GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 37
ผู้เขียน หัวข้อ: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)  (อ่าน 16056 ครั้ง)
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #360 เมื่อ: 03-11-2009, 11:21:51 »

บทที่ 22. เริ่มต้นวันใหม่และการเดินทางของแต่ละคน   

หลังจากจบศึกที่ป้อมเดธวิลเลย์ ทหารที่รอดชีวิตและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวมแล้วประมาณ 100 คนก็ขออยู่ที่พื้นที่เดิมที่เคยเป้นป้อมเดธวิลเลย์เก่า เพราะทหารเหล่านี้จะพยายามสร้างป้อมเดธวิลเลย์ขึ้นมาใหม่ และทหารเหล่านี้สัญญาว่าจะไม่ยอมให้ป้อมโดนยึดอีก และถ้าโดนยึดอีกจริงๆก้จะยอมพลีชีพเพื่อปกป้องป้อมแห่งใหม่นี้ถึงแม้จะต้องตายก็ยอม พวกนักรบประมาณ30-50คน ก็เลยตกลงใจว่าอยู่ช่วยทหารสร้างป้อมเดธวิลเลย์ใหม่ด้วยกันและอาเวียก็ขออยู่ช่วยสร้างป้อมเดธวิลเลย์ใหม่ที่นี้ด้วย

3วันหลังจากจบศึกที่ป้อมเดธวิลเลย์ พวกของลูฟเฟ่นก็กลับมาพักที่กระโจมที่หน้าถ้ำผลึก โดยที่เรย์รัน นาฟตี้ และลูฟเฟ่นต่างก็ผลัดกันมานอนเป้นเพื่อนวาเนสซ่า เพราะวาเนสซ่าสะเทือนใจกับเรื่องของอาริงมาก ตอนนอนก็เก้บเอาไปฝันร้ายและสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้ทุกคืน และกว่าจะปลอมให้นอนได้ก็ใช้เวลานาน จนหลายครั้ง คนแคระเคนถึงกับให้ลุฟเฟ่นเอายานอนหลับให้วาเนสซ่ากิน เพื่อที่จะได้หลับลึกและร่างกายจะได้พักผ่อนบ้าง ส่วนเคออสติคก็เสียใจเหมือนกันที่อาริงเป็นเพื่อนคนแรกของเค้าต้องมาเจอเหตการณ์แบบนี้ เลยกลับเข้าไปอยู่ในถ้ำผลึกและไม่ยอมออกมาอีกเลย นอกจากเวลาที่คนแคระเคนไปตามให้ออกมาในวันที่ พวกลูฟเฟ่นเอาแขนซ้ายของอาริงไปฝั่งที่ใต้ต้นไม้แถวๆหน้าถ้ำผลึก และใช้เศษดาบใหญ่2เล่มของอาริงที่เหลือแต่ปลายดาบมาสลักชื่ออาริง และเอามาปักไว้แทนป้ายหลุมฝังศพ

ฟริกซ์ : " อ้าวทุกคนทำอะไรกันอยู่ ฉันกลับมาแล้วแถมมีข่าวดีมากๆด้วยนะ "(ฟริกซ์เดินยิ้มมาหากลุ่มลูฟเฟ่นพร้อมที่จะแจ้งข่าวดี แต่ฟริกซ์ก้งงว่าทำไมสีหน้าของแต่ละคนถึงเศร้าแบบนี้)
ลูฟเฟ่น : " กลับมาแล้วหรือ พวกข้าเป้นห่วงแทบตาย แล้วข่าวดีที่ว่าคืออะไรละ" (ลูฟเฟ่นเดินไปหาฟริกซ์)
ฟริกซ์ : " พี่อาริงกับเจ้าอาเวียอยู่ไหนละ จะได้บอกข่าวดีพร้อมๆกัน" (ฟริกซ์ถามและมองหน้าทุกคน)
ลูฟเฟ่น : " เมื่อ3วันก่อนเราทำการรบเพื่อจะยึดป้อมเดธวิลเลย์คืน เราชนะก็จริงแต่ป้อมเดธวิลเลย์โดนทำลายไปหมดแล้วโดยฝีมือของเนลล่า แต่เนลล่าเองก้จบชีวิตที่เป้อมเดธวิลเลย์เช่นกัน อาเวียกับทหารและนักรบบางส่วนอยู่เพื่อที่จะสร้างป้อมเดธวิลเลย์ใหม่ ส่วนพี่อาริง...." (ลูฟเฟ่นพูดและน้ำตาก็ไหลอาบ2แก้ม และเมื่อฟริกซ์มองหน้าทุกคนก็มีแต่น้ำตาเช่นกัน)
นาฟตี้ : " พี่อาริงเค้าอยู่นี่ "(นาฟตี้เดินมาจูงมือฟริกซ์ไปที่หน้าหลุมที่ฝังแขนซ้ายของอาริง)
ฟริกซ์ : " บ้าน่า พี่อาริงเก่งจะตายไป แล้วทำไมๆๆ...." (ฟริกซ์ทรุดตัวทันทีทีเห็นหลุมศพนั้น และลูฟเฟ่นเลยเล่าเหตการณ์ในวันนั้นให้ฟริกซ์ฟังจนหมด)


