GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 37
ผู้เขียน หัวข้อ: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)  (อ่าน 16053 ครั้ง)
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #435 เมื่อ: 10-11-2009, 16:45:23 »

อ้างจาก: อำนาจ คนหมั่น ที่ 10-11-2009, 16:39:01
ดีแล้ว วัยขนาดเราๆ ต้องพยายามฟิตๆ ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปเป็นไปตามวัยนะท่าน  Evil
เดี๋ยวจันทร์หน้าเป็นต้นไปก็ฟิตไม่ออกแล้วเน้อ ต้องทำงานเป็นช่วงๆ 12.00-21.00 หรือไม่ก็23.00-8.00 แล้วแต่ว่าแต่ละวันจะโดนทำช่วงไหน
ปล. แต่ชอบทำงานช่วยกลางคืนจิงๆ ไม่ร้อน รถไม่ติด 555
ปล. แต่เสียอย่าง ต้องตัดผมด้วย TT ไว้เดี๋ยวถ่ายรูปตอนผมยาวอีกรูปไว้เป็นที่ระลึกละกัน เพื่อไว้ติดหน้างานศพด้วยว่าใครหนึ่งเคยไว้ผมยาว laugh laugh
เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #436 เมื่อ: 10-11-2009, 18:04:06 »

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 10-11-2009, 16:45:23
อ้างจาก: อำนาจ คนหมั่น ที่ 10-11-2009, 16:39:01
ดีแล้ว วัยขนาดเราๆ ต้องพยายามฟิตๆ ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปเป็นไปตามวัยนะท่าน  Evil
เดี๋ยวจันทร์หน้าเป็นต้นไปก็ฟิตไม่ออกแล้วเน้อ ต้องทำงานเป็นช่วงๆ 12.00-21.00 หรือไม่ก็23.00-8.00 แล้วแต่ว่าแต่ละวันจะโดนทำช่วงไหน
ปล. แต่ชอบทำงานช่วยกลางคืนจิงๆ ไม่ร้อน รถไม่ติด 555
ปล. แต่เสียอย่าง ต้องตัดผมด้วย TT ไว้เดี๋ยวถ่ายรูปตอนผมยาวอีกรูปไว้เป็นที่ระลึกละกัน เพื่อไว้ติดหน้างานศพด้วยว่าใครหนึ่งเคยไว้ผมยาว laugh laugh

 Evil Evil Evil
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #437 เมื่อ: 10-11-2009, 19:52:46 »

โยฮาน : " แต่....."(โยฮานจะพูดต่อ แต่เอาริงเอามือมาปิดปากโยฮานไว้ไม่ให้พูดต่อ)

 Smiley

หนุกดีง๊าบ ท่านป๋าแจ็คก็จะรบ กร๊ากๆ Evil

ป.ล.อยากอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ เอิ้กๆ laugh(ตายศพแรก- -")

ป.ล.2 ไก่ลุงเบนสุกยัง จะเอาไปแบ่งๆกันกิน กินไข่เบื่อละอยากกินตัว Evil



MEŁA[И]CHOLIĈ’κ №MA[Ұ]
Sr. Member
****
กระทู้: 1,530

Procopmer Rankking: 213 Point: 281,417,583,294


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #438 เมื่อ: 10-11-2009, 21:07:52 »

ยังสนุกไม่สร่างเลยนะ
ติดใจอยู่หนึ่งอย่าง ทำไมต้องทำตัวอักษรเป็นสีเขียว ด้วยหรอ
ถ้าเน้นเฉพาะ ท่าโจมตี หรือ ออกอารมณ์ ทางเสียงก็พอเข้าใจ
แต่วรรคหนึ่ง ดำที วรรคหนึ่งเขียว ที
ก็เลยงงว่าจะสลับสีทำไม ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ
ทางนี้ก็พออ่านได้อยู่ร่ำไป

จะติดตามต่อไปจนจบเลย
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #439 เมื่อ: 10-11-2009, 23:37:31 »

อ้างจาก: TwT ที่ 10-11-2009, 21:07:52
ยังสนุกไม่สร่างเลยนะ
ติดใจอยู่หนึ่งอย่าง ทำไมต้องทำตัวอักษรเป็นสีเขียว ด้วยหรอ
ถ้าเน้นเฉพาะ ท่าโจมตี หรือ ออกอารมณ์ ทางเสียงก็พอเข้าใจ
แต่วรรคหนึ่ง ดำที วรรคหนึ่งเขียว ที
ก็เลยงงว่าจะสลับสีทำไม ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ
ทางนี้ก็พออ่านได้อยู่ร่ำไป

จะติดตามต่อไปจนจบเลย

ตั้งแต่บทที่8หรือ10ไม่รู้ที่เป้นสงครามวิลโดเนีย จะมีแต่ตัวหนังสือเต็มไปหมดทำให้อ่านแล้วลายตา เลยพยายามจะเว้นวรรคให้ไม่ติดกันมาก และจะใช้สีเขียนคั่นไว้เพื่อที่จะได้พักสายตา เพราะเวลาพักสายตาเค้าจะให้มองต้นไม้ใบหญ้าที่เป้นสีเขียนเพื่อพักสายตา
อำนาจ คนหมั่น
Asura Tester
Hero Member
*
กระทู้: 4,999


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #440 เมื่อ: 11-11-2009, 00:42:10 »

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 10-11-2009, 16:45:23
อ้างจาก: อำนาจ คนหมั่น ที่ 10-11-2009, 16:39:01
ดีแล้ว วัยขนาดเราๆ ต้องพยายามฟิตๆ ไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปเป็นไปตามวัยนะท่าน  Evil
เดี๋ยวจันทร์หน้าเป็นต้นไปก็ฟิตไม่ออกแล้วเน้อ ต้องทำงานเป็นช่วงๆ 12.00-21.00 หรือไม่ก็23.00-8.00 แล้วแต่ว่าแต่ละวันจะโดนทำช่วงไหน
ปล. แต่ชอบทำงานช่วยกลางคืนจิงๆ ไม่ร้อน รถไม่ติด 555
ปล. แต่เสียอย่าง ต้องตัดผมด้วย TT ไว้เดี๋ยวถ่ายรูปตอนผมยาวอีกรูปไว้เป็นที่ระลึกละกัน เพื่อไว้ติดหน้างานศพด้วยว่าใครหนึ่งเคยไว้ผมยาว laugh laugh
จะตัดผม  Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked

ไว้งานเกมคราวนี้ถ้าไปวันใหนบอกนะครับ อยากจะเห็นตอนผมสั้นจริงๆ  Evil
?????
Jr. Member
**
กระทู้: 193


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 28 (10/11/52)
« ตอบ #441 เมื่อ: 11-11-2009, 01:12:43 »

ต้องมีไกเซอร์ จตุกร ผู้เฒ่าเห็ดแน่ๆ และบอสเข้ด้วยเเน่ๆ  ใช่ ใช่ ใช่
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 29 (11/11/52)
« ตอบ #442 เมื่อ: 11-11-2009, 11:01:52 »

