GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 41
ผู้เขียน หัวข้อ: [Fiction] "Gold Crown" อภินิหารมงกุฎทองคำ  (อ่าน 6634 ครั้ง)
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #435 เมื่อ: 18-10-2010, 17:32:27 »

มาอีกแระ ปัญหาทต่อสู้โดยมีสกิล=_=

อ้างถึง
เกิ้ล ก็วิ่งเข้าหากลุ่มหมีและใช้สกิล Rei Toketsu  ทำให้หมีแข็งไปหลายตัว

เหนได้ชัดเลย ถ้าคนมาใหม่มาอ่านก็จะงงว่าไอ Rei Toketsu มันมันเปนเวทย์แช่แข๋็งหรืออะไรวะ งง (ประมานนี้)= =

(ขออณุญาตใช้ของตัวเอง คนอื่นขี้เกียจหา=[]=)

แนทครจะบรรยายท่าทางของสกิลที่ออกมา ประกอบกับสถานการณ์การต่อสู้(เพื่อไม่ให้ดูบรรยายซ้ำกัน)

ยังงี้(ขอเปลี่ยนการบรรยายเลยนะ)

*ตัวสีแดง คือส่วนที่เพิ่มการบรรยายคุณสมบัติสกิล

ตัวสีเขียว คือ ส่วนทีเ่พิ่มการบรรยายสถานการณ์ต่อสู้ (ขอสมมติขึ้นเองในบางส่วน)

อ้างถึง
หลังจากที่เกิ้ลสามารถวิ่งฝ่าเข้าไปใจกลางกลุ่มหมีออกมาได้แล้วเขาได้ทำกางพัดขนาดยัก์ออกมาอีกครั้งพร้อมทำการร่ายสกิลที่น่าจะเป็นประโยช์ต่อสถานการณ์ในเสี้ยววินาทีนี้

" Rei Toketsu!!!"

พัดขนาดยักษ์ได้ถูกหมุนไปมารอบๆด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็นพายุตีวงกว้าง ทำให้กลุ่มหมีในระยะถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ

จกานั้น ก็เราจะสามารถต่อคอมโบของคาแรกตเอร์ร่วมทีมอีกตัวได้ ซึ่งแนทก็สามารถทำได้แล้ว แต่ก็ถูกปัญหาตัวนี้ขวางอยู่

ยังไงในฉากต่อสู้ บู๊แหลกยังงี้ ลองเอาไปใช้ดูนะ

แต่ ไม่ใช่บรรยายแต่ยังงี้ทุกฉากนะ บางทีลองทำให้มันดูต่างๆกัน อาจใช้คำที่สูงกว่ามาช่วยตีความให้ประโยคบรรยายดูแตกต่างกนก้ได้ (ไว้ค่อยเรียนทีหลัง ตอนนี้ยังยากเกินไทปี่จะใช้= =")

ตอนนี้ก็ใช้สถานการณ์บรรยายทำให้การต่อส้ดูแตกต่างไปก่อนละกันนะ=[]=

เนือ้เรื่องสามารถผูกปมได้ดีแล้ว แต่ก็อย่าลืมคลายปมดว้ยล่ะ=_=

ป.ล.สนุกมากจ้ะ พยายามต่อไป สู้ๆ Smiley




บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #436 เมื่อ: 18-10-2010, 17:44:38 »

ขอบคุณค่ะพี่เกิ้ล Smiley

เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #437 เมื่อ: 18-10-2010, 18:12:03 »

แต่งได้แล้ว Angryกระหายนิยาย Angry

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #438 เมื่อ: 18-10-2010, 18:14:39 »

แต่วแล้วววววววววว Cry

Chapter 14 อาวุธในตำนานที่มาพร้อมกับปีศาจ!

   หลังจากที่ทุกคนเดินทางออกจากป่าลึกที่แสนประหลาดนั้นมาได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ทุกคนกี่เข้าสู่แถบทะเลทรายของหมู่บ้าน ฮาฟเวล ที่ร้อนระอุ หมู่บ้านฮาฟเวลเป็นหมู่บ้านเล็กๆใจกลางทะเลทราย ที่มีรัศมีความกว้างประมาณ 10 กิโลเมตร หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในแถบอีบู ซึ่งเป็นแถบของโจรป่าทะเลทราย พูดง่ายๆคือ แถบนี้จะมีโจรทะเลทรายป้วนเปี้ยนอยู่บ่อยและเยอะมาก เพราะฉะนั้นจึงเป็นเขตที่อันตรายและไม่สมควรพักเป็นที่สุด ประชากรของหมู่บ้านมีประมาณ 3-4 ร้อยคน อาจจะดูน้อยมากเพราะความจริงแล้วประชากรของหมู่บ้านนี้มีมากถึง 1 พันคน แต่เพราะความร้อนของทะเลทรายหลายคนจึงย้ายไปอยู่ตามเมืองต่างๆเพื่อความสบายของตน...

