บทที่ 35. สงครามที่เซาเทรินฟอร์ท2
ราชินีน้ำแข็งไอซซี่ลอยตัวอยู่เหนือเมืองเซาเทรินฟอร์ท และเสกให้หิมะตกในเมืองเซาเทรินฟอร์ทตลอดเวลาเพื่อให้ละอองหิมะดูดซึมไอหมอกสีดำให้หมดไปเพื่อที่เหล่านักรบจะได้บุก การบุกในครั้งนี้เลยไม่สามารถใช้พลังของราชินีน้ำแข็งไอซซี่โจมตีได้เลย เพราะราชินีน้ำแข็งไอซซี่ต้องพยายามทำให้ละอองหิมะตกตลอดเวลา เพราะสาธุคุณ มอร์เร่ย์ไปยืนอยู่บนหอคย ซึ่งอยู่บนตัวปราสาทของเซอร์อเล็กซ์ และสาธุคุณมอร์เรย์ก็พยายามเร่งพลังเวทย์สีดำของตนเองให้กับแท่นเสาหินสีดำทั้ง3ต้น เพื่อให้ไอหมอกสีดำสู้กับละอองหิมะของราชินีน้ำแข็งไอซซี่ และยังไม่ทันที่ละอองหิมะดูดซึมไอหมอกสีดำหมดไป ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวในเมืองเซาเทรินฟอร์ทแล้ว พวกนักรบจรเข้ครอกโคเดี้ยนหลายร้อยตัวก็ได้พร้อมใจทำลายกำแพงเมืองให้พังทลายลงมาและเริ่มบุกเข้าใส่กองทัพของโยฮานกับอาริงและลูฟเฟ่น แต่พวกโยฮานได้ตั้งทัพรอการโจมตีอยู่แล้ว โยฮานได้สั่งให้พลปืนใหญ่กอบบลินยิงปืนใหญ่ 25กระบอกใส่กลุ่มคลอกโคเดี้ยน และให้เหล่าชาร์ปชูตเตอร์เล็งยิงสกัดการเคลื่อนไหว และให้เหล่านักเวทย์ที่มีสกิลพฤกษาพันธนาการมัดเหล่าครอกโคเดี้ยนไว้เพื่อให้เป้นเป้านิ่งและสกัดไม่ให้เคลื่อนที่มาถึงกองทัพโยฮาน และให้ทหาร เอลฟ์ และนักเวทย์ช่วยกันโจมตีระยะไกลใส่พวกครอกโคเดี้ยน และเวลาผ่านไปไม่นาน กองกำลังครอกโคเดี้ยนที่บุกมาในระลอกแรกพ่ายแพ้ไป และในตอนนี้พวกครอกโคเดี้ยนที่เหลืออีกหลายพันตัวก็ออกมาจากในเมืองกันหมดแล้ว และกำลังพุ่งตรงมายังกองทัพของโยฮาน โดยที่มีพวกนักบุญปีศาจอีก300ตัว ก็ระดมยิงเวทย์ลูกไฟสีดำใส่กองทัพโยฮาน
อาริงและลูฟเฟ่น เลยสั่งแยกกำลังจำนวนหลายร้อยคนแยกไปทางซ้ายและขวา โดยอาริงและลูฟเฟ่นก็สั่งให้นักรบจำนวนหลายร้อยคนเข้าโจมตีทางด้านข้าง เป้นการโอบล้อมบังคับให้เหล่าครอกโคเดี้ยนตกอยู่ในวงล้อมตรงกลาง และให้เหล่านักเวทย์ลงเวทย์หมู่เพื่อกำจัดครั้งละหลายๆตัวเป้นกลุ่ม และเมื่อมองไปบนท้องฟ้าก็จะเห้นลำแสงเวทย์พุ่งผ่านสนามรบไปมามากมาย เพราะนักเวทย์หลายคนจับกลุ่มกับผีตาโขนขมังเวทย์ ช่วยกันยิงลูกไฟพลังเวทย์ต่อต้านกับลูกไฟสีดำของพวกนักบุญปีศาจกันตลอดเวลา พวกทหารก็ได้โอกาศที่ใช้ระเบิดต่างๆปาเข้าไปในกองทัพของครอกโคเดี้ยน ส่วนเคออสติดที่มีพลังทำลายสูงก็จัดการต่อยและฆ่าพวกครอกโคเดี้ยนที่อยู่แถวๆกำแพงเมืองและหน้าประตูเมือง