GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 32
ผู้เขียน หัวข้อ: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]  (อ่าน 4503 ครั้ง)
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #240 เมื่อ: 14-03-2011, 14:13:36 »

อ้างจาก: ● ρєтсн™ ที่ 14-03-2011, 14:13:07
อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 14-03-2011, 14:04:25
หวังว่าถ้ามันพูดไทยได้แล้ว
คงไม่เกิดโรคแทรกซ้อนหน้า+ปากอัมพาตนะ เซงแนวีน้มามาก Evil

มันเป็นยังไงอ่ะ โรคแทรกซ้อนหน้า + ปากอัมพาต = =
นิสัยพระเอกที่พวกหล่อนชอบกรอก- -



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #241 เมื่อ: 14-03-2011, 14:19:16 »

อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 14-03-2011, 14:13:36
อ้างจาก: ● ρєтсн™ ที่ 14-03-2011, 14:13:07
อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 14-03-2011, 14:04:25
หวังว่าถ้ามันพูดไทยได้แล้ว
คงไม่เกิดโรคแทรกซ้อนหน้า+ปากอัมพาตนะ เซงแนวีน้มามาก Evil

มันเป็นยังไงอ่ะ โรคแทรกซ้อนหน้า + ปากอัมพาต = =
นิสัยพระเอกที่พวกหล่อนชอบกรอก- -

เย็นชาหรอ =w=

ไม่รู้ไม่บอก ~ แต่ไม่ใช่แบบนั้นหรอก = = ยังห่างไกลกับคำนั้นหลังจากที่มันพูดได้

คิดไว้ตั้งแต่ตอนแรก ๆ แล้ว แต่ไม่ได้กรอกใส่แบบสมัครของพระเอก



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #242 เมื่อ: 14-03-2011, 15:24:56 »

อ๊า..ถึงตาเค้าแล้ว >w<

เดี๋ยวไปพิมพ์ก่อน=w=



一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #243 เมื่อ: 14-03-2011, 16:04:16 »

-17-

การมีเพื่อนคือสิ่งที่น่าเบื่อ เพราะทุกคนจะสวมหน้ากากเดินเข้าหากันเอง  แต่ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่พริบตาเดียว ฉันจะมีเพื่อนสาวคนหนึ่งได้

เธอชื่อ อึมฮโยจอง หรือ นาริ  เป็นคนที่ใจดีและเป็นธรรมชาติมากๆ  หลังจากที่ขากลับมาหอ มีพวกนักเลงชายมันล้อมตัวฉันทำท่าว่าจะจับตัว  แต่มันมีไม่กี่สิบคน ทำเอาฉันจัดการได้อย่างสบายๆ

แต่ว่านารินั้นเป็นคนที่วิ่งเข้ามาช่วยฉันทำให้ผ่อนแรงลงไปได้เยอะเลย  เธอเป็นคนเก่ง แถมยังมีพละกำลังเยอะอีกต่างหาก หลังจากที่พวกเราทั้งสองส่งบทเรียนให้มันเสร็จ  นาริกับฉันก็พูดคุยกันอย่างถูกคอ ทำเอาฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เคยมีเพื่อนสนิทและดูจริงใจแบบนี้

ฉันจำได้ว่าฉันเคยเจอนาริที่โรงอาหารและกินข้าวโต๊ะเดียวกัน  ตอนแรกก็รู้สึกเกร็งๆเมื่อเจอเธอ แต่พอได้มาพูดคุยความรู้สึกนั้นก็มลายหายไปหมด สุดท้ายแล้ว เราก็แยกย้ายกันเมื่อมาถึงหอพัก

ฉันเอื้อมมือไปเปิดประตู กวาดสายตาไปรอบห้องก็ไม่พบใคร  ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้นมาจากห้องน้ำ  ในจังหวะนั้น  ฉันจึงเดินไปยังโต๊ะหนังสือ  เปิดตู้ลิ้นชัก ก่อนจะไปสะดุดตาภาพหนึ่งที่ไม่ได้หยิบมาด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของพี่ชาย

ภาพนั้น..ฉันที่ยืนถืออมยิ้มกับพี่อยู่ตอนสมัยยังเด็กๆ..ก่อนที่พวกเราจะมีอะไรกัน เห็นภาพนี้ก็อดที่จะหัวเราะเบาๆไม่ได้ มันช่างดูมีความสุขจริงๆนะ

แต่แล้วก็ต้องรีบปิดลิ้นชักและเก็บรูป  เมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบลง  ก่อนจะทำท่ากลบเกลื่อนด้วยการวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูมาเตรียมอาบน้ำ

"อ้าว? กลับมาแล้วหรอ"คำแรกที่พี่เอ่ยปากถามมันทำให้ฉันรู้สึกตะหงิดๆ

"ยังไม่กลับ"ฉันตอบกวนประสาทกลับไป ก่อนจะก้าวขาเดินเข้าห้องน้ำ  แต่เมื่อถึงหน้าประตูห้องน้ำ มือเย็นๆของพี่ก็ดึงแขนฉันไว้ก่อน

"ไปมีเรื่องกับใครมา ?"

"ปะ..เปล่านี่.."พี่รู้ได้ไง!  หรือว่า..ที่แขนฉันจะมีแผล.. ? โอยตายแล้ว! ฉันยิ่งเป็นคนไม่ค่อยรู้สึกเจ็บอะไรด้วยก็เลยไม่รู้เรื่องรู้ราวเวลามีแผล ต้องกลับมาให้พี่ทำให้ทุกที

"เธอโกหก  ที่แขนเธอมีแผล"โป๊ะเชะ !!  ฉันเดาไม่ผิดจริงๆเลย 

"หกล้มน่ะ"ฉันพยามดึงแขนกลับเข้าหาตัวเอง แต่พี่กลับจับเอาไว้แน่นจนดึงไม่ออก

"โกหกอีกแล้ว  เธอน่ะมีเรื่องกับคนอื่นบ่อยๆเพราะหน้านิ่งและไม่แสดงความรู้สึกจนคนอื่นนึกว่าดูถูกใช่มั้ย?"

ผิดมหันต์อย่างแรงเลยแหละ  ฉันไปมีเรื่องกับไอ่พวกรุ่นพี่ตัณหากลับต่างหากล่ะ

"อืม"ฉันตอบบิดเบือน ก่อนจะหันไปมอง

"ฉันขอไปอาบน้ำได้ยัง ?"

"ยัง  เธอต้องทำแผลก่อน"ว่าแล้วพี่ชายก็ลากฉันไปนั่งลงบนเตียง ก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาแล้วทำแผลที่แขนให้ฉัน  จนฉันเผลอแอบมองและเหม่อไปชั่วขณะ

"เสร็จแล้ว"หลุกจาภวังค์ทันทีที่เสียงของพี่ชายดังขึ้น  ฉันยักไหล่เชิงว่าขอบคุณก่อนจะผละออกมาเดินเข้าห้องน้ำไป   พร้อมเสียงน้ำที่ดังออกมาจากห้องน้ำเบาๆ..