“อ๊ากกกกกกกกกก!!!! ทำไมที่นี่มันร้อนอย่างนี้เนี่ย ถึงเป็นทะเลทรายแต่ร้อนเกินเหตุแล้วนะเฟ้ย = =*”

คิดพูดพลางเข้าไปยืนอยู่ไกล้ๆไอซิสเพราะเห็นว่าไอซิสไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับความร้อนของทะเลทรายนี้เลย

“นี่! ไอซิสเธอไม่รู้สึกร้อนอะไรเลยรึไงอ่ะ เห็นเดินสบายใจเฉิบเลย”

คิดถามไอซิสอย่างงงๆ

“ไม่นี่...อย่าลืมสิว่าชั้นเก่งจนสามารถใช้ได้ทุกธาตุเลยนะ”

ไอซิสพูดพลางเดินต่อไปอย่างสบายใจเฉิบ

“เฮ้! นี่ก็แสดงว่าเธอใช้เวทต์ธาตุน้ำแบบเบาๆใส่ตัวเองงั้นหรอ”

คิดถามไอซิสพลางเดินต่อไปไม่หยุด

“อืม...”

ไอซิสตอบอย่างสั้นๆแต่ได้ใจความ

“นี่ๆ งั้นก็แสดงว่าทำให้ทุกคนได้สิ ใช่ป่ะ ใช่ปะ”

คิดถามพลางทำหน้าตายิ้มแย้มร่าเริง

“ก็ได้อ่ะแล้วก็ทำให้หมดแล้วด้วย”

ไอซิสตอบพลางรีบเดินไปข้างหน้าเพราะคนอื่นเดินไปไกลมากแล้ว

“เฮ้ แล้วทำไมชั้นไม่ได้ล่ะเอาเปรียบกันนี่น๊า”

คิดพูดพลางทำหน้าอ้อนวอนไปด้วยปนกับความโมโหในใจเล็กน้อย

“ก็เห็นนายเดินนำหน้าไปนี่น๊า...เห็นแนทบอกว่าเรียกเท่าไหร่ก็ไม่หันมาก็เลยไม่ได้ทำให้”

“งั้นทำให้ตอนนี้ได้ป่าวอ่ะ*-*”

คิดพูดพลางทำสายตาอ้อนวอนสุดขีด

“ไม่ต้องแล้วมั้ง...ดูข้างหน้าสิคะ”

ไอซิสพูดพลางชี้นิ้วไปด้านหน้าให้คิดได้เห็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงหน้า

“*-* หมู่บ้าน *-* แบบนี้ก็มีของอร่อยๆให้ทานเยอะเลยสิ*-*”

คิดพูดพลางดวงตาของเค้าเป็นประกายไม่หยุด

“เอาล่ะทุกคนข้างหน้ามีหมู่บ้าน หากเข้าไปแล้วก็อย่าไว้ใจใครง่ายๆนะ เพราะเราไม่รู้ว่าในนั้นจะมีปีศาจแฝงอยู่รึเปล่า”

อากามิพูดอย่างเข้มแข็งพลางเร่งฝีเท้ารีบเดินเข้าไปในหมู่บ้านทันที

“*-* เข้ามาไนนี้ปล้วเย็นสบายจังเลย ไม่ร้อนเหมือนข้างนอกเลยอ่ะ *-*”

คิดพูดโดยที่หน้าของเค้าหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆหมู่บ้านไม่หยุด

จ๊อก แจ๊ก จ๊อก แจ๊ก~~~~

เสียงผู้คนในหมู่บ้านคนกันดังแบบไม่หยุดแต่ฟังดูไม่น่าลำคานท่าไหร่ เพราะมีแต่เสียงด้านการซื้อขายและถามสารทุกข์สุขดิบกันทั้งนั้น ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งอะไรจึงฟังแล้วสบายหูหน่อย

“อ่าว นักเดินทางรึ ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านฮาฟเวล ข้าคือ ฟินิกส์ หัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ พวกท่านต้องการที่พักหรือไม่ข้าจะได้ให้คนไปเตรียมไว้ให้”

ชายวัยกลางรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้ามีหนวดเคราเล็กน้อย ไว้ผมยาวแต่มัดรวบไว้ด้านหลังแต่งกายด้วยชุดชาวบ้านทั่วไป(เสื้อแขนสั้น และกางเกงขายาวที่ทำจากผ้าฝ้ายบางๆ) แต่ดูภูมิฐานนิดหน่อยกล่าวกับทุกคน

“พวกเราคือ นักรบจากค่ายเอลจิงเซลมิใช่นักเดินทางแต่อย่างใด เราเพียงแค่เดินทางตามหาสิ่งศักสิทธิ์ เจ็ดชิ้นและเดินทางผ่านมาเท่านั้น แต่หากท่านมีที่พักให้เราเราก็ยินดีที่จะพักที่นี่สักวันสองวันละกัน”

อากามิกล่าวกับฟินิกส์ด้วยท่าทางที่สุภาพ

“ถ้าเช่นนั้นเชิญทุกคนตามข้ามาได้เลยนะ เห็นอย่างนี้หมู่บ้านเราก็มีโรงแรมเหมือนกันนะ^^”

ฟินิกส์พูดแล้วนำทางทุกคนไปทันที

ระหว่างทางหลายคนเดินไปสำรวจหมู่บ้านไปด้วยซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติถ้ามีก็มีแต่หมาแมวที่ทะเลาะกันไปวันๆเท่านั้นเอง

“เอาล่ะ ถึงแล้วล่ะนะ ที่นี่คือโรงแรมเล็กๆของหมู่บ้านฮาฟเวลของเราเชิญพวกท่านเข้ามาข้างในเลยดีกวานะ”

