._Prince_.
Newbie
กระทู้: 36
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #30 เมื่อ: 15-07-2010, 11:46:22 » |
|
ขุดๆๆๆๆ
|
|
|
|
GøøGle-KunG
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #31 เมื่อ: 15-07-2010, 13:14:39 » |
|
ยังมีต่อเรอะ รอดู= = ถือว่าเยี่ยมกว่าชั้นตอนเป็นเด็กใหม่=3=
ต้องมีชั้นคอยจ้ำจี้จ้ำไชสอนแกพร่ำไปใช่มั้ย [/quote]ใช่ ต้องขอบคุณแกนะ ไม่งั้นชั้นก็ไม่ได้มาแต่งนี้ยายในบอร์ดนี้ ขอบใจนะ..... [/quote] จ้า ลูกศิษย์สุดที่เลิฟของชั้น=w=
|
บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
|
|
|
GøøGle-KunG
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #32 เมื่อ: 15-07-2010, 13:15:31 » |
|
(แ้ก้)ยังมีต่อเรอะ รอดู= = ถือว่าเยี่ยมกว่าชั้นตอนเป็นเด็กใหม่=3=
ต้องมีชั้นคอยจ้ำจี้จ้ำไชสอนแกพร่ำไปใช่มั้ย ใช่ ต้องขอบคุณแกนะ ไม่งั้นชั้นก็ไม่ได้มาแต่งนี้ยายในบอร์ดนี้ ขอบใจนะ..... [/quote] จ้า ลูกศิษย์สุดที่เลิฟของชั้น=w=
|
บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #33 เมื่อ: 15-07-2010, 23:03:49 » |
|
บทที่ 4 ภารกิจแรกช่วยนักโทษแหกคุก!!!!!!!!!(ฉบับสมบูรณ์)
เหนือท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วทั้งอาณาจักรเอโครเนีย เรือเหาะขนาดเล็กลำนึงมีตราสัญลักษณ์ด้านหน้าเป็นรูปก้อนเมฆ ลอยเอื่อยเฉื่อยอยู่กลางอากาศ และภายในเรือก็มีเสียงดังโครมครามดังขึ้นมาเป็นระยะๆ
เคร้ง~! "เฮ้ย และน้ำอัดลมฉันหละ"ชายหนุ่มรูปร่างแข็งแรงมีเส้นผมสีแดงฉานตะโกนโหวกเหวก พร้อมกับเสียงกรอบรูปตกแตก
"หมดแล้ว~"เอลฟ์ที่นั่งกอดอกอยู่ที่โต๊ะมองดูภาพก้อนเมฆ กล่าวขึ้นมาอย่างเนือยๆ
"หมดได้ไง หึ คาซึมะ นายกินหมดแล้วหรอ"ชายผู้นั่นยังโวยวายต่อ
"มันหมดตั้งแต่เราทำภารกิจที่แล้ว แล้ว นายเป็นคนกินหมดจำไม่ได้หรือไง"แล้วผู้หญิงอีกคนนึงใส่ชุดสีขาวล้วนผมยาวสลวยก็เดินออกมาค้นดูของในลิ้นชักพลางติ ชายร่างสูง
"ง่า.. หมดแล้วหรอ ไม่กินก็ได้ฟะ"ชายผู้นั้นกล่าวอย่างหัวเสียและมานั่งดูทีวีที่เปิดข้างไว้ต่อ
...เฮ้อ~ โวยวายไม่หยุดเลยพับผ่าสิ ...ซายะนั่งอยู่ดาดฟ้าเรือมองเหตการณ์นั้นอย่างห่างๆ เขาส่ายหัวเล็กน้อยอย่างเอือมระอา และเปลี่ยนไปดูอีกเหตการณ์ มีผู้หญิงคนนึงไว้ผมแกละสองข้างกำลังง่วนกับงานที่วางอยู่บนโต๊ะ โดยในห้องนั้นมีไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดาร์กเอลฟ์หรือเอลฟ์ดีเพราะเขามีลักษณะเหมือนเอลฟ์แต่ เส้นผม และ สีนัยตาเหมือนดาร์กเอลฟ์ นอนหมอบอยู่โต๊ะข้างๆ
"พี่ไวมิลคะ ตื่นซิ มาช่วยกันทำงานสิคะ งานพี่ทั้งนั่นเลยนะ!"หญิงสาวไว้ผมแกละเอ่ยเสียงหวานและหยิบกองเอกสารชุดใหญ่ประเคนโขกหัวชายที่โกงแรงงานชาวบ้าน
"หืม~ ดาเนีย ช่วยๆพี่ทำหน่อยสิพี่ไม่อยากทำอะ"ไวมิลงัวเงียตื่นขึ้น พลางลูบหัวปอยๆมองกองเอกสารตรงหน้าอย่างกับว่ามันเป็น ตัวเชื้อโรคขั้นอันตรายสูงสุด
"ไม่ได้คะ พี่อู้เกินไปแล้วนะ หนูก็ตามใจพี่หลายรอบแล้วด้วยพี่ไวมิลก็ช่วยๆกันทำเถอะใกล้ถึงแล้วนะ"ดาเนียกล่าวแถมยังมะเหงกให้ผู้เป็นพี่อีกทีนึง
"ง่า... นี่เธอเป็นน้องหรือแม่เนี่ย พี่ทำก็ได้"คนมีศักดิ์เป็นพี่บ่นอุบอิบแต่ก็ยังหวาดกับมะเหงกทรงพลังของน้องสาวก็ต้องจำใจทำงานเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า
...คู่นี้ก็ไม่ไหว..ซายะส่ายหัวอีกรอบกับการกระทำกลัวน้องสาวต่างสายเลือดของไวมิล
อี๊ดดด ทันใดนั้นเรือเหาะของพวกเขาก็หยุดกลางคัน และค่อยๆลอยต่ำลงทุกทีๆ
"จะถึงแล้วหรอ ภารกิจแรกของพวกเรา"ซาซาริที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เขามองลงไปเบื้องล่างเห็นเมืองเป็นขนาดเล็กเท่าหยิบมือ
เมื่อเรือเหาะลงจอดจนถึงพื้นเด็กทั้งสองกระโดดลงจากดาดฟ้าเรืออย่างรวดเร็วและรอเหล่ารุ่นพี่ที่มาช่วยภารกิจต้อนรับสมาชิกครั้งนี้ เหล่ารุ่นพี่ๆก็ค่อยๆทยอยลงทีละคน สีหน้าของแต่ละคนดูเบื่อหน่ายราวกับว่าภารกิจนี้เป็นเรื่องง่าย
...ทำหน้าอย่างกับไปเล่นเป่ากบ นี้ต้องช่วยนักโทษแหกคุกนะ ไม่กลัวกันบ้างรึไง...ซายะคิดในใจตัวเขาตอนนี้กำลังหวาดผวามาก เพราะการแหกคุกครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดา แต่เป็นการแหกคุกชื่อดัง ของชนเผ่าออร์ค! ที่นี้เคยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการที่นักโทษแหกคุก ว่าไม่มีนักโทษคนไหนสามารถแหกคุกนี้ได้แม้ว่าจะมีจ้าวจตุรเทพมาช่วยกันแหกก็ตาม
"เอาหละๆ ง่ายๆเลยนะฟังฉันด้วย"ดาเนียผู้เป็นเสนาธิการของทีมกล่าวทุกคนเดินไปล้อมวงฟังแผนการการแหกคุกครั้งนี้
"คนที่เราจะต้องช่วยคือ สเวน เป็นนักรบที่ขึ้นชื่อมาก ตอนนี้เขาถูกจับขังชั้นสามของคุก แผนการง่ายๆ และไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ หน่วยบุกทะลวง โอกิโตะ คาซึมะ พวกนายลุยเข้าไปที่ให้ถึงชั้นสามแล้วทำลายระบบ ป้องกันภัยซะ พร้อมกับซายะและซาซาริด้วย"ดาเนียชี้มาที่พวกเขาทั้งสอง
"เอมีน ซึกิโกะ พวกเธอคอยบอก ทางให้กับพวกโอกิโตะ"ซึกิโกะและเอมีนพยักหน้าเล็กน้อยบ่งบอกว่าเข้าใจ
"ส่วนฉันกับพี่ไวมิลจะลอบเข้าไปทางลับ แล้วจะช่วยสเวนออกมา ให้พวกนาย รีบมาหาพวกฉันทันทีแล้วเราก็จะออกทางลับ
"ฉันมีคำถาม"โอกิโตะยกมือขึ้น "แล้วทำไมไม่ลุยรวดเดียวไปเลย ไม่ก็แอบเข้าทางประตูลับแล้วช่วยสเวนออกมาเลยแค่นี้ก็จบ"โอกิโตะออกความเห้นเด็กทั้งสองพยักหน้าเห้นด้วย
"ไม่ได้หรอกถ้าเกิดเราลุยไปเลย เราอาจจะรับมือยามทั้งหมดไม่ไหว หรือถ้าไปเส้นทางลับเราก็ยังจะต้องเจอยามทั้งหมดอยู่ดีเพราะระบบป้องกันของที่นี่ไม่ใช่เด็กๆ ดังนั้นถ้าเกิดเรามาพร้อมๆกันสองทางแล้ว ย่อมดีกว่าแล้วถ้าเกิดระบบป้องกันภัยเสียหายการดำเนินงานก็ง่ายสบายๆ อีกอย่างถึงพวกเราจะบุกไปก็สบายๆอยู่แล้ว แต่ทว่าครั้งนี้ดรงรเียนกำหนดแผนมาให้เอง"ดาเนียอธิบายพลางยักไหล่ และจัดแจงวางแผนต่อ
"Ok นะทุกคนคงพร้อมแล้ว ปฎิบัติตามแผนได้"ดาเนียหยิบปืนพกสองกระบอกจากเอวออกมาแล้ววิ่งไปอีกด้านของประตูทางเข้าพร้อมกับไวมิล ส่วนพวกเขาก็ไปทางเข้า มียามเผ่าออร์คสองตนเฝ้าอยู่
"นี่พวกเจ้าจะไปไหนกัน"ออร์คตนหนึ่งกล่าวอย่างเสียงดังราวฟ้าผ่า
"ออ.. เราจะมาเยี่ยมญาตินะพี่ชาย"โอกิโตะกล่าวยิ้มๆ
"พวกเจ้าไม่รู้หรือไงว่าที่นี่เขาห้ามเยี่ยม"ออร์คตนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังและมองพวกเขาทั้งสี่
"หรอครับ งั้นพี่ชายก็เยี่ยมเพื่อนที่ไลฟ์สตรีมก่อนก็แล้วกัน"โอกิโตะหยิบทวนยาวจากกลางหลังแทงใส่กลางอกของออร์คเฝ้ายาม
"หา~ พวกเจ้าข้าต้องรีบรายงาน"ออร์คอีกตนกดที่วิทยุสื่อสารข้างตัวแต่ไม่ทันที่จะได้พูดซักแอะก็โดนทวนพิฆาตฟันร่างขาดสองท่อน แล้วร่างของทั้งสองก้ค่อยๆสลายไปเป็นผงฝุ่น
"ไปต่อกันเถอะ"โอกิโตะถีบประตูเหล็กด้านหน้าพังครืนลงมา ตามมาด้วยเสียงเตือนดังลั่น ยามที่เฝ้าอยู่ใกล้ๆก็กรูกันเข้ามาถืออาวุธกันครบมือ
