GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 34 35 [36] 37
ผู้เขียน หัวข้อ: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)  (อ่าน 16050 ครั้ง)
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 35 (21/11/52)
« ตอบ #525 เมื่อ: 21-11-2009, 19:00:11 »

บอกเล่นๆพี่กบเอาจริงO[]O!!

อย่าบอกนะว่าพวกลูฟเฟ่นจะเอาไก่ลุงเบนที่สุกแล้วมากิน Evil



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 35 (21/11/52)
« ตอบ #526 เมื่อ: 21-11-2009, 20:22:33 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 21-11-2009, 19:00:11
บอกเล่นๆพี่กบเอาจริงO[]O!!

อย่าบอกนะว่าพวกลูฟเฟ่นจะเอาไก่ลุงเบนที่สุกแล้วมากิน Evil

มันคือ ไก่ย่างวิเชียรบุรี 0 ดาวเนื่องจากทำจากไก่ลุงเบน

ภาคต่อ!!!

หลังจากที่พวกอาริงกินไก่ย่าง 0 ดาวเข้าไปก็เกิดไข้หวัดนกที่เเพร่ระบาดคนสู่คนได้กลายเป็นเรื่อง มหันตภัยไวรัสไก่กลายพันธุ์!!!!! 

//me ลอย ลอย ทะเล ลอย ลอย ทะเล ลอยทะเลกันเเล้ว ขอเชิญลมโกรกโบกกลับเข้าฝั่ง~ (ทำนองเพลง ลอยกระทง) Smiley



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 35 (21/11/52)
« ตอบ #527 เมื่อ: 21-11-2009, 21:06:29 »

เทศกาลหมดแล้ว.. ยังลอยกระทงอีก



 ///me ลอย ลอยไปไกล  ลอย ลอยไปไกล ลอยไปไกลไปแล้ว แล้วไปไกลไกล อย่ากลับมาเล้ยยยยย~~ (เอาเข้าไป)

อีริตั้น
Sr. Member
****
กระทู้: 1,515

Status : Waiting for new signature!


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 35 (21/11/52)
« ตอบ #528 เมื่อ: 22-11-2009, 10:20:50 »

โอย เหนื่อย =w=~

นั่งอ่านของลุงกบรวดเดียว ตอนนี้กำลังเกลาบทแรกเตรียมลงพรุ่งนี้อยู่


กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #529 เมื่อ: 22-11-2009, 13:20:38 »

บทที่ 36. สิ้นสุดสงครามและบทสรุปของสงคราม 

ในดินแดนสีขาวและสว่างสดใส เป้นครั้งที่2แล้วที่อาริงมาถึงดินแดนแห่งนี้ และอาริงที่ตอนนี้นอนนิ่งไม่หายใจแล้วนั้นกลับรู้สึกตัว และมีความรู้สึกสบายทั้งตัวและใจจนไม่อยากจะลุกไปไหนอีกแล้ว อยากจะนอนหลับอยู่ตรงนี้ไปตลอดกาล ไม่อยากสู้รบอีกแล้วเพราะเหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็มีเสียงหนึ่งปลุกอาริงขึ้นมา
เสียงสวรรค : "ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะมาที่นี่ เจ้าต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน "
อาริง : "ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันอยากพักแล้ว ฉันไม่อยากเห้นใครตายต่อหน้าต่อตาฉันอีกแล้ว"(อาริงพูดตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ แต่ก็มีสิ่งนึ่งมาสะกิดอาริงให้ลืมตา)
อาริง : "เจ้าแผลเพียบนี่ นี่เจ้าก็อยากให้ฉันลงไปสู้รบอีกหรือ เจ้าไม่อยากอยู่กับฉันหรือ"
วุ้นเทพแผลเพียบ: "เพี๊ยะ" Angry Angry (เจ้าวุ้นเทพแผลเพียบ เอามือน้อยๆที่อ่อนนุ่มตบไปที่หน้าของอาริง และเจ้าวุ้นเทพแผลเพียบก้ทำหน้าโกรธอาริง และชี้ให้อาริงดูภาพในเบื้องร่าง ที่เหล่านักรบและคนรู้จักของอาริงสู้รบกันอยู่)
อาริง : " เจ้าไม่รักฉันแล้วหรือ ถึงอยากให้ฉันลงไปสู้รบและเจอเหตการณืเห้นคนที่รู้จักตายต่อหน้าต่อตาอีก"(อาริงเอามือจับแก้มตัวเองที่โดนเจ้าวุ้นเทพแผลเพียบตบเอาปะกี้)
เสียงสวรรค : " เจ้าวุ้นเทพตัวนั้นมันรักเจ้าเหมือนเดิมละ แต่มันไม่อยากให้เจ้าทิ้งภารกิจและทิ้งเพื่อนร่วมรบแบบนี้ เจ้าได้อยู่กันแน่ๆ แต่ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า ตอนนี้กลับไปเถอะ"
อาริง : "ท่านต้องสัญญานะ เมื่อถึงเวลาต้องให้ฉันได้อยู่กับเจ้าแผลเพียบนะ "
เสียงสวรรค " ข้าสัญญา"(และเมื่อสิ้นเสียงสวรรค อาริงก็วูบหลับและมีแต่ความมึดมิดเข้ามาปกคลุมในหัว และอยู่ๆก้มีคนมาเขย่าตัวอาริง)


นาฟตี้ : " ฮือๆๆๆ พี่อาริงตื่นๆๆ อย่าตายนะ ฮือๆๆๆ(คนที่เขย่าตัวอาริงคือนาฟตี้นั่นเอง และตอนนี้กองทัพของเมืองป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนียบุกเข้ามาทางด้านหลังเมืองแล้ว)
ฟริกซ์ : " ทำใจดีๆสินาฟตี้ พี่อาริงเค้าไปสบายแล้ว" (ฟริกซ์กัดฟันพูดปลอบนาฟตี้ที่ตอนนี้นาฟตี้กอดฟริกซ์และร้องไห้)
อาริง : " เสียงร้องใครเนี่ยปวดหูจัง "(อาริงพูดและลืมตามองไปที่ต้นเสียงนั้น)
นาฟตี้ : " ฮือๆๆ พี่อาริงยังไม่ตายๆๆ "(นาฟตีรีบเข้ามาประคองและกอดอาริงไว้)
อาริง : "ที่จริงพี่น่าจะตายไปแล้วละ เพราะพี่ถูกดูลาฮานแทนที่ท้อง"(อาริงชี้ให้ดูรอยแผลที่ท้อง แต่มีแต่รอยเสื้อที่ขาดแต่ไม่มีรอยแผลที่ถูกแทง)
อาริง : "น่าแปลกจัง ทำไมไม่มีแผลละ แต่มีแต่กองเลือดและรอยเสื้อที่ขาดเพราะถูกแทง"
นาฟตี้ : " ฮือๆๆ พี่ไม่ตายก้ดีแล้ว อย่าทิ้งหนูไปอีกคนนะ แค่นี้หนูก็จะขาดใจตายตามอยู่แล้ว ฮือๆ"(นาฟตี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด)
อาริง : "หมายความว่ายังไง ใครทิ้งนาฟตี้"(อาริงรีบคาดคั้นเอาคำตอบจากนาฟตี้ แต่นาฟตี้ไม่สามารถพูดได้เพราะเอาแต่ร้องไห้หนักกว่าเมอีก และสิ่งที่อาริงเห้นคือ มีกลุ่มทหารหลายคนทั้งแบกและอุ้มเหล่านักรบมาวางไว้ที่กลางเมืองมีทั้งคนเจ็บและตาย โดย 2คนที่ตายในกลุ่มนั้นอาริงรู้จักดีคือ ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่า ที่ทั้งคู่แม้จะตายแต่ก็ยังคงจับมือกันไว้แน่นจนไม่มีใครแกะมือของคนทั้ง2ได้)

