บทที่ 28 เริ่มต้นสู่มหาสงครามและการรบครั้งที่ 1
อรุณรุ่งเช้าวันใหม่ มาพร้อมกับเสียงโวยวายของเหล่าทหารและนักรบ ทำให้ท่านเซอร์อเล็กซ์และเหล่าผู้นำทัพที่ตั้งอยู่ที่เมือง Iron Forge ต้องรีบลุกจากที่นอนและหันไปมองทางที่เหล่าทหารมอง คือมองไปที่ทะเล และสิ่งที่เห็นคือ มหาน้ำวนได้หยุดหมุนลงแล้ว และนี่คงเป็นสัญญาณแห่งการสู้รบในไม่ช้าแน่ๆ ท่านเซอร์อเล็กซ์และเหล่าผู้นำทัพก็ได้แต่งตัวและออกมาบัญชาการให้เหล่าทหารและนักรบของทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม และ 1 ชั่วโมงต่อมา สิ่งที่ทุกคนเห้นคือ บริเวณขอบท้องทะเลไกลๆ เห้นเป็นขอบสีดำๆมากมาย กัปตันเรือโจรสลัด แจ๊ด ดี สปอย์เลอร์ ได้ใช้กล้อส่องทางไกลส่องดู ปรากฎว่าขอบท้องทะเลไกลๆที่เห้นเป็นสีดำๆนั้น เป็นกองเรือรบสีดำจำนวนมากมายมหาศาลนั้นเอง
" ตอนนี้มีกองเรือสีดำ กำลังมุ่งตรงมาที่นี่แล้ว คาดว่าน่าจะเป้นกองกำลังของซอเรียน ขอให้เหล่านักรบ ทหาร และลูกเรือโจรสลัด ขอให้กลับมาประจำการที่เรือของตัวเองด้วย " กัปตันเรือโจรสลัด แจ๊ด ดี สปอย์เลอร์ ตะโกนบอก สิ้นเสียงของ กัปตันเรือโจรสลัด แจ๊ด ดี สปอย์เลอร์ เท่านั้นเหล่าทหาร นักรบ และลูกสมุนโจรสลัด ก็ได้รีบไปประจำการเรือของแต่ละคน และ 30นาทีต่อมากองเรือรบของทหาร 2000ลำ กับกองเรือโจรสลัด 1000ลำ ก็พร้อมรบแล้ว
" ในเวลานี้ มหารสงครามกำลังจะเริ่มแล้ว ใครจะหนีไปไม่รบ หรือไม่คิดสู้ ข้าก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่ถ้าพวกเรามัวแต่หนีอย่างเดียว สักวันก็ต้องตาย สู้ให้ตายอย่าสมศักดิ์ศรีดีกว่า คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ถ้าเราสู้และคิดในใจว่าเพื่อปกป้องคนที่เรารักทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ข้าเชื่อว่าทุกคนจะต้องฟันฝ่าสงครามครั้งนี้ได้แน่ ข้าไม่รับรองว่าจะได้กลับบ้านกันทุกคนไหม แต่ที่จะเชื่อใจข้าได้ ข้าจะไม่ไปไหน ข้าจะสู้สุดชีวิต จนกว่าซอเรียนตัวสุดท้ายจะตายอยู่ที่พื้นแผ่นดินนี้ เราต้องรบและประกาศให้เหล่าซอเรียนได้รู้ว่า มนุษย์จะไม่ยอมแพ้และจากไปอย่างเงียบๆใต้ความมึดของพวกมัน เราจะสู้ด้วยกันจนถึงวินาทีสุดท้าย ข้าสัญญา " เซอร์อเล็กซ์พูดพร้อมด้วยรอบยิ้มที่เชื่อมั่น บรรดาเหล่าทหาร และนักรบ พอได้ฟังจบก็ตะโกนเสียงดังอืออึงไปหมดและพร้อมที่จะสู้รบเคียงข้างกันและกันจนกว่าจะตายกันไป และบัดนี้กองเรือรบของทหาร และกองเรือรบโจรสลัดก็ได้ แล่นทะยานออกจากท่าและมุ่งตรงไปที่กองเรือรบดำของเหล่าซอเรียน 20 นาทีต่อมาเหล่ากองเรือรบจึงได้เริ่มประทะกันกลางมหาสมุทร เรือรบทั้งสองฝ่ายต่างใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าใส่กัน และค่อยๆจมลงทีละลำๆ จาก1 เป้น10 จาก10 เป็น100 แต่ด้วยเรือรบดำมีเยอะกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าเรือรบของทหารและโจรสลัด ถึง 2เท่า จึงทำให้มีเรือรบดำ หลายร้อยลำ หลุดรอดแนวป้องกันของกองเรือทหารและเรือโจรสลัดมาได้ และกองเรือรบดำที่หลุดรอดมา ร้อยกว่าลำตอนนี้กำลังมุ่งตรงกำลังจะถึงฝั่งแล้ว และได้ระดมยินปืนใหญ่จากในเรือ ยิงมาที่กองทัพของพวกมนุษย์
