GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 37
ผู้เขียน หัวข้อ: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)  (อ่าน 16056 ครั้ง)
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 20 (31/10/52)
« ตอบ #345 เมื่อ: 01-11-2009, 16:43:07 »

ใช่!!ๆ สู้ๆ Smiley

อยากอ่านไวๆจังเลย รัก



อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #346 เมื่อ: 02-11-2009, 11:50:25 »

บทที่ 21.บทสรุปของการบุกยึดป้อมเดธวิลเล่ย์   

หลังจากที่ราชามังกรเกเลี่ยนถูกทำลายปีกและตกลงมาที่พื้น และคลุ้มคลั่งร่ายสกิลเพลิงพิฆาตใส่เหล่านักรบอย่างบ้าคลั่ง เหล่านักรบที่ถอยหลังเพื่อมาตั้งหลักสู้ใหม่ ก็เตรียมพร้อมลุย เว้นแต่ทหาร แอสซาซิน ชาร์ปชูตเตอร์และเทรเชอร์ฮันเตอร์ ที่อยู่บนกำแพงประมาณ50-60 คนก้ยังคงยืนอยู่บนกำแพงและยิงปืนและธนูใส่มังกรที่อยู่ในป้อมเหมือนเดิม

อาริงสั่งแยกกลุ่มที่เหลือเป้น 5กลุ่ม ให้3กลุ่มไปลุยกับเหล่ามังกรบินเดรกและมังกรเดรโก้ตามเดิมที่แถวๆหน้าประตูทางเข้าออกป้อม อีก2กลุ่ม ก็ให้ทหารและชาร์ปที่เหลือคอยยิงมังกรบินเดรกที่ชอบโฉบลงมา และให้นักรบระยะประชิดก็ผลัดกันเข้ารุกเข้าไปสู้กับราชามังกรเกเลี่ยน ซึ่งตอนนี้ราชามังกรเกเลี่ยนตกอยู่ในวงล้อม และพยายามร่ายเวทย์เพลิงพิฆาตใส่เหล่านักรบ แต่ก็โดนเหล่าวิสาทร่ายเวทย์"พลังน้ำแข็ง"และ"สัมผัสแห่งอควา" เพื่อสะกัดเพลิงพิฆาตให้เป้นน้ำแข็งไว้ และ ราชามังกรเกเลี่ยนรู้ตัวว่าเวทย์ไฟของตนถูกหยุด ตอนนี้ก็เหลือแต่ใช้กรงเล็บจากมือที่ใหญ่ทั้ง 2ข้าง คอยฟาดฟันเหล่าพวกนักรบ และก็ได้ผลเช่นกัน เพราะมีนักรบหลายสิบคนที่ต้องตายภายใต้กรงเล็บทั้ง 2ข้างนั้น และเป้นที่รู้กันว่าเกล้ดของราชามังกรเกเลี่ยนทั้งใหญ่และหนา ทำให้กระสุนปืนและธนูไม่สามารถยิงเข้าได้ แถมดาบบางเล่นก้หักเพราะฟันโดนเกล็ดมังกร

ถึงแม้อาริงจะรุกไล่เพียงใด แม้จะใช้ดาบใหญ่ทั้ง 2เล่มกระหน่ำโจมตีด้วยกำลังที่มากกว่าคนอื่น ก็ทำได้แค่เกล็ดมังกรเป็นรอยเท่านั้น ทำให้พวกนักรบก็เริ่มหมดแรงกัน เพราะโจมตีเท่าไรก้ทำได้แค่รอยถลอกเท่านั้น เมื่อราชามังกรเกเลี่ยนเห้นดังนั้นก็กลับเป็นว่าราชามังกรเกเลี่ยนกลับมารุกไล่และไล่ใช้กรงเล็บฟาดฟันเหล่านักรบแทน อาริงเลยไม่อยากให้เหล่าทหารและนักรบเสียขวัญมากกว่านี้ เลยงัดไม้ตายเพิ่มพลังการโจมตีแบบเต็มที่สูงสุดมาสู้ แต่จะใช้แต่แค่30วิตามเวลาของสกิลเชียร์ และพอใช้แล้ว อาริงก็ต้องสูญเสียแรงไปมากมายเพราะเป้นการเพิ่มพลังและเป้นการทุ่มกำลังเต็มทีทำให้ร่างกายจะอ่อนล้าตาม

อาริง : "สกิลเร่งกำลังโจมตี" "สกิลคลุ้มคลั่ง" "และสกิลเชียร์" (และพออาริงร่ายสกิลเสร็จก็รีบพุ่งไปโจมตีทันทีเพระไม่อยากให้เสียเวลาแม้เพียงวินาทีเดียว เพราะตอนนี้แม้เพียงวินาทีเดียวก็มีค่ามากแล้ว)

