Chapter 13 มีดคู่สีทองในตำนาน
...เช้าวันรุ่งขึ้น...“เดินทางไปยังทิศตะวันออกสินะ งั้นพวกเราไปกันเถอะเดี๋ยวจะเสียเวลาไปซะเปล่านะ ออกเดินทางได้!”
อากามิพูดอย่างเสียงดังและเข้มแข็ง
“ยัตสึมิ เจ้าระวังข้างหลังด้วยนะ เพราะการเดินทางยังอีกยาวไกลเราไม่รู้ว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า”
ชิร่าบอกกับยัตสึมิด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เอาจริงเอาจัง
รูปแบบขบวนในการเดินทางอากามิและหน่วยเดินนำหน้าส่วนกลางคือยายูมิและเหล่าผู้กล้าทั้งเจ็ดกับเอลฟ์อีกสามคนส่วนท้ายขบวนคือชิร่ารินโมโน่และหน่วยหลังสุดที่คอยดูหลังคือยัตสึมิ ทุกคนเดินทางตั้งแต่ตะวันกำลังจะขึ้นเพราะไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้
เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง ทุกคนก็เดินทางมาถึงชายป่าแห่งหนึ่งที่รู้สึกว่าจะลึกมากคงหาทางออกยากและยิ่งไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้จึงต้องเดินทางต่อไป เมื่อถึงใจกลางป่าลึกทุกคนรู้สึกเหนื่อยอ่อน ถ้านับเวลาตอนนี้ ก็ประมาณ 3 โมงกว่า ทุกคนจึงตกลงกันว่าจะพัก ณ จุดนี้ก่อน อากามิไม่ประมาทจัดเวรยามไว้รอบๆถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าก็ตาม ภายในป่าเป็นป่าไม้ที่ไม่แปลกจากป่าทั่วไปเท่าไหร่แตกต่างเพียงแค่ว่าในป่านี้ ตามพื้นหญ้าเมื่อมีสิ่งมาสัมผัสกับพื้นพื้นนั้นจะมีแสงขึ้นตามจุดๆนั้น ใบหญ้าที่สีเขียวชอุ่ม เมื่อผู้คนย่างเท้าเข้าไปแตะก็มีแสงสีน้ำเงินอ่อนออกมาจากหญ้าเล็กน้อย ตามต้นไม้ที่ลำต้นน่าจะเป็นสีน้ำตาลเป็นเป็นต้นไม่ใหญ่แต่ลำต้นกลับเป็นสีเขียวชอุ่มเหมือนใบไม้ใบหญ้า ตามต้นไม้มีดอกไม้เกิดขึ้นตามลำต้นอย่างสวยงาม ส่วนบรรยากาศก็ร่มรื่นเป็นปรกติทั่วไป...
แกร่ก!
“เอ๊ะ! นั้นเสียงอะไรน่ะ”
ไอซิสพูดขึ้นอย่างตกใจ
“เสียงอะไรไอซิสพวกเรายังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนะ เธอหูฝาดรึเปล่า”
แนทพูดขึ้นอย่างงงๆ
“อืม~สงสัยหูชั้นคงฝาดน่ะ ทานข้าวกันต่อเถอะ”
ไอซิสพูดพลางหยิบเนื้อไก่ป่าขึ้นมากินต่อ
โฮกกกกกกกกกกกกกกก!!!!“เอ๊ะ!”
ทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกัน
“แย่แล้วครับท่านอากามิ มีมอนเตอร์ประเภทหมีมุ่งหน้ามาทางนี้เป็นฝูงเลยครับ!”
นักรบนายหนึ่งวิ่งมาหาอากามิอย่างแตกตื่น
“จะรอช้าทำไมล่ะ ไปตั้งรับไว้ก่อนเร็ว!”