อาริง : " ทำไมๆๆ ลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตายได้ยังไง"(อาริงรีบลุกขึ้นไปถามฟริกซ์)
ฟริกซ์ : "ตอนที่พวกเราบุกเข้ามา ก็เห้นในสภาพนี้แล้วละ ทั้ง2คนตายใกล้ๆกับแท่นเสาสีดำ ซึ่งทั้งคู่ก่อนตายก้ได้ทำลายแท่นเสาหินสีดำตรงตลาดนั้นแล้ว และคงได้สิ้นใจตายพร้อมๆกัน เพราะทั้ง2มีสีหน้ายิ้มให้กันและกันและมือทั้ง2คนก็กุมกันไว้แน่นไม่ปล่อยเลย"(ฟริกซ์เล่าไปพร้อมทั้งน้ำตา)
อาริง : "....."(ไม่มีเสียงใดๆออกมาจากปากของอาริง มีแต่น้ำตาไหลออมาจากดวงตาอาบสองแก้ม และยังไม่ทันที่จะพูดอะไร แท่นเสาหินสีดำอีกต้นที่อยู่หน้าโบสถ์ก็ถูกทำลายลงแล้วเหมือนกัน เพราะกองทัพป้อมปราการและวิลโดเนียเข้าไปช่วยรบด้วยทำให้สามารถทำลายแท่นเสาหินได้ และสักพักเหล่านักรบก็พยุงจตุกรมาจากทางโบสถ์ ซึ่งจตุกรก็อาการสาหัสเช่นกันแขนขาดไป2ข้าง)
ฟริกซ์ : "พี่อาริงตอนนี้พวกเราต้องรีบไปช่วยท่านโยฮานและกองทัพที่หน้าเมืองแล้ว เพราะตอนนี้เหลือศึกกับดูลาฮานที่หน้าเมืองเท่านั้นแล้ว"
อาริง: " ฉันจะฆ่ามันๆๆๆๆ"(อาริงได้แต่พูดอยู่คนเดียวประโยคเดิมซ้ำๆ ทำให้ฟริกซืและนาฟตี้ไม่สบายใจเหมือนกันที่เห้นอาริงเป้นแบบนี้เหมือนคนเสียสติ)


ตอนนี้ในใจของอาริงมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจและมีความแค้นด้วย อาริงเลยเอาความแค้นเหล่านั้นมาใส่เป้นพลังของตนเอง และเมื่อถึงขึดสุดที่อาริงจะทนไหว เขาเล็กๆของอาริงก็ค่อยๆงอกยาวขึ้นมาจนเห้นได้ชัดเจน และที่มุมปากของอาริงก็เผยให้เห็นเขี้ยวของอาริงที่ยาวขึ้นกว่าแต่ก่อน และนี่เป้นครั้งแรกที่นาฟตี้และฟริกซ์เห็นอาริงในสภาพอสุราแบบนี้ และเมื่ออาริงพร้อมเต็มที่ก็วิ่งออกไปทางประตูเมืองโดยที่ไม่รอใครเลย ทำให้พวกฟริกซ์และกองทหารป้อมปราการตะวันออกต้องวิ่งตามออกมา และที่เหลือก็ให้แยกย้ายกันจัดการมอนสเตอร์ในเมืองที่เล็ดลอดสายตาไปได้ และเพียงพริบตาเดียวอาริงก็วิ่งมาทุ่งหญ้าหน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท และอาริงก็เอาแต่มองหาดูลาฮาน และเมื่ออาริงหาเจอแล้ว ร่างกายของอาริงที่เป้นอสุราก้ใช้สกิลคลุ้มคลั่งเองเพราะความแค้นและพุ่งตรงไปหาดูลาฮาน

อาริง : "แกตายซะเถอะ " (อาริงพุ่งเข้าใส่ดูลาฮานพร้อมด้วยใช้วิชาดาบความเร้วสูง แบบสุดกำลังอสุรา ดูลาฮานเอาดาบและโล่รับไว้ แต่ตัวดูลาฮานเองถึงกับกระเด็นลงไปกองกับพื้นเป็นครั้งแรก)
ดูลาฮาน : "เจ้าเองหรือ ยังไม่ตายแถมยังเป็นอสุราเต็มตัวอีกหรือนี่ "
โยฮาน : " ใจเย็นๆอาริง เป้นอะไรไป"(ถึงโยฮานจะพูดเตือนอาริงใหระวังตัว แต่ในหัวของอาริงตอนนี้มีแต่ต้องฆ่าดูลาฮานให้ได้เท่านั้น เสียงอื่นจึงไม่เข้าหูอาริง)
ฟริกซ์ : " พูดอะไรไปตอนนี้พี่อาริงก็ไม่ได้ยินแล้ว พี่เค้าสติหลุดไปแล้ว ที่เห็นลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตาย"
โยฮาน : " อะไรนะ เค้า 2คนตายแล้วหรือ"(โยฮานได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกถึงความรู้สึกของอาริงในตอนนี้แล้ว)

