บทที่ 20. บุกยึดป้อมเดธวิลเล่ย์
เวลา 19.30 กลุ่มนักรบที่จะยึดป้อมเดธวิลเล่ย์คืน ก็มาถึงเนินหินกว้างและสูงที่ห่างจากป้อมเดธวิลเลย์อยู่ประมาณ 500เมตร ซึ่งเป้นที่รวมพลก่อนที่จะรบ เพราะเป้นสถานที่เหมาะสำหรับการหลบและซ่อนตัวก่อนที่จะรบ และก่อนที่จะถึงเนินนี้ ตอนเย็นๆก่อนจะค่ำก้เจอเหล่าฝูงมังกรตามรายทางหลายสิบตัวแต่ก็ถูกเหล่าแอสซาซินใช้สกิลพรางตัวหายตัวไปจัดการเชือดทิ้งแบบไม่มีเสียงร้อง
อาริง : " โอเคหมอกบางๆลงแล้ว เพระอากาศกลางคืนในทะเลทรายจะหนาวมากเลยทำให้มีหมอกบางๆ เหมาะแก่การโจมตี และเพราะทะเลทรายกลางคืนมันหนาวเย็นแบบนี้ มันทำให้พวกมังกรเพลียจนง่วงและหลับและไม่ค่อยออกมาดินนอกป้อมกัน ว่าแล้วเราก็เริ่มแผนได้เลย"
สิ้นเสียงอาริงสั่ง แอสซาซิน 20 คนก็ใช้สกิล"พรางตัว"และ เทรเชอร์ฮันเตอร์ 10คนใช้สกิล"กลมกลืนธรรมชาติ"และหายตัวเป้นระยะๆ และมุ่งตรงไปยังหน้าป้อมเดธวิลเล่ย์ และแต่ละคนกระโดดไปที่กำพงและก็สำรวจสภาพป้อมที่ตอนนี้มีแต่เหล่ามังกรที่เดินและหลับอยู่ในป้อมเดธวิลเล่ย์เป้นพันๆตัว และเมื่อทุกคนพร้อมก็ลอบเข้าไปในป้อมเดธวิลเล่ย์ได้สำเร็จ และทำการเอาระเบิดซีโฟรที่อาเวียทำมาแบบพิเศษโดยก่อนใช้ให้กดตั้งเวลาไว้ 3นาที และเอาแอบติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆโดยที่เหล่ามังกรไม่รู้เลยว่ามีคนลักลอบเข้ามา เพราะถึงมังกรจะจมูกดี แต่ก็เจอความหนาวเย็นสุดๆของสภาพทะเลทรายตอนกลางคืนมันจึงการเป้นการจำกัดประสาทการดมกลิ่นไปได้เยอะเลยและชาร์ปชูตเตอรือีก 100คน ก็ค่อยๆเดินและคลานและมุ่งหน้าไปที่หน้าป้อมเดธวิลเล่ย์เหมือนกัน และจะคอยหมอบและหลบตามก้อนหินและเนินดินเนินทรายต่างๆ ซึ่งเหล่าชาร์ป 100คนจะอยู่ห่างจากกำแพงป้อมประมาณ 150เมตร เพราะเป้นระยะของลูกธนูที่หวังผลได้มากที่สุดในการยิงข้ามกำแพงของป้อมเดธวิลเล่ย์ซึ่งในกลุ่มชาร์ปนั้นวาเนสซ่าก็อยู่ด้วย และทหารประมาณ100คนก็อยู่ข้างหลังห่างจากแถวของชาร์ป100เมตร และเตรียมตัวพร้อม และส่วนนักรบที่เหลือก็จัดเป็นกลุ่มๆ และทะยอยๆ แยกๆกันไป ให้แต่ละกลุ่มมีหลากหลายอาชีพเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือกันได้
