บทที่ 28. กระจายข่าวเพื่อรวบรวมกำลังรบ
รุ่งเช้าผ่านเข้ามาที่ป่าแกรนฟอเรส แสงที่สอดส่งรอดมาตามใบไม้กิ่งไม้และบรรยากาศยามเช้าในป่าแกรนฟอเรสแบบนี้ ทำให้ภาพที่เห็นเกินคำบรรยายสำหรับอาริง เพระอาริงไม่เคยเข้ามาในป่าแกรนฟอเรสแห่งนี้
ราชินีแห่งป่าไม้ : "ทำทั้งคืนได้มาทั้งหมด 3ก้อน "(ราชินีแห่งป่าไม้ เอาก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ใหม่ที่เป้นสีรุ้งที่หลอมรวมกับขนนกศักดิ์สิทธิ์และกลิ่นไอของป่าแกรนฟอเรส เอามาวางให้พวกโยฮานดู)
อาริง : "สวยจังเป้นสีรุ้งเลย" (อาริงได้แค่ดู แต่ไม่สามารถจับได้ เพราะประกี้แค่เอานิ้วแหย่ไปจับแค่นิดเดียวยังหมดแรงยิ่งกว่าที่เดินเหยียบเข้ามาในป่าแกรนฟอเรสเมื่อวานนี้เลย)
โยฮาน : " ได้แค่ 3ก้อนก่อนหรือ งั้นคงต้องอยู่ที่นี่รออีกก้อนแล้วค่อยเอากลับไปพร้อมๆกัน"
ราชินีแห่งป่าไม้ : " ไม่ใช่ๆ ลูกต้องเอากลับไปแค่ 3ก้อน ส่วนอีก 1ก้อน แม่จะทำและเก้บไว้เอง เพราะแม่ได้คุยกับเหล่าเอลฟ์แล้ว เผ่าเอลฟ์ของเราจะร่วมสู้ด้วย โดยที่เมือเรดคลิฟพวกเราจะจัดการเอง เจ้ากับคนของเจ้ากลับไปทำหน้าที่เมืองอื่นเถอะ"
โยฮาน : "เยี่ยมเลย แบบนี้เราก็ได้พันธมิตรชั้นยอดมาช่วยพวกเราได้อีกแล้ว"(โยฮานหันไปมองหน้าทุกคน และทุกคนก็มีสีหน้าดีใจ)
ราชินีแห่งป่าไม้ : " แต่คนที่จะกลับไปพร้อมหินมีแค่เจ้าและนักรบ20คนนั้นนะ ส่วนแม่หนูอาริงนี่ต้องอยู่กับข้าก่อน" ( ราชินีแห่งป่าไม้พูด มองและชี้ไปที่อาริง)
โยฮาน : " จะให้อาริงอยู่ที่นี่ได้ยังไง แค่จะยืนอาริงยังแถบยืนไม่อยู่เลย เพราะป่าแห่งนี้ไม่เหมาะกับนาง"
ราชินีแห่งป่าไม้ : "เรื่องป่านี้ไม่ต้องห่วง แม่จะจัดการให้เค้าเอง ส่วนที่ให้นางอยู่ต่อ เพราะจะให้นางเป้นคนนำกองกำลังเอลฟ์และกำลังของป่าแกรนฟอเรสบุกเมืองเรดคลิฟ เพราะเผ่าเอลฟ์ไม่ชำนาญการศึกมากนัก เลยต้องอาศัยคนที่มีฝีมือดีๆแบบนางช่วย ถ้าไม่ตกลงก็ไม่ต้องเอาหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งไป"
อาริง : "ตกลง ฉันจะอยู่ช่วยทางนี้เอง"
โยฮาน : " แต่....."(โยฮานจะพูดต่อ แต่เอาริงเอามือมาปิดปากโยฮานไว้ไม่ให้พูดต่อ)
อาริง : " ไม่มีแต่ จำไม่ได้หรือ ว่าเราต้องทำลายแท่นเสาหินและยึดเมืองคืนให้ได้ไวที่สุด"(อาริงมองไปที่ตาของโยฮาน เหมือนกับว่าให้เชื่อเค้า)
โยฮาน : " ตามใจเจ้าละกัน ยังไงก็ระวังตัวเองด้วยละ "
อาริง : " อ้อ... ลืมบอกไป ท่านยังจำฝูงหมาป่าไลแคนที่เราอาศัยมาได้ไหม ก่อนที่เราจะแยกจากพวกมัน ข้าคุยกับตัวจ่าฝูงให้แล้วนะ ว่าให้ช่วยรออยู่แถวๆนั้นสัก2-3วัน ถ้าพวกเรากลับออกมาให้ไปส่งพวกเราที่ใกล้ๆป้อมเดธวิลเล่ย์ด้วย ส่วนค่าจ้างก็เหมือนเดิม แต่ถ้าเสบียงไม่พอ พอถึงป้อมเดธวิลเล่ย์ ค่อยไปขอเบิกจากป้อมเดธวิลเล่ย์มาให้เหล่าหมาป่าไลแคนก็ได้"(อาริงบอกและโยฮานก็ยิ้มๆกับอาริงที่เค้าวางแผนการเดินทางขากลับแบบไวที่สุดให้แล้ว)
โยฮาน : " เจ้านี่ละน้าจริงๆเลย เตรียมการพร้อมให้เสร็จเลย "(โยฮานพูดยิ้มๆและเอามือลูบหัวอาริงเบาๆ และโยฮานก็เก้บหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งทั้ง 3ก้อนและแบกขึ้นหลังไป และขอตัวรีบกลับออกไป จะได้ทันถึงป้อมเดธวิลเล่ย์ก่อนค่ำ) ครึ่งวันต่อมา พวกของโยฮานก้มาถึงป้อมเดธวิลเล่ย์ และให้ค่าจ้างกับฝูงหมาป่าไลแคน อาเวียเห็นนักรบกำลังให้เนื้อกับฝูงหมาป่าไลแคนก็นึกถึงอาริงทันที เลยเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับพวกไลแคนว่าคนที่คุยให้คืออาริงใช่ไหม โยฮานก็รู้ทันที่ว่าอาเวียเป้นพรรคพวกของอาริง โยฮานเลยคุยปรึกษาหารือในแผนการณ์ที่จะบุกในแต่ละเมือง อาเวียเลยบอกกับโยฮานว่า อีก5วัน เค้าจะทำการนัดผู้นำของแต่ละกลุ่มที่อาเวียรู้จักให้มาประชุมกันที่ป้อมเดธวิเล่ย์แห่งนี้ โยฮานก็เลยบอกว่าทางเค้าก็จะไปบอกผู้นำของแต่ละกลุ่มให้มาประชุมที่นี่เหมือนกัน และโยฮานก็แยกย้ายกลับไปที่บางกระท่อม เพื่อเตรียมตัวส่งข่าวให้แต่ละผู้นำที่เป้นพันธมิตรทราบ
ส่วนอาริงที่อยู่ที่ป่าแกรนฟอเรส นอกจากรอหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้นอันที่4 แล้ว อาริงก็โดนราชินีแห่งป่าไม้เอาหูเอลฟ์ปลอมมาใส่ที่หุของอาริง หูเอลฟ์นั้นจะเป็นของปลอมแต่ก็มีพลังพิเศษที่คล้ายๆกับพวกเอลฟ์ เลยทำให้อาริงสามารถมีพลังกลับมาเหมือนตอนที่อยู่นอกป่าแกรนฟอเรส เลยทำให้อาริงสามารถเดินในป่านี้ได้ตามปกติแล้ว และอาริงยังโดนราชินีแห่งป่าไม้ให้ไปนอนในโพรงต้นไม้โบราณที่เป็นต้นเดียวกันกับใกล้ๆหินศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่ราชินีแห่งป่าไม้บินลงมาตอนแรก ราชินีแห่งป่าไม้บอกว่าให้ไปนอนในนั้น 2วัน 2คืน แล้วแผลภายในของแขนด้านซ้ายที่ขาดจะได้หายสนิทสักทีจะได้ไม่มีอาการเจ็บมารบกวนที่แขนนั้นอีก และเรื่องแขนที่ขาดยังก็ต้องตัดใจเพราะเกินกำลังแล้ว เพราะแขนมันขาดมานานแล้วช่วยไมได้แล้ว ซึ่งอาริงเองก็เข้าใจและไม่สนใจเรื่องแขนซ้ายที่ขาดแล้ว เพราะอาริงก็ได้วิถีดาบแบบใหม่มาใช้แล้วนั่นเอง และเมื่อครบ 2วันที่อาริงนอนใต้โพรงต้นไม้โบราณใหญ่ อาริงก็บอกกับราชินีแห่งป่าไม้ว่าตัวเองต้องไปที่นึงก่อน ถ้าสำเร็จอาจจะได้พันธมิตรอีกกลุ่มมาช่วยรบที่เมืองเรดคลิฟด้วยก็ได้ เพราะเท่าที่อาริงดูกองกำลังเอลฟ์มีแค่ไม่กี่ร้อยคน และมอนสเตอร์ในป่าที่สู้รบได้แบบจริงๆก็มีน้อย อาริงเลยจะไปหาคนๆหนึ่งก่อน ซึ่งราชินีแห่งป่าไม้ก็เข้าใจสถานการณ์เลยให้อาริงออกไปจากป่าแกรนฟอเรสได้ อาริงเลยเก็บข้างของและเดินออกจากป่าแกรนฟอเรสไป เพื่อต้องไปสถานที่นึงก่อน ซึ่งอาริงเคยตั้งใจจะไปตั้งนานแล้วหลังจากที่ไปหาเคออสติคแล้วก็กะจะแวะไปสถานที่หนึ่ง แต่พอดีดันเกิดเรื่องที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ก่อน เลยทำให้ไม่ได้ไปสถานที่นั้นสักที แต่ตอนนี้อาริงได้โอกาศแล้วเลยเดินทางไปหาซะเลย3 ชั่วโมงต่อมา อาริงก็เดินลัดเลาะมาตามชายหาดและขึ้นไปบนเนินหินสูงริมทะเลและมองไปที่ถ้ำโจรสลัด ที่มีกองเรือรบโจรสลัดประมาณ 10ลำจอดทอดสมออยู่ไม่ไกลจากถ้ำโจรสลัดนัก อาริงก็รีบเดินจนมาถึงหน้าถ้ำโจรสลัดก้เจอเหล่าโจรสลัดกำลังจัดเตรียมเสบียงและอาวุธขึ้นเรือรบอยู่ และบนเรือรบนั้นก็มีกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ซึ่งเป็นหัวหน้าของเหล่าโจรสลัดพวกนี้คุมการทำงานอยู่