"พวกเด็ก ถอยไปแปป"โอกิโตะสบัดทวนไปมาและพุ่งเข้าโจมตีออร์คที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วเบี่ยงตัวหลบอาวุธจากออร์คอีกตนอย่างสวยงาม
เหล่าฝูงออร์ควิ่งเฮโลกันมาเรื่อยๆ แต่ก็ถูกทวนปัดกระเดนไปไกล แต่แล้วออร์คกลุ่มนึงหันมาทางเด็กทั้งสอง เงื้อตะบองจะทุบเด็กๆให้ตายแต่
เคร้ง~ ยังไม่ทันที่ตะบองจะถึงตัวพวกเขา ดาบสีเงินวาวโรจน์ก็ปัดกระบองไปอีกด้านและแทงเข้ากลางหัวใจของออร์คเจ้าของกระบอง คาซึมะหันมามองทั้งคู่เล็กน้อยและเข้าโรมรันพวกออร์คต่อ ออร์คตนนึงถูกฟันจนหัวหลุดกระเด็นเลือดไหลพรุ่งกระฉูด ไปใส่ตาของพ้องเพื่อน ทำให้ออร์คตัวที่เหลือ เกิดอาการกระหายเลือดขึ้นมาสัญชาตญาณดิบวิ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ฝูงออร์คกรูกันเข้ามาเรื่อยๆ เหมือนกับว่าจะไม่มีวันหมด โอกิโตะ และคาซึมะเริ่มเกิดอาการเมื้อยล้า เพราะต้องรับมือกับออร์คฝูงนึงนานถึง 2 ชั่วโมง
"ทำไมพวกไวมิลยังไม่ถึงอีกเรอะ"โอกิโตะตะโกนใส่วิทยุสื่อสารแล้วหันมาตวัดทวนใส่ออร์คที่กำลังจะเข้ามาทำร้าย
"ตอนนี้พวกนั้นถึงเป้าหมายแล้ว กำลังรอให้พวกนายไปทำลายระบบป้องกันอยู่"เสียงเอมีนผ่านทางวิทยุกล่าวออกมา
"งั้นก็ดี รอตั้งนาน"โอกิโตะยิ้มร่าแล้วชูทวนขึ้นฟ้าพลันเกิดมีเปลวไฟพันรอบทวน แล้วโอกิโตะก็ชี้ทวนไปด้านหน้า
"เพลิงอัคคี ทลายภูผา!"เปลวไฟรอบทวนเคลื่อนที่พุ่งไปข้างหน้าไฟค่อยๆขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ แผดเผาเหล่าออร์คที่อยู่ด้านหน้า เป้นวงกว้าง เปิดทางให้ทั้งสี่วิ่งไปยังชั้นสองต่อ
"ข้าไม่ให้พวกเจ้าไปหรอก"ออร์คที่อยู่ด้านหลังคำรามออกมาและวิ่งไล่กวดพวกเขา
"ฟ้านภา จงสถิตอยู่ที่ข้า ศรสายฟ้า"ซาซาริยิงศรสายฟ้าไปช็อตกับออร์คด้านหลัง ช็อตกันเป็นลูกโซ่ จนทำให้สายฟ้ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าออร์คต้องจบชีพลงไป
|
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #34 เมื่อ: 15-07-2010, 23:04:37 » |
|
อาจจะสั้นไปนิดเนื่องจากไปเล่งคนแต่ง มันเลยขว้างสมุดไส่
|
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #35 เมื่อ: 18-07-2010, 21:43:28 » |
|
ขุดนิดหน่อย
|
|
|
|
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #36 เมื่อ: 19-07-2010, 07:55:00 » |
|
สนุกโอ้วมีบู๊ด้วย
|
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #37 เมื่อ: 22-07-2010, 11:40:52 » |
|
ขุด ๆ
|
|
|
|
KIRA prince { $aKi☈a Ψaoi ™
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #38 เมื่อ: 29-07-2010, 18:42:48 » |
|
(แ้ก้)ยังมีต่อเรอะ รอดู= = ถือว่าเยี่ยมกว่าชั้นตอนเป็นเด็กใหม่=3=
ต้องมีชั้นคอยจ้ำจี้จ้ำไชสอนแกพร่ำไปใช่มั้ย ใช่ ต้องขอบคุณแกนะ ไม่งั้นชั้นก็ไม่ได้มาแต่งนี้ยายในบอร์ดนี้ ขอบใจนะ..... จ้า ลูกศิษย์สุดที่เลิฟของชั้น=w= [/quote] โอ้ววว ศิษย์พี่เกิ้ล!!~
|
ถึงใครจะมองยังไง แต่ฉันเองไม่แคร์เท่าไหร่ แล้วเธอจะกลัวอะไรเมื่อหัวใจเป็นของเธอ
|
|
|
กษิดิ์พิชญ์ วีระกุล
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #39 เมื่อ: 01-08-2010, 15:28:19 » |
|
ตู้ม บุปผาสวรรค์
|
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #40 เมื่อ: 05-08-2010, 21:03:45 » |
|
บทที่ 5 ภารกิจช่วยนักโทษแหกคุก 2 !!!!!!!!!!!