ภาพที่เหล่านักรบเห้นตอนนี้คืออาริงที่ใช้ดาบใหญ่2เล่ม กระหน่ำฟันอย่างไวที่สุดกระหน่ำฟันลงไปที่ราชามังกรเกเลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่าแบบถี่ยิบ และหลายๆครั้งที่อาริงจะเน้นฟันจุดเดียวซ้ำๆกันที่อกซ้ายตรงหัวใจมังกร จนทำให้เริ่มมีเกล็ดมังกรแตกกระจายมาบ้างแล้ว  ราชามังกรเกเลี่ยนก็โต้ตอบโดยใช้กรงเล็บสวนมาเป็นระยะๆ แต่อาริงก้อาศัยความไวและใช้ดาบใหย่เบี่ยงกรงเล็บหลบมาได้ตลอด และอาริงก็เกร็งกำลังทั้งแขน2ข้าง ใช้ดาบใหญ่2ข้างฟันกวาดไปที่ขาของราชามังกรเกเลี่ยน ทำให้ราชามังกรเกเลี่ยนเสียหลังและล้มลง และอาริงก็รีบกระโดดขึ้นไปลอยตัวอยู่เหนือร่างของราชามังกรเกเลี่ยน และเกร็งกำลังแขน 2ข้างอีกครั้งและทุ่มกำลังใช้ดาบใหญ่พุ่งเสียบลงมาที่อกด้านซ้ายที่ตอนนี้ตรงอกนั้นไม่มีเกล็ดมังกรแล้ว เพระอาริงฟันซ้ำๆหลายหลในตอนแรก

แต่ดาบใหญ่ของอาริงกลับแทงทะลุเข้าไปแค่นิดเดียว เพราะเวลาในการใช้สกิลเชียร์เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้สูงสุดหมดเวลาแล้วก่อนที่ดาบจะถึงอกของราชามังกรเกเลี่ยนเพียงแค่นิดเดียวเอง และอาริงก็จับดาบใหญ่และนั่งทรุดลงตรงอกของราชามังกรเกเลี่ยน และเมื่อราชามังกรเกเลี่ยนรอดพ้นจากการโจมตีมาได้ ราชามังกรเกเลี่ยนเลยต่อยสวนไปที่อาริง อาริงทำได้แค่ยกดาบใหญ่ขึ้นมารับหมัดนั้น แต่ในตอนนี้ที่อาริงหมดแรงแล้วก็ต้องกระเด็นไปโดนก้อนหินขนาดใหญ่ ลูฟเฟ่นและเรย์รันก็รีบวิ่งมาดูอาการและเข้ามาฟื้นฟูพลังและฟื้นฟูพลังเวทย์ให้กับอาริง ราชามังกรเกเลี่ยนเจ็บแค้นที่ถุกทำขนาดนี้เลยวิ่งมาหมายจะจัดการอาริง

พวกนักรบเลยวิ่งและกระโจนเข้าไปฟันราชามังกรเกเลี่ยนเพื่อขัดขวางไว้ แต่ก็โดนราชามังกรเกเลี่ยนใช้กรงเล็บ2ข้างจัดการไปทั้งหมด วาเนสซ่าเห้นดังนั้นเลยเกร็งกำลังแขนทั้งหมดระดมยิงลูกธนูด้วยความไวสูงสุดเหมือนที่เคยยิงปีกราชามังกรเกเลี่ยนมาแล้วครั้งนึง แต่คราวนี้วาเนสซ่าเล็งยิงไปที่ใต้ฝ่าเท้าของราชามังกรเกเลี่ยนที่ไม่มีเกล็ดหุ้ม พริบตาเดียวลูกธนู เกือบ20ดอกก็ไปปักที่ใต้ฝ่าเท้าของราชามังกรเกเลี่ยน และทำให้ราชามังกรเกเลี่ยนล้มลงอีกครั้งและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เพราะวาเนสซ่าใช้สกิล"เล็งสกัดการเคลื่อนไหว" ไว้ด้วยในลูกธนูทั้ง 20ดอกที่ยิงไปที่ใต้ฝ่าเท้าราชามังกรเกเลี่ยน