ตอนนี้คนที่สู้รบก็รบไป คนที่จ้องมองดูคู่ของอาริงกับดูลาฮานก็ดูไป เพราะคงหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อาริงในยามที่เป้นอสุราและบ้าคลั่งแบบนี้ ก็ทำให้อาเวียตัวสั่นขึ้นมาอีก เพราะอาเวียเคยเห็นมาแล้วครั้งนึงที่เรดคลิฟเพียงแต่ครั้งนี้ดูน่ากลัวว่าครั้งที่เรดคลิฟมาก จนเรย์รันต้องเข้ามากอดอาเวียไว้ไม่ให้สั่น ตอนนี้แม้อาริงจะถูกฟันหรือถูกดูลาฮานเอาโล่กระแทกให้กระเด็น พออาริงกระเด็นถึงพื้นก้พุ่งตัวเข้ามาฟันใส่ดูลาฮานต่อแบบไม่สนใจชีวิตอีกแล้ว เพียงแค่ตอนนี้อาริงอยากจะจัดการดูลาฮานให้ได้เป้นพอ จะได้จบๆสงครามสักที 10นาทีผ่านไป อาริงก็ยังคงใช้ดาบความเร็วสูงฟันใส่ดูลาฮานอย่างบ้าคลั่ง จนร่างกายของอาริงก็ไม่สามารถรับสภาพนี้ได้แล้ว เพราะมีเลือดไหลออกมาทั้งตา 2ข้าง ทั้งจมูกและหู ส่วนดูลาฮานตอนนี้ทั้งตัวก็โดนฟันเป้นรอยถูกฟันมากมายนับไม่ถ้วน และไม่นานดาบและโล่ก็หลุดมือดูลาฮานไปพร้อมๆกับดูลาฮานที่ล้มลงไปนอนกับพื้น และสิ่งที่ทุกคนเห็นก้คือภาพที่อาริขึ้นไปยืนอยู่บนร่างดูลาฮานและยังฟันใส่ดูลาฮานแบบบ้าคลั่งต่อไป จนดาบเขี้ยวทมิฬหักไปแล้วก็ตาม อาริงก็นั่งลงและยังเอามือเปล่าๆชกใส่ดุลาฮานแบบไม่ยั้ง พร้อมทั้งตะโกนคำรามสุดเสียงด้วยความโกรธ และไม่นานอาริงก็สงบนิ่งลงไปเอง พร้อมทั้งนั่งร้องไห้อยู่บนศพของดูลาฮานที่ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว

พวกนักรบเมื่อเห็นดูลาฮานตายแล้ว พวกนักรบก็ยิ่งมีกำลังใจมากกว่าเดิมและรีบไปกำจัดศัตรูที่เหลือ และพวกศัตรุที่เหลือเมื่อเห็นว่าดุลาฮานแพ้แล้ว พวกมันก็ไม่อยากสู้แล้วต่างพากันหนีกลับไปในที่ๆพวกมันอยู่ และพวกนักรบก็ส่งเสียงโห่ร้องประดาศชัยชนะที่หน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท แต่ชัยชนะของสงครามก็ต้องคู่กับการสูญเสียเพื่อนร่วมรบและญาติพี่น้อง และเมื่อสงครามสิ้นสุดภาพที่เห็นก็มีแค่ซากปรักหักพังของเมืองต่างๆ ซากศพของทั้ง2ฝ่าย สงครามไม่เคยมีดีอะไรเลย

อาริง : "ทำไมๆๆ พระเจ้าท่านส่งข้ากลับลงมาอีกทำไม ท่านกลั่นแกล้งข้า ท่านให้ข้ากลับมารับความเศร้าโศกนี้อีกหรือ ทำไมๆๆๆๆๆ"(อาริงยืนและเงยหน้าตะโกนขึ้นไปบนฟ้า)
โยฮาน : " ทำใจเถอะอาริง สงครามมันก็แบบนี้ละ ข้าเห้นมานักต่อนักแล้ว"(โยฮานเข้ามาปลอกใจอาริง ในขณะที่ฟริกซ์ก็ปลอบใจนาฟตี้อยู่)

และอยู่ๆก็มีแสงสว่างบนท้องฟ้า แสงนั้นทอดลงมาถึงพื้นดินแสงและเมื่อเหล่านักรบได้โดนแสงนั้นก็รูสึกอบอุ่นขึ้นมาทันใด และอยู่ๆก็มีดวงไฟสีขาวสว่างสดใสขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้า และดวงไฟนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นหญิงสาวที่หน้าตาใจดีมากคนหนึ่งใส่ชุดและกระโปงขาวทั้งชุดและมีปีกสีขาวขนาดใหญ่อยู่กลางหลัง ซึ่งหน้าตาของหญิงสาวคนนั้นเหมือนกับรูปปั้นองค์เทวีลูซิสที่อยู่กลางเมืองเซาเทรินฟอร์ทเลย เหล่านักรบเมื่อเห้นดังนี้จึงนั่งลงและทำความเคารพโดยการก้มกราบตามๆกัน เพื่อทุกคนเชื่อว่าเป็นองค์เทวีลูซิส และพริบตานั้นองค์เทวีลูซิสยิ้มให้กับเหล่านักรบเบื้องล่าง และอยู่ๆองค์เทวีลูซิสก็ยืนมือ 2ข้างออกมาข้างหน้า และมือ2ข้างนั้นก็เปล่งแสงสว่างเป้นลูกกลมๆและสว่างมากจนแสบตาและลูกกลมๆแสงสว่างนั้นก็เกิดการแตกสลายไปกลางอากาศเป้นฝุ่นผงสีขาว และฝุ่นผงสีขาวนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป้นขนนกศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากมายมหาศาลที่ตกลงมาจากบนฟ้าไปทั่วทั้งท้องฟ้าไม่ใช่แค่ที่เมืองเซาเทรินฟอร์ท แต่มันกระจายตัวไปทั่วท้องฟ้าตกทั้งอณาจักรเมทัลลิกาน่า มันจึงเป้นภาพที่สวยงามมากจนไม่มีใครละสายตาไปจากภาพตรงนั้นได้เลย

ขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงตมาจากท้องฟ้านั้น เมื่อนขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกไปที่เหล่านักรบที่บาดเจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือสาหัส บาดแผลต่างๆก็จะสมานแผลและหายไปในที่สุด และเมื่อนขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกไปที่เหล่านักรบที่ตายแล้วกลับกลายเป้นการชุบชีวิตเหล่านักรบพวกนั้นขึ้นมา เมื่อพวกอาริงเห้นดังนั้นในหัวของทุกคนคิดได้อย่างเดียวเหมือนกัน และรีบวิ่งเข้าไปในกลางเมืองเซาเทรินฟอร์ท และสิ่งที่พวกอาริงเห็นคือเห้นลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าและนักรบที่เคยนอนตายแถวนั้นลุกขึ้นมานั่งกันหมด นาฟตี้เป้นคนแรกที่กระโดดเข้าไปกอดลูฟเฟ่น ซึ่งลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าและนักรบที่ตายไปแล้วก็คงยังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน และฟริกซ์เลยเล่าเหตการณ์ที่ลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตาย และโยฮานก็เล่าถึงเหตการณ์เหล่าขนนกศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย ทำให้ตอนนี้ทุกคนมีแต่สีหน้ายิ้มแย้มดีใจกันเป้นที่สุด