ฟินิกส์พูดและพาทุกคนเข้าไปข้างในทันที

“โรงแรมนี้ภายนอกอาจจะดูล้าสมัยและเล็กมากนะแต่ภายในเนี่ย จะมีเทคโนโลยีมากมายเลยล่ะ ทั้ง คลื่นสัญญาณหรือเทคโนโลยีอะไรต่างๆที่นี่ก็มีหมดแหละนะ ออ โรงแรมนี้น่ะ สร้างจากพลังเวทย์มนต์ของผู้ใช้มนตราในหมู่บ้านของเราเพราะฉะนั้นวางใจได้นะเพราะในโรงแรมนี้ปลอดภัยกว่าที่อื่นๆในหมู่บ้านเลยล่ะ เชิญทุกท่านติดต่อประชาสัมพันธ์และเอาของไปเก็บบนห้องหรือไปพักผ่อนได้เลยนะ พวกท่านนี้ก็ประมาณ 40 คน อืมแค่นี้ครบทุกห้องพอดีเลย เอาล่ะเชิญทุกท่านตามสบายนะ หากหิวละก็ทางด้านซ้ายมีห้องอาหารนะจะเป็นั่งคุยกันที่นั่นก็ได้ ข้าไปล่ะ”

ว่าแล้วฟินิกส์ก็เดินออกไปทันที

“ *0* อย่างกับโรงแรมห้าดาวแน่ะไม่สิยิ่งกว่าด้วยซ้ำ ไม่อยากจะเชื่อว่าในที่แบบนี้จะมีโรงแรมแบบนี้ด้วยอ่ะ”

คริสพูดพลางเดินไปรอบบริเวณ

“ยังไงซะทุกที่ที่เราไปก็เพื่อจะตามหาอาวุธในตำนานนี่น๊า ชั้นว่าเรารีบเอาของไปเก็บบนห้องแล้วมารวมตัวกันที่ห้องอาหารละกันนะ”

เพชรพูดพลางเดินไปที่ประชาสัมพันธ์ทันที

แล้วทุกคนก็ ไปติดต่อประชาสัมพันธ์แล้วเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องทันที

...20นาทีผ่านไป...

หลังจากที่ทุกคนเอาของไปเก็บบนห้องเรียบร้อยทุกคนก็ลงมาที่ห้องอาหารตามที่ตกลงกันไว้ทันที(ผู้กล้าและเอลฟ์)

“ชั้นว่าที่นี่มันไม่แปลกเกินไปหน่อยหรอ โรงแรมนี่หรู่ยิ่งกว่าในเมืองอีกอ่ะ แถมดูๆแล้วนะระบบป้องกันอันตรายก็สูงด้วยล่ะ”

แนทพูดพลางกวาดสายตาไปรอบโรงแรม

“ชั้นก็คิดเหมือนกันนะ ที่นี่จะต้องมีอะไรที่แปลกๆอยู่แน่ๆ”

โซลพูดขึ้นพลางดื่มน้ำส้มในแก้วของตัวเองไปด้วย(ไปเอามาหลังจากมาที่ห้องอาหาร)

“งั้นข้าชั้นว่าพวกเราลองสำรวจที่นี่กันมั้ยล่ะ ไหนๆก็ได้พักที่นี่กันแล้วนิ”

นิวทิร่าเสนอกความคิดเห็น

“อืม~ก็ไม่เลวนะนิวทิร่า เพราะที่นี่มันก็แปลกจริงๆ เอาเป็นว่าเราพิสูทธิ์ตอนนี้เลยมะ”

เกิ้ลเสนอความคิดเห็นเพิ่มาอีกนิดหน่อย

“อืม!~”

ทุกคนขานรับพร้อมกันและเดินออกจากโรงแรมทันที

“ข้างนอกนี่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกนี่น๊า”

แนทพูดขึ้นพลางสายตายังมองไปรอบๆไม่หยุด

“อืม~จริงด้วยนะ ชั้นว่าเราเดินดูอีกนิดดีกว่า นี่ก็ไกล้จะค่ำละถ้าไม่มีอะไรเราก็กลับไปที่โรงแรมกันก่อน ค่ำๆค่อยมากันใหม่เผื่อมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น”

วีอาเทียสพูดขึ้นแล้วทุกคนก็เดินไปเรื่อยๆจนรอบหมู่บ้าน

ในที่สุดก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ทุกคนจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง ตกดึกทั้งสิบคนก็รวมตัวกันอีกครั้งตามที่ได้ตกลงกันไว้และออกมาสำรวจอีกรอบทันที

“แปลกจังทั้งๆที่ยังไม่ดึกเท่าไหร่นิน๊าทำไมผู้คนหายไปกันหมดล่ะ”

เวอาเทียสพูดอย่างงงๆ

วิ้ว~~~~~

เสียงลมพัดทรายดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ซึ่งดังแบบไม่รู้สาเหตุ เพราะเสียงนี้มันแปลกมากๆ

“สวัสดีเหล่าผู้กล้าและสหายเอลฟ์ทั้งสาม...”

