บทที่ 36. สิ้นสุดสงครามและบทสรุปของสงคราม
ในดินแดนสีขาวและสว่างสดใส เป้นครั้งที่2แล้วที่อาริงมาถึงดินแดนแห่งนี้ และอาริงที่ตอนนี้นอนนิ่งไม่หายใจแล้วนั้นกลับรู้สึกตัว และมีความรู้สึกสบายทั้งตัวและใจจนไม่อยากจะลุกไปไหนอีกแล้ว อยากจะนอนหลับอยู่ตรงนี้ไปตลอดกาล ไม่อยากสู้รบอีกแล้วเพราะเหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็มีเสียงหนึ่งปลุกอาริงขึ้นมา
เสียงสวรรค : "ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะมาที่นี่ เจ้าต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน "
อาริง : "ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันอยากพักแล้ว ฉันไม่อยากเห้นใครตายต่อหน้าต่อตาฉันอีกแล้ว"(อาริงพูดตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ แต่ก็มีสิ่งนึ่งมาสะกิดอาริงให้ลืมตา)
อาริง : "เจ้าแผลเพียบนี่ นี่เจ้าก็อยากให้ฉันลงไปสู้รบอีกหรือ เจ้าไม่อยากอยู่กับฉันหรือ"
วุ้นเทพแผลเพียบ: "เพี๊ยะ" (เจ้าวุ้นเทพแผลเพียบ เอามือน้อยๆที่อ่อนนุ่มตบไปที่หน้าของอาริง และเจ้าวุ้นเทพแผลเพียบก้ทำหน้าโกรธอาริง และชี้ให้อาริงดูภาพในเบื้องร่าง ที่เหล่านักรบและคนรู้จักของอาริงสู้รบกันอยู่)
อาริง : " เจ้าไม่รักฉันแล้วหรือ ถึงอยากให้ฉันลงไปสู้รบและเจอเหตการณืเห้นคนที่รู้จักตายต่อหน้าต่อตาอีก"(อาริงเอามือจับแก้มตัวเองที่โดนเจ้าวุ้นเทพแผลเพียบตบเอาปะกี้)
เสียงสวรรค : " เจ้าวุ้นเทพตัวนั้นมันรักเจ้าเหมือนเดิมละ แต่มันไม่อยากให้เจ้าทิ้งภารกิจและทิ้งเพื่อนร่วมรบแบบนี้ เจ้าได้อยู่กันแน่ๆ แต่ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า ตอนนี้กลับไปเถอะ"
อาริง : "ท่านต้องสัญญานะ เมื่อถึงเวลาต้องให้ฉันได้อยู่กับเจ้าแผลเพียบนะ "
เสียงสวรรค " ข้าสัญญา"(และเมื่อสิ้นเสียงสวรรค อาริงก็วูบหลับและมีแต่ความมึดมิดเข้ามาปกคลุมในหัว และอยู่ๆก้มีคนมาเขย่าตัวอาริง)นาฟตี้ : " ฮือๆๆๆ พี่อาริงตื่นๆๆ อย่าตายนะ ฮือๆๆๆ(คนที่เขย่าตัวอาริงคือนาฟตี้นั่นเอง และตอนนี้กองทัพของเมืองป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนียบุกเข้ามาทางด้านหลังเมืองแล้ว)
ฟริกซ์ : " ทำใจดีๆสินาฟตี้ พี่อาริงเค้าไปสบายแล้ว" (ฟริกซ์กัดฟันพูดปลอบนาฟตี้ที่ตอนนี้นาฟตี้กอดฟริกซ์และร้องไห้)
อาริง : " เสียงร้องใครเนี่ยปวดหูจัง "(อาริงพูดและลืมตามองไปที่ต้นเสียงนั้น)