อากามิพูดพลางดึงดาบของตนออกมาจากฝักข้างหลังตน
“ออ ท่านผู้กล้า หากท่านอยากพักผ่อนท่านก็อยู่แค่ตรงนี้อย่าไปไหนเด็ดขาด แต่หากท่านเกินคันไม้คันมือขึ้นมาก็รีบมาช่วยกันกำจัดหมีพวกนั้นซะ!”
อากามิพูดอย่างเข้มแข็งแล้ววิ่งตามนักรบนายนั้นไปทันที
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้พวกเราจะอยู่ได้ยังไงกันล่ะ ไปกันเถอะ!”
คริสพูดพลางรีบวางอาหารของตนลงและลุกขึ้นทันที
“อืม!”
ทุกคนตอบรับพร้อมกันและวิ่งตามอากามิไป
โฮกกกกกกกกกก!!!!!!!“ทำไมพวกมันเยอะขนาดนี้ล่ะ คาดว่าน่าจะประมาณร้อยกว่าตัว เราจะทำยังไงดีล่ะเยอะขนาดนี้น่ะจะไหวหรอ”
โซลพูดพลางทั้งสองมือยังกำมีดของตนไว้แน่น
“ไหวสิ เราฝึกมาแล้วนะ จำไม่ได้หรอครั้งก่อนยังไม่ได้ฝึกยังกำจัดหมีบ้าเลือดได้ตั้งสี่ตั้วคราวนี้ฝึกมาเรียบร้อยต่อให้เป็นพันเราก็ไหวอยู่แล้วล่ะน่า”
แนทพูดพลางใช้ทวนของตนแกว่งไปแกว่งมาด้านหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้หมีเข้ามาไกล้ได้
“อืม! งั้นเรามาลุยกันดีกว่านะ ^o^”
คิดพูดอย่างอารมณ์ดี
จากนั้นการต่อสู้ก็ได้เริ่มขึ้น แนทไม่รอช้าใช้ทวนของตนหมุนไปรอบๆตัวเพื่อกำจัดหมีให้ห่างออกจากตัวไประยะหนึ่ง
คิดไปใช้ปืนของตนยิ่งอย่างรวดเร็วและแม่นยำไปยังจุดอ่อนของหมีหลายตัว
ส่วนเพชรก็ใช้สกิล
Escapeบัฟให้กับตนเองและคนอื่นๆ แล้วกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้แล้วใช้สกิล
Arrow bomb ยิงไปที่ใจกลางของหมีทั้งหมดทำให้หมีตายไปหลายสิบตัว
โซลก็ใช้สกิล
รีฟูล ยิงไปที่กลุ่มหมีทำให้หมีตายไปหลายตัวเช่นกัน
ส่วนไอซิสก็พยามใช้ปีศาจลักซ่อนเพื่อตัดกำลังของหมีไปเรื่อยๆ
และเกิ้ล ก็วิ่งเข้าหากลุ่มหมีและใช้สกิล
Rei Toketsu ทำให้หมีแข็งไปหลายตัว
และคริสก็เข้าโจมตีหมีที่แข็งด้วยความว่องไวดุจสายลมเหมือนสายนักฆ่า ตอนนี้ในใจของคริส มีเพียงสิ่งเดียวคิดต้องการจะกำจัดหมีพวกนี้ให้หมดเพื่อทุกคนจะได้พักผ่อนในแบบที่ต้องการตามความประสงค์ที่พักจุดนี้ทันที
วิ้ง~~~~~~~~~~
ในขณะที่คริสกำลังกำจัดหมีด้วยความคิดนั้นอยู่จู่ๆก็มีลำแสงสีขาวปรากฏขึ้นที่ดาบคู่ของคริส แต่คริสไม่เอาะใจอะไรจึงกำจัดหมีไปเรื่อยๆในที่สุดหมีก็หมดไป พอลำแสงสีขาวนั้นหายไปสิ่งที่ทุกคนได้เห็นและต้องตกตะลึงกันทุกคนคือจากดาบคู่สีทองธรรมดาๆ กลับกลายเป็นดาบคู่สีทองที่ส่องประกายแวววาวเหมือนทำจากทองคำแท้ ด้ามจับเป็นเหล็กอย่างหนาสีทองอร่าม ดาบทั้งสองดูมีท่าทีว่าจะคมมากยิ่งขึ้น ตัวดาบมีอักขระพิเศษเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมและในตัวคริส เค้าก็รู้สึกได้ถึงพลังอะไรบางอย่างที่หมุนเวียนภายในร่างกายของเค้าและดาบคู่ เมื่อเค้าเริ่มไม่แน่ใจในพลังนั่นเค้าจึงลองใช้ดาบของตัวเองและใช้สกิล สปีดซอร์ด แล้วฟันไปที่ต้นไม้ ปรากฏว่าต้นไม้ขาดเป็นสี้ท่อนทั้งๆที่เค้าฟันไปแค่นัดเดียว จึงทำให้ทุกคนแน่ใจว่า ขณะนี้ อาวุธในตำนานชิ้นแรก ได้เผยโฉมออกมาแล้ว...