เสียงบุคคลปริศนาดังขึ้นในควมเงียบทุกคนจึงตื่นตกใจบ้างเล็กน้อย

“นะ...นั้นเสียงใครน่ะ”

คริสพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย

“โอ๊วว~~ใจเย็นไว้ คริสโตเฟอร์ ข้าไม่ทำอะไรพวกเจ้าหรอกน่า แค่ต้องการความสนุกนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง…”

บุคคลปริศนาพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น

“ยะแย่แล้ว! ท่านนักเดินทางที่นี่อันตรายนะท่านอย่างเข้าไกล้โจรทะเลทรายกว่านี้เลยพวกท่านอาจจะไม่รอดก็ได้”

ฟินิกส์รีบวิ่งมาหาทุกคนทันทีที่เห็นเหตุการณ์

“โจรทะเลทรายงั้นหรอ”

นิวทิร่าพูดขึ้นอย่างตกใจ

“หึ! ข้าไม่ใช่โจรทะเลทรายกระจอกพวกนั้นหรอกนะ...พวกนั้นน่ะโดนพวดข้ากำจัดไปหมดแล้วล่ะ หึๆ”

บุลคลปริศนาพูดอย่างสะใจและเงาลางๆที่เห็นคือเค้ายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

“แล้ว..แล้วแกเป็นใครกันล่ะ”

ฟินิกส์พูดอย่างงุนงง

“หึ ข้าก็คือ โอวี่ ปีศาจแห่งทะเลทรายยังไงล่ะ!”

ปีศาจเผยให้เห็นร่างที่แท้จริงของตัวเองร่างนั้นดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปตัวสีผิวออกเป็นสีทราย ใบหน้ามีรอยอะไรบางอย่างขีดไว้เหมือนหนวดแมวแต่งกายด้วยชุดเสื้อแขนยาวหนังสีน้ำตาลพาดไหล่ดัวยเชือกหนาสวมสร้อยคอรุงรังและสวมผ้าคลุมลายไฟสีดำในทะเลทราย...

“งั้น งั้นแกก็เป็นสมุนของดราโกเนียสน่ะสิ”

วีอาเทียสพูดขึ้นอย่างตกใจ

“หึ! เก่งนี่ แต่ยังไงซะวันนี้พวกเจ้าต้องทำให้ข้าสนุกนะ”

โอวี่พูดแล้วแสยะยิ้มเล็กน้อยแล้วเริ่มเปิดฉากการต่อสู้ทันที

“เพลิงทะเลทรายวินาศ” โอวี่ใช้สกิลที่ทำให้เกิดพายุทะเลทรายขึ้นเพื่อรบกวนสมาธิในการต่อสู้ของทุกคน

“มันไม่ได้ผลหรอกน่า “เรียกเกราะคุ้มกาย” ”

แนทตะโกนขึ้นและใช้สกิลเรียกเกราะคุ้มกายให้กับทุกคนจึงทำให้ฝุ่นทรายไม้สามารถทำอะไรทุกคนได้ “เก่งพอตัวเลยนะ แนท...” โอวี่พูดและหยุดไปซักพักก่อนจะเริ่มการต่อสู้อีกครั้ง “ทรายอสูร” โอวี่ใช้สกิลที่ทำให้ทรายกลายเป็นนักรบทะเลทรายขึ้นมาโอวี่ใช้สกิลนี้สร้างนักรบทะเลทรายขึ้นมาประมาณ 100 ตัว แล้วสั่งให้มันบุกโจมตีทันที

“เอ๊ะ ทรายใช้อาวุธทำอะไรมันไม่ได้แน่ นอกจากเวทย์น้ำเท่านั้น ไอซิส ความหวังอยู่ที่เธอแล้วนะ”

โซลพูดพลางถอยหลังไปเรื่อยพร้อมกับทุกคนเพื่อหลีกทางให้กับไอซิส

“ชั้นจะใช้พลังเวทย์มนต์ของชั้นจัดการแกเอง!”

ไอซิสตะโกนขึ้นและใช้สกิล “บาเรีย”เพื่อสร้างเกราะให้กับตัวเองก่อนแล้วจึงใช้สกิล “วอเทอร์แมชเชอร์รูจ” สร้างฝนน้ำแข็งที่ตกลงมาอย่างหนักใส่นักรบทะเลทรายทำให้มันแข็งและแตกสลายไปหลายสิบตัวและตามด้วย “ดาเมจวอเทอร์” โดยยิงลูกไฟเวทย์(น้ำ)ขนาดใหญ่ไปที่ใจกลางฝูงนักรบทะเลทรายทำให้ตอนนี้นักรบทะเลทรายเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นและMPก็เหลือไม่มากไอซิสจึงตั้งจิตอธิฐานให้พลังครั้งสุดท้ายนี้สำฤทธิผลสามารถกำจัดนักรบทะเลทรายได้จนหมดสิ้นไป และแล้วแสงสว่างที่เกิดขึ้นจากไม้เท้าของไอซิสก็ก่อให้เกิดไม้เท้าในรูปแบบใหม่ เป็นไม้เท้าที่มีความยาวเท่าแขนหัวของไม้เท้าเป็นรูปกาที่กำลังกางปีกสีดำออกมาอย่างเต็มๆและพร้อมที่จะบินตลอดเวลา ด้ามจับมีขนาดพอดีมือและเรืองแสงสีฟ้าบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังใช้ธาตุน้ำอยู่ MPจาก 2560 ก็เพิ่มขึ้นเป็น4790 ในพริบตา ความรู้สึกในตัวไอซิสรู้สึกได้ถึงพลังที่ออกมาจากไม้เท้าโฉมใหม่ที่ความรู้สึกเหมือนมัพลังที่แข็งแกร่งที่ถูกปิดผลึกไว้ในตัวได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“อะ..อะไรกันน่ะ ข้าข้าทำให้เจ้าได้อาวุธในตำนานอย่างนั้นหรอ!”