เพื่อเปิดทางให้กลุ่มนักรบ 3กลุ่มที่มีอาริง จตุกร และลูฟเฟ่นเป้นคนนำแต่ละกลุ่มบุกเข้าไปทางหน้าเมือง เพราะทั้งหมดจะเข้าไปทำลายแท่นเสาหินสีดำทั้ง 3ต้น โดยอาริงและจตุกรได้เอาผ้าหนาๆมาห่อหินศักดิสิทธิ์สีรุ้งไว้และแบกใส่หลังไป ส่วนลูฟเฟ่นก็ให้วาเนสซ่าเป้นคนเก้บไว้กองกำลัง 3กลุ่มได้บุกเข้ามาในเมืองเซาเทรินฟอร์ทแล้ว แต่ในเมืองก็ยังมีพวกครอกโคเดี้ยนอยู่จำนวนหลายร้อยตัว จึงทำให้กองกำลัง3กลุ่มก็ต้องเสียเวลาในการกำจัดเพื่อที่จะได้ไปทำลายแท่นเสาหินได้ และยิ่งใกล้แท่นเสาหินมากเท่าไรก็เจอกับพวกครอกโคเดี้ยนมากเท่านั้น และเมื่อเข้าเมืองมาได้ระยะทางหนึ่ง ทั้ง3กลุ่มเลยแยกกลุ่มกัน อาริงมุ่งหน้ามาทางกลางเมือง ส่วนลูฟเฟ่นไปทางซ้ายเพื่อไปที่แท่นเสาหินที่เป้นตลาดแถวทางออกไปทุ่งหญ้า ส่วนจตุกรไปทางขวาเพื่อมุ่งหน้าไปแถวๆโบสถ์ที่มีแท่นเสาหินอีกต้น
อาริง : " พวกมันยังมีเยอะขนาดนี้เลยหรือนี่ ว่าศึกนอกเมืองเยอะแล้วนะ ในเมืองก็ยังมีอีกพอสมควรเลย ไม่รู้ทางลูฟเฟ่นกับจตุกรจะเป้นยังไงบ้างถึงจะเก่งกันก็จริง แต่ก็อดห่วงไมได้"(อาริงเลยสั่งการให้ทุกคนจับกลุ่มสู้เพื่อช่วยเหลือกันอยู่ เคออสติดก็พาพวกนักรบอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาช่วยพวกอาริงอีกแรง )
เคออสติค : " โอ้.... รู้งี้ข้าบุกเข้ามาเองนานแล้ว ยังมีพวกครอกโคเดี้ยนให้ข้าฆ่าได้อีกเยอะเลยนี่น่า ฮ่าๆๆ"
อาริง : " ทำพูดดีไป อย่ามาบ่นเหนื่อยซะก่อนละ "
เคออสติค : " ดูถูกๆๆ แบบนี้ข้าก็ยิ่งมีโมโห และข้ามีโมโหข้าก้ยิ่งบ้าพลังนะ"(เคออสติคพูดเสร็จก็เอากำปั้น 2ข้างทุบหน้าอกตัวเองเพื่อเป็นการปลุกเร้าอารม และเคออสติคก็กระโจนใส่พวกครอกโคเดี้ยนกลุ่มข้างหน้าและทั้งทุบและต่อยจัดการอย่างมันส์มือและคอยจัดการพวกครอกโคเดี้ยนที่อยู่ใกล้ประตูเมืองไม่ให้เข้ามาในเมืองได้อีก เหมือนว่าเคออสติดคอยระวังหลังให้กับพวกอาริงอีกที)
อาริง : " ระวังๆด้วยนะ อย่าประมาท" (อาริงตะโกนบอกเคออสติค และให้นักรบ 40 คนตามไปประกบช่วยเคออสติคอีกแรง ส่วนอาริงก็มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง พร้อมกับนักรบอีก200คน และกำจัดพวกครอกโคเดี้ยนไปพลางและค่อยมุ่งหน้าไปพลาง)
