GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 26 27 [28] 29 30 ... 41
ผู้เขียน หัวข้อ: [Fiction] "Gold Crown" อภินิหารมงกุฎทองคำ  (อ่าน 6635 ครั้ง)
● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #405 เมื่อ: 15-10-2010, 21:05:21 »

ยาวได้ใจ >w<



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #406 เมื่อ: 15-10-2010, 21:05:54 »

อะไรยาว Evil

● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #407 เมื่อ: 15-10-2010, 21:09:39 »

บทไง



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #408 เมื่อ: 15-10-2010, 21:10:46 »

อ๋อหรอ Evil

● ρєтсн™
Hero Member
*****
กระทู้: 10,343


Rin Say : ฉันจะไม่ให้เธอเห็นน้ำตาของฉัน ..


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #409 เมื่อ: 15-10-2010, 21:15:48 »

อื้ม ทำไมหรอ ?



Len Say : ผมจะรอไม่ว่าจะนานแค่ไหน!! จนกว่าเธอจะกลับมา
ผมจะเก็บรักษาจดหมายของเธอดั่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #410 เมื่อ: 15-10-2010, 21:25:37 »

 Evilเปล่าๆกลับเข้าเรื่องกลับเข้าเรื่อง Evil

usa10249
Jr. Member
**
กระทู้: 220


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #411 เมื่อ: 16-10-2010, 10:45:39 »

สนุกจังเลยค่ะ



เครดิต GøøGle-KunG หรือผู้อาวุสโสของพวกเราค่า
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #412 เมื่อ: 16-10-2010, 16:08:05 »

กลับเข้าเรื่องไรอ่ะ woon

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #413 เมื่อ: 16-10-2010, 16:17:36 »

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ไกล้สงครามแล้ว=w=

 Shocked Shocked Shocked Shocked

GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #414 เมื่อ: 16-10-2010, 17:29:14 »

อ้างจาก: YinGNooN(xนูน้oeฝึกหั๑) ที่ 16-10-2010, 16:17:36
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ไกล้สงครามแล้ว=w=

 Shocked Shocked Shocked Shocked
ไวจัง=[]=



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #415 เมื่อ: 16-10-2010, 17:36:59 »

Chapter 12 ตามหาอาวุธในตำนาน

“เมื่อใดที่ดวงจันทราเต็มดวง เมื่อนั้น วันหายนะของโลกก็ใกล้เข้ามาถึง จงมุ่งหน้าไปทางทิศบูรพาเพื่อตามหาอาวุธในตำนาน สิ่งนั้นมิอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ขอเจ้าจงมองมันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ แล้วเจ้าจะได้พบสิ่งที่แข็งแกร่ง...คำใบ้แบบนี้น่ะง่ายเกินไปรึเปล่าอ่ะ”

คริสพูดขึ้นพลางเดินไปเดินมาไม่หยุด

“ง่ายแล้วนายรู้มั้ยล่ะคริส เดินไปเดินมาหลายๆรอบเนี่ยคิดออกบ้างรึเปล่า”

เพชรพูดขึ้นพลางทำท่าครุ่งคิดเกี่ยวกับคำไปต่อไป

“เมื่อใดที่ดวงจันทราเต็มดวง ก็แปลว่าพระจันทร์เต็มดวง เอ๊ะ! งั้นก็อีก 2 อาทิตย์ น่ะสิ เพราะอีกสองอาทิตย์ก็เป็นวันแรม 15 ค่ำแล้วอ่ะแสดงว่าอีกไม่นานแล้วสินะ ที่ปีศาจจะกลับมาน่ะ”

เกิ้ลไขปริศนาประโยคแรกอย่างตื่นตกใจ

“งั้นเราจะรอช้าได้ยังไงกันล่ะ รีบไขปริศนาต่อไปดีกว่านะ จะได้รูทางแก้ไขเรื่องพวกนี้”

แนทพูดอย่างร้อนรน

“จงมุ่งหน้าไปทางทิศบูรพา เพื่อตามหาอาวุธในตำนาน ทิศบูรพา บูรพา บูรพานี่ทิศอะไรหว่า…”

คิดพูดพลางทำท่าครุ่นคิดแบบตั้งอกตั้งใจ

“บูรพา..บูรพา..อ๋อ บูรพาก็คือทิศตะวันออกไงล่ะ!”