โอวี่ร้องขึ้นอย่างตกใจสุดขีด

“หึ!ขอบคุณมากนะโอวี่ ถึงเวลาปิดฉากเกมนี้ซะทีเถอะ!”

“เบิร์นนิ่ง รีแพจเจอร์” สกิลของไอซิสถูกปล่อยออกอย่างเต็มกำลังโดย MP ถูกใช้ไปกับสกิลนี้จนหมดไปในทันทีและแล้วนัรบทะเลทรายก็หายไปจนหมด

“หึ! เจ้าเก่งมากนะไอซิส สมแล้วที่...ช่างเถอะ เอาล่ะ คราวนี้ข้าออมมือให้แต่คราวหน้าพวกเจ้าไม่รอดแน่!”

ว่าแต่โอวี่ก็หายตัวไปกับฝุ่นทรายทันที...

      สมุนของดราโกเนียสได้ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว จะมีตัวอื่นปรากฏขึ้นมาอีกหรือไม่แลคำที่โอวี่กำลังจะพูดนั้นคืออะไรกันแน่ โปรดติดตามอ่านต่อตอนหน้า...
The end of the chapter 14

เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #439 เมื่อ: 18-10-2010, 18:20:37 »

แฮ่ Angryดีมากแฮ่ Angry

usa10249
Jr. Member
**
กระทู้: 220


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #440 เมื่อ: 18-10-2010, 18:29:22 »

สนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



เครดิต GøøGle-KunG หรือผู้อาวุสโสของพวกเราค่า
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #441 เมื่อ: 18-10-2010, 18:36:17 »

ดีแล้วทำไมทำหน้าโกรธอ่า Cry

SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #442 เมื่อ: 18-10-2010, 19:33:17 »

ยาวดี เดะมาอ่านได้ป่ะ - -"



สนใจจิ้มเลย >0<



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #443 เมื่อ: 19-10-2010, 10:16:48 »

ทำไมลืมใส่สีสกิลอ่ะ แบบตอนก่อนๆอ่ะดีแล้ว Cry

(แต่ที่ชั้นไม่ใช้สี เพราะเจอปัญหาพอพิมพ์ลงไปมากๆ มันจะเด้งขึ้นมา เวลาลากคลุมก้เด้งขึนมาเฉย เลยขี้เกียจใส่=[]=)

โอเค เข้าคอมเม้น

เรื่องบรยายตรงสกิล กะสถานการณ์ผ่านไประดับนึง

แต่เรามาถึงเรื่อง บรรยายเอฟเฟก กัลดีกว่านะเทอว์= =

การบรรยายเอฟเฟก พูดง่ายๆก็คือบรรยายฉากของสกิลนั้นๆน่ะแหละ อย่างตอนทีผ่่านมา มีจุดนึงที่แนทพลาดไปนห่อย

อ้างถึง
ไอซิสตะโกนขึ้นและใช้สกิล “บาเรีย”เพื่อสร้างเกราะให้กับตัวเองก่อน

เราต้องบรรยายให้ผู้อ่านเห็นว่า ไอบาเรียที่เรียกออกมามันีลักษณะยังไง เป็นกลมๆ หรือโล่สีอะไร ประมานนี้

*ตัวสีแดง คือ ส่วนที่เพิ่มบรรยายเอฟเฟกเข้าไป

ตัวสีน้ำเงิน คือ ส่วนที่เพิ่มบรรยายคุณสมบัติสกิล

อ้างถึง
ไอซิสตะโกนขึ้นและใช้สกิล “บาเรีย” เพื่อทำการสร้างเกราะให้กับตัวเองก่อน

เกราะเวทมนตร์ สีม่วงโปร่ง รูปร่างทรงกลมเรียบมน ได้บังเกิดผุดขึ้นมาคลุมตัวผู้ใช้สกิล เพื่อป้องกันการโจมตีต่างๆได้ในส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ ก็เพื่อทำให้ฉากการต่อสู้ ดุสมน้ำสมเนื้อขึ้น ไม่ใช่ให้ผู้อ่านต้องมาั่งคิดเอาเองอีก ว่าสกิลนี่หน้าตายังไง

ถ้าหากว่าเราบรรยายส่วนนี้ได้ ฉากต่อสู้จะดุมีอรรถรสและดูยาวๆขึ้นด้วย

เรื่องที่สอนผ่า่นๆมา แนทสามารถทำได้ดี แล้วก็เรียนรู้ได้ง่าย ขอชมตรงนี้

เนื้อรเื่องสนุกโยงไปโยงมาได้ดีแล้ว พยายามต่อไป สุ้ๆ=0=/




บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #444 เมื่อ: 19-10-2010, 10:23:14 »

เทศนาเอ๊ย!!!เนะนำรอบที่ Evil

SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #445 เมื่อ: 19-10-2010, 11:33:48 »

ไม่ใช่สกิลที่กรอกไปนี่นา......เฮ้อ  - -*



สนใจจิ้มเลย >0<



เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #446 เมื่อ: 19-10-2010, 11:34:30 »

ทำไมไม่ให้ฉันใช้สกิลเลย- -*หรือว่าจำสกิลไม่ได้- -*

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #447 เมื่อ: 19-10-2010, 16:54:20 »

Chapter 15 หุบเขามรณะ

...วันรุ่งขึ้น...