"เหล่าทหาร ยิงปืนใหญ่สะกัดไว้" เซอร์อเล็กสั่งยิงปืนใหย่ที่ประจำอยู่ที่พื้นดินพร้อมๆกัน และตอนนี้ก็มีแต่เสียงยิงปืนใหญ่เข้าใส่กัน ฝ่ายมนุษย์ ก็ค่อยๆมีคนล้มตายบ้าง บาดเจ็บบ้าง ส่วนเรือรบดำที่หลุดรอดจนเกือบมาถึงฝั่งก็ค่อยๆจมลงที่ละลำๆ แต่บางลำก็หลุดรอดมาถึงฝั่งและได้เปิดประตูข้างเรือ เท่านั้นเอง ก็มีเหล่าซอเรียนวิ่งกรูกันออกมาจากในเรือและเริ่มสู้รบตะลุมบอนกัน ซอเรียนบางตัวที่เรือจมลงก็ได้ว่ายนำและทะยอยขึ้นฝั่งมากันอีกเป็นพัน และการรบก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว และการรบบนบกก็รบมา 30นาทีแล้ว ถึงตอนนี้ซอเรียนที่รบบนบกจะมีจำนวน 1000ตัวเศษ ก็ทำให้เหล่านักรบและทหาร เหนื่อยได้หมือนกัน เพราะพวกซอเรียน จะตัวใหญ่กว่ามนุษย์ธรรมดา 3 เท่า และหนังหนาแถมชุดเกราะที่ใส่ก็ยังหนาอีก เลยยิงฟันไม่ค่อยเข้าเท่าไร แม้แต่เวทย์ก็ยิงไม่ค่อยเข้าเช่นกัน
"เอาไงดีละ มันตัวใหญ่แถมหนาแบบนี้ นี่มันมีแค่พันกว่าตัวเองนะ พวกเรายังเหนื่อยแบบนี้เลย และตอนนี้เรือดำที่เหลือก็ค่อยๆหลุดจากการโจมตีของกองเรือทหาร และกำลังแล่นมาใกล้จะถึงฝั่งอีกหลายร้อยลำนะ ถึงเราจะฆ่ามันได้ก็จริง แต่ใช้เวลาและคนมากเกินไป " อลัน ตะโกนถาม เฮียโจ
"ลองเล็งแล้วยิงไปที่ตาและภายในปากตอนที่มันอ้าปาก ของมันพยายามยิงปืนและลูกธนูไปที่ตาและภายในปากของมัน ถึงมันจะหนังเหนียวแค่ไหน แต่ยังไง ตาก็เป็นส่วนที่บอบบางที่สุดและยังอาจจะกระเทือนถึงสมองด้วยเพราะอยู่ใกล้กัน ส่วนปากก็ให้ระดมยิงและแทงเข้าไปในปากภายนอกหนังเหนียวแต่ภายในมันไม่เหนียวเหมือนหนังข้างนอกแน่ๆ อาจจะทำความเสียหายได้ไม่มากก็น้อย ลองดูเลย" เฮียโจตะโกนสั่งการเหล่าทหารและเรนเจอร์ ให้ระดมยิงไปที่ดวงตาของเราซอเรียน และเหล่าเรนเจอร์และไฟเตอร์ดาบและหอก ก็ระดมแทงไปที่ตาและแทงไปภายในปากของเหล่าซอเรียน ได้ผลถึงหนังซอเรียนจะเหนียวแค่ไหน แต่ดวงตากับปากภายในของซอเรียนไม่ได้เหนียวเหมือนหนังข้างนอก เหล่าซอเรียน พันกว่าตัวที่อยู่บนบกตอนนี้ค่อยๆล้มตายไปหลายร้อยตัวแล้ว และตอนนี้ซอเรียนอีกหลายพันตัว กำลังจะลงมาจากเรือดำ และตอนนี้เรือดำอีกหลายร้อยลำได้หลุดรอดมาถึงฝั่งแล้ว
" ชิ พวกมันกำลังทะยอยลงมาจากเรือดำกันอีกแล้ว คงเป้นหมื่นเลยที่นี้ " อลันพูดไปมือก็ใช้ขวานฟันซอเรียนไป ซึ่งมีราฟาเอลใช้ดาบฟันซอเรียนอยู่ข้างๆเช่นกัน
" แล้วคิกิ โซเฟียและวาเลนไทน์อยู่ไหนกันแล้วเนี่ย" ราฟาเอลพูด
" คิกิข้าเห้นอยู่บนเนินข้างหลังนะ คิกิเค้าคุมเหล่าเรนเจอร์ส่วนหนึ่งอยู่อะ ส่วนโซเฟียก็อยู่กับเหล่าแคสเตอร์สายพระอยู่แนวหลังนะ คอยรักษาพยาบาลเหล่าทหารและนักรบที่บาดเจ็บอยู่นะ ส่วนวาเลนไทน์หาไม่ยาก นั่นไง พอเปลี่ยนเป้นเบรดแล้ว ดูเค้าใช้ดาบสมิงที่ฟันทะลุเกราะป้องกันได้ บวกกับท่าพายุดาบของเบรดสิ เล่นเอาซอเรียนที่ว่าตัวใหญ่ลอยกันเป็นแถวเลย ไม่รู้ใครน่ากลัวกว่ากันระหว่างซอเรียนหรือวาเลนไทน์ เห่อๆๆ" อลันพูดไปหัวเราะไป แต่มือก็ยังