บทที่ 25. วิถีดาบที่เปลี่ยนไปและความบังเอิญที่พอดี
หลังจากที่อาริงได้รับคำสอนและแนะนำเรื่องการปรับสภาพร่างกายให้ชินกับสภาพการใช้แขนข้างเดียวนี้ อาริงพยายามฝึกการใช้ดาบเขี้ยวทมิฬอยู่คนเดียว พอร่างกายก็ค่อยๆชินกับสภาพแล้วในระดับหนึ่ง อาริงก้พยายามเร่งความไวในการฟันให้มากขึ้น และพอร่างกายชินกับความไวระดับนี้แล้ว อาริงก็เพิ่มความไวในการฟันขึ้นไปอีก และทำแบบนี้ซ้ำๆกันใน 4วันที่ผ่านมา หลายครั้งที่อาริงแอบย่องจะไปฝึกที่น้ำตกนอกหมู่บ้าน ก็โดนโยฮานมาห้ามไว้ทุกที เพราะบาดแผลที่แขนขาดถึงแผลจะสมานแล้ว แต่แผลข้างในกล้ามเนื้อและความเจ็บปวดก็คงยังมีอยู่ ซึ่งอาริงก็รู้ดีแก่ใจ แต่ด้วยความดื้อรั้นที่จะฝึกให้เก่งไวๆ เลยต้องพยายามแอบย่องไปฝึกที่น้ำตก แต่ก็โดนจับได้และพากลับมาที่กระท่อมทุกทีอาริง : "สกิลฟันไว " (อาริงใช้สกิลเสร็จ ก็พยายามฟันหุ่นฟางที่ปักไว้ที่หลังกระท่อมด้วยความไวสูงสุด หุ่นฟางขาดเป้นริ้วๆ และอาริงก็ฟันถี่ยิบแบบลืมหายใจ พอฟันไปได้สัพพัก อาริงก้หยุดฟันและเอาดาบปักไปที่ตัวหุ่นฟางนั้น และอาริงก็เดินไปนั่งตรงชายคากระท่อมทางตรงกันข้ามกับหุ่น และทำท่าครุ่นคิดอะไรสักอย่าง)
โยฮาน : " เป็นอะไรไปหรือเห็นนั่งหน้ามุ่ยเลย คิอะไรอยู่หรือ " (โยฮานเดินมาหาอาริง และเดินไปที่หุ่นฟาง)
อาริง : "กำลังคิดว่าน่าจะฟันได้ไวกว่านี้มาก แต่เหมือนขาดอะไรไปบางอย่างยังนึกไม่ออกเลย"
โยฮาน : " อะไรนะ เจ้าว่าเจ้าจะฟันให้ไวกว่านี้อีกหรือ เท่าที่ข้าเห้นตอนนี้เจ้าฟันไวมากแล้วนะ ไวจนเกิดขีดจำกัดของนักดาบทั่วไปแล้ว เผลอๆไวกว่าเบรดที่ใช้ดาบ 2เล่มอีก"(โยฮานดึงดาบออกมาจากตัวหุ่นฟาง และเอาไปวางไว้ใกล้ๆอาริง)
อาริง : " ได้สิ ร่างกายและจิตใต้สำนึกมันบอกฉันเองว่า ยังฟันไวได้กว่านี้อีกมาก แต่....ขาดอะไรก็ไม่รู้"(อาริงเลยนอนคิดเล่นๆซะเลยที่ชายคากระท่อม)
โยฮาน : " งั้นเจ้าจะลองไปที่น้ำตกท้ายหมู่บ้านไหมละ ฉันอนุญาติแล้วเจ้าจะได้ไม่ต้องหลบและแอบย่องไปอีก"(โยฮานพูดและหันมามองอาริง แต่อาริงไม่อยู่แล้ว เพราะอาริงพอได้ยินคำว่าให้ไปที่น้ำตกได้ อาริงก็ถือดาบวิ่งไปก่อนที่โยฮานจะพูดจบซะอีก)
น้ำตกใหญ่ท้ายหมู่บ้าน มีผู้คนมาซักผ้า เล่นน้ำ กันตามปกติ อาริงวิ่งมาถึงก็นั่งลงริมน้ำเอาดาบเขี้ยวทมิฬวางไว้ใกล้ๆตัวและถอดรองเท้าเอาขาจุ่มน้ำเล่นและมองไปยังผู้คนแถวๆน้ำตก เพราะยังไงอาริงก้ยังไม่อยากให้แผลที่ไหลซ้ายโดนน้ำถึงแม้ว่าแผลภายนอกจะปิดสนิทแล้ว แต่เวลาโดนน้ำเย็นๆหรืออากาศเย็นๆแผลที่ไหลซ้ายก็จะปวดข้างในเนื้อทุกที แสดงให้เห้นว่าเนื้อข้างในยังไม่หายสนิทเท่าที่ควร อาริงกลับรู้สึกว่าจิตใจสงบดีเพราะได้อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น