นาฟตี้ : " ฮือๆๆ พี่อาริงยังไม่ตายๆๆ "(นาฟตีรีบเข้ามาประคองและกอดอาริงไว้)
อาริง : "ที่จริงพี่น่าจะตายไปแล้วละ เพราะพี่ถูกดูลาฮานแทนที่ท้อง"(อาริงชี้ให้ดูรอยแผลที่ท้อง แต่มีแต่รอยเสื้อที่ขาดแต่ไม่มีรอยแผลที่ถูกแทง)
อาริง : "น่าแปลกจัง ทำไมไม่มีแผลละ แต่มีแต่กองเลือดและรอยเสื้อที่ขาดเพราะถูกแทง"
นาฟตี้ : " ฮือๆๆ พี่ไม่ตายก้ดีแล้ว อย่าทิ้งหนูไปอีกคนนะ แค่นี้หนูก็จะขาดใจตายตามอยู่แล้ว ฮือๆ"(นาฟตี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด)
อาริง : "หมายความว่ายังไง ใครทิ้งนาฟตี้"(อาริงรีบคาดคั้นเอาคำตอบจากนาฟตี้ แต่นาฟตี้ไม่สามารถพูดได้เพราะเอาแต่ร้องไห้หนักกว่าเมอีก และสิ่งที่อาริงเห้นคือ มีกลุ่มทหารหลายคนทั้งแบกและอุ้มเหล่านักรบมาวางไว้ที่กลางเมืองมีทั้งคนเจ็บและตาย โดย 2คนที่ตายในกลุ่มนั้นอาริงรู้จักดีคือ ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่า ที่ทั้งคู่แม้จะตายแต่ก็ยังคงจับมือกันไว้แน่นจนไม่มีใครแกะมือของคนทั้ง2ได้)
อาริง : " ทำไมๆๆ ลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตายได้ยังไง"(อาริงรีบลุกขึ้นไปถามฟริกซ์)
ฟริกซ์ : "ตอนที่พวกเราบุกเข้ามา ก็เห้นในสภาพนี้แล้วละ ทั้ง2คนตายใกล้ๆกับแท่นเสาสีดำ ซึ่งทั้งคู่ก่อนตายก้ได้ทำลายแท่นเสาหินสีดำตรงตลาดนั้นแล้ว และคงได้สิ้นใจตายพร้อมๆกัน เพราะทั้ง2มีสีหน้ายิ้มให้กันและกันและมือทั้ง2คนก็กุมกันไว้แน่นไม่ปล่อยเลย"(ฟริกซ์เล่าไปพร้อมทั้งน้ำตา)
อาริง : "....."(ไม่มีเสียงใดๆออกมาจากปากของอาริง มีแต่น้ำตาไหลออมาจากดวงตาอาบสองแก้ม และยังไม่ทันที่จะพูดอะไร แท่นเสาหินสีดำอีกต้นที่อยู่หน้าโบสถ์ก็ถูกทำลายลงแล้วเหมือนกัน เพราะกองทัพป้อมปราการและวิลโดเนียเข้าไปช่วยรบด้วยทำให้สามารถทำลายแท่นเสาหินได้ และสักพักเหล่านักรบก็พยุงจตุกรมาจากทางโบสถ์ ซึ่งจตุกรก็อาการสาหัสเช่นกันแขนขาดไป2ข้าง)
ฟริกซ์ : "พี่อาริงตอนนี้พวกเราต้องรีบไปช่วยท่านโยฮานและกองทัพที่หน้าเมืองแล้ว เพราะตอนนี้เหลือศึกกับดูลาฮานที่หน้าเมืองเท่านั้นแล้ว"
อาริง: " ฉันจะฆ่ามันๆๆๆๆ"(อาริงได้แต่พูดอยู่คนเดียวประโยคเดิมซ้ำๆ ทำให้ฟริกซืและนาฟตี้ไม่สบายใจเหมือนกันที่เห้นอาริงเป้นแบบนี้เหมือนคนเสียสติ)ตอนนี้ในใจของอาริงมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจและมีความแค้นด้วย อาริงเลยเอาความแค้นเหล่านั้นมาใส่เป้นพลังของตนเอง และเมื่อถึงขึดสุดที่อาริงจะทนไหว เขาเล็กๆของอาริงก็ค่อยๆงอกยาวขึ้นมาจนเห้นได้ชัดเจน และที่มุมปากของอาริงก็เผยให้เห็นเขี้ยวของอาริงที่ยาวขึ้นกว่าแต่ก่อน และนี่เป้นครั้งแรกที่นาฟตี้และฟริกซ์เห็นอาริงในสภาพอสุราแบบนี้ และเมื่ออาริงพร้อมเต็มที่ก็วิ่งออกไปทางประตูเมืองโดยที่ไม่รอใครเลย ทำให้พวกฟริกซ์และกองทหารป้อมปราการตะวันออกต้องวิ่งตามออกมา และที่เหลือก็ให้แยกย้ายกันจัดการมอนสเตอร์ในเมืองที่เล็ดลอดสายตาไปได้ และเพียงพริบตาเดียวอาริงก็วิ่งมาทุ่งหญ้าหน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท และอาริงก็เอาแต่มองหาดูลาฮาน และเมื่ออาริงหาเจอแล้ว ร่างกายของอาริงที่เป้นอสุราก้ใช้สกิลคลุ้มคลั่งเองเพราะความแค้นและพุ่งตรงไปหาดูลาฮาน
อาริง : "
แกตายซะเถอะ " (อาริงพุ่งเข้าใส่ดูลาฮานพร้อมด้วยใช้วิชาดาบความเร้วสูง แบบสุดกำลังอสุรา ดูลาฮานเอาดาบและโล่รับไว้ แต่ตัวดูลาฮานเองถึงกับกระเด็นลงไปกองกับพื้นเป็นครั้งแรก)
ดูลาฮาน : "เจ้าเองหรือ ยังไม่ตายแถมยังเป็นอสุราเต็มตัวอีกหรือนี่ "
โยฮาน : " ใจเย็นๆอาริง เป้นอะไรไป"(ถึงโยฮานจะพูดเตือนอาริงใหระวังตัว แต่ในหัวของอาริงตอนนี้มีแต่ต้องฆ่าดูลาฮานให้ได้เท่านั้น เสียงอื่นจึงไม่เข้าหูอาริง)
ฟริกซ์ : " พูดอะไรไปตอนนี้พี่อาริงก็ไม่ได้ยินแล้ว พี่เค้าสติหลุดไปแล้ว ที่เห็นลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตาย"
โยฮาน : " อะไรนะ เค้า 2คนตายแล้วหรือ"(โยฮานได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกถึงความรู้สึกของอาริงในตอนนี้แล้ว)
ตอนนี้คนที่สู้รบก็รบไป คนที่จ้องมองดูคู่ของอาริงกับดูลาฮานก็ดูไป เพราะคงหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อาริงในยามที่เป้นอสุราและบ้าคลั่งแบบนี้ ก็ทำให้อาเวียตัวสั่นขึ้นมาอีก เพราะอาเวียเคยเห็นมาแล้วครั้งนึงที่เรดคลิฟเพียงแต่ครั้งนี้ดูน่ากลัวว่าครั้งที่เรดคลิฟมาก จนเรย์รันต้องเข้ามากอดอาเวียไว้ไม่ให้สั่น ตอนนี้แม้อาริงจะถูกฟันหรือถูกดูลาฮานเอาโล่กระแทกให้กระเด็น พออาริงกระเด็นถึงพื้นก้พุ่งตัวเข้ามาฟันใส่ดูลาฮานต่อแบบไม่สนใจชีวิตอีกแล้ว เพียงแค่ตอนนี้อาริงอยากจะจัดการดูลาฮานให้ได้เป้นพอ จะได้จบๆสงครามสักที 10นาทีผ่านไป อาริงก็ยังคงใช้ดาบความเร็วสูงฟันใส่ดูลาฮานอย่างบ้าคลั่ง จนร่างกายของอาริงก็ไม่สามารถรับสภาพนี้ได้แล้ว