บทที่ 29. เรดคลิฟชายหาดสีเลือด 

2 วันต่อมา อาริงพานักรบเผ่าเอลฟ์จำนวน 800คน เดินออกมาจากป่าแกรนฟอเรส โดยอาริงแยกเป็น 2กลุ่ม กลุ่มแรกมีราชินีแห่งป่าไม้ นักรบเอลฟ์ 500คน และมอนสเตอร์ในป่าแกรนฟอเรสจำนวนมาก มารวมกันที่ทางเข้าออกด้านบนที่เป็นด้านหลังเมืองที่ติดกับบึงชื้นแฉะ ไว้คอยจัดการพวกซอเรียที่จะหนีกลับไปยังฐานของพวกมันและคอยระดมยิงธนูเข้าทางด้านหลังเมือง ส่วนอาริงและนักรบเผ่าเอลฟ์จำนวน300คน และมอนสเตอร์ในป่าแกรนฟอเรสบางส่วนก็มาดักรอที่ทุ่งหญ้าและป่าหน้าทางเข้าเมืองเรดคลิฟ โดยที่อาริงได้บอกราชินีแห่งป่าไม้ และพวกเอลฟ์แล้วว่าอย่าเข้าไปในเมืองถ้าแท่นเสาหินยังไม่โดนทำลาย เพราะมันจะเป็นเหมือนที่อาริงมีเลือดอสูรในตัวและเดินเข้าป่าศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่มีแรง และพวกเอลฟ์ก็น่าจะเหมือนกันที่จะไม่มีแรงถ้าเข้าไปในเมืองที่ยังมีแท่นเสาหินสีดำอยู่ และพวกอาริงก็รอสัญญาณปืนใหญ่จากเรือโจรสลัด ส่วนกองเรือโจรสลัดประมาณ30ลำ ก็แบ่งไปยิงที่ด้านข้างเมืองเรดคลิฟที่เป็นชายหาดยาว และให้กองเรือของอณาจักรเมทัลลิกาน่าประมาณ5ลำ ไปยิงที่ทางออกท่าเรือด้านบนของเมืองเรดคลิฟ ซึ่งกองเรือของอณาจักรเมทัลลิกาน่าที่มาช่วยเพราะ กัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ ช่วยไปบอกข่าวให้ ในวันทีอาริงไปวางแผนกับกัปตันแจ็ค ดี สปอยเรอร์ เมื่อ 2วันก่อน

และเวลา 10.00 เสียงปืนใหญ่นัดแรกดังมาจากทางริมหาดด้านข้างเมืองเป็นปืนใหญ่จากเรือโจรสลัด และนั่นเป้นสัญญาณรบ พวกเอลฟ์ก็ระดมยิงธนูใส่เข้าไปในเมือง ทั้งทางด้านของอาริง และทางด้านของราชินีแห่งป่าไม้ ระดมยิงธนูพร้อมๆกัน และพวกซอเรียนและกอบบลินที่อยู่ข้างในก็ตกใจและรนราน เลยไม่ได้ตั้งตัวที่จะรบทั้ง4ด้านพร้อมๆกัน เลยโดนเหล่าลูกธนูของพวกเอลฟ์และถูกปืนใหญ่จากกองเรือโจรสลัดและกองเรืออณาจักรเมทัลลิกาน่า และมีพวกกอบบลินและซอเรียนที่ตกใจและหนีตายด้วยการออกมาตามประตูเมืองทั้ง 2ด้าน แต่ก็ถูกยิงตายบริเวณทางออกหมด เพราะอาริงและราชินีแห่งป่าไม้ ได้ดักรอยิงอยู่แล้ว โดยพวกที่หนีรอดจะรีบวิ่งออกมาโดยที่ไมได้ดูอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็โดนพวกเอล์ฟดักยิงตายไปทั้งนั้น

ชายหาดในเมืองเรดคลิฟ ที่เป้นที่ตั้งของปืนใหญ่ของพวกกอบบลิน ชายในชุดคลุมสีม่วงเป้นผู้บัญชาการกองทัพกอบบลิน

ชายในชุดคลุมสีม่วง : " เร็วๆพวกแกจงยิงปืนใหญ่ใส่พวกโจรสลัดเร็วๆ"(ชายในชุดคลุมสีม่วงรีบสังการพลปืนใหญ่กอบบลินให้ยิงเหล่าเรือโจรสลัด แต่ไม่มีกระสุนปืนใหญ่ลูกไหนยิงถึงเรือโจรสลัดเลย และเป้นเรือโจสลัดที่ปืนในเรือถูกปรับแต่งใหม่ให้ยิงได้ไกลกว่าเดิม และทำการกระหน่ำยิงสวนมาที่ชายหาดทำให้ปืนใหญ่ของพวกกอบบลินพังไปหลายสิบกระบอก)
พลปืนใหญ่กอบบลิน : "ไม่ไหวแล้ว เราหนีกันเถอะ สู้ไม่ไหวแล้ว"
ชายในชุดคลุมสีม่วง : " ถ้าพวกแกหนีกัน ท่านหญิงอังตัวเน็ตที่ถูกข้าจับไปต้องตายแน่ๆ พวกแกต้องสู้ให้ได้ "(พวกกอบบลินที่จริงก็ไม่อยากรบ ถ้าไม่ใช่ว่าท่านหญิงอังตัวเน็ตถูกจับไป พวกเค้าก็ไม่อยากรบหรอก)
ราชินีป่าไม้ : " ไปเลยเหล่าผีเสื้อโลหิต ไปจัดการทำให้พวกที่อยู่ในเมืองหายใจติดขัดกันหน่อยสิ"(ราชินีป่าไม้สั่งให้ผีเสื้อโลหิตหลายพันตัวบินไปเหนือเมืองเรดคลิฟระดับหลังคา และผีเสื้อโลหิตก็กระพือปีกพร้อมๆกับปล่อยละอองผีเสื้อโลหิตลงมามากมาย ทำให้อากาศในเมืองเต็มไปด้วยผงละอองผีเสื้อโลหิต กอบบลินและซอเรียนตัวไหนที่แพ้นิดหน่อยก็แค่จามไม่หยุดจามจนหมดแรงถืออาวุธ ส่วนตัวไหนแพ้ละอองผีเสื้อหนักก็ถึงขั้นชักและสลบไป)
พลปืนใหญ่กอบบลิน : " ไม่ไหวแล้วท่านอากาศจะหายใจก็จะไม่มีแล้ว เราต้องรีบออกนอกเมืองโดยเร็วที่สุด"
ชายในชุดคลุมสีม่วง : "ออกไปก็โดนยิงตายกันนะสิ ถ้างั้นพวกแกก็ลากปืนใหญ่ออกไปยิงพวกมันที่หน้าประตูเมืองเลย ไปๆๆๆ"(เหล่าพลปืนใหญ่กอบบลินก้ต้องรีบทำตาม และลากปืนใหญ่ไปแถวๆหน้าประตูเมือง โดยมีพวกซอเรียนตามไปเปิดทางเพื่อที่จะได้มีทางที่ปืนใหญ่จะได้ยิงได้)