อาริงว่างๆเลยเอาดาบเขี้ยวทมิฬตวัดน้ำเล่นดูสักพัก และอาริงก็นึกอะไรออกขึ้นมา เลยเดินไปที่โขดหินข้างๆน้ำตก และใช้สกิลฟันไวและใช้ดาบเขี้ยวทมิฬฟันด้วยความไวสูงสุดเท่าที่ทำได้ตอนนี้เหมือนที่ฟันหุ่นฟางฟันไปที่น้ำตกที่ไหลลงมาแรง แค่ดาบแรกสัมผัสที่ผิวน้ำตก แรงฟันและความไวดาบตกลงอย่างมากทันที เพราะน้ำตกไหลลงมาแรงและด้วยความหนืดของน้ำ เลยเป้นตัวลดแรงโจมตีและลดความไวของการฟันของอาริง อาริงก็นึกวิธีฝึกใหม่ๆได้ทันที ซึ่งโยฮานก็เห้นและอดยิ้มไม่ได้ที่เห้นอาริงตั้งใจฝึกการใช้ดาบเดียวและใช้การฟันไวแบบสูงสุดแบบนี้เพื่อทดแทนแขนซ้ายที่ขาดไป2วันต่อมา อาริงก้ยังคงใช้น้ำตกเป้นการฝึกความไวในการฟันดาบทั้งวัน ถึงขนาดไปเอาเต้นท์มากางนอนห่างจากที่ฝึกกับน้ำตกไม่ไกลมากนัก โยฮานก็เดินมาดูทุกวันและเอาสเบียงอาหารมาไว้ให้
โยฮาน : " เป็นไงท่าทางจะก้าวหน้าขึ้นอีกแล้วนี่ "
อาริง : " ก็ไวขึ้นกว่าเดิมอีกนิดหน่อย แต่มันก็ยังเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างจริงๆ เพียงแต่ยังนึกไม่ออกจริงๆ"
โยฮาน : "ยังนึกไม่ออกอีกหรือว่าขาดอะไร "(โยฮานนั่งคุยกับอาริงที่ริมน้ำตก)
อาริง : "ฮือ ยังนึกไม่ออก ว่าแต่ช่วยอะไรหน่อยสิ ช่วยไปหาช่างตีดาบ และตีดาบที่มีรูปร่างเหมือนกับดาบเขี้ยวทมิฬนี้ให้หน่อยสิ แต่ขอให้น้ำหนักดาบมากกว่าเดิม3เท่านะ จะเอาไว้ฝึกเพิ่มความไว"
โยฮาน : "จะเอาแบบนั้นเลยหรือ ว่าแต่เธอนี่ก็เก่งนะ รูปร่างบอบบางแบบนี้ ไหนจะถือดาบใหญ่พร้อมกัน2เล่มได้ ไหนจะฟันดาบเล็กธรรมดาได้ไวกว่าเบรดดาบคู่อีก ทำได้ยังไงเนี่ย"
อาริง : " ไหนๆก็ไหนๆละ เห้นว่าเป้นคนช่วยชีวิตฉัน ฉันก็จะบอกให้ละกัน ฉันเป้นลูกครึ่งมนุษย์และอสุรา จึงมีรูปร่างเหมือนแม่ที่เป้นมนุษย์และมีพลังกายเหมือนพ่อที่เป็นอสุรา"(พูดจบอาริงก็แหวกผมด้านข้างทั้ง 2ข้างให้โยฮานดูเขาสีดำเล็กๆบนหัวที่ผมปิดมิดชิด และแยกเขี้ยวข้างซ้ายให้โยฮานดู)
โยฮาน : "มิน่า เธอถึงไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่แท้ก็แบบนี้เอง"
อาริง : "ท่านทำเหมือนกับไม่ตกใจอะไรเลย"
โยฮาน : " ก้จะตกใจทำไม พวกเผ่าอสุราฉันก็รู้จักหลายคน เพราะฉันต้องติดต่อกับคนเผ่านี้อยู่เพื่อต้องการกองกำลังมาช่วยกันยึดเมืองคืน และอีกอย่างเรา2คนมีส่วนเหมือนๆกัน ฉันก็เป็นลูกครึ่ง แต่เป้นมนุษย์และเอลฟ์ เจ้าไม่เคยสังเกตหรือว่าทำไมหูของฉันถึงแหลมและยาวกว่ามนุษย์ทั่วไป"(โยฮานชี้ให้ดุหุของตัวเอง)
อาริง : " ไม่เคยสงสัยเลย นึกว่าเป็นเรื่องปกติ ที่บางคนอาจจะหูยาว และอีกอย่างฉันไม่เคยเห็นพวกเอลฟ์ เลยไม่รู้ว่าพวกเอลฟ์มีลักษณะยังไง"