เพราะมีเลือดไหลออกมาทั้งตา 2ข้าง ทั้งจมูกและหู ส่วนดูลาฮานตอนนี้ทั้งตัวก็โดนฟันเป้นรอยถูกฟันมากมายนับไม่ถ้วน และไม่นานดาบและโล่ก็หลุดมือดูลาฮานไปพร้อมๆกับดูลาฮานที่ล้มลงไปนอนกับพื้น และสิ่งที่ทุกคนเห็นก้คือภาพที่อาริขึ้นไปยืนอยู่บนร่างดูลาฮานและยังฟันใส่ดูลาฮานแบบบ้าคลั่งต่อไป จนดาบเขี้ยวทมิฬหักไปแล้วก็ตาม อาริงก็นั่งลงและยังเอามือเปล่าๆชกใส่ดุลาฮานแบบไม่ยั้ง พร้อมทั้งตะโกนคำรามสุดเสียงด้วยความโกรธ และไม่นานอาริงก็สงบนิ่งลงไปเอง พร้อมทั้งนั่งร้องไห้อยู่บนศพของดูลาฮานที่ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว พวกนักรบเมื่อเห็นดูลาฮานตายแล้ว พวกนักรบก็ยิ่งมีกำลังใจมากกว่าเดิมและรีบไปกำจัดศัตรูที่เหลือ และพวกศัตรุที่เหลือเมื่อเห็นว่าดุลาฮานแพ้แล้ว พวกมันก็ไม่อยากสู้แล้วต่างพากันหนีกลับไปในที่ๆพวกมันอยู่ และพวกนักรบก็ส่งเสียงโห่ร้องประดาศชัยชนะที่หน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท แต่ชัยชนะของสงครามก็ต้องคู่กับการสูญเสียเพื่อนร่วมรบและญาติพี่น้อง และเมื่อสงครามสิ้นสุดภาพที่เห็นก็มีแค่ซากปรักหักพังของเมืองต่างๆ ซากศพของทั้ง2ฝ่าย สงครามไม่เคยมีดีอะไรเลย
อาริง :
"ทำไมๆๆ พระเจ้าท่านส่งข้ากลับลงมาอีกทำไม ท่านกลั่นแกล้งข้า ท่านให้ข้ากลับมารับความเศร้าโศกนี้อีกหรือ ทำไมๆๆๆๆๆ"(อาริงยืนและเงยหน้าตะโกนขึ้นไปบนฟ้า)
โยฮาน : " ทำใจเถอะอาริง สงครามมันก็แบบนี้ละ ข้าเห้นมานักต่อนักแล้ว"(โยฮานเข้ามาปลอกใจอาริง ในขณะที่ฟริกซ์ก็ปลอบใจนาฟตี้อยู่)
และอยู่ๆก็มีแสงสว่างบนท้องฟ้า แสงนั้นทอดลงมาถึงพื้นดินแสงและเมื่อเหล่านักรบได้โดนแสงนั้นก็รูสึกอบอุ่นขึ้นมาทันใด และอยู่ๆก็มีดวงไฟสีขาวสว่างสดใสขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้า และดวงไฟนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นหญิงสาวที่หน้าตาใจดีมากคนหนึ่งใส่ชุดและกระโปงขาวทั้งชุดและมีปีกสีขาวขนาดใหญ่อยู่กลางหลัง ซึ่งหน้าตาของหญิงสาวคนนั้นเหมือนกับรูปปั้นองค์เทวีลูซิสที่อยู่กลางเมืองเซาเทรินฟอร์ทเลย เหล่านักรบเมื่อเห้นดังนี้จึงนั่งลงและทำความเคารพโดยการก้มกราบตามๆกัน เพื่อทุกคนเชื่อว่าเป็นองค์เทวีลูซิส และพริบตานั้นองค์เทวีลูซิสยิ้มให้กับเหล่านักรบเบื้องล่าง และอยู่ๆองค์เทวีลูซิสก็ยืนมือ 2ข้างออกมาข้างหน้า