วันต่อมา

12.30 น.

"เฮ้ย น้อง พี่ขอก่อนนะ"จู่ๆมีรุ่นพี่เป็นสิบมาแทรกแถวซื้ออาหารของฉัน พลอยทำให้ฉันเผลอถอยหลังไปชนนาริด้วย ฉันรีบหันไปมองก่อนจะช่วยนาริที่ล้มลงไปกองกับพื้นให้ลุกขึ้น

"ไม่เป็นไรนะ ?"

"จ้ะ"เธอตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้  ก่อนฉันจะหันไปมองพวกรุ่นพี่อย่างหาเรื่อง

"ให้มันน้อยๆหน่อยพี่  พวกฉันมาเข้าตั้งนาน  พวกพี่เป็นใครใหญ่มาจากไหน ฮะ!!"

"โห..น้อง เห็นอย่างงี้พี่..!!"

เมื่อพวกรุ่นพี่พวกนั้นหันหน้ามา ทำเอาฉันกับนาริอึ้งไปทันที  เพราะรุ่นพี่พวกนี้คือพวกที่พยามจะทำร้ายฉันกับนาริเมื่อวานแต่ก็โดนฉันกับนาริเล่นงานกลับไป

"เฮ้ย! นี่ยังไม่เข็ดหลาบอีกรึไง"ฉันตะโกนใส่หน้าพี่เขาทันทีทำเอาคนในบริเวณข้างๆเผลอหันมามองนิดหน่อย

"อะ..เอ่อ..ไปเว้ย!"ว่าแล้ว  รุ่นพี่พวกนั้นก็เดินหนีหายไปทันที  ทำเอาฉันหันไปมองนาริ

"ไม่ไหวจริงๆเลยนะคนสมัยนี้ เนอะ ?"

"จ้ะ สั่งข้าวเถอะ"เธอบอกพลางยิ้มให้  ฉันพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปสั่งข้าวต่อ

สุดท้ายแล้ว  เมื่อสั่งเสร็จ  ฉันกับนาริก็ต้องมาเดินหาที่นั่งต่อ  แต่ก็เต็มไปหมด

"เฮ้อ..ที่นั่งเต็มอีกแล้วน่ะนาริ  ทำไงดี ทำไมผ.อ.ไม่ยอมขยายเนื้อที่ซะทีนะ.."ฉันบ่นอุบกับนาริ  แต่เธอกลับยิ้มสดใสแล้วหันมามองฉัน

"เราคงต้องนั่งร่วมกับคนอื่นแล้วล่ะจ้ะ"จู่ๆนาริก็เดินนำไปทำเอาฉันเดินตามไปแทบไม่ทัน  เธอมาหยุดที่โต๊ะโต๊ะหนึ่งที่มีรุ่นน้องสองคนนั่งอยู่  ผู้หญิงคนหนึ่ง  เธอมีผมยาวสีชมพูอ่อนสวมหมวกสีขาวกับผู้หญิงอีกคนที่ผยาวสีชมพูเข้ม มัดผมทรงทวิลเทลกำลังนั่งทานข้าวด้วยกันอยู่

"อะ..เอ่อ..พวกพี่สองคนขอนั่งด้วยได้มั้ย ?"นาริส่งเสียงถาม  ทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า

"ได้ค่ะ เชิญเลย"เด็กสาวผมยาวสีชมพูอ่อนที่สวมหมวกบอก  พวกเราทั้ง 4 ทานข้าวด้วยกัน ฉันต่างพูดกับนาริ  รุ่นน้องทั้งสองก็ต่างพูดด้วยกัน  แต่จู่ๆ  เด็กสาวผมยาวสีชมพูเข้มมัดทรงทวิลเทลก็เอ่ยขึ้นมา

"เอ่อ..ยังไงก็ ..ขอทราบชื่อรุ่นพี่ทั้งสองคนได้ไหมคะ..ถ้าไม่เป็นการรบกวน.."

"อ่า..ไม่จ้ะ ฉันชื่อโลวาน่านะ..ส่วนนี่เพื่อนฉันชื่อนาริ"ฉันเอ่ยทักทาย นาริที่กำลังคาบเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่จึงพยามเคี้ยวแล้วพยักหน้าไปด้วยเป็นเชิงว่าใช่

"ค่ะ..ส่วนฉันชื่ออาเรียนะคะ..นี่เพื่อนฉันชื่อแอนโทเนีย"

"ไม่ต้องพูดคะขาหรอกจ้า  กันเองๆ"นาริดูเป็นคนสบายใจสุดๆและเป็นกันเองทำเอาพวกเรา 4 คนพลอยยิ้มไปด้วย

แต่แล้ว  เสียงออดก็ดังว่าหมดเวลาพักเที่ยงทั้งๆที่ฉันเหลืออีกนิดหน่อยก็กินข้าวหมด  ทำให้ฉันกับนาริต้องแยกย้ายกับแอนโทเนียและอาเรียไป เพื่อไปเรียนวิชาต่อไป.. 



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #244 เมื่อ: 14-03-2011, 16:49:38 »

เชื่อมเจอกันแล้ว4ตัวแระ
รอแนทมาแต่งต่อ Evil



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #245 เมื่อ: 14-03-2011, 21:48:15 »

- - วันเดียว

ขอเวลาแปปนึงนะคะ เพิ่งได้เล่นอ่ะ = =;

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #246 เมื่อ: 15-03-2011, 20:40:38 »

[.-_18_-.]

จากคำที่ว่า มิตรภาพไม่จำกัดรุ่น ไม่จำกัดสถานะภาพหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เหมือนกับมิตรภาพใหม่ๆที่แอนโทเนียได้พบในวันนี้

ในเวลาเที่ยงวัน แอนโทเนียและอาเรีย ได้พบกับมิตรภาพใหม่เพิ่มขึ้นอีกสอง คือโลวาน่าและนารี

ทั้งสองคนคือเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นกันเองและดูเป็นคนดีไม่มีพิษสงอะไร  พวกเขาทั้งสี่คนทำความรู้จักกันได้ภายในเวลาอันรวดเร็วกระชั้นชิด

ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆแต่มันก็มีความหมาย...

เวลา 16.23 น.

“นักเรียนทุกคนทำความเคารพ”

“ขอบพระคุณค่ะ/ครับอาจารย์”


หลังจากแอนโทเนียสั่งทำความเคารพหลังเลิกชั่วโมงสุดท้ายที่อาจารย์สอนเลยเวลามานิดหน่อย(?) เหล่านักเรียนทั้งหลายก็กรูกันออกนอกห้องไม่เว้นว่าง คงเป็นเพราะต้องนั่งฟังอาจารย์สอนเกินชั่วโมงเรียนกระมัง

ในตอนนี้เหลือบุคคลเพียงสามคนเท่านั้นที่ยังอยู่ในห้องเรียน คือ อาจารย์มิกกี้ อาเรียและแอนโทเนีย..