อาริง : "พวกมันทะยอยออกมาแล้ว พลธนู100คนเปลี่ยนเป้าหมายยิงพวกซอเรียนที่ออกมาแถวประตูเมืองส่วนอีก200คนก็ระดมยิงเข้าไปในเมืองต่อ และพวกเม่นและเหล่าภูติพฤกษาทั้งหลายก็ถึงเวลาลุยแล้ว"(พลธนูเอลฟ์100นายก็ยิงธนูสวนไปที่หน้าประตูเมืองที่ตอนนี้พวกซอเรียนออกมาแล้วประมาณร้อยกว่าตัว และพวกตัวเม่นหลายร้อยตัวก็สะบัดขนแข็งแหลมที่อยู่ตามตัวสะบัดใส่พวกกอบบลินที่กำลังจะยิงปืนใหญ่ และที่ลากปืนใหญ่มา ส่วนภูติพฤกษาประมาณ200ตน ก็แอบช่วยกันใช้เถาวัลย์มัดพวกซอเรียนไว้ได้หลายสิบตัว และยังใช้เถาวัลย์มัดที่ปืนใหญ่และลากออกมานอกเมือง ส่วนอาริงก็จัดการพวกซอเรียนประมาณ20ตัว ที่หลุดลอดจากเหล่าธนูเอลฟ์มา เพียงแค่อาริงพุ่งตัวเข้าไปหากลุ่มซอเรียนและพุ่งตัวผ่านกลุ่มนั้นไปอย่างไว ภาพที่พวกเอลฟ์เห้นคือซอเรียน 20ตัว ถูกฟันนับไม่ถ้วแขนขาขาดและล้มลงขาดใจตายไปกันหมด20ตัว พวกเอลฟ์เห็นดังนั้นจึงส่งเสียงโห่ร้องดีใจ และอาริงก็พุ่งไปจับพลปืนใหญ่กอบบลินมา 1คน และพามากลุ่มเอลฟ์เพื่อสอบถามอะไรหน่อยที่อาริงสงสัย)


พลปืนใหญ่กอบบลิน : "ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายังมีภาระหน้าที่ต้องจัดการอยู่"(พลปืนใหญ่กอบบลินอ้อนวอน)
อาริง : " จะปล่อยมันก็ง่ายนิดเดียว แต่ขอให้เจ้าตอบคำถามฉันด้วยความจริงห้ามโกหก ว่าทำไมพวกเจ้าเผ่ากอบบลินถึงอยู่ฝ่ายพวกชั่วร้าย เพราะเท่าที่ฉันรู้จักกอบบลินหลายๆคน เผ่ากอบบลินจะนิสัยดีมากๆ แต่ทำไมพวกเจ้าถึงทำแบบนี้"(อาริงถามด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน เพราะอาริงก็ไม่เชื่อว่าพวกกอบบลินจะมีนิสัยแบบนี้)
พลปืนใหญ่กอบบลิน : " พวกข้าจำใจ เพราะเจ้าคนในชุดคลุมสีม่วงมันจับท่านหญิงอังตัวเน็ตของเผ่าเราไปเป็นนตัวประกัน ถ้าเราไม่ช่วยมัน มันจะฆ่าท่านหญิง" (พลปืนใหญ่กอบบลินพูดและน้ำตาไหล2ข้าง และอาริงก็รู้ได้ทันที่ว่าไม่ได้โกหก เพราะตาของกอบบลินตัวนี้ไม่ได้โกหกเวลาตอบคำถาม)
อาริง : "เรื่องเป้นแบบนี้เองเหรอ งั้นเจ้าพวกเจ้ามาร่วมมือกับพวกฉันไหมละ พวกเจ้ากอบบลินก็แค่เปลี่ยนฝ่าย ขนอาวุธปืนใหญ่ออกมาให้กับฝ่ายเราให้หมด และระดมยิงพวกซอเรียนอย่างเดียว เดี๋ยวฉันจะไปจัดการจับตัวชายในชุดคลุมสีม่วงมาเอง ตกลงไหมละ "(พลปืนใหญ่กอบบลินรีบพยักหน้าตกลงและมีสีหน้ายิ้มออกมาทันที และอาริงก็บอกพวกเอลฟ์ว่า ให้บอกข่าวต่อๆกันไปในกลุ่มและพวกมอนสเตอร์ด้วยว่า ห้ามทำร้ายพวกกอบบลินที่กำลังจะออกมาจากในเมือง เพราะพวกกอบบลินพวกนี้ทำไปเพราะถูกบังคับให้ทำ และอาริงก็รีบอุ้มพลปืนใหญ่กอบบลินไปส่งใกล้ๆกับประตูเมือง )

พลปืนใหญ่กอบบลินที่คุยกับอาริงแล้วก็รีบแอบเข้าไปในเมือง และค่อยๆกระซิบบอกต่อๆพวกกอบบลินด้วยกัน และพวกกอบบลินทั้งหมดก็มีสีหน้าดีใจทันที และค่อยๆทะยอยลากปืนใหญ่ออกมานอกเมือง และบางส่วนหลายกระบอกก็ยังอยู่ในเมืองและระดมยิงพวกซอเรียนด้วย
 
ชายในชุดคลุมสีม่วง : " เฮ้ยๆๆๆ พวกแกทรยส ไม่ยอมอยู่ฝ่ายข้าหรือ พวกแกไม่เป้นห่วงท่านหญิงอังตัวเน็ตแล้วหรือ : (ชายในชุดคลุมสีม่วงก็ตะโกนด่าและขู่พวกกอบบลินที่หันปืนใหญ่ยิงใส่พวกซอเรียนในเมือง)
อาริง : "อ้อ...เจ้านี่เองหรือที่กอบบลินพูดถึง ฉันคงต้องขอตัวเจ้าไปกับข้าหน่อยแล้วนะ "(พูดจบอาริงก็ใช้ด้ามดาบกระแทกเข้าไปที่ท้องของชายในชุดคลุมม่วง แต่สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าคลุมสีม่วงและกระเด็นลงไปนอนกับพื้นคือกอบบลิน 3ตัวที่ขี่คอต่อตัวกันทำให้สูงพอๆกับมนุษย์และใช้เสื้อคลุมคลุมตัวอำพรางร่างที่ต่อตัวก้นไว้ แต่ตัวที่ผมสีส้มและผูกผมตรงกลางหัวถูกด้ามดาบกระแทกนอนสลบไปแล้ว จึงเหลือ 2ตัว ตัวหนึ่งผมทรงนกหัวขวานใส่แว่น และอีกตัวใส่หมวกเหล็กล้มกล้องอยู่ที่พื้น)
อาริง: " เฮ้ย...พวกเจ้ามันสามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อนนี่ ทำไมพวกเจ้าทำแบบนี้ทำร้ายมนุษย์ไม่พอยังทำร้ายพวกกอบบลินด้วยกันเองอีก งั้นแสดงว่าทางรถไฟใต้ดินทุกสายที่ถูกทำลายหมดอย่างง่ายดายก็คงเป้นฝีมือพวกเจ้าละสิเนี่ย"(อาริงตกใจพอสมควรที่เห็นตัวจริงของชายในชุดคลุมม่วง)


สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน : "ใช่แล้วทำไม จะฆ่าพวกข้าหรือจะเอาไปทำอะไรก็เชิญ แต่พวกข้าไม่ยอมบอกหรอกว่าข้าจับตัวท่านหญิงอังตัวเน็ตไว้ที่ไหน "
อาริง : " ไม่บอกไม่เป้นไร ฉันมีวิธีของฉัน หึๆๆ"(อาริงพูดและยิ้มเล็กๆแต่ทำหน้าโหดนิดๆ และอาริงก็ใช้เชือกมัดสามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อนไว้ด้วยกัน และอาริงก็พาออกไปนอกเมือง)
อาริง : "พวกนี้ละตัวการเรื่องที่เรดคลิฟและจับตัวท่านหญิงอังตัวเน็ตไป "(อาริงชี้ให้ดูสามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อนที่ถูกมัด และพวกกอบบลินก็โมโหอย่างมากแทบอยากจะฆ่าให้ตาย เพราะไม่คิดว่าจะเป้นคนเผ่าเดียวกันเองที่เป้นคนทำ)
สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน : "ต่อให้ตายข้าก้ไม่บอก ไหนๆพวกข้า3คนก้ต้องตาย ข้าก็จะให้ท่านหญิงอังตัวเน้ตอดอาหารตายไปด้วย ฮ่าๆๆ"(สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อนคนหนึ่งพูดและหัวเราะ และอาริงก็รีบกรอกยาบางยาเข้าไปในปากพอดีและกรอกยาให้กับอีกตัวด้วย)
สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน : " แกเอายาอะไรให้พวกข้ากิน "
อาริง : " อีก 10วิก็รู้ หึๆๆ"(อาริงพุดและทำหน้ายิ้มๆ และพอครบ 10วินาที ตาของสามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน 2คนที่ถูกกรอกยา สายตาก็กรอกไปมาเหมือนไม่ได้สติ และอาริงก็เข้าไปนั่งใกล้ๆ)
อาริง : " นี่ๆๆ พวกเจ้าเอาท่านหญิงอังตัวเน็ตไปซ่อนไว้ที่ไหนหรือ "
สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน : " : จับๆ... ซ่อนๆๆ...หญิงๆ...เน็ตๆๆๆๆ...บ่อๆ...น้ำๆๆๆ"(สามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน2คนก็พร้อมใจกันคลายความลับออกมา เพราะยาที่อาริงกรอกเข้าไปคือยา "ยากล่อมประสาท")
พลปืนใหญ่กอบบลิน : " บ่อน้ำในเมืองเรดคลิฟแน่ๆ เพราะในนั้นมีทางใต้ดินอยู่ ทำไมพวกข้าไม่ทันนึกนะ"
อาริง : "งั้นสามสหายรถไฟใต้ดินเถื่อน3คนนี้ เข้ายกให้พวกเจ้าละกันนะ เดี๋ยวข้าจะลงไปหาท่านหญิงอังตัวเน็ตเอง และพวกซอเรียนที่เหลือฉันฝากพวกท่านเหล่าเอลฟ์และเหล่ากอบบลินด้วยนะ"(อาริงพูดเสร็จก็มุ่งไปที่บ่อน้ำตามที่พลปืนใหญ่บอกว่าอยู่ตรงไหนของเมือง และการต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไปด้วยธนูของพวกเอลฟ์ ปืนใหญ่ของโจรสลัดและปืนใหญ่ของกอบบลิน และการช่วยเหลือของมอสนเตอร์ในป่าแกรนฟอเรส)

อาริงกับพวกก๊อบบลิน 5คน ก็รีบวิ่งเข้าไปในเมืองเรดคลิฟ และมุ่งตรงไปยังบ่อน้ำใหญ่ ถึงแม้กว่าจะถึงบ่อน้ำเจอพวกซอเรียน5-10ตัว หมายจะมาจัดการอาริง แต่อาริงก็อาศัยวิชาดาบความเร็วสูงฟันพวกซอเรียนที่มาขวางตายไป และอาริงก็มาถึงบ่อน้ำ และอาริงก็เอาเชือกมัดที่ปากบ่อไว้และโรยตัวลงไปโดยให้พวกกอบบลินแอบอยู่ตามพงหญ้าที่ไม่ไกลจากบ่อมากนัก พอถึงพื้นบ่อถึงจะมีแสงสว่างลงมาแต่ก็ยังคงมึด อาริงก็เอาไม้มาพันผ้าที่ชุบน้ำมันไว้ และมาจุดไฟเพื่อให้แสงไฟมานำทางที่อาริงจะเดินไป อาริงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับเห็ดผีดิบพังกุล อาริงจึงวิ่งไปตะโกนชื่อท่านหญิงอังตัวเน็ตไป และไม่นานก็มีเสียงหินกระทบกับพื้น เสียงนั้นเบาเพราะน่าจะอยู่ที่ปลายถ้ำ แต่อาริงก็ได้ยินและรีบวิ่งไปตามเสียนั้น และได้เห้นท่านหญิงอังตัวน็ตถูกจับไม้แขนมัดขา และเอาผ้าปิดปากไว้ แต่ขาที่ถูกมัดท่านหญิงอังตัวเน็ตใช้ขาทั้ง2ข้างที่มัดหนีบหินและพยายามทุบลงกับพื้นให้เกิดเสียง อาริงเห้นดังนั้นเลยรีบไปแก้เชือกและรีบพาท่านหญิงอังตัวเน็ตกลับขึ้นมาจากบ่อโดยที่ท่านหญิงอังตัวเน็ตเกาะหลังอาริงไว้ และอาริงก็ใช้หินก้อนพอเหมาะมือโยนขึ้นไปให้ออกไปนอกบ่อน้ำเหมือนเป็นสัญญาณว่าพร้อมที่จะขึ้นแล้ว  และสักพักกอบบลิน 5คนนั้นก็ก้มลงมาดู และก็จับเชือกและช่วยกันดึงอาริงที่มีท่านหญิงอังตัวเน็ตเกาะหลังขึ้นมาจนถึงปากบ่อ และอาริงก็นำท่านหญิงอังตัวเน็ตและกอบบลิน 5คนออกไปนอกเมืองเพื่อจะไปสมทบกับพวกเอลฟ์และกอบลินที่เหลือ

อาริง : "ท่านหญิงอังตัวเน็ตก้ปลอดภัยแล้ว พวกซอเรียนในเมืองก็ใกล้จะตายหมดแล้ว เดี๋ยวฉันขอเข้าไปจัดการพวกซอเรียนที่เหลือก่อน ส่วนเอลฟ์ก็ยิงพลุสัญญานได้แล้ว พวกเรือโจรสลัดจะได้รู้ว่าเราชนะแล้ว จะได้เอาเรือมาจอดเทียบท่าที่เรดคลิฟ "(อาริงสั่งเสร็จก็วิ่งเข้าไปจัดการพวกซอเรียนที่เหลือ และตามติด
ไปด้วยพลปืนใหญ่กอบบลินที่ไปช่วยยิงพวกซอเรียน)

