GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 37
ผู้เขียน หัวข้อ: Fan Fictionอสุรา" นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร"บทที่36บทสรุป/บทส่งท้าย (22/11/52)  (อ่าน 16051 ครั้ง)
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #495 เมื่อ: 18-11-2009, 17:21:59 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 18-11-2009, 10:43:02
ทำไมนักรบมันถึงไม่ยอมฟังกันเลย-*-

ถ้าอยู่ในสงครามจริงๆแล้วเราเป็นไก่ลุงเบนนะ(วนมาที่ไอตัวนี้อีกละ=_=)

จะจิกพวกนักรบให้ตายเลยย>_<

ป.ล.ตัวเองหนักกว่าใคร=_=;
เนื่องจากเหล่านักรบที่มารบไม่ใช่แค่กลุ่มเดียว แต่เป้น5กลุ่มจากที่อื่นที่มารบ ฉะนั้นย่อมมีบางคนบางกลุ่มที่ยังไม่ค่อยเชื่อฟังคนอื่นๆมากนัก ย่อมต้องมีพวกแตกแถวไม่เชื่อฟังบ้างเป็นธรรมดา ^^
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #496 เมื่อ: 18-11-2009, 17:24:48 »

....เเล้วไผ่เดือดล่ะหมายความว่าไง?มันมาจากไหนอ่ะ Huh?



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #497 เมื่อ: 18-11-2009, 17:29:26 »

อ้างจาก: GøøGle18940 ที่ 18-11-2009, 17:24:48
....เเล้วไผ่เดือดล่ะหมายความว่าไง?มันมาจากไหนอ่ะ Huh?
ก็เป็นไผ่ธรรมดาที่ขึ้นโจมตีในตอนแรกและโดนไฟเผา และบางต้นเกิดความแค้นเลยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป้นไผ่เดือดทีต้องการจะแก้แค้นพวกไผ่ที่ถูกเผาตายเลยเป้นไผ่เดือดอีกทีมาโจมตีต่ออีทีเพราะความแค้น
TheørY DøT@
Sr. Member
****
กระทู้: 1,710

อยากเจอเพื่อน


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #498 เมื่อ: 18-11-2009, 18:51:09 »

ไหงไผ่เดือดเก่งจังเรื่องจริงต้องอ่อนไม่ใช่เหรอ Huh?

กำลังปรับปรุง
???????
Jr. Member
**
กระทู้: 105


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #499 เมื่อ: 19-11-2009, 00:12:47 »

 รัก รัก รัก
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #500 เมื่อ: 19-11-2009, 01:19:13 »

อ้างจาก: LørD DøT@ ที่ 18-11-2009, 18:51:09
ไหงไผ่เดือดเก่งจังเรื่องจริงต้องอ่อนไม่ใช่เหรอ Huh?
ก็นี่มันนิยายนี่ ไม่ใช่เรื่องจริง Huh? Huh?
เลสตัวแม่
Hero Member
*****
กระทู้: 6,747


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #501 เมื่อ: 19-11-2009, 06:02:00 »

อ้างจาก: อาริงกิ๊งกิ๊ง ที่ 19-11-2009, 01:19:13
อ้างจาก: LørD DøT@ ที่ 18-11-2009, 18:51:09
ไหงไผ่เดือดเก่งจังเรื่องจริงต้องอ่อนไม่ใช่เหรอ Huh?
ก็นี่มันนิยายนี่ ไม่ใช่เรื่องจริง Huh? Huh?

ในนิยายอะไรก็เกิดขึ้นได้
 laugh laugh laugh
/人◕ ‿‿ ◕人\
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 2,715


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #502 เมื่อ: 19-11-2009, 15:24:25 »

กลายเป็นกระทู้ถาม-ตอบไปแล้ววววววววว >w<

What Time is it....
Hero Member
*****
กระทู้: 5,137


นามเดิม SLEEP...zzzZZZ


เว็บไซต์
Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #503 เมื่อ: 19-11-2009, 17:14:31 »

อ้างจาก: LørD DøT@ ที่ 18-11-2009, 18:51:09
ไหงไผ่เดือดเก่งจังเรื่องจริงต้องอ่อนไม่ใช่เหรอ Huh?

ลากมอนเตอร์เกิน 8 ตัว พลังป้องกันและหลบจะเหลือ 0 ไง   Evil

Who am I...?
นามใน Asura - คิล(คิว)
นามบุพการีตั้งให้ - ป๊อป
แล้วแต่จะเรียก ตามสะดวกครับ ^^

Status:ออนได้แต่บอร์ด

พวกคุณบางคนบอกว่าเกลียดการล่าแม่มด
นั่นเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนถูกล่ามาตลอด
แต่พอคุณได้เป็นผู้ล่าบ้าง
ก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับคนที่คุณเกลียดเลย



matic
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #504 เมื่อ: 19-11-2009, 17:31:32 »

คาดว่า คงจบที่บทที่ 35+บทส่งท้าย เพราะศึกเซาเทรินฟอร์ทจะเขียนบทที่34-35+บทส่งท้ายในบทที่35 ซึ่งตอนจบก้กำลังคิดอยุ่ว่าจะใช้แบบไหนดี มีหลายตัวเลือกในหัว ^^
!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #505 เมื่อ: 19-11-2009, 18:09:56 »

ลูฟเฟ่นบทสุดท้ายของตอนที่33 ทำไมมันดูแปลกๆหว่า Evil Evil(ย้อนไปดูบทฟูดสุดท้ายของลูฟเฟ่นเองฮับ~^^)

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #506 เมื่อ: 19-11-2009, 18:58:06 »

ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)


ต้องแก้ใหม่เป็น

ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง (และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)

ป้ากบลืมเขียนวงเล็บ ดีนะเรปบนบอกไม่งั้นไม่ได้ย้อนขึ้นไปดู Evil



!=ตัวป่วนบอร์ด=!
Sr. Member
****
กระทู้: 1,760

แฮปปี้เบิร์ธเดย์จ้า ท่านซานต้า


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 33 (18/11/52)
« ตอบ #507 เมื่อ: 19-11-2009, 19:08:32 »