และนักรบทุกคนก็ออกไปรวมตัวกันที่ทุ่งหญ้าหน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท ซึ่งตอนนี้ไม่มีซากศพและรอยเลือดต่างๆของเหล่ามอนสเตอร์แล้ว เพราะองค์เทวีลูซิสได้เสกให้ซากศพมอนสเตอร์เหล่านั้นกลับไปในที่ๆพวนั้นเคยอยู่และมอบชีวิตให้ใหม่แต่ก็ล้างจิตใจที่ไม่ดีออกไป และปล่อยให้มอนสเตอร์เหล่านั้นกลับไปอยู่ในที่เดิมของแต่ละตัว และยังไม่ทันที่อาริงจะตะโกนถามบางเรื่อง ก็เหมือนองค์เทวีลูซิสจะรู้ใจเลยชิงพูดซะก่อน

องค์เทวีลูซิส : "ขนนกศักดิ์สิทธิ์พวกนี้กระจายไปทั้งอณาจักร และขนนกศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ จะใช้ชุบชีวิตได้แค่กับมนุษย์ที่ตายภายในวันนี้เท่านั้น ส่วนมอนสเตอร์ไม่ว่าจะดีหรือเลว ข้าก็ได้เสกให้พวกนั้นกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมเช่นกันและข้าก็ส่งพวกนนั้นกลับไปยังที่ๆพวกนั้นอยู่และชะล้างจิตใจให้แล้ว ข้าก็ช่วยพวกเจ้าได้เท่านี้ละนะ "(องค์เทวีลูซิสพูดด้วบใบหน้าและน้ำเสียงที่อบอุ่นมาก)
โยฮาน : " แค่นี้ก็ดีมากแล้ว"
องค์เทวีลูซิส : "ถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปสวรรคแล้ว ข้าขออวยพรให้เหล่ามนุษย์ มอนสเตอร์ และสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกนี้อยู่ด้วยความสันติพึ่งพาอาศัยกัน"(องค์เทวีลูซิสพูดอวยพร พวกนักรบทุกคนก็ยิ้มรับคำอวยพรนี้)
องค์เทวีลูซิส : " ไปกันเถอะอาริง เจ้าก็ถึงเวลาแล้วเหมือนกัน"(องค์ลูซิสพูดและมองมาทางอาริงและส่องลำแสงสีขาวนวลมาที่อาริงและตัวของอาริงก็ค่อยๆลอยตามลำแสงสีขาวไปอย่างช้าๆ และโยฮานและพวกลูฟเฟ่นก็ใจหายและตกใจกับคำพูดขององค์เทวีลูซิสทันที)
โยฮาน : " อาริงยังไม่ตายไม่ใช่หรือ แล้วท่านจะพาอาริไปไหน"
องค์เทวีลูซิส : " อาริงเค้าตายไปแล้วตั้งแต่ตอนที่โดนดูลาฮานฆ่าตายในเมืองเซาเทรินฟอร์ท และข้าก็ชุบชีวิตเค้าขึ้นมาชั่วคราวเพื่อสะสางภารกิจกับพวกเจ้าก่อน และเพื่อให้เค้าได้มาเห็นเหตการณ์นี้แล้วจะได้สบายใจว่าพวกเจ้าปลอดภัยและจะได้ให้อาริงมาบอกลาพวกเจ้าด้วย เพราะข้าไม่อยากพาอาริงไปในตอนที่เค้ายังมีห่วงมากมายในตอนนั้น)
นาฟตี้ : "ไหนท่านบอกว่าชุบชีวิตแล้วไง แสดงว่าพี่อาริงไม่ตายแล้วนี่ แล้วทำไมต้องพาไปอีก"
องค์เทวีลูซิส : " อาริงเค้ายังมีภารกิจสุดท้ายที่อยู่ในใจของเค้าอยู่ เป้นภารกิจที่อาริงเองต้องการมาตลอด จริงไหมอาริง"(องค์เทวีลูซิสพูดและมองมาที่อาริง ที่ตอนนี้อาริงมีสีหน้าสบายใจหมดห่วงแล้ว เพราะทุกคนปลอดภัยดีและสงครามก็จบแล้ว และอาริงก็พยักหน้าตอบว่าเค้ายังมีภารกิจของเค้าอยู่)
อาริง : " ขอให้ทุกคนโชคดีนะ ฉันรักทุกคนนะแต่ฉันต้องไปตามทางเดินที่ใจฉันปราถนาของฉันแล้ว  เอ้อ..ไม่ต้องร้องไห้นะ ใครร้องไห้พี่โกรธจริงๆนะ ส่วนท่านโยฮานฉันขอบคุณในความรักของท่านนะฉันจะไม่มีวันลืมเลย แล้วสักวันพวกเราคงได้พบกันใหม่"(อาริงพูดลาแล้วยิ้มให้กับทุกคน)

และทั้งองค์เทวีลูซิสและอาริงที่ลอยอยู่ข้างๆองค์เทวีลูซิสก็หายตัวไปในที่สุด ทิ้งให้พวกของลูฟเฟ่นและโยฮานมองท้องฟ้าที่มีแต่ความว่างเปล่า แต่ไม่มีใครร้องไห้เพระอาริงสั่งไว้แต่ทุกคนก็รู้ว่าทุกคนร้องไห้อยู่แต่ร้องไห้ในใจ................................