10นาที ต่อมาอาริงก็จัดการพวกซอเรียนที่เหลือในเมืองจนหมดแล้ว เรือโจรสลัดก็มารอเทียบท่าหลายลำแล้ว อาริงก็เดินไปทางออกด้านหลังของเมืองเรดคลิฟ ที่ราชินีแห่งป่าไม้รออาริงอยู่ด้านนอกเมือง ทางด้านนี้ก็คงสู้กันน่าดูเพราะมีพวกซากซอเรียนหลายร้อยตัว

ราชินีแห่งป่าไม้ : "หินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งอยู่ในห่อผ้านี้ เจ้าจับหินตรงๆไม่ได้ฉันเลยห่อมาให้"(ราชินีแห่งป่าไม้พูดเสร็จก็ส่งห่อก้อนหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งมาให้)
อาริง : "ขอบคุณนะ จะได้รีบดูผลว่าหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งจะช่วยทำลายเสาได้จริงไหม ถ้าได้จะได้จบๆที่เมืองนี้สักที"(อาริงรับห่อผ้าและรีบดินไปที่แท่นเสาหินสีดำ)

และอาริงก็แกะห่อผ้าออกและโยนหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งเข้าไปในแท่นเสา แท่นเสาสีดำเมื่อสัมผัสถูกหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งแท่นเสาก็ดูดหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งเข้าไปและไม่นานแท่นเสาสีดำก็มีปฎิกิริยาตอบโต้กับหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งอยู่ภายใน และแท่นหินศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อยๆเปลี่ยนจากสีดำเป้นสีรุ้ง และเมื่อแท่นเสาหินเปลี่ยนเป้นสีรุ้งจนหมด แท่นเสาหินสีรุ้งก็แตกตัวและพังทะลายลงมาและค่อยๆสลายกลายเป้นฝุ่นผงไป และนั่นก็คือสิ่งยืนยันว่าทำลายเสาหินสีดำได้แล้ว และพวกเอลฟ์ กอบบลินและเหล่าโจรสลัด ก็ไชโยโห่ร้องกันเป้นการใหญ่ อาริงเห้นภาพแบบนี้ อาริงก็คิดในใจแล้วว่าเหล่ามนุษย์และพันธมิตรทั้งหลายก็คงต้องเริ่มนับเวลาถอยหลังที่เตรียมจะบุกยึดอีก 3เมืองคืนพร้อมๆกันพร้อมกับยุตติสงครามสักที......

/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 29 (11/11/52)
« ตอบ #443 เมื่อ: 11-11-2009, 15:12:28 »

นุกๆๆๆ >w<

ท่านหญิงสุดสวยปลอดภัย เย้ๆๆ ^^

เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 29 (11/11/52)
« ตอบ #444 เมื่อ: 11-11-2009, 18:09:03 »

และพวกแม่นหลายร้อยตัวก็สะบัดขนแข็งแหลม

ริงก็คิดในใจแล้วว่เหล่ามนุษย์
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 29 (11/11/52)
« ตอบ #445 เมื่อ: 11-11-2009, 18:24:04 »

อ้างจาก: นู๋เนย เด็กน้อยช่างฝัน ที่ 11-11-2009, 18:09:03
และพวกแม่นหลายร้อยตัวก็สะบัดขนแข็งแหลม

ริงก็คิดในใจแล้วว่เหล่ามนุษย์
ใจจ้าแก้แล้ว laugh laugh
!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 29 (11/11/52)
« ตอบ #446 เมื่อ: 11-11-2009, 20:22:58 »

ท่านหญิงอังกรวตเน็ต จะไปกรวตอะไรหรอ laugh laugh ก๊อบลิน เขียนงี้นะ ยึดความจริงอย่ายึดคนอื่น Evil Evil

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 30 (12/11/52)
« ตอบ #447 เมื่อ: 12-11-2009, 11:52:36 »

บทที่ 30. นับถอยหลังสงครามครั้งสุดท้าย

เสร็จสิ้นสงครามที่เมืองเรดคลิฟ แต่อาริงก็ยังไม่วางใจ ในเย็นนั้นอาริงเลยขอให้ กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ และเหล่าลูกน้องโจรสลัดให้อยู่ที่เมืองเรดคลิฟก่อน อยู่เป้นเทพพิทักษ์เมืองเรดคลิฟก่อน โดยให้เรือโจรสลัดจอดเทียบท่าแถวชายหาด และพวกกอบบลินก็เอาปืนใหญ่หลายสิบกระบอกไว้บนกำแพง เพื่อไว้ยิงใส่ศัตรูจากนอกเมืองถ้ามีมาบุก พวกเอลฟ์ก็ช่วยกันรักษาพวกกอบบลินที่ได้รับบาดเจ็บ อาริงตัดสินใจว่าอีก 2วัน จะไปหาโยฮานเพื่อบอกข่าวดี ทั้งเรื่องยึดเรดคลิฟคืนได้และหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งใช้ได้ผล และในคืนนั้นเองที่ในเมืองเรดคลิฟก็มีการจัดงานเลี้ยงนิดหน่อยที่ชายหาดริมชายทะเลในเมืองเรดคลิฟ เพื่อผ่อนคลายจิตใจหลังจากการสู้รบเสร็จ และพรุ่งนี้ค่อยทำการเก็บกวาดซากปรักหักพังและค่อยๆซ่อมแซมบ้าน และค่อยๆตะเวนตามชายป่าแถวเรดคลิฟและไกลออกไปอีกสักหน่อย เพื่อจะหาชาวบ้านจะได้บอกข่าวดี และจะได้ให้ชาวบ้านกลับมาอยู่ในเมืองกันตามปกติ 

2 วันต่อมา อาริงเก้บของและสะพายดาบไว้ที่หลัง เตรียมที่จะเดินทางไปหมู่บ้านบางกระท่อมและที่ป้อมเดธวิลเล่ย์

อาริง : "ฝากเมืองด้วยนะ กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์  จะรีบไปรีบกลับเพราะท่านโยฮานอาจจะมีความคิดดีๆที่จะบุกยึดเมืองที่เหลือคืน จะได้กลับมาวางแผนกัน"
กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ : "วางใจได้เลย ข้าจะไม่ยอมให้เมืองเรดคลิฟตกเป้นของพวกคนชั่วอีกแล้ว"( กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ และเอากำปั้นทุบอกตัวเอง เพื่อเป็นสัญลักษ์มั่นใจ)
ราชินี่แห่งป่าไม้ : " แล้วเจ้าจะไปยังไง ถ้าเดินอย่างไวสุดก็2วัน และแถวนี้ไม่มีพวกไลแคนที่จะให้เจ้าใช้ขี่หรอกนะ"
อาริง : " ก็คงต้องวิ่งไป ถ้าเหนื่อยก็เดินและพักเอา ถ้าเร่งแบบสุดๆจริงๆก็ 1วันก็คงจะถึง"(อาริงกางแผนที่ และวางแผนการเดินทางที่หาทางลัดให้ไวที่สุด)
ราชินี่แห่งป่าไม้ : "ฉันมีวิธีที่เดินทางได้ไวกว่านี้มากเลย แต่ไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากละ "(ราชินี่แห่งป่าไม้พูดเป้นปริศนาให้อาริงงง)

