บทที่ 19. รวบรวมนักรบและผู้กล้าที่แตกแยก
อาริงและนาฟตี้ กลับมาจากล่าสัตว์แถวทะเลทราย ก็ได้หมูร็อคและแพะพิกม่ามาอย่างละ 10ตัว ซึ่งกะว่าจะพอกินในคืนนี้และเก็บเป้นสเบียง แต่พอเดินขึ้นเนินมา ก็เจอคนเพิ่มมากกว่าเดิม20-30 คน แถมมีคนเจ็บอีกเยอะ อาริงเลยให้ทหารแถวนั้นเอาอาหารไปทำกัน และตัวอาริงก็ออกไปหาอาหารมาเพิ่มอีก เพราะไม่รู้ว่าจะมีคนที่รอดชีวิตมาอีกไหม เลยต้องออกไปเตรียมหาอาหารไว้ล่วงหน้าโดยลากรถเข็นไปด้วย 2คันเพราะจะได้กลับมาทีเยอะๆ
นาฟตี้ : " พี่ลูฟเฟ่น มาช่วยกันสร้างกระโจมเพิ่มหน่อยสิ เพราะอากาศตอนกลางคืนหนาวมาก ถ้าให้นอนกลางดินคงไม่แคล้วเป้นหวัดกันตายแน่ๆ"
ลูฟเฟ่น : " ได้สิ แต่เดี๋ยวนะ ขอพี่แบ่งคนไปหาฟืนมาก่อทำอาหาร และก่อผิงไฟก่อนนะ เดี๋ยวจะแบ่งคนไปช่วยทำกระโจมให้"(ลูฟเฟ่นตะโกนบอก และให้ทหาร 3คนไปหาฟืนเท่าที่หามาได้ และลูฟเฟ่นและทหารอีก10คน ก็มาช่วยกันทำกระโจมใหม่อีก 3หลัง เท่ากับว่าตอนนี้มีกระโจมใหย่ 7หลังแล้ว คงพอให้คนอาศัยรวมกันได้30-50 คน)
เรย์รัน : " ขอพักก่อนนะ หมดแรง แถมพลังเวทย์หมดละ รักษาคนเจ็บหนักเกือบ 10คน หมดแรงเอาง่ายๆเลย"(เรย์รันก็ถือว่าได้ประสบการณ์ใหม่ๆในการรักษา คาดว่าอีกไม่นานก็จะเก่งแบบก้าวกระโดดในการรักษาฟื้นฟู)
วาเนสซ่า : " ไอ้ขาบ้าเอ๊ย หายไวๆสักทีสิ ฉันจะได้มีประโยชน์เหมือนกับคนอื่นๆบ้าง" (วาเนสซ่านั่งมองขาตัวเองและบ่นใส่ตัวเอง)
เรย์รัน : " นี่ๆ ไม่ต้องเป้นห่วงหรอก รักษาอีกนิดหน่อยพรุ่งนี้ก็น่าจะเดินได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่สามารถเดินได้นานมากนะ เพราะถ้าให้หายสนิทจริงๆก็น่าจะ 2วัน ถ้าพี่วาเนสซ่าไม่ลุกเดินโดยใช้ขานี้อีกนะจะได้หายไวๆ"
และตามที่คาด อาริงลากรถเข็นกลับมาพร้อมทั้งได้หมูร็อคและแพะพิกม่ามาอีกหลายสิบตัว และพร้อมด้วยนักรบผู้รอดชีวิต แต่เป้นพวกเด็กคลาส1ทั้งนั้น มีทั้งไฟเตอร์ เรนเจอร์และแคสเตอร์รวมกัน 5คน
อาริง : " คนข้างบนช่วยมาลากรถเขนขึ้นไปหน่อย งวดนี้หนัก"(อาริงตะโกนบอก และมีทหารและนักรบลงมาช่วยกันลากรถเขนขึ้นไปจนได้ทั้ง 2คัน)
เรย์รัน : " อาหารเยอะมากเลย คงพอกินกันได้2-3วันแล้วละ สำหรับคนจำนวนเท่านี้"
อาริง : " แค่อาหารเท่านี้ฉันหาเท่าไรก้ได้ เพราะใจฉันอยากให้มีคนรอดมากกว่านี้อีก"(อาริงพูดและหันไปมองเหล่าทหารและนักรบที่รอดตายมา ที่นั่งกันอยู่ตามพื้นและในกระโจม)
นาฟตี้ : " แต่ฉันกำลังนึกอยู่ ว่าเรากำลังขาดอะไรไปบางอย่าง แต่เหมือนๆใกล้ๆตัวนี่ละ แต่นึกไม่ออก"