ไอซิสพูดขึ้นอย่างดีใจยกใหญ่

“อืม! งั้นก็แสดงว่า พวกเราจะต้องเดินทางไปยังทิศตะวันออกเพื่อตามหาอาวุธในตำนานทั้งเจ็ดสินะ”

โซลพูดพลางทำท่าครุ่นคิดไม่หยุด

“งั้นเราออกเดินทางกันตอนนี้เลยมั้ยจะได้ทันเวลา เพราะอาวุธตั้งเจ็ดชิ้น แถมมองเห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้เพราะฉนั้นเราต้องมีสติเราจึงต้องรีบนะเพราะเวลาที่คนเราจะมีสติน่ะมันมีแค่บางเวลาเท่านั้น และอีกอย่างชั้นว่าถ้าเราตามหาตั้งแต่วันนี้อาจจะได้ครบก่อนวันแรมก็ได้นะ”

วีอาเทียสเสนอแผนการ

“แต่เราจะออกจากค่ายปุ๊บปั๊บไม่ได้หรอกนะ เพราะข้างนอกมันอันตรายมากเพราะฉะนั้นชั้นว่าเราไปหาท่านเรอาดีกว่า”

เกิ้ลพูดแนะนำเสริมเข้าไป

“เดี๋ยวนะ เดี๋ยวนะ คำใบ้มีสองคำใบ้ไม่ใช่รึไง เราลองไขปริศนาทั้งสองให้ได้แล้วเอามารวมๆกันดูดีมั้ยล่ะ”

แนทเสนอความคิดเห็น

“อืม~ก็จริงนะคำใบ้จากเทพธิดาจูลี่ ท่านบอกไว้ว่า เมื่อใดที่เปลวไฟแห่งความหวังนิรันต์ปรากฏจงตั้งจิตอธิฐานทุกครั้งที่พบ แล้วสักวันเจ้าจะได้พบกับอิสรภาพของเจ้า... แล้วเปลวไฟแห่งความหวังนิรัยต์ล่ะ”

“จริงสิทุกคน! ตอนนี้น่ะพระอาทิตย์ตกแล้วนะ ต่อไปก็ขึ้นอีกครั้งยังไงล่ะ”

แนทพูดขึ้นอย่างดีใจสุดขีด

“ = = มันเกี่ยวอะไรกันอ่ะแนท”

คิดพูดขึ้นอย่างงงๆ

“นี่นายยังไม่เข้าใจที่แนทพูดหรอคิด ที่แนทเค้าพูดน่ะเป็นคำไขปริศนาที่แปลได้ง่ายๆเลยนะ พระอาทิตย์ขึ้นและตกน่ะ หมายถึงไม่มีความหวังไหนที่เปรียบเทียบได้กับพระอาทิตย์ขึ้นและตกยังไงล่ะ”

เพชรอธิบายให้กับคิดและทุกคนฟัง

“ยังไม่เค้าใจอยู่ดีอ่า”

โซลพูดขึ้นพร้อมทำหน้างุนงง

“ก็หมายความว่าไม่มีความหวังไหนอีกแล้วที่ทุกคนหวังมากตลอกกาลเท่าพระอาทิตย์ขึ้นและตกไงล่ะสมมุติว่าตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นและเป็นวันสุดท้ายในโอกาศที่เราจะตามหาอาวุธในตำนานวันนั้นก็คือความหวังสุดท้ายของเรายังไงล่ะจ๊ะ”