และกว่า 20 นาที ที่อาริงจัดการพวกครอกโคเดี้ยนที่มาขวางทางและก็บุกมาถึงประตูเมืองชั้นในซึ่งอีกเพียง 100เมตรก็ถึงแท่นเสาหินสีดำตรงกลางเมืองแล้ว แต่ยังไม่ทันที่อาริงจะได้ทำอะไรต่อ อยู่ๆอาริงก็สั่งให้นักรบทุกคนกระโดดหลบไปด้านข้าง และสิ้นเสียงอาริงตะโกนสั่งก็มีคลื่นพลังสีดำวิ่งตัดผ่านกลุ่มของอาริงไปแต่ก้มีนักรบประมาณ10คนที่หลบไม่ทันโดนคลื่นพลังสีดำตัดแขน ขา หรือตัวขาดไป และคลื่นพลังนั้นก็ทิ้งร่องรอยให้เหล่านักรบเห้นที่พื้นเมืองเป็นร่องลึกและยาว คลื่นพลังสีดำที่วิ่งผ่านไปนั้นมาจาก ดาบสีดำมันคือ" ดาบดูลาฮาน" ซึ่งผู้ที่ใช้ดาบเล่มนี้ฟันคลื่นพลังมามันคืออัศวินแห่งความตาย "ดูลาฮาน" ซึ่งตอนนี้ดุลาฮานยืนจังก้าอยู่ที่หน้าแท่นเสาหินสีดำกลางเมือง ดูลาฮานเป้นอัศวินเกราะสีดำที่ไม่มีหัว มือขวาถือดาบดูลาฮาน มือซ้ายถือโล่ดูลาฮาน และยิ่งพวกนักรบเพ่งมองดูลาฮานมากเท่าไร พวกนักรบก็เกิดอาการสั่นกลัวและหายใจไม่ทั่วท้อง มันเป้นอาการของคนที่อ่อนแอกว่ามากโดนคนที่แข็งแกร่งมากมองข่มและสะกดไว้ นักรบหลายรายถึงกับทรุดลงไปที่พื้น บางคนก็ทำอาวุธหลุดมือเพราะเหงื่อออกที่มือมากอาริง : "ดูลาฮาน จริงๆด้วย" (อาริงพูดด้วยสีหน้าเป้นกังวล เพราะอาริงก็ไม่เคยรูสึกกดดันมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต)
ดูลาฮาน : "เจ้าผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่น่าสนใจนะ เห้นข้าแล้วไม่มีแม้แต่อาการสั่นเลย แถมเจ้ายังมีกลิ่นไอปีศาจเหมือนพวกเราอีก เจ้าเป็นใครกันหรือ"(ดูลาฮานพูดถามและชี้ปลายดาบมาทางอาริง)
อาริง : "ฉันชื่อ อาริง เป้นลูกครึ่งมนุษย์และเผ่าอสุรา"(อาริงก็เผลอตอบโดยที่ไม่ทันคิด เหมือนปากและความคิดมันพูดไปเอง)
ดูลาฮาน : " หายากนะลูกครึ่งแบบนี้ จะฆ่าทิ้งก็น่าเสียดาย ฮือ....เอาแบบนี้ละกันมาเป็นลูกน้องข้าไหมละ แลกกับพวกนักรบของเจ้าไม่ต้องตายด้วยน้ำมือข้าและได้มีชีวิตรอดออกไปจากเมืองนี้อย่างปลอดภัย"(ดูลาฮานพูดยื่นขอเสนอให้กับอาริง)
อาริง : "แกพูดอะไรออกมา ที่ฉันมาที่นี่เพื่อทำลายแท่นเสาหินนี้และให้สงครามนี้จบโดยเร็ว บ้านเมืองและอณาจักรจะได้สงบสุข"
ดูลาฮาน : "อย่าใจร้อนตอบสิ ดูนี่แล้วคิดดูดีๆ" (ดูลาฮานพูดจบอยู่ๆก้มี
ดาบปีศาจดูลาฮานและ
โล่ปีศาจดูลาฮาน จำนวนมากลอยมาล้อมกรอบพวกอาริงไว้ทำให้พวกของอาริงตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู)
อาริง : "อย่างมากก็แค่ตาย ถึงพวกฉันตายไป ที่เหลืออีก 2กลุ่มก็คงทำงานทำลายแท่นเสามีดำสำเร็จแน่ๆ เพราะหัวหน้ามอนสเตอร์อย่างแกมาอยู่ที่นี่แล้ว 2ทางนั้นคงสะดวก"