หลังจากลูฟเฟ่นเล่าเหตการณ์ในวันนั้นให้กับฟริกซ์ฟังทั้งหมด ฟริกซ์ก็ร้องไห้ทันที นาฟตี้ก็เสียใจไม่แพ้กันเลยเข้ามากอดฟริกซ์ กว่าฟริกซ์จะหยุดร้องไห้ได้ก็ใช้เวลาพอสมควร

ลูฟเฟ่น : " พวกเราที่จริงก็ยังไม่ตัดใจว่าพี่อาริงเค้าตายนะ เพราะพวกเราไม่เจอศพพี่เค้าเลย เราก็เลยยังไม่เชื่อสนิทใจ แต่พวกเราก็ต้องทำใจเผื่อไว้ด้วย และพวกเราก็ไม่อยากให้แขนซ้ายของพี่อาริงโดนพวกนกกากินและแขนซ้ายของพี่อาริงก็เริ่มมีกลิ่นแล้ว พวกเราเลยต้องฝั่งแทนตัวพี่อาริงแบบนี้ละ"(ลูฟเฟ่นพูดและมองไปที่หลุมของอาริง)
นาฟตี้ : " แล้วข่าวดีที่พี่ฟริกซ์จะบอกคืออะไรหรือ
ฟริกซ์ : " พี่จะบอกว่า ที่ป้อมปราการตะวันออกและที่เมืองหิมะวิลโดเนียปลอดภัยดีไม่โดนทำลาย และชาวเมืองกับนักรบและทหารจำนวนมากที่หนีรอดออกจากเมืองเซาเทรินฟอร์ทในวันนั้นได้ ก็ได้ไปหลบและอาศัยอยู่ตามป่าแถวๆป้อมปราการตะวันออกก็มี อาศัยที่ป้อมตะวันออกก็เยอะ และมีที่ไปอาศัยเมืองวิลโดเนี่ยก็พอสมควร เท่ากับว่าเรามีกำลังเพื่มขึ้นอีกมากเลย"
ลูฟเฟ่น : " ส่วนทางนี้ก้มีข่าวร้ายบอกเจ้าเหมือนกัน เมืองวิลเดอวู้ด เซาเทรินไซร์และเรดคลิฟก็โดนมอนสเตอร์บุกยึดและมีแท่นเสาหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่3เมืองนั้นเหมือนกัน"
ฟริกซ์ : " จริงหรือ ทำไมทุกเมืองถึงโดนยึดง่ายไปหมด เหมือนมีคนในทางการร่วมมือยู่ด้วยแน่ๆ เพราะรวมแล้วโดนไป 4เมืองกับอีก1ป้อมทหารใหญ่ แต่ป้อมเรายึดคืนและเสาก็พังไปแล้วเพราะยัยเนลล่ามันระเบิดทิ้งก็จริง"
ลูฟเฟ่น : "ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อสิ่งที่เนลล่าพูดหรอก แต่พอเราเปิดทางที่ป้อมเดธวิลเลย์ได้แล้ว เราเลยส่งทหารและนักรบหลายสิบคนไปสืบข่าวตามเมืองต่างๆ และก็เป้นจริงตามที่เนลล่าบอก"

ฟริกซ์ : "เอาเถอะยังไงเราก็ยังมีความหวังใหม่แล้วที่จะให้คนทางฝั่งโน้นช่วยรบและส่งกำลังมาที่นี่ด้วย"
เรย์รัน : "ดีจัง แบบนี้เท่ากับว่าพวกเรายังมีความหวัง แต่.....ทางฝั่งโน้นเค้าจะมาทางนี้ได้อย่าไร เพราะเมืองเซาเทรินฟอร์ทตั้งขวางอยู่"
ฟริกซ์ : "ทางนั้นกำลังขุดอุโมงใต้ดินใหม่ และให้อุโมงใต้ดินนั้นมาทะลุที่แค้มป์นักเวทย์แถวๆป่าเมืองเซาเทรินฟอร์ทนั่นละ ซึ่งได้มีการสำรวจวางแผนและขุดกันมาได้สักพักแล้วทั้ง 2ฝั่งโดยจะขุดพบกันกลางทาง โดยมีการวางแผนขุดกันอย่างแม่นยำแล้ว"
ลูฟเฟ่น : " แต่ข้ากับวาเนสซ่าขอพักการรบก่อนสักระยะนะ ฉันจะพาวาเนสซ่าเค้าเดินทางไปยังสถานที่และป่าต่างๆเพื่อให้จิตใจเค้าดีขึ้นก่อน แล้วเมื่อพร้อมฉันกับวาเนสซ่าจะกลับมายังเนินหน้าถ้ำผลึกนี้ แต่ถ้าฉันเจอพวกที่รอดชีวิตก็จะบอกให้คนพวกนั้นรวมตัวกันที่ป้อมเดธวิลเลย์หรือไม่ก้ที่นี่"(ลูฟเฟ่นพูดและโอบไหล่ของวาเนสซ่าไว้ ซึ่งวาเนสซ่าก็มีแต่สีหน้าเศร้ามาตลอด ไม่ยิ้มและไม่แกล้งลูฟเฟ่นเหมือนเคย)
เรย์รัน : "ฝากพี่วาเนสซ่าด้วยนะ ส่วนฉันก้จะไปอยู่กับอาเวีย ไปช่วยเค้าเฝ้าดุแลป้อมเดธวิลเลย์ใหม่"
ฟริกซ์ : "นาฟตี้ เธอพร้อมจะมากับฉันไหม ไปผจญภัยด้วยกัน2คนทั้งร่วมรบ ร่วมเป้นร่วมตาย และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตจนกว่าความตายจะมาพรากเรา 2คน"(ฟริกซ์พูดและหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อให้กับนาฟตี้ นาฟตี้ดีใจจนร้องไห้ และฟริกซ์ก็สวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของนาฟตี้ ลูฟเฟ่นก็ได้โอกาศพูดฝากฝั่งน้องสาวและคนอื่นๆก็พลอยดีใจไปด้วย แม้แต่วาเนสซ่าเองก็มีรอยยิ้มเล็กๆให้กับฟริกซ์และนาฟตี้ และวาเนสซ่าก็เอาหัวพิงกับอกของลูฟเฟ่น)