แนทอธิบายเพิ่มเติมให้กับทุกคนรู้

“อย่างนี้นี่เอง เปลวไฟแห่งความหวังนิรันต์ เปลวไฟก็คือแสงอาทิตย์ที่ร้อนเร่าความหวังนิรันต์ก็คือพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสดงว่าคำใบ้นี้บอกให้เราอธิฐานทุกครั้งที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกไปเรื่อยๆแล้วสักวันเราจะได้พบกับอิสรภาพของเรานั่นเอง”

โซลพูดเสริมความกระจ่างเข้าไปเพราะตนก็เริ่มเข้าใจความหมายที่แนทพูด

“เข้าใจกันแล้วสินะคะ พระอาทิตย์ก็ตกไปนานแล้วสงสัยเราจะต้องเริ่มอธิฐานพรุ่งนี้เช้าแล้วล่ะ สรุปเลยนะคะว่าตอนนี้เราแยกย้ายกันกลับเต็นท์ก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าก็ตื่นขึ้นมาอธิฐานพร้อมกันแล้วค่อยไปหาท่าเรอาต่อเลยละกันนะ”

แนทนัดแนะกับทุกคน

“อืม งั้นพวกเราขอตัวกลับเต็นท์ก่อนละกันนะ”

นิวทิร่ากล่าวลาพลางเดินกลับเต็นท์ไปพร้อมกับสหายทั้งสองคน

“งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ”

เกิ้ลพูดขึ้น แล้วทุกคนก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อนทันที

…เช้าวันรุ่งขึ้น…

วิ้ง~~~~~

แสงของดวงอาทิตย์ความหวังยามเช้าของทุกคนค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยบนท้องฟ้า เหล่าผู้กล้าและเอลฟ์ทั้งสามต่างรวมใจกันอธิฐานตามที่เทพธิดาจูลี่ได้บอกไว้ เวลาเจ็ดโมงตรงทุกคนไปทานข้าวที่บ้านของไบรอันแล้วตกลงกันเรื่องที่จะปรึกษากับท่านเรอากันไปพลางๆ หลังจากทานอาหารเสร็จทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่เต็นท์ของเรอาทันที และสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องแปลกใจก็คือภายในเต็นท์ไม่ได้เป็นห้องประชุมเหมือนครั้งก่อนแต่อย่างใด แต่กลับเป็นเหมือนที่พักปกติทั่วไปแตกต่างตรงที่ว่ามีความกว้างมากกว้างกว่าที่เห็นจากภายนกด้วยซ้ำ

“....”

“ทำไมมันเงียบอย่างนี้ล่ะ ท่านเรอาไปไหนน่ะ”

คิดพูดอย่างสงสัย

“มาหาข้ามีอะไรรึเหล่าผู้กล้า…”

“ท่านเรอา”

แล้วทุกคนก็นั่งคุกเข่าลงทันที

“ไม่ต้องนั่งกับพื้นหรอกเชิญมานั่งบนโต๊ะนี่ก่อนเถอะนะ”

เรอาชักชวนทุกคนอย่างร่าเริงแบบเยือกเย็น

“ว่าแต่พวกเจ้ามาหาข้าถึงที่นี่ มีธุระอันใดรึท่านผู้กล้า...”

เรอาถามขึ้นพลางมือจัดเอกสารอะไรบางอย่างอยู่

“ที่พวกเรามาที่นี่เพราะเมื่อวานนี้พวกเราได้ทำการไขปริศนาคำบอกใบ้ทั้งสองข้อขององเทพธิดาทั้งสองไว้แล้วครับ พวกเราจึงอยากจะมาขอความร่วมมือจากท่านเรอา เพื่อทำตามคำบอกใบ้นั้นครับ”

คริสบอกกับเรอาอย่างสุภาพ

“แล้วพวกเจ้าไขปริศนาได้ว่ายังไงบ้างล่ะ”