ณ คุกคอเซอร์ คุกที่ขึ้นชื่อที่สุดในดินแดนออร์ค บัดนี้มีเสียงสัญญาณดังโหวกเหวกเหล่าทหารออร์คแบกอาวุธโยธาปกรณ์มากมาย วิ่งกรูกันไปที่จุดเกิดเหตุ บุรุษในห้องขังผู้หนึ่งมองเหล่าผู้คุมอย่างฉงน เขาลูบเคราตนเองเบาๆ มองดูพวกนั้นวิ่งผ่านห้องขังของเขาจนหมด แล้วทันใดนั้น
"คุณสเวนใช่ไหมค่ะ?"เขาหันหลังไปดูต้นเสียง หญิงสาวอายุราวๆ 18 - 19 ปีใส่ชุดสีดำทมิฬ และดาร์คเอลฟ์ที่มีผิวสีขาว ไม่เหมือนดาร์คเอลฟ์ที่ผิวคล้ำ ที่หน้าแปลกที่สุดก็คือพวกเขามาที่นี้ได้ยังไง นี้คือคุกคอร์เซอร์ที่เลื่องชื่อที่สุดในชนเผ่าออร์คและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกนะ แต่พวกคนมาใหม่ยิ้มและถามเขาอีกรอบ
"ประทานโทษนะคะ คุณใช่คุณสเวน ใช่ไหมค่ะ"เธอคนนั้นถามเขาอีกรอบ หลังจากที่หายอึ่งไปซักพัก
"ครับ ..เอ่อ พวกคุณเป็นใครกันเข้ามาที่นี้ได้ยังไง แล้วมาหาผมทำไม"สเวนถามรัวเป็นชุด ทั้งสองมองหน้ากันแล้วดาร์คเอลฟ์ตนนั้นก็ตอบอย่างเป็นมิตร
"พวกเรามาจาก ฟรอนเทเชียครับ เรามีภารกิจที่จะต้องพาคุณออกไปจากที่นี่ และต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ"
"ฟรอนเทเชีย?"
"ครับ เดี๋ยวค่อยอธิบายที่หลัง"ดาร์คเอลฟ์หนุ่มหยิบมีดขนาดเล็กมาหนึ่งเล่มแล้วค่อยๆ หักเหแสงเลเซอร์ไปทับซ้อนกัน แสงเลเซอร์ ทับซ้อนกันเกิดปฎิกริยาทำให้เกิดการรวนของกระแสไฟฟ้า แล้วกำแพงเลเซอร์ก็หายไป ที่หน้าแปลกคือทำไมมีดใบเล็กนั่นถึงสามารถสะท้อนหักเหแสงเลเซอร์นั่นได้ สร้างความประหลาดใจให้สเวนเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้น
"หวี~ หวอ~ "เสียงเตือนภัยดังลั่นห้องขังเหล่าผู้คุมที่ยังเหลือวิ่งมาดูเหตการณ์ ระดมยิงกระสุนอย่างไม่มียั้ง ทั้งสามกระโดหลบไปยังตู้คอนเทเนอร์ที่อยู่ใกล้ๆ พวกออร์คระดมยิงห่ากระสุนใส่ทั้งสามอย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้ความหวังก็มีแค่ตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่รู้จะรับแรงกระสุนได้มากเท่าไหร่
"เอาไงหละทีนี้ หนูบอกพี่แล้วนะว่าอย่าเพิ่งเริ่มลงมือ เป็นเรื่องเลยเห็นไหม"หญิงสาวผมแกละ แว้ดใส่พีชายผู้ไม่เจียมตัวชุดใหญ่ทำให้ไอเจ้าพี่ชายตัวดีต้องขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
"แหะๆ พี่ขอโทษ ดาเนีย ช่วยๆพี่หน่อยนะนะ เธอฉลาดกว่าพี่เยอะนะช่วยหน่อยนะ"ผู้เป็นพี่ยิ้มแห้งๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนสุดๆ ใส่น้องสาวสุดรักของตนและดูท่ามันจะได้ผลอย่างชะงัก
"ทำไมหนูต้องทำให้พี่ด้วยหละ"ดาเนีสะบัดหน้าหนี
"ก็ลำพังไอพวกนี้ แปปเดียวก็กลับไปหาไลฟ์สตรีมหมดแล้ว แต่ทว่ามันต้องมีอย่างอื่นอีกแน่อะ แถมเรายังห้ามใช้เวทย์มนต์กับ พลังวิญญาณอีกอะ นะ นะ"ไวมิลยังอ้อนต่อ