ราชามังกรเกเลี่ยนพยายามจะยืนขึ้น และอาริงก็พยายามลุกเพื่อจะสู้ต่อเหมือนกัน และทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังอาริง เสียงนั้นคือ เคออสติคเจ้าแห่งหายนะ นั่นเอง เคออสติคสั่งให้อาริงสั่งเหล่าวิสาท5-10คนให้ใช้สกิล "พฤกษาพันธนาการ" มัดราชามังกรเกเลี่ยนไว้ในขณะที่มันก็เคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว และเคออสติคก็บอกให้อาริงใช้กำลังเฮือกสุดท้าย ปาดาบใหญ่โดยเล็งไปที่อกซ้ายข้างที่มีแผลเล็กๆที่อาริงแทงไปเมื่อกี้ อาริงก้เกร็งแขนและพลังเฮือกสุดท้ายที่เริ่มมีแรงเพราะได้สกิลฟื้นฟูและปาดาบใหญ่ไปที่อกซ้ายของราชามังกรเกเลี่ยนที่มีแผลจากดาบของอาริงเมื่อกี้ และเมื่อดาบใหญ่เล่มพุ่งถึงอกที่มีแผล เคออสติดก็วิ่งไปถึงหน้าราชามังกรเกเลี่ยนพอดีและ เคออสติคก็เกร็งกำลังสุดตัวและรวมพลังไปไว้ที่แขนขวาและต่อยเข้าไปที่ด้ามดาบใหญ่นั้น และด้วยแรงที่อาริงปาดาบใหญ่บวกกับแรงต่อยสุดพลังของเคออสติค ดาบใหญ่เล่มนั้นก็ทิ่มแทงเข้าไปในอกแทงทะลุหัวใจจนปลายดาบใหญ่ทะลุออกมาข้างหลัง และราชามังกรเกเลี่ยนก็คำรามร้องด้วยความเจ็บปวด และล้มลงสิ้นใจตายตรงนั้น

เมื่อเหล่านักรบเห้นราชามังกรเกเลี่ยนสิ้นใจตายไปแล้ว ทุกคนก็โห่ร้องดีใจกัน ผิดกับพวกเหล่ามังกรที่เห็นนายมันสิ้นใจ ต่างก้พยายามหนีกลับไปยังหุบเขามังกรของมัน ซึ่งอาริงก็สั่งไปว่า ถ้าตัวไหนมันจะหนีกลับหุบเขามังกรก็ปล่อยมันไป แต่ถ้าตัวไหนคิดสู้ก็จัดการซะ ซึ่งก็มีหลายร้อยตัวที่หนีกลับหุบเขามังกรของพวกมัน แต่ก็มีหลายตัวที่สู้ก็เลยต้องจำใจจัดการซะ

อาริง : " ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้ท่านช่วยก็ไม่รู้จะจัดการราชามังกรเกเลี่ยนยังไงแล้วเลย ว่าแต่..แล้วนี่มาได้ยังไงละเนี่ย"(อาริงนั่งหมดแรงอยู่ข้างๆเนินหินที่ตัวเองโดนราชามังกรเกเลี่ยนต่อยกระเด็นมากระแทก)
เคออสติค : " อะนี่ดาบของเจ้า เรื่องขอบคุณไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ต้องไปขอบคุณคนแคระเคนนู่น เค้าอุตสาห์วิ่งเข้าไปบอกข้าถึงข้างในว่าให้ไปช่วยอาริงรบหน่อย "(เคออสติดดึกดาบใหญ่จากอกราชามังกรเกเลี่ยนมาคืนอาริง)
อาริง : " ลุงคนแคระเคนนี่เองหรือที่ไปบอก"(อาริงหลับตาและยิ้มเล็กๆที่มุมปาก)
เคออสติค : " ก็ใช่นะสิ แล้วทำไมถึงไม่เรียกข้าออกมาช่วยสู้รบละ เจ้าก้รู้ว่าข้าอยากออกแรงช่วยแค่ไหน"
อาริง : " ขอโทษที พอดีว่าฉันกะจะไปรบกวนท่านเวลาที่มันร้ายแรงจริงๆ "
เคออสติค : " ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจ เพื่อนช่วยเพื่อนจะมัวเกรงใจทำไม"
อาริง : " ตอนนีก็ยึดป้อมเดธวิลเล่ย์คืนได้แล้ว แต่ยังเหลือปัญหาใหญ่คือ จะทำลายแท่นเสาหินสินดำนี่ยังไงดี คราวที่เมืองวิลโดเนี่ย ราชินีน้ำแข็งไอซซ์ซี่ก็มาช่วยทำลายไป แต่ครั้งนี้คงยาก"(อาริงพูดแล้วชี้ไปยังแท่นเสาหินที่อยู่ในป้อมเดธวิลเล่ย)