อาริง : "ไงท่านหัวหน้าโจรสลัดสุดหล่อ.....สบายดีไหม เพื่อนเก่ามาเยี่ยม"(อาริงตะโกนเรียกกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์)
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : " อ้าว...นึกว่าใครที่ไหนมาเรียกแบบนี้ ที่แท้ก็เจ้านี่เอง แต่เอ....มาในสถานการณ์แบบนี้ข้าคงไม่ต้องเดาให้ยากเลยใช่ไหม คงมาเรื่องที่จะบุกยึดเมืองเรดคลิฟคืนใช่ไหม "(กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ ก้มหน้าลงมาพูดจากบนเรือ เพราะอาริงยังยืนอยู่ที่ชายหาด)
อาริง : " แหม...สายข่าวของท่านนี่ดีจริงๆ รู้ไปหมด "
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : " ก็แน่ละสิ ข้าก็ล่องเรือไปตามปกตินี่ละ แต่เมืองเรดคลิฟก็จอดไม่ได้ จะไปเซาเทรินไซร์ก็จอดขายของที่เมืองนั้นไม่ได้เหมือนกัน มอนสเตอร์อาศัยยึดเมืองกันหมดเลย ว่าแต่ข้าก้มลงพูดแบบนี้และเจ้าก็เงยหน้าคุยแบบนี้ ต่างคนก็ต่างเมื่อยคอ เจ้าขึ้นมาบนเรือก่อนดีกว่า เดี๋ยวข้าจะโยนสะพานเชือกให้"(กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์พูดและทำท่าจะโยนสะพานเชือกให้ แต่อาริงก็ชี้ให้ดูแขนซ้ายของตัวเองว่าขาด เลยไม่สามารถที่จะปีนขึ้นไปได้ กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์เลยลงมานั่งคุยกับอาริงที่โขดหินแทนพร้อมทั้งสั่งให้เหล่าลูกน้องนำอาหารมาให้อาริงกิน)
อาริง : "ขอบใจนะสำหรับการต้อนรับแบบนี้"
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : " ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนกันแท้ๆ ว่าแต่เจ้าเป้นเอลฟ์ด้วยหรือนี่ถึงได้มีหูยาวแบบพวกเอลฟ์ แถมเรื่องแขนขาดมันเป้นยังไง และสถานการณ์ตอนนี้ของแต่ละเมืองเป้นยังไง ลองค่อยๆเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ"(กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ถามและอาริงก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่ประสบมาและใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะเล่าจบ เพราะกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ก็ถามนู่นนี่ตลอด)
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : "เรื่องที่จะให้ข้าไปช่วยรบที่เมืองเรดคลิฟ ข้าไม่มีปัญหาหรอก เพราะข้าก็อยากจะรบอยู่แล้ว เพียงแต่กำลังของข้าไม่พอไม่งั้นข้าก็ยึดเมืองเรดคลิฟคืนแล้วเหมือนกัน เพราะในเมืองนั้นนอกจากพวกซอเรียนแล้ว ยังมีเผ่าก๊อบบินร่วมอยู่ด้วย ซึ่งพวกก๊อบบินมีปืนใหญ่เหมือนกัน พวกมันเลยตั้งปืนใหญ่ไว้แตมแนวทะเลและยิงดักไม่ให้เรือข้าเข้าใกล้เมืองเรดคลิฟ "