คนแคระเคน : " น้ำยังไงละ ที่นี่เป้นเขตทะเลทราย ถึงที่นี่มีน้ำเก้บสำรองใช้ แต่คงไม่พอใช้สำหรับคนจำนวน50-60คนหรอก เพราะข้าอยู่ที่นี่คนเดียว เลยมีเก็บสำรองไม่มาก"
อาริง : "จริงๆด้วย ลืมคิดไปเลย มัวแต่หาอาหาร แล้วเราจะหาน้ำจากไหนละเนี่ยลุงคนแคระ"
คนแคระเคน : " ก็ในถ้ำผลึกนั่นละ จะมีแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ แต่เป้นอีกทางที่แยกระหว่างไปชั้นเคออสติคนะ มันเป็นทางลับที่สามารถทะลุไปโผล่ทะเลทรายก่อนถึงเมืองเซาเทรินฟอร์ทได้นะ"
อาริง : " ในถ้ำนั้นมีทางอีกทางด้วยหรือ ฉันไม่ทันสังเกตแฮะ "(อาริงพูดเสร็จ คนแคระเคนก็สั่งให้คนเอาถังน้ำเปล่าๆจำนวน 10ถัง ใส่รถเข็น2คัน และคนแคระเคนก็มุ่งหน้านำอาริงและทหารอีก 4คน เข้าไปยังถ้ำผลึกในส่วนที่มีน้ำธรรมชาติ)
นาฟตี้ : " จะมึดแล้ว อาเวียกับฟริกซ์ยังไม่กลับมาเลย หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องขึ้นนะ "
เรย์รัน : " คงไม่หรอก 2คนนั้นเก่งจะตายไป และอีกอย่างเค้าคงอยากกับมาที่นี่ใจจะขาดอยู่แล้วมั้ง"(เรย์รันพูดและมองหน้านาฟตี้ และ2คนนี้ก็หัวเราะคิกคักกันเพราะกำลังนินทาคนที่ตัวเองชอบกันอยู่)
ลูฟเฟ่น : " อ้าวๆๆ หัวเราะคิกคักอะไรกัน 2คนนี้ หรือว่าแอบนินทาเจ้าฟริกซ์กับอาเวียมัน"
นาฟตี้ : " แหมๆๆ ตั้งแต่มีแฟนนี่ รู้สึกรู้ใจผู้หญิงจริงๆนะ "(นาฟตี้ทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่พี่ชาย)
ลูฟเฟ่น : " ใครแฟน วาเนสซ่าเค้ายังไม่ได้ตกลงอะไรกับพี่เลย จะเรียกว่าแฟนได้ยังไง"
นาฟตี้ : " ฮันแน่ๆๆ ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าชอบพี่วาเนสซ่าอยู่และคิดอยากจะเป้นแฟนกับพี่วาเนสซ่าจริงๆ เพระหนูยังไม่ได้เอยชื่อเลยว่าแฟนพี่เป้นใคร คิกๆๆ"(นาฟตี้ได้ทียิ่งหัวเราะคิกคักกับเรย์รันใหญ่เลย)
ลูฟเฟ่น : " เฮ้อ.. หลงกลเจ้าน้องตัวดีอีกแล้ว แพ้ทางเจ้าน้องบ้านี่จริงๆ"
นาฟตี้ : " แล้วนี่จะไปไหนละเนี่ย ไม่ไปเฝ้ายามต่อละ "
ลูฟเฟ่น : " ผลัดเวรแล้วให้คนอื่นดูต่อ และนี่ก็กำลังจะเอาอาหารไปให้วาเนสซ่ากิน เพราะคาดว่าพวกเธอ 2คนคงลืมเอาอาหารเย็นมาให้พี่เค้าแล้วละสิ เพราะเห็นยุ่งๆกันอยู่"(พอลูฟเฟ่นพูดจบก็เดินเข้ากระโจมไป และทั้งนาฟตี้และเรย์รันก็สะดุ้งกับคำพูดนั้น เพราะยุ่งจริงๆในตอนนี้เลยลืมเรื่องอาหารของพี่วาเนสซ่าไป)