เรอาถามคืนทันที

“จากคำใบ้ของเทพธิดาจูลี่ที่กล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่เปลวไฟแห่งความหวังนิรันต์ปรากฏจงตั้งจิตอธิฐานทุกครั้งที่พบ แล้วสักวันเจ้าจะได้พบกับอิสรภาพของเจ้า... พวกเราได้คำตอบมาว่าเปลวไฟแห่งความหวังนิรันต์คือพระอาทิตย์ขึ้นและตกเพราะทุกความหวังจะมีเวลาจำกัดพระอาทิตย์ขึ้นและตกจึงเป็นความหวังของทุกคนชั่วนิรันต์ และความหมายรวมๆก็คือ จงอธิฐานกับดวงอาทิตย์ทุกครั้งที่ขึ้นและตกเพื่อสักวันเราจะได้พบกับอิสรภาพของเราค่ะ และส่วนคำบอกใบ้ของธิดาแห่งลูซิสที่กล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่ดวงจันทราเต็มดวง เมื่อนั้น วันหายนะของโลกก็ใกล้เข้ามาถึง จงมุ่งหน้าไปทางทิศบูรพาเพื่อตามหาอาวุธในตำนาน สิ่งนั้นมิอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ขอเจ้าจงมองมันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ แล้วเจ้าจะได้พบสิ่งที่แข็งแกร่ง... พวกเราตีความหมายได้ว่า เมื่อวันที่พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งคือวันแรม 15 ค่ำ ของอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งก็คือเรามีเวลาแค่ 14 วันในการตามหาอาวุธในตำนานเพราะถ้าเราช้าถึงวันพระจันทร์เต็มดวงก่อนเราอาจจะเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับดราโกเนียสไม่ทันเราจึงต้องรีบออกตามหาอาวุธในตำนาน ซึ่งองเทพธิดาได้บอกให้เรามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกแล้วเราจะได้เจอกับอาวุธในตำนานทั้งเจ็ด แต่เราไม่สามารถที่จะมองเห็นอาวุธนั้นได้ด้วยตาเปล่า เราต้องตั้งจิตและสติให้มั่น ทำจิตใจให้บริสุทธิ์เราถึงจะสามารถมองเห็นอาวุธในตำนานได้ค่ะ”

แนทอธิบายความหมายของคำใบ้จากองเทพธิดาให้กับเรอาได้รับรู้

“นั่นก็หมายความว่าพวกเจ้าจะต้องรีบเดินทางเพื่อตามหาอาวุธในตำนานน่ะสินะ”

“ใช่แล้วครับท่านเรอา เพราะฉะนั้นพวกเราคิดไว้ว่า หากออกไปเพียงแค่พวกเราอาจจะเจออันตรายที่ไม่คาดคิด เราจึงต้องการเพื่อนฝูงหรือนักรบที่พอจะไปกับเราได้เพื่อจะได้ออกเดินทางไปพร้อมๆกันในวันพรุ่งนี้น่ะครับ”

คิดอธิบายให้กับเรอาฟัง

“อืม~ข้าเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะ สรุปแล้วที่พวกเจ้ามาที่นี่ก็เพราะต้องการมาของกำลังเพื่อจะเดินทางตามหาอาวุธในตำนานใช่มั้ยล่ะ งั้นรอแปปนึงละกันนะ...ซึคุเบะ! ซึคุเบะมาหาข้าทีซิ”

เมื่อเรอากระจ่างแจ้งกับสิ่งที่ทุกคนต้องการแล้วเรอาก็เรียกซึคุเบะมาทันทีแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้กับซึคุเบะได้รับหน้าที่ไป ไม่นานซึคุเบะก็กลับเข้ามากระซิบตอบกับเรอาทันที

“เอาล่ะนะเมื่อกี้ข้าให้ซึคุเบะเตรียมคนไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้วล่ะ เจ้าจะออกไปทำความรู้จักก่อนมั้ย”

เรอาถามทุกคนด้วยสายตาที่เยือกเย็น

“ก็ดีเหมือนกันค่ะ...เวลาเดินทางจะได้ไม่ต้องมาทำความรู้จักกันให้เสียเวลา”