“อาจารย์มีอะไรให้ช่วยรือเปล่าคะ..” เสียงแรกที่เปล่งเสียงออกมาดับความเงียบในห้องคือเสียงของแอนโทเนีย เธอพูดด้วยว่าจาที่สุภาพ แต่สำเนียงยังเพี้ยนอยู่นิดหน่อย

“มีสิจ๊ะ ถ้าอยากช่วยอาจารย์ก็สงเคราะห์ให้~” อาจารย์มิกกี้พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก ก่อนจะลงมือจัดเก็บเอกสารต่างๆบนโต๊ะอาจารย์ ให้เรียบร้อย  เมื่อเรียบร้อยแล้วก็มีผลปรากฎออกมาคือหนังสือเล่มหนาหลายสิบเล่มวางเรียงกันเป็นชั้นๆกองอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน

“นี่ไงจ๊ะงานที่อาจารย์จะให้..” อาจารย์มิกกี้พูดพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี สื่อให้ทั้งสองรับรู้ได้โดยฉับพลันว่า ‘ต้องเอากองหนังสือนี่ไป’

ทันทีที่รู้หน้าที่ แทนโทเนียและอาเรียก็ช่วยกันถือ(แบก)กองหนังสือกองโตคนละกอง เพื่อนำไปไว้ที่ห้องพักครูที่อาคารสอง ซึ่งห่างจากตึกเรียนไม่ไกลนัก

“เหนื่อยอ่า~” อาเรียบ่นอุบอิบทันทีที่วางกองหนังสือลงบนโต๊ะของอาจารย์มิกกี้เรียบร้อย

“ไม่หน้าของานเลยอ่ะ..” แอนโทเนียพูดพลางเช็ดเหงื่อตามใบหน้าของตน ที่เกิดจากการยกหนังสือกองโต

“แอน เค้าขอตัวก่อนนะ พอดีว่าต้องรีบไปเป็นครูสอนภาษาให้เด็ก(?)นิดหน่อยนะจ้ะ” อาเรียพูดขึ้นหลังจากเงียบมานานเพราะพักเหนื่อย ก่อนแอนโทเนียจะพยักหน้าให้ แล้วอาเรียก็เดินออกจากห้องพักครูไป

เมื่ออาเรียเดินออกไปแอนโทเนียก็รู้ตัวเลยว่า เขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ตามลำพัง เธอจึงรีบเดินออกจากห้องพักครูเพื่อกลับไปที่หอเช่นกัน


“สวัสดี..แอนนี่~” เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่แอนโทเนียกำลังเดินอยู่ในบริเวณลานกว้าง เสียงนี้เป็นเสียงเย็น เหมือนเสียงของผู้ชาย และทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้นก็ทำให้เธอรู้เลยว่า เสียงนั้นเป็นของใคร..?

ร่างของชายหนุ่มผมกระเซิงสีม่วงดำ มีนัยน์ตาสีม่วงอ่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าของแอนโทเนีย เขาแต่งกายด้วยชุดลำลองแขนสั้นสีดำ กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ ในมือถือตุ๊กตากระต่ายสีขาวตัวเล็กที่แสนน่ารักไว้ในมือ

“ชอบไม่ใช่หรอ..แอน” จองซอลปริปากขึ้นทันทีที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจจากแอนโทเนียมาได้ ในตอนนี้ดวงตากลมโตเป็นประกายสีบานเย็นของเธอ กำลังจดจ้องไปที่ตุ๊กตากระต่ายน้อยที่แสนน่ารักในมือของจองซอล

“ฉันให้...” จองซอลพูด ก่อนจะยื่นตุ๊กตากระต่ายน้อยมาให้แอนโทเนีย ในตอนนี้แอนโทเนียกำลังตกอยู่ในสภาวะมึนงง ทำอะไรไม่ถูก ก่อนเธอจะตั้งสติได้

“นายมีแผนอะไรของนายกันแน่..” แอนถามจองซอลออกไปตรงๆ เพราะเธอรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างในใจ

“แผน? แผนอะไรกัน ฉันไม่มีแผนอะไรซักหน่อยนี่ เธอคิดมากไปเองหรือเปล่า” จองซอลเอ่ยปากออกมาอย่างเรียบๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ฉันไม่เชื่อ ฉันเจอนายวันแรกก็รู้ทันทีว่านายเป็นคนยังไง วันนี้จะมาทำดีกับฉันเนี่ย มันต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่~!” แอนพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาจริงเอาจัง ปนโมโหเล็กน้อย เพราะเธอ ไม่ชอบการกระทำของหมอนี่เอาซะเลย

“เหอะ เธอนี่มันเอาใจยากจริงๆเลยน๊า ฉันอุตสาห์ฝืนทำความดีด้วยแล้วนะ เธอมันแสบได้ใจจริงๆแอน”

“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน คนอย่างนายน่ะ มันดีแต่ปากรึไงห๊ะ~!!”

“โอโห~ ฉันประเมินเธอผิดไปจริงๆเลยนะแอน เห็นไร้เดียงสาแบบนี้เนี่ย ร้ายไม่เบานะ หึหึ” จองซอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสนใจแอนโทเนียมากขึ้น

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” แอนโทเนียถามขึ้นแบบเรียบๆ แต่แฝงด้วยความนัยไม่แพ้กัน

“ไม่เกี่ยวหรอก ฉันแค่อยากหาอะไรสนุกๆทำเล่นๆเท่านั้นเอง ตุ๊กตานี่น่ะ ฉันอุตสาห์ตั้งใจว่าจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเธอเลยนะ แต่ก็ช่างเถอะถ้าเธอไม่ต้องการมัน ฉันก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม” จองซอลกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ ต่างจากเมื่อกี้ พลางทำท่าจะขว้างตุ๊กตากระต่ายให้หายลับตาไป

“หยุดก่อน~!” สิ้นเสียงของแอนโทเนีย ทำให้จองซอลหยุดอยู่ในท่าที่กำลังจะปล่อยตุ๊กตากระต่ายออกไปพอดี จองซอลเห็นกระนั้นจึงกลับมายืนแบบปกติ

“นายรู้ได้ยังไง ว่าวันนี้...วันเกิดฉัน”แอนโทเนียพูดด้วยเสียงอ่อนๆ ปนแปลกใจ เพราะเธอจำได้ว่าตอนเจอกับจองซอลครั้งแรกเธอไม่ได้บอกวันเกิดกับเขา แต่เขากับรู้ว่า วันที่ 10 พฤษภาคม นี้ คือวันเกิดครบรอบอายุ 16 ปีของเธอ

“ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเธอ...”จองซอลพูดออกมาเบาๆ ซึ่งมันสร้างความแปลกใจให้กับเธอได้ไม่น้อย

“นายทำแบบนี้ทำไมฉันไม่รู้นะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ารู้อะไรเกี่ยวกับฉันอีกบ้าง แต่ฉันยังไม่ไว้ใจนาย แต่ไงไงก็ขอบคุณละกัน ที่อุตสาห์ซื้อของขวัญมาให้” สิ้นเสียงของแอนโทเนียไม่นาน จองซอลก็เอาตุ๊กตากระต่ายใส่มือของเธอโดยทันที

“ฉันแค่..อยากมีเพื่อนน่ะ” น้ำเสียงของจองซอลดูซึมเศร้าเพราะเขาพูดออกมาจากใจ เห็นอย่างนี้ใครจะรู้ล่ะ ว่าคนอย่างเขา ไม่มีเพื่อนผู้หญิงที่เข้าใจเขาเลยซักคน เพราะโดยส่วนมากจะมีแต่คนที่ชื่นชอบเขาเพราะรูปลักษณ์มากกว่า

“เฮ้อ~ น่าแปลกนะที่นายไม่มีเพื่อนน่ะ ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวชั้นจะช่วยเป็นเพื่อนให้นายคนนึงละกันนะ” แอนโทเนียพูดพลางฉีกยิ้มเล็กน้อย

“ฉันแอนโทเนีย...แอนโทเนีย ปามมิรี่ อยู่ม.4/2 ยินดีที่ได้รู้จัก” แอนโทเนียกล่าวแนะนำตัว ก่อนจะยื่นมือ ออกไปตรงหน้า

“ฉันปาร์ค จองซอล หรือราเชล ม.5/3 ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะ” จองซอลหรือราเชลแนะนำตัวอีกคนก่อนจะยื่นมือไปประกบกับมือของแอนโทเนีย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการทำความรู้จักกันอย่างดี

“อืม~ ตอนนี้ฉันขอตัวก่อนละกันนะ พอดีฉันต้องไปอ่านหนังสือต่อน่ะ” แอนโทเนียพูดขึ้นทันทีหลังจากปล่อยมือ ออกจากกันแล้ว

“ถ้างั้น...เชิญครับ” ราเชลกล่าวอย่างสุภาพ ก่อนจะหลีกทางให้แอนโทเนียไปอย่างโดยดี

แอนโทเนียเดินหน้าต่อเพื่อกลับไปที่หอพัก โดยทิ้งให้ราเชลยืนยิ้มอยู่คนเดียวท่ามกลางความเงียบสงบของยามเย็น...

Ra~ Ra~ Ra~ O RaRa We Love~

เสียงริงโทนโทรศัพท์ของแอนโทเนียดังขึ้นได้ถูกเวลา เพราะทันดังขึ้นขณะที่เธอกำลังเดินเข้ามาในห้องพอดี

“รอแปปนึงนะคะ” แอนโอเนียพูด ก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มือถือ ไอโฟนสี่ สีชมพูอ่อนที่วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องนั่งเล่นในหอพัก

Ra~Ra~ ตู๊ด~!

“ฮัลโหล แอนพูดค่ะ”

[Happy Birth Day จ๊ะ แอนโทเนีย ขอให้มีความสุขมากๆนะลูก] เสียงแรกที่ดังออกมาจากโทรศัพท์คือเสียงของลิลลิซ่า มารดาของแอนโทเนีย

“ขอบคุณค่ะมี้ แอนนึกว่ามี้จะยุ่งกับงานจนลืมวันเกิดหนูซะอีก”

[แหม วันเกิดลูกรักซะทีมี้ไม่ลืมหรอกจ๊ะ อ่ะ แดดท์มาพอดี เดี๋ยวแอนคุยกันแดดท์นะลูก]

“ค่ะมี้”

[สุขสันวันเกิด แอนโทเนีย อยู่นู่นเป็นไงบ้างล่ะ สบายดีมั้ย เพื่อนเยอะรึเปล่า]

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะแดดท์ แอนสบายดีค่ะ เพื่อนก็เริ่มเจอบ้างแล้วค่ะ”

[อืม...แดดท์เห็นลูกสบายดีแดดท์ก็ดีใจแล้วล่ะ ตอนนี้แดดท์กับมี้ส่งของขวัญพร้อมกับโอนเงินไปให้ลูกแล้วนะ ถ้าลูกเดือดร้อนเรื่องเงินเมื่อไหร่ก็ไปกดมาใช้ได้เลย ส่วนของขวัญพ่อคิดว่าสองสามวันคงถึงนะ]

“ขอบคุณสำหรับความเมตตาค่ะแดดท์ ความจริงไม่ต้องก็ได้นะคะเพราะแอนไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว...ตอนนี้ก็ดึกแล้ว แอนไปนอนนะคะแดดท์ ฝันดีค่ะ แอนรักแดดท์นะคะ”

[รักลูกจ๊ะ]


ตอนนี้เธอได้เพื่อนมาอีกนึ่งคนในวันอันแสนสุข วันพรุ่งนี้จะมีอะไรเซอร์ไพร์เธออีกมั้ยนะ...

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #247 เมื่อ: 15-03-2011, 23:06:51 »

อร๊ายยย แนทมาอัพแล้ว  รัก

แต่ว่าขอเตือนอะไรนิดหน่อยเน้อ ตรงไอ่ตัว "~" อ่ะ มันจะดูไม่เหมาะกับคำพูดของแนทเท่าไหร่ ที่พูดว่า

“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน คนอย่างนายน่ะ มันดีแต่ปากรึไงห๊ะ~!!”

ควรตัด "~" ออกนะ เพราะว่ามันจะเหมือนแอนโทเนียลากเสียงยาวววว แล้วลองคิดดูสิ..ห๊ะ ~ จะกลายเป็น ฮ้า ~

เพราะฉะนั้นควรตัดออก จะเหลือแต่อัศเจรีย์ แล้วมันจะดูเหมือนการกระแทกเสียงประชดประชันมากกว่า

ส่วนไอ่ตรง "~" อ่ะ ควรใช้สำหรับเวลาตัวละครอารม์ดี เช่น "ลั้ลลา ~" แบบนี้เป็นต้นเน้อ

รอคนต่อไป ๆ >w<



●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #248 เมื่อ: 15-03-2011, 23:16:28 »

อ้างจาก: 一番の宝物 ที่ 15-03-2011, 23:06:51
อร๊ายยย แนทมาอัพแล้ว  รัก

แต่ว่าขอเตือนอะไรนิดหน่อยเน้อ ตรงไอ่ตัว "~" อ่ะ มันจะดูไม่เหมาะกับคำพูดของแนทเท่าไหร่ ที่พูดว่า

“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน คนอย่างนายน่ะ มันดีแต่ปากรึไงห๊ะ~!!”