ณ. ป้อมเดธวิลเล่ย์ใหม่ที่ตอนนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และในตอนนี้มีผู้นำและตัวแทนของแต่ละกลุ่มที่กระจัดกระจายกันไปและมารวมกันทีหลัง ก็มาร่วมชุมนุมอยู่บนชั้น 3 ที่เป้นห้องประชุมของป้อมเดธวิลเล่ย์

อาเวีย : "ก่อนเริ่มประชุมเรื่องสำคัญ ผมอยากให้กลุ่มของพวกเรามีผู้นำที่แท้จริงกันก่อน เพื่อกลุ่มเราจะได้เป้นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทุกคนเห็นว่าจะให้ใครเป้นคนนำกลุ่มของพวกเราในการรบครั้งนี้ดี"(อาเวียถามผู้นำของทุกกลุ่ม และทุกคนก็พร้อมใจกันให้โยฮานเป้นผู้นำกลุ่มในการที่จะรบเพื่อยึดเมืองคืน ซึ่งแต่ละคนก็รู้ถึงตำนานของโยฮานดี โยฮานเลยเป็นที่ยอมรับของทุกคน )
โยฮาน : "ขอบคุณทุกคนที่ยกให้ฉันเป้นคนนำกลุ่มการรบนี้ แต่ในใจของฉันจริงๆยังมีอีกคนที่น่าจะเหมาะสมด้วยเหมือนกัน "(โยฮานพูดแบบนี้ ก็ทำให้ทุกคนงง และจับกลุ่มคุยกัน จนในที่สุดโยฮานก็บอกว่าใคร)
โยฮาน : "เธอคนนั้นชื่อ อาริง วีรกรรมของเธอก็มีหลายเรื่อง ตั้งแต่ศึกที่เมืองวิลโดเนีย ป้อมเดธวิลเล่ย์ และยังช่วยให้พวกเรามีความหวังโดยการให้ของล้ำค่าอย่างขนนกศักดิ์สิทธิ์12อัน เพื่อเอามาเป้นส่วนผสมในการหลอมหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งและเธอก็ยังมีส่วนสำคัญในการทำหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้นนี้ขึ้นมา โดยราชินีป่าไม้ตั้งเงื่อนในการทำโดยขอแลกกับแขนขวาของเธอทั้งๆที่เธอเหลือแขนขวาข้างเดียวที่เป็นผลมาจากศึกป้อมเดธวิลเล่ย์ แต่เธอก็ตัดสินใจทันทีและตัดแขนให้ไปโดยไม่ให้เสียเวลาเลย จนราชินีป่าไม้ตกลงทำหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งทั้ง3ก้อนนี้ขึ้นมา"
ลูฟเฟ่น : "แล้วแบบนี้พี่อาริงจะเป็นยังไงบ้าง อาการสาหัสไหม"(ลูฟเฟ่นลุกขึ้นถามอย่างร้อนรนโดยมีพวกนาฟตี้รอฟังด้วยความเป็นห่วง)
โยฮาน : " อาริงไม่เป้นไรแล้ว ราชินีป่าไม้แค่ทดสอบลองใจดูว่ามีความตั้งใจแน่วแน่แค่ไหน ราชินีป่าไม้ก็รักษาแขนขวาหายเป็นปกติแล้ว เหมือนว่าไม่ได้เกิดเหตการณ์นั้นๆขึ้น"(เมื่อโยฮานเล่าแล้ว ทุกคนที่เป้นห่วงอาริงก็พลอยโล่งอกไป)
ท้าวจตุกร : " จะดีเหรอ ให้ผู้หญิงมานำกลุ่มแบบนี้ ถึงผลงานเค้ามีแต่ก็ใช่ว่าจะเก่งไปซะทีเดียว ผุ้หญิงยังไงก็คือผู้หญิงวันยังค่ำ ฮ่าๆๆ"(ท้าวจตุกรหัวเราะ ทำให้คนที่ชอบอาริงไม่พอใจ)
อาเวีย : " เอาเถอะๆ ท่านโยฮานก็รับหน้าที่หัวหน้ากลุ่มละดีแล้ว เพราะทุกคนไว้ใจท่านและเชื่อใจท่าน ส่วนพี่อาริงเค้าก้คงไม่เอาอยู่แล้วกับตำแหน่งนี้ เพราะพี่อาริงเค้าไม่ค่อบชอบหรอก"(อาเวียรีบตัดบทก่อนที่จะมีการทะเลากัน โดยให้โยฮานเป้นผู้นำไปเลย ซึ่งโยฮานก็จำใจรับทั้งๆที่ตัวโยฮานเอง อยากให้อาริงเป้นผู้นำ และเมื่อกำหนดผู้นำได้ ทุกคนก็เริ่มประชุมกัน)

 
2 ชั่วโมงผ่านไป ในห้องประชุมก็ประชุมวางแผนการรบกันต่อไป อยู่ๆก็มีพลทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องประชุม และตะโกนบอกคนในห้องประชุมว่ามีมอนสเตอร์ที่ไม่รู้จัก 1ตัว กำลังบินมาทางนี้ และคนที่อยู่ใกล้หน้าต่างก็เปิดหน้าต่างไปดูมอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังลดระดับการบินและกำลังจะบินลงที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ แต่ทหารก็เล็กปืนขึ้นพร้อมยิง จนโยฮานตะโกนสั่งไม่ต้องยิง เพราะมอนสเตอร์ตัวนั้นคือ ราชินีป่าไม้ แม่ของโยฮานเอง โยฮานก็อดงงและสงสัยไม่ได้ว่าเหตใดแม่ของตนถึงออกมาจากป่าแกรนฟอเรสไกลถึงเพียงนี้ และโยฮานและทุกคนก็วิ่งลงไปที่หน้าป้อมเดธวิลเล่ย์ และราชินีป่าไม้ก็บินลงถึงพื้นพอดี ด้วยปีกผีเสื้ออันใหญ่ที่ติดที่หลังของราชินีผีเสื้อ ก็พัดเอาฝุ่นทรายคลุ้งไปหมด

โยฮาน : " แม่....ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าราชินีป่าไม้เพราะอยู่ในที่สถารณะชน จึงควรเรียกให้เกียรติกัน แล้วท่านออกมาไกลจากป่าแกรนฟอเรสทำไมกัน มีธุระสำคัญมาแจ้งหรือ "
ราชินีป่าไม้ : "พาคนมาส่งและคนๆนั้นจะมาแจ้งข่าวดีด้วย"(ราชินีป่าไม้พูด อาริงที่เกาะหลังราชินีป่าไม้มาก็กระโดดลงมาที่พื้น)