ไอซิสพูดพลางฉีกยิ้มเล็กน้อย

“อืม~งั้นตามข้ามาเลยนะ”

ว่าแล้ว เรอาก็พาทุกคนเดินออกมาจากเต็นท์แล้วมุ่งหน้าไปที่กลางสนามฝึกที่มีผู้คนมากมายทันที

“นี่อากามิแม่ทัพหน่วยบุกโจมตีคิดว่าเจ้าคงจะรู้จักแล้วละนะ อากามิเค้าจะพาพวกเจ้าเดินทางตามหาอาวุธในตำนานเอง และนอกจากอากามิแล้วก็มีชิร่าและหน่วยโจมตีไกล รินโมโน่และหน่วยซัพพอร์ตอีกประมาณ10คน แล้วยัตสึมิก็จะไปคอยคุ้มกันพวกเจ้ายามราตรี และอีกคนที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางคือเครลิคหรือนัน ข้าจะให้ยายูมิไปกับพวกเจ้าด้วยสรุปแล้วทุกคนที่ข้าแนะนำไปจะเดินทางไปพร้อมกับพวกเจ้านพรุ่งนี้เช้า”

“ท่านเรอาคะ ถ้ายายูมิไปกับเราแล้วนันที่ไหนจะอยู่ที่ค่ายละคะ”

โซลถามอย่างสงสัย

“ไม่เป็นไรหรอกที่ค่ายนี้ยังมีมากิอยู่ไม่เป็นไรแน่เพราะมากิก็เป็นนันเหมือนกันพวกเจ้าสบายใจได้”

เรอาอธิบายเรื่องหมอของค่ายให้กับทุกคนฟัง

“เอาล่ะข้าคิดว่าพวกเจ้าคงไม่อยากลำบากตอนเดินทางหลอกนะ เดี๋ยวข้าจะให้ซึคุเบะช่วยพวกเจ้าหาเสบียงเตรียมไว้สำหรับการเดินทางพรุ่งนี้ละกันนะ เพราะคนอื่นเค้าก็เตรียมอาวุธไว้น่ะ  อ่ะ! ซึคุเบะมาพอดีเลย เจ้าช่วยพาเหล่าผู้กล้าและเอลฟ์ของเราไปหาเสบียงเตรียมไว้สำหรับการเดินทางพรุ่งนี้ด้วยนะ”

ว่าและซึคุเบะก็พาทุกคนไปจัดเตรียมอุปกรณ์และเสบียงสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ทันที...

      การเดินทางของพวกเขาจะเป็นอย่างไร จะมีอะไรเกิดขึ้นขณะเดินทางหรือไม่ โปรดติดตามอ่านต่อตอนหน้า...
The end of the chapter 12

●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #416 เมื่อ: 16-10-2010, 17:42:24 »

อ้างจาก: GøøGle-KunG ที่ 16-10-2010, 17:29:14
อ้างจาก: YinGNooN(xนูน้oeฝึกหั๑) ที่ 16-10-2010, 16:17:36
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ไกล้สงครามแล้ว=w=

 Shocked Shocked Shocked Shocked
ไวจัง=[]=


 Evil Evil Evil

SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #417 เมื่อ: 16-10-2010, 18:07:00 »

ยาวววววววดีจัง - -"



สนใจจิ้มเลย >0<



เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #418 เมื่อ: 16-10-2010, 18:21:16 »

หนุกจัง Smiley

SHUT UP
Hero Member
*****
กระทู้: 7,692

Kami Korosu !!!!!


Re: [Fiction] เรื่อง "อภินิหารมงกุฎทองคำ"
« ตอบ #419 เมื่อ: 16-10-2010, 18:24:48 »

สงครามเร็วๆละ ฆ่ากันมันส์ๆ



สนใจจิ้มเลย >0<



ป้าย:
หน้า: 1 ... 26 27 [28] 29 30 ... 41