช้เสียงลากยาวให้คงคาแร็กเตอร์ไฮเปอร์อยู่

ฝากถึงทุกคนด้วยถ้าจะเอาตัวออริเพื่อนมาในเทิรืนเรา อย่าให้ออริเขาเฉียหายผิดตัวจริง=[]=

แต่ยังไงบทนี้ก็ถือว่าใช้ได้ละจ้า (ส่วนตัวเองพรุ่งนี้เช้าจะมาแต่ง= =)

อ่ะงิ พอดีอ่านนิสัยเพชรไม่เข้าใจอ่ะ - -

แล้วจะปรับปรุงจร้า ใช่







ไกล้ถึงเทิร์นอีกแล้ว =[]= ถ้าฟองต์ลงพรุ่งนี้ของเค้าไม่แน่นอนนะ เพราะพรุ่งนี้วันอำลาสถาบัน

กลับมาก็ช่วยงานที่ร้าน ถ้าไม่ลงพรุ่งนี้ต่อ อาจจะเป็นมะรืนอ่ะ - -

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #318 เมื่อ: 24-03-2011, 14:22:57 »

-31-

ฉันกัดปากร้องไห้เงียบๆบนที่นอนของนาริ  ลืมตาก็ร้องไห้ หลับตาก็คิดถึงเรื่องเมื่อวานก่อน พอฝันเข้าก็ฝันถึงเรื่องวัยเด็ก

ทำไม..ทำไมถึงเป็นเช่นนี้..ทำไมถึงต้องให้ฉันมีตราบาปนี้ด้วย..

ฉันร่ำไห้พลางอ้อนวอนอยู่ในใจ ถึงแม้ไม่มีใครได้ยินก็เป็นเถอะ

ใช่แล้ว..ฉัน..ตอนนี้ครึ่งหนึ่งของใจมันยอมรับกับความเป็นจริง ให้ฉันเลิกรากับพี่ไปซะแล้วกลับไปเป็นพี่น้องดังเดิม ส่วนอีกด้านหนึ่งมันตรงกันข้าม ความรู้สึกแบบนั้น..ฉัน..อยากสัมผัสมันอีก

"ยังไม่นอนเหรอ ?"เสียงนาริดังขึ้นในความมืดทำเอาฉันสะดุ้ง  ฉันตอบไปเบาๆก่อนจะค่อยๆถาม

"แก..ถ้าเกิดว่าฉันกับพี่มีอะไรกันตอนเด็กไปแล้วเนี่ย...มันจะถือเป็นตราบาปใช่มั้ย ?"

"เอ่อ..ก็ใช่นะ.."

"แล้วถ้าฉันเกิดสำนึกผิดตอนนี้และกลับไปเป็นพี่น้องปกติๆดังเดิม ตราบาปมันจะหลุดออกไปมั้ย ? มันจะสายเกินไปไหม ? ฉันกับพี่สามารถเป็นแบบเดิมได้ไหม ?"

"...มัน..เอ่อ..ตราบาปน่ะนะ มันไม่หายไปหรอก แต่สิ่งที่กระทำถ้าแกรู้ตัวดีและมั่นใจว่าสำนึกผิดจริงๆ มันจะทำให้สบายใจขึ้น และโทษบาปมันก็จะลดลงเพราะตอนนั้นแกก็ยังไม่รู้ประสีประสาอะไรกับพี่หรอกใช่มั้ย ?"

"อืม.."

"ลองไปขอโทษพี่แกดูสิ เผื่อเขาจะยกโทษให้นะ !"เสียงหวานแสดงถึงความหวังดีดังขึ้น ทำเอาฉันค่อยๆคลี่ยิ้มอย่างสบายใจ

นั่นสินะ..ถ้าเกิดว่า..กลับไปเป็นแบบนั้น..กลับไปเป็นพี่น้อง..

มันก็คงจะสบายใจกว่านี้

วันถัดมา

"เฮ้ยแก..วันนี้วันหยุดอ่ะ..แกไปที่ห้องแกไปถือโอกาสขอโทษพี่แกเลย เดี๋ยวตอนเที่ยงๆฉันจะมารับไปกินข้าวเที่ยงเอง"นาริพูดพลางเดินมาส่งฉันที่หน้าประตูห้อง ฉันยิ้มหยีตาให้ก่อนจะพยักหน้า  แล้วโบกมือลาเช่นเดียวกับนาริที่โบกมือให้

"บ๊ายบาย..ไว้เจอกันนะ"ฉันพูดก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องนอน

ในที่สุดก็มาหยุดที่หน้าห้องนอนฉัน..ฉันจ้องตัวเลขซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไม่ได้ผิดห้อง แต่กลับไม่กล้าเปิดประตูห้องเข้าไปสักที ทำเอาผู้หญิงห้องข้างๆมองอย่างงุนงงว่าทำไมฉันถึงมายืนหน้าห้องโดยใส่ชุดนอนอยู่

'เอาก็เอา!..กล้าๆหน่อยโลวาน่า'

ฉันสูดลมหายใจให้เต็มที่ ก่อนจะบิดลูกประตูเข้าไป

"พี่คะ !!"ฉันส่งเสียงเรียกพยามจะขอโทษ แต่เมื่อเข้ามาในห้องก็พบกับว่าไม่มีใครอยู่เลย

"อ้าว ? ..ไปไหน"

แบบนี้ทำให้ความกดดันฉันเพิ่มมากขึ้น ความรู้สึกกล้าๆกลัวๆในตอนแรกหายไปหมด แต่ตอนนี้รู้สึกว่าในร่างกายอัดแน่นไปด้วยลมหรือใยนุ่นที่ทำให้ร่างกายอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ลำตัวหนักไปหมดเวลาเดินหรือขยับท่าทาง จนฉันสังเกตุได้เลยว่ามือฉันกำลังสั่นกึกอยู่

"ใจเย็นๆ..ใจเย็นๆ..ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก.."ฉันปลอบใจตัวเอง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำละล้างร่างกาย

'กลัวจริงๆเลย..กลัวจริงๆ'

คลิ๊ก!

เสียงปลดล็อคประตูห้องน้ำดังขึ้นทำเอาฉันสะดุ้งเฮือก.. อะไรกัน..ทั้งๆที่ฉันก็ล็อคห้องน้ำแล้วนี่..ตอนนี้ฉันไม่ได้ใส่อะไรเลยนะ..คนที่มือกุญแจเพียงคนเดียวก็คือ..

ไม่ได้นะ!!

ฉันรีบวิ่งไปดันประตูที่กำลังจะเปิดเข้ามาแล้วกดล็อคทันที แต่เสียงกุญแจกำลังปลดล็อคก็ดังขึ้นอีก ฉันพยามดันประตูสุดขีดไม่ให้พี่เข้ามาไม่ได้

"ไม่ได้นะ..ฉันอาบน้ำอยู่ !! ห้องน้ำยังไม่ว่างสักหน่อย !"ฉันตะโกนออกไปนอกห้อง เสียงหัวเราะดังเบาๆทำเอาฉันคิดว่าพี่ฉันเมาเหล้าหรือยังปกติดีหรือเปล่า..??

"ทำไม พี่จะเข้าไปหาน้องสาวที่กำลังอาบน้ำเลยไม่ได้รึไง !"