"ก็ได้ แต่พี่ห้ามทำนอกแผนอีกนะ "ดาเนียกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดแล้วเริ่ม สารธยายแผนสดให้ผู้เป็นพี่ที่ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบฟัง แต่ทันใดนั้น
ปัง! หัวกระสุนเหล็กกล้าทะลุตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นเกราะกำบังสุดท้ายของพวกเขา เฉียดหัวของสเวนอย่างหวุดหวิด
"พี่ไวมิล จัดการเลย"ไวมิลพยักหน้าเชิงเข้าใจแล้วกระโดออกจากที่กำบังหลบห่าลูกกระสุน ที่ซัดมาอย่างคล่องแคล่ว เขาปีนขึ้นไปยังห้องขังอีกห้องนึง อย่างรวดเร็วพร้อมปามีดสั้นสวนกลับได้อย่างสวยงาม และในระหว่างนั้นดาเนียก็กำลังง่วนกับการประดิษฐ์อะไรบางอย่างภายในกระเป๋าใบเล็กใบนั้น กลับมีของอิรุงตุงนังมากมายไปหมด ทั้ง มีดสั้น ขวดยาพิษ แผนที่ ดินปืน กระสุนปืนแมกกาซีน ฯลฯ
"เฮ้ย!ๆ อย่ามาทางนี้ซิโว้ย เดี๋ยวพวกข้าโดนลูกหลงหมด"คนในห้องขังที่ไวมิลไปยืนอยู่ด้านบน ตะโกนแหกปาก พร้อมหลบลูกกระสุนอย่างเป็นระวิง
"โทษทีนะ พี่ชาย ลงไปหละนะ"ไวมิลกระโดดลงไปจากบนห้องขัง เหยียบหัวออร์คออร์คที่ออกันอยู่ด้านหน้าแล้วลงใช้มีดสั้นเสียบต้นคอออร์คผู้เคราะห์ร้ายตายอนาถ เหล่าออร์คที่เหลือ ต่างตกใจยิงกระสุนรัวใส่อย่างไม่มีทิศไม่มีทาง เจ้าไวมิลตัวดีก็หลบวิธีกระสุนได้ราวเห็นภาพหยุด แล้วไอกระสุนเจ้ากรรมก็ชอบที่จะไปยิงโดนเพื่อนตัวเอง นักหนา
"กรรรร ไม่ต้องใช้ปืนมันแล้ว ใช้อาวุธระยะใกล้ฆ่ามันเลย!"ออร์คตนหนึ่งพูดออกมาเสียงดัง เขาขว้างปืนกระบอกนั้นทิ้งไปแล้วชักดาบขนาดใหญ่เท่าเลื่อยออกมาไล่ฟันไวมิลที่กระโดดเป็นลิงอย่างไม่ลดละ ออร์คตนอื่นเมื่อได้เห็นดังนั้นแล้วก็ทิ้งปืนแล้วชักอาวุธมาไล่ฆ่าไวมิลตามกัน
"พวกพี่ใช้ใกล้ ผมใช้ไกลละกัน"ไวมิลถีบออร์คด้านหน้ากระโดถอยหลังไปไกลแล้วคว้ากีตาร์ที่สะพายหลังมาตลอดออกมา
"คุณสเวนรีบอุดหูเร็วค่ะ"ดาเนียเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบอุดหูตนเองอย่างทันควัน สเวนเมื่อได้ยินดังนั้นก็อุดหูตามอย่าง งงงง หรือว่าไวมิลเล่นกีตาร์ได้ห่วยมาก?
"บทเพลงล่าวิญญาณ (Hunt SoulSong)" พลันเสียงกีตาร์เริ่มขึ้น เหล่าออร์คทั้งหลายรวมทั้ง นักโทษที่เหลือต่างโอดควรญ อย่างทรมาน เหมือนกับว่าร่างกายจะฉีกขาดออกเป็นสองท่อน แต่ว่าร่างกายกลับยังคงเป็นปกติ ออร์คบางตนเอามืออุดหูเอาไว้แต่ทว่าเหมือนได้ยินเสียงเพลงนั้นดังอยู่ในโสตประสาทหลอกหลอนเหล่าออร์คให้บ้าคลั่ง และค่อยๆตายลงอย่างช้าๆ บทเพลงอันแสนไพเราะเล่นไปเรื่อยๆ ผู้เล่นเป็ชายใส่ชุดสีดำเหมือนกำลังไว้อาลัย เหมือนกับว่านี้กำลังจัดงานศพก็ไม่ปาน
เมื่อเสียงเพลงจบลงสเวนเอามือออกมองดูศพที่กองระเนระนาดแล้วมองไปที่ไวมิลที่กำลังปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างไม่ยีหระ
...ป..ปิศาจชัดๆ...