ดุลาฮาน : " คิดง่ายไปมั้ง คิดหรือว่าข้ามีแค่ร่างเดียว ไม่คิดว่าข้าจะแบ่งร่างและพลังไว้แต่ละที่เพื่อคอยเฝ้าเสาหรือ หึๆๆ"
อาริง : "แย่แล้ว.... "(และยังไม่ทันที่อาริงจะพูดอะไรต่อก็มีเสียงสู้รบทั้งด้านซ้ายมือและขวามือที่เป้นที่ตั้งของแท่นเสาสีดำอีก 2ต้น)
ดูลาฮาน : " สงสัยพวกของเจ้าทั้ง2กลุ่มนั้นคงยอมสู้ตายแล้วละ แต่ข้าก้ไม่สนหรอก ข้าสนใจแต่เจ้าอย่าได้เจ้ามาเป้นลูกน้อง ว่าไงคิดดุดีๆๆ"
อาริง : " ถึงตายข้าก้ไม่ยอม "(อาริงพูดเสร็จก็พุ่งตัวไปฟันดูลาฮานด้วยดาบเขี้ยวทมิฬโดยใช้วิชาดาบความไวสูง แต่ยังไม่ถึงตัวดูลาฮาน ก็มีพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานมากันและรับดาบความไวสูงของอาริงที่อาริงฟันนับไม่ถ้วนใส่ดูลาฮานแต่ติดที่ดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานหมด และพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานก็ได้รับสัญญานจากดุลาฮานให้จัดการฆ่าพวกนักรบได้เลย)พวกนักรบของอาริงถึงแข็งแกร่งก็จริง แต่พวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานกับแข็งแกร่งกว่ามาก พวกนักรบค่อยๆล้มตายไปทีละคนสองคน โดยที่อาริงไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก เพราะอาริงก็โดนพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานรุมอยู่จำนวนมาก อาริงก็ได้แต่สู้ไปและกัดฟันไม่ให้ความเสียใจที่เห้นพวกนักรบค่อยๆล้มตายไปทีละคนสองคนมาบั่นทอนกำลังใจที่จะสู้ กับทำให้เป้นกำลังใจให้อาริงสู้แบบไม่กลัวความตายมากกว่าเดิม ยิ่งสู้กันนานเท่าไรนักรบก็ค่อยตายไป จนตอนนี้เหลือแค่อาริงคนเดียวแล้วที่ยังสู้รบอยู่กับพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานที่เหลืออยู่ประมาณอย่างละ200 และความเหนื่อยล้าและรอยแผลต่างๆที่ที่โดนรุมแบบนี้ ทำให้อาริงค่อยๆหมดแรงลงทีละนิดๆ แต่อาริงก็ยังกัดฟันทนสู้ต่อไป และอาริงก็โดนฟันที่ขาทำให้บาดเจ็บสาหัสและทำให้อาริงถึงกับล้มลงแต่อาริงก็ยังเอาดาบยันพื้นไว้ไม่ให้ล้มลงไปนอนกับพื้น ตอนนี้สภาพของอาริงมีแต่รอยแผลมากมายจากที่โดนดาบปีศาจดูลาฮานฟัน ถึงแม้อาริงจะมีวิชาดาบความไวสูงที่ฟันนับครั้งไม่ถ้วนในคราวเดียวกัน แต่เมื่อโดนรุมจากทุกทางทำให้ยังไงก็สู้ไม่ได้เมื่อโดนรุมเยอะแบบนี้ และดูลาฮานก็เดินมาเตะดาบของอาริงให้ห่างตัวอาริง และก่อนที่อาริงจะล้มลงนอนกับพื้น ดูลาฮานก็จับคอเสื้อของอาริงและยกอาริงขึ้นเหนือพื้น