ลูฟเฟ่น/นาฟตี้/อาเวีย/ฟริกซ์/เรย์รันและวาเนสซ่า ทั้งหมดรีบวิ่งเข้ามากอดอาริงด้วยความคิดถึง นาฟตี้และวาเนสซ่าถึงกับน้ำตาไหลอีกเมื่อมองดูที่แขนซ้ายของอาริงที่ไม่มีแขนซ้าย แต่อาริงก็ปลอบว่าไม่ใช่ความผิดของใคร มันเป้นเรื่องธรรมดาที่สู้รบกันก็ต้องมีบาดเจ็บล้มตายกันบ้าง

ท้าวจตุกร : " จะทำซึ้งอะไรนักหน้า แค่คนๆเดียว"(จตุกรยืนกอดอกและพูดห้าวๆออกมา ทำให้พวกลูฟเฟ่นไม่พอใจ แต่อาริงก็ห้ามไว้)
โยฮาน : "แล้วที่ว่าข่าวดีคืออะไรเหรอ"
ราชินีป่าไม้ : " อาริงเค้าได้ปลดปล่อยเมืองเรดคลิฟเป้นอิสระแล้ว และได้ทำลายแท่นเสาสีดำที่เมืองเรดคลิฟไปแล้ว"(ราชินีป่าไม้พูดจบก็ดันอาริงให้เดินมาข้างหน้า)
โยฮาน : "จริงหรือ เจ้าทำได้ยังไง จากกันแค่ไม่กี่วันเอง"
อาริง : "ไม่ใช่ฝีมือฉันคนเดียวหรอก ฉันก็ได้เผ่าเอลฟ์ของท่านราชินีป่าไม้มาช่วย และยังไปขอร้องเพื่อเก่ากัปตันโจรสลัดแจ็ค ดี สปอยเรอร์ ให้เอาเรือโจรสลัดติดปืนใหญ่มาช่วยรบนะ แถมยังได้เหล่ากอบบลินที่โดนบังคับให้สู้ได้มาเป้นพวกอีกเยอะเลยรวมทั้งปืนใหญ่ของกอบบลินด้วย ส่วนแท่นเสาหินสีดำก็โดนทำลายโดยใช้หินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งนั้นใส่เข้าไปในแท่นเสาหินก็สามารถทำลายมันได้แล้ว"(อาริงเล่าจบ ทุกคนก็ไชโยโห่ร้องกันใหญ่)


ท้าวจตุกร : "เป็นผู้หญิงบอบบางแบบนี้ แถมเป็นไอ้ด้วนแขนข้างเดียวและยังทำเป็นฮีโร่อีก อยากเป็นผู้นำกลุ่มมากนักหรือไง"
อาริง : "ตายักษ์แขนเยอะเค้าพูดถึงอะไรนะ ไม่เข้าใจ"(อาริงหันไปถามฟริกซ์ที่อยู่ใกล้ๆกับตน)
ฟริกซ์ : " อ๋อ...ประกี้กำลังประชุมและมีการเลือกผู้นำกลุ่มนะ ท่านโยฮานได้เป้นผู้นำกลุ่มอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ท่านโยฮานก็กลับเสนอชื่อพี่อาริงนะ เลยมีบางคนไม่พอใจ เพราะเค้าไม่รู้จักพี่อาริง)
อาริง : "อะนะ เข้าใจละเรื่องตำแหน่งพี่ไม่เอาอยู่แล้วละไม่ชอบ งั้นเอาแบบนี้ละกันไหนๆก็ไหนๆละ คนอื่นจะได้รู้จักฉันไปเลยละกัน"(อาริงยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย และเดินไปหาท้าวจตุกร)
ท้าวจตุกร : "มีอะไรยัยด้วน"(ท้าวจตุกรพูดทำหน้ายียวนกวนประสาท)
อาริง : "นี่ๆตายักษ์แขนเยอะ.. มาเล่นอะไรกันหน่อยไหม "(อาริงพูดและยิ้มให้กับท้าวจตุกร)
ท้าวจตุกร : " จะเล่นอะไรว่ามา ยัยด้วน"
อาริง : "มาประลองกันเล่นๆ ท่านใช้ดาบส่วนฉันก็ใช้ดาบเหมือนกัน ใครสามารถสร้างรอยแผลไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนเป้นผู้ชนะ เอาไหม"(อาริงพูดเสร็จก็ชักดาบเขี้ยวทมิฬออกมาถือในมือ)
ท้าวจตุกร : "โอ้...เจ้าแน่ใจหรือ เจ้าเหลือแขนขวาข้างเดียว ส่วนข้ามีถึง4แขน4ดาบเชียวนะ ฮ่าๆๆ"(ท้าวจตุกรหัวเราะและแขนทั้ง4ข้างก็ชักดาบขึ้นมาพร้อมๆกัน)
นาฟตี้ : "พี่อาริงจะไหวเหรอ แขนข้างเดียวจะต้านทานอีกฝ่ายที่ตัวใหญ่และมีถึง 4แขนได้ยังไง"(นาฟตี้และคนอื่นๆก็เป้นห่วง เพราะเห้นว่าอาริงไม่ได้ใช้ดาบใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว)
โยฮาน : "ไว้ใจอาริงเถอะ ฉันไม่รู้ว่าแต่ก่อนเธอเก่งแบบไหน แต่ที่รู้ๆตอนนี้อาริงเค้าเก่งมากๆ ลองรอดูละกันนะอาริงไม่มีทางแพ้แน่ๆ"(โยฮานพูดและหัวเราะเบาๆ ซึ่งทำให้พวกลูฟเฟ่นอดสงสัยไม่ได้ว่าอาริงจะชนะยังไง)
ท้าวจตุกร : "แน่ใจหรือยัยด้วน ถ้าข้าเผลอตัดแขนแกอีกข้างอย่างมาร้องไห้ฟูมฟามละ"
อาริง : "แต่ท่านเถอะ ถ้าแขน4ข้างหายไปก็อย่างมาคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายละ คิกๆๆ"(อาริงพูดและทำหน้ากวนโมโหท้าวจตุกรเล่น ซึ่งได้ผลท้าวจตุกรโมโหมากกว่าเดิม)
ท้าวจตุกร : "แขนด้วน แล้วยังปากดีอีก เอาเป็นว่าถ้าใครแพ้ก็ต้องยอมเป็นลูกน้องคนๆนั้นไปชั่วชีวิตหรือไม่ก็จนกว่าตายเอาไหม"
อาริง : "ไม่มีปัญหา"