เนลล่า : " ฮิๆๆ ใช่แล้ว งวดนี้พวกเจ้าจะกำจัดเสาหินนี้ยังไงเอย ฮิๆๆ" (สิ้นเสียงเนลล่า ทุกคนก็หันไปที่ตำแหน่งของเจ้าของเสียงนั้น เนลล่ากำลังนั่งอยู่บนศพของ ราชามังกรเกเลี่ยน)
อาริง : " เป้นฝีมือแกอีกแล้วหรือ ที่ให้มอนสเตอร์ยึดป้อมเดธวิลเล่ย์และเซาเทิร์นฟอร์ท"
เนลล่า : " เปล่า..ไม่ใช่มือของฉัน ฝีมือของฉันเหรอก็ที่เมืองวิลเดอวู้ด เซาเทรินไซร์และเรดคลิฟไงละ ทั้ง 3เมืองนั้นละฝีมือฉันส่วนที่นี่และเซาเทรินฟอร์ทเป้นฝีมือคนอื่น ฉันก็แค่แวะมาดูเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ"


ทุกคนที่ได้ยินก้ตกตะลึงในคำพูดของเนลล่า เพราะยังมีเมืองอื่นๆที่โดนมอนสเตอร์ดทำลายด้วยอำนาจของแท่นเสาหินขนาดใหญ่นี้

ลูฟเฟ่น : " แกต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนี้ แกเห็นชีวิตของผู้คนเป็นอะไร"
เนลล่า : " ต้องการอะไรหรือ ฮือ...ต้องการเห็นอณาจักรนี้ย่อยยับไปยังไงละ และผู้คนตามเมืองและเหล่ามอนสเตอร์ที่ต้องตายไป มันก็แค่มดปลวกที่ฉันเดินเหยียบย่ำเล่น ฮ่าๆๆ"(เนลล่าหัวเราะและทำท่าเอาเท้าเหยียบไปที่ยอดอกของราชามังกรเกเลี่ยน)
วาเนสซ่า : " แก..."(วาเนสซ่าก็ยิงธนูใส่เนลล่า แต่เนลล่าก็เสกอัญเชิญโกแรมมา1 ตัวเพื่อมากันลูกธนูไว้)
เนลล่า : " ฮ่าๆๆ งั้นฉันต้องขอตัวไปทำภารกิจสุดท้ายในป้อมเดธวิเล่ย์ก่อนนะ อะแล้วนี่ก้ของฝากด้วยความคิดถึง ฮ่าๆๆ" (พูดจบเนลล่าก็เสกอัญเชิญ มังกรบินดำ โกแรมดำ และหมาป่าดำ ออกมาอย่างละ 10ตัว เพื่อมารบกวนพวกอาริงและเหล่านักรบที่เหลือรอด และตัวเนลล่าเองก็กระโดดอย่าไงไวไปในป้อมเดธวิลเล่ย์)
อาริง : " เคออสติด ฝากจัดการทางนี้ด้วยนะ " (อาริงพูดเสร็จก็วิ่งตามเนลล่าไปที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ โดยที่มีวาเนสซ่า เรย์รัน ลูฟเฟ่น และนักรบอีก 20 คน ตามไปด้วย)
เคออสติค : " มามะๆเจ้าพวกหนูน้อยมาให้ป๋าอัดซะดีๆ ฮ่าๆๆ นานๆจะได้ออกมานอกถ้ำผลึกที ก็ขอเรียกเหงือหน่อยละกัน ฮ่าๆๆ"(เคออสติคต่อยพวกสัตว์อัญเชิญไปหัวเราะไป เพราะความสะใจ และยังมีเหล่านักรบที่เหลือรอดก็ร่วมจัดการพวกสัตว์อัญเชิญด้วย)

พวกอาริงวิ่งเข้ามาในป้อมเดธวิลเล่ย์ ก็เห็นเนลล่ากำลังเอาก้อนผลึกสีดำ 3ก้อน ใส่เข้าไปในแท่นหินสีดำใหญ่ และพอผลึกสีดำทั้ง3ใส่เข้าไปในแท่นหินสีดำใหญ่นั่นแล้ว แท่นหินสีดำก็เกิดปฎิกิริยาขึ้น เหมือนแท่นหินสีดำกำลังรวบรวมพลังและกำลังบีบอัดรวมพลังอยู่ในแท่นหินสีดำนั้น ทำให้อาริงสังหรณ์ใจบางอย่างเลยกระซิบข้างหูแอสซาซินคนหนึ่ง และแอสซาซินก็นั้นก็รับคำสั่งทำตามที่อาริงสั่ง

เนลล่า : " จุ๊ๆๆๆ ไม่ทันแล้วละจ้าพวกหนูๆ อีกไม่ถึง 3นาทีแท่นหินนี้ก็ระเบิดแล้ว เอ้อ...คราวนี้ฉันไม่ได้โกหกเหมือนที่เมืองวิลโดเนียนะ เพราะถ้าภาระกิจล้มเหลวเมื่อใด ก็ให้ทำลายเมืองๆนั้นซะ ซึ่งระเบิดนี้มีพลังทำลายมหาศาลเลยละแบบที่ว่าเมืองใหญ่ๆจะหายไปในพริบตา ฮ่าๆๆ"