"ดาเนียเธอเตรียมการเสร็จรึยัง"อยู่ๆไวมิลก็กล่าวขึ้นมา "เสร็จแล้วค่ะ ทำไม หร....อ"ดาเนียเดินออกจากหลังตู้คอนเทนเนอร์เพื่อมาดูเหตการณ์และปรากฎว่า
ออร์คใส่ชุดที่ทำจากหนังสัตว์ทั้งตัวร่างกายซูบผอมไม่เหมือนออร์คตนอื่นถือคทารูปร่างแปลกๆ ยืนล้อมวงทั้งสามกันเป็นสิบๆตน สเวนเดินออกมาดูเหตุการณ์บ้างก็อุทานออกมาว่า
"อ...ออร์คชาแมน"ออร์คชาแมนคือออร์คที่สามารถใช้เวทย์มนต์ระดับสูงได้ ตามวรรณะของออร์คแล้ว ออร์คชาแมนเป็นออร์คที่เก่งกาจเป็นอันดับสามของชนเผ่าออร์คเลยก็ว่าได้ แล้วนี่ออร์คชาแมนมายืนต่อหน้าพวกเขาเป็นสิบๆตน
"อีกนิดเดียวจะถึงเป้าหมายแล้ว"คาซึมะกวัดแกว่งดาบด้วยความรวดเร็วพลางหลบหลีกคบอาวุธและห่ากระสุนที่ระดมโจมตีมา
"ไอพวกเลือดซบเอ๊ย(Blood แปลว่า เลือด อ่านว่า บลัดซบนะครับ)มาไม่หยุดเลยพับผ่าซิ"โอกิโตะก็กำลังยุ่งพลันวัลไม่แพ้กันตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลแล้วปล่อยอารมณ์กับออร์คตัวข้างหน้าแหลกเป็นชิ้นๆ
"ฟ้านภา จงสถิตอยู่ที่ข้า ศรสายฟ้า"ลำศรสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตีออร์คตรงหน้าเป็นรอบที่ สามสิบกว่าๆ แต่ทว่า เหล่าออร์คก็ยังคงกรูกันเข้ามาอย่างไม่เคยตายมากขึ้นกว่าเดิม
"ซาซาริ แกไม่มีเวทย์แรงๆกว่านี้อีกหรอ ใช้เป็นอยู่แค่เวทย์เดียวรึไง" คำพูดของโอกิโตะทำให้ซาซาริชะงักกึก จะหันไปแย้งก็คงไม่ได้ก็เขาใช้เวทย์เป็นอยู่แค่บทเดียวอย่างที่โอกิโตะว่าจริงๆนั่นแหละ
"ซายะ ร่ายมนต์เสร็จรึยัง"ซาซาริหันไปดูเพื่อนข้างๆที่กำลังเปิดหนังสือตำราอัญเชิญปิศาจอยู่ ตอนนี้ทุกคนต้องยื้อเอาไว้ให้ได้นานที่สุด เพื่อที่จะได้ให้ซายะเรียกสัตว์อสูรขึ้นมา
"ข้าแต่เทพเทวี อสูร ด้วยพลังศาสตราอสูรจง ดลบรรดาลพลังให้แก่ข้า ได้โปรดมอบ ผู้รับใช้ผู้ซื่อสัตว์ของท่านให้แก่ข้า ไซคล็อป(Cyclop)"พลันเมื่อร่ายเวทยืจนจบบทแสงสีทองก็เรืองรองขึ้นมาจากพื้นดิน ปรากฏเป็นมือยักษ์ค่อยๆปืนขึ้นมาจากแสงสีทองนั่น ยักษ์ไซคล็อปค่อยๆปรากฎกลายออกมา มันคำรามเสียงดังกึกก้อง ชวนหน้าผวา ตาดวงเดียวของมันมองเหล่าออร์คที่ตอนนี้ตื่นตระหนกเป็นยิ่งนัก พวกออร์คทั้งหลายต่างถอยกรูกันไปคนละทิศคนละทาง ด้วยขนาดที่ว่าออร์คใหญ่แล้วมาเทียบกับไซคล็อปทีก็เหมือนว่าออร์คเป็นเพียงแค่หมาสีเขียวเท่านั่น
"ไซคล็อป จงจัดการผู้เป็นศัตรูกับเราทั้งหมด"ซายะชี้ไปที่เหล่าออร์คที่พยายามถอยห่าง ยักษ์ไซคล็อปพยักหน้าเชิงเข้าใจ แล้วควงตะบองยักษ์ขนาดเท่าเสาใหญ่ๆ วิ่งเข้าไล่ทุบ พวกออร์คหน้าเขียวตายกันระเนระนาด
"ดีมาก ไปที่ห้องควบคุมเร็ว"คาซึมะเก็บดาบซามูไรของตนแล้วรีบวิ่งไปยังทางที่มีห้องควบคุมอยู่
"ประตูล็อค"
"งั้นหรอ ไซคล็อป"ซายะเรียกเจ้ายักษ์ตาเดียวที่กำลังไล่กวาดพวกออร์คอย่างเมามัน
"พังประตูที"ซายะชี้ไปที่ประตูบานใหญ่ที่ปิดล็อคอยู่ เหล่าออร์คเมื่อเห็นได้ดังนั้นก็รีบเข้าไปขัดขวางยักษ์ไซคล็อปอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ออร์คกับไซคล็อปจะไปเทียบกันได้ยังไง เพียงแค่ไซคล็อปใช้มืออันใหญ่นั่นปัดเพียงทีเดียวออร์คทั้งหลายก็ได้ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าในไลฟ์สตรีมแล้ว และเมื่อไซคล็อปเดินมาถึงแล้วก็เหวี่ยงตะบองยักษ์สุดแรง