คืนนั้น ทุกคนก็พักที่กระโจมบนเนินหน้าผลึกอีกคืน และตอนเช้าทุกคนก็เก็บสัมภาระและบอกลาลุงคนแคระเคน และลุงคนแคระเคนสัญญาว่าจะดูแลหลุมศพที่ฝั่งแขนซ้ายของอาริงอย่างดี และจะพยายามสร้างและขยายพื้นที่เพื่อสร้างที่พักใหม่ๆ เพื่อรอรับและใช้ที่นี่เป้นที่รวมพลให้กับเหล่านักรบที่จะมาพักที่นี่

ฟริกซ์ : " ต้องแยกทางกันแล้วละนะ ฉันจะไปรวบรวมคนและคิดวางแผนกันที่ป้อมปราการตะวันออก ถ้ายังไงถ้ามีอะไรคืบหน้าฉันจะแจ้งข่าวมาที่ลุงคนแคระเคนเป้นระยะๆนะ ถ้าใครแวะมาที่นี่จะได้รู้ข่าวด้วย"
ลูฟเฟ่น : "ฮือ ..ขอบใจนะ ฉันก็คงจะพาวาเนสซ่าเดินทางไปเรื่อยๆสักพักนึง และจะพยายามติดต่อกับพวกนายตลอดนะ อ้อ...เกือบลืมนายสัญญาแล้วนะว่าจะดูแลน้องสาวฉันเป็นอย่างดี อย่าผิดสัญญานั้นละ"(ลูฟเฟ่นพุดฝากฝั่งนาฟตี้กับฟริกซ์อีกที และตบบ่าฟริกซ์เบาๆ)
นาฟตี้ : " พี่ลูฟเฟ่น.."(มีน้ำตาคลอที่ดวงตา)
ลูฟเฟ่น : " นี่อย่าร้องไห้สิ น้องก็โตแล้วนะ แล้วอย่าไปแกล้งหรือทำอะไรให้เจ้าฟริกซ์มันปวดหัวละ พี่ไม่รับคืนแล้วนะ ฮ่าๆๆ"
นาฟตี้ : " แหมๆๆ พี่เองนั่นละ ที่ดูแลพี่วาเนสซ่าดีๆละ"
วาเนสซ่า : " ฉันไม่ค่อยเป้นอะไรแล้วละ สบายใจได้"(วาเนสซ่ายิ้มเล็กๆให้กับนาฟตี้)
เรย์รัน : " ไปกันเถอะ เดี๋ยวไปช้ามากๆจะได้เดินกลางทะเลทรายตอนเที่ยงๆแน่"


ลูฟเฟ่น : "นั้นสิเนอะ เพราะฉันต้องไปส่งเรย์รันที่ป้อมเดธวิเล่ยก่อน ต้องเดินผ่านทะเลทรายตอนเที่ยงๆมีหวังโดนแดดเผาตายแน่ ถึงแม้ว่าจะชินกับสภาพทะเลทรายแล้วก้ตาม"
ฟริกซ์ : " แล้วสักวัน พวกเราจะต้องมารวมตัวและร่วมรบกันใหม่ และหวังว่าการมารวมกันใหม่ครั้งนั้นคงมีพี่อาริงด้วยนะ เพราะยังไงฉันก็ยังไม่ตัดใจเรื่องพี่อาริงหรอกนะ ฉันยังเชื่อว่าพี่เค้ายังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง"(ทุกคนพยักหน้าพร้อมๆกัน และทุกคนก็ยื่นมือขวาของแต่ละคนมาจับกันไว้ และสัญญาว่าจะต้องมารวมกันอีกแน่ๆเมื่อถึงเวลานั้น ฟริกซ์และนาฟตี้ก็เดินจากไปเพื่อที่จะไปที่แค้มป์นักเวทย์ เพื่อที่จะทำการขุดอุโมงจากฝั่งนี้เพื่อไปเจอกันตรงกลางของอุโมงค์ทั้ง 2ฝั่ง)