"พี่เมาเหล้าชัวร์เลยอาการแบบนี้ ! หยุดเดี๋ยวนี้แล้วไปนั่งบนเตียง เดี๋ยวฉันจะไปเช็ดตัวให้"

"พี่ปกติดี ทำไม ? จะเข้าไปหาน้องสาวไม่ได้หรอ"

"หยุดพูดเดี๋ยวนี้ !!"ฉันบอกเสียงเข้ม อาการโมโหถาโถมเข้ามาในใจทันทีจนฉันกำมือแน่นพลางกัดฟัน

เฮอะ!! จะให้ฉันไปขอโทษพี่โรคจิตแบบนี้น่ะหรอ !! นาริ ! เธอคิดอะไรอยู่น่ะ  ฉันอยากให้เธอมาเห็นภาพนี้จริงๆเลย..แล้วอยากจะให้เธอพาฉันไปนอนห้องเดียวกันเรื่อยๆ..

ฉันกดล็อคประตูห้องอีกครั้งแล้วรีบวิ่งไปกดปิดน้ำ จากนั้นเช็ดตัวอย่างรวดเร็วแล้วรีบใส่เสื้อผ้าทันที

ในที่สุดฉันก็ใส่เสร็จ ประตูที่พี่ไขออกมาถูกเปิดออกจนฉันถลึงตามอง

"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย.."

"อ้าว? โมโหหรอ"ว่าแล้วภาพตรงหน้าก็ปรากฏจนฉันชะงักไป

"มะ..ไม่ใช่..คุณเป็นใคร ?"ร่างตรงหน้ายิ้มเบาๆก่อนจะชี้ไปที่เตียง ฉันหันไปมองก็พบพี่นอนหลับสนิทอยู่

โอย..ปวดหัวจริงๆเลย มาเจอพี่กับเพื่อนขี้เมาแบบนี้แถมเพื่อนพยามจะเข้าห้องน้ำบุกมาหาฉันอีก..หนอย..ขอต่อยสักหมัดเถอะนะ

ผัวะ !!

ว่าแล้วรุ่นพี่เพื่อนของพี่ชายก็ล้มลงไปแล้วสลบไปเพราะฤทธิ์เมาเหล้า ฉันเดินไปหาพี่ที่นอนหลับสบายอยู่ ก่อนจะกรอกตาไปมาอย่างเอือมระอา

โอ้ย!! นี่มันวันอะไรกัน ! ฉันล่ะอยากจะลงไปดิ้นกับพื้น !!

ฉันตวัดสายตาไปมองพี่ที่นอนอยู่ ดวงตาฉันหรี่อ่อนลงแบบไม่รู้ตัวก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู

"ขอโทษ.."



"หา ? พี่แกกับเพื่อนเมาเละแล้วมาถึงห้องจากนั้นเพื่อนพี่แกก็พยามจะบุกหาแกที่อาบน้ำอยู่นี่นะ ?"นาริอ้าปากค้างที่ฉันเล่าเรื่องให้ฟัง ฉันพยักหน้าเบาๆก่อนจะใช้ส้อมจิ้มมะเขือเทศลูกโตแล้วจับเข้าปาก

"ใช่อ่ะดิ..เฮอะ..ฉันเกือบตายแล้วมั้ยล่ะ..ไอ่..ไอ่โรคจิตเอ้ย ! ต่อยหมัดเดียวมันยังไม่สะใจเลย"

"ใจเย็นๆแก อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา"

"เออๆ..ครั้งนี้ฉันให้อภัยไปละกัน"ฉันยิ้มให้นาริ  ว่าแล้วก็มีร่างหนึ่งมาหยุดข้างๆโต๊ะทำเอาฉันกับนาริหันไปมอง

"นายชิน !?"นาริถึงกับผงะเมื่อเจอผู้ชายคนนั้น ฉันกระพริบตาปริบๆสองสามทีก่อนจะหันไปมองนาริ

"เอ๋ ? คนรู้จักแกหรอ ?"

"เอ่อ..คือ..ลูกค้าน่ะ"นาริเบนสายตาไปทางอื่นทำเอาฉันยิ้มเจ้าเลห์

"แหมๆ..คราวนั้นยังเห็นเขาลากแกไปเลยนี่นา..อ๊ะ! มีอะไรหรอคะ ?"ฉันหันไปมองที่นายชินเชินอะไรที่นาริว่า เขาก้มลงมามองก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆโรงอาหาร

"ผมไม่มีที่นั่ง ขอนั่งด้วยคนนะ"

"เชิญค่ะ"ฉันยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้ไปนั่งข้างๆนาริ แต่นาริรีบห้ามปราม

"อ่า..เอ้อ..โลวาน่ามานั่งข้างๆฉันเถอะให้นายชินมานั่งตรงข้ามฉันก็ได้"

"ไม่เอาอ่ะ..ฉันขี้เกียจ"ว่าแล้วฉันก็ยิ้มอย่างสบายใจ ก่อนจะยักคิ้วให้นายชินไปนั่งข้างๆนาริ

อุ๊ๆ..พอดูใกล้ๆสองคนนี้เหมือนคู่รักเลยแฮะ..น่ารักดีจัง ฉันควรจะรีบออกไปจากตรงนี้ดีกว่า

ว่าแล้วฉันก็รีบทานผัดผักให้หมดแล้วลุกขึ้นพรวดพราด

"เอ่อ..ฉันไปก่อนนะ พอดีว่ามีการบ้านค้างน่ะ"

"อ้าว? วิชาอะไรอ่ะแก ถ้าแกยังไม่ส่งฉันก็ยังไม่ส่งแน่ๆเลย"นาริทำท่าตกอกตกใจ ฉันกลอกตาไปมาอย่างล่อกแล่กก่อนจะรีบพูดขึ้น

"รายงานวิชาสังคมไงแก ! ที่แกส่งไปเมื่อวานก่อนอ่ะ ฉันไปนะบ๊ายบาย"ว่าแล้วฉันก็รีบวิ่งออกมาทันที ก่อนจะถอนหายใจ

ฉันเป็นคนส่งรายงานวิชาสังคมก่อนนาริซะอีก..=_=

ว่าแล้วก็เดินเตร่ดเตร่อยู่รอบๆโรงเรียนอย่างไม่มีอะไรทำ แต่พอคิดไปคิดมากลัวว่าถ้านาริกับคุณชินทานข้าวเสร็จจะออกมาเจอฉันเข้า

"ขึ้นหอดีกว่าแฮะ"ว่าแล้วก็ก้าวอาดๆเข้าหอทันที แล้วเดินตรงรี่ไปยังห้อง แต่เมื่อถึงชั้นสามก็พบแอนโทเนีย

"อ้าวแอน?..สวัสดีจ้ะ"

"สวัสดีค่ะ"แอนโทเนียยิ้มรับ ฉันค่อยๆถามเธอทันที

"แล้วนี่แอนจะไปไหนล่ะ ?"

"อ๋อ อาเรียชวนแอนไปกินข้าวค่ะ ไว้เจอกันนะคะ"

"จ้ะ"ฉันยิ้มให้พลางมองร่างแอนโทเนียที่วิ่งเหยาะแหยะจากไป ก่อนจะมุ่งหน้าเดินต่อ

ฉันค่อยๆบิดลูกบิดประตูออกแล้วมองเข้าไปข้างใน ก็พบเพื่อนของพี่ชายนอนอยู่บนเตียงพร้อมเสียงอาบน้ำจากห้องน้ำ

อาบน้ำอยู่หรอกหรอ?..