บทสรุปของสงคราม

องค์เทวีลูซิสสละพลังและชีวิตบางส่วนมาเสกทำขนนกศักดิ์สิทธิ์ เพื่อชุบชีวิตมนุษย์ที่ตายในวันที่ทำสงครามนี้ และยังชุบชีวิตเหล่ามอนสเตอร์และชะล้างจิตใจที่ดำมึดของพวกมันด้วย
สาธุคุณมอเร่ย์ใช้พลังความมึดมากไปจนเสียสติและเป็นบ้า เที่ยวเก็บขยะในถังขยะกินเป้นอาหารปะทังชีวิตในทุกๆวัน และยังโดนชาวเมืองเอาก้อนหินไล่ปาทุกวัน
คิงจุ๊พญานกยักษ์ก็ได้เหล่านกจุ๊เด็กตัวน้อยๆกลับคืนมา โดยที่ลูฟเฟ่นพามาส่งที่วิลเดอวู้ด และคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็พาพรรคพวกกลับเข้าป่าของมันไป
จตุกรและเคออสติคก็กลับไปยังพื้นที่ของตนตามปกติ และบางครั้งก็ออกมากินเบียร์กับพวกทหารที่ป้อมเดธวิลเล่ย์
ส่วนกอบบลินก็ขออาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆต่อไป และช่วยมนุษย์สร้างปืนใหญ่เพื่อป้องกันเมืองอีกด้วย
เอลฟ์และราชินีป่าไม้ก็กลับเข้าป่าแกรนฟอเรสตามเดิม
พวกเขี้ยวทมิฬก็พยายามฝึกฝนตนเองให้เก่งขึ้นเพื่อไม่ให้เมืองของตนเองโดนยึดได้อีก
กัปตันแจ็คดีสปอยเลอร์และเหล่าโจรสลัดก็เปลี่ยนมาทำการค้าขายตามเมืองต่างๆโดยอาศัยล่องเรือไปตามเมืองชายทะเลที่อยู่ห่างไกล
ไก่จ๊วบก็กลับมาอาศัยที่เมืองเซาเทรินไซร์และเปิดฟาร์มไก่และเอาไก่ของตัวเองมาแข่งตีกับไก่ของลุงเบนที่ลุงเบนหอบไก่ของตัวเองหนีไปในป่าได้เช่นกันเวลาเกิดสงคราม
นาพญาน้ำแข็งไอซซี่ก็กลับไปเป้นเทพพิทักษ์เมืองวิลโดเนียต่อไป และเรนาร์ดก็ขอไปประจำการอยู่ที่วิลโดเนียเป้นการถาวร ส่วนป้อมปราการตะวันออกก็ยังคงเป้นป้อมที่แข็งแกร่งอยู่เช่นเคย
ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าก็ปลูกบ้านและอาศัยอยู่ที่เมืองเซาเทรินไซร์เพราะวาเนสซ่าชอบเมืองนี้ เพราะเงียบสงบกว่าเมืองหลวงและดูร่มรื่นกว่าเพราะมีป่าไม้มาก
ฟริกซ์และนาฟตี้อาศัยอยู่ที่เซาเทรินฟอร์ท เพราะฟริกซ์ต้องเป้นหัวหน้าของหน่วยนักล่าที่จัดตั้งใหม่
อาเวียและเรย์รันก็อาศัยอยู่ที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ เพระอาเวียได้ตำแหน่งเป้นผู้พันแล้วเลยต้องปกครองทหารที่ป้อมเดธวิลเลย์
คนแคระเคนก็พัฒนากระโจมของตนเองที่หน้าถ้ำผลึกให้เป้นรีสอททะเลทราย
โยฮานก็เดินทางไปเรื่อยๆตามแต่ใจต้องการและคอยช่วยเหลือชาวบ้านตามที่ต่างๆ นานๆจะมีคนเห้นโยฮานสักที

บทส่งท้ายอยู่กระทู้ถัดไปพอดีตัวอักษรเกิน 20000ตัว เลยต้องตัดไปอยู่อีกกระทู้นึง
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #530 เมื่อ: 22-11-2009, 13:21:58 »

บทส่งท้าย

10 ปี ต่อมาหลังจากจบสงครามครั้งนั้น บ้านเมืองก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งแถมอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปในทางทีดีไม่ว่าจะค้าขาย บ้านเมือง หรือแม้แต่นิสัยผู้คน แต่ก็มีบ้างที่มีพวกนอกคอกที่ยังชอบหาเรื่องเจ็บตัว

ณ. เมืองเซาเทรินไซร์ เมื่อเล็กๆชายป่าแต่มีผู้คนเดินทางเยอะที่สุด เพราะเป็นศูนย์กลางของตลาดและการซื้อขายไม่ว่าจะบนบกหรือทะเล เพราะมีตลาดที่ใหญ่ยื่นลงไปในทะเล ทำให้ได้บรรยากาศในการตั้งร้านขายของไปอีกแบบ และวันนี้ตามเมืองต่างๆก็คึกคักไปกันหมดทุกเมือง เพราะเป้นวันครบรอบ10ปีที่สงครามจบสิ้นลง เพราะทุกปีเมื่อถึงวันครบรอบแต่ละปีแต่ละเมืองก็จะจัดฉลองครบรอบที่สงครามสงบ

ฟริกซ์ : " เมืองนี้พัฒนาไปมากเลยนะ " (ฟริกซ์ยืนมองไปรอบๆ)
ลูฟเฟ่น : " ก็ชาวเมืองร่วมใจพัฒนานะ เลยทำให้เมืองนี้คึกครื้นขึ้น"
อาเวีย : " ว่างๆ จะขอต้นไม้ที่เมืองนี้ไปปลูกที่ป้อมเดธวิลเลย์หน่อยนะ เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะปลูกต้นไม้ให้เยอะๆแถวๆป้อมเดธวิลเลย์นะ "
ลูฟเฟ่น : "ความคิดดีนี่ ไว้จะคุยกับลุงเบนที่เป็นผู้ใหญ่บ้านให้นะ"
อาเวีย : "ลุงเบนผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้คงยุ่งเนอะ เพราะเมืองเจริญขนาดนี้แล้ว"
ลูฟเฟ่น : " ยุ่งอยู่กับอย่างอื่นมากกว่า ดูนั่นสิเป็นสนามประลองตีไก่ของเมืองนี้ ไก่ของลุงเบนเป้นแชมป์ติดต่อกันมา4ปีละ แต่ปีนี้ลุงเบนเจอศึกหนัก เพราะเห็นว่าตาไก่จ๊วบคราวนี้เค้าเพาะพันธ์ไก่ได้พันธ์ใหม่มาจะมาล้างแค้นลุงเบนและขอแย่งตำแหน่งแชมป์ไก่จากไก่ของลุงเบน ฮ่าๆๆ"(ลูฟเฟ่นชี้ให้อาเวีย และฟริกซ์ดูสนามประลองตีไก่ของลุงเบนและหัวเราะพร้อมๆกัน)
อาเวีย : "แล้วบ้านหลังเล็กๆที่มีสนามหน้าบ้านตรงนั้นเป้นของใครนะสวยน่ารักดี"
ลูฟเฟ่น : "ของฉันเองละ มีวันนึงอยู่ๆฉันก็นึกถึงพี่อาริง ฉันเลยซื้อที่ตรงนั้นและสร้างบ้านหลังนั้นขึ้นมา เพราะนานมาแล้วตอนที่อยู่กับพี่อาริง พี่อาริงเค้าเคยพูดให้ฟังว่าเค้าไม่มีบ้าน เค้าเป้นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายตั้งแต่เด็ก เลยต้องเร่ร่อนต่อสู้มาคนเดียวไงละกว่าจะเจอพวกเรา ฉันก็เลยสร้างเอาไว้เป็นที่ระลึกถึงพี่เค้า"(ลูฟเฟ่นเล่าเหตผลให้ฟัง)
วาเนสซ่า : " นี่ๆหนุ่มๆทั้งหลายเข้ามากินข้าวในบ้านได้แล้ว เอ้อ...อย่าลืมไปตามลูกๆมากินข้าวด้วยละ "(วาเนสซ่าตะโกนออกมาจากในบ้าน)


ลูฟเฟ่น : "ไม่ต้องตามแล้วละมั้ง ยัยวีนัสลูกสาวตัวดีฉันวิ่งมาโน่นแล้ว แต่เอ..ทำไมไม่เห็นลูกชายของฟริกซ์และลูกสาวของอาเวียเลยละเกิดะไรขึ้น"
วีนัส : " พ่อๆๆ ช่วยด้วย พี่เฟริน(ลูกชายฟริกซ์)กับน้องเรย์เวีย(ลูกสาวของอาเวีย)โดนคนรังแกอยู่ตรงโน้นนะ พวกพ่อๆไปช่วยหน่อยเร็ว"(วีนัสลูกสาวของลูฟเฟ่นวิ่งหน้าตาตื่นมาบอก และทั้งหมดก็วิ่งออกไปนอกเมืองและวิ่งไปแถวๆป่านอกเมืองเซาเทรินไซร์โดยที่วีนัสเป้นคนบอกทางโดยที่ลูฟเฟ่นอุ้มไปด้วย)

และทั้งหมดวิ่งไปอย่างเร็วและภาพที่เห้นคือเฟรินนั่งกุมขาที่เลือดไหลอยู่โดยมีเรย์เวียนั่งร้องไห้กอดเฟรินอยู่ใกล้ๆ และถัดไปก็มีเด็กผู้หญิงผมยาวสีดำคนหนึ่งกำลังต่อยตีกับเด็กผู้ชายอีก3คน สักพักเด็กผู้ชาย 2คนสู้ไม่ได้วิ่งหนีไปแล้ว ส่วนเด็กผู้ชายหัวโจกหนีไม่พ้นเพราะเด็กผู้หญิงกัดขาอยู่แถมบนหัวของเด็กผู้ชายก้มีวุ้นตัวหนึ่งพยายามช่วยกัดหัวด้วยแต่คงกัดไม่เข้าเพราะวุ้นไม่มีฟัน เด็กผู้ชายหัวโจกถึงกับร้องไห้จ้าเพราะโดนต่อยและโดนกัดอีก และเวลาต่อมาพวกลูฟเฟ่นเลยมาห้ามไว้ เด็กผู้ชายหัวโจกเลยได้โอกาศวิ่งหนีไป โดยที่เด็กผู้หญิงจะเข้าไปต่อยอีก แต่ลูฟเฟ่นก็อุ้มไว้ทัน

เด็กผู้หญิงผมดำ : "ปล่อยฉันนะตาลุงพวกนี้นี่ หรืออยากจะมีเรื่องกับฉัน ถึงเป้นผู้ใหญ่ฉันก็ไม่กลัวนะ และอีกอย่างอย่าทำอะไรพวกนั้นนะ ไม่งั้นฉันเอาตายแน่ๆ"(เด็กผู้หญิงผมดำพูดว่าลูฟเฟ่น และดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากที่ลูฟเฟ่นอุ้ม)
ลูฟเฟ่น : "ใจเย็นๆหนู ฉันแค่มาช่วยพวกลูกๆของฉันและลูกๆของเพื่อนฉันนะ"(ลูฟเฟ่นพูดอธิบายและปล่อยตัวเด็กผู้หญิงผมดำลงกับพื้น)
เด็กผู้หญิงผมดำ : " อ้าวเหรอ...พวกนี้ลูกของพวกลุงๆหรือ ขอโทษทีนึกว่าจะมาทำอะไรฉันและพวกนี้อีก"(เด็กผู้หญิงผมดำพูดและหันหน้ามาหาพวกลูฟเฟ่น และสิ่งที่พวกลูฟเฟ่นสะดุดตาและมีรอยยิ้มเล็กๆออกมาก็คือใบหน้าของเด็กผู้หญิงผมดำนั้น ช่างมีโครงหน้าและใบหน้าคล้ายคนๆหนึ่งที่พวกเค้าคุ้นเคยเป้นอย่างดี)
ลูฟเฟ่น : "อาริง..."(ลูฟเฟ่นเผลอเรียกชื่ออาริงออกมา)
อาริง : "เอ๊ะ...ลุงรู้ชื่อฉันได้อย่างไร ฉันว่าฉันยังไม่เคยบอกชื่อให้ลุงรู้จักเลยนะ "(อาริงเอียงคอเล็กน้อยและทำหน้างง)
ลูฟเฟ่น : " หนูชื่ออาริงจริงๆหรือ แล้วพ่อมแหนูละอยู่ไหน พาฉันไปพบหน่อยได้ไหม"
อาริง : "ไม่ได้หรอก เพราะหนูก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่หนูเป้นใคร หนูเป้นเด็กกำพร้า หนูก็เร่ร่อนไปทั่วละ และที่จริงหนูไม่มีชื่อหรอก แต่เจ้าวุ้นตัวนี้สิตั้งแต่มันเจอหนู มันก็เรียกหนูแบบนี้และตามหนูมาต้อยๆนานละจนเป้นเพื่อนกันไปแล้ว"(อาริงชี้ให้ดูวุ้นตัวเดียวกันที่ช่วยอาริงกัดเจ้าเด็กหัวโจกนั่น และเจ้าวุ้นนั้นก็กระโดดไปมาและพูดแต่คำว่า อาริงๆๆๆ)
ลูฟเฟ่น : " แล้ววุ้นตัวนี้มีชื่อไหมเนี่ย"(ลูฟเฟ่นถามชื่อเจ้าวุ้นด้วยใจที่เต้นแรง)
อาริง : " มันชื่อเจ้าแผลเพียบนะ ก็ดูสิลุงตัวมันมีแต่แผลเป้นเต็มไปหมด หนูก็เลยตั้งชื่อให้มันว่าแผลเพียบ เพราะมันง่ายดีไม่ต้องคิดอะไรมาก"(อาริงพูดบอกและยิ้มให้กับลูฟเฟ่น และอาริงก็จับเจ้าแผลเพียบมากอดไว้)
ลูฟเฟ่น : " ไปกินข้าวบ้านลุงไหม ถือว่าพวกลุงๆตอบแทนหนูละกันที่ช่วยพวกลูกๆของลุงนะ"(ลูฟเฟ่นพูดและหันหน้ามามองอาเวียและฟริกซ์ ที่ทั้ง2ก็ยิ้มและพยักหน้าตกลง เพราะเค้าก็อยากให้อาริงไปด้วยอยู่แล้ว และวีนัสก็เดินเข้ามาหาอาริงและจับแขนเสื้ออาริงไว้และพยักหน้าบอกว่าให้ไปด้วยกัน)
อาริง : "ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินอาหารดีๆให้อิ่มมาหลายวันและ "(อาริงพูดเสร็จก็จับเจ้าแผลเพียบมาวางไว้บนหัวเพื่อทำเป้นเหมือนหมวกวุ้นและเดินตามพวกลูฟเฟ่นไป และลูฟเฟ่นเองก็อดยิ้มไม่ได้ที่อาริงเด็กคนนี้จะทำเหมือนกับพี่อาริงที่เค้ารู้จักในอดีตตอนที่พวกลูฟเฟ่นรู้จักกับอาริงครั้งแรกตอนที่มีเจ้าแผลเพียบอยู่)