“ข้าต้องขอขอบคุณพวกเจ้ามากที่ช่วยทำให้หมู่บ้านของเราสงบสุขอีกครั้ง พวกโจรทะเลทรายก็หายไปหมดแล้วเพราะฝีมือปีศาจและท่านยังขับไล่ปีศาจให้เราอีก เราไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนท่านยังไง”

ฟินิส์กล่าวกับเหล่าผู้กล้า

“เอ๊ะ ~ เดี๋ยวก่อนๆ ช่วยอะไรกันน่ะท่านผู้กล้า ข้างงไปหมดแล้วนะ”

อากามิแทรกขึ้น

“บังเอิญว่าเมื่อคืนพวกเราออกมาสำรวจหมู่บ้านกันน่ะค่ะ... สมุนของดราโกเนียสก็ปรากฏตัวขึ้นเราก็เลยขับไล่มันไปเท่านั้นเองค่ะ..”

ไอซิสตอบกับอากามิ

“ไม่ต้องขอบคุณอะไรหรอกครับท่านฟินิกส์ มันเป็นหน้าที่ของนักรบอยู่แล้วล่ะครับ”

เกิ้ลบอกกับฟินิกส์

“งั้นข้าก็ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิ์ภาพนะ”

ฟินิกส์บอกกับทุกคน

“ลาก่อนนะคะท่านฟินิกส์หวังว่าซักวันเราคงได้พบกันอีกนะคะ^^”

โซลบอกลาฟินิกส์อย่างร่าเริง

“^^”

ฟินิกส์ไม่ทำอะไรนอกจากยิ้มตอบโซล แล้วทุกคนก็เดินทางออกจากหมู่บ้านฮาฟเวลทันที

“เฮ้ ไอซิส คราวนี้อย่าลืมใช้ธาตุน้ำแข็งให้ชั้นด้วยล่ะ”

คิดตะโกนบอกไอซิสจากด้านหน้า

“จะใช้ทำไมอ่ะ...ในเมื่อเราจะออกเขตทะเลทรายแล้วนี่”

ไอซิสตอบกับคิดโดยไม่ตะโกนเหมือนคิด

“เออน่า~ยังไงก็ยังอยู่ในเขตทะเลทรายอยู่ดีทำให้ชั้นเหอะ”

“เกราะนำแข็งน่ะมีฤทธิ์ 4 ชั่วโมงนะ หากเข้าไปในป่าข้างหน้าแล้วหนาวไม่รู้ด้วยล่ะ”

“อืม~”

ว่าแล้วไอซิสก็สร้างเกราะน้ำแข็งให้คิดทันที

1 ชั่วโมงต่อมาทุกคนเดินทางพ้นเขตทะเลทรายมาเรียบร้อย จนเข้าสู่เขตป่าไม้อีกครั้ง...

“บรื้อ~ทะทำไมมันหนาวอย่างนี้ล่ะ”

คิดพูดพลางเอามือกอดอกตัวเองไว้แน่น

“หนาวตรงไหนคิด ข้ายังไม่หนาวเลยนะ”

นิวทิร่าบอกกับคิด

“จริงด้วยชั้นยังไม่หนาวเลยนายเป็นบ้ารึเปล่าคิด”

แนทพูดพลางเดินต่อไปไม่หยุด

“ฮ่าๆ ชั้นบอกแล้วนะว่าเกราะน้ำแข็งมีฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง ถ้าอยู่ในทะเลทรายจะไม่ร้อนไม่หนาวแต่ถ้าอยู่ในบรรยากาศปกติจะหนาวอ่ะ ตอนนี้ผ่านมาได้ชั่วโมงกว่าแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ”

ไอซิสบอกกับคิดอย่างสะใจ

“บรือ~ ก็ชั้นไม่รู้นี่น๊าว่าจะพ้นเขตทะเลทรายเร็วขนาดนี้อ่ะ บรือ~”

คิดพูดพลางตัวยังสั่นเพราะหนาวไม่หาย

“.....”