อ้างจาก: .Lovelo. ที่ 19-11-2009, 18:58:06
ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)


ต้องแก้ใหม่เป็น

ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง (และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)

ป้ากบลืมเขียนวงเล็บ ดีนะเรปบนบอกไม่งั้นไม่ได้ย้อนขึ้นไปดู Evil
ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง (และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)
ป่าวหรอก มันยังมีอิกจุด

ลูฟเฟ่น : " งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งข่าวให้เตรียมเดินทัพและไปเล่าเรื่องของคิงจุ๊พญานกยักษ์ให้กับเหล่านักรบฟัง" (และลูฟเฟ่นก็เดินออกจากบ้านไปและอาริงก็เดินเข้าไปปลอบใจวาเนสซ่าอีกทีว่าไม่ได้เป้นความผิดของใคร และเพียงแค่ 10นาที เคลริค5คนนั้นที่เคยปฎิเสธรักษาคิงจุ๊พญานกยักษ์ก็เดินเข้ามาในบ้าน และเข้ามาใช้เวทย์รักษาให้กับคิงจุ๊พญานกยักษ์ด้วยสีหน้าที่เศร้าและมีรอยน้ำตา คงเพราะได้ฟังเรื่องจากที่ลูฟเฟ่นเล่าแล้ว)

นี่สิ ถูกต้อง Evil Evil Evil(บุพสัญญาปะหว่า ลืมและ งงๆอยู่- -")

http://up.gameindy.com/5/71852.f7060c3b.htmlโอ้แม่เจ้า....
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 34 (20/11/52)
« ตอบ #508 เมื่อ: 20-11-2009, 11:29:48 »

บทที่ 34. สงครามที่เซาเทรินฟอร์ท

เมืองเซาเทรินไซร์และเมืองวิลเดอวู้ด โดนโจมตีก่อนที่จะถึงเวลาที่พวกนักรบจะโจมตีเมืองเกือบ 2ชั่วโมงพร้อมๆกัน และที่เซาเทรินฟอร์ทก็ไม่ต่างกัน เวลา6.00 ที่เหล่านักรบส่วนมากกำลังจัดเตรียมพร้อมรบ แต่ยังไม่ได้เตรียมตัวเต็มที่เพราะยังไม่ถึงเวลา อยู่ๆก็เกิดพายุทรายพัดเข้ามาหากองทัพของโยฮานอย่างแรง โดยพายุทรายนี้พัดมาจากทางทะเลที่อยู่ห่างจากกองทัพของโยฮานไปเกือบ 5 กิโลเมตร และไม่ทันที่พายุทรายจะสงบ อยู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างแรง ทำให้เหล่านักรบยืนกันไม่ได้ต้องหาที่เกาะหรือไม่ก้ต้องหมอบตัวลง และที่พักพังลงมาและทำให้หลายคนบาดเจ็บแต่ไม่มีใครเป้นอะไรถึงชีวิต และสิ่งที่อยู่ๆก็โผล่มาจากพายุทรายและที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวคือ "กัลก้าราชาแผ่นดินไหว" โกเลมขนาดใหญ่กว่าปกติ 3เท่า ที่พากองทัพโกเลมจำนวนหลายร้อยตัวมาโจมตีกองทัพผสมของโยฮานจากด้านหลังของกองทัพโยฮาน และนั้นเองก็เป้นสัญญานเริ่มต่อสู้ที่เมืองเซาเทรินฟอร์ท

พวกเบรดดาบใหญ่ และเหล่าเบอร์เซอร์เกอร์ขวานใหญ่จำนวนเกือบ 50คนก็เหมือนรู้หน้าที่ตัวเอง รีบเข้าปะทะกับเหล่ากองทัพโกเลม โดยมีเหล่าวิสาทร่ายเวทย์ไฟโจมตีพวกโกเลม เพราะพวกโกเลมเป้นธาตดินแพ้เวทย์ไฟอย่างแรง ส่วนพวกทหารก้ใช้พวกระเบิดจัดการเหล่าโกเลมเช่นกัน ถึงแม้นักรบกองหน้าที่เข้าปะทะจำนวนจะน้อยกว่ามาก แต่มีประสบการณ์ในการรบเยอะเพียงไม่ถึง 30นาที ก็เหลือแค่โกเลมประมาณ50-70ตัวที่อยู่ล้อมรอบเพื่อปกป้องกัลก้าราชาแผ่นดินไหว และยังไม่ทันทีนักรบจะบุกเข้าไปจัดการกับกัลก้าราชาแผ่นดินไหว อยู่ๆก้มีลูกไฟจำนวนมากพุ่งใส่กองทัพของโยฮานหลายร้อยจุด และเมื่อนักรบมองขึ้นไปบนฟ้าจึงเห็น "อสูรเพลิง" และ " ค้างคาวอาฆาต " กำลังบินโฉบและพ่นลูกไฟลงมาที่กองทัพโยฮาน

โยฮาน : "พวกเบรดและเบอร์เซอร์เกอร์ ที่โจมตีโกเลมประกี้ ให้ทำหน้าที่ต่อไปโดยการจัดการกัลก้าราชาแผ่นดินไหวให้ได้โดยเร็วแล้วรีบกลับมา ส่วนนักเวทย์คนไหนที่ใช้เวท์น้ำแข็งได้ก็จัดการเหล่าฝูงอสูรเพลิงและค้างคาวอาฆาตด้วย"(นักเวทย์สายน้ำแข็งพยายามร่ายเวทย์น้ำแข็งใส่ แต่พวกอสูรเพลิงและค้างคาวอาฆาตมันบินไวและอยู่สูงเกินที่เวทย์จะร่ายถึง)
อาเวีย : "ท่านโยฮานฉันมีความคิดอะไรดีๆอย่างหนึ่งได้ละ "(อาเวียเลยกระซิบบอกโยฮาน และโยฮานก็เห้นดีด้วย)
โยฮาน : " นักเวทย์ที่ร่ายเวทย์น้ำแข็งได้ รีบร่ายเวทย์น้ำแข็งใส่ลูกธนูของเหล่าเรนเจอร์และชาร์ปซูตเตอร์ทันที เพื่อทำให้ลูกธนูพวกนั้นเป้นลูกธนูที่มีพลังเวทย์น้ำแข็งเพื่อยิงพวกธาตไฟ "(สิ้นเสียงสั่งของโยฮาน)

