บทที่ 23 การรบกับเหล่าซากศพ
15 นาทีต่อมา พวกของอลันและเหล่านักรบ 500คน ก็มาถึงหมู่บ้านสมิง แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าไปในหมู่บ้านสมิงก็เจอผู้เฒ่าสมิงมายืนรออยู่แล้วที่หน้าหมู่บ้าน
" ข้านึกแล้วว่าพวกท่านต้องมา แสดงว่าที่เมืองเซาเทิร์นฟอร์ทก็คงมีศพคนตายฟื้นขึ้นมาใช่ไหม" ผู้เฒ่าสมิงถามด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
"ท่านผู้เฒ่าสมิงพูดแบบนี้แสดงว่าที่นี่ก็เกิเหตการณศพเดินได้ใช่ไหม แล้วเหตการณ์ตอนนี้ละเป็นไงบ้าง" ราฟาเอลถามกลับด้วยอาการร้อนรน
" ใช่ที่หมู่บ้านนี้ก็มีศพลุกขึ้นมาจากหลุมเหมือนกัน แต่พอดีทหารและนักรบสมิงในเมือง จัดการเรียบร้อยแล้วละไม่ต้องเป็นห่วง นี่ข้ายังส่งเหล่านักรบสมิงและทหารบางส่วนไปยังหมู่บ้านเซาเทิรนไซร์ของเจ้าด้วยนะราฟาเอล" ผู้ฒ่าสมิงพูดและมีรอยยิ้มเล็กน้อยเพื่อให้ราฟาเอลสบายใจไปเปราะหนึ่ง
" ขอบคุณท่านมากเลย งั้นพวกข้าขอตัวไปหมู่บ้านเซาร์เทิร์นไซร์ต่อเลยนะ ข้าใจร้อนนะ" ราฟาเอลพูดและโค้งคำนับขอบคุณผู้เฒ่าสมิงที่ส่งนักรบสมิงและทหารไปช่วงที่หมู่บ้านของตน พอพูดจบราฟาเอลก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อ 10นาทีต่อมาก็ถึงสถานี่หมู่บ้านเซาเทิร์นไซร์ พอพวกอลันขึ้นมาจากสถานนี่รถไฟใต้ดินเถื่อนเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนและเสียงปืนดังไปทั่วหมู่บ้าน พวกของอลันและเหล่านักรบเลยรีบวิ่งออกมาจากสถานนีรถไฟใต้ดินเถื่อน ภาพที่พวกเค้าเห็นในหมู่บ้านยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมีแต่เหล่าผู้คนวิ่งกันไปมา บ้างก็จับอาวุธวิ่งไปที่ประตูหมู่บ้าน บ้างก็กำลังรักษาคนบาดเจ็บอยู่ที่หน้าสำนักงานอคาเดมี่
" ลุงเบนๆๆ ราฟาเอลกับพรรคพวกเค้ามาช่วยเราอีกแล้ว " ชาวบ้านคนหนึ่งเห้นพวกอลันพอดี เลยตะโกนบอกลุงเบนให้รู้ สักพักลุเบนก็วิ่งมาทางราฟาเอลและอลัน
" พวกเจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ อยู่ๆพวกซากศพมนุษย์แล้วสมิง ที่เราฝังกันนอกเมืองตอนที่เกิดการรบครั้งที่แล้วนะ มันลุกขึ้นจากหลุมกันหมดเลย ดีนะที่ผู้เฒ่าสมิงให้พวกเหล่านักรบสมิงมาช่วยอีกแรงอะ ไม่งั้นป่านนี้หมู่บ้านเราไม่หลือซากแน่ๆ" ลุงเบนพูด พร้อมทั้งมีน้ำตาไหลเพราะความดีใจที่พวกอลันและราฟาเอลมาช่วยอีกแรง
" ไว้เราค่อยพูดกันที่หลังนะ ข้าขอขึ้นไปดูที่บนกำแพงหมู่บ้านก่อนว่าสถานะการณเป็นไงบ้างแล้ว" อลันพูดและรีบวิ่งขึ้นไปที่บนกำแพงที่ตอนนี้เต็มไปด้วยสมิงพลธนูและทหารที่กำลังยิงปืนใส่ซากศพเดินได้
"ซากศพสมิงโฉด ซากศพเหล่านักรบขอมนุษย์และสมิงดี ที่ตายไปรวมๆกันก็เกือบหมื่นเลยงวดที่แล้ว แต่คงกำจัดง่ายกว่างวดที่แล้วเยอะ" อลันเลยตะโกนให้เหล่านักรบทั้งหมดได้ยินว่า