เมื่อได้ฟังดังนั้น และอาริงได้ดูปฎิกิริยาที่เริ่มผิดปกติของแท่นเสาหินนั้นแล้ว อาริก็เชื่อทันทีว่ามันต้องระเบิดแน่ๆ  เลยสั่งให้พวกนักรบรีบวิ่งออกไปบอกทุกคนที่เหลือให้วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

อาริง : " ลุฟเฟ่นพาพวกเรย์รันกลับไปด้วยเร็วๆ "
ลูฟเฟ่น : " แล้วพี่อาริงละจะทำอะไร "
อาริง : " ไปเถอะน่าเดี่ยวไม่ทัน"
เนลล่า : " เจ้ายังจะทำอะไรได้อีกหรือ "
อาริง : " ก็แบบนี้ไงละ " (อาริงก็สั่งให้วาเนสซ่า ระดมยิงลูกธนูด้วยความไวสูงสุดใส่เนลล่า)
เนลล่า : " เจ้าโง่ ลืมไปแล้วหรือว่าครั้งที่วิลโดเนียก็ทำอะไรข้าไมได้ แล้วครั้งนี้จะทำอะไรข้าได้ ฮ่าๆๆ"

เนลล่าพูดจบและกำลังร่ายเวทย์อาภรณ์แห่งความมืดเพื่อป้องกันการโจมตี แต่ร่างกายของเนลล่ากลับไม่ตอบสนอง และตอนนี้เนลล่าก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พร้อมๆกับอาการชาไปทั้งตัว และเนลล่าก็สังเกตเห้นว่าอยู่ๆก็มีแอสซาซินปรากฎตัวอยู่ข้างๆตัวเนลล่า และวิ่งกลับไปหาอาริงในทันที เพราะแอสซาซินหายตัวมาเพื่อค่อยๆลอบวางยาชาโดยที่เนลล่าไม่รู้สึกตัว และกว่าจะรู้สึกตัวก็สายไปแล้วยาชาได้ออกฤทธิ์แล้ว และลูกธนูของวานสซ่าจำนวนเกือบ10ดอกก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเนลล่าทุกดอกและมีหนึ่งดอกที่ปักกลางหน้าผากของเนลล่าพอดี ทำให้เนลล่าหงายหลังในท่านั่งและล้มลงนอนตายที่ข้างๆแท่นหินสีดำที่ป้อมเดธวิเล่ย์นี้และสิ่งที่ยืนยันว่าลูกธนูโดนทุกดอกคือ เลือดที่กระเด็นและไหลออกมาตามร่างของเนลล่าเต็มพื้นที่เนลล่านอนตายอยู่ และเนลล่าก็พลาดท่าเพราะเพียงแค่ประมาทศัตรูเกินไป 

เมื่อจัดการเนลล่าได้แล้ว อาริงรีบจับมือวาเนสซ่าเพื่อจะวิ่งออกจากป้อมเดธวิลเล่ย์ เพราะตอนนี้บริเวณนั้นเหลือแค่อาริงกับวาเนสซ่าแล้ว พวกทหารและนักรบก็ออกไปไกลแล้ว และพวกลูฟเฟ่นก็วิ่งไปไกลพอสมควรและลูฟเฟ่นก็หยุดดู ว่าทำไมอาริงกับวาเนสซ่าถึงยังไม่ออกมากันอีก และลูฟเฟ่นก็เห้นอาริงและวาเนสซ่ากำลังวิ่งออกมานอกป้อมเดธวิลเล่ย์แล้ว ลูฟเฟ่นก้ตัดสินใจวิ่งกลับไปดู และในขณะนั้นเอง แท่นเสาหินสูง ก็กำลังบีบรัดและดูดอากาศเข้าไปในตัวแท่นเสาอย่างแรง ทำให้อาริงและวาเนสซ่าวิ่งไม่ถนัดถึงแม้จะวิ่งออกมานอกป้อมเดธวิลเล่ย์ได้แล้ว แต่ก็เหมือนโดนอากาศบีบอัดและถูกดูดเข้าไปในป้อมเดธวิลเล่ย์อีก อาริงเลยตัดสินใจใช้ดาบใหญ่ 2เล่มซ้อนกันไว้และปักดาบไว้ที่พื้นอย่างแรงและอาริงก็เอามือกดดาบใหญ่เอาไว้ให้มันแน่นและลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอาริงกับวาเนสซ่าก้หลบอยู่หลังดาบใหญ่นั้น และอาริงใช้มือซ้ายกอดบ่าของวาเนสซ่าไว้ และไม่ทันที่ลูฟเฟ่นจะวิ่งกลับมา แท่นเสาหินนั้นก็บีบอัดอากาศจะเต็มที่และค่อยๆเปล่งแสงสีดำออกตามรอยแยกและรอยแตก และพริบตามเดียวก็เกิดการระเบิดรุนแรงมาก เพราะแรงบีบอัดของอากาศที่แท่นเสาดูดไปมากเท่าไร มันก็ระเบิดแรงมากไปกว่านั้นหลายเท่า