เหล่านักเวทย์ก็เริ่มจับคู่กับพวกเหล่าเรนเจอร์และชาร์ปซูตเตอร์เพื่อร่ายเวทย์น้ำแข็งลงไปในลูกธนูแต่ละดอกเพื่อให้ได้เป้นลูกธนูที่มีพลังเวทย์ธาตน้ำแข็ง เพื่อจัดการกับพวกธาตไฟโดยเฉพาะ และเหล่าเรนเจอร์และชาร์ปซูตเตอร์ก็ระดมยิงธนูน้ำแข็งใส่อสูรเพลิงและค้างค้าวอาฆาต จนทำให้อสูรเพลิงและค้างคาวอาฆาตที่โดนลูกธนูน้ำแข็งถึงกับแข็งเป้นน้ำแข็งทันทีและก็ตกลงมาพื้นทรายพวกทหารที่เหลือก็ช่วยกันยิงให้แตก และหลายสิบตัวก็ตกลงมาโดนหินแตกกระจายไปทันที และเวลาผ่านไป 30-40 นาทีพวกโกเลมที่นำทัพโดยกัลก้าราชาแผ่นที่ดินไหวและเหล่าอสูรเพลิงและค้างคาวอาฆาตก็โดนจัดการหมด โดยที่ฝ่ายโยฮานสูญเสียคนแค่ประมาณ20-30คนเองและมีคนบาดเจ็บเล็กน้อยและบาดเจ็บสาหัสเพระแผลไฟลวกหลายสิบคน โยฮานเลยสั่งให้ทุกกลุ่มที่ยังสู้ไหวแยกกันไปตั้งแถวตามกลุ่มและเดินหน้าบุกไปหน้าเมืองเซาเทรินฟอร์ททันที

ส่วนฝ่ายกองทัพป้อมปราการตะวันออกและกองทัพเมืองวิลโดเนีย ก็โดนลอบโจมตีตอนเวลา 6.00 เหมือนกับทุกกองทัพเช่นกัน โดนกองทัพหมีบราวน์กริซซี่ประมาณ 700-800ตัว โดยมีกรงเล็บพิฆาตชิกูร่าเป้นหัวหน้าฝูงบุกโจมตีอย่างรวดเร็วแต่ก้ต้องพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องถึงมือพวกนักรบสู้เลย พวกหมีบราวน์กริซซี่ประมาณ 700-800ตัว และกรงเล็บพิฆาตชิกูร่าก็พ่ายแพ้อย่างไวไม่เกิน 15นาที เพราะโชคดีของกองทัพป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนีย ที่การรบครั้งนี้พวกเค้ามีนักรบปริศนาที่แข็งแกร่งมากมาช่วยด้วยอีกแรงและเธอก็เป้นคนที่คอยดูแลกองทัพนี้เช่นกัน เพราะเธอเป้นเทพพิทักษ์ประจำเมืองวิลโดเนีย เธอคือ ราชินีน้ำแข็งไอซซี่ ซึ่งเธอคนนี้ก็เป้นราชินีน้ำแข็งไอซซี่คนเดียวกันกับที่เคยเป้นอดีตคนรักของเรนาร์ดที่เป็นราชินีน้ำแข็งไอซซี่ในครั้งศึกวิลโดเนี่ยนั่นเอง ก่อนที่กองทัพวิลโดเนียจะออกเดินทางมาสมทบกันที่ป้อมปราการตะวันออก 3วัน อยู่ๆเมืองวิลโดเนี่ยที่หนาวเย็นเพราะเป็นเมืองหิมะอยู่แล้ว อยู่ๆก็หนาวเย็นแบบเย็นเข้าไปถึงกระดูก ขนาดที่ว่าชาวเมืองที่อยู่มาทั้งชีวิตยังไม่เคยหนาวเย็นถึงเพียงนี้ และไม่นานก็มีดาวตกไม่ใหญ่มากแต่สว่างสดใสพุ่งเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง และอยู่ๆถ้ำน้ำแข็งก็มีแสงสว่างจนแสบตาออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง และสักพักราชินีน้ำแข็งไอซซี่ก็ลอยออกมานอกถ้ำมาหยุดอยุ่ที่กลางเมือง และเมื่อเรนาร์ดเห้นราชินีน้ำแข็งไอซซี่ก็ต้องตกใจเพราะเป้นใบหน้าเดิมๆของราชินีน้ำแข็งไอซซี่คนเก่าที่เป้นคนรักของตนแต่เรนาร์ดก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกันไหม และเมื่อราชินีน้ำแข็งไอซซี่มองเห้นเรนาร์ดราชินีน้ำแข็งไอซซี่ก็ลอยมาหาเรนาร์ดและเรียกชื่อเรนาร์ด เรนาร์ดเลยรู้ว่าเป็นราชินีน้ำแข็งไอซซี่คนเดิมที่ตายไปแล้วในครั้งนั้นที่ศึกวิลโดเนี่ยครั้งนั้น ราชินีน้ำแข็งไอซซี่เลยขอร่วมเดินทางมาครั้งนี้ด้วย และราชินีน้ำแข็งไอซซี่ก็ไม่ได้ทำให้กองทัพผิดหวัง กองท้พป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนียถูกบุกแบบทันทีทันใดแบบที่ไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ได้ราชินีน้ำแข็งไอซซี่ช่วยกำจัดศัตรูให้ โดยที่ราชินีน้ำแข็งไอซซี่เอาความแค้นในครั้งนั้นที่ศึกวิลโดเนี่ยมาโจมตีโดยการจับพวกกองทัพหมีบราวน์กริซซี่แช็งแข็งทันทีโดยใช้พายุหิมะที่มีความเย็นมากกว่าปกติ และเมื่อแช่แข็งเสร็จแล้วก็ใช้พายุศรน้ำแข็งระดมยิงใส่พวกศัตรูที่ถูกแช่แข็งแล้ว และกองทัพป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนียก็ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่เมืองเซาเทรินฟอร์ทในทันทีเลยโดยไม่รอเวลา8.00แล้ว