"จุดอ่อนของพวกซากศพเดินได้คือเล็กยิงที่หัวกับฟันให้หัวขาด ส่วนนักเวทย์ก็ให้ยิงเวทยสายไฟทั้งเดี่ยวและเป็นกลุ่ม ส่วนนักเวทย์สายพระให้ใช้เวทย์ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ยิงใส่เลยใช้ได้เหมือนกัน " พออลันตะโกนให้ทุกคนได้ยินแล้ว ก็เริ่มจัดทัพ ที่เอามามีประมาณ500
"ให้เหล่านักดาบและเรนเจอร์สายมีดอยู่หน้าเป็นแนวทะลวงฟัน เหล่าเรนเจอร์สายธนูและทหารอยู่แถวสองคอบยิงพวกศพเดินได้ที่หลุดรอดมาจากนักดาบ และเรนเจอร์ต้องคอยอยู่หน้าเหล่านักเวทย์ ป้องกันไม่ให้เหล่าซากศพเดินมาใกล้นักเวทย์ได้ และให้นักเวทย์ค่อยๆทะยอยระดมยิงเวทยใส่ด้วยอีกแรงและค่อยๆเดินขึ้นหน้าไปเรื่อยๆนะเพื่อคอยช่วยเหลือเหล่านักดาบอีกแรง ส่วนที่เป็นเหล่านักดาบและเรนเจอร์สายมีดเหลือประมาณ300คน เดี๋ยวข้าจะนำทัพตรงกลาง ราฟาเอลเจ้าไปนำทัพที่ปีกขวา ส่วนปีกซ้ายวาเลนไทน์คุม " อลันวางแผนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
" อ่า...ติดปัญหานิดเดียวอะอลัน" ราฟาเอลพูดขัดจังหวะ
"อะไรหรือราฟาเอลว่ามา" อลันเงยหน้ามองราฟาเอล
"วาเลนไทน์คงนำทัพปีกซ้ายไม่ได้แล้วละ เพราะวาเลนไทน์ตอนนี้กำลังไล่ฟันคอและหัวซากศพเดินได้อยู่นอกหมู่บ้านแล้วละ " ราฟาเอลพูดพร้อมทำหน้ายิ้มๆและทั้งหมดก็หันไปทางหน้าหมู่บาน ซึ่งเห็นวาเลนไทน์กำลังไล่ฟันคอและหัวเหล่าศพเดินได้อยู่จริงๆ
" นี่ละนะวาเลนไทน์ละ ข้าก็ลืมไปว่าวาเลนไทน์นิสัยแบบนี้อะ เราไปสั่งอะไรเค้าไม่ได้หรอก งั้นก็ปล่อยให้เค้ารบตามแบบฉบับเค้าละกันไม่รู้วิ่งออกไปรบตอนไหนไวจริงๆ งั้นปีกซ้าย คิกิเจ้านำละกันนะ " อลันพูดและหันไปมองคิกิเอลฟ์สาว คิกิพยักหน้าตอบตกลง และทั้งหมดก็แยกย้ายกันออกไปรบที่หน้าหมู่บ้านตามแผนที่อลันได้วางไว้
2 ชั่วโมงผ่านไป แผนการในการรบกับเหล่าซากศพเดินได้ก็เป็นไปตามที่อลันวางแผนไว้ ตอนนี้พวกเค้าคุมสถานการณ์ได้เกือบหมดแล้ว พวกนักดาบก็ไล่ฟันหัวและคอเหล่าซากศพไปเรื่อยๆ เรนเจอร์สายธนูก็ยิงช่วยสนับสนุนนักดาบ นักเวทยทั้งสายเวทยไฟและสายเวทย์ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ ก็ระดมยิงใส่ไม่ยั้ง เหล่าซากศพถึงมีมาก แต่เคลื่อนไหวช้ามาก และพวกอลันรู้จุดอ่อนอีก เลยทำให้การรบครั้งนี้จบลงภายในเวลา 2ช.