ไอซิสได้แต่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“นี่ไอซิสใช้เวทย์ไฟละลายเกราะไม่ได้หรอบรือ~”

คิดบอกกับไอซิส

“....ก็ได้อ่ะนะ แต่นายจะยอมหรอ”

“ทำมาเถอะน่า หนาวจะตายอยู่แล้ว”

ว่าแล้วไอซิสก็ร่ายเวทย์ใช้ “ไฟเยอร์บอล” พลังต่ำสุดให้กับคิด

“อ๊ากกกก ทำไมมันร้อนอย่างนี้เนี่ยย อ๊ากกกกกกก”

คิดร้องขึ้นอย่างร้อนรน

“ไม่เป็นอะไรหรอกคิด...จะร้อนอยู่อย่างนี้ไปอีก 5 นาทีก็หายแล้วล่ะ ทนๆหน่อยละกัน”

ไอซิสพูดและรีบเดินตามทุกคนไปทันที

ทุกคนเดินทางไปเรื่อยจนออกจากเขตป่าเข้าสู่หุบเขาที่สูงและลึกมาก อากามิคิดจะเปลี่ยนเส้นทางเพราะหุบเขาท่าทางอันตรายแต่ยังไงก็ต้องฝืนเดินต่อไปเพราะต้องไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น โดยรอบหุบเขา เต็มไปด้วยหินก้อนเล็กก้อนใหญ่เต็มไปหมด มีต้นหญ้าอยู่เล็กน้อยเพราะท่าทางแห้งแล้งอยู่

ผ่านมา 2 ชั่วโมง คิดก็หายร้อนจากสกิลแล้วแต่ต้องมาร้อนอีกครั้งเพราะอากาศของหุบเขา ทุกคนเข้าสู้เขตท่แห้งแล้งที่สุดของหุบเขา ท่าทางว่าหุบเขานี้จะแห้งแล้งมาหลายปี เพราะไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตหรือพืชเลย จะมีก็แต่ซากกระดูกของสัตว์ใหญ่ เล็กสัตว์ทั่วๆไปอีกหลายชนิด เนื่องจากทุกคนเดินไม่มีหยุดมาเกือบสองชั่วโมง ทุกคนจึงเหนื่อยล้ามาก แต่อากามิก็ไม่ยอมให้พักเพราะอาจจะหาทางออกจากหุบเขานี้ช้าเกินไป และอาจทำให้เสียเวลาหากหาทางออกไม่เจอก่อนตะวักตก

“ที่นี่น่ากลัวจังเลยอ่าเพชร มีแต่กระดูกสัตว์เต็วไปหมด”

โซลพูดพลางเอามือกอดแขนเพชรไว้

“ไม่เป็นไรหรอกน่าโซล อีกไม่นานเราก็ออกจากหุบเขานี้ได้แล้วล่ะ”

“เธอมองโลกในแง่ดีไปรึเปล่าเพชร เราเดินในหุบเขานี่มาหลายชั่วโงแล้วนะ”

โซลบอกกับเพชรอย่างร้อนรน

“น่าๆ เดินอีกหน่อยเถอะ เด๋วก็ถงเองนะ^^”

เพชรพูดพร้อมกับฉีกยิ้มให้กับโซลเล็กน้อย

วิ้ว~~~~วิ้ว~~~~

“ลมอะไรหอบพวกเจ้ามาถึงที่นี่ละเนี่ย”

เสียงใครบางคนดังก้องไปทั่วหุบเขาทำให้หลายคนผวากันยกใหญ่

“นั่นเสียงใครน่ะ”

อากามิพูดขึ้นอย่างเข็มแข็ง

“หึๆ! ไหนๆก็ไหนๆละ ข้าขอแนะนำตัวหน่อยละกัน ข้าคือ ดาร์กไลย์ ปีศาจแห่งความทุกข์ทรมานยังไงล่ะ!”

ปีศาจที่มีสีผมที่เทาด้านหน้าเป็นแฉกสีแดง มีดวงตาไร้แวว เล็บยาวเหมือนผีดิบ ใส่เสื้อแขนกุดมีผ้าสีน้ำตาลพันแขนหนึ่งข้างไว้มีปีกเหมือนปีกค้างคาวเล็กๆอยู่ด้านหลัง ท่าทางน่าเกรงขามกล่าวแนะนำตัว

“อะไรนะ!”

ทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกันทั้งทีม

“หึ! เจ้าฟังไม่ผิดหรอก ข้านี่แหละ ปีศาจที่แสนจะน่ากลัว ฮ่าๆๆๆ”

ดาร์กไลย์พูดพลางหัวเราะอย่างสะใจ

“เราไม่ได้ตกใจเรื่องนั้นซะหน่อย เราตกใจที่ปีศาจอย่างเจ้ามาอยู่ที่นี่ต่างหากล่ะ”

ชิร่าตอบกับดาร์กไลย์

“หึ! มันเรื่องของข้าน่า ไหนๆพวกเจ้าก็เข้ามาในนี้แล้วเจอกับสมุนของข้าหน่อยเป็นไงล่ะ”

ดาร์ไลย์พูดพลางแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

“จงออกมา จูปิเตอร์อีฟ”

ว่าแล้วปีศาจที่เกิดจากร่างของสัตว์ที่ตายไปทั้งหมดก็ปรากฎขึ้นาหลายสิบตัว ลักษณะมันเหมือนสัตว์ทั่วไปแต่ตามร่างกายจะมีน้ำหนองและแผลเต็มไปหมด พวกมันไม่รอช้ารีบบุกเข้าหาทุหหน่วยจากด้านหลังทันที

“เอ๊ะ ปีศาจนี่น่ากลัวจัง><”

“เฮ้ยแนทอย่างเพิ่งเล่นสิ ช่วยกันก่อน”

คริสพูดพลางหยิบอาวุธในตำนานของตนขึ้นมา

“สปีดซอร์ด” คริสใช้สกิลเพิ่มความเร็วในการฟันขึ้นเป็นสามเท่าแล้วใช้สกิล “เอิร์ธโกเลม”เรียกโกเลมออกมาช่วยต่อสู้ทันที

“ไปเลยโกเลมทุบมันให้แหลกไปเลย!”