และมือ2ข้างนั้นก็เปล่งแสงสว่างเป้นลูกกลมๆและสว่างมากจนแสบตาและลูกกลมๆแสงสว่างนั้นก็เกิดการแตกสลายไปกลางอากาศเป้นฝุ่นผงสีขาว และฝุ่นผงสีขาวนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป้นขนนกศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากมายมหาศาลที่ตกลงมาจากบนฟ้าไปทั่วทั้งท้องฟ้าไม่ใช่แค่ที่เมืองเซาเทรินฟอร์ท แต่มันกระจายตัวไปทั่วท้องฟ้าตกทั้งอณาจักรเมทัลลิกาน่า มันจึงเป้นภาพที่สวยงามมากจนไม่มีใครละสายตาไปจากภาพตรงนั้นได้เลยขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงตมาจากท้องฟ้านั้น เมื่อนขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกไปที่เหล่านักรบที่บาดเจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือสาหัส บาดแผลต่างๆก็จะสมานแผลและหายไปในที่สุด และเมื่อนขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกไปที่เหล่านักรบที่ตายแล้วกลับกลายเป้นการชุบชีวิตเหล่านักรบพวกนั้นขึ้นมา เมื่อพวกอาริงเห้นดังนั้นในหัวของทุกคนคิดได้อย่างเดียวเหมือนกัน และรีบวิ่งเข้าไปในกลางเมืองเซาเทรินฟอร์ท และสิ่งที่พวกอาริงเห็นคือเห้นลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าและนักรบที่เคยนอนตายแถวนั้นลุกขึ้นมานั่งกันหมด นาฟตี้เป้นคนแรกที่กระโดดเข้าไปกอดลูฟเฟ่น ซึ่งลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าและนักรบที่ตายไปแล้วก็คงยังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน และฟริกซ์เลยเล่าเหตการณ์ที่ลูฟเฟ่นกับวาเนสซ่าตาย และโยฮานก็เล่าถึงเหตการณ์เหล่าขนนกศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย ทำให้ตอนนี้ทุกคนมีแต่สีหน้ายิ้มแย้มดีใจกันเป้นที่สุด
และนักรบทุกคนก็ออกไปรวมตัวกันที่ทุ่งหญ้าหน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท ซึ่งตอนนี้ไม่มีซากศพและรอยเลือดต่างๆของเหล่ามอนสเตอร์แล้ว เพราะองค์เทวีลูซิสได้เสกให้ซากศพมอนสเตอร์เหล่านั้นกลับไปในที่ๆพวนั้นเคยอยู่และมอบชีวิตให้ใหม่แต่ก็ล้างจิตใจที่ไม่ดีออกไป และปล่อยให้มอนสเตอร์เหล่านั้นกลับไปอยู่ในที่เดิมของแต่ละตัว และยังไม่ทันที่อาริงจะตะโกนถามบางเรื่อง ก็เหมือนองค์เทวีลูซิสจะรู้ใจเลยชิงพูดซะก่อน
