[.-_4_-.]
(บทบรรยายไทย ในรูปแบบคำพูดในอังกฤษ)จิ๊บ~ จิ๊บ~
เสียงหมู่นกในยามเช้าดังก้องไปทั่วชายป่าแถบอเมริกา ดวงจันทราค่อยๆเลือนหายไป ปรากฏให้เห็นดวงตะวันในยามเช้าตรู่แทน อากาศในยามเช้าเย็นสบายไม่ร้อนไม่หนาว ทำให้ผู้คนที่อยู่ในสถานที่นั้นๆสบายทั้งกายและใจ หากบุคคลที่อยู่ที่นั่นใจร้อนเร่า บรรยากาศก็สามารถที่จะช่วยบรรเทาอาการนั้นได้
ในตอนนี้หญิงสาวผู้เป็นบุตรคนกลางของครอบครัวปามมิรี่ ก็ได้ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาช่วยงานผู้เป็นบิดาในการค้นคว้าประวัติศาสตร์ของนครมายา (Maya City) ที่ตั้งอยู่ในทวีปนี้ โดยมีอาณาเขตอยู่ในพื้นที่ของประเทศเม็กซิโกคาบเกี่ยวกับเบลิซ กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ และฮอนดูรัส โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่นครวากา ปัจจุบันคือเอลเปรู เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปเสริมในเรื่องของประวัติศาสตร์ของโลก
พ่อของแอนโทเนียเป็นนักโบราณคดีชื่อดังของประเทศอังกฤษ งานส่วนมากที่ทำก็คือเสาะแสวงหาสถานที่โบราญต่างๆของโลก และคอยสืบค้นข้อมูลของสถานที่ต่างๆที่นักโบราณคดีคนอื่นๆไม่สามารถที่จะไขปริศนาหรือหาปริศนาอะไรที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ได้
และสิ่งที่แอนโทเนียและพ่อของเธอ (เออรานิส) กำลังค้นคว้าอยู่นั้นคือซากโบราณสถานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมของนครมายา เพื่อสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวมายา
“แดดท์คะ แอนได้ข้อมูลแล้วค่ะ” แอนโทเนียหรือแอนบอกกับพ่อของตนหลังจากที่ค้นคว้าเรื่องของนครมายามาหลายวัน
“อ่ะ...แอนได้ว่าไงบ้างล่ะ” พ่อของเธอถามลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“หลังจากการสำรวจสถานที่ต่างๆที่เหลืออยู่ของนครมายา มันทำให้หนูได้รู้ถึงอารยธรรมของนครมายาเมื่อ 1,700 ปีก่อน ว่านครแห่งนี้มีความรุ่งเรืองที่สุดในยุคนั้น และวัฒนธรรมของชนเผ่ามายา คือสิ่งที่ก่อให้เกิดตำนานลี้ลับต่างๆมากมายค่ะ ตัวอย่างเช่นความสามารถด้านดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ของชาวมายาที่สามารถดูได้จากศิลาจารึกของชาวมายา
และสิ่งนี้ก็ทำให้รู้อีกว่าชาวมายาได้คำนวณวันเวลาที่เกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้แม่นยำ อีกทั้งยังประดิษฐ์ปฎิทินใช้ และรวมไปถึงการสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆด้วยค่ะ” แอนโทเนียบรรยายเกี่ยวกับสิ่งที่ตนสืบค้นได้จากซากของนครมายาให้แก่เออรานิสฟัง
“เก่งมากแอนโทเนีย สมแล้วที่เป็นลูกแดดท์ ทางแดดท์ก็ได้ข้อมูลมาเหมือนกัน เดี่ยวเราช่วยกันสรุปข้อมูลแล้วเก็บของกลับบ้านกันดีกว่า ม้าจะได้ไม่เป็นห่วง” เออรานิสชมบุตรของตนก่อนจะเดินไปที่โต๊ะกลางเต็นท์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลของนครมายา
“ค่ะแดดท์ ว่าแต่หลังจากกลับไปที่บ้านแล้วเราจะไปที่เมืองไทยเลยมั้ยคะ” แอนโทเนียพูดพลางเดินไปที่โต๊ะเพื่อช่วยพ่อของตนสรุปข้อมูล
“แดดท์ว่า ไว้เราค่อยตกลงกันหลังจากถึงบ้านดีกว่านะ ตอนนี้เรารีบสรุปข้อมูลที่ได้ดีกว่า เดี๋ยวจะไปไม่ทันเที่ยวบิน”
“ค่ะแดดท์..” แอนโทเนียตอบกับเออรานิสก่อนจะรีบลงมือสรุปข้อมูลต่อ
เวลา 09.00 น. ณ สนามบินในเมืองหลวงประเทศแมกซิโก
