บทที่ 30. นับถอยหลังสงครามครั้งสุดท้าย
เสร็จสิ้นสงครามที่เมืองเรดคลิฟ แต่อาริงก็ยังไม่วางใจ ในเย็นนั้นอาริงเลยขอให้ กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ และเหล่าลูกน้องโจรสลัดให้อยู่ที่เมืองเรดคลิฟก่อน อยู่เป้นเทพพิทักษ์เมืองเรดคลิฟก่อน โดยให้เรือโจรสลัดจอดเทียบท่าแถวชายหาด และพวกกอบบลินก็เอาปืนใหญ่หลายสิบกระบอกไว้บนกำแพง เพื่อไว้ยิงใส่ศัตรูจากนอกเมืองถ้ามีมาบุก พวกเอลฟ์ก็ช่วยกันรักษาพวกกอบบลินที่ได้รับบาดเจ็บ อาริงตัดสินใจว่าอีก 2วัน จะไปหาโยฮานเพื่อบอกข่าวดี ทั้งเรื่องยึดเรดคลิฟคืนได้และหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งใช้ได้ผล และในคืนนั้นเองที่ในเมืองเรดคลิฟก็มีการจัดงานเลี้ยงนิดหน่อยที่ชายหาดริมชายทะเลในเมืองเรดคลิฟ เพื่อผ่อนคลายจิตใจหลังจากการสู้รบเสร็จ และพรุ่งนี้ค่อยทำการเก็บกวาดซากปรักหักพังและค่อยๆซ่อมแซมบ้าน และค่อยๆตะเวนตามชายป่าแถวเรดคลิฟและไกลออกไปอีกสักหน่อย เพื่อจะหาชาวบ้านจะได้บอกข่าวดี และจะได้ให้ชาวบ้านกลับมาอยู่ในเมืองกันตามปกติ 2 วันต่อมา อาริงเก้บของและสะพายดาบไว้ที่หลัง เตรียมที่จะเดินทางไปหมู่บ้านบางกระท่อมและที่ป้อมเดธวิลเล่ย์
อาริง : "ฝากเมืองด้วยนะ กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ จะรีบไปรีบกลับเพราะท่านโยฮานอาจจะมีความคิดดีๆที่จะบุกยึดเมืองที่เหลือคืน จะได้กลับมาวางแผนกัน"
กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ : "วางใจได้เลย ข้าจะไม่ยอมให้เมืองเรดคลิฟตกเป้นของพวกคนชั่วอีกแล้ว"( กัปตันเจ็ค ดิ สปอยเรอร์ และเอากำปั้นทุบอกตัวเอง เพื่อเป็นสัญลักษ์มั่นใจ)
ราชินี่แห่งป่าไม้ : " แล้วเจ้าจะไปยังไง ถ้าเดินอย่างไวสุดก็2วัน และแถวนี้ไม่มีพวกไลแคนที่จะให้เจ้าใช้ขี่หรอกนะ"
อาริง : " ก็คงต้องวิ่งไป ถ้าเหนื่อยก็เดินและพักเอา ถ้าเร่งแบบสุดๆจริงๆก็ 1วันก็คงจะถึง"(อาริงกางแผนที่ และวางแผนการเดินทางที่หาทางลัดให้ไวที่สุด)
ราชินี่แห่งป่าไม้ : "ฉันมีวิธีที่เดินทางได้ไวกว่านี้มากเลย แต่ไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากละ "(ราชินี่แห่งป่าไม้พูดเป้นปริศนาให้อาริงงง)
ณ. ป้อมเดธวิลเล่ย์ใหม่ที่ตอนนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และในตอนนี้มีผู้นำและตัวแทนของแต่ละกลุ่มที่กระจัดกระจายกันไปและมารวมกันทีหลัง ก็มาร่วมชุมนุมอยู่บนชั้น 3 ที่เป้นห้องประชุมของป้อมเดธวิลเล่ย์