แอซซาซิน 20คนที่วางระเบิดเสร็จแล้ว ก็พร้อมใจกันใช้สกิลหมอกควันพร้อมๆกัน เพราะคนแรกใช้และคนอื่นๆเห้นสัญญาณสกิลหมอกควันก็เลยใช้พร้อมๆกันตามแผน และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็พร้อมใจกันกระโดดขึ้นไปบนกำแพงและกระโดดลงมานอกป้อม ซึ่งเทรเชอร์ฮันเตอร์ 10คนได้วางระเบิดและกระโดดออกมานอกป้อมก่อนแล้ว พร้อมๆกับระเบิดที่วางเอาไว้ระเบิดไล่เลี่ยกัน ทำให้เหล่ามังกรโดนระเบิดตายไปก็หลายร้อยตัวและเหล่าฝูงมังกรตกใจที่มีระเบิดในป้อมพอลืมตามาก็เจอแต่หมอกควันของสกิลของแอสทำให้มองอะไรไม่เห็นทำให้เกิดความวุ่นวายในป้อม และเหล่ามังกรบินเดรกก็พยายามจะบินขึ้นฟ้า แต่ก็ไม่สามารถบินได้เพราะเจอเหล่าลูกธนูที่ระดมยิงมาจากข้างนอกป้อมโดยฝีมือของเหล่าชาร์ปชูตเตอร์100คนนั้นเอง และเหล่าเรนเจอร์ก็วิ่งมาสบทบยิงด้วยอีกหลายสิบคนและทหาร 100คน เมื่อเห้นชาร์ปยิงธนูเข้าไปในป้อมเดธวิลเล่ย์แล้ว ทหาร100คนและวิสาท30คนก็วิ่งขึ้นหน้าเหล่าชาร์ปชูตเตอร์ไปยังใกล้ๆทางเข้าออกของป้อมเดธวิลเล่ย์เว้นระยะไว้100เมตร เพื่อคอยดักยิงเหล่ามังกรเดรโก้ที่หนีตายจากเหล่าลูกธนูจากบนฟ้า โดยน่าวิ่งออกมาทางด้านหน้าประตู และก็ตามที่คิด มีฝูงมังกรเดรโก้วิ่งออกมาจากประตูหน้าป้อมเดธวิลเล่ย์หลายร้อยตัว พวกวิสาทและทหารก้รอให้มังกรเดรโก้ออกมาให้เยอะๆและพอได้ระยะเวทย์ วิสาทสายไฟก็ระดมร่ายเวทย์ใหญ่"
อัคคีทำลายล้าง"จัดการ และตัวไหนเล็ดรอดจากเวทย์ไฟมาได้หรือยังไม่ตายทหาร100คนช่วยก็ยิงซ้ำ
ถึงชาร์ปชูตเตอร์จะระดมยิงลูกธนูยังไง แต่ก้มีแค่100คน แต่มังกรบินเดรกมีเป็นพันๆตัว จึงมีมังกรบินเดรกหลายร้อยตัวสามารถบินหนีออกมาจากป้อมเดธวิลเล่ย์ และทุกตัวก้บินโฉบลงมายังกลุ่มนักเวทย์และทหารและชาร์ปชูตเตอร์และสามารถโฉบร่างของเหล่านักรบไปได้หลายคนเหมือนกัน ทำให้ทหารและชาร์ปหลายคนก้ต้องหันปืนและธนูยิงขึ้นฟ้าเพื่อสกัดมังกรบินเดรก และกลุ่มนักรบที่เหลือก็วิ่งมาถึงกลุ่มชาร์ปและทหารพอดี เลยช่วยกันจัดการมังกรบินเดรก
ส่วนที่หน้าประตู วิสาทก้ร่ายเวทย์ไฟต่อไป แต่แล้วก็เกิดเหตขึ้น เมื่อวิสาท 10 คน ถูกมังกรบินแดงคริมสันเดรกพุ่งออกมาจากหน้าประตูและโฉบเอาไป เพราะมังกรบินแดงคริมสันเดรกเป้นธาตุไฟ จึงไม่กลัวเวทย์ไฟใหญ่อัคคีทำลายล้าง อาริงเลยให้นักรบ2กลุ่มไปคุ้มกับวิสาทและให้เอาวิสาทไปเสริมอีก แอสสายดาวกระจาย20คน และชาร์ปชูตเตอร์ 20คน เทรเชอร์ฮันเตอร์ 10คนและทหารอีก 30คน ก็กระโดดและปีนขึ้นไปบนกำแพง และระดมยิงธนู ดาวกระจาย ยิงปืนและปาระเบิดลงมาใส่ฝูงมังกรที่ยังอยู่ในป้อม เพราะทางออกสำหรับพวกมังกรเดรโก้ทางเดียวคือประตูหน้าของ ป้อมเดธวิลเล่ย์ ทำให้ข้างในยังเกิดความวุ่นวายกันอยู่ จึงยังอยู่กันเป้นกลุ่มก้อน จึงเป้นโอกาศดีมากๆที่เหล่าชาร์ป ทหาร แอสสายดาวกระจาย ที่ระดมยิงลงไปอาริง : " ชาร์ปชูตเตอร์และทหารที่เหลือ ให้แบ่งกำลังเล็งยิงฝูงมังกรบินอย่างเดียวไปเลย ส่วนพวกมังกรเดรโก้ เดี๋ยวให้วิสาทและนักรบประชิดจัดการ"