ควรตัด "~" ออกนะ เพราะว่ามันจะเหมือนแอนโทเนียลากเสียงยาวววว แล้วลองคิดดูสิ..ห๊ะ ~ จะกลายเป็น ฮ้า ~

เพราะฉะนั้นควรตัดออก จะเหลือแต่อัศเจรีย์ แล้วมันจะดูเหมือนการกระแทกเสียงประชดประชันมากกว่า

ส่วนไอ่ตรง "~" อ่ะ ควรใช้สำหรับเวลาตัวละครอารม์ดี เช่น "ลั้ลลา ~" แบบนี้เป็นต้นเน้อ

รอคนต่อไป ๆ >w<

อ่ะค่ะ รับทราบเลย พอดีว่ามันชิน - -

GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #249 เมื่อ: 15-03-2011, 23:25:55 »

แนทเคอะ

ตัวนางชั้นไม่ได้อยู่ไทยนะ...

นาริ กลายเป็น นารี

หมายก็อด!!! ชื่อโคตรไทยแท้เลยนะนั่น=[]=!!!



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #250 เมื่อ: 15-03-2011, 23:49:24 »

อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 15-03-2011, 23:25:55
แนทเคอะ

ตัวนางชั้นไม่ได้อยู่ไทยนะ...

นาริ กลายเป็น นารี

หมายก็อด!!! ชื่อโคตรไทยแท้เลยนะนั่น=[]=!!!

ขอโต๊ด T^T พิมพ์พลาดไปหน่อย Evil

GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #251 เมื่อ: 16-03-2011, 10:31:19 »

-19-

 1วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าสาวน้อยนาริจะได้เพื่อนสนิทมาอีก3แม้จะเป็นรุ่นน้องก็ตามที ฃฃ

ถ้ากล่าวถึงเพื่อนที่สนิทที่สุดก็น่าจะเป็นเพื่อนวัยเดียวกันน่ะแหละ เพราะได้อยู่ด้วยกันมากกว่าแม้กระทั่งเวลาเรียน

คือ โลวาน่า เพื่อนสาวของเธอที่ภายนอกเหมือนดูจะเป็นคนเย็นชา แต่ถ้ารู้จักแล้วก็เป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ

ยกเว้นเสียแต่ถ้าเกิดเรื่อง เธอจะแสดงความกล้าหาญที่ผิดกับรุปร่างลักษณะของเธอขึ้นมาได้ทันที

ไม่ใช่แค่นั้นทว่าศิลปะการต่อสู้ ที่น่าจะเป็นสายเตะของเธอก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าใครๆด้วย

จนถึงขั้นที่เจ้าพวกอันธพาลเห็นหน้าแล้วต้องหนีจ๋อยไปตามๆกัน นึกแล้วก็อดขำไม่ได้ที่อันธพาลตัวตั้งใหญ่ยักษ์นับ10

แต่กลับแพ้ผู้หญิงร่างบางตัวเล็กๆ2คนอย่างน่าอนาถา

 หลังจากที่เธอโบกมือลาให้โลวาน่าเสร็จก็แยกย้ายไปจัดการธุระส่วนตัวที่ห้อง (อาทิ การบ้าน) จากนั้นจึงเตรียมตัวไปทำงานที่ร้านดอกไม้


"ฮัลโหล ว่าไงคะ?" เสียงตอบรับเรียบๆของสาวน้อยผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อสื่อสารกับคนๆหนึ่ง

"ป้าเองจ้ะ อยู่ที่นั่นเป็นไงมั่ง ย่าเธอฝากถามมาพร้อมกับที่ชั้นจะถามแน่ะ" มิใช่ใครนอกจากป้าเจ้าของร้านดอกไม้นั่นเอง

"ก็สบายดีค่ะ ที่ร้านก็มีพนักงานหญิงอีก2-3คนผลัดเวรกันดูแล หนูก็จะมาช่วยหลังแถวๆ6โมงถึง2ทุ่มครึ่งค่ะ"

"หาสมาชิกใหม่ได้รึยัง หึๆ" น้ำเสียงของนางดูเหมือนจะแซวเล่น

"ได้ค่ะ กำลังจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดี ชื่อชุง คีชิน... อะไรประมาณเนี้ยแหละค่ะ" นาริตอบไปอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อต้องพูดถึงชายหนุ่มคนนั้น

"หา...? ชุง คีชิน..."

"หนูคิดว่าหนูรายงานเรียบร้อยแล้วนะคะ ค่าโทรทางไกลัมนแพง ถ้ามีอะไรจะโทรมาบอกค่ะ บายค่ะ"

ไม่ทันที่ป้าเจ้าของร้านจะพูดต่อจบ สาวน้อยนาริก็ตัดสายไปเสียแล้ว

"เอ้อ มาไวไปเร็ว เด็กสมัยนี้" นางรำพึงอย่างอดไม่ได้

"ชุง...คีชิน... ใครวะ? ทำไมชื่อมันคุ้นๆ ช่างมันเหอะ ทำงานต่อดีกว่า" ว่าแล้วป้าเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปจัดการงานในร้านต่อทันที


 วันรุ่งขึ้น

เวลา 6.30น. อากาศยามเช้าที่รอบๆโรงเรียนช่างแสนบริสุทธิ์ ต่างกับข้างนอกที่เป็นตัวเมืองยิ่งนัก

หลังจากที่สาวน้อยนาริเดินทางไปเปิดร้านตอนตี5ครึ่ง เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วจึงเดินทางกลับมาเข้าห้องเรียนเป็นกิจวัตร

เหล่านักเรียนที่ตื่นเช้าและจัดการธุระเสร็จแล้ว บางส่วนก็มาทานอาหารเช้าที่โรงอาหาร บ้างก็หาของตุนในห้องกินไปแล้วตอนตื่นนอน

 "หวัดดีจ้ะ" สาวรน้อยนารินั่งลงพลางวางกระเป๋าที่โต๊ะข้างๆเพื่อนสาวของเธอพร้อมกล่าวทักทาย

" 'ดีจ้ะ กินข้าวยัง?" เพื่อนสาวโลวาน่าของเธอถามตามเหตุปกติ

"กินแล้ว พอดีชั้นซื้อแซนด์วิชมาตุนไว้ในห้องตอนเช้าก็กินได้เลย แกอ่ะ?" เมื่อนาริตอบคำถามเสร็จเธอก็โยนคำถามกลับไปที่คนถามคนก่อน

(ดูเหมือนว่าทั้ง2จะสนิทกันถึงขั้นเรียก ชั้น - แก แล้ว=w=)

"กินแล้วเหมือนกัน ก็พี่ชายชั้นเล่นลากชั้นไปกินอาหารเช้าที่ร้านอาหารข้างโรงเรียนนั่นแต่เช้าเชียวแหละ" หล่อนตอบด้วยเสียงอิดออด