อาริง : "ขอบคุณนะที่ท่านก็คิดจะช่วยพวกเรา แต่ท่านพูดถึงก๊อบบิน ทำไมพวกนั้นถึงอยู่ฝ่ายโน้นได้ ข้าว่ามันแปลกๆอยู่นะ ข้าว่าพวกก๊อบบินคงมีเหตผลบางอย่างแน่ๆ ถึงได้เข้าร่วมกับฝ่ายโน้น"
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : "พวกก๊อบบินช่างหัวมันก่อนเถอะ ไว้ตอนรบก็รู้เอง แต่เรื่องช่วยยึดเมืองนี่ไม่ต้องขอบคุณ เพราะเป็นการน้ำพึ่งเรือเสือก็พึ่งป่า ถึงข้าเป็นกลุ่มโจรสลัด แต่ถ้าไม่มีเมืองท่าให้จอดไปขายของพวกข้าก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน"(กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์พูดและยิ้มแฮะๆๆ ซึ่งอาริงก็เข้าใจ)
อาริง : "งั้นอีก 2วันตอนพระอาทิตย์ขึ้น เราก็เริ่มโจมตีเลยนะ (อาริงพูดและนั่งวางแผนการกับกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์อยู่นาน และพอวางแผนเสร็จเป็นทีเรียบร้อย อาริงก็ขอตัวรีบกลับเพราะจะได้ไปเตรียมกองทัพเอลฟ์เพื่อให้พร้อมโจมตีในอีก2วันข้างหน้า)
กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ : "ก่อนไป ข้าขอทดสอบเจ้าหน่อยได้ไหม เพระเจ้าแขนขาดแบบนี้จะเป้นคนนำกองท้พเอลฟ์มาช่วยได้ยังไง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้ใจนะ แต่ข้าเป้นห่วงเจ้ามากกว่ากลัวจะมีอันตราจากการบุกยึดเมืองครั้งนี้"
อาริง : " งั้นท่านดูนี่ละกันนะ " อาริงพูดเสร็จก็ชักดาบเขี้ยวทมิฬออกมาถือไว้ที่มือขวา และหันไปที่ต้นไม้ขนาดกลางๆต้นหนึ่ง และพริบตานั้นต้นไม้ต้นนั้นก็ถุกฟันขาดเป้นเสี่ยงๆ โดยที่กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์
เห็นแค่อาริงยืนถือดาบเฉยๆ อาริงเลยบอกให้ฟังว่าเป้นวิชาดาบใหม่ของอาริงดาบความเร็วสูง ซึ่งกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์เห็นดังนั้นเลยหมดห่วงอาริง และอาริงก็ลากลับไปเตรียมตัว และกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ก็สั่งระดมกลุ่มโจรสลัดให้พร้อมและระดมเรือและคนให้ได้มากที่สุดภายใน 1วัน)-----------ตัดเรื่องมาทางลูฟเฟ่นและวาเนสซ่า------------
ครึ่งเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่แยกออกมาจากกลุ่ม ลูฟเฟ่นพาวาเนสซ่าเดินไปยังสถานที่ต่างๆ และผ่านตามเมืองต่างๆก็เห้นสภาพเมืองที่โดนมอนสเตอร์ยึดครอง และลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าก็เจอชาวบ้านและนักรบหลายร้อยคนเหมือนกัน ที่กระจัดการจายอยู่ตามป่าต่างๆ ลูฟเฟ่นเลยบอกสถานที่ปลอดภัยที่ป้อมเดธวิลเล่ย์และที่หน้าถ้ำผลึกไป แต่ก็ยังมีชาวบ้านและนักรบอีกหลายร้อยคนที่ไม่ยอมไปไหน และคอยปักหลักอยู่ในป่า และสร้างหมู่บ้านเล็กๆไว้เพื่อคอยสะสมเสบียงและสะสมกำลังคนเหมือนกัน ซึ่งลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าก็เห็นตรงกันว่า พวกเค้าจะอยู่ช่วยด้วย และก็ส่งข่าวสารไปยังป้อมเดธวิลเล่ย์ตลอดเวลา