อาเวีย : "ก่อนเริ่มประชุมเรื่องสำคัญ ผมอยากให้กลุ่มของพวกเรามีผู้นำที่แท้จริงกันก่อน เพื่อกลุ่มเราจะได้เป้นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทุกคนเห็นว่าจะให้ใครเป้นคนนำกลุ่มของพวกเราในการรบครั้งนี้ดี"(อาเวียถามผู้นำของทุกกลุ่ม และทุกคนก็พร้อมใจกันให้โยฮานเป้นผู้นำกลุ่มในการที่จะรบเพื่อยึดเมืองคืน ซึ่งแต่ละคนก็รู้ถึงตำนานของโยฮานดี โยฮานเลยเป็นที่ยอมรับของทุกคน )
โยฮาน : "ขอบคุณทุกคนที่ยกให้ฉันเป้นคนนำกลุ่มการรบนี้ แต่ในใจของฉันจริงๆยังมีอีกคนที่น่าจะเหมาะสมด้วยเหมือนกัน "(โยฮานพูดแบบนี้ ก็ทำให้ทุกคนงง และจับกลุ่มคุยกัน จนในที่สุดโยฮานก็บอกว่าใคร)
โยฮาน : "เธอคนนั้นชื่อ อาริง วีรกรรมของเธอก็มีหลายเรื่อง ตั้งแต่ศึกที่เมืองวิลโดเนีย ป้อมเดธวิลเล่ย์ และยังช่วยให้พวกเรามีความหวังโดยการให้ของล้ำค่าอย่างขนนกศักดิ์สิทธิ์12อัน เพื่อเอามาเป้นส่วนผสมในการหลอมหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งและเธอก็ยังมีส่วนสำคัญในการทำหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้นนี้ขึ้นมา โดยราชินีป่าไม้ตั้งเงื่อนในการทำโดยขอแลกกับแขนขวาของเธอทั้งๆที่เธอเหลือแขนขวาข้างเดียวที่เป็นผลมาจากศึกป้อมเดธวิลเล่ย์ แต่เธอก็ตัดสินใจทันทีและตัดแขนให้ไปโดยไม่ให้เสียเวลาเลย จนราชินีป่าไม้ตกลงทำหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งทั้ง3ก้อนนี้ขึ้นมา"
ลูฟเฟ่น : "แล้วแบบนี้พี่อาริงจะเป็นยังไงบ้าง อาการสาหัสไหม"(ลูฟเฟ่นลุกขึ้นถามอย่างร้อนรนโดยมีพวกนาฟตี้รอฟังด้วยความเป็นห่วง)
โยฮาน : " อาริงไม่เป้นไรแล้ว ราชินีป่าไม้แค่ทดสอบลองใจดูว่ามีความตั้งใจแน่วแน่แค่ไหน ราชินีป่าไม้ก็รักษาแขนขวาหายเป็นปกติแล้ว เหมือนว่าไม่ได้เกิดเหตการณ์นั้นๆขึ้น"(เมื่อโยฮานเล่าแล้ว ทุกคนที่เป้นห่วงอาริงก็พลอยโล่งอกไป)
ท้าวจตุกร : " จะดีเหรอ ให้ผู้หญิงมานำกลุ่มแบบนี้ ถึงผลงานเค้ามีแต่ก็ใช่ว่าจะเก่งไปซะทีเดียว ผุ้หญิงยังไงก็คือผู้หญิงวันยังค่ำ ฮ่าๆๆ"(ท้าวจตุกรหัวเราะ ทำให้คนที่ชอบอาริงไม่พอใจ)
อาเวีย : " เอาเถอะๆ ท่านโยฮานก็รับหน้าที่หัวหน้ากลุ่มละดีแล้ว เพราะทุกคนไว้ใจท่านและเชื่อใจท่าน ส่วนพี่อาริงเค้าก้คงไม่เอาอยู่แล้วกับตำแหน่งนี้ เพราะพี่อาริงเค้าไม่ค่อบชอบหรอก"(อาเวียรีบตัดบทก่อนที่จะมีการทะเลากัน โดยให้โยฮานเป้นผู้นำไปเลย ซึ่งโยฮานก็จำใจรับทั้งๆที่ตัวโยฮานเอง อยากให้อาริงเป้นผู้นำ และเมื่อกำหนดผู้นำได้ ทุกคนก็เริ่มประชุมกัน) 2 ชั่วโมงผ่านไป ในห้องประชุมก็ประชุมวางแผนการรบกันต่อไป อยู่ๆก็มีพลทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องประชุม และตะโกนบอกคนในห้องประชุมว่ามีมอนสเตอร์ที่ไม่รู้จัก 1ตัว กำลังบินมาทางนี้ และคนที่อยู่ใกล้หน้าต่างก็เปิดหน้าต่างไปดูมอนสเตอร์ตัวนั้นกำลังลดระดับการบินและกำลังจะบินลงที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ แต่ทหารก็เล็กปืนขึ้นพร้อมยิง จนโยฮานตะโกนสั่งไม่ต้องยิง เพราะมอนสเตอร์ตัวนั้นคือ ราชินีป่าไม้ แม่ของโยฮานเอง โยฮานก็อดงงและสงสัยไม่ได้ว่าเหตใดแม่ของตนถึงออกมาจากป่าแกรนฟอเรสไกลถึงเพียงนี้ และโยฮานและทุกคนก็วิ่งลงไปที่หน้าป้อมเดธวิลเล่ย์ และราชินีป่าไม้ก็บินลงถึงพื้นพอดี ด้วยปีกผีเสื้ออันใหญ่ที่ติดที่หลังของราชินีผีเสื้อ ก็พัดเอาฝุ่นทรายคลุ้งไปหมด
โยฮาน : " แม่....ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าราชินีป่าไม้เพราะอยู่ในที่สถารณะชน จึงควรเรียกให้เกียรติกัน แล้วท่านออกมาไกลจากป่าแกรนฟอเรสทำไมกัน มีธุระสำคัญมาแจ้งหรือ "
ราชินีป่าไม้ : "พาคนมาส่งและคนๆนั้นจะมาแจ้งข่าวดีด้วย"(ราชินีป่าไม้พูด อาริงที่เกาะหลังราชินีป่าไม้มาก็กระโดดลงมาที่พื้น)
ลูฟเฟ่น/นาฟตี้/อาเวีย/ฟริกซ์/เรย์รันและวาเนสซ่า ทั้งหมดรีบวิ่งเข้ามากอดอาริงด้วยความคิดถึง นาฟตี้และวาเนสซ่าถึงกับน้ำตาไหลอีกเมื่อมองดูที่แขนซ้ายของอาริงที่ไม่มีแขนซ้าย แต่อาริงก็ปลอบว่าไม่ใช่ความผิดของใคร มันเป้นเรื่องธรรมดาที่สู้รบกันก็ต้องมีบาดเจ็บล้มตายกันบ้าง
ท้าวจตุกร : " จะทำซึ้งอะไรนักหน้า แค่คนๆเดียว"(จตุกรยืนกอดอกและพูดห้าวๆออกมา ทำให้พวกลูฟเฟ่นไม่พอใจ แต่อาริงก็ห้ามไว้)
โยฮาน : "แล้วที่ว่าข่าวดีคืออะไรเหรอ"
ราชินีป่าไม้ : " อาริงเค้าได้ปลดปล่อยเมืองเรดคลิฟเป้นอิสระแล้ว และได้ทำลายแท่นเสาสีดำที่เมืองเรดคลิฟไปแล้ว"(ราชินีป่าไม้พูดจบก็ดันอาริงให้เดินมาข้างหน้า)
โยฮาน : "จริงหรือ เจ้าทำได้ยังไง จากกันแค่ไม่กี่วันเอง"
อาริง : "ไม่ใช่ฝีมือฉันคนเดียวหรอก ฉันก็ได้เผ่าเอลฟ์ของท่านราชินีป่าไม้มาช่วย และยังไปขอร้องเพื่อเก่ากัปตันโจรสลัดแจ็ค ดี สปอยเรอร์ ให้เอาเรือโจรสลัดติดปืนใหญ่มาช่วยรบนะ แถมยังได้เหล่ากอบบลินที่โดนบังคับให้สู้ได้มาเป้นพวกอีกเยอะเลยรวมทั้งปืนใหญ่ของกอบบลินด้วย ส่วนแท่นเสาหินสีดำก็โดนทำลายโดยใช้หินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งนั้นใส่เข้าไปในแท่นเสาหินก็สามารถทำลายมันได้แล้ว"(อาริงเล่าจบ ทุกคนก็ไชโยโห่ร้องกันใหญ่)ท้าวจตุกร : "เป็นผู้หญิงบอบบางแบบนี้ แถมเป็นไอ้ด้วนแขนข้างเดียวและยังทำเป็นฮีโร่อีก อยากเป็นผู้นำกลุ่มมากนักหรือไง"
อาริง : "ตายักษ์แขนเยอะเค้าพูดถึงอะไรนะ ไม่เข้าใจ"(อาริงหันไปถามฟริกซ์ที่อยู่ใกล้ๆกับตน)
ฟริกซ์ : " อ๋อ...ประกี้กำลังประชุมและมีการเลือกผู้นำกลุ่มนะ ท่านโยฮานได้เป้นผู้นำกลุ่มอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ท่านโยฮานก็กลับเสนอชื่อพี่อาริงนะ เลยมีบางคนไม่พอใจ เพราะเค้าไม่รู้จักพี่อาริง)