ลูฟเฟ่น วาเนสซ่าและเรย์รัน ก็ออกเดินทางไปป้อมเดธวิเล่ย์ และแวะเข้าไปที่ป้อมเดธวิเล่ย์เพื่อส่งเรย์รันให้ถึงมืออาเวียที่ประจำอยู่ที่นี่เพราะกำลังอยู่ในระหว่างสร้างป้อมเดธวิเล่ย์ใหม่อยู่ และเริ่มที่จะเป้นรูปร่างแล้ว

อาเวีย: " น่าเสียดายจัง ที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันแบบนี้ ยังไงก็อย่าลืมส่งข่าวมาที่ป้อมนี้ด้วยนะ "
ลูฟเฟ่น : " ไม่ต้องห่วงน่า ถึงฉันจะเดินทางเพื่อพักเพื่อฟื้นฟูจิตใจให้กับวาเนสซ่า แต่ฉันก้จะพยายามหาข่างของเมืองต่างๆและจะพยายามรวบรวมคนให้ได้เหมือนกัน และถ้ามีข่าวอะไรก้จะส่งคนมาแจ้ง"
เรย์รัน : " รักษาตัวดีๆนะพี่วาเนสซ่า "(เรย์รันเข้าไปกอดกับวาเนสซ่าและอวยพรให้ทั้งคู่เดินทางโดยปลอดภัย)

ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าก็เดินจากอาเวียและเรย์รันไป โดยที่ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่ามุ่งหน้าลงใต้เพื่อเดินทางไปแถวๆผ่านเมืองวิลเดอวู้ด และ เซาเทรินไซร์ โดยที่ตัวลูฟเฟ่นเองก็ไม่รู้จุดหมายปลายทางเหมือนกัน เพียงแค่ตอนนี้ลูฟเฟ่นอยากให้วาเนสซ่าได้พักและฟื้นฟูจิตใจที่บอบซ้ำจากการสะเทือนใจเรื่องอาริงให้ได้ก่อน นั่งคือเรื่องสำคัญสุดสำหรับลูฟเฟ่นในตอนนี้....................

coalapanda
Asura Secret Character
Hero Member
*****
กระทู้: 2,687

Asura Online Never Ending


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #361 เมื่อ: 03-11-2009, 11:23:03 »

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 03-11-2009, 11:21:12
ขอขุด 1อันเพื่อดันบทใหม่ขึ้นหน้าใหม่  Cry

มีแอบเนียน นะครับนี่  Evil Evil

If you want to be a hero. You need to have dreams.
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #362 เมื่อ: 03-11-2009, 11:25:51 »

อ้างจาก: coalapanda ที่ 03-11-2009, 11:23:03
อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 03-11-2009, 11:21:12
ขอขุด 1อันเพื่อดันบทใหม่ขึ้นหน้าใหม่  Cry

มีแอบเนียน นะครับนี่  Evil Evil
ก็ไมได้อยากเนียบหรอกนะ ฮ่าๆๆ แต่จำใจขอขุด1อัน เพราะบทใหม่จะได้ขึ้นมาอยู่หน้าใหม่จะได้หาง่ายๆ
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #363 เมื่อ: 03-11-2009, 15:22:51 »

นุกดีป๋า...

ฟริก...นาฟตี้.. กรี๊ดดดดดดด อิจฉามากมายเจ้าค่ะ >w<

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #364 เมื่อ: 03-11-2009, 17:11:47 »

แขนเริ่มมีกลิ่น??!! Shocked

ไม่น๊าาา อาริงต้องไม่ตายย Cry

หรือว่าอาจจะเป็นคนแขนขาดอยู่ Shocked

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 02-11-2009, 23:25:22
อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 02-11-2009, 18:50:47
นางเอกอาจจะเป็น นาฟตี้ก็ได้  Evil

หรือไม่อาริงก็อาจจะไม่ตาย แขนนั้นอาจจะเป็น..แขนเทียมที่ร้านตัดผมคนสนิทของอาริงทำให้(ขนาดทำหน้ายังเหมือนเลย)

กร๊ากๆๆ ก็พี่กบไม่ได้เขียนนี่นาว่าเห็นเลือดและกระดูก laugh(ชั่งกล้าคิดเนอะชั้น..=_=;)

อารง อย่าตายนะ Cry

ป.ล. มีคนโค่นที่ไชร์ ไก่ลุงเบนกลายเป็นไก่ย่าง 5 ดาวไปยัง Wink
ไม่คิดหรือว่า ไก่ลุงเบนอาจเป้นตัวการเรื่องทั้งหมดก็ได้ (ชั่งกล้าคิดเนอะชั้น..=_=;) (ยืมคำมาใช้   laugh laugh)
อาจจะเป็นไปได้เพราะ