“มาค้นคว้าคราวนี้ได้ข้อมูลเยอะเลยล่ะ เพราะได้แอนช่วยแดดท์แท้ๆนะเนี่ย” เออรานิสเปิดปากขึ้นหลังจากเงียบมานานจนถึงสนามบิน
“ไม่หรอกค่ะแดดท์ แดดท์ของแอนน่ะเก่งอยู่แล้ว อีกอย่างแดดท์ก็มีคนช่วยอยู่ตั้งเยอะนี่คะ…” แอนโทเนียตอบพร้อมๆกับเช็คตั๋วเครื่องบิน
“เอาเถอะๆ หวังว่าคราวนี้แอนจะได้ความรู้มากขึ้นนะ แดดท์อยากเห็นแอนได้ดี”
“แดดท์ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เรื่องประวัติศาสตร์เนี่ย แอนรู้จนเกือบจะไม่มีอะไรให้รู้แล้วล่ะ” แอนโทเนียตอบพร้อมๆกับรอยยิ้มกวนๆ
‘ผู้โดยสารโปรดทราบ เที่ยวบินที่ 314 เม็กซิโก-อังกฤษ จะออกตัวในอีก 20 นาทีนี้ ขอให้ท่านผู้โดยสารเตรียมตัวให้พร้อมด้วยค่ะ ’
เสียงจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ดังกึกก้องไปทั่วสนามบิน แอนโทเนียและเออนาริสก็รีบไปเช็คอินและขึ้นเครื่องไปทันที
เวลา 14.27 น. เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ
“เฮ้อ~ ถึงซะทีนะคะแดดท์ คิดถึงม้าจะแย่ละ” แอนโทเนียถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางบ่นอุบอิบเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองจะเรียกแท็กซี่กลับไปที่บ้าน...
เช้าวันต่อมา ณ บ้านปามมิรี่(บ้านเลขที่ 2 ซอยพรีเว็ต ลิตเติล วินจิน เซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ)
เวลา 6.24 น.
“วันนี้ตื่นช้าจังเลยนะจ๊ะ..~” ลิลลิซ่า แม่ของแอนโทเนียทักทายลูกสาว พร้อมๆกับทำอาหารเช้าไปด้วย
“โถ่~ ม้าคะ แค่ตื่นหลังเวลา 5.40 ไม่นานเองนะคะ อีกอย่างหนูก็เพิ่งกลับบ้านเองนี่นา~” แอนโทเนียตอบกับผู้เป็นมารดาไปอย่างเซ็งๆ พลางเปิดนมเปรี่ยวดื่มรออาหารเช้าไปพลาง
“วันนี้หนูขอไม่ช่วยนะคะม้า ^0^ ” แอนโทเนียพูดตกท้ายก่อนจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อเปิดหาอะไรดูในทีวี
“อีกกี่วันเปิดเทอมล่ะแอน” เออรานิสเอ่ยถามบุตรสาวโดยที่ใบหน้ายังอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ละสายตา
“ก็...อีกอาทิตย์นึงค่ะแดดท์”
“อ่าว~ นี่แอนต้องไปเมืองไทยอีกแล้วหรอเนี่ย ความจริงแอนก็น่าจะเรียนที่นี่ก็ได้นี่จ๊ะ ไม่เห็นต้องไปเรียนถึงเมืองไทยเลยนิ” แม่ของแอนโทเนียแทรกขึ้นหลังจากได้ยินบทสนทนาขณะกำลังจัดโต๊ะอาหาร
“ก็ที่เมืองไทยอยู่แล้วสบายใจดีนี่คะม้า คนที่นู่นน่ะมีน้ำใจกันทุกคนเลย~” แอนโทเนียตอบกลับพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะอาหารพร้อมบิดา
“แล้วแอนไปอยู่นี่โน่นน่ะ มีใครดูแลรึเปล่า” เออรานิสถามบุตรสาวพลางกัดฮอดดอกเข้าปาก
“...แดดท์คะ แอนไปอยู่ที่เมืองไทยถึง 4 ปีแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้ค่ะ อีกอย่าง เพื่อนของแอนที่ไปเรียนที่เมืองไทยด้วยก็มีเยอะถมไปค่ะ” แอนโทเนียตอบก่อนจะลงมือกินอาหาร
“งั้นพรุ่งนี้แดดท์จะพาไปจองตั๋วล่วงหน้าละกันนะ วันเดินทางจะได้ไม่ลำบาก” เออรานิสพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากแอนโทเนียพูดจบไม่นาน
“ขอบคุณค่ะแดดท์~..”
_____________________________________________________________________
ขอโทษที่มาลงช้าไปหน่อย พอดีหาเงินเติมเน็ตอยู่ =A=
แค่บทเปิดตัว ไม่เน่าเท่าไหร่มั้ง
ไม่มีผิดพลาดนะ เดี๋ยวไปแก้ใบสมัครส่งPM ให้พี่กบแก้เรปนั้นให้ก่อง =w= จะได้ตรงทุกอย่าง