นาริฟังดังนั้นก็อดขำไม่ได้ "เห้ย? จริงเหรอ? ว่ากันว่าไอร้านอาหารข้างๆนั่นคิวมันยาวจนคนกลับบ้านไม่กินแล้วมามากเลยไม่ใช่เหรอ"

"นั่นแหละ พี่ชั้นเลยลากออกไปกินตั้งแต่ร้านมันเปิด ตี4กว่านู่น"

"จริงอ่ะ? โห เทคแคร์น่าดูเลยนะเนี่ย ถ้ามีใครเป็นแฟนพี่แกคงโชคดีสุดๆเลยนะ"

ประโยคนี้เหมือนนาริจะพูดเล่นๆให้ขำๆ ทว่าอีกฝ่ายกลับชะงักแล้วเงียบลงไปอย่างทันตาเห็น

"เป็นอะไรอีก นอนไปเต็มอิ่มรึไง?" เธอว่าพลางเขย่าตัวเพื่อนสาว

โลวาน่าหันหน้ามามองสะดุ้งอีกทีเมื่อรู้ตัว พลางตอบแก้ขัดถุไถไปก่อน

"เอ่อ ชั้นแค่ยิ่งคิดว่าคราวหน้าจะทำแบบแกบ้าง จะได้ไม่ต้องถอสังขารไปแต่เช้าแบบ เหอะๆ" หล่อนกล่าวปัดๆพลางยิ้มเจื่อนๆ

"... เออนี่! การบ้านของอาจารย์คาบภาษาอังกฤษที่เป็นครูม.6มาสอน เขาบอกให้ไปส่งตรงห้องพักครูม.6ใช่มะ"

โลวาน่ารีบเปลี่ยนเรื่องทันที ซึ่งนาริก็มิได้สังเกตอะไร

"เออจริง งั้นไปส่งกันไวๆ จะมารอทั้งห้องชั้นกลัวพวกขอลอกๆอะไรแล้วพาลจะไมได้ส่งอีก"

นาริว่าตามจริงก่อนจะคุ้ยกระเป๋าตัวเองหยิบสมุดวิชาภาษาอังกฤษที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วขึ้นมา

ในขณะที่เพื่อนสาวของเธอหยิบออกมาจากใต้โต๊ะ เมื่อทั้ง2พร้อมแล้วจึงเดินออกจากห้องขึ้นไปอีกชั้นที่เป็นชั้นของม.6

 ทางเดินตอนนี้ยังเงียบเชียบ กระทั่งได้ยินเสียงนกร้องยามเช้าเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าจะยังแทบไม่มีใครมานอกจากครู

 หลังจากที่ทั้ง2ส่งงานเสร็จเรียบร้อยจึงตัดสินใจจะเดินลงกลับห้องไปคุยเล่นกันต่อ ขณะนั้นเสียงริงโทนโทรศัพท์ของโลวาน่าก็ดังขึ้น

"แป๊บนะ พ่อโทรมา" โลวาน่ายิ้มแหยๆให้เพื่อนแล้ววิ่งออกไปคุยที่อื่น ปล่อยให้เพื่อนสาวของหล่อนรออยู่ตรงนั้น

"อ่าว ไหงงั้น ช่างมันรอก็ได้ไม่เป็นไร" เธอยืนคิดนิ่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นคนอื่นมีครอบครัวที่สมบูรณ์โทรมาถามไถ่

ต่างกับเธอที่เมื่อผู้เป็นมารดาเสียชีวิตด้วยโรคร้าย บิดาของเธอก็ทิ้งไปอย่างไม่แยแส เหลือแต่ป้าใจร้ายกับย่าของเธอ ที่ต้องแบกรับ

ภาระอะไรหลายๆอย่างมาตั้งแต่เด็ก เทียบกับชีวิตคนอื่นชีวิตเธอเหมือนจะไม่ค่อยเต็มนักเท่าไหร่

"เฮ้" เสียงรียกของใครบางคนดังขึ้น พลางมืออุ่นที่จับไหล่ของเธอ ทำให้สาวน้อยนาริสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที

"คุณ เอ่อ ชิน!!!?" เธอกล่าวอย่างตกใจเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าคือชายหนุ่มที่เคยมาซื้อดอกไม้ที่ร้านเธอ

บัดนี้ เขาอยู่ในเครื่องแบบยูนิฟอร์มชายของโรงเรียนที่ดูเรียบร้อย ประกอบกับคนใส่ทำให้ดูสมาร์ทมีเสน่ห์ยิ่งนัก แต่นาริกลับไม่รู้สึกอะไร

"มาทำไมที่นี่?" เธอตอบแกขัดไปก่อน

"อ่าว ถามได้ มาเรียนสิ จะให้มาเปิดคอนเสิร์ทที่นี่รึไง" ชายหนุ่มย้อนคำตอบกลับแสกหน้าผู้ถาม

"ก็ชั้นคิดอย่างนั้น" สาวน้อยนาริไม่ยอมแพ้ยังตอกกลับคำพูดอย่างไม่ลดละ

"โอเคๆ เลิกตอกหน้ากันได้ละ ผมเรียนที่นี่ เพิ่งย้ายมาเหมือนกัน ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าคุณจะอยู่โรงเรียนนี้แล้วก็อยู่ม.6เหมือนกัน"

"ม.5ย่ะ ชั้นยังไม่แก้ขนาดนั้น" นาริสวนกลับอย่างอารมณ์เสีย

"อ่ะๆ ขอโทษก็ได้ ที่หาว่าเธอแก่" ชายหนุ่มชินเล่นลิ้นใส่สาวน้อยที่อยู่ตรงนั้น คำพูดที่เน้นเทื่อกี้ทำเอาเธอปรอทแตกทันใด

"ว่าไงนะ นาย...! อุ๊บ!!!" ไม่ทันที่เธอจะโวยวายก็ถูกมืออุ่นๆของชายหนุ่มปิดไว้ พร้อมหน้าของที่ยื่นมาประชิดเธอที่ยืนพิงกำแพงอยู่

"ชู่ว อย่าเอ็ดไป ผมไม่อยากมาหนีแฟนคลับอะไรตรงนี้ อย่าเรียกชื่อจริง คุณคงรู้อาชีพผมนะ เข้าใจ๋?" เขากำชับเธอในท่าเดิม

เธอค่อยๆพยักหน้าตอบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆลดมือลง

"ดีมาก อย่างน้อยคนเกาหลีก็น่าจะรู้ด้วยกัน ว่าแฟนคลับที่ไทยบ้าคลั่งกว่าที่เกาหลีขนาดไหน"

ชายหนุ่มค่อยๆเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่เขาต้องไปทำเวรตอนเช้าพร้อมกับคนในห้องพอดี

"งั้นผมไปละ ยัยทอม" เขาโบกมือต่ำๆพร้อมยิ้มให้ก่อนวิ่งออกไป แต่คำสุดท้ายที่ตอกหน้าเธอมันเจ็บแสบยิ่งนัก

"ใครทอมยะ! อีตาบ้า!" เธอสบถเบาๆอย่างไมท่สบอารมณ์ พลางจิกเส้นผมที่ซอยสั้นอยู่ตรงนั้น

 "อ่าว? นั่นใครเหรอ ที่โบกมือให้เมื่อกี้น่ะ" โลวาน่าที่เดินกลับมาเห็นพอดีจึงถามขึ้น

"คนรู้จักน่ะ..." สาวน้อยนาริตอบเสียงเรียบ...     