ชาร์ปชูตเตอร์ที่ตอนแรกระดมยิงธนูเข้าไปในป้อม และทหารที่ยิงมังกรเดรโก้ที่หน้าประตูก็แบ่งกำลังส่วนมากไปยิงมังกรบินเดรกแล้ว ส่วนชาร์ปและทหารบางส่วนที่เหลือก็ตามชาร์ปและทหารก่อนหน้านี้ขึ้นไปบนกำแพง และระดมยิงจากบนกำแพงเข้าไปยังป้อม มังกรเดรโก้ที่หน้าประตูที่ตอนนี้ทะยอยออกมากันแล้วเพราะโดนกดดันจากพวกที่อยู่บนกำแพง เลยทำให้ต้องดันกันออกมา และก็เป้นเหล่านักรบประชิดก็ค่อยๆจัดการไป
30 นาทีผ่านไป การสู้รบมันก็ต้องมีการสูญเสียทั้ง 2ฝ่าย ฝ่ายมังกรตอนนี้ล้มตายไปเป้นพันๆแล้ว ส่วนฝ่ายมนุษย์ดูจะเสียน้อยหน่อยเพราะทำตามแผน และต่างคนต่างก็ระวังให้กันเพราะสู้กันเป็นกลุ่มๆ และทุกคนก็เริ่มเห็นความหวังอันสดใสแล้วว่าศึกนี้พวกตนชนะแน่ๆ เลยทำให้ยิ่งฮึกเหิมกันเข้าไปใหญ่ เหตการณ์มันก็น่าจะเป้นตามนั้น แต่ก็หาเป้นตามนั้นไม่ เพราะสิ่งที่ขัดขวางชัยชนะนั้นมันคือ "ราชามังกรเกเลี่ยน" มังกรบินได้ที่มีขนาดใหญ่มาก มันมาแล้ว และตอนนี้ก็บินอยู่เหนือท้องฟ้าสูงขึ้นไป 100เมตร และมันก็เห้นทุกอย่างชัดเจนจากบนฟ้านั้น และมันจึงส่งเสียงร้องคำรามดังมาก พวกมังกรที่ได้ยินเสียนายของมัน ก็เลยส่งเสียงร้องตามๆกันไป และทำให้มังกรที่เหลือพอรู้ว่านายมันมาแล้ว มันก็กลับฮึกเหิมแทนมนุษย์ ที่ตอนนี้เงยหน้ามองราชามังกรเกเลี่ยนอยู่ด้วยความกลัวและตกใจ เพราะไม่เคยเห็นมังกรที่ใหญ่ขนาดนี้ใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดา 3-5เท่าราชามังกรเกเลี่ยน บินโฉบต่ำลงมาและใช้สกิล
พายุหมุน เพื่อทำให้ฝุ่นทรายคลุ้งขึ้นมาทำให้เหล่านักรบและทหารที่หลับตาไม่ทัน ทรายก็เข้าตากันเป้นจำนวนหลายคน และพายุหมุนนี้ก็ทำให้ฝุ่นทรายคลุ้งและทำให้ไม่สามารถมองไกลได้เกิน3เมตร ทำให้นักรบและทหารในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะฝุ่นทรายเยอะมาก และไม่ทันที่ฝุ่นทรายจะจาง ราชามังกรเกเลี่ยนก็ระดมปล่อยสกิล
เพลิงพิฆาตลงไปที่พื้นที่ข้างล่างที่พวกนักรบและทหารกำลังโดนฝุ่นทรายเล่นงานอยู่ และราชามังกรเกเลี่ยนก็บินโฉบไปมาและส่งเสียงร้องคำรามตลอดเวลาเหมือนสะใจ เพียงแค่ราชามังกรเกเลี่ยนมาไม่กี่นาทีนี้ก็มีคนบาดเจ็บล้มตายหลายคนแล้ว