 
สักพักพวกลูฟเฟ่นก็กลับมาถึงบ้านของตัวเองในเมืองเซาเทรินไซร์ วาเนสซ่าก็แปลกใจว่าลูฟเฟ่นพาเด็กผู้หญิงที่ไหนมา และเมื่อนาฟตี้มองหน้าอาริงชัดๆ นาฟตี้ก็อุทานเรียกชื่ออาริงออกมาเหมือนกัน ก็ยิ่งทำให้อาริงแปลกใจเข้าไปใหญ่ว่าทำไมใครๆก็รู้ชื่อเธอทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และวีนัสก็พาอาริงไปอาบน้ำและอาริงก็ลากเจ้าแผลเพียบไปอาบน้ำด้วย ซึ่งเจ้าแผลเพียบทำท่าไม่ยอมไปแต่ก็แพ้แรงของอาริงเลยโดนลากไปอาบด้วย และในขณะที่อาริงไปอาบน้ำกับวีนัส ลูฟเฟ่นเลยเล่าเรื่องที่ไปเจออาริงให้กับพวกนาฟตี้ฟัง ทำให้พวกนาฟตี้ก็รู้สึกแปลกใจว่าทุกอย่างมันบังเอิญเหมือนกับอาริงสมัยก่อนไม่มีผิดแม้กระทั้งเจ้าแผลเพียบ เลยทำให้ทุกคนอดคิดไม่ได้ว่าอาริงและเจ้าแผลเพียบกลับมาเกิดใหม่ เพราะคำพูดสุดท้ายของอาริงก่อนที่จะไปกับเทวีลูซิสเมือ10ปีก่อนคือ "แล้วสักวันเราคงได้พบกันใหม่" ทำให้ทุกคนเริ่มเชื่อแล้ว

20นาทีต่อมาอาริงลงมาพร้อมกับชุดใหม่ที่เป้นชุดของวีนัส และก็นั่งกินอาหารกันอย่างมีความสุข อาริงก็รู้สึกคุ้นเคยกับพวกนี้เลยทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมามาก

ลูฟเฟ่น : "แล้วนี่หนูจะไปไหนและไปทำอะไรต่อละเนี่ย หรือจะพยายามฝึกฝนให้เป้นนักรบ"
อาริง : "เรื่องต่อสู้หนูไม่เอาหรอกรู้สึกไม่ชอบการต่อสู้ แต่ที่สู้วันนี้เพราะเห้นพวกนั้นมารังแกพวกวีนัสนะ เลยต้องเข้าไปสู้เพื่อช่วยเหลือ แต่ถ้าในใจหนูนะ อยากจะมีบ้านเล็กๆสักหลังและมีพื้นที่หน้าบ้านสักหน่อย แล้วหนูจะทำเป้นสถานที่จัดหาคู่หูมอนสเตอร์ให้กับมนุษย์นะ เพราะมีมนุษย์หลายคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเหมือนหนูและมีมอนสเตอร์อีกมากที่อยู่แบบโดดเดี่ยวเหมือนเจ้าแผลเพียบนี่ หนูเลยอยากให้ทั้งคู่มาเจอกันและอยู่ด้วยกันเป้นเพื่อนกันตลอดไป ต่างคนก็จะได้ไม่เหงาอีกต่อไปเพราะมีกันและกัน"(อาริงพูดเรื่องที่ตัวเองคิดฝันไว้ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกอดเจ้าแผลเพียบไว้ ซึ่งเจ้าแผลเพียบเองก็มีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ผิดกับอาริง ที่ตอนนี้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน และคำตอบนี้ของอาริงทำให้ทุกคนมั่นใจ100%แล้วว่าทั้งคู่กลับมาเกิดใหม่เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกและคงจะไม่พลัดพรากจากกันอีกแล้ว และทั้งหมดก็คุยกันอย่างสนุกสนานจนเวลาดึกทุกคนก็แยกย้ายไปนอน)


และเมื่อถึงเวลาเช้า พวกของลูฟเฟ่นก็พาอาริงและเจ้าแผลเพียบไปที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านเหมือนที่อาริงฝันไว้ทุกประการ
อาริง : "บ้านน่ารักจัง บ้านใครหรือนี่"(อาริงพูดไปก็ลูบๆคลำๆตัวบ้านไป)
ลูฟเฟ่น : "ก็บ้านของอาริงไง ลุงยกให้เลย อาริงจะได้ทำตามความฝันได้ยังไงละ "
อาริง : "ให้หนูจริงๆเหรอ อย่าหลอกกันนะ "(อาริงทำตาโตเพราะดีใจ)
ลูฟเฟ่น : "ให้จริงๆ เห้นไหมป้ายชื่อบ้านก็เป้นชื่อของอาริงกับเจ้าแผลเพียบ อุตสาห์นั่งทำเมื่อคืน"(ลูฟเฟ่นพูดและยื่นป้ายชื่ออาริงและแผลเพียบให้กับอาริงเอาไปแปะไว้ที่หน้าบ้าน)
อาริง : "ขอบคุณพวกลุงๆมาก ความฝันของหนูและเจ้าแผลเพียบจะได้เป้นความจริงสักที พวกเรามีบ้านอยู่แล้วนะแกดีใจไหมเจ้าแผลเพียบ เรา2คนไม่ต้องเร่ร่อนแล้วนะ"(อาริงดีใจมากพอๆกับเจ้าแผลเพียบ และอาริงก็จับเจ้าแผลเพียบโยนไปมาเพราะดีใจ)

ไม่รู้ว่าอนาคตต่อไปอาริงจะทำภารกิจสุดท้ายคือทำความฝันของตนเอง โดยทำให้คนที่โดดเดียวอ้างว้างและเหงาแบบตนเอง ให้ทั้งคนและมอนสเตอร์ได้มาเจอและเป้นเพื่อนรักกันได้เป้นผลสำเร็จไหม แต่ที่รู้ๆตอนนี้อาริงและเจ้าแผลเพียบก็ไม่เหงาและโดดเดียวอ้างว้างอีกต่อไปแล้วหลังจากที่พวกเค้าเคยพลัดพรากกันมาครั้งนึงแล้วเมื่อนานแสนนาน...............................

.....................................จบบริบูรณ์.......................................

quill
Sr. Member
****
กระทู้: 1,765

รูปชั่วคราว


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #531 เมื่อ: 22-11-2009, 14:33:23 »

ที่ 1  Smiley  ยินดีด้วยกับ เจ้าแผลเพียบ!!