ฉันส่งเสียงในลำคอก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าเช็คในสมุดโน๊ตที่จดการบ้านว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็พบว่าทำมันเสร็จแล้ว

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นทำเอาฉันสะดุ้ง ลำตัวเก้ๆกังๆทันทีที่พี่ออกมา

ทำไงดี..ทำไงดี..ฉันจะบอกขอโทษไงดีล่ะ..ทำไมถึงกลัวขนาดนี้เนี่ย..

"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ไม่รู้"ฉันตอบห้วนๆกวนประสาทก่อนจะหันหน้าหนี ความรู้สึกกลัวและโมโหถาโถมเข้ามาในร่างกายทันที พร้อมลำตัวที่สั่นเกร็ง

"ทำไม ? มีอะไรจะบอกพี่ หืม?"ว่าแล้วเสียงก็ดังมาจากข้างหลังทำเอาฉันกลัวน้ำตาแทบไหลอีก

"ฉะ..ฉัน..ฉันขอโทษ..ขอโทษ.."ฉันบอกเสียงสั่นพร่าพูดอยู่หลายที ว่าแล้วร่างของพี่ก็มาหยุดตรงหน้า

"ขอโทษเรื่องอะไร ?"

"กะ..ก็ฉันทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป..ฉันขอโทษ"

"พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเธอน่ะ"ว่าแล้วมือใหญ่กว้างก็ลูบหัวฉันเบาๆจนรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ดวงตาฉันเลื่อนไปมองผู้ชายคนนั้นที่หลับอยู่บนเตียง

"ใครน่ะ..คนนั้น?"

ว่าแล้วพี่ก็หันไปมองตามก่อนจะหันกลับมาหาฉัน

"เพื่อนพี่เอง ชื่อโรวาโน่ แต่อยู่ม.5"

ฉันเงียบไปสักพักก่อนจะฉีกยิ้มแหยๆ

"พวกเราเป็นญาติกันเปล่าเนี่ย..?"

"นั่นสิ"พี่ชายฉันหัวเราะกว้าง ก็ฉันชื่อโลวาน่า พี่ชื่อโลวีน่า ส่วนชายคนนั้นชื่อโรวาโน่ เราเป็นญาติกันฝ่ายไหนเปล่าเนี่ย ?

"ว่าแต่พี่มีเพื่อนโรคจิตแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?"

"มันเมา"

"อ้าว ? อายุ 17 กินเหล้าได้หรอ ?"ฉันเลิ่กคิ้ว พี่ยักไหล่อย่างสบายใจ

"ไม่รู้ กินๆไปเถอะ"

"เอ่อ.."ฉันยิ้มแหยๆ ก่อนจะกรอกตาไปมาอย่างเอือมระอา

"ฉันคิดว่าฉันอ่านหนังสือดีกว่า"ว่าแล้วก็ปีนขึ้นไปเตียงชั้นบนก่อนจะหยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้ข้างๆหมอนมาอ่านต่ออย่างสงบใจ

เท่านี้ฉันก็..กลับมามีความสุขแบบเดิมแล้วสินะ..



一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #319 เมื่อ: 24-03-2011, 14:23:20 »

บทนี้เน่าโฮกเพคะ  Wink



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #320 เมื่อ: 24-03-2011, 14:27:46 »

เหมือนลำบากเพื่อนสุด

อ่าวเห้ย! ทิ้งไอ่บ้านี่ไว้กะชั้น2ต่อ2ได้ไง ม่าย~=[]=

//โดนตบหัวเรียกสติหลังจากเมื่อกี้ที่อินเรื่องเกิน



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #321 เมื่อ: 24-03-2011, 14:34:19 »

ชอบประโยคนี้(โดยส่วนตัว)อ่ะ

"ไม่รู้ กิน ๆ ไปเถอะ" =w=



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #322 เมื่อ: 24-03-2011, 22:53:33 »

โอ้ ตัวพระ(รุก)เจอกับตัวพระอื่นๆแล้วสินะ =[]=



สนใจจิ้มเลย >0<



●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #323 เมื่อ: 25-03-2011, 18:33:16 »

[.-_32_-.]

ตอนนี้ฉันกำลังรีบวิ่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยวิ่งในระดับความเร็ว 50 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง เพราะจะต้องไปทานข้าวกับอาเรียที่โรงอาหาร

แต่ในความจริงแล้วฉันทานข้าวเรียบร้อยตั้งแต่คินจิวิ่งออกไปหาอาเรียที่ห้องพยาบาลแล้วล่ะ แต่ฉันกลัวว่าอาเรียจะเหงาเพราะต้องนั่งทานข้าวคนเดียว ฉันก็เลยต้องบอกกับเธอไปแบบนั้น และรีบมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เพราะไม่ว่ายังไงซะ อาเรียก็คือเพื่อนที่สำคัญที่สุดของฉัน เธอเป็นคนน่ารัก และคือเพื่อนคนแรกในปีการศึกษานี้ของฉัน จะว่าไปแล้วฉันก็ยังสงสัยอยู่ไม่หายเลยว่า เพื่อนๆสมัย ม.1 ถึง ม.3 ของฉันพวกเค้าหายไปไหนกันหมด

และมันก็คือเรื่องเดียวที่ฉันคิดมาตลอดเปิดภาคเรียน หรือพวกเขา จะย้ายโรงเรียนไปหมดนะ... ไม่สิ ถ้าย้ายก็ไม่น่าย้ายไปหมดขนาดนี้นี่ ซักวันฉันจะต้องพบกับทุกคนอีกให้ได้ เพราะไม่ว่ายังไงซะ พวกเขาก็คือเพื่อนคนสำคัญที่สุดเหมือนกัน...

“แอน !! ทางนี้จร้า !! ทางนี้ ทางนี้ !!” เสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีเมื่อฉันวิ่งมาหยุดอยู่หน้าโรงอาหาร จุดมุ่งหมายสำหรับงานนี้ และฉันก็จำได้ดีเลยว่า นั่นคือเสียงของใคร

ทันทีที่เสียงนั้นสิ้นสุดลงได้ไม่ถึง 5 วินาที ฉันก็ค่อยๆเดินไปที่โต๊ะประจำริมหน้าต่างที่ตรงกับวิวสวนย่อมด้านนอก และมีน้ำพุที่เป็นธรรมชาติ ตอนนี้อาเรียกำลังยืนโบกมือให้ฉันอยู่ที่โต๊ะ เธอดูร่าเริงมาก หายดีแล้วสินะ

แต่เอ๊ะ ถ้าฉันดูไม่ผิด...คนที่นั่งตรงข้ามกับอาเรียต้องเป็นคินจิแน่ๆ เพราะชายหนุ่มคนนั้นเขามีลักษณะหมือนคินจิทุกอย่าง แสดงว่า...มาด้วยกันสินะ

“สวัสดีค่ะคินจิ พบกันอีกแล้วนะคะ” ฉันทักทายคินจิ พร้อมกับฉีกยิ้มเล็กน้อยอย่างร้าเริงทันที เมื่อเดินมาถึงที่โต๊ะ

“ซะหวัดดีคับ” คินจิทักทายกลับมา ด้วยสำเนียงที่ผิดเพี้ยน ฟังยังไงก็ยังเป็นสำเนียงญี่ปุ่นอยู่ดีสิน่า สงสัยต้องช่วยสอนล่ะมั้ยเนี่ย