ตูม! ตะบองเหล็กยักษ์ ปะทะเข้ากับประตูอย่างจัง แต่ก็เกิดสิ่งไม่น่าเชื่อขึ้น เมื่อตะบองเหล็กของไซคล็อปหักออกเป็นเสี่ยงๆ
ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง ประตูที่ดูเหมือนว่าทำจากเหลฦกธรรมดากลับรับแรงของไซคล็อปที่มีมหาศาลได้ โดยมีเพียงแค่รอยแมวข่วน
ไซคล็อปเมื่อเห็นว่าประตูไม่ยอมพังก็เกิดอารมณ์เสียทุบ เตะ ต่อย ประตูอย่างรุนแรง จนเกิดอาการคลั่งพังประตูโดยไม่ฟังคำสั่งใครแล้ว ประตูก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีรอยบุบเพิ่มมากขึ้นแล้ว
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! กำปั้นหนักต่อยเข้าที่ประตูเหล็ก อย่างรุนแรงจนในที่สุด ประตูเจ้ากรรมก็ค่อยๆพังลงมา พร้อมกับไซคล็อป ที่สลายหายไปเนื่องจากเกิดภาวะคลั่งจนทำให้สติเลื่อนลอย และตายในที่สุด
"ประตูบ้าอะไรวะเนี่ยถึงกับทำให้ไซคล็อปนักรบตาย"โอกิโตะมองอย่าอึ่งๆกับเศษซากประตูที่สามารถทำให้ไซคล็อปคลั่งจนตาย
"ยังไงเราก็ทำตามแผนได้แล้ว ที่เหลือก็แค่พังแผนควบคุมแล้วก็ออกจากที่นี่กัน"
แต่ทว่า เสียงฝีเท้าหนักค่อยๆเดินไล่หลังพวกเขามา
และเจ้าของเสียงฝีเท้านั่นก็คือ สัตว์ประหลาดร่างยักษ์ที่ขนาดใหญ่กว่าไซคล็อปของซายะซะอีก ขาทั้งสี่และปีกสยายสีดำเข้มของมันมีลักษณะคล้ายมังกรตัวใหญ่อย่างมาก มือหนึ่งถือดาบขนาดใหญ่ อีกมือถือลูกแก้วเวทย์มนต์สีดำสนิท มันแยกเขี้ยววาววับใส่ทั้งสี่ เหมือนแยกเขี้ยวใส่อาหารจานโต
"ซวยสะแล้ว ดันมาเจอพิทลอร์ด(PitLord)ซะได้"
"โฮกกก พวกเจ้าคงพร้อมมาเป็นอาหารมื้อเด็ดของข้าแล้วใช่ไหม"นั่นดันพูดได้ด้วย
ซากศพออร์คชาแมนตายเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณนั่น สเวนมองดูกองปติมากรรมอย่างเหลือเชื่อ ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจาก สองคนตรงหน้า แม้แต่เขาที่เรียกได้ว่าเป็นยอดนักรบยังไม่สามารถสู้กับออร์คชาแมนได้เลย แต่ว่าสองคนนี้กลับฆ่าออร์คชาแมนเป็นสิบๆตัวลงอย่างง่ายดาย โดยไม่ใช่เวทย์มนต์หรือพลังวิญญาณ!
"ซึกิโกะ พวกนั่นทำไมช้าจัง"ไวมิลพูดกับวิทยุสื่อสารที่พกไว้ข้างลำตัว
'ขอเวลาแปปนะ'เสียงหวานใสดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร
'ไวมิล เกิดเรี่องแล้วหละ'ซึกิโกะตอบด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี
'รู้สึกว่าด้านนั่นจะเจอกับพิทลอร์ดนะ'
"พิทลอร์ดเนี่ยนะ! มันมาจากได้ไงกัน พิทลอร์ดอาศัยอยู่แค่ที่หุบเหววินาศ ทวีปเดมาร็อค(Demarock) ไม่ใช่หรอ"ดาเนียอุทาน เมื่อได้ยินชื่อของเจ้าสัตว์ประหลาด แสนโหดที่ถือเป็นสัตว์อสูรขั้นร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆของโลกเลย แล้วทำไมมาอยู่ที่นี่ได้
'ฉันไม่รู้ แต่ตอนนี้พวกนั้นแย่มาก จะเอาไงดี'เอมีนพูดแทรกขึ้นมาอย่างร้อนรน ในทีมไร้ฟ้า ผู้ที่สามารถโค่นพิทลอร์ดได้ ก็มีแค่ไวมิลคนเดียวเท่านั่น แล้วพวกนั่นใช้ เวทย์มนต์กับพลังวิญญาณไม่ได้ด้วย
"สั่งให้หนีออกมาให้เร็วที่สุดตอนนี้เราได้เป้าหมายมาแล้วไม่มีความจำเป็นต้องทำลายระบบแล้ว เดี๋ยวพวกฉันจะพาคุณสเวนออกไปให้เอง"ดาเนียออกคำสั่งผ่านทางวิทยุสื่อสาร แล้วเจ้าหล่อนก็ก็คว้าเอาปืนคู่ประจำตัวออกมา สาดกระสุนเข้าใส่กำแพงพังเป็นรูโหว่เล็กๆ