องค์เทวีลูซิส : "ขนนกศักดิ์สิทธิ์พวกนี้กระจายไปทั้งอณาจักร และขนนกศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ จะใช้ชุบชีวิตได้แค่กับมนุษย์ที่ตายภายในวันนี้เท่านั้น ส่วนมอนสเตอร์ไม่ว่าจะดีหรือเลว ข้าก็ได้เสกให้พวกนั้นกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมเช่นกันและข้าก็ส่งพวกนนั้นกลับไปยังที่ๆพวกนั้นอยู่และชะล้างจิตใจให้แล้ว ข้าก็ช่วยพวกเจ้าได้เท่านี้ละนะ "(องค์เทวีลูซิสพูดด้วบใบหน้าและน้ำเสียงที่อบอุ่นมาก)
โยฮาน : " แค่นี้ก็ดีมากแล้ว"
องค์เทวีลูซิส : "ถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปสวรรคแล้ว ข้าขออวยพรให้เหล่ามนุษย์ มอนสเตอร์ และสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกนี้อยู่ด้วยความสันติพึ่งพาอาศัยกัน"(องค์เทวีลูซิสพูดอวยพร พวกนักรบทุกคนก็ยิ้มรับคำอวยพรนี้)
องค์เทวีลูซิส : " ไปกันเถอะอาริง เจ้าก็ถึงเวลาแล้วเหมือนกัน"(องค์ลูซิสพูดและมองมาทางอาริงและส่องลำแสงสีขาวนวลมาที่อาริงและตัวของอาริงก็ค่อยๆลอยตามลำแสงสีขาวไปอย่างช้าๆ และโยฮานและพวกลูฟเฟ่นก็ใจหายและตกใจกับคำพูดขององค์เทวีลูซิสทันที)
โยฮาน : " อาริงยังไม่ตายไม่ใช่หรือ แล้วท่านจะพาอาริไปไหน"
องค์เทวีลูซิส : " อาริงเค้าตายไปแล้วตั้งแต่ตอนที่โดนดูลาฮานฆ่าตายในเมืองเซาเทรินฟอร์ท และข้าก็ชุบชีวิตเค้าขึ้นมาชั่วคราวเพื่อสะสางภารกิจกับพวกเจ้าก่อน และเพื่อให้เค้าได้มาเห็นเหตการณ์นี้แล้วจะได้สบายใจว่าพวกเจ้าปลอดภัยและจะได้ให้อาริงมาบอกลาพวกเจ้าด้วย เพราะข้าไม่อยากพาอาริงไปในตอนที่เค้ายังมีห่วงมากมายในตอนนั้น)
นาฟตี้ : "ไหนท่านบอกว่าชุบชีวิตแล้วไง แสดงว่าพี่อาริงไม่ตายแล้วนี่ แล้วทำไมต้องพาไปอีก"
องค์เทวีลูซิส : " อาริงเค้ายังมีภารกิจสุดท้ายที่อยู่ในใจของเค้าอยู่ เป้นภารกิจที่อาริงเองต้องการมาตลอด จริงไหมอาริง"(องค์เทวีลูซิสพูดและมองมาที่อาริง ที่ตอนนี้อาริงมีสีหน้าสบายใจหมดห่วงแล้ว เพราะทุกคนปลอดภัยดีและสงครามก็จบแล้ว และอาริงก็พยักหน้าตอบว่าเค้ายังมีภารกิจของเค้าอยู่)
อาริง : " ขอให้ทุกคนโชคดีนะ ฉันรักทุกคนนะแต่ฉันต้องไปตามทางเดินที่ใจฉันปราถนาของฉันแล้ว เอ้อ..ไม่ต้องร้องไห้นะ ใครร้องไห้พี่โกรธจริงๆนะ ส่วนท่านโยฮานฉันขอบคุณในความรักของท่านนะฉันจะไม่มีวันลืมเลย แล้วสักวันพวกเราคงได้พบกันใหม่"(อาริงพูดลาแล้วยิ้มให้กับทุกคน)
และทั้งองค์เทวีลูซิสและอาริงที่ลอยอยู่ข้างๆองค์เทวีลูซิสก็หายตัวไปในที่สุด ทิ้งให้พวกของลูฟเฟ่นและโยฮานมองท้องฟ้าที่มีแต่ความว่างเปล่า แต่ไม่มีใครร้องไห้เพระอาริงสั่งไว้แต่ทุกคนก็รู้ว่าทุกคนร้องไห้อยู่แต่ร้องไห้ในใจ................................บทสรุปของสงคราม