ท้าวจตุกรไม่พูดพล่ามทำเพลง ท้าวจตุกรก็ลองของด้วยการใช้2แขนที่ถือดาบอยู่ฟันไปที่อาริงพร้อมๆกัน แต่ดาบทั้ง2เล่มของท้าวจตุกรก็กระเด้งกลับออกมาก่อนที่จะถึงตัวอาริงแต่มีเสียงดาบปะทะกัน ทั้งๆที่อาริงยืนถือดาบเฉยๆ ไม่ใช่แค่ท้าวจตุกรที่งง คนที่ดูรอบข้างก็งงไปตามๆกันเว้นแต่โยฮานเท่านั้นที่ไม่งง และท้าวจตุกรก็ลองฟันดูอีกรอบและผลก็เหมือนเดิม ทำให้ท้าวจตุกรโมโหมาก

ท้าวจตุกร : "แกเล่นตุกติกอะไรว่ะ แกโกงโดยใช้เวทย์มนต์คาถาอะไรสักอย่างช่วยหรือ ดาบข้าถึงฟันไม่ถึงตัวแกและกระเด้งกลับมาทั้งๆที่แกยืนเฉยๆ"(ท้าวจตุกรยกปลายดาบชี้มาที่อาริง)
อาริง : "ฉันไม่ได้ใช้เวทย์มนต์คาถาอะไรเลย ที่ดาบท่านเด้งกลับก็เพราะฉันฟันโดนดาบท่านไงละ และท่านเองก็น่าจะได้ยินเสียดาบกระทบกันไม่ใช่หรือ"(อาริงพูดและยิ้มๆ)
ท้าวจตุกร : "ก็ข้าและทุกคนก็เห็นว่าเจ้ายังไมได้ยกดาบฟันเลย"
อาริง : " อย่าใช้ตาดูสิ เพราะบางเรื่องตาอาจจะมองไม่เห้นก็ได้นะ"


อาริงพูดจบท้าวจตุกรก็โมโหหนักเพราะเหมือนถูกสอน ท้าวจตุกรเลยใช้มือทั้ง4ข้าง ระดมฟันไปที่อาริงอย่างไว และจากนั้นก็เกิดเสียงดาบปะทะกันดังมากหลายสิบหล แต่ก็เหมือนเดิมที่ดาบของท้าวจตุกรก็ไปไม่ถึงอาริง และอาริงก็ยังคงยืนเฉย แต่มีแต่เสียงดาบปะทะกับดาบของท้าวจตุกรเท่านั้น

ลูฟเฟ่น : "พี่อาริงทำได้ยังไงเนี่ย อย่าบอกนะว่าพี่เค้าใช้ดาบเล่มเดียวรับดาบทั้งหมดของท้าวจตุกรอยู่"
โยฮาน : "ใช่แล้ว นั่งละวิถีดาบแห่งความเร็ว "ดาบความเร็วสูง" ที่แม้แต่ตาคนเราก็มองไม่ทัน"(โยฮานบอกข้อสงสัยนั้นให้กับพวกลูฟเฟ่นที่กำลังงงกันอยู่)

เวลาผ่านไปเกือบ 10นาที ทั้งอาริงและท้าวจตุกรก็ประลองกันอยู่ และอยู่ๆท้าวจตุกรก็เลิกฟันและเก็บดาบทั้ง4เล่มเข้าฟักไป
ท้าวจตุกร : "เอาเป้นว่าข้าแพ้เจ้าละกันยัยด้วน..ไม่สิ..ข้าแพ้เจ้าละกันอาริง เพราะขนาดข้ามี4แขนยังไม่สามารถทำอะไรเจ้าที่มีแขนเดียวได้เลย แสดงว่าเจ้าเก่งกว่าข้า"
อาริง : "เอาเป็นเสมอกันดีกว่า "(อาริงตอบและยิ้มให้)

และเมื่อทั้ง2ยอมรับในความสามารถกันละกัน และทุกคนก็ค่อยๆยอมรับอาริง ทั้งหมดเลยเข้าไปในป้อมเดธวิลเลย์เพื่อที่จะประชุมกันต่อ และหลังจากประชุมและวางแผนกันเสร็จแล้วโดยใช้เวลาเกือบ 3ชั่วโมง ในที่ประชุมสรุปว่าอีก 5วัน เวลา 8.00 ทุกกลุ่มจะบุกตามแต่ละเมืองดังนี้
กลุ่มของอาริงเผ่าเอลฟ์ โจรสลัดและเรือรบของเมทัลลิกาน่า และนักรบที่อยู่แถวๆเมืองเซาเทรินไซด์จะบุกยึดเมืองเซาเทริไซด์คืน
กลุ่มของลูฟเฟ่นและนักรบ 5กลุ่มที่ลูฟเฟ่นรู้จักและทหารที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ครึ่งหนึ่ง กับพวกกองทัพกอบบลินที่มีปืนใหญ่พร้อม ก็จะบุกที่เมืองวิลเดอวู้ด
กลุ่มของโยฮานและนักรบหมู่บ้านบางกระท่อมกับท้าวจตุกรและลูกน้องอสุรา อาเวียกับกองทัพป้อมเดธวิลเลย์อีกครึ่ง และเคออสติคจะพาพวกโทรล์และพวกผลึกไปรบด้วย ทั้งหมดจะไปบุกเมืองเซาเทรินฟอร์ทที่ด้านหน้าของเมือง และฝั่งทางออกของเมืองอีกด้านจะมีกลุ่มนักรบป้อมปราการตะวันออกและนักรบที่เมืองวิลโดเนียจะช่วยกันรบทางด้านนั้นซึ่งฟริกซ์และนาฟตี้ก็จะร่วมในกลุ่มนี้
และการบุกครั้งนี้จะเป้นการทุ่มกำลังรบครั้งสุดท้าย และจะโจมตีพร้อมๆกันทั้ง 3เมือง เพื่อไม่ให้มอนสเตอร์จากที่ไหนมาช่วยกันได้ และไม่ให้พวกหัวหน้าของกลุ่มชั่วร้ายช่วยเหลือเมืองที่จะโจมตีพร้อมๆกันได้ทั้งหมด..............

/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 30 (12/11/52)
« ตอบ #448 เมื่อ: 12-11-2009, 13:47:26 »

แง่ว... ใกล้จบแล้วหรอ Y^Y 

อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 30 (12/11/52)
« ตอบ #449 เมื่อ: 12-11-2009, 16:46:20 »

อ้างจาก: (¯`•¸•´¯)``สก็๏ตไบท๎,,*(¯`•¸•´¯) ที่ 12-11-2009, 13:47:26
แง่ว... ใกล้จบแล้วหรอ Y^Y 

พยายามจะเขียนให้จบอาทิตย์นี้ เพราะอาทิตย์หน้าต้องทำงานที่ใหม่เวลาเลยจะไม่มีแล้ว เพราะทำงานตอนกลางคืน
แต่พอเอาเข้าจริงๆ อาทิตย์นี้ก็คงเขียนไม่ทัน สงสัยคงต้อง2-3วันลงทีแล้วละ เพราะบทที่31เป้นต้นไปจะเขียนให้ยาวทีเดียวไปเลย
ป้าย:
หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31 32 ... 37