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #252 เมื่อ: 16-03-2011, 10:45:46 »

โอ๊ก กลับมาที่เค้าสินะ

เดี๋ยวมาแต่งรอบหลัง เค้าจะเลิกละ ประมาณ 11 โมง แต่งไม่ทัน

=_=" ปกติใช้เวลาเป็น ชม.



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #253 เมื่อ: 16-03-2011, 13:07:10 »

อร๊าย บิวมาอัพแล้ว

แถมเชื่อมเรื่องเค้าอีก  Evil



● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Special events] 5 spice [รับสมัครผู้เข้าร่วม]
« ตอบ #254 เมื่อ: 16-03-2011, 16:30:29 »

-20-

“-_- ..”

“...”

“-_- ..”

“... ?”
เราทั้ง 2 คนต่างไม่พูดอะไร ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องของมันหลังจากที่ฉันแยกตัวออกมาจากแอนโทเนีย

นั่งอยู่บนเตียงของมัน และมันก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน

สอนอะไรมันดีฟะ ไม่น่าเห็นแก่ตุ๊กตาเล้ย ! เอาเถอะ มันคงไม่ยากเท่าไหร่หรอก แค่ให้มันพูดตามฉันแล้วก็บอกว่ามันแปลว่าอะไรในภาษาญี่ปุ่น

“เอ่อ ..” ฉันเริ่มบทสนทนาขึ้น หมอนั้นดูสนใจขึ้นมาเหมือนกำลังใจจดใจจ่อว่า จะพูดว่าอะไร

จริงสิ ถามชื่อก่อนละกัน

“โอนามาเอะวะ ? (คุณชื่ออะไร)”

“คินจิ ..”

“วะตะชิโนะนะมะเอะ อาเรีย (ฉันชื่อ อาเรีย)”
หลังจากที่ฉันบอกชื่อตัวเองไป หมอนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ..

เอ้อ สอนประโยคถามชื่อก่อนละกัน แต่ .. จะสอนยังไงอ้ะ ฉันสอนให้คนพูดไทยไม่เป็น ! เอาฟะ สอนมั่ว ๆ

“อ่า .. เอ่อ .. คุณชื่ออะไร” ฉันไม่รู้ว่า ให้พูดตามฉัน ในภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษคืออะไร

เลยไม่บอกมันเลย -_-

“.. ?” หมอนั้นทำหน้างง พูดยังไงดีเนี้ย

“เอ่อ .. Speak” เหมือนสั่งให้ให้หมาเห่าอะไรอย่างนี้ =_=

“โมอิจิโดะ .. ((พูด)อีกครั้งหนึ่ง)” คินจิบอกให้ฉันพูดอีกครั้ง อย่างน้อยมันก็เข้าใจว่าฉันต้องการให้มันพูดตามฉัน

“คุณ - ชื่อ - อะ - ไร” ฉันพูดอย่างช้า ๆ และออกเสียงหนักแน่น

“คุ .. ชิ .. อะ .. ระ” ฟังเหมือนเป็นภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาไทยแหะ สงสัยต้องสอนให้พูดตั้งแต่คำว่า คุณ แล้วมั้งเนี้ย

แต่อย่างน้อยมันพูดคำว่า อะ ได้ชัด

“No No! .. คุณ!” ฉันย้ำอีกที

“คุง ? ..” อ๊ากกก !!! ฉันจะบ้าตาย มันยากกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยอ่ะ T[]T

“คุณ !!” ฉันย้ำและพูดหนักแน่นมากกว่าเดิม

“คู ? ..” แต่มันก็ยังพูดไม่ชัดอยู่ดี ฉันขยี้หัวตัวแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เล็กน้อย ก่อนที่จะหายใจเข้าและออกช้า ๆ

เอาน่า .. ใจเย็น .. คนญี่ปุ่นเขาก็พูดไทยไม่ชัดอยู่แล้ว .. เหมือนฉันตอนแรก ๆ ไง .. ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปน่า ..

เอาละ โอเค ตอนนี้เริ่มใจเย็นกว่าเดิมแล้ว

“คูณ .. คูณ ..” ฉันกล่าวเสียงยานอย่างช้า ๆ และทำปากในขณะที่พูดให้ดูไปด้วย

มันมองปากฉันด้วยสายตาที่กำลังคิดวิเคราะห์ ฉันว่ารอบนี้น่าจะได้แล้วละ ..

“คูง ? ..” ไม่ได้แหะ -_- ไม่เป็นไร เอาใหม่ !!

“คุณ .. คุณ .. คุณ .. คุณ ..” ฉันย้ำอีกครั้ง ขอร้องละ รอบนี้ขอให้ได้เถ๊อะ ! เพี้ยง !!

“ค ..” มันกำลังจะพูดแล้ว ต้องได้แน่ ๆ รอบนี้ ได้ชัวร์ป้าบ !!!

“คุด ?” หน้าแตก .. สงสัยปากฉันจะศักดิ์สิทธิ์ไม่พอแหะ ฉันหมดหวังกับมันไปในช่วงเวลาหนึ่ง

ก่อนที่จะลองกลับมาเริ่มใหม่

“คุณ ! No คุด”

“.. คุณ ?”
เฮ้อ .. ไม่ได้อีกละ .. ห๊ะ เมื่อกี้หูฉันไม่ได้ฝาดไปใช่มั้ย ? มันพูดว่า คุณ ใช่มั้ย !