อาริงและวาเนสซ่าตอนนี้ก็ได้แค่ก้มต้วลงและหลบอยู่หลังดาบใหญ่ของอาริงที่ปักไว้ที่พื้นแน่นหนา อาริงกอดและเอาตัวบังวาเนสซ่าอีกชั้นหนึ่ง แรงระเบิดรุนแรงมาก ดาบของอาริง2เล่มที่ซ้อนกันอยู่เพื่อบังคนทั้ง2ก็เริ่มหักไปที่ละเล็กละน้อยจนดาบใหญ่อันแรกหักครึ่งและปลิวไปแล้ว ดาบใหญ่ที่เหลืออีกเล่มก็ทำท่าจะหักแล้ว อาริงเลยเอามือขวาเกร็งมือและยันดาบใหญ่ที่เหลือไว้และใช้มือซ้ายกดหัวให้วาเนสซ่าก้มต่ำลงอีก และใช้มือซ้ายนั้นกอดไหล่ของวาเนสซ่าไว้และบอกให้วาเนสซ่าก็จับมือซ้ายไว้ให้แน่นๆ ขนาดลูฟเฟ่นที่อยู่ไกลก็ยังต้องหมอบและหลบตามก้อนหินขนาดใหญ่เลย เพราะมันระเบิดแรงมาก การระเบิดนี้ยาวนาน 30วินาที ตอนนี้ป้อมเดธวิลเล่ย์ได้ถูกทำลายลงแล้ว เศษหินเศษฝุ่นและเศษอาวุธที่อยู่ตามพื้นก็ปลิวว่อนไปทั่ว

เมื่อระเบิดสิ้นสุดลงป้อมเดธวิลเล่ย์ก็เหลือแต่เถ้าถ่าน และฝุ่นหินฝุ่นทรายคลุ้งไปหมด พวกทหารและพวกลูฟเฟ่นก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อจะหาตัวอาริงและวาเนสซ่า และลูฟเฟ่นก็เห้นดาบใหญ่ของอาริงปักพื้นอยู่เพื่อป้องกันการระเบิด แต่ดาบได้หักเหลือเพียงครึ่งแล้วทั้ง 2เล่ม

ลูฟเฟ่น : "เป็นไรมากไหมวาเนสซ่า แล้วพี่อาริงอยู่ไหน" (ลุฟเฟ่นเขย่าตัววาเนสซ่าเพื่อให้วาเนสซ่ารู้สึกตัว)
วาเนสซ่า: "อ้าวก็พี่อาริงกอดฉันอยู่นี่ไง แขนซ้ายเค้ายังกอดฉันอยู่เลย"(วาเนสซ่าพูดและหันกับไปดูที่ไหล่ซ้ายของตัวเองที่อาริงใช้แขนซ้ายที่โอบไหล่และจับมือของวาเนสซ่าไว้ เป้นแขนซ้ายของอาริงจริงๆ แต่ตัวอาริงไม่อยู่แล้ว เหลือแค่แขนซ้ายที่คอยโอบไหล่และจับมือวาเนสซ่าไว้)
วาเนสซ่า : " ไม่จริง"(วาเนสซ่าตะโกนอย่างสุดเสียงพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาทั้ง2ข้าง เพราะวาเนสซ่าเห้นแค่แขนซ้ายของอาริงที่ขาดจากช่วงประมาณหัวไหล่ที่คอยจับประคองวาเนสว่าไว้เท่านั้น แต่ตัวของอาริงไม่ได้อยู่ข้างๆเค้าแล้ว)

ลูฟเฟ่นเลยรีบบอกให้กับเหล่านักรบและทหารทุกคน ช่วยกันค้นหาร่างของอาริงในบริเวณนี้ให้ทั่ว ทุกคนเลยแยกย้ายไปหา มีเพียงแค่วาเนสซ่าที่กำลังสะเทือนใจอย่างมากนั่งร้องไห้และกอดแขนซ้ายของอาริงเอาไว้ 30 นาทีต่อมา เหล่าทหารและนักรบทุกคนก็เดินมาบอกกับลูฟเฟ่นว่า หาทั่วแล้วแต่ไม่เจอร่างของอาริงเลยสักคน ลูฟเฟ่น อาเวีย วาเนสซ่า เรย์รันและนาฟตี้ ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็น้ำตาไหลออกมาทันที และร้องไห้แบบไม่อายใครหน้าไหนทุกคนร้องไห้และกอดกันโดยที่มีวาเนสซ่านั่งอยู่ตรงกลางกลุ่ม และวาเนสซ่าก้ยังคอยกอดแขนซ้ายของอาริงไว้ไม่ยอมปล่อย สงครามที่ป้อมเดธวิลเล่ย์จบลงแล้ว โดยที่บทสรุปของการสู้รบครั้งนี้ พวกของลูฟเฟ่นทุกคนได้แค่แค่เห็นอาริงแค่แขนซ้ายของอาริงเท่านั้น.............
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #347 เมื่อ: 02-11-2009, 12:06:19 »