1.เราชอบไปแย่งไข่ไก่ลุงเบน Evil

2.เราชอบหาว่าไก่ลุงเบนเป็นตุ๊ด Evil

3. ไม่มีอะไรหรอกแค่เพิ่มให้มันมี 3 ข้อ Evil

4. ถ้าไม่เข้าใจให้ย้อนกลับขึ้นไปอ่านข้อ 1 ใหม่

5. จบแล้ว Evil




อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #365 เมื่อ: 03-11-2009, 17:40:14 »

ตอนนี้เวลาพิมพ์ จะพยายามจะใช้สีเขียวมาสลับ คงพอทำให้อ่านง่ายขึ้นบ้างนะ เพระสีเขียวเป้นสีที่ทำให้ตาคนเรารู้สึกผ่อนคลายเวลามองสีเขียวเพื่อพักผ่อนสายตา
เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #366 เมื่อ: 03-11-2009, 17:42:45 »

แยกย้ายกันแล้ว
เหลือเป็นคู่ๆ
แล้ว...
เรย์รันคู่กะใครหว่า
เอ๊ะหรือมีแล้วแต่เราลืม - -;;;
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #367 เมื่อ: 03-11-2009, 17:45:33 »

อ้างจาก: นู๋เนย ชาร์ปชู้ตเตอร์ติ๊งต๊อง ที่ 03-11-2009, 17:42:45
แยกย้ายกันแล้ว
เหลือเป็นคู่ๆ
แล้ว...
เรย์รันคู่กะใครหว่า
เอ๊ะหรือมีแล้วแต่เราลืม - -;;;
อ้างอิงมาจากบที่ 22(บทข้างบน)
เรย์รัน : "ฝากพี่วาเนสซ่าด้วยนะ ส่วนฉันก้จะไปอยู่กับอาเวีย ไปช่วยเค้าเฝ้าดุแลป้อมเดธวิลเลย์ใหม่
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #368 เมื่อ: 03-11-2009, 18:02:53 »

งานนี้ปั๊มประชากรได้อย่างทันที(เนื้อคู่กันทั้งนั้น)><



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
quill
Sr. Member
****
กระทู้: 1,765

รูปชั่วคราว


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #369 เมื่อ: 03-11-2009, 20:58:22 »

วุ้นครองเซาเทิร์นไชท์หรือป่าว .= =)



quill farm

~สมาคมเดินเล่น~

วุ้นเทพตัวที่ 9 ผ่านไป 2 ปี 5 เดือน

อยากจะบอกว่าอย่าเปลี่ยนชื่อบ่อยนักเพราะมันจะลืมว่าป็นใคร - -
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #370 เมื่อ: 03-11-2009, 22:13:48 »

ทายซิ..อาริงจะคู่กะใคร Evil

อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 22 (03/11/52)
« ตอบ #371 เมื่อ: 03-11-2009, 23:23:10 »

อ้างจาก: quill ที่ 03-11-2009, 20:58:22
วุ้นครองเซาเทิร์นไชท์หรือป่าว .= =)
ยังไม่รู้เลย ^^ ไว้คิดตอนบทที่มันจะมาละกัน  laugh laugh

อ้างจาก: (¯`•¸•´¯)``สก็๏ตไบท๎,,*(¯`•¸•´¯) ที่ 03-11-2009, 22:13:48
ทายซิ..อาริงจะคู่กะใคร Evil
ใครจะมาคู่กะเจ๊แก ^^ laugh laugh
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 23 (04/11/52)
« ตอบ #372 เมื่อ: 04-11-2009, 11:05:29 »

บทที่ 23. สิ่งที่เฝ้าคิดถึงในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต   

หลังจากเหตการณ์ป้อมเดธวิลเลย์โดนทำลาย อาริงแขนซ้ายขาดไปทั้งแขนตั้งแต่ไหล่ลงไป เพราะโดนพวกดาบที่อยู่ตามพื้นที่พวกนักรบที่ตายในสงครามปลิวมาตัดแขนซ้ายขาดไปทั้งแขน และอาริงก็โดนแรงระเบิดกระเด็นไปตกในใต้หน้าผาแถวป้อมเดธวิลเล่ย์ แต่ยังโชคดีที่ใต้หน้าผานั้นเป้นแม่น้ำ อาริงตกลงไปในแม่น้ำใต้หน้าผา และในสติเฮือกสุดท้ายอาริงก็เอามือขวาเกาะท่อนไม้ที่ลอยตกลงมาพร้อมกับตนไว้ และพอเอามือขวาเกาะท่อนไม้ได้ก็หมดสติไปและไหลไปตามน้ำไปกับแม่น้ำนั้นเกือบครึ่งวันและไปเกยที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งและก็นอนสลบอยู่ตรงนั้นอีกครึ่งวัน ถ้าเป้นคนอื่นแขนขาดแบบนี้เลือดคงไหลหมดตัวไปแล้ว แต่อาริงเป้นลูกครึ่งมนุษย์กับอสุรา เลือดครึ่งหนึ่งในตัวของอาริงเป้นเลือดของอสุรามีปฏิกิริยาป้องกันตัวเองเลยทำให้บาดแผลที่แขนขาดนั้นกับสมานแผลและปิดลงไปมากถึงจะไม่หายดีแต่ก็ทำให้เลือดหยุดไหล แต่ถึงอย่างนั้นช่วงที่แผลกำลังสมาจตัวเพราะเลือดของอสุรา เลือดในตอนนั้นก็ไหลออกจากตัวอาริงมากพอสมควร เลยทำให้อาริงสลบไปนานเพราะร่างกายอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก

และในช่วงเวลาที่อาริงสลบเพราะร่างกายอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก อาริงก็เหมือนกับฝันไปว่าได้ไปสถานที่หนึ่ง และก็เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาเลียหน้าของอาริง ทำให้อาริงค่อยๆลืมตาดู พอลืมตามมาก็เจอแสงสว่างเข้าตา อาริงเลยต้องยกมือขวามาบังแสงที่เข้าตาและอาริงต้องใช้เวลาสักครู่กว่าจะปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างนั้น เมื่อสายตาชินกับแสงสว่างแล้วอาริงก็จะลุกขึ้นนั่งโดยพยามยามจะใช้แขนซ้ายดันตัวขึ้นมา แต่อาริงก้รู้สึกเจ็บที่ไหล่ซ้ายทันทีจนต้องร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา อาริงเลยเอามือขวาไปจับที่ไหลซ้ายดูและหันไปมองที่ไหลซ้ายของตัวเอง และตอนี้เองที่อาริงตระหนักแล้วว่าตัวเองไม่มีแขนซ้าย เลยใช้แขนขวายันตัวเองลุกนั่ง และก็มีเสียงหนึ่งเรียกอาริงจากด้านข้างขวาของอาริง

" ริงๆๆๆๆๆ" Smiley(อาริงได้ยินเสียงนี้รีบหันมาดูด้านขวามือของตัวเอง ปรากฎว่าเป้นวุ้นตัวหนึ่งสีทอง มีวงแหวนสีทองอยู่บนหัว แต่เนื้อตัวของวุ้นสีทองนั้นก็เต็มไปด้วยแผลเป็น ใช่แล้วนั่นคือ "เจ้าแผลเพียบที่เป้นวุ้นเทพ")

อาริง : "เจ้าเรียกฉันว่าอะไรนะ เรียกอีกทีสิ " (อาริงถามเจ้าวุ้นสีทองด้วยน้ำเสียสั่นครือ)
วุ้นเทพ : " ริงๆๆๆ" Smiley (วุ้นเทพรีบเรียกชื่ออาริงทันที และเพียงแค่นี้อาริงก็รู้แล้วว่า วุ้นเทพตัวนี้เป้นใคร)
อาริง : " เจ้าแผลเพียบๆ เป้นเจ้าจริงๆหรือเนี่ย " (อาริงรีบถาม และวุ้นเทพก็พยักหน้าว่าใช่มันคือเจ้าแผลเพียบนั่นเอง และก็ยังเรียกชื่อ ริงๆๆอีกครั้งเพื่อให้อาริงแน่ใจ)
อาริง : "ฮือๆๆๆ เจ้าแผลเพียบ เจ้าจริงๆด้วย ฉันคิดถึงเจ้ามากเลย ฮือๆๆ"(อาริงลืมความเจ็บปวดของไหล่ซ้ายที่แขนซ้ายขาดไป และรีบใช้มือข้างขวาที่เหลือกอดและอุ้มเจ้าแผลเพียบไว้ และซุกหน้าและหอมไปที่หน้าของเจ้าวุ้นเทพครั้งแล้วครั้งเล่า)
วุ้นเทพ : "  รัก รัก  Cry Cry" (เจ้าแผลเพียบก็ดีใจมากไม่แพ้อาริง ต่างคนก้ต่างน้ำตาไหล และร้องไห้ด้วยความคิดถึงและดีใจมาก)