พระอาทิตย์ตกดินแล้ว คนแคระเคนและอาริงกับทหาร4คนก็ ออกมาจากถ้ำผลึกพร้อมด้วยรถลากที่มีถังใส่น้ำจำนวน 10ถัง คนแคระเคนเลยส่งให้ทหารช่วยกันเอาไปวางไว้ตามกระโจม 7หลัง หลังละ 1ถัง และสักพักทหารลาดตระเวนที่ออกไปหาคนที่รอดชีวิตก็กลับมากัน และมาบอกสถานการณ์ปัจจุบันที่แถวๆป้อมเดธวิลเล่ย์
ทหารลาดตระเวน : " ในป้อมและบริเวณข้างนอกโดยรอบ ก็ยังคงมีฝูงมังกรอยู่เหมือนเดิม เลยไม่สามารถเดินไปยังเมืองวิลเดอวู้ดได้"
อาริง : " แบบนี้เท่ากับเราถูกตัดขาดจากเมืองทางฝั่งโน้นหมดเลย"(อาริงพูดและดูแผนที่เมืองต่างๆ และก็มีเสียงหนุ่งพูดแทรกมาข้างหลัง)
อาเวีย : " แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นคือ พวกเราโดนตัดขาดจากเมืองต่างๆโดยสิ้นเชิง เพราะเมืองเซาเทรินฟอร์ทถูกทำลายและถูกเหล่ามอนสเตอร์ยึดครองแล้วเหมือนป้อมเดธวิลเล่ย์"(ทุกคนหันไปมองอาเวีย ที่กลับมาคนเดียว)
อาริง : " จริงหรือ ขนาดเมืองเซาเทรินฟอร์ทยังถูกทำลายเลยหรือ เท่ากับว่าเราถูกตัดขาดหมดเลยทุกทาง แล้วเจ้าเจอผู้รอดชีวิตไหม"
อาเวีย : " เจอเยอะเลยละ แต่ตอนนี้พวกที่รอดชีวิตส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ค่าจอมเวทย์ เพราะที่ค่ายจอมเวทย์ไม่โดนโจมตี มาดามหว่องก็รอดนะอยู่ที่ค่ายพักจอมเวทย์เหมือนกัน และน่าจะมีอีกหลายร้อยคนที่หลบอยู่ตามป่าแถวเซาเทรินฟอร์ท หรือไม่ก็น่าจะหนีรอดออกไปอยู่ฝังที่จะไปทางป้อมปราการตะวันออกนะ "
นาฟตี้ : " แล้วพี่ฟริกซ์ละทำไมไม่กลับมาด้วย" (นาฟตี้ถามด้วยอาการร้อนรน)
อาเวีย : " ฟริกซ์ มันบอกว่า มันรู้จักเมืองเซาเทรินฟอร์ทเป็นอย่างดี เลยลอบเข้าไปในเมือง และใช้สกิล "พรางตัว" เพื่อไม่ให้โดนเห้น และจะค่อยๆลัดเลาะทางลัดเพื่อไปทางออกนอกเมืองทางประตูทางออกด้านที่จะไปป้อมปราการตะวันออกเพื่อไปแจ้งข่าวให้ที่ป้อมปราการตะวันออกและที่วิลโดเนียรู้"
นาฟตี้ : " แล้วพี่ปล่อยให้พี่ฟริกซ์ไปคนเดียวได้ยังไง "(นาฟตี้เอามือทุบหลังอาเวีย)
อาเวีย : "ถ้าพี่มีสกิลพรางตัวหรือหายตัวได้ พี่ก็ไปด้วยแล้วละ แต่พี่ไม่มีฟริกซ์มันเลยให้พี่กลับมาแจ้งข่าวกับพวกพี่อาริงก่อน จะได้วางแผนถูก"(นาฟตี้ได้ฟังดังนี้ เลยทำให้ใจเย็นลง และขอโทษอาเวียที่ประกี้พูดว่าอาเวียออกไป)
อาริง : " แล้วเจ้าพอจะรู้ไหม มอสเตอร์อะไรที่ยึดเมืองเซาเทรินฟอร์ทได้ "