องค์เทวีลูซิสสละพลังและชีวิตบางส่วนมาเสกทำขนนกศักดิ์สิทธิ์ เพื่อชุบชีวิตมนุษย์ที่ตายในวันที่ทำสงครามนี้ และยังชุบชีวิตเหล่ามอนสเตอร์และชะล้างจิตใจที่ดำมึดของพวกมันด้วย
สาธุคุณมอเร่ย์ใช้พลังความมึดมากไปจนเสียสติและเป็นบ้า เที่ยวเก็บขยะในถังขยะกินเป้นอาหารปะทังชีวิตในทุกๆวัน และยังโดนชาวเมืองเอาก้อนหินไล่ปาทุกวัน
คิงจุ๊พญานกยักษ์ก็ได้เหล่านกจุ๊เด็กตัวน้อยๆกลับคืนมา โดยที่ลูฟเฟ่นพามาส่งที่วิลเดอวู้ด และคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็พาพรรคพวกกลับเข้าป่าของมันไป
จตุกรและเคออสติคก็กลับไปยังพื้นที่ของตนตามปกติ และบางครั้งก็ออกมากินเบียร์กับพวกทหารที่ป้อมเดธวิลเล่ย์
ส่วนกอบบลินก็ขออาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆต่อไป และช่วยมนุษย์สร้างปืนใหญ่เพื่อป้องกันเมืองอีกด้วย
เอลฟ์และราชินีป่าไม้ก็กลับเข้าป่าแกรนฟอเรสตามเดิม
พวกเขี้ยวทมิฬก็พยายามฝึกฝนตนเองให้เก่งขึ้นเพื่อไม่ให้เมืองของตนเองโดนยึดได้อีก
กัปตันแจ็คดีสปอยเลอร์และเหล่าโจรสลัดก็เปลี่ยนมาทำการค้าขายตามเมืองต่างๆโดยอาศัยล่องเรือไปตามเมืองชายทะเลที่อยู่ห่างไกล
ไก่จ๊วบก็กลับมาอาศัยที่เมืองเซาเทรินไซร์และเปิดฟาร์มไก่และเอาไก่ของตัวเองมาแข่งตีกับไก่ของลุงเบนที่ลุงเบนหอบไก่ของตัวเองหนีไปในป่าได้เช่นกันเวลาเกิดสงคราม
นาพญาน้ำแข็งไอซซี่ก็กลับไปเป้นเทพพิทักษ์เมืองวิลโดเนียต่อไป และเรนาร์ดก็ขอไปประจำการอยู่ที่วิลโดเนียเป้นการถาวร ส่วนป้อมปราการตะวันออกก็ยังคงเป้นป้อมที่แข็งแกร่งอยู่เช่นเคย
ลูฟเฟ่นและวาเนสซ่าก็ปลูกบ้านและอาศัยอยู่ที่เมืองเซาเทรินไซร์เพราะวาเนสซ่าชอบเมืองนี้ เพราะเงียบสงบกว่าเมืองหลวงและดูร่มรื่นกว่าเพราะมีป่าไม้มาก
ฟริกซ์และนาฟตี้อาศัยอยู่ที่เซาเทรินฟอร์ท เพราะฟริกซ์ต้องเป้นหัวหน้าของหน่วยนักล่าที่จัดตั้งใหม่
อาเวียและเรย์รันก็อาศัยอยู่ที่ป้อมเดธวิลเล่ย์ เพระอาเวียได้ตำแหน่งเป้นผู้พันแล้วเลยต้องปกครองทหารที่ป้อมเดธวิลเลย์
คนแคระเคนก็พัฒนากระโจมของตนเองที่หน้าถ้ำผลึกให้เป้นรีสอททะเลทราย
โยฮานก็เดินทางไปเรื่อยๆตามแต่ใจต้องการและคอยช่วยเหลือชาวบ้านตามที่ต่างๆ นานๆจะมีคนเห้นโยฮานสักที
บทส่งท้ายอยู่กระทู้ถัดไปพอดีตัวอักษรเกิน 20000ตัว เลยต้องตัดไปอยู่อีกกระทู้นึง