โยฮาน : " พวกเอลฟ์ยังมีอยู่จริงๆ อยู่ที่ป่าลึกแกรนฟอเรส แต่มีอยู่ไม่ถึงพันคนเอง เพราะพวกนี้จะมีชีวิตยืนยาวกว่ามนุษย์เรามาก พวกเค้าเลยไม่ค่อยสนใจเพิ่มประชากรเอลฟ์เท่าไร"
อาริง : " อยากเห็นจังเลย "
โยฮาน : " เมื่อ15วันก่อน ฉันก็เพิ่งส่งเทรเชอร์ฮันเตอร์5คน ไปที่หมู่บ้านเอลฟ์ที่ป่าแกรนฟอเรสนี่ละ เพื่อให้ไปยืมของบางอย่างมาจากพวกเอลฟ์ เพื่อใช้ในการทำลายแท่นเสาหินสำดำนี่ละ"
อาริง : " มีวิธีทำลายแท่นเสาหินด้วยเหรอ"
โยฮาน : " น่าจะมีวิธี ถึงได้ไปยืมหนังสือโบราณบางเล่มมาจากพวกเอลฟ์นี่ละ พวกเอลฟ์อยู่มานาน เลยน่าจะมีหนังสือโบราณที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย"
อาริง : " แล้วนี่อีกนานไหมกว่าพวกเทรเชอร์ฮันเตอร์ที่ท่านส่งไปจะกลับมา "
โยฮาน : " คงอีก2วันนี้ละ ที่จริงก็ไม่น่านานหรอกนะ ถ้ารถไฟใต้ดินไม่โดนทำลายและเมืองเรดคลิฟไม่โดนยึด ก็คงไปกลับไม่นานหรอก" อาริง : "จริงหรือที่ว่าเรดคลิฟก็โดนยึด "
โยฮาน : " ไม่ใช่แค่เรดคลิฟนะ เซาเทรินไซร์ และวิลเดอวู้ดก็โดนยึดเหมือนกัน และแต่ละเมืองก็มีแท่นเสาหินสำดำเหมือนกันทุกเมือง"
อาริง : "แสดงว่ายัยเนลล่าไม่ได้โกหก ชิ..มันน่าโมโหจริงๆรู้ทั้งรู้ว่าอีกไม่นานสงครามใหญ่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย"(อาริงเอาดาบปักไปที่พื้นเพราะความโมโห)
โยฮาน : "เจ้าก็รีบฝึกเข้าสิ เพราะอีกไม่ถึงเดือน ฝ่ายมนุษย์ทั้งหมดก้จะเริ่มเคลื่อนไหวโจมตียึดเมืองคืนพร้อมกันแล้ว"
อาริง : "จริงหรือ แบบนี้แสดงว่าท่านสามารถติดต่อกับกลุ่มคนที่รอดชีวิตได้สิเนี่ย"
โยฮาน : " ก็หลายกลุ่มละ ไม่ว่าจะพวกมนุษย์ เอลฟ์ เขี้ยวทมิฬและพวกเผ่าอสุรา ทั้งหมดพร้อมใจกันทำศึกนี้แล้ว เพียงแค่รอเวลาที่จะหาทางทำลายแท่นเสาสีดำตามเมืองให้ได้ก่อน"
อาริง : "งั้นฉันก็ไม่มีเวลามานั่งเล่นแล้ว ต้องขยันฝึกให้มากกว่าเดิม จะได้ไปร่วมรบกับเพื่อนๆน้องๆได้อีกครั้ง" (อาริงรีบลุกขึ้นพร้อมทั้งถือดาบเขี้ยวทมิฬไปที่น้ำตก)
โยฮาน : " เจ้ามีคนหรือกลุ่มที่อยากจะติดต่อไหมละ ถ้ามีข้าจะได้ช่วยจัดการให้"
อาริง : " ได้เหรอ งั้นก็ดีสิ พวกเพื่อนๆฉันจะได้ไม่ต้องเป้นห่วงและกังวล เพราะป่านนี้พวกนั้นคงเศร้าและร้องไห้กันไปแล้วละ ที่เห็นแค่แขนซ้ายของฉันเท่านั้น กลัวว่าพวกนั้นจะคิดว่าฉันตายไปแล้ว งั้นรอเดี่ยวนะ ขอเขียนจดหมายก่อน"(อาริงรีบมุดเข้าไปในเต้นท์ และเขียนจดหมายส่งให้กับเพื่อนๆในกลุ่ม)
โยฮาน : " ไม่ต้องรีบก็ได้ เพราะถึงยังไง ฉันก็จะส่งคนออกไปนอกหมู่บ้านพรุ่งนี้ เพราะตอนนี้มันจะเย้นแล้ว" (โยฮานก้มตัวเพระจะเปิดด้านหน้าเต้นท์เพื่อจะบอกอาริง)