และเมื่อกองทัพของโยฮานมุ่งหน้ามาเซาเทรินฟอร์ทและอยู่ห่างจากกำแพงเมืองเพียง 300 เมตร ก็เริ่มมองเห็นแท่นเสาสีดำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองตรงจุดที่เคยเป้นรูปปั้นของเทวีลูซิส และสิ่งที่โยฮานตกใจยิ่งกว่านั้น ยังเห้นยอดเสาของแท่นเสาสีดำอีก 2ต้น อยู่ที่บริเวณแถวๆโบสถ์และอีกต้นอยู่แถวๆตลาดที่จะไปที่ทางออกด้านหลังของเมือง

โยฮาน : " ทำไมแท่นเสาหินถึงเพิ่มมาเป้น 3ต้นละ "(โยฮานรู้สึกแปลกใจและตกใจ เพราะโยฮานมีหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งแค่1อันเอง และอีก 2ก้อนอยู่ที่อาริงและลูฟเฟ่นที่ไปโจมตีเมืองเซาเทรินไซร์และวิลเดอวู้ด)
อาเวีย : " ถ้างั้น แล้วเมืองที่พี่อาริงและลูฟเฟ่นไปยึดคืนละ เกิดอะไรขึ้น"
โยฮาน : "นี่มันผิดแผนที่ข้าคิดไปเลยนะ ถึงเราทำลายเสาได้1ต้น แต่ยังเหลืออีก 2ต้น ไม่ได้การละ ข้าต้องส่งคนไปที่เมืองที่ลูฟเฟ่นและอาริงสู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น"(โยฮานพูดเสร็จและหันไปสั่งแอสซาซิน 4คน ไปดูเหตการร์ที่เมืองวิลเดอวู้ดและเซาเทรินไซร์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไม่ทันที่แอสซาซิน 4คนจะได้ไปไหน อยู่ๆแอสซาวฺน4คนก็ไม่สามารถเดินไปไหนได้ เพราะขาของพวกเค้าโดนใยแมงมุมมัดและติดอยู่กับพื้นและก็มีเสียงหนึ่งพูดมาจากบนกำแพงเมืองเซาเทรินฟอร์ท)

ชายในชุดคลุมสีแดง : "จะรีบไปไหนกัน อยู่ลิ้มรสชาติความตายกันก่อนสิ "(ชายในชุดคลุมสีแดงพูดเสร็จก็มีเหล่าใยแมงมุมพุ่งออกมาตามต้นไม้ และตามพุ่มไม้มากมาย จนทำให้นักรบที่ติดใยแมงมุมแล้วไม่สามารถขยับไปไหนได้ )
ชายในชุดคลุมสีแดง : "ขอแนะนำ ใยแมงมุมที่เหนียวแบบนี้มาจากเหล่า แมงมุมกินศพ ไม่ต้องกลัวพวกนี้ไม่ทำอะไรพวกเจ้าตอนเป้นๆหรอก พวกมันจะรอให้พวกเจ้าตายก่อนแล้วค่อยกินศพพวกเจ้า ฮ่าๆๆ)
โยฮาน : " แกเป้นหัวหน้าของกลุ่มชั่วร้ายใช่ไหม ถึงสั่งมอนสเตอร์พวกนี้ได้ง่ายดายเพียงนี้ เจ้าเป้นใคร"
ชายในชุดคลุมสีแดง : "ข้าเป้นผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยนับถือและศรัทธาในองค์เทวีลูซิส แต่เดี๋ยวนี้ข้าเลิกศรัทธาแล้ว และข้าจะพยายามเปลี่ยนแปลงอณาจักรนี้ให้เป้นอณาจักรในอุดมคติของข้า ฮ่าๆๆ)
โยฮาน : "เจ้าเป้นใครกันแน่"
ชายในชุดคลุมสีแดง : "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ข้าจะบอกพวกเจ้าละกัน เพราะไม่รู้ข้าจะได้เจอหน้าพวกเจ้าอีกไหม เพราะศึกนี้พวกข้าต้องชนะแน่ๆ(ชายในชุดคลุมสีแดงพูดเยาะเย้ยเสร็จก็ดึงผ้าคลุมออกเผยให้เห้นใบหน้าและชุดนักบวชชั้นสูง แต่ชุดนักบวชนั้นเป้นสีดำทั้งชุด)
ชายในชุดคลุมสีแดง : " ข้าคือชายที่ครั้งหนึ่งเคยศรัธาในองค์เทวีลูซิส แต่ตอนนี้ข้าศรัธาในองค์เทวีอาทรัม ข้าคือ " สาธุคุณ มอร์เร่ย์ " องค์เทวีอาทรัมได้มาให้ข้าเห็นในฝันและให้ข้าเห้นนิมิตในการทำลายล้างอณาจักรนี้และสร้างอณาจักรใหม่ และยังให้อำนาจแก่ข้าในการควบคุมอนสเตอร์และกองทัพความมึดของนาง เพื่อให้ข้าเป้นตัวแทนของนางที่จะทำลายล้างอณาจักรนี้ แต่ตอนนี้ เจ้าพวกแมงมุมกินศพคงหิวและรอให้พวกเจ้าเป้นศพแล้วละ งั้นข้าจะสงเคราะให้แล้วกันนะ โดยใช้1ในกองทัพความมึดขององค์เทวีอาทรัม"