เนลล่า : " เปล่าไม่ใช่มือของฉัน ฝีมือของฉันเหรอก็ที่เมืองวิลเดอวู้ด เซาทรินไซร์และเรดคลิฟไงละ ทั้ง 3เมืองนั้นละฝีมือฉันส่วนที่นี่และเซาเทรินฟอร์ทเป้นฝีมือคนอื่น ฉันก็แค่แวะมาดูเท่นั้นเอง ฮ่าๆๆ"

แล้วก็มีอีกที่นะป๋า(ถ้าจำไม่ผิด)รู้สึกจะเป็นคำว่า วินโดเนีย แต่ลืมเขียน ย.ยักษ์

ปล. พึ่งกลับมาจากโรงเรียน เปิดปุ๊ปได้อ่านเลย  laugh laugh

ปล2. กรี๊ดดดดดดด...ตัวหายไปไหน Shocked  เหลือแขนไว้ทำไมเนี่ย laugh

ปล3. ติดตามต่อเจ้าค่ะ รัก

=--+(จิ้งเหลน)+--=
Newbie
*
กระทู้: 48


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #348 เมื่อ: 02-11-2009, 16:18:50 »

นุกมากขอรับ Smiley

เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #349 เมื่อ: 02-11-2009, 17:20:41 »

 Embarrassed
ง่ะ
อ่านไปร้องไห้ไป
อาริงหายไปไหน Cry
What Time is it....
Hero Member
*****
กระทู้: 5,137


นามเดิม SLEEP...zzzZZZ


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #350 เมื่อ: 02-11-2009, 17:26:05 »

อาริงยังไม่ตายแน่นอน
อาจจะกลับมาเหมือน แซงคูสผมแดง ในเรื่องวันพีช
หรืออาจจะได้แขนใหม่เหมือน เอ็ดเวิร์ด เอลริค พระเอกจากเรื่องแขนกลคนแปลธาตุ
 Evil

Who am I...?
นามใน Asura - คิล(คิว)
นามบุพการีตั้งให้ - ป๊อป
แล้วแต่จะเรียก ตามสะดวกครับ ^^

Status:ออนได้แต่บอร์ด

พวกคุณบางคนบอกว่าเกลียดการล่าแม่มด
นั่นเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนถูกล่ามาตลอด
แต่พอคุณได้เป็นผู้ล่าบ้าง
ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่คุณเกลียดเลย



matic
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #351 เมื่อ: 02-11-2009, 17:53:46 »

อ้างจาก: (¯`•¸•´¯)``สก็๏ตไบท๎,,*(¯`•¸•´¯) ที่ 02-11-2009, 12:06:19
เนลล่า : " เปล่าไม่ใช่มือของฉัน ฝีมือของฉันเหรอก็ที่เมืองวิลเดอวู้ด เซาทรินไซร์และเรดคลิฟไงละ ทั้ง 3เมืองนั้นละฝีมือฉันส่วนที่นี่และเซาเทรินฟอร์ทเป้นฝีมือคนอื่น ฉันก็แค่แวะมาดูเท่นั้นเอง ฮ่าๆๆ"

แล้วก็มีอีกที่นะป๋า(ถ้าจำไม่ผิด)รู้สึกจะเป็นคำว่า วินโดเนีย แต่ลืมเขียน ย.ยักษ์

ปล. พึ่งกลับมาจากโรงเรียน เปิดปุ๊ปได้อ่านเลย  laugh laugh

ปล2. กรี๊ดดดดดดด...ตัวหายไปไหน Shocked  เหลือแขนไว้ทำไมเนี่ย laugh

ปล3. ติดตามต่อเจ้าค่ะ รัก

ใจจ้า แก้ละ บทนี้เขียนเยอะมาก มันก็น่าจะมีหลุดละ  laugh laugh
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #352 เมื่อ: 02-11-2009, 17:54:45 »