“สะ –หวัด – ดี นะคะคินจิ ไม่ใช่ ซะ – หวัด – ดี” ฉันค่อยๆพูดไปทีละคำเพื่อเน้นให้เขาได้รับรู้ถึงเสียงของพยัญชนะอย่างถูกต้อง

“เอ่อ...คับ ขอบคุณทิเนะนำคับ” คินจิตอบ ดูเหมือนว่า เขาเพิ่งจะฝึกพูดไทยสินะ

“แอนกินอะไรดีล่ะ ฉันหิวแล้วล่ะ !!” อาเรียพูดขึ้นหลังจากเงียบมานาน เสียงของเธอดูหิวมากเลยนะนี่

“ถ้าอาเรียคิดว่าอะไรที่ตัวเองทานอร่อย ทานอิ่ม ก็เอาอันนั้นแหละค่ะ แอนไม่อยากเลือกให้ใคร เพราะกลัวจะไม่ถูกใจน่ะค่ะ” ฉันตอบอาเรียกลับไป ดูเหมือนเธอจะเข้าใจดี เพราะหลังจากฉันพูดจบอาเรียก็เดินไปซื้ออาหารโดนทันที

“เพิ่งรู้นะคะ ว่าคุณกับอาเรียสนิทกันขนาดนี้” ฉันนั่งลงที่เก้าอี้สีชมพูประจำโต๊ะ ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ฉันนั่งประจำ (หนึ่งโต๊ะจะมีเก้าอี้ 4 สี แล้วแต่นักเรียนจะเลือกใส่โต๊ะของตัวเอง *-*) ก่อนจะปรีปากขึ้นอย่างสดใส

“ผมกับอาเรีย ไม่ได้ฉะหนิดกัน ขานาดนั้นคับ ผมแค่คงลู้จัก” คินจิเงยหน้าขึ้นมาตอบ ก่อนจะก้มหน้าลงไปทานราเม็งต่อ

“อ๋อ...งั้นสินะคะ ^^” ฉันตอบปิดท้ายไปอย่างร่าเริง

“แอน ไม่ทานอะไรหน่อยหรอ” เสียงของอาเรียดังขึ้นทันทีเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้โต๊ะ

“เอ่อ ไม่ค่ะ พอดีว่าแอนทานตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ” ฉันหันหน้าไปหาอาเรียก่อนจะตอบไปอย่างอ่อนโยน 

“อ้าว ! งั้นหรอ... แหะๆ ขอโทษจริงๆนะที่ชวนมาทั้งๆที่แอนกินแล้วน่ะ” อาเรียยิ้มแหยๆก่อนจะพูดออกมาแบบเสียฟอร์ม

“ไม่เป็นอะไรหรอจ้า แอนต่างหากที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรก... ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว อาเรียก็มีเพื่อนทานข้าวละ งั้นเดี๋ยวแอนขอตัวก่อนนะ กะว่าจะเดินเล่นรอบโรงเรียนซะหน่อย เผื่อจะเจอเพื่อนเก่าบ้างน่ะ” หวังว่าอาเรียคงจะจับพิรุจไม่ได้นะ นอกจากฉันแล้วใครจะรู้ความคิดฉันอีกล่ะ ความจริงแล้วที่ฉันพูดออกไปแบบนั้นเพราะอยากให้เพื่อนใหม่ได้รู้จักกันมากขึ้นต่างหากเล่า !

“ถ้างั้น..แอนก็ไปเถอะจ๊ะ ไม่ได้กินด้วยกันแค่มื้อเดียวเอง สบายมาก !! ขอให้เจอเพื่อนนะ !!” อาเรียพูดอย่างอารมณ์ดี และดูเหมือนเธอจะไม่สงสัยอะไร  ฉันจึงตัดสินใจรีบเดินออกมาจากจุดนั้นทันที



ตอนนี้ในความคิดของฉันคือการเดินไปรอบๆโรงเรียน และตอนนี้ฉันก็เดินมาได้เกือบครึ่งโรงเรียนนับจากโรงอาหาร และฉันก็ได้มาเจอสถานที่หนึ่ง ที่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี

โดยรอบบริเวณที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและดอกไม้นานาชนิด ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติภายในโรงเรียน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ เหล่าสัตว์น้อยก็อาศัยอยู่ที่นี่ และท่ามกลางธรรมชาติแสนร่มรื่น ก็ได้มีสิ่งก่อสร้างขนาดกลาง ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่มีขนาดที่พอเหมาะสำหรับเป็นที่ชุมนุมของนักเรียนประมาณ 20 คน

สิ่งก่อสร้างนี้สร้างจากคอนกรีต ดูเหมือนอาคารทั่วไป  มันเป็นอาคารสองชั้นสีขาว ภายนอกถูกตกแต่งและดูแลอย่างสวยงาม หากดูเผินๆ อาจจะคิดว่านี่เป็นบ้านพักหลังหนึ่งก็เป็นได้

สถานที่นี้คืออาคารชมรม ของชมรมคนสร้างสรรค์ ที่แอนโทเนียและเพื่อนๆได้ช่วยกันหาเงินมาก่อสร้างมันขึ้นมา เพื่อเป็นอาคารส่วนตัวของพวกเขา (เฉพาะสมาชิกในชมรมเท่านั้นที่เข้าได้) โดยชมรมของพวกเขานั้นก่อตั่งขึ้นเมื่อแอนโทเนียอยู่ ม.2 เพราะ ม.1 คือชั้นก่อสร้าง

แอนโทเนียและเพื่อนๆ มีความตั้งใจว่าจะสร้างอาคารนี้ไว้สำหรับเป็นที่พบปะของพวกเขา และเป็นที่ละลึกรุ่นต่อไปเมื่อพวกเขาเรียบจบ ส่วนสาเหตุที่ก่อตั้งตั้งแต่เข้าเรียนคงจะรู้ดีว่า ตั้งขึ้นเพื่อให้ทุกคนในชมรมได้มาอยู่ที่นี่เมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ หรือไม่มีอะไรจะทำ

“คิดถึงจัง...” ฉันปริปากพึมพำออกไปเบาๆ หลังจากไม่ได้มาที่นี่นานถึง 2 เดือนและฉันไม่รอช้า จากความคิดถึงฉันจึงรีบเดินเข้าไปภายในอาคารทันที

ภายในอาคารชั้นล่างทุกอย่างยังถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องนันทนาการ ฉันเดินสำรวจ และดูรูปภาพต่างๆของเราที่เคยถ่ายด้วยกันตอนไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่นี่มันเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สามต่อจากโรงเรียนของเราเลยก็ว่าได้

หลังจากฉันเดินสำรวจห้องและดูรูปที่ชั้นล่างมานาน ฉันก็ตัดสินใจที่จะเดินขึ้นไปที่ชั้นบนต่อ เพราะของสำคัญของพวกเรา อยู่บนนั้น...