สาธุคุณ มอร์เร่ย์พูดเสร็จก็มีเหล่านักโทษผีดิบจำนวน 5000 ตัว โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินล้อมกรอบกองทัพของโยฮานไว้ทุกกลุ่มและทุกด้าน ทำให้กองทัพของโยฮานแต่ละกลุ่มโดนตัดขาดจากกันเพระแต่ละกลุ่มก็โดนล้อมไว้เพราะติดกับดักนี้และตกอยู่ในวงล้อม พวกนักรบหลายร้อยคนที่ไม่โดนใยแมงมุมก็รีบพุ่งตัวมาเป้นแนวหน้ามาสู้กับพวกนักโทษผีดิบ แต่ด้วยที่มันเป้นผีดิบถึงฟันแขนขาและถึงขนาดใช้ดาบฟันมันขาดครึ่งตัว พวกนักโทษผีดิบก็ไม่ตายและยังคลานมาต่อสู้ต่อ และนักรบที่ไม่ทันระวังตัวนึกว่ามันตายแล้วก็โดนกัดตายไปหลายคนเช่นกัน เหล่าเรนเจอร์ ชาร์ปซูตเตอร์และทหารต่างก็ยิงปืนและธนูใส่พวกแมงมุมกินศพเพื่อไม่ให้พวกมันพ่นใยได้อีก และพวกนักเวทย์วสายไฟก็พยายามใช้เวทย์ไฟเบาๆเผาใยแมงมุมให้ขาด ส่วนพวกพระเคลริคและนันของแต่ละกลุ่มก็มาช่วยร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์จำพวกศาสตราแห่งลูซิสเคลือบใส่ไปที่อาวุธของพวกนักรบให้อาวุธเหล่านั้นเป็นธาตศักดิ์สิทธิ์ทำให้ฟันพวกผีดิบตายได้ และเคลริคหลายคนก็ร่ายสกิลลำแสงเทวะยิงพวกผีดิบ และยังมีเคลริคชั้นสูงหลายคนที่เก่งมากก็ให้พวกนักรบไปล่อผีดิบมาให้เยอะๆ และเคลริคที่เก่งๆนั้นก็ร่ายสกิลประกาศิตเทวะสร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่โดยพื้นที่ที่ประกาศิตเทวะกางอยู่นั้นมีผลทำลายเฉพาะพวกผีดิบ โดยที่ไม่มีผลกับพวกมนุษย์และพวกผีดิบพวกนั้นที่อยู่ในพื้นที่นั้นก็ร้องโหยหวนและสลายหายไปเป้นฝุ่นผง และเคลริค1ในนั้นก็คือเรย์รันที่ร่ายสกิลประกาศิตเทวะ แต่สกิลประกาศิตเทวะมีข้อเสียมากอย่างนึงคือคนที่ร่ายจะไม่สามารถขยับไปไหนได้เลยในขณะที่กางพื้นที่ศักดิสิทธิ์ จึงต้องมีเหล่านักรบมาคอยคุ้มครองข้างๆกายอีกทีซึ่งของเรย์รันเป็นนักรบ3-4คนโดยมีอาเวียร่วมปกป้องอยู่ด้วย และไม่ทันที่ผีดิบจะหมดไปก็มีฝูงเจ้าผีน้อยและผีเด็กหลายร้อยตัวก็บินออกมาจากในเมืองเซาเทรินฟอร์ทและบินลงมาจัดการเหล่านักรบโดยการบินมาโฉบกัดกินหัวของเหล่านักรบ และตามพื้นดินก้มีพวกหนูท่อหลายพันตัววิ่งมาก่อกวนและกัดขาเหล่านักรบอยู่ตามพื้น ถ้านักรบคนไหนล้มลงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นได้อีกเลย เพราะจะถูกพวกหนูท่อระดมกัดจนตาย ทำให้ตอนนี้กองทัพของโยฮานถูกโจมตีอย่างหนัก ซึ่งก็คงไม่ต่างกับทางกองทัพของป้อมปราการตะวันออกและวิลโดเนียก็โดนการโจมตีแบบนี้เช่นกันทางฝั่งโน้น

2 ชั่วโมง หลังจากที่พวกโยฮานโดนโจมตีชุดใหญ่ กว่าแต่ละกลุ่มจะเริ่มจับทางและจัดกลุ่มกันสู้ก็ใช้เวลาไม่น้อย พวกผีดิบส่วนมากก็ตายไปเกินครึ่งแล้ว ส่วนมอนสเตอร์ที่เหลือ เคออสติคสั่ง มอนสเตอร์ผลึกที่เป้นเหมือนไม้กางเขนทีมีปลายแหลมทั้ง 4ด้านและสามารถลอยตัวได้ประมาณ 100ตัวก็บินไปจัดการพวกเจ้าผีน้อยและผีเด็ก โดยมีเคลริคช่วยยิงสกิลลำแสงเทวะช่วย ส่วนมอนสเตอร์ผลึกที่มีลักษณะจำพวกเหมือนเต่าแต่มีความไวในการเคลื่อนที่มากและมีขนแข่งเหมือนเม่นแต่แข็งกว่าประมาณ100ตัว พวกนี้ก็ไล่จัดการพวกหนูตามพื้น ส่วนพวกโทรลล์200ตัว ก็ไล่เหยียบหนูตามพื้นเช่นกัน ทำให้หนูก็ตายไปเยอะมากพอสมควรเช่นกัน และพวกโยฮานก็กำจัดศัตรูไป แต่ก็ไม่สามารถที่จะรุกคืบหน้าไปยังเมืองเซาเทรินฟอร์ทได้เพราะการต่อสู้ยังติดพันกันอยู่  และโยฮานก็เสียนักรบและทหารไปร้อยกว่าคนเช่นกัน เพราะกว่าจะคุมสถานะการณ์ที่มอนสเตอร์บุกมาทุกทางได้ก้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่ากว่าจะเริ่มคุมได้  แต่โยฮานก้ยังอยากรู้สถานการณ์ภายในเมืองว่ายังมีกองทัพมอนสเตอร์ของศัตรูเหลืออีกเท่าไร
 