โกเลมวิ่งไล่ทุบปีศาจจนแบนกับพื้นไปจนหมดและหายไป ทุกคนโล่งอกที่โกเลมกำจัดปีศาจได้หมด แต่ไม่นานปีศาจก็กลับคืนมาเป็นร่างเดิมทำให้ทุกคนตกใจกันยกใหญ่

“อะไรกันน่ะ เอิร์ธโกเลมของชั้นกำจัดมันไม่ได้อย่างงั้นหรอ”

คริสพูดขึ้นอย่างตกใจ

“ฮ่าๆ ตราบใดที่พวกแกอยู่ในหุบเขานี้ไม่มีทางที่จะกำจัดสมุนของข้าได้หลอกน่า หึๆ!”

ดาร์กไลย์พูดและหัวเราะอย่างสะใจ

“เราต้านมันไม่ไหวแน่ท่านอากามิ เราจะทำยังไงดี”

รินพูดพลางร่ายเวทย์หลายรูปแบบเพื่อต้านปีศาจพวกนั้นไว้ตลอด

“เราไม่มีทางเลือก รีบวิ่งไปข้างหน้ากันเถอะ ข้าคิดว่าอีกไม่นานก็ต้องออกจากหุบเขานี้ได้ และทุกคนจะต้องรอดอย่างแน่นอน!”

อ๊ากกกกกกกกกก

หน่วยป้องกันตอนนี้เสียชีวิตไปแล้วสามนายเพราะปีศาจนี้แข็งแกร่งมาก

“เรารีบไปกันเถอะ!”

อากามิตะโกนบอกทุกคนอย่างเข็มแข็งแล้วทุกคนก็วิ่งไปทางทิศตะวันออกเพื่อหาทางออกทันที

“หึ!จะไปไหนเล่า สมุนข้าตามมันไปอย่าให้มันหนีไปได้”

ดาร์กไลย์สั่งให้สมุนของตนวิ่งตามนักรบทุกคนไปแต่แล้วจู่ๆก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นตรงหน้าเหล่านักรบ และหน้าปีศาจ ปีศาจกลัวจะไม่ทันนักรบจึงวิ่งต่อไปและเมื่อพวกนั้นรู้สึกตัวมันก็วิ่งถอยหลังอยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะพวกนักรบที่วิ่งเข้าไปในแสงนั้นกลับออกมาจากหุบเขานั้นได้

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมเราออกมาจากหุบเขาได้ล่ะ”

โมโน่พูดอย่างงุนงง

“พวกเจ้าปลอดภัยกันใช่มั้ย..”

เสียงปริศนาดังก้องไปทั่วท้องฟ้าโดยที่ทุกคนมองไม่เห็นที่มาของเสียง

“ไม่ต้องมองหาข้าหรอกนะ เพราะข้าไม่ได้อยู่บนพื้นโลก คราวนี้ข้าได้ช้วยเจ้าไว้แล้วนะ หวังว่าครั้งหน้าเจ้าคงไม่ประมาทคู่ต่อสู้อีกล่ะ”

เสียงปริศนาดังขึ้นไม่หยุด

“ธิดาแห่งลูซิส นั่นท่านใช่มั้ย”

ชิร่าพูดขึ้นพลางมองไปที่ท้องฟ้า

“ใช่แล้วล่ะ ข้าเอง”

“ทำไมท่านบอกพวกเราเดินทางมาที่ทิศนี้ ทั้งๆที่มันมีแต่สิ่งอันตรายทั้งนั้น”

อากามิพูดขึ้น

“ที่ข้าให้พวกเจ้ามาทางทิศนี้ก็เพราะตามหาอาวุธในตำนานไงล่ะ ข้าไม่ยอมปล่อยให้พวกเจ้าเป็นอัตรายหรอกนะ ยังไงซะ ข้าก็จะคอยเฝ้ามองพวกเจ้าตลอดไป ตลอดไป...”

เสียงของธิดาแห่งสูซิสค่อยๆหายไปในที่สุด...

      ในที่สุดพวกเขาก็รอดพ้นจากหุบเขามรณะนี้ไปได้ ทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไรและจะเจออาวุธในตำนานชิ้นที่สามหรือไม่ โปรดติดตามอ่านต่อตอนหน้า...
The end of the chapter 15

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #448 เมื่อ: 19-10-2010, 16:56:36 »

อ้างจาก: The regulatory darkness. ที่ 19-10-2010, 11:33:48
ไม่ใช่สกิลที่กรอกไปนี่นา......เฮ้อ  - -*

กะธาตุมือฆ่าทรายมะได้นี่น๊า Cry

ยังไงกะได้ใช้ครบทุกอันแน่น๊า Evil

อ้างจาก: เอิร์ธคุงขอรับกระผม ที่ 19-10-2010, 11:34:30
ทำไมไม่ให้ฉันใช้สกิลเลย- -*หรือว่าจำสกิลไม่ได้- -*

จำได้ค่ะแต่ยังไม่ถึงตอน laugh laugh

เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #449 เมื่อ: 19-10-2010, 17:11:44 »

สนุกจัง Smiley

ป้าย:
หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 41