ม กว่าๆ พวกเหล่านักรบของอลัน ที่พามา500คน มีทหารและนักรบที่ตายแค่ไม่กี่10คน และมีบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเองไม่มากเท่าไร ถือว่าแผนการนี้สำเร็จลุล่วงโดยเสียกำลังพลน้อยมาก คนที่ยังมีแรงอยู่ก็ ช่วยกันขนย้ายศพพวกซากศพ นำไปกองรวมกันและจุดไฟเผาซ้ำอีกที และหลังจากจัดการเผ่าซากศพเสร็จแล้ว ทุกคนต่างก็เข้ามานั่งพักกันในหมู่บ้าน โดยที่ชาวบ้านนำน้ำและอาหารมาให้กับเหล่านักรบของอลันกินกันทุกคน และก็ได้อยู่พักค้างแรมที่หมู่บ้านเซาเทิร์ไซร์ 1คืนเพื่อพักผ่อนก่อนที่จะกลับเมืองเซาร์เทิร์ฟอร์ทในวันพรุ่งนี้ และพอรุ่งเช้าพวกอลันและเหล่านักรบก็ได้เดินทางกลับไปที่เมืองเซาร์เทรินฟอร์ททันที และพวกอลันก็รีบเข้าไปรายงานผลให้กับท่านเซอร์อเล็กซ์ทราบ
"จากที่พวกเจ้ามารายงานนี้ข้าก็ยังงงอยูเลยว่าเหล่าซากศพที่อยู่ในหลุมกับฟื้นคืนชีพมาได้ยังไง และเป็นทุกๆที่ไม่ใช่แถวเรานะ เป็นทั่วอณาจักรเลย เพราะข้าก็เพิ่งได้ข่าวมาจากที่ปราสาทกลางน้ำMATALIKANAR ละ ว่ามีเหตการณ์แบบนี้ทุกเมืองเลย" ท่านเซอร์อเล็กซ์พูดไปก็ทำหน้าเคร่เครียด และทุกคนก็กำลังใช้ความคิดอยุ่เหมือนกันว่าเหตการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในขณะที่ทุกคนกำลังคิด วาเลนไทน์ก็นึกอะไรได้บางอย่างและเขียนลงในกระดาษและวางบนโต๊ะให้ทุกคนได้อ่านกัน ข้อความที่วาเลนไทน์เขียนคือ
{{ฝนเลือดที่ตกคราวนั้นหรือเปล่า เพราะฝนตกเป็นเลือดมันเป็นคำพยากรณบทที่2 ซึ่งมันน่าจะมีพลังลึกลับบางอย่าง แล้วพอฝนเลือดซึมลงไปในใต้ดินที่มีศพอยู่และเลือดเหล่านั้นก็ลงไปถึงเหล่าซากศพแล้วทำให้มันมีพลังและลุกขึ้นมาเดินได้นะ}} "อาจจะเป็นไปได้อย่างที่วาเลนไทน์เขียน งั้นเดี๋ยวข้าจะเขียนที่วาเลนไทน์เขียนและส่งไปยังปราสาทกลางน้ำMATALIKANAR ดู ว่าความคิดตรงนี้จะพอเป้นจุดชี้ชัดได้ไหมว่า2 คำพยากรณ์นี้มันเกี่ยวข้องกัน" ท่านเซอร์อเล็กซ์ พูดด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นหน่อยที่พออ่านความคิดขอวาเลนไทน์
" งั้นพวกเจ้าก็ไปพักผ่อนได้แล้วละ เหนื่อยมามากแล้ว หวังว่า คงได้พักนานหน่อยนะ ค'ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงนี้อีกนะ เออ..เกือบลืม ข้าขอแสดงความยินดีด้วยนะราฟาเอลที่แต่งงานแล้วนะ งั้นข้ายกบ้านให้เจ้าหลังหนึ่ละกัน อยู่ใกล้ๆกับบ้านของอลันนะ " ท่านเซอร์อเล็กซ์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และจับมือแสดงความยินดีกับราฟาเอล
" ขอบคุณ ท่านเซอร์อเล็กซ์มากเลยที่กรุณาข้าและลิเดียเช่นนี้" ราฟาเอลโค้งคำนับขอบคุณท่านเซอร์อเล็กซ์ และทั้งหมดก็ได้โค้งคำนับลาท่านท่านเซอร์อเล็กซ์ และกลับไปยังที่พักขอตน ราฟาเอลกะลิเดียก็พักในบ้านใหม่ใกล้ๆบ้านของอลัน ส่วนโซเฟีย คิกิและวาเลนไทน์ก็คงต้องอาศัยพักบ้านของ อลันต่ออีกสักพัก.................
หลับและพักผ่อนซะเหล่าผู้กล้าและนักรบทั้งหลาย เพราะอีกไม่นานความสงบสุขจะหมดไปแล้ว ได้เวลานับถอยหลังสู่มหาสงครามครั้งสุดท้ายแล้ว หึๆๆ