โยฮานสั่งให้แอสซาซิน 5 คน ใช้สกิลพรางตัวแอบเข้าไปสืบดูในเมืองว่าในเมืองมีมอนสเตอร์อะไรที่รอโจมตีกองทัพของโยฮานอยู่ แอสซาซินใช้สกิลพรางตัวและกระโดดไปบนตันไม้ข้างๆกำแพงเมืองและกระโดดไปที่กำแพงเมือง และกระโดดลงไปในเมือง และไม่ถึง 20นาที อยู่ๆก็มีของโยนออกมาจากในเมืองจำนวนหนึ่ง เมื่อของนั้นตกลงมานอกเมืองที่พวกกองทัพโยฮานสู้อยู่ โยฮานก็เห้นว่าของที่ถูกโยนออกมาจากในเมืองและมาตกนอกเมืองเป้นหัวและแขนขาของแอสซาซิน 4คน และเมื่อโยฮานเงยหน้ามองไปที่ประตูหน้าเมือง ก็เห็นแอสซาซินคนที่ 5 กระโดดออกมาจากกำแพงเมืองและตกลงมากองข้างๆกำแพงนอกเมืองในสภาพแขนขาด 2ข้างและเนื้อตัวมีแต่บาดแผลและเลือด โยฮานและเหล่านักรบประมาณ30คนก็วิ่งฝ่าวงล้อม เพื่อจะไปพาตัวแอสซาซินคนนั้นมานั่งใต้ต้นไม้ และโยฮานสั่งให้คนไปตามเคลริคมาช่วยรักษาแผล แต่ยังไม่ทันที่คนจะไปตามเคลริค แอสซาซินคนนั้นก็เสียชีวิตใต้ต้นไม้นั้นโดยที่ไม่ได้บอกโยฮานเลยว่าในเมืองมีมอนสเตอร์อะไรรออยู่อีก

แต่เท่าที่โยฮานดุจากบาดแผลด้านหลังและตามไหล่ที่แขนขาดไปแล้ว 2ข้าง เห้นว่าเป้นกรงเล็บของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ แถมตามลำตัวก็ยังเหมือนโดนหอกทิ่ม2-3แผล ซึ่งโยฮานก็พอจะนึกออกแล้วว่าน่าจะเป้นพวก "นักรบจระเข้ครอกโคเดี้ยน" เพราะโยฮานพึ่งนึกได้ว่าในท่อน้ำใต้โบสถ์ มีทั้งสุสานเก่าแก่และมีท่อน้ำที่ใหญ่มากอยู่ และพวกนักรบจระเข้ครอกโคเดี้ยนก็อาศัยอยู่ในนั้น ซึ่งยังเป้นปริศนาอยู่ทุกวันนี้ว่าทำไมใต้โบสถ์ที่เป็นท่อน้ำขนาดใหญ่ถึงมีพวกจระเข้ครอกโคเดี้ยนอาศัยอยู่ได้ และตอนนี้เวลาผ่านไป 4ชั่วโมงกว่าๆแล้วหลังจากที่กองทัพโยฮานโดนโจมตี กองทัพของโยฮานก็จัดการเหล่ากองทัพมอสเตอร์ที่มาโจมตีกองทัพของโยฮานได้เกือบหมดแล้ว แต่โยฮานก็ต้องเสียนักรบไปเกือบสองร้อยคน เพราะเจอมอนสเตอร์บุกขนาดหนักแบบไม่ให้ตั้งตัวและไม่ให้พักเลย ซึ่งโยฮานก็อยากจะถอยตั้งหลักเพื่อรอกองทัพของอาริงและลูฟเฟ่นมาเสริม และที่สำคัญโยฮานก็จะรอให้หินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3ก้อนมาครบก่อนถึงจะบุกเข้าไปเผด็จศึกในคราวเดียวกัน แต่ติดตรงที่โยฮานไม่สามารถติดต่อทางกองทัพของป้อมปราการตะวันออกได้ โยฮานเลยทำได้แค่เพียงสู้ประคองตัวโดยที่จะพยายามไม่ยอมให้ใครตายอีก จึงให้ทุกคนเกาะกลุ่มและรวมอาชีพต่างๆกันไว้เผื่อจะได้ช่วยเหลือกันได้ในยามคับขัน

และตอนนี้ผ่านมาจะ 5ชั่วโมงแล้ว กองทัพของโยฮานก็จัดการกับกองทัพมอนสเตอร์ที่กระหน่ำบุกมาจนหมดแล้ว พวกนักรบในกองทัพโยฮานก็เพิ่งจะได้พักหายใจหายคอ บางคนก็เริ่มหมดแรงและนั่งพักแล้ว ส่วนคนที่ยังไหวก็ช่วยกันประคองคนที่บาดเจ็บมาให้ทหารปฐมพยาบาลและให้เคลริคช่วยรักษา แต่พวกทหารและเคลริคจำนวนมากก็อาการไม่ต่างกัน เพราะทุกคนก็สู้ตามที่ตัวสามารถสู้ได้ และทุกคนก้หวังว่าอย่าเพิ่งให้ศัตรูบุกออกมาอีก

โยฮาน : " พวกเราช่วยพาคนที่เจ็บหนักออกไปจากสนามรบก่อน ให้ไปพักรักษาตัวให้ไกลจากสนามรบนี้สัก300เมตร เพื่อรักษาหายแล้วจะได้กลับมาสู้รบกันทัน ส่วนใครที่มียากรักษาติดตัวมาก็ช่วยกันรักษาคนที่บาดเจ็บเล็กน้อยตรงนี้ละ "(โยฮานสั่งการ และชี้ให้พาคนเจ็บหนักไปพักที่โขดหินใหญ่ตรงหลังสนามรบ จะได้ปลอดภัยและกลับมารบทันเพราะไม่ไกลมากนัก แต่ก็น่าจะปลอดภัยจากการสุ้รบ)