อาริง : " แต่เจ้าตายไปแล้วนี่น่า และสีของเจ้าก็เปลี่ยนไปนะ แต่เนื้อตัวของเจ้าก็ยังมีแผลเป็นเหมือนเดิมไม่มีผิดเลยเนอะ แล้วที่นี่ที่ไหนเนี่ยมีแต่แสงสีขาวสว่างจ้าไปหมด " (อาริงถามเจ้าแผลเพียบ แต่ก้ยังกอดไว้อยู่ และหันหน้ามองไปรอบๆ)
วุ้นเทพ : ( เอามือชี้ไปที่หัวของตัวเอง เพื่อให้อาริงได้เห้นว่าหัวของเจ้าแผลเพียบ มีวงแหวนสีทองอยู่มันคือวงแหวนเทวดา)
อาริง : " เหรอ..นี่คือสวรรคหรือ เจ้าตายแล้วได้เกิดมาบนสวรรคเหรอ"
วุ้นเทพ : "  ใช่ ใช่"
อาริง : " แบบนี้ฉันก็ตายแล้วสินะ แต่ตายแล้วก็ดีเหมือนกันจะได้อยู่กับเจ้าที่นี่"
วุ้นเทพ : "  ไม่  ไม่ "
อาริง : "ส่ายหัวแบบนี้ แปลว่าฉันยังไม่ตายหรือ "
วุ้นเทพ : "  ใช่ ใช่ "
อาริง : " ถ้ายังไม่ตาย แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่บนสวรรคได้ละ "(อาริงถามวุ้นเทพด้วยความสงสัย และอยู่ๆก้มีเสียงหนึ่งพูดตอบอาริง)

เสียงสวรรค์(ได้ยินแต่เสียง) : " เจ้ายังไม่ตายหรอกนะ เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้จิตใจบางส่วนของเจ้าหลุดและล่องลอยออกจากร่างเป็นร่างจิต และด้วยจิตใจในส่วนลึกของเจ้ายังคงคิดถึงเจ้าวุ้นตัวนั้น และวุ้นเทพตัวนั้นก้คิดถึงเจ้ามากเช่นกัน และเมื่อจิตสองจิตสื่อถึงกันด้วยคำอธิฐานของจิตใจมันเลยเป้นการชักนำร่างจิตของเจ้ามาถึงที่นี่ได้ "
อาริง : " แบบนี้ก็เหมือนกับฝันไปใช่ไหม "
เสียงสวรรค์(ได้ยินแต่เสียง) : " จะเรียกว่าฝันซะทีเดียวก็ไม่ใช่ เพราะสิ่งที่เจ้าเห้นในขณะนี้มันคือเรื่องจริงทั้งหมด เพียงแค่ร่างจิตของเจ้ามาถึงที่นี่เอง และเมื่อถึงเวลาร่างจิตนี้ก็จะกลับเข้าร่างไปเอง"
อาริง : " แล้วร่างจิตนี้จะอยู่ได้นานเท่าไร กี่นาที กี่ชั่วโมง หรือกี่วัน "
เสียงสวรรค์(ได้ยินแต่เสียง) : " เอาเป็นว่า เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว เจ้าอยากจะคุยอะไรกับเจ้าวุ้นเทพตัวนั้นก็รีบคุยๆซะนั้น เพราะนี่อาจจะเป้นโอกาศเดียวของเจ้าที่ร่างจิตของเจ้าจะมาถึงที่นี่ได้"
อาริง : " นี่เจ้าแผลเพียบ เจ้ารู้ไหม ตั้งแต่ไม่มีเจ้า ฉันรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากเลย เจ้ายังจำคาเดท2คนนั้นได้ไหมที่ชื่อลูฟเฟ่นกับนาฟตี้ และเจ้าแอสต๊องๆฟริกซ์ ตอนนี้ทั้ง 3คนโตและเก่งขึ้นมากเลยนะ เป้นทั้งเพื่อนคอยช่วยเหลือและปกป้องกันทั้งยามปกติและยามรบ"
วุ้นเทพ : " laugh"


เสียงสวรรค์(ได้ยินแต่เสียง) : " เจ้าวุ้นตัวนั้นมันรู้มันเห้นทุกอย่างนั้นละ เพราะเจ้าวุ้นเทพตัวนั้นคอยเฝ้าดูพวกเจ้าอยู่ทุกวันจากบนนี้ละ เจ้าวุ้นเทพตัวนั้นมันผูกพันกับเจ้า ขนาดข้าจะสร้างร่างใหม่ที่ไร้บาดแผลให้ มันยังส่ายหน้าไม่เอาเลย มันคงคิดว่าสักวันหนึ่งมันจะได้เจอเจ้า และเจ้าจะได้จำมันได้จากรอยแผลเป้นตามตัวของมัน "
อาริง : " จริงหรือนี่ ดีใจจังที่เจ้ายังคอยดูฉันจากบนฟ้านี้"(อาริงลูบตัวของวุ้นเทพ และลูบตามรอยแผลเป้นของมัน)
วุ้นเทพ : " ริงๆๆๆ รักริงๆๆๆนะ" รัก รัก(เจ้าแผลเพียบพูดได้อีกนิดหน่อย และก็มีน้ำตาไหลออกจากตาของมัน และอาริงได้ยินประโยคนั้นก็ดีใจและน้ำตาไหลมากว่าเดิม เพราะคำพูดสั้นๆของเจ้าแผลเพียบ และทั้งคู่ก็กอดและคุยกันอีกพักนึง)
วุ้นเทพ : " ริงๆๆๆ ให้ริงๆๆๆ Smiley Smiley(เจ้าแผลเพียบก็ยื่นของสิ่งหนึ่งให้อาริง)
อาริง : " ฮือ..นี่มันคืออะไรหรือ ให้ฉันหรือ " (อาริงหยิบของสิ่นนั้นมาจากมือเล็กๆของเจ้าแผลเพียบ ของสิ่นนั้นคือ "ขนนกศักดิ์สิทธิ์"จำนวน 13อัน)
วุ้นเทพ : " ใช่ ใช่"
อาริง : " ขอบใจจ้า แต่ฉันจะเอาไปทำอะไรได้ละเนี่ยขนนกพวกนี้" (อาริงหยิบขนนกศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาดู)
วุ้นเทพ : " ริงๆๆๆๆ ปกป้องริงๆๆๆ"  Smiley Smiley
อาริง : " งั้นเหรอ เจ้าของสิ่งนี้จะช่วยปกป้องฉันได้หรือ ขอบใจนะ"(อาริงพูดจบก้เอามือลูบหัวเจ้าแผลเพียบ)
วุ้นเทพ : "  ใช่ ใช่" (เจ้าแผลเพียบพยักหน้าอย่างไว เหมือนจะบอกว่าของสิ่งนั้นจะช่วยปกป้องอาริง)
 