ดูลาฮาน : "เสียดายจริงๆที่ต้องฆ่าเจ้า"
อาริง : "จะฆ่าก็ฆ่าเลย การตายในสนามรบเป็นเกียรติของเหล่านักรบอยู่แล้ว"
ดูลาฮาน : "งั้นข้าจะให้เกียรตินั้นแก่เจ้าละกันนะ "(ดูลาฮานพูดเสร็จก็ เอาดาบดูลาฮานที่ถือในมือขวากำลังจะแทงไปที่ท้องของอาริง แต่อยู่ๆก็มีชายลึกลับเข้ามาเอาดาบฟันไปที่ดาบของดูลาฮาน และฟันไปที่มือซ้ายของดุลาฮาน ทำให้อาริงร่วงลงมานั่งกองที่พื้นแบบหมดแรงและมีชายลึกลับนั่นคือไก่จ๊วบเข้ามานั่งประคองอาริง)
ดูลาฮาน : "แกเป้นใคร บังอาจมาขวางข้า"
ไก่จ๊วบ : " ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แต่ข้าไม่ยอมให้แกฆ่าลูกของเพื่อนข้าได้หรอก"
อาริง : "เจ้าไก่จ๊วบ ทำไมเจ้าถึงมาช่วยข้า ทั้งๆที่เจ้าก็จะฆ่าฉันที่เมืองเซาเทรินไซร์"
ไก่จ๊วบ : "ข้าไม่เคยบอกว่าจะฆ่าเจ้านะ ที่เมืองเซาเทรินไซร์ นั้นไม่มีทางเลือก เพราะข้าเองก็ถูกจับตาดูอยู่เหมือนกันข้าเลยต้องเล่นละครตบตาทั้งเจ้าและคนที่เฝ้าดูข้า และที่สำคัญเจ้าเป้นลูกของเพื่อนรักข้า ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายหรอก"(ไก่จ๊วบพูดเสร็จก็แบกอาริงไว้ข้างหลังเพื่อที่ไก่จ๊วบจะพาอาริงหนีจากวงล้อมนี้)
ดูลาฮาน : " ถ้าเจ้าหนีได้ก็เก่งแล้ว ฮ่าๆๆ"(ดูลาฮานสั่งลูกน้องรุมไก่จ๊วบและอาริง แต่ไก่จ๊วบก็ใช้สกิลพริ้วไหวดุจสายลมและพริ้วไหวไร้ลักษณ์ ทำให้หลบการโจมตีได้เกือบทุกครั้ง แต่เพราะต้องแบกอาริงด้วย เลยทำให้กะระยะผิดไปหน่อย ทำให้แขนของไก่จ๊วบที่แบกอาริงไว้ที่หลังโดนฟันไป 2แผล ทำให้อาริงที่ไก่จ๊วบแบกอยู่ตกลงมาที่พื้น ไก่จ๊วบที่ก้าวขาไปข้างหน้าแล้ว เลยต้องหันหลังกลับมายื่นมือที่จะจับอาริง แต่มือของไก่จ๊วบกับจับไม่ถึงตัวอาริง เพราะมือของไก่จ๊วบโดนดูลาฮานฟันขาดและปลิวไป และสิ่งที่อาริงเห้นต่อมาคือไก่จ๊วบโดนดาบปีศาจดูลาฮาน10ตัวรุมแทงไก่จ๊วบต่อหน้าต่อตาอาริง และไม่ทันที่อาริงจะได้เอยปากเรียกไก่จ๊วบ ดูลาฮานก็จับคออาริงและจับชูขึ้นเหนือพื้นดิน และดูลาฮานก็เอาปลายดาบของดูลาฮานเสียบที่ท้องและทะลุหลังของอาริงเลือดของอาริงก็ไหลออกมาตามรอยที่ถูกแทง และดูลาฮานก็โยนร่างของอาริงทิ้งไว้ที่พื้น ร่างของอาริงที่ถูกดาบดูลาฮานแทงไปที่ท้อง ตอนนี้ตาของอาริงก็ค่อยๆหรีลงๆ ลมหายใจก็ค่อยๆแผ่วลงๆไปทุกทีๆ ดูลาฮานสั่งให้ดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานตามไปโจมตีพวกนักรบที่หน้าเมืองต่อ ปล่อยให้ร่างแปลงของดูลาฮานอีก 2ร่างและดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮานจำนวนหนึ่งอยู่ต่อสู้กับนักรบที่แท่นเสาทั้ง2ต้นนั้นอาริงที่ตอนนี้มีสภาพใกล้จะตายแล้วแต่ยังได้เลือดอสุราในตัวช่วยประคองชีวิตไว้ได้อีกหน่อย อาริงเลยพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายคลานไปเอาหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งที่ตกอยู่ตรงซอกหินมิดชิดที่ตกระหว่างที่อาริงสู้กับพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮาน และกัดฟันคลานไปที่แท่นเสาหินสีดำ และยื่นหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งใส่เข้าไปในแท่นหินสีดำ และไม่นานแท่นเสาหินสีดำก้มีปฎิกิริยากับหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้ง และแท่นเสาหินสีดำก็ค่อยกลายเป็นสีรุ้งและก็แตกสลายเป็นฝุ่นผงไป พร้อมๆกับอาริงที่นอนจมกองเลือดของตัวเองพร้อมกับรอยยิ้ม ที่ตัวอาริงทำงานชิ้นสุดท้ายสำเร็จแล้ว ส่วนพวกนักรบของโยฮานที่สู้กับพวกครอกโคเดี้ยน และสู้กับพวกดาบปีศาจดูลาฮานและโล่ปีศาจดูลาฮาน ก้ชี้ให้โยฮานดูการพังทลายของแท่นเสาหินสีดำที่อยู่กลางเมืองที่เปลี่ยนเป็นสีรุ้งและพังสลายเป็นฝุ่นผงไป ทำให้เหล่านักรบร้องดีใจและมีแรงฮึดที่สู้ต่อไป แม้ว่าตอนนี้ดุลาฮานออกมาสู้รบนอกเมืองแล้ว
ดูลาฮาน : " ข้าพลาดหรือนี่ สงสัยยัยผู้หญิงลูกครึ่งคนนั้นคงยังไม่ตายสนิท สงสัยต้องกลับไปแทงซ้ำให้ตายซะแล้ว"(ดูลาฮานหันกลับไปมองดูในเมืองที่แท่นเสาหินโดนทำลายไปแล้ว แต่มือทั้ง2ข้างก้ยังคงสู้กับโยฮานอยู่)
โยฮาน : " ผู้หญิงลูกครึ่งคนที่แกว่า อย่าบอกนะว่าชื่ออาริง"(โยฮานถามด้วยสีหน้ากังวล)
ดูลาฮาน : "น่าจะใช่ เห็นนังนั่นมันบอกว่าเป้นลูกครึ่งอสุรา ข้ายื่นข้อเสนอให้มาเป้นลูกน้องข้า นางก้ไม่ยอม ข้าเลยจัดการฆ่าพวกนักรบที่นางพาเข้าไปในเมืองจนหมด และข้าเองที่เอาดาบเล่มนี้แทงไปที่ท้องจนทะลุหลังของนาง ฮ่าๆๆ"
โยฮาน : "
แก....อย่าอยู่เลย"(โยฮานตะโกนและพุ่งไปฟันดูลาฮานด้วยความแค้นที่ได้ฟังเรื่องที่อาริงถูกฆ่าตาย).........................
ปล. มีต่อตอน 36เน้อ เพราะมันยาวจัดเลยขอตัดให้ตอน35 หมดตรงนี้และไปรอต่อตอน36 ที่คิดว่าจบแน่ๆแล้วละ ^^