เรย์รัน : "พี่อาเวียและพี่โยฮานคิดเหมือนฉันไหม ว่าทำไมเหมือนกำลังของพวกเราค่อยๆอ่อนลงๆเมื่อยิ่งเข้าใกล้อณาเขตเมืองเซาเทรินฟอร์ท หรือเป้นเพราะไอหมอกสีดำๆบางๆนั่น"(เรย์รันพูดและชี้ให้ดูรอบๆนอกกำแพงเมืองระยะ100เมตรจากนอกกำแพงเมือง เหมือนจะมีไอหมอกสีดำๆบางๆปกคลุมอยู่แถมตามพื้นหญ้าก้ตายต้นไม้รอบๆเมืองก็ใบไม้ร่วงหมดต้น)
โยฮาน : " สงสัยเป้นผลกระทบมาจาก แท่นเสาหินสีดำ 3ต้นนั้นละ แบบนี้เท่ากับว่าเราไม่สามารถบุกเข้าเมืองได้เลย"
จตุกร : " ไม่นะ พวกเข้ากลับคิดว่าพวกข้าแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนอีก"(จตุกรพูดและชี้ให้ดูตัวเค้ากับเหล่าลูกน้อง 100คนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้องเองเมื่อเทียบกับการทำสงครามมาเป้นเวลาเกือบ 5ชั่วโมงและศัตรูก็มาก)
อาเวีย : "หรือว่าไอหมอกสีดำบางๆนั้นมันส่งผลกระทบเฉพาะมนุษย์ แต่ให้ผลดีเฉพาะกับพวกเผ่าความมึดบางกลุ่มเช่นนักรบของพวกจตุกร"(อาเวียนึกได้เลยพูดให้กับโยฮานและจตุกรฟัง)
จตุกร : "น่าจะเป็นแบบนั้น แต่จะให้พวกข้าเอาหินศักดิ์สิทธิ์สีรุ้งไปใส่ในแท่นเสาหินสีดำ พวกข้าก้ทำไม่ได้อีก เพราะหินศักดิ์สิทธิ์มีผลเสียกับพวกเรา ต้องเป้นมนุษย์ถึงจะถือเข้าไปได้"
โยฮาน : " แต่ฉันก็ยังหวั่นๆอยู่ว่าในเมืองยังมีกองทัพศัตรูอยู่อีกมาก และพวกนั้นก็คงรอทำศึกในเมืองมากกว่า เพราะพวกนั้นคงจะเอาความได้เปรียบเรื่องไอหมอกสีดำบางๆนั้นมาช่วยลดพลังของพวกเราและเพิ่มพลังกับพวกมันแน่ๆ"


และไม่นานนักก็มีเสียงดังจากในเมืองเซาเทรินฟอร์ท เป้นเสียงตะโกนโห่ร้องปลุกใจของศัตรูในเมือง และมีเสียงเหมือนดาบตีกระทบโล่ และเสียงด้ามหอกกระทบกับพื้นอย่างแรงจำนวนมาก เหมือนเป็นการปลุกใจของเหล่านักรบมนุษย์ที่ทำๆกัน แต่คราวนี้เป้นพวกศัตรูในเมืองทำเพระเป้นการปลุกใจและเป้นการข่มขวัญกำลังใจพวกมนุษย์และเมื่อเสียงพวกนี้เงียบลง ก็มีเหล่าหอกขนาดใหญ่ จำนวนมากมายพุ่งข้ามกำแพงจากในเมืองออกมายังกองทัพของโยฮาน โยฮานเลยสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวหลบ และให้เหล่านักเวทย์จำนวน50คน รวมพลังเวทย์กันและผลึกเวทย์มนต์และร่ายเวทย์น้ำแข็งขนาดใหญ่มาเป็นกำแพงน้ำแข็งที่หนาและสูงเพื่อป้องกันเหล่าหอกนั้น ซึ่งกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้ก็สามารถกันหอกได้ประมาณ80% แต่อีก หอกอีก20%นั้นก็สามารถพุ่งทะลุน้ำแข็งและพุ่งข้ามกำแพงน้ำแข็งลงมายังกลุ่มกองทัพโยฮานได้ และทำให้นักรบของโยฮานก็เสียชิวิตอีกประมาณ10กว่าคนเพราะหลบไม่ทัน และพอเหล่านักเวทย์สลายเวทย์กำแพงน้ำแข็ง พอกำแพงเวทย์น้ำแข็งหายไปภาพที่เหล่านักรบเห็นคือ เหล่าลูกไฟเวทย์สีดำพุ่งตรงเข้าใส่มายังกลุ่มกองทัพของโยฮาน โดยเฉพาะเหล่านักรบที่ส่วนมากจะไม่มีพลังต้านเวทย์มนต์อยู่แล้ว เลยทำให้เกิดการสูญเสียอีกเกือบ50คน กลายเป้นว่าติดกับดักอีกครั้งเพราะ การที่ศัตรูใช้หอกพุ่งมานั้นเป้าหมายเพื่อให้มีการใช้เวทย์สร้างกำแพงขนาดใหญ่กันไว้ และศัตรูก็ยิงลูกไฟเวทย์สีดำตามมาอีกที ทำให้ไม่มีใครมองเห้นว่าจะมีการโจมตีซ้อนกันแบบนี้ ทำให้กองทัพของโยฮานพลาดติดกับดักเป้นครั้งที่สอง แต่ยังดีที่เสียกำลังคนไปแค่ 50คน เพราะลูกน้องของจตุกรคือ ผีตาโขนขมังเวทย์ประมาณ 60ตน ก็ช่วยสกัดโดยใช้ลูกศรเวทย์วิญญานยิงสกัดลูกไฟเวทย์สีดำได้เยอะพอสมคร ทำให้มีคนตายแค่50คนถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่โดนโจมตีในระลอกนี้

และหลังจากกองทัพของโยฮานโดนโจมตีด้วยเวทย์ ก็มีทหารชี้ให้โยฮานดูข้างหลัง ตอนนี้กองทัพเสริมของอาริงและลูฟเฟ่นมาถึงแล้วโดยมีประมาณ 2200คน ทั้งนักรบที่เป้นมนุษย์ เอลฟ์ พวกเขี้ยวทมิฬ โจรสลัดชาวนัลและกอบบลินและปืนใหญ่25 กระบอก ทำให้กองทัพของโยฮานไชโยโห่ร้องเพราะมีความหวังที่จะบุกแล้ว