ปล. ซึ้ง   Sad Wink Cry



quill farm

~สมาคมเดินเล่น~

วุ้นเทพตัวที่ 9 ผ่านไป 2 ปี 5 เดือน

อยากจะบอกว่าอย่าเปลี่ยนชื่อบ่อยนักเพราะมันจะลืมว่าป็นใคร - -
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #532 เมื่อ: 22-11-2009, 14:34:06 »

"ขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็โปรยปรายลงมาทุกเมือง"

เเม่เจ้า!!!งั้น เรดคลิฟ วิดเดิ้ลวู้ด ไชร์ ที่ต่างๆที่ไม่ใช่เซาเทิร์นฟอร์ทขนนกศักดิ์สทิธิ์ก็ตกอยู่เต็มเลยสิ(ไม่ได้รักษาใครเพราะตายเกิน1วัน)

ขนนกศักดิ์สิทธิ์ราคาตกฮวบเเน่ๆ!!! 5555+ laugh

บทส่งท้ายสุดยอดมากๆ อะไรจะเป๊ะขนาดนี้ ว่าเเต่อาริงกลับชาติมาเกิดเป็นอสุราป่าวอ่ะ หึๆ Evil

ยินดีด้วยนะครับป๋ากบทื่เเต่งจบเเล้วว่างๆก็ไปอ่านนิยายหน้าใหม่อย่างพวกเราบ้างล่ะ Cool



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #533 เมื่อ: 22-11-2009, 15:01:09 »

อยากให้เจ้าแผลเพียบและอาริงจำพวกลูฟเฟ่นได้จัง Sad

ป.ล.อยากให้มีภาค 2 รัก

ป.ล.2 พี่กบเอาไก่ลุงเบนมาจริงๆด้วย Evil



กร็วก
Asura Tester
Sr. Member
*
กระทู้: 1,433

กร็วก???........มันเป็นใครหว่า???.......นั้นอ่ะดิ?


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #534 เมื่อ: 22-11-2009, 15:29:15 »

     พึ่งรู้ว่าใส่ได้ไ่เกิน 20000 ตัว Shocked Shocked (แล้วใครจะใส่ถึงหล่ะนั้น - -*)

     จบแล้ว เย้ อวสานต์ ตลอดกาลไหม๊เนี้ย หรือว่า!!! จะมีภาค 2 มาเสริมอีก Shocked Shocked

     สนุกมากเลยครับ ถึงแม้จะพิมพ์ผิดอยู่พอสมควร - -*

หัดไปอัพบอร์ดบ้างสิย่ะ รู้นะว่าแกอู้!!!!!
หลานผู้พันคาร์เตอร์
Asura Tester
Hero Member
*
กระทู้: 2,256

เลื่อนไม่สิ้นสุด .. นิยายฉัน


เว็บไซต์
Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #535 เมื่อ: 22-11-2009, 16:21:30 »

กลับมาอ่าน ไล่ตั้งแต่ตอนที่ผมจากบอร์ดนิยายไป จนถึงบทส่งท้าย ปวดตามากมาย แต่ก็สนุก Smiley

!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #536 เมื่อ: 22-11-2009, 16:29:48 »

ไก่ลุงเบน ไก่ลุงเบน ไก่ลุงเบน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่
ปล. อาริงเลือดออกทุกที่เลย ถ้าเป็นภาพคงน่ากลัว บรื๋อ Shocked Shocked
ปล2.อ่าว ยังงี้อาริงก็งงแย่เซ๊ Huh? Huh? Huh? Huh?

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #537 เมื่อ: 22-11-2009, 17:15:53 »

อ้างจาก: GøøGle18940 ที่ 22-11-2009, 14:34:06
"ขนนกศักดิ์สิทธิ์ก็โปรยปรายลงมาทุกเมือง"

เเม่เจ้า!!!งั้น เรดคลิฟ วิดเดิ้ลวู้ด ไชร์ ที่ต่างๆที่ไม่ใช่เซาเทิร์นฟอร์ทขนนกศักดิ์สทิธิ์ก็ตกอยู่เต็มเลยสิ(ไม่ได้รักษาใครเพราะตายเกิน1วัน)

ขนนกศักดิ์สิทธิ์ราคาตกฮวบเเน่ๆ!!! 5555+ laugh

บทส่งท้ายสุดยอดมากๆ อะไรจะเป๊ะขนาดนี้ ว่าเเต่อาริงกลับชาติมาเกิดเป็นอสุราป่าวอ่ะ หึๆ Evil

ยินดีด้วยนะครับป๋ากบทื่เเต่งจบเเล้วว่างๆก็ไปอ่านนิยายหน้าใหม่อย่างพวกเราบ้างล่ะ Cool
ขนนกที่ตกถึงพื้นมันก็ฟื้นฟูต้นไม้ใบหญ้าไง  laugh
อาริงกลับมาเกิดเป้นเด็กธรรมดาไง  laugh
อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 22-11-2009, 15:01:09
อยากให้เจ้าแผลเพียบและอาริงจำพวกลูฟเฟ่นได้จัง Sad

ป.ล.อยากให้มีภาค 2 รัก

ป.ล.2 พี่กบเอาไก่ลุงเบนมาจริงๆด้วย Evil
อย่าจำได้เลย ชีวิตใหม่ก็เริ่มใหม่จะดีกว่า laugh
อ้างจาก: กร็วก ที่ 22-11-2009, 15:29:15
     พึ่งรู้ว่าใส่ได้ไ่เกิน 20000 ตัว Shocked Shocked (แล้วใครจะใส่ถึงหล่ะนั้น - -*)

     จบแล้ว เย้ อวสานต์ ตลอดกาลไหม๊เนี้ย หรือว่า!!! จะมีภาค 2 มาเสริมอีก Shocked Shocked

     สนุกมากเลยครับ ถึงแม้จะพิมพ์ผิดอยู่พอสมควร - -*
ก็เรานี่ไงพิมพเกิน 20000ตัว เลยเพิ่งรู้เหมือนกัน laugh laugh
ถ้าใครพิมพเยอะขนาดนี้แล้วไม่ผิดบ้างสิแปลก แค่อ่านเองยังตาลายเองเลย Cry
???????
Jr. Member
**
กระทู้: 105


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #538 เมื่อ: 22-11-2009, 17:59:23 »

จบซะแล้ว  Wink Wink Cry Cry
อีริตั้น
Sr. Member
****
กระทู้: 1,515

Status : Waiting for new signature!


Re: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)
« ตอบ #539 เมื่อ: 22-11-2009, 19:58:41 »

ลูซิสกลายเป็นเจ้าแม่ปลุกเสกไปแล้ว

"กินเป้นอาหารปะทังชีวิตในทุกๆวัน" ประทัง ครับ



กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
ป้าย:
หน้า: 1 ... 34 35 [36] 37