ฉันค่อยๆเดินขึ้นบันไดไปที่ละก้าวอย่างใจเย็นด้วยอารมณ์ยินดี และมีความสุข ก่อนที่อารมณ์ของฉันมันเปลี่ยนแปลงไปในพริบตา เพราะสิ่งที่ฉันเห็น คือข้าวของทุกอย่างจัดอย่างเป็นระเบียบตั้งแต่บันไดจนถึงสุดทางเดินชั้นสอง มันกระจัดกระจาย ระเนระนาดไปทั่วอย่างไร้ระเบียบและความสวยงามเหมือนสองเดือนที่แล้ว

ความสงสัยและความรู้สึกเจ็บปวดข้างในมันเริ่มบังเกิด ฉันค่อยเดินสำรวจไปทีละก้าวอย่างเชื่องช้า ด้วยความอาลัย ก่อนที่ร่างของฉันจะถูกใครบางคนฉุดเข้ามา ณ มุมหนึ่งของห้อง !!

“อ่อยอั้นอ่ะ! (ปล่อยฉันนะ !)” ฉันพยามพูดอย่างสุดเสียงเพราะมือหนึ่งกำลังปิดปากของฉันอยู่อย่างไม่มีท่าทีว่าจะไม่ยอมปล่อย

“เงียบก่อน..” เสียงนั่นทำให้ฉันต้องหยุดชะงักอย่างกะทันหัน เพราะเสียงนั่นเป็นเสียงของชายหนุ่มคนนั้น

ตอนนี้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ เราสองคนยืนชิดกันมาก ห่างกันไม่ถึงสองเซนติเมตรเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมหัวใจของฉันมันเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่เป็นจังหวะ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแบบนี้ล่ะ

ตึก ตึก ตึก!

เสียงฝีเท้าของคนสองคนดังขึ้น และดูเหมือนจะเริ่มเข้ามาใกล้เราทั้งสองคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำไมเขาต้องดึงตัวฉันเข้ามาหลบด้วยล่ะ หรือคนพวกนั้นเป็นคนไม่ดี !!

“มันหายไปไหนของมันวะ เมื่อกี้ยังเห็นแว๊บๆอยู่เลยวุ้ย!!” เสียงทุ่มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่หยุดลง น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนกำลังเซ็งสุดขีด และไม่เอ็นด้วย

“นั่นสิ ผู้หญิงอะไรวะ ทำไมหายตัวเร็วจัง เมื่อกี้ฉันยังเห็นเดินอยู่แถวนี้อยู่เลย” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นติดกัน และไม่ต่างกันเท่าไหร่ ถ้าสรุปใจความได้ มันคงเป็นผู้ชายทั้งสองคน

“หึ! มันต้องอยู่แถวนี้แน่ ไป! ไปดูห้องนั้นกัน” สิ้นเสียง สองฝีเท้าก็ไปยังห้องด้านซ้าย ที่อยู่ห่างจากจุดที่แอนโทเนียอยู่ไม่ไกลนัก เมื่อฝีเท้าทั้งสองเริ่มห่างไกล ฝ่ามือที่ปิดปากของแอนโทเนียไวก็ค่อยๆคลายออกอย่างเบามือ

แสงสว่างจากดวงตะวันทางทิศตะวันออกสอดส่องเข้ามาทางหนาต่างเล็กน้อยเพราะตอนนี้เป็นเวลา 10 นาฬิกา เผยให้เห็นใบหน้าชายหนุ่มตรงหน้าที่แอนโทเนียรู้ดีว่า เขาเป็นใคร

“ราเชล...ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้” ฉันตามเขาออกไปตรงๆหลังจากที่คิดว่าเราปลอดภัยแล้ว

“ฉันแค่ผ่านมาเห็นแล้วเข้ามาสำรวจนิดหน่อย ก็มาเจอกับสองคนนั้นเข้าเท่านั้นเอง” ราเชลตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อความปลอดภัย

“สองคนนั้น...สองคนนั้นเขาเป็นใคร” ฉันถามอย่างสงสัย เพราะที่นี่เราไม่เคยให้คนแปลกหน้าเข้ามาเลยด้วยซ้ำ

“เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา  สองคนนั้นเป็นอัธพานประจำโรงเรียน พวกมันเลวมาก แต่ ผอ. โรงเรียนทำอะไรมันไม่ได้เพราะมันเป็นลูกคนใหญ่คนโต มันขู่เอาไว้เยอะน่ะ แต่พ่อกับแม่ของมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกตัวเองเป็นอันธพาลคุมโรงเรียน” สิ้นสุดคำบอกเล่าจากปากของราเชล ทำให้ความคิดต่างๆในหัวของฉันมันปะปนกันจนวุ่นวายไปหมด

ถ้าสองคนนั้นเป็นอันธพาล แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วทุกคนจะเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเป็นห่วงทุกคน..

“...ทำไม..นายถึงช่วยฉันล่ะ” ฉันถามออกไปตรงๆเพราะฉันเพิ่งคิดได้เหมือนกัน ทำไมเขาต้องช่วยฉันด้วย ทั้งๆที่เราเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น เราไม่ได้สนิทอะไรกัน เขาจะปล่อยให้ฉันเป็นอะไรไปก็ได้นี่

“ฉัน...ฉันแค่อยากช่วยเธอน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” ทำไมกันล่ะ...ทำไมตอนนายตอบสีหน้านายจะต้องสลดลงด้วย ทำไมกัน นายช่วยฉันเฉยๆไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องท่าเหมือนคนมีความลับ

“...งั้น ก็ขอบคุณนายมากก็แล้วกันนะ ฉ..ฉันขอตัวกลับห้องก่อน” ฉันพูดออกไปตรงๆ เพราะไม่อยากให้ความรู้สึกบางอย่างมันเกิดขึ้นภายใน

“เดี๋ยว !!” ราเชลตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง ส่งผลให้อันธพาลสองคนที่เดินออกมาพอดี เบี่ยงเบนความสนใจมาที่ฉันและเขา!!

“บ้าชิบ!” ราเชลสบถออกมาอย่างดัง ก่อนมือของเขาจะฉุดเอาแขนของฉัน

“หนีเร็ว!!” เขาตะโกนออกมาอย่างร้อนรน ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ถูก นอกจากจะวิ่งตามราเชล

“เฮ้ย !! จะหนีไปไหนวะ มาเป็นนางบำเรอของฉันซะดีๆ !!” อันธนาลคนหนึ่งตะโกนขึ้นก่อนจะวิ่งตามหลังเราทั้งสองคนออกมาอย่างรวดเร็ว

“เมื่อไหร่มันจะหยุดตามซะทีวะ !!” ราเชลสบถออกมาอย่างดังอีกครั้ง หลังจากเราเริ่มออกจากบริเวณโรงเรียนสู่ซอยแคบๆซอยหนึ่ง เขาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น และมันก็ส่งผลให้ฉันต้องเร่งด้วยเช่นกัน

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”อันธพาลตะโกนไล่หลังเรามาไม่ยอมหยุด พร้อมกับไม้หน้าสามในมือที่กำไว้อย่างแน่น

“ชั้นไม่ยอมให้คนโสโครกอย่างแกมาทำอะไร ฟ..เพื่อนฉันหรอกเว้ย!!” ราเชลตะโกนไล่หลัง แต่เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เขากำลังจะพูดว่าอะไรน่ะ ทำไมเป็น ฟอฟันล่ะ !!

“ฮ่า! ฮ่า! ในที่สุดก็จนมุมจนได้สิน่า ~” เสียงอันธพาลคนหนึ่งพูดขึ้น ทำไมกันล่ะ ทำไมเราต้องมาเจอทางตันกันด้วย !!

ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนข้างหลังของราเชล เพราะถ้าไม่จำเป็นจริงฉันไม่อยากทำร้ายใคร ถ้ามันจะลงมือจริงๆฉันค่อยจะเริ่ม ฉันจะบอกให้ ไม่มีใครซักคนรู้นะ ว่าฉันมีอาเป็นเจ้าหน้าที่ของซีไอเอเชียวน่ะ อาน่ะสอนฉันมาหมดแล้ว !!

“แกจะไม่มีทางได้เข้าใกล้เธอ !!” ราเชลตะโกนขึ้นอย่างดงังและโมโห และไม่มีที่ท่าจะมีผู้คนได้ยิน เพราะซอยนี้เป็นซอยที่แคบและเปรี่ยวมาก

ใครจะไปรู้กันล่ะ ว่าวันนี้จะเป็นวันแสนโชคร้าย ของฉัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่คิด  ราเชลวิ่งเข้าหาพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว ที่เขาจะทำอะไรกันน่ะ !!

“แกไม่มีแม้แต่อาวุธ แกจะทำอะไรช…” ไม่ทันที่อันธพาลจะได้พูดจบประโยคหมัดที่เปี่ยมด้วยพลังอันหนักแน่นของปาร์คจองซอล หรือราเชลปาร์ค ก็พุ่งตรงเข้าใส่ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ของมันทันที

เลือดสีแดงสดค่อยไหลออกมาจากริมฝีปากของอันธพาล มันเอามือเช็ดเลือดที่ปาดอย่างเจ็บใจ ก่อนพวกมันจะหันหน้ามาพยักหน้าให้กันก่อนจะวิ่งเข้าหาราเชลอย่างโกรธแค้น ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ !!

“ฉันไม่ยอมโดนไล่ล่าฝ่ายเดียวหรอกน่า !!” ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง พวกมันหันมามองนิดๆก่อนจะกลับไปมองที่ราเชลดั่งเดิม

“เธอจะทำอะไรแอน!!” ราเชลตะโกนถามฉัน โดยที่แขนและขาของเขายังต่อสู้กับพวกมันไม่หยุด เขาจะสู้มันได้หรอมันมีอาวุธนะ !

“ฉันก็จะช่วยนายไง!” ฉันตะโกนตอบก่อนจะหยิบปากกาขนนกสีชมพูในประเป๋าเสื้อ ออกมา

“ฉัน – ไม่ – อภัย – ให้ – แน่ !!” ฉันเน้นพูดทีละคำอย่างสุดเสียงก่อนจะกดที่ปุ่มสีแดงเล็กที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนบนหัวปากกา ก่อนปากกาจะค่อยๆเผยโฉมที่แท้จริงออกมา มันคือปืนปากกาแบบฉบับของซีไอเอนั่นเอง

ฉันคิดว่าจะไม่ได้ใช้มันซะแล้วล่ะ เพราะคอนแรกที่อาให้ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้ก็เลยไม่ค่อยอยากรับเท่าไหร่แต่ก็ต้องจำใจรับมา เอาไงได้ล่ะ ถึงเวลาใช้แล้วนี่ !

ปัง ! ปัง !

เสียงปืนปากกาดังก้องไปทั่วซอย แต่ภายนอกไม่ได้ยินชัดนักเพราะมันเป็นปืนขนาดเล็ก ร่างกายของเหล่าอันธพาลล้มฟุ่บลงไปกองกับพื้นในสภาพบอบช้ำเกินบรรยาย เพราะเกิดจากการต่อสู้ที่โดนอาวุธของตัวเอง สภาพขนาดนี้แม้ไม่โดนปืนปากกาก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้วล่ะ

“นี่เธอ แฮ่ก แฮ่ก ~ พกปืนด้วยหรอ แฮ่ก แฮ่ก~”ราเชลถามฉันอย่างงุนงง ปนเหนื่อยหอบ ฉันส่ายหน้าเบาๆก่อนจะปริปากพูดเพื่อคลายความสงสัย

“ถึงมันจะเป็นปืน แต่มันก็ไม่อันตรายหรอกนะ มันก็แค่ปืนยาสลบ ปืนจริงๆกับปืนชนิดอื่นๆที่อยู่ในมาดปากกาแบบนี้น่ะ ฉันไม่พกติดตัวหรอกนะ ถ้ามันไม่ได้จำเป็น แต่ฉันก็ไม่ประมาทก็เลยพกยาสลบไว้น่ะ นายไม่เป็นอะไรนะ” ฉันอธิบาย พร้อมกับเดินเข้าไปหาราเชลอย่างเป็นห่วง

แต่ไม่หน้าเชื่อว่าการต่อสู้ที่แสนดุเดือดเมื่อกี้ มันทำให้เขามีแค่รอยพกช้ำนิดหน่อย แตกต่างจากอันธพาลสองคนนั้นมาก

และด้วยความเป็นห่วงที่เขาอุตสาห์ปกป้องฉันเป็นก็เลยช่วยพยุงเขาเดินกลับโรงเรียนเพื่อไปทำแผลที่ห้องพยาบาล ส่วนอันธพาลสองคนนั้นน่ะ อาจจะสลบไปซัก 3 ชั่วโมง นี่ดีนะที่ฉันไม่ได้ออกแรงน่ะ

แต่ว่าทำไมหัวใจของฉัน มันเต้นไม่เป็นจังหวะทุกทีที่อยู่ใกล้เขานะ แล้ว..ความรู้สึกที่อยากอยู่ใกล้ๆราเชลแบบนี้ไปตลอดแบบนี้น่ะ มันเรียกว่าอะไรกันนะ...

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #324 เมื่อ: 25-03-2011, 18:34:42 »

แต่งเมื่อคืน บทนี้เน่าชะมัดยาด TT

ปล. แต่งแบบนี้มันจะได้รักกัน laugh

ปลล.ขอจบแบบแฮปปี้ได้ป่ะ  Wink

● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #325 เมื่อ: 25-03-2011, 18:49:39 »

นางบำเรอคืออะไรอ่ะ =_="



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #326 เมื่อ: 25-03-2011, 18:59:54 »

อ้างจาก: ● ρєтсн™ ที่ 25-03-2011, 18:49:39
นางบำเรอคืออะไรอ่ะ =_="

= =;; นางบำเรอเรียกง่ายๆก็คือผู้หญิงของคนๆหนึ่งนั่นแหละ

หรืออีกอย่างคือหญิงสาวที่ต้องคอยปรนนิบัติดูแลบุคคลอ่า - -

GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #327 เมื่อ: 28-03-2011, 16:24:45 »

-33-

 "เฮ้ย!!! ยัยโลวาน่าไปไหน!!!" สาวน้อยนาริกรีดร้องเรียกเพื่อนสาวตัวเองสุดเสียง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้ตัวว่า

เธอกำลังถูกลอยแพให้อยู่กับชายหนุ่ม2ต่อ2 ในโต๊ะอาหารเล็กๆโต๊ะเดียว

"คุณจะโวยวายทำไม ผมแค่นั่งกินข้าวตรงนี้" ชายหนุ่มชินเอ่ยแสกหน้าสาวน้อยที่ทำท่าทีเหมือนร้อนรนสุดขีด

ทำให้เจ้าตัวที่มืดแปดด้านค่อยๆหันมาคว้าจานตัวเองเหมือนจะลุกขึ้น แต่กลับถูกมือของชายหนุ่มคว้าข้อมือของเธอไว้