โยฮาน : " โชคดีจริงๆ นึกว่าพวกเจ้าจะมาไม่ทันซะแล้ว" (โยฮานเพิ่งจะมีสีหน้ายิ้มก็ตอนนี้ที่คลายความกังวลไปได้อีกมากเลยเพราะกำลังมาเสริมแล้ว)
อาริง : " รู้สึกทางนี้จะโดนอ่วมสุดๆเลยนะ "(อาริงพูดและมองดูกองทัพของโยฮานที่แต่ละคนสะบักสะบอม และอาริงก็รายงานสถานการณ์เรื่องที่เมืองเซาเทรินไซร์และวิลเดอวู้ดให้โยฮานฟัง)
โยฮาน : " สรุปแผนการบุกครั้งนี้พวกมันก็รู้ล่วงหน้าจริงๆ มิน่า ถึงบุกเท่าไรกก็ไม่ได้ แถมมีการใช้แผนการรบเชิงกับดักให้พวกเราติดกับอีก"
อาริง : "อย่าว่าแต่ท่านเลย ทางพวกเราก็โดนกับดักของแต่ละเมืองมาเหมือนกัน"(อาริงพูดและเอามือเกาหัว)
ลูฟเฟ่น : " ตอนนี้คนก้น่าจะพร้อมบุกแล้วนะ มีทั้งคนมาเพิ่ม และมีปืนใหญ่อีก 25กระบอก"
โยฮาน : " ฉันก็อยากจะบุกเข้าเมืองเหมือนกัน แต่ติดตรงที่มีไอหมอกจางๆสีดำปกคลุมรอบๆเมืองอยู่ ทำให้ไม่สามารถบุกเข้าไปได้ เพราะเหมือนไอหมอกสีดำจะมีผลกับมนุษย์ แต่ไม่มีผลกับจตุกรและลูกน้องของเค้านะ"(โยฮานชี้ให้ดุไอหมอกสีดำบางๆที่ปกคลุมรอบๆเมือง)
อาริง : " แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่เป้นตัวการทั้งหมดของสงครามนี้คือ ท่านสาธุคุณ มอร์เร่ย์ ไม่น่าเชื่อจริงๆ"
โยฮาน : " ตอนนี้อะไรๆก็เป็นไปได้หมดแล้วละ แต่ตอนนี้พวกเราต้องรีบวางแผนการรบใหม่เพื่อที่จะบุกเข้าเมืองไปทำลายแท่นเสาหินสีดำให้ได้โยเร็ว ก่อนที่พวกมันจะโจมตีระรอกใหม่อีก"(และก่อนที่ผู้นำจะประชุมวางแผนบุกแบบเร่งด่วน วาเนสซ่า และเรย์รัยก็สังเกตสิ่งผิดปกติขึ้นบางอย่าง)


วาเนสซ่า : " พี่อาริง ลูฟเฟ่น ท่านโยฮาน ดูนี่สิหิมะตก" (วาเนสซ่าพูดและชี้ให้ทุกคนดุหิมะที่ค่อยๆตกลงมาทีละนิดๆ)
อาริง : " หิมะนี้ตกมาจากไหนละเนี่ย เพราะแถวนี้มันไม่ใช่เขตเมืองหนาว หิมะไม่เคยตกเลย"(อาริงพูดและมองไปรอบๆตัว และไปสะดุดภาพบางอย่างเข้า และชี้ให้ทุกคนดูที่บนฟ้าเหนือเมืองเซาเทรินฟอร์ท ราชินีน้ำแข็งไอซซี่กำลังเสกให้หิมะตกลงมาจากบนฟ้าเหนือเมืองเซาเทรินฟอร์ท ซึ่งภายในเมืองตอนนี้มีการยิงเวทย์และมีการปาหอกขึ้นไปบนฟ้าเพื่อที่จะจัดการราชินีน้ำแข็งไอซซี่ แต่ทั้งเวทย์และหอกไม่สามารถโจมตีถึงราชินีน้ำแข็งไอซซี่ได้ เพราะราชินีน้ำแข็งไอซซี่ลอยตัวอยู่สูงเกินระยะโจมตีของศัตรู)
ลูฟเฟ่น : " ไม่น่าเชื่อราชินีน้ำแข็งไอซซี่ นางกลับมาจากโลกแห่งความตายได้ยังไง"
อาริง : " ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดในอนาคตคงมีเหตผลในตัวของมันซึ่งคงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ถึงทำให้ราชินีน้ำแข็งไอซซี่กลับมาจากโลกแห่งความตายได้"(อาริงยิ้มที่เห้นราชินีน้ำแข็งไอซซี่กลับมาจากโลกแห่งความตายได้)
เรย์รัน : " ดูสิพวกไอหมอกสีดำบางๆกำลังโดนพวกละอองหิมะดูดซึมเข้าไปแล้ว และพวกไอหมอกสีดำบางๆก็เริ่มจางหายไปทีละนิดๆแล้ว"(เรย์รันชี้ให้ทุกคนดุปฎิกิริยาของละอองหิมะกับไอหมอกสีดำบางๆที่ปะทะกันและละอองหิมะก็ดูดซึมไอหมอกไป
โยฮาน : " จริงๆด้วย สงสัยทางกองทัพฝั่งป้อมปราการตะวันออกก็สังเหตเห็นและคิดวิธีกำจัดไอหมอกสีดำนี้ได้ โดยใช้ละอองหิมะมาดูดซึมไว้"
อาริง : " งั้นแบบนี้เตรียมบุกเมืองได้แล้ว รอเพียงแค่ให้ไอหมอกสีดำบางๆหมดไปก่อนแล้วค่อยบุกเต็มกำลัง"(อาริงพูดเสร็จก็เริ่มวางแผนกันบุก และเมื่อวางแผนพร้อมแล้วเลยไปจัดกลุ่มและวางกำลังไว้เพื่อที่จะบุกเข้าเมืองเซาเทรินฟอร์ท เพียงแค่รอเวลาไอหมอกสีดำหมดไปเท่านั้นด้วยละอองหิมะ....................)
一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fan Fiction อสุรา " นักดาบสาวลูกครึ่งพันธ์อสูร" บทที่ 34 (20/11/52)
« ตอบ #509 เมื่อ: 20-11-2009, 13:58:48 »

สาธุคุณ มอเรย์  Cry




ป้าย:
หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 37