อาริง : "อะนะ เข้าใจละเรื่องตำแหน่งพี่ไม่เอาอยู่แล้วละไม่ชอบ งั้นเอาแบบนี้ละกันไหนๆก็ไหนๆละ คนอื่นจะได้รู้จักฉันไปเลยละกัน"(อาริงยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย และเดินไปหาท้าวจตุกร)
ท้าวจตุกร : "มีอะไรยัยด้วน"(ท้าวจตุกรพูดทำหน้ายียวนกวนประสาท)
อาริง : "นี่ๆตายักษ์แขนเยอะ.. มาเล่นอะไรกันหน่อยไหม "(อาริงพูดและยิ้มให้กับท้าวจตุกร)
ท้าวจตุกร : " จะเล่นอะไรว่ามา ยัยด้วน"
อาริง : "มาประลองกันเล่นๆ ท่านใช้ดาบส่วนฉันก็ใช้ดาบเหมือนกัน ใครสามารถสร้างรอยแผลไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนเป้นผู้ชนะ เอาไหม"(อาริงพูดเสร็จก็ชักดาบเขี้ยวทมิฬออกมาถือในมือ)
ท้าวจตุกร : "โอ้...เจ้าแน่ใจหรือ เจ้าเหลือแขนขวาข้างเดียว ส่วนข้ามีถึง4แขน4ดาบเชียวนะ ฮ่าๆๆ"(ท้าวจตุกรหัวเราะและแขนทั้ง4ข้างก็ชักดาบขึ้นมาพร้อมๆกัน)
นาฟตี้ : "พี่อาริงจะไหวเหรอ แขนข้างเดียวจะต้านทานอีกฝ่ายที่ตัวใหญ่และมีถึง 4แขนได้ยังไง"(นาฟตี้และคนอื่นๆก็เป้นห่วง เพราะเห้นว่าอาริงไม่ได้ใช้ดาบใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว)
โยฮาน : "ไว้ใจอาริงเถอะ ฉันไม่รู้ว่าแต่ก่อนเธอเก่งแบบไหน แต่ที่รู้ๆตอนนี้อาริงเค้าเก่งมากๆ ลองรอดูละกันนะอาริงไม่มีทางแพ้แน่ๆ"(โยฮานพูดและหัวเราะเบาๆ ซึ่งทำให้พวกลูฟเฟ่นอดสงสัยไม่ได้ว่าอาริงจะชนะยังไง)
ท้าวจตุกร : "แน่ใจหรือยัยด้วน ถ้าข้าเผลอตัดแขนแกอีกข้างอย่างมาร้องไห้ฟูมฟามละ"
อาริง : "แต่ท่านเถอะ ถ้าแขน4ข้างหายไปก็อย่างมาคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายละ คิกๆๆ"(อาริงพูดและทำหน้ากวนโมโหท้าวจตุกรเล่น ซึ่งได้ผลท้าวจตุกรโมโหมากกว่าเดิม)
ท้าวจตุกร : "แขนด้วน แล้วยังปากดีอีก เอาเป็นว่าถ้าใครแพ้ก็ต้องยอมเป็นลูกน้องคนๆนั้นไปชั่วชีวิตหรือไม่ก็จนกว่าตายเอาไหม"
อาริง : "ไม่มีปัญหา"
ท้าวจตุกรไม่พูดพล่ามทำเพลง ท้าวจตุกรก็ลองของด้วยการใช้2แขนที่ถือดาบอยู่ฟันไปที่อาริงพร้อมๆกัน แต่ดาบทั้ง2เล่มของท้าวจตุกรก็กระเด้งกลับออกมาก่อนที่จะถึงตัวอาริงแต่มีเสียงดาบปะทะกัน ทั้งๆที่อาริงยืนถือดาบเฉยๆ ไม่ใช่แค่ท้าวจตุกรที่งง คนที่ดูรอบข้างก็งงไปตามๆกันเว้นแต่โยฮานเท่านั้นที่ไม่งง และท้าวจตุกรก็ลองฟันดูอีกรอบและผลก็เหมือนเดิม ทำให้ท้าวจตุกรโมโหมาก
ท้าวจตุกร : "แกเล่นตุกติกอะไรว่ะ แกโกงโดยใช้เวทย์มนต์คาถาอะไรสักอย่างช่วยหรือ ดาบข้าถึงฟันไม่ถึงตัวแกและกระเด้งกลับมาทั้งๆที่แกยืนเฉยๆ"(ท้าวจตุกรยกปลายดาบชี้มาที่อาริง)