อาเวีย : " เท่าที่เจ้าฟริกซ์มันปีนขึ้นไปดูบนหลังคาเมือง และออกมาบอกข้า คิดว่าน่าจะเป้น มอนสเตอร์ในสังกัด "อัศวินปีศาจดูลาฮาน เพราะความโหดเหื้ยมของมันแค่เห้นหน้าเมืองก็น่าขนลุกแล้ว เพระมันใช้ศพของชาวเมืองและนักรบ มาเสียบกับไม้และปักไว้ที่หน้าเมืองเป้นสิบๆเลย แถมบนกำแพง มันก็เอาศพคนมาเสียบตามรั้วของกำแพงอีก" (อาเวียพูดและมีเหงือออกตามหน้าเพียงแค่เอ่ยชื่ออัศวินปีศาจดูลาฮาน และเล่าเหตการณ์ที่เมืองเซาเทรินฟอร์ท)
อาริง : " มันทำถึงขนาดนี้เลยหรือ มันทำเพื่อข่มขวัญผู้คนไม่ให้คิดต่อกรกับมัน"(อาริงพูดและกำดาบในมือแน่น)
อาเวีย : " พี่อาริงจะทำอย่างไรก่อนดี "
อาริง : "พี่กะยึดป้อมเดธวิเล่ย์ก่อน เพื่อที่จะเปิดทางไปยังเมืองอื่นๆเพื่อรวบรวมคนได้ง่ายกว่า ถ้าจะยึดป้อมเดธวิเลย์ก็ต้องหานักเวทย์ไฟฝีมือดีๆมาหลายๆคน และหาพวกเหล่าพลธนูมาเยอะๆ ก็พอจะยึดป้อมเดธวิเลย์ได้"
อาเวีย : "แสดงว่าพี่อาริงมีแผนแล้วหรือที่จะยึดป้อมคืน "
อาริง : "พอมีแต่ต้องมีคนพอสมควรตามที่พี่บอกประกี้นะ"
อาเวีย : " งั้นผมจะไปที่ค่ายจอมเวทย์เพื่อของคนมาช่วยละกัน"(อาเวียทำท่าจะลุกไปในทันที แต่อาริงเอามือจับบ่าไว้ไม่ให้ลุก)
อาริง : " ตอนเช้าค่อยไปก็ได้ ตอนนี้พักก่อนเถอะ เพราะทางเราก็ต้องหาคนที่รอดตายมาเพิ่มและให้คนที่เจ็บตรงนี้ให้หายพอที่จะมีกำลังรบได้อีก ตอนนี้เลยต้องพักและฟื้นฟูคนให้ได้มากที่สุดไม่ต้องรีบร้อนมากนัก "(อาริงพูดเสร็จก็เก็บแผนที่ให้ให้ทุกคนแยกย้ายไปกินอาหารและไปพักผ่อน)
อาริงยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน และคิดถึงหลายๆเรื่องที่ผ่านเข้ามา และเดินไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ริมผา และเอาดาบใหญ่ 2เล่มมานั่งขัดและลับคมเพื่อให้มันคมพอที่จะสังหารฝูงมังกร
พอถึงเวลาเช้า อาเวียเลยเดินทางไปค่ายพักจอมเวทย์ เพื่อไปขอกำลังคนเท่าที่จะขอได้ เพื่อมายึดป้อมเดธวิลเล่ย์คืนและอาเวียก็มีทหารลาดตระเวนตามไปด้วย 15 คน เพื่อจะไปช่วยกันหาผู้รอดชีวิตแถวๆป่าเมืองเซาเทรินฟอร์ท ส่วน อาริง ลูฟเฟ่น กับเบรดมาสเตอร์ 2คน พาราดิน2คน แอสซาซิน 4คน ชาร์ปชูตเตอร์5คน และเรนเจอร์ 5 ที่พร้อมจะสู้รบก็ มุ่งหน้าไปเนินเขาและแถวทะเลทรายแถวป้อมเดธวิลเล่ย์ เพื่อค่อยๆซุ่มโจมตีจัดการฝูงมังกรทีละกลุ่มๆ เป้นการตัดกำลังและเตรียมพื้นที่ให้พร้อมที่จะบุกป้อมในอีก2วันข้างหน้า ซึ่งทั้งวันนั้นพวกอาริงคอยแอบดักซุ่มโจมตีฝูงมักรได้เกือบร้อยตัว และพอใกล้พระอาทิตย์ตก พวกอาริงก็เดินทางกลับมาพักที่เนิน และพบว่า ทหารลาดตระเวนที่ออกไปหาคนที่แถวป่าเมืองเซาเทรินฟอร์ท ก็ได้นักรบหลายอาชีพมาอีกเกือบ50คน ทำให้ตอนนี้ที่พักบนเนิน มีกำลังที่พร้อมจะรบอยู่รวมกับที่บาดเจ็บใกล้จะหายก็เกือบ 100คนได้แล้ว ตอนนี้อาริงก็รอเพียงรุ่งเช้าว่าอาเวียจะหาคนมาช่วยสู้ได้กี่คน