ลูฟเฟ่น : "เอาไงดีพี่อาริง สถานการณ์พลิกกลับทำให้เราเสียเปรียบแล้ว เพราะมันอยู่สูงมากลูกธนูและกระสุนยิงไปไม่ถึงมันเลย" (ลูฟเฟนพูดและเงยหน้ามองไปบนฟ้าที่ราชามังกรเกเลี่ยนบินอยู่ อาริงเลยกระซิบข้างๆหูของลูฟเฟ่นเพื่อบอกแผน)
อาริง: " เอาตามนั้นนะลูฟเฟ่น รอจังหวะตามที่บอกแล้วทำตามแผนเลยนะ ฝากด้วยนะ "(พูดเสร็จอาริงก็วิ่งไปหาจังหวะที่จะจัดการ)
ราชามังกรเกเลี่ยนก็บินโฉบต่ำลงมาอีกรอบและ ใช้สกิลพายุหมุนเพื่อพัดฝุ่นทรายขึ้นมารบกวนสายตาทหารและนักรบ และลงเวทย์เพลิงพิฆาตอีกรอบ และจังหวะนั้นเองที่ราชามังกรเกเลี่ยนลงเวทย์พายุหมุน ลูฟเฟนใช้2มือจับผสานกันไว้และให้อาริงเหยียบที่มือที่ผสานนั้นไว้ และให้ลูฟเฟ่นโยนอาริงขึ้นไปบนฟ้าและอาริงก็ใช้ประโยชน์จากพายุหมุนใช้แรงลมพาส่งขึ้นไปได้สูงจนถึงหน้าราชามังกรเกเลี่ยน อาริง : "
ดาบผ่าอากาศ "
อาริงใช้ดาบผ่าอากาศเพื่อจะฟันคอของราชามังกรเกเลี่ยน แต่ราชามังกรเกเลี่ยนก้เบี่ยงหลบอย่างไวแบบกระทันหันจึงโดนแค่ปีกด้านซ้ายขาดไปครึ่งนึง ทำให้ราชามังกรเกเลี่ยนบินเป๋ไปหน่อย และยังไม่ทันที่ราชามังกรเกเลี่ยนจะตั้งตัวทัน วาเนสซ่าก็ถูกลูฟเฟ่นจับโยนขึ้นมาบนฟ้าและอาศัยแรงพายุหมุนช่วยเหมือนกัน วาเนสซ่าก็ระดมยิงธนูอย่างไวที่สุดเท่าที่จะทำได้พริบตาเดียวลูกธนู 20ดอกก็ปักเข้าไปที่ปีกขนาดใหญ่ด้านขวาเต็มไปหมด 20ดอก ปีกซ้ายขาดไปครึ่งนึง และปีกขวาโดนระดมยิงด้วยลูกธนู20ดอก และวาเนสซ่าก็เกร็งพลังยิงลูกธนูด้วยสกิล "
ศรกัปนาท"เข้าที่กลางหลังของราชามังกรเกเลี่ยน เพียงแค่นี้ราชามังกรเกเลี่ยนก็ดิ่งตกลงสู้พื้นอย่างแรง เพราะปีก 2ข้างถูกทำลายลงแล้วและหลังโดนยิงด้วยสกิลศรกัปนาทอย่างแรง
อาริงและวาเนสซ่าก็ตกลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย เพราะลูฟเฟ่นสั่งให้คน10คน ช่วยกันไปกางผ้ารับไว้ได้ และตอนนี้ราชามังกรเกเลี่ยนก็ลุกขึ้นมายืนแล้ว และยิ่งเห้นใกล้ๆก็ยิ่งดูใหญ่เข้าไปอีก ราชามังกรเกเลี่ยนร้องคำรามอย่างเจ็บปวดเลยยิ่งแผดเสียงร้องดังไปใหญ่ จนต้องอุดหูกัน และในขณะที่ราชามังกรเกเลี่ยนแผดเสียงร้องนั้นก็ใช้สกิลเพลิงพิฆาตไปด้วย แต่นี่ยิ่งน่ากลัวใหญ่เพราะราชามังกรเกเลี่ยนเล็งปล่อยสกิลเพลิงพิฆาตมั่วไปหมดเลยทำให้เดาและคาดคะแนไม่ได้ว่าจะปล่อยเพลิงพิฆาตตอนไหนและทางใด ทุกคนเลยต้องถอยหลังหลบไปตั้งหลักกันไปก่อนเว้นระยะเพื่อไม่ให้โดนสกิลเพลิงพิฆาต