"ไปเร็วๆค่ะ"ดาเนียรีบเก็บปืนและกระโดดลงไปทางรูโหว่นั่นอย่างไม่เกรงกลัว ถึงมันจะแค่ชั้น 3 แต่ทว่า ชั้นนึงมันสูง ตั้ง 12 เมตร แล้วนี่ ก็สูงตั้ง 36 เมตร ถ้ากระโดดลงไปคงรอดยาก
"จะลงไป จ... เหวอ~"ยังไม่ทันที่จะพูดจบสเวนก็ถูกไวมิลลากตัวกระโดดลงไปทางรูโหว่นั่น ความสูงจากพื้นดินทำให้ใจหายวาบ คิดอย่างเดียวว่าคงไม่รอดแน่ อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงพื้นแล้ว
ฟุบ~ ไวเท่าความคิด ไวมิลลงมายังพื้นด้านล่างแล้วจับตัวเขาไว้ไม่ให้กระแทกลงพื้นอย่างหวุดหวิด
"แหก แหก น....นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว"สเวนหอบตัวโยนเหมือนพึ่งผ่านสงครามโลกมาหมาดๆ แล้วก็มีหญิงสาวสองคนวิ่งมาทางพวกเขา
"พวกโอกิโตะออกมาได้หรือยัง"ดาเนียเดินเข้าไปถามผู้หญิงคนนึง ที่ใส่ชุดสีขาวทั้งตัว "ยังเลย ตอนนี้พวกนั่นยังพยายามหาทางหนีอยู่"
"อืม~"
ตูม! "อย่าหนีซิฟะ มาให้เฉือดดีๆ หน่อยซิฟะ"พิทลอร์ดกล่าวอย่างเดือดดาลแล้ว เสกลูกไฟนับร้อย พุ่งเข้าโจมตีใส่ทั้งสี่ ด้วยความรวดเร็ว
"เหวอ~"ซาซาริหลบลูกไฟที่พุ่งเข้ามาโจมตีไม่ขาดสาย พยายามหาทางหนีจากไอเจ้าพิทลอร์ด ที่ไล่ฆ่าพวกเขาไม่ยอมหยุด
"จะทำไงดีเนี่ย"ซายะที่อยู่ข้างๆก็พยายามหลบลูกไฟ ที่พุ่งเข้ามาด้วยความชุลมุนไม่แพ้กัน
"อยากให้ไอไวมิลอยู่ที่นี่จริงเว้ย ท่าใช้เวทมนต์ได้นะ แก! "โอกิโตะที่กำลังสกัดลูกไฟอยู่ เกิดหึดขึ้นมาวิ่งเข้าไปใช้ทวนไฟพุ่งแทงไปยังที่โขนขาของพิทลอร์ด แต่เนื้อหนังของพิทลอร์ดนั่นแข็งซะยิ่งกว่าเหล็กกล้าเสียอีก
แต่ทันใดนั่นก็มีแสงพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เข้าโอบล้อมทั้งสี่เอาไว้
วูบ~ แล้วตรงหน้าพิทลอร์ดก็ไม่มีอะไรอีกเลย
วูบ~ ทั้งสี่ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง ที่ด้านนอกของคุกคอร์เซอร์ แล้วสมาชิกทีมไร้ฟ้าที่เหลือก็เดินมาหาพวกเขาพร้อมกับตัวนักโทษที่เขาต้องช่วยแหกคุก
"เกิดอะไรขึ้น?"
"ง่ายๆแต่ได้ใจความเลยนะ พวกเราทำภารกิจเสร็จแล้วนะสิ"เอมีนกล่าวยิ้มๆ "แล้วเมื่อกี้ เวทย์มนต์ไม่ใช่หรอ?" "ช่าย แต่พวกเราไม่ได้ทำหรอกนะ เราให้คุณสเวนช่วยต่างหาก"ดาเนียยิ้มดีใจตอนนี้เธอปล่อยผมให้ยาวสลวยเหมือนเดิมแล้ว
"งั้นเราก็ทำภารกิจเสร็จแล้วซินะฮะ"ซายะร้องขึ้นมาอย่างดีใจ
"งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ"
|
|
|
|
一番の宝物
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #41 เมื่อ: 05-08-2010, 21:06:21 » |
|
กลับมาแล้วว ได้อ่านแล้วว เย้
|
|
|
|
GøøGle-KunG
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #42 เมื่อ: 05-08-2010, 21:54:53 » |
|
ช่วยแหกคุก โอ...!
|
บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
|
|
|
เอิร์ธคุงขอรับกระผม
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #43 เมื่อ: 06-08-2010, 15:35:17 » |
|
สเวน สะเว...ร
|
|
|
|
-Jack-TheRipper-
|
|
Re: [Fiction]Frontasia เปิดตำนานโรงเรียนลับ
« ตอบ #44 เมื่อ: 07-08-2010, 11:22:47 » |
|
|
|
|
|
|