อ้างจาก: นู๋เนย ชาร์ปชู้ตเตอร์ติ๊งต๊อง ที่ 02-11-2009, 17:20:41
Embarrassed
ง่ะ
อ่านไปร้องไห้ไป
อาริงหายไปไหน Cry
อ้างจาก: ○•SLEEP..zZ•○ ที่ 02-11-2009, 17:26:05
อาริงยังไม่ตายแน่นอน
อาจจะกลับมาเหมือน แซงคูสผมแดง ในเรื่องวันพีช
หรืออาจจะได้แขนใหม่เหมือน เอ็ดเวิร์ด เอลริค พระเอกจากเรื่องแขนกลคนแปลธาตุ
 Evil
หรืออาจะจะไปใส่แขนเหล็กเหมืองกั๊ส ในBerserk ก็ได้นะ  laugh laugh
!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #353 เมื่อ: 02-11-2009, 18:25:55 »

ถ้าเป็นไปได้ แขนซ้ายของอาริงคงโดนดาบใหญ่ตัดไปก่อนที่ตัวจะปลิวว่อนไปตามลม Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #354 เมื่อ: 02-11-2009, 18:26:52 »

เอ้อ แล้วเสียเจ้าแผลเพียบ(ที่รัก) ไปแล้วยังต้องเสียอาริง(ยอดรัก Evil) ไปอีกหรอ Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh?

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #355 เมื่อ: 02-11-2009, 18:40:50 »

เเง่มๆอาริงไปเสียเเล้สว(แขนขาดด้วยเเง้----) Cry



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #356 เมื่อ: 02-11-2009, 18:43:17 »

อ้างจาก: รักแท้ รักที่อะไร >_<(^w^) ที่ 02-11-2009, 18:25:55
ถ้าเป็นไปได้ แขนซ้ายของอาริงคงโดนดาบใหญ่ตัดไปก่อนที่ตัวจะปลิวว่อนไปตามลม Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry
อ้างจาก: รักแท้ รักที่อะไร >_<(^w^) ที่ 02-11-2009, 18:26:52
เอ้อ แล้วเสียเจ้าแผลเพียบ(ที่รัก) ไปแล้วยังต้องเสียอาริง(ยอดรัก Evil) ไปอีกหรอ Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh? Huh?
อ้างจาก: GøøGle18940 ที่ 02-11-2009, 18:40:50
เเง่มๆอาริงไปเสียเเล้สว(แขนขาดด้วยเเง้----) Cry
อาริงไม่ตายหรอก เพราะถ้าตาย ก้เขียนต่อไม่ได้สิ laugh laugh laugh
"อุปสรรคและขวากหนามยิ่งเยอะเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คนๆนั้นแกร่งและเก่งขึ้นอีกมาก"
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #357 เมื่อ: 02-11-2009, 18:50:47 »

นางเอกอาจจะเป็น นาฟตี้ก็ได้  Evil

หรือไม่อาริงก็อาจจะไม่ตาย แขนนั้นอาจจะเป็น..แขนเทียมที่ร้านตัดผมคนสนิทของอาริงทำให้(ขนาดทำหน้ายังเหมือนเลย)

กร๊ากๆๆ ก็พี่กบไม่ได้เขียนนี่นาว่าเห็นเลือดและกระดูก laugh(ชั่งกล้าคิดเนอะชั้น..=_=;)

อารง อย่าตายนะ Cry

ป.ล. มีคนโค่นที่ไชร์ ไก่ลุงเบนกลายเป็นไก่ย่าง 5 ดาวไปยัง Wink



อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #358 เมื่อ: 02-11-2009, 23:25:22 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 02-11-2009, 18:50:47
นางเอกอาจจะเป็น นาฟตี้ก็ได้  Evil

หรือไม่อาริงก็อาจจะไม่ตาย แขนนั้นอาจจะเป็น..แขนเทียมที่ร้านตัดผมคนสนิทของอาริงทำให้(ขนาดทำหน้ายังเหมือนเลย)

กร๊ากๆๆ ก็พี่กบไม่ได้เขียนนี่นาว่าเห็นเลือดและกระดูก laugh(ชั่งกล้าคิดเนอะชั้น..=_=;)

อารง อย่าตายนะ Cry

ป.ล. มีคนโค่นที่ไชร์ ไก่ลุงเบนกลายเป็นไก่ย่าง 5 ดาวไปยัง Wink
ไม่คิดหรือว่า ไก่ลุงเบนอาจเป้นตัวการเรื่องทั้งหมดก็ได้ (ชั่งกล้าคิดเนอะชั้น..=_=;) (ยืมคำมาใช้   laugh laugh)
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 21 (02/11/52)
« ตอบ #359 เมื่อ: 03-11-2009, 11:21:12 »

ขอขุด 1อันเพื่อดันบทใหม่ขึ้นหน้าใหม่  Cry
ป้าย:
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 37