และพอตอนเช้าวันใหม่มาถึง อาเวียก็ยังไม่กลับมา อาริงเลยสั่งให้ทุกคนเตรียมหุงหาอาหารไว้ให้พร้อมเสมอ และให้นักรบที่จะไปรบแต่ละคนเตรียมอาวุธให้พร้อมเต็มที โดยเฉพาะวาเนสซ่าที่ขายหายเจ็บแล้ว เพราะอดทนนั่งๆนอนๆเฉยๆโดยไม่เดินเพื่อให้ขาหายเจ็บจริงๆ และวาเนสซ่าก็เตรียมตัวไปรบอย่างเต็มทีเพราะคันไม้คันมือมาหลายวันแล้ว และวาเนสซ่าก็ลากลูกธนูที่ตัวเองทำไว้ตอนที่ขาเจ็บมาวางไว้ที่หน้ากระโจม
ลูฟเฟ่น : " อะไรเนี่ย ขนาดนั่งๆนอนๆ2วัน ยังแอบทำลูกธนูเองเยอะขนาดนี้เลยหรือนี่"
วาเนสซ่า : " ก็มันเบื่อนี่ เผลอๆไม่รู้แค่นี้จะพอยิงไหม น้อยไปด้วยซ้ำนะเนี่ย"(วาเนสซ่าก้มไปมองกองลูกธนูที่ทำเอง)
ลูฟเฟ่น : " ขนาดนี้ก็หนักแล้ว จะขนไหวหรือเพราะน่าจะหนักเพราะเยอะขนาดนี้ ขาก็เพิ่งหาย"
วาเนสซ่า : " สบายมาก เพราะฉันไม่ได้คิดจะแบกเองทั้งหมด บางส่วนฉันก็แบกเอง แต่ส่วนที่เยอะๆหนักๆเป้นตาบึ๊กเธอนั่นละที่แบกไปให้ที "(วาเนสซ่ายิ้มให้กับลูฟเฟ่น)
ลูฟเฟ่น : " งานเข้าเลย" (ถึงวาเนสซ่าไม่บอก ในใจลูฟเฟ่นก็กะจะแบกลูกธนูเหล่านี้ให้อยู่แล้ว)
วาเนสซ่า : " โอ๊ะ.. สงสัยอาเวียจะมาแล้ว เห้นมีทหารและนักรบตามมาข้างหลังด้วยตั้งเยอะเนะ"(วาเนสซ่าชี้ให้ลูฟเฟนดู และวาเนสซ่าเองก็เดินไปตามอาริงให้มาดุ และสักพักอาเวียก็เดินขึ้นเนินมาพร้อมกับทหารและนักรบประมาณ 500คน )
อาเวีย : " ได้เท่านี้ละพี่อาริง 500คน พวกเรนเจอร์และชาร์ปสายธนูก็มีประมาณ 200คน นักเวทย์สายไฟ 100คน แอสซาซิน ทหาร และนักรบอื่นๆคละเค้ากันก็ 200คน เพราะทางนั้นก็ต้องมีทหารและนักรบอยู่ดูแลค่ายนักเวทย์ทางนั้นด้วย เพราะทางนั้นมีชาวบ้านเยอะ เลยต้องป้องกันให้ดีๆ ทางนั้นเลยแบ่งกำลังมาให้เท่านี้ละ"
อาริง : " แค่นี้ก็ยังดีแล้ว รวมกับทางเราก็600คนกว่าๆ ถ้าแผนใช้ได้ก็มีโอกาศชนะเหมือนกัน"
อาริงเลยให้ผู้นำของแต่ละกลุ่มเข้ามาวางแผนกันในกระโจม แล้วค่อยเอาแผนการณ์นี้ไปบอกต่อแต่ละกลุ่มของตัวเอง และอาริงเลยสั่งให้ทุกคนพักผ่อนและกินให้อิ่ม เพื่อจะได้มีแรงพร้อมรบเต็มที เพราะเราจะไปกันตอนเย็นๆและคงถึงป้อมเดธวิเลย์ก็คงมึดพอดี และพอซักซ้อมแผนการรบกันแล้ว ทุกคนก็จัดทัพของแต่ละคนและคว้าอาวุธมุ่งหน้าไปที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ เป้าหมายคือยึดป้อมเดธวิเล่ย์คืนเพื่อที่จะเปิดทางไปเมืองอื่นๆได้......