อาริง : "ฉันไม่ได้ใช้เวทย์มนต์คาถาอะไรเลย ที่ดาบท่านเด้งกลับก็เพราะฉันฟันโดนดาบท่านไงละ และท่านเองก็น่าจะได้ยินเสียดาบกระทบกันไม่ใช่หรือ"(อาริงพูดและยิ้มๆ)
ท้าวจตุกร : "ก็ข้าและทุกคนก็เห็นว่าเจ้ายังไมได้ยกดาบฟันเลย"
อาริง : " อย่าใช้ตาดูสิ เพราะบางเรื่องตาอาจจะมองไม่เห้นก็ได้นะ"อาริงพูดจบท้าวจตุกรก็โมโหหนักเพราะเหมือนถูกสอน ท้าวจตุกรเลยใช้มือทั้ง4ข้าง ระดมฟันไปที่อาริงอย่างไว และจากนั้นก็เกิดเสียงดาบปะทะกันดังมากหลายสิบหล แต่ก็เหมือนเดิมที่ดาบของท้าวจตุกรก็ไปไม่ถึงอาริง และอาริงก็ยังคงยืนเฉย แต่มีแต่เสียงดาบปะทะกับดาบของท้าวจตุกรเท่านั้น
ลูฟเฟ่น : "พี่อาริงทำได้ยังไงเนี่ย อย่าบอกนะว่าพี่เค้าใช้ดาบเล่มเดียวรับดาบทั้งหมดของท้าวจตุกรอยู่"
โยฮาน : "ใช่แล้ว นั่งละวิถีดาบแห่งความเร็ว "ดาบความเร็วสูง" ที่แม้แต่ตาคนเราก็มองไม่ทัน"(โยฮานบอกข้อสงสัยนั้นให้กับพวกลูฟเฟ่นที่กำลังงงกันอยู่)
เวลาผ่านไปเกือบ 10นาที ทั้งอาริงและท้าวจตุกรก็ประลองกันอยู่ และอยู่ๆท้าวจตุกรก็เลิกฟันและเก็บดาบทั้ง4เล่มเข้าฟักไป
ท้าวจตุกร : "เอาเป้นว่าข้าแพ้เจ้าละกันยัยด้วน..ไม่สิ..ข้าแพ้เจ้าละกันอาริง เพราะขนาดข้ามี4แขนยังไม่สามารถทำอะไรเจ้าที่มีแขนเดียวได้เลย แสดงว่าเจ้าเก่งกว่าข้า"
อาริง : "เอาเป็นเสมอกันดีกว่า "(อาริงตอบและยิ้มให้)
และเมื่อทั้ง2ยอมรับในความสามารถกันละกัน และทุกคนก็ค่อยๆยอมรับอาริง ทั้งหมดเลยเข้าไปในป้อมเดธวิลเลย์เพื่อที่จะประชุมกันต่อ และหลังจากประชุมและวางแผนกันเสร็จแล้วโดยใช้เวลาเกือบ 3ชั่วโมง ในที่ประชุมสรุปว่าอีก 5วัน เวลา 8.00 ทุกกลุ่มจะบุกตามแต่ละเมืองดังนี้
กลุ่มของอาริงเผ่าเอลฟ์ โจรสลัดและเรือรบของเมทัลลิกาน่า และนักรบที่อยู่แถวๆเมืองเซาเทรินไซด์จะบุกยึดเมืองเซาเทริไซด์คืน
กลุ่มของลูฟเฟ่นและนักรบ 5กลุ่มที่ลูฟเฟ่นรู้จักและทหารที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ครึ่งหนึ่ง กับพวกกองทัพกอบบลินที่มีปืนใหญ่พร้อม ก็จะบุกที่เมืองวิลเดอวู้ด
กลุ่มของโยฮานและนักรบหมู่บ้านบางกระท่อมกับท้าวจตุกรและลูกน้องอสุรา อาเวียกับกองทัพป้อมเดธวิลเลย์อีกครึ่ง และเคออสติคจะพาพวกโทรล์และพวกผลึกไปรบด้วย ทั้งหมดจะไปบุกเมืองเซาเทรินฟอร์ทที่ด้านหน้าของเมือง และฝั่งทางออกของเมืองอีกด้านจะมีกลุ่มนักรบป้อมปราการตะวันออกและนักรบที่เมืองวิลโดเนียจะช่วยกันรบทางด้านนั้นซึ่งฟริกซ์และนาฟตี้ก็จะร่วมในกลุ่มนี้
และการบุกครั้งนี้จะเป้นการทุ่มกำลังรบครั้งสุดท้าย และจะโจมตีพร้อมๆกันทั้ง 3เมือง เพื่อไม่ให้มอนสเตอร์จากที่ไหนมาช่วยกันได้ และไม่ให้พวกหัวหน้าของกลุ่มชั่วร้ายช่วยเหลือเมืองที่จะโจมตีพร้อมๆกันได้ทั้งหมด..............