อาริง : "'งั้นเหรอ งั้นถ้าฉันเขียนเสร็จแล้ว ฉันจะเอาไปให้ท่านเองละกัน จะได้ทันฝากไปส่งพรุ่งนี้เช้า"(อาริงพูดเสร็จก็กำลังจะโผล่หัวออกมานอกเต้นท์ ซึ่งเป้นจังหวะเดียวกับที่โยฮานกำลังจะมุดหัวเข้ามาในเต้นท์เพราะกลัวว่าอาริงจะไม่ได้ยิน เลยทำให้ปากของทั้ง2คนชนกันพอดี และทั้ง2ก็ตกใจและตกตะลึกและหน้าแดง อาริงก็มุดหัวกลับเข้าไปในเต้นท์ ส่วนโยฮานก็รีบลุกขื้นยืน)
โยฮาน : "งั้นเขียนเสร็จแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันมาเอาเองก็ได้ เออ....แล้วเรื่องประกี้ฉันขอโทษ ฉันไมได้ตั้งใจ จังหวะมันพอดีเอง"(โยฮานพูดแต่หันหลังให้กับเต้นท์ของอาริงเพราะอายเหมือนกัน)
อาริง : " ไม่เป้นไร ฉันก้ไม่ได้โกรธท่านนี่ เพราะมันเป้นเหตบังเอิญ ส่วนจดหมายเดี๋ยวค่ำๆฉันเอาไปส่งให้ท่านเอง"(อาริงพูดเสร็จก้รูดเต้นปิดอย่างมิดชิด และโยฮานก็ค่อยๆเดินกลับไปในหมู่บ้าน)
อาริง : "เฮ้อ....เราเป้นอะไรไปเนี่ย เราไม่เคยเป็นแบบนี้นี่น่า ไปฝึกต่อดีกว่า"(อาริงเอาดามดาบเคาะหัวตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสมาธิกลับมา และหยิบดาบเขี้ยวทมิฬออกมาฝึกความไวในการฟันดาบ โดยฟันที่น้ำตกต่อจนมึดค่ำ และพอตกดึกอาริงกำลังจะนอนเพราะเพลียที่ฝึกหนักทั้งวัน ก็ดันเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้เขียนจดหมายที่จะฝากไปพรุ่งนี้เลย อาริงเลยต้องกุลีกุจอจุดเทียนและเขียนจดหมาย และพอเขียนเสร็จก็ดึกแล้วคงไปส่งให้โยฮานไม่ทันแล้ว ไว้ตอนเช้าตรู่ค่อยไปส่งก็ได้)เมื่อคืนอาริงฝึกหนักและนอนดึกเพราะมัวแต่เขียนจดหมาย และพอเช้าตรู่อาริงก็ไม่ได้ตื่นไปส่งจดหมายให้กับโยฮานตามที่คิดไว้ เพราะอาริงหลับยาวเพราะเพลียและนอนดึก และพอประมาณ7โมงกว่าๆ ก็มีคนมาเรียกอาริง พออาริงรู้สึกตัวก็นึกได้ว่าต้องไปส่งจดหมาย และพอโผล่หน้าออกมาที่เต้นท์ ก็มีทหาร1คนมาบอกว่าโยฮานให้มารับจดหมายจากอาริง อาริงเลยหยิบจดหมายและเหน็บใบไม้แปะหัวไปที่จดหมายด้วย เพราะอาริงคิดว่าพวกลูฟเฟ่นน่าจะรู้ว่าเป้นจดหมายของอาริงจริงๆ เพราะใบไม้แปะหัวอันนี้เป้นของสิ่งเดียวที่อาริงรักมากและเสมือนเป้นตัวอาริงเอง และอาริงก็จ่าหน้าซองถึงคนแคระเคนเพราะอาริงก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากสงครามที่ป้อมเดธวิเล่ย์แล้วทุกคนจะอยู่ที่ไหนกัน แต่ที่แน่ๆทุกคนคงใช้กระโจมของลุงคนแคระเคนเป้นฐานที่มั่นแน่ๆ และเมื่ออาริงฝากจดหมายไปแล้ว กะว่าจะนอนต่ออีกหน่อย แต่ในใจก้คิดว่าไหนๆก็ตื่นแล้วก็ตื่นมาทำอาหารและเตรียมฝึกต่อดีกว่า เพราะสงครามงวดเข้ามาใกล้ทุกทีแล้ว ต้องฝึกให้เก่งๆยิ่งกว่าเดิมดีกว่า.................................