“ใช่ ! ใช่ !! อย่างนั้นแหละ ~” ฉันดีใจจนเผลออุทานออกมาและหงายหลังลงไปนอนแผ่บนเตียงและเปิดเผยรอยยิ้มออกมา

พลางชูมือขึ้นฟ้าและกำมือแน่น กว่าฉันจะรู้ตัวก็เห็นหมอนั้นมองฉันเหมือนมองคนบ้า ฉันกำลังระลึกถึงความหลังที่ฉันเพิ่งจะทำไปเมื่อกี้

ก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่งอย่างเดิม ฉันเริ่มจะมีกำลังใจนิดหน่อย อย่างน้อยก็ได้คำว่า คุณ แล้ว ~

เออลืมบอกมันว่า คุณ คืออะไรในภาษาญี่ปุ่น

“อ้อใช่ คุณ อิกิ(ความหมาย) อะนาตะ” เนื่องจากฉันจำไม่ได้ว่า หมายถึง ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่าอะไร

แต่จำคำว่า ความหมาย ได้ก็เลยใช้แทนคำว่าหมายถึง มันคงเข้าใจแหละเนอะ -_-" แต่ฉันไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่ามันอ่านว่า อิกิ หรือ อิจิ

แต่มันพยักหน้าเพื่อบ่งบอกว่า เข้าใจแล้ว อย่างน้อยมันก็พอเข้าใจละนะ

“โอเค ! next .. ชื่อ ..” ฉันเริ่มสอนคำต่อไปทันที

“ชึ ..”

“No .. ชื่อ !”

“ชึง ..”

“ชื่อ !!”

“ชึ ..”
สุดท้าย มันก็ต้องกลับมาพูดว่า ชึ อยู่ดี ฉันเริ่มท้อแท้เหมือนตอนที่สอนคำว่า คุณ แล้ว

ฉันเริ่มไม่ค่อยอยากสอนมันแล้วละ ฉันซื้อหนังสือหัดเขียน-อ่านภาษาไทยของเด็กเล็ก ๆ ให้มัน

แล้วก็หนีไปเลย ไม่กลับมาเจอมันอีก ถ้าเจอก็ต้องหลบหน้า -_- แต่คงยากเพราะอยู่ห้องติดกัน

“ชื่อ ..” ฉันเริ่มใหม่อีกครั้ง

“ชู่ว ..” แล้วมันก็นิ่งสนิทเหมือนกำลังฟังเสียงอะไรบางอย่าง

ฉันบอกให้พูด ชื่อ ดั้นมาพูด ชู่ว มันพูดคล้ายกันยังไงเนี่ย คนละสระกันเลย !

“ชื่ .. โอ้ย !” ฉันไม่ทันได้พูดจนจบ คินจิก็กระชากแขนฉันและก็รีบพาฉันกลับไปยังห้องของฉัน

ทิ้งฉันไว้ในห้องก่อนที่เขาจะเดินออกไปและปิดประตู มันเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย

หรือมันไม่อยากให้ฉันสอนแล้ว ? แต่ก็ดี ขี้เกียจสอน ฉันไม่สนใจอะไรมากหยิบการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ออกมาจากกระเป๋า

และวางมันลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ กับเตียงและหยิบอุปกรณ์ขีดเขียนทั้งหลายแหล่ออกมาเรียบร้อยและเริ่มเปิดสมุด ..

เห็นโจทย์ข้อแรก ฉันก็อยากจะเป็นลมละเพราะปกติฉันก็ไม่เก่งเลขอยู่แล้ว ทำไปแบบมั่ว ๆ ละกัน

จับมาบวก ลบ คูณ หารให้หมดเลยนี่แหละ !

ปัง !!

ในขณะที่ฉันกำลังทำการบ้านคณิต ฉันก็ได้ยินเสียงประตูปิดเสียงดังที่มาจากห้องทางด้านข้าง ๆ

ซึ่งมันคือห้องของคินจิ สงสัยมันจะออกไปข้างนอกมั้ง =_= ช่างมันเถอะ ทำไมฉันต้องใส่ใจ

เอาการบ้านตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า ..




ในที่สุด .. หลังจากที่ฉันจับตัวเลขมาบวกลบคูณหารกันแบบไม่มีหลักการทุกข้อ ฉันก็ทำการบ้านเสร็จซะที

ฉันว่ามันต้องผิดทุกข้อชัวร์เลย -_- ช่างมันเถอะ ขอแค่มีให้ส่งก็พอ ผิดช่างมัน

ฉันหันหลังไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังอีกฝั่ง ตอนนี้เวลา 6 โมงกว่า ๆ แล้ว

ฉันเก็บของใส่กระเป๋าเรียนให้เรียบร้อยและหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ตรงปลายเตียงเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ

ปัง !!

เสียงปิดประตูเสียงดังที่ดังมาจากห้องคินจิดังขึ้นอีกรอบ ทำไมมันปิดประตูแรงจังฟะ

ไม่ทะนุถนอมประตูเล้ย .. และในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เสียงประตูเปิดก็ดังขึ้น

แต่มันดังมาจากประตูห้องฉันเนี้ยแหละ ให้ตายเถอะ ทำไมเวลาอาบน้ำชอบมีอะไรมาขวางฉันทุกทีเลย !

ถ้าให้เดานะ คงจะเป็นคินจิเพราะมันเป็นคนเดียวที่บุกห้องฉันโดยไม่เคาะประตูหรือขออนุญาต

ฉันจึงเดินออกมาเพื่อดูว่าสันนิฐานของฉันถูกต้องมั้ย ซึ่งมันก็ถูกต้อง เป็นคินจิจริง ๆ ด้วย =_=

ฉันมองหน้าคินจิประมาณว่า มีอะไร เหมือนทำหน้าหาเรื่อง

“ฮาจิเมมาโช (เริ่มเรียน(ต่อ)กันเถอะ)” อ้าว อะไรฟะ เมื่อตอนนั้นยังทิ้งฉันไว้ในห้องอยู่เลย

จะมาต่อเรอะ ไอ้บ้าเอ้ย ! ฉันทำหน้าอึ้งไปซักพักด้วยเหตุผลที่ว่าไปเมื่อกี้ ทิ้งฉันไว้ในห้องโดยไม่บอกอะไร

แถมยังจะมาต่ออีก -_-

“คุระซุเมโตะ มาอิโมโดรุ (เพื่อนร่วมชั้นกลับมา)” อ้าว ก็มีเพื่อนนี่หว่า

ไหนบอกว่ารู้จักฉันคนเดียวฟะ ไอ้นี่ น่ายิงทิ้งจริง ๆ .. สงสัยเสียงที่ปิดประตูดัง ๆ คงจะเป็นเพื่อนมันปิด

แล้วทำไมไม่ให้เพื่อนมันสอนแทนฉัน แล้วทำไมต้องซ่อนฉันด้วยล่ะ .. คงกลัวโดนเข้าใจผิดเป็นแฟนละมั้ง

เอาเถอะ สอนก็ได้ !

“เดโมะโยอิ (ก็ได้)” เอ .. ถึงคำไหนล่ะ ฉันลืมไปแล้ว .. อ้อ! ชื่อ

“ชื่อ !”

“ชึ ..”
ชื่อโว้ยยยยย ชื่อ ไอ้นี้นี่ ! ฉันอยากจะตะคอกแบบนี้หน้าใส่มันจริง ๆ




พอรอดเนอะ = ="



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
ป้าย:
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 32