"ปล่อยชั้น!!!" นาริพยายามสะบัดข้อมือออก โดยที่เธอก็ไม่รู้ตัวว่าทำไมต้องพยายามหลบหน้าจากเขา

"ไม่ปล่อย แล้วจะทำไม คุณกลัวผมจะทำอะไรมิดีมิร้ายคุณรึไง"

"แล้วนายล่ะจะดึงดันให้ชั้นอยู่ทำไมล่ะ! ถ้าเหงาไม่ต้องพูดเลย! ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว!!!" นาริยังไม่หยุดโวยวายดึงดันจะออกไปจากโต๊ะอาหารนี่

ในขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มดูหม่นลงนิดหนึ่ง ก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆลดลง

'ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแหง' ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของสาวน้อยทันที เธอหันซ้ายหันขวาก่อนจะนั่งลงดังเดิม

"ว่ามา มีอะไรกันแน่?" เสียงเรียบของสาวน้อยเปล่งขึ้น ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าก่อนจะเริ่มเอ่ยสนทนาตอบ

"มีเรื่องจะปรึกษา" เขากล่าวเสียงเรียบ ในขณะที่สาวน้อยพยักหน้าตอบ

"เรื่องหนักด้วย ถ้าคุณไม่ช่วยผม ผมตายแน่" น้ำเสียงของเขาดูลนลานขึ้น พลางมือที่เขย่าไหล่ของนาริ

จากลักษณะที่นาริพิจารณาดู ขณะนั้นเขาหยิบแว่นดำกันแดดขึ้นมาใส่ คงจะไม่ใช่แพ้แสงหรืออะไร แต่ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟนคลับแน่ๆ

"แล้วมันอะไรล่ะ?"

ชายหนุ่มหันซ้ายขวาอีกรอบก่อนที่จะทำใจตอบ "เรื่องแฟนคลับ แต่คราวนี้มาแบบหนักหน่วงด้วย"

สาวน้อยนาริไม่ตอบอะไรแต่พยักหน้าแทน ก่อนจะลงมือกินข้าวต่อในท่าที่พร้อมฟังไปด้วย

"ให้เล่าเลยก็คือ เมื่อวานมีแฟนคลับยกโขยงมาหน้าบ้าน แล้วทีนี้ก็มีหัวหน้าแฟนคลับหัวโจกคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็เป็นดาราด้วย..."

"ทำไม?" นาริถามขึ้นเพื่อให้เขาเล่าต่อ ในขณะที่ลงมือกินข้าวต่อ

"เธอ...ขอเป็นแฟนกับผม"

ทันทีที่ประโยคเมื่อครู่ผ่านเข้าหูของสาวน้อย ทำเอาเธอสำลักข้าวในปากทันที ก่อนเธอจะคว้าน้ำข้างมือมาดื่มบรรเทาอาการ

"หา!!! ขอเป็นแฟน!?" สาวน้อยนาริแผดเสียงหลังจากที่ในปากหมดเศษอาหารแล้ว

"จริง แถมตอนมามาในเครื่องแบบยูนิฟอร์มโรงเรียนเราด้วย"

"ตายละ นังแรดที่ไหนเนี่ยบากหน้ามาขอผู้ชายเป็นแฟน" นาริบ่นอุบอิบในลำคอ

"นั่นแหละปัญหา และดูเหมือนเธอจะยืนกรานตื๊อไม่เลิกด้วย ผมเลยอยากให้คุณช่วย" เขากล่าวโดยนัยน์ตาเป็นตัวบ่งบอกทันทีว่ามืดแปดด้านจริงๆ

"ถ้าให้แกล้งเป็นแฟน ชั้นไม่เอานะ" สาวน้อยยื่นคำขาด

ซึ่งในขณะที่ชายหนุ่มนั่งกุมขมับอยู่ นาริพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากตอบ

"โอเค ชั้นจะช่วยนาย"

"จริงนะ? คุณไม่โกหกผมใช่มั้ย!" น้ำเสียงของชายหนุ่มดูสดใสขึ้น ในขณะที่นาริยังเหวอๆอยู่เล็กน้อย

"อ.. เออสิ! ชั้นจะช่วยนาย..."

คำตอบของสาวน้อยตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกอีกครั้ง

"แต่ไม่ใช่เพราะเงินอะไรทั้งนั้น...ชั้น...ชั้น...ชั้นทำไปเพราะเห็นแก่...คนรู้จัก ไม่อยากให้ลำบากอยู่คนเดียว"

คำกล่าวของสาวน้อยทำให้ชายหนุ่มชินรู้สึกประทับใจยิ่งนัก ในขณะที่ใบหน้าใสของนาริเหมือนจะแดงขึ้นเล้กน้อย

ก่อนที่เธอจะหันหน้าล่อกแล่กไปทางอื่น "ย้ำว่า ช่วยเพราะสงสารนะ"

"โอเคครับ ผมเข้าใจ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ"

"แล้วทำไมนายต้องมาหาชั้นล่ะ? คนอื่นไม่มีรึไง" นาริรีบกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่อง

"อืม~ ก็ตอนนี้คนที่สนิทและดูพึ่งพาได้สำหรับผมคือ... คุณมากที่สุด"

น้ำเสียงของชายหนุ่มดูอบอุ่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่รอยยิ้มบนหน้าของทั้ง2ผุดขึ้นอัตโนมัติโดยที่ไม่รู้ตัว

สาวน้อยที่เกิดอาการใจสั่นหันหน้าล่อกแล่กไปทางอื่น ก่อนที่ภวังค์ของทั้ง2จะพังทลายลงเมื่อเสียงแปร๋นหนึ่งดังขึ้น

"อร๊ายยยย!!! นั่นชินยุนนี่นา!!!"

มันคือเสียงที่ชายหนุ่มชินไม่อยากได้ยินที่สุดในตอนนี้ เจ้าของต้นเสียงไม่ใช่ใครนอกจากสตรีผู้ขอเขาเป็นแฟนเมื่อวันก่อน

หน้าของชายหนุ่มค่อยๆหันไปข้างหลัง พบหญิงสาวผู้นั้นพร้อมเหล่าแฟนๆที่ตามหลังมา ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้ทั้งนั้น

 ใบหน้าคมของหญิงสาว ประกอบกับผมสีทองดัดบลอนด์มาอย่างดี ทำให้คนที่เห็นนึกว่าเธอเป็นลูกฝรั่งแถบยุโรปมากกว่าจะเป็นคนเกาหลีด้วยกัน

ริมฝีปากแดงแจ๋จากลิปสติก พร้อมหน้าที่โบ๊ะโดยเครื่องแต่งอย่างเห็นได้ชัด เธอเดินเข้ามาฉุดแขนชายหนุ่มขึ้น

"ชินคะ มาทำอะไรกับยัยทอมนี่ กลับไปหลั่นล้ากับพวกเราและก็ชั้น แพทตี้ เถอะนะคะ" เสียงแปร๋นของเธอ

ทำเอาคนรอบข้าง(ที่ไม่แรดเท่ามัน)ชวนขนลุกไปตามๆกัน

"ใช่คร่า~!" เสียงประสานจากแฟนๆข้างหลังตัวเธอดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

ในขณะที่สาวน้อยนาริยังนั่งอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น "ชินยุนน่ะ ของชั้นย่ะ กะโหลกกะลาอย่างหล่อนน่ะไม่มีปัญญาหรอก"

คำพูดของแพทตี้แสกกลางหน้าของนาริ เธอยิ้มรับก่อนจะคว้าน้ำในมือส าดหน้าสาวแรดที่อยู่ตรงหน้าจังๆ

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!" หล่อนกรีดร้องเยี่ยงโดนสาดน้ำกรด ทั้งๆจริงๆแค่น้ำเปล่า ในขณะที่เครื่องแป้งสำอางบนหน้า

อาทิ มาสคาร่า ทาคิ้ว ค่อยๆไหลเยิ้มเป็นทาง คนที่เดินมาเห็นคงนึกว่าเป็นผีได้ง่ายๆ

"หล่อนส าดใส่ชั้นทำไมยะ!!!" 