“ดาบ..คู่...ในตำนาน...”
คริสพูดขึ้นแบบเบาๆ
“อาวุธในตำนาน!~”
ทุกคนร้องขึ้นอย่างตื่นตกใจ
“คริสในทำยังไงน่ะ ทำไมอาวุธในตำนานของนายจึงปรากฏขึ้นล่ะ”
เพชรถามอย่างงงๆ
“ฉะ..ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็แค่ต่อสู้ไปคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปแล้วมันก็มาเองอ่ะ”
คริสตอบอย่างงงไม่แพ้กัน
“แต่ธิดาแห่งลูซิสท่านบอกว่าอาวุธในตำนานจะปรากฏให้เห็นก็ต่อเมื่อเรามองมันด้วยจิตที่บริสทุธ์และสติมุ่งมั่นไม่ใช่หรอ แล้ว แล้วทำไม..”
แนทพูดอย่างงงๆเช่นกัน
“ชั้นคิดว่าในเวลานั้นคริสเค้าอาจไม่ได้คิดอะไรที่ไร้สาระก็ได้นะ และอีกอย่างบางทีอาวุธในตำนานอาจจะอยู่กับพวกเราตลอดเวลาเลยก็ได้...”
เกิ้ลพูดแล้วทั้งหกคนก็ยกอาวุธของตัวเองขึ้นมาดูด้วยความสงสัย
“เอาล่ะชั้นว่าเราไปพักผ่อนกันต่อเถอะนะเหล่าผู้กล้าเดี๋ยวถ้าไม่ได้พักถึงเวลาเดินทางแล้วจะมาว่าข้าอีก”
อากามิพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วสบายใจ
“จริงด้วยนะ ข้าเองก็ยังไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ เราไปพักผ่อนกันต่อเถอะเหล่าผู้กล้า ยังเหลืออาวุธในตำนานอีกตั้งหกชิ้นนะ^^”
ชิร่าพูดพลางเก็บธนูของตนไว้ที่ด้านหลังดังเดิม
...2 ชั่วโมงผ่านไป...“เอาล่ะข้าคิดว่าทุกคนคงพักผ่อนกันเต็มที่แล้วล่ะน่ะ ขอให้ทุกคนเก็บสัมภาระของตัวเองเตรียมตัวเดินทางได้แล้วล่ะ”
อากามิพูดพลางเก็บสิ่งของเล็กๆน้อยของตนใส่กระเป๋าใบเล็ก
“ทุกคนคงพร้อมแล้วสินะ เอาล่ะรีบเดินทางกันต่อเถอะนะ!”
โมโน่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็ง
แล้วทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกทันที...
ดาบคู่ในตำนานได้เผยโฉมออกมแล้ว อาวุธชิ้นต่อไปคืออะไรและปรากฏในสถานที่ไหน โปรดติดตามอ่านต่อตอนหน้า...The end of the chapter 13