ทหารส่งสาร : " ท่านลูฟเฟ่นๆ มีจดหมายมาจากป้อมเดธวิลเล่ย์"
ลูฟเฟ่น : " ขอบใจนะ " (ลูฟเฟ่นรับจดหมายมาแล้วก้อ่านอย่างถี่ถ้วน)
วาเนสซ่า : " จดหมายของอาเวียหรือ"
ลูฟเฟ่น : " ใช่แล้ว อาเวียส่งข่าวมาว่า อีก 5วันให้ผู้นำของแต่ละกลุ่มไปประชุมกันที่ป้อมเดธวิลเลย์ เพราะมีวิธีกำจัดแท่นเสาหินนั้นแล้ว และจะได้ประชุมร่วมมือบุกยึดเมืองคืนพร้อมๆกัน เลยต้องประชุมเหล่าผู้นำก่อนว่าแต่ละคนมีนักรบและพัธมิตรที่จะรบเท่าไร จะได้วางแผนการรบถูก"(ลูฟเฟ่นอธิบายให้วาเนสซ่าฟัง และลูฟเฟ่นกำลังจะเก็บจดหมายเข้าซองจดหมาย วาเนสซ่าก็เห็นมีกระดาษจดหมายอีกฉบับในซองนั้นด้วย วาเนสซ่าเลยบอกลูฟเฟ่นให้เอาออกมาอ่าน และพอลูฟเฟ่นอ่านจบก็มีแต่รอยยิ้มและยื่นจดหมายนั้นให้วาเนสซ่าอ่านเอง)
วาเนสซ่า : "จดหมายของพี่อาริงนี่น่า แถมเป้นข่าวจริง100%ที่พี่อาริงยังมีชีวิตอยู่ เพราะท่านโยฮานเป้นคนบอกเอง และคาดว่าวันที่ประชุม อาริงก็จะกลับจากป่าแกรนฟอเรสเพื่อมาประชุมด้วย"(วาเนสซ่าอ่านและร้องไห้ดีใจ เพราะอาริงยังมีชีวิตอยู่ และอีกไม่นานก็เจอหน้ากันทั้งกลุ่ม)
ลูฟเฟ่น : "ดีละ งั้นเดี๋ยวฉันจะให้คนไปตามผู้นำกลุ่มที่นี่และที่ใกล้เคียง2-3ทีให้มาคุยหารือกันก่อน ก่อนที่จะไปป้อมเดธวิลเลย์ ในอีก5วันข้างหน้า"(ลูฟเฟ่นรีบเก็บจดหมายและเรียกทหารแถวนั้นให้ช่วยไปกระจายข่าวตามแหล่งที่พักของแต่ละกลุ่มให้มาประชุมกันที่นี่ก่อน ส่วนวาเนสซ่าตอนนี้จิตใจเหมือนถูกปลดปล่อยออกไปหมดแล้วพอรู้ว่าอาริงยังไม่ตาย ทำให้วาเนสซ่ามีสีหน้าและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง)3 ชั่วโมงต่อมา ผู้นำกลุ่มประมาณ 5กลุ่มที่อยู่ระจายตามป่าใกล้ๆไม่ไกลนัก ก็มาประชุมกับลูฟเฟ่นที่หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในป่าระหว่างเมืองเซาเทรินไซร์และเรดคลิฟ ซึ่งผู้นำแต่ละคนตกลงกันว่าจะให้ลูฟเฟ่นเป้นตัวแทนไปประชุมที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ เพราะลูฟเฟ่นเองก็รู้จักคนที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ดี และลูฟเฟ่นก็เป็นคนตัวตั้งตัวตีที่พยายามรวบรวมคนที่กระจายอยู่ตามป่าให้รวมเป้นจุดๆใกล้ๆกัน เพื่อง่ายแก่การติดต่อกัน และเมื่อประชุบกันเสร็จผู้นำ5คนก็แยกย้ายกลับกัน ลูฟเฟ่นเลยมาคุยกับวาเนสซ่าให้เตรียมตัวเก้บสัมภาระ เพื่อว่าวันพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางไปยังป้อมเดธวิลเล่ย์ทันที และคงใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยก็ 2-3วัน กว่าจะถึงป้อมเดธวิลเลย์ และกว่าจะถึง 5วันที่เหล่าผู้นำแต่ละกลุ่มจะไปประชุมกันที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ คงมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปก่อนแล้วแน่นอน แต่ไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงไปในทางใดจะร้ายหรือว่าดี .................