นาริลอยหน้าลอยตาก่อนจะตอบกลับ "ส าดไล่วิญญาณแรดชะนีที่มันสิงหล่อนอยู่น่ะสิ รู้ไว้ซะด้วย"

"อ๊ายยยยยยยยยยยย!!!" แพทตี้และเหล่าแฟนๆบริวารกรีดร้องพร้อมกันลั่นโรงอาหาร จนคนรอบข้างอุดหู

"หล่อนนังทอม!!!" ฝ่ามือของแพทตี้ง้างขึ้น แต่มีบริวารคนหนึ่งเอากระจกมาส่องหน้ายั้งไว้ก่อน

"พี่แพทคะ! ตอนนี้หน้าพี่แพทเป็นยังงี้ถ้าเกิดเรื่องยังงี้ ถ้ามีพวกซุบซิบมาถ่ายพี่แพทจะเสียหายนะคะ!"

แน่นอนว่าดาราจำเป็นต้องห่วงหน้าตาเป็นหลักดังนั้น แพทตี้จึงชะงักแล้วรีบคว้าแว่นดำของชายหนุ่มมาใส่ที่หน้าตัวเอง

"ฝากไว้ก่อนนะยะ!!! อย่าหวังว่าบ้านๆอย่างหล่อนจะมาสู้กะซุปตาร์อย่างชั้นได้!!!" สาวแรดชี้หน้านาริอย่างกินเลือดกินเนื้อก่อนที่จะให้สัญญาณลีด

"ทั้งหมด ลากลับ 3..4..! เชิด!!!" ดูเมหือรนว่าจะเป็นคำประจำทีมในขณะที่ทั้งหมดสะบัดผมพร้อมกัน

แล้วหันก้นเดินสับเท้าจากไปอย่างนางงาม(จักรยาน)

"ผู้หญิงอะไร แรดโคตรเลยว่ะ" นาริสบถในลำคอ ชายหนุ่มชินที่มองอยู่ยิ้มขึ้นก่อนจะจับมือเธออีกครั้ง

"ขอบคุณเธออีกรอบนะที่ช่วยชั้น ไม่งั้นเมือ่กี้คงโดนลากไปแล้ว"

คำกล่าวขอบคุรของชายหนุ่ม ทำให้ใจสาวน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง เธอสะบัดหน้าไปมาแล้วผงะมือออก

"ไม่เป็นไร แค่ส าดน้ำใส่หน้ามัน ก็เท่านั้น..." สายตาคู่งามใสของเธอเบนไปทางอื่น ซึ่งไปตรงกับที่นาฬิกาเรือนใหญ่บนกำแพงโรงอาหาร

"เห้ย!!! จะหมดเวลาพักแล้ว ชั้นไปก่อนล่ะ!!!"

นาริกล่าวอย่างลนลานก่อนจะเก็บจานวิ่งออกไป ชายหนุ่มที่มองตามยิ้มกรุ่มกริ่มออกมาอย่างไม่รู้ตัว...


 ตกเย็น

 "ว่าไงนะ? คืนดีกันแล้วเหรอ?" เสียงใสของนาริดังึข้น ขณะที่เธอเดินคุยกับเพื่อนสาวในเวลาหลังเลิกเรียนอยู่

เพื่อนสาวโลวาน่าพยักหน้าตอบ "จริง ขอบใจแกมากที่ช่วยผลักชั้นให้กล้าไปเคลียร์กะพี่น่ะ"

"ไม่เป็นไร เล็กน้อยเพื่อนกันๆ" นาริกล่าวตอบอย่างสบายอารมณ์ แต่ฉุกคิดเรื่องเมื่อตอนกลางวันได้

"เพราะแกคนเดียว ชั้นเลยต้องอยู่กะนายนั่น" เธอบ่นอุบอิบ ในขณะที่เพื่อนสาวหัวเราะเจื่อนๆแล้วตบบ่า

"ดีไม่ใช่เหรอ~" น้ำเสียงของโลวาน่าดูยียวนมาก

"บ้า เกิดเรื่องน่ะสิ นายชินนั่นเขามาขอความช่วยเหลือชั้น..."

 นาริค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้โลวาน่าร้องอ๋อเข้าใจทันที "แพทตี้ หรือ ปาร์คพูตง ดาราเกาหลีนั่นอ่ะนะ"

"เออ ยัยนั่นแหละ ไม่อยากเชื่อเธอจะตามนายชินนั่นมาด้วย" นาริบ่นน้ำเสียงกระปอดกระแปด

"ในข่าววงการเห็นเกาเหลากันมานานแล้ว ว่ายัยนี่ตามตื๊อคีชินยุนแฟ.. เอ้ย คนรู้จัก... เออ คนรู้จักแกน่ะ" โลวาน่าพอจะตีความออกเพราะเคยได้
ยินข่าวคราวมาบ้าง

"แล้วนายนั่นก็โยนภาระให้ชั้น ปวดหัวจริงๆ"

โลวาน่ามองท่าทีเพื่อนสาวตนที่แปลกๆไป "รู้ว่าเหนื่อย แต่ก็เต็มใจรับไม่ใช่เรอะ? หึๆ"

"หา?"

"แบบนี้เขาเรียกว่ามีใจให้... อุ๊บ ไม่บอกดีกว่า~" ว่าแล้วโลวาน่าก็รีบวิ่งหนีไปทันที ปล่อยให้นาริยืนเอ๋อตีความอยู่ตรงนั้น

"ห...เห้ย!!! ยัยบ้าโลวาน่า! ชั้นกับนายนั่นไมได้เป็นอะไรกันซักหน่อย!!!"

ถึงปากเธอจะพูดเช่นนี้ แต่เมื่อพูดถึงเขาก็ทำให้เธอหน้าแดงใจเต้นรัวขึ้นมาได้ พร้อมรอยยิ้มแห่งความสุขที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน...



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #328 เมื่อ: 28-03-2011, 16:32:56 »

เค้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นนะตัววว ~ =3=

//me วิ่งหนีแล้วกลับมาตั้งหลัก

อร๊ายยย สุดยอดมากคร่ะ ! วิญญาณสัตว์ป่าหายากเข้าสิงนังแพทตี้ กร๊ากกกกกกกกกกกก



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #329 เมื่อ: 30-03-2011, 12:55:13 »

เมือ่ไหร่ยูกิจะมาต่อเทิร์นสไปซ์

นานละนะ-*-



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
ป้าย:
หน้า: 1 ... 20 21 [22] 23 24 ... 32