เสียงสวรรค์(ได้ยินแต่เสียง) : " ได้เวลาของเจ้าแล้วละที่ร่างจิตของเจ้าต้องกลับเข้าร่าง ขอให้เจ้าโชคดีนะ "

สิ้นเสียงของเสียงสวรรค์ ร่างของอาริงก็ค่อยๆเลือนลางหายไป แต่อาริงก็คงยังได้ยินเสียงเจ้าแผลเพียบเรียกชื่อตนเอง"ริงๆๆๆ รักริงๆๆๆนะ" และอาริงก้ตะโกนเรียกชื่อเจ้าแผลเพียบ จนเสียงนั้นจากหายไปและก้มีแต่ความมึดปกคลุม เพราะร่างจิตของอาริงกลับเข้าร่างที่สลบแล้ว แต่ถึงแม้สลบน้ำตาก้ยังไหลและปากมีรอยยิ้มเล็กๆและก็เรียกเจ้าแผลเพียบเบาๆด้วยความคิดถึงและด้วยความดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งแม้จะไม่นานก้ตามและมือขวาก็ยังคงกำขนนกศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น


เวลาผ่านไปจนค่ำ หลังจากที่อาริงลอยมาเกยที่ริมแม่น้ำ ก็มีคนมาพบเห็นอาริงนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ริมน้ำ ชายคนนั้นเลยอุ้มอาริงหายเข้าไปในป่าที่มีแต่ความมึด..................
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 23 (04/11/52)
« ตอบ #373 เมื่อ: 04-11-2009, 12:24:22 »

อิอิ...เจ้าแผลเพียบ Smiley


เวลาผ่านไปจนค่ำ หลังจากที่อาริงลอยมาเกยที่ริมแม่น้ำ ก็มีคนมาพบเห็นอาริงนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ริมน้ำ ชายคนนั้นเลยอุ้มอาริงหายเข้าไปในป่าที่มีแต่ความมึด..................

อ๊ะ...ชายคนนั้น  Evil คนนั้น  Evilคนนั้น Evil คนไหนหว่า...  laugh อ๊ะหรือว่า.... รัก

อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 23 (04/11/52)
« ตอบ #374 เมื่อ: 04-11-2009, 16:31:43 »

อ้างจาก: (¯`•¸•´¯)``สก็๏ตไบท๎,,*(¯`•¸•´¯) ที่ 04-11-2009, 12:24:22
อิอิ...เจ้าแผลเพียบ Smiley


เวลาผ่านไปจนค่ำ หลังจากที่อาริงลอยมาเกยที่ริมแม่น้ำ ก็มีคนมาพบเห็นอาริงนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ริมน้ำ ชายคนนั้นเลยอุ้มอาริงหายเข้าไปในป่าที่มีแต่ความมึด..................

อ๊ะ...ชายคนนั้น  Evil คนนั้น  Evilคนนั้น Evil คนไหนหว่า...  laugh อ๊ะหรือว่า.... รัก

อึดอัดมานานอยากจะพูดเนื้อเรื่องในส่วนเจ้าแผลเพียบ เวลามีคนโพสว่าลืมเจ้าแผลเพียบแล้วหรือ หรือว่าแผลเพียบทำไมตายหรือมีแค่5บท ต้องปิดปากตัวเองอึดอัดต้องนาน ว่าเจ้าแผลเพียบจะมีบทออกอีก แต่ต้องรอเวลาของอัน ตอนนี้สบายละบทนี้ออกมากละ 555
ปล. ไมได้ลืมเจ้าแผลเพียบ แต่เจ้าแผลเพียบก้มีบทและหน้าที่ของมัน แค่รอเวลาออกเท่านั้นและบทที่23เจ้าแผลเพียบก็ออกมาสักที 555โล่งละ
ป้าย:
หน้า: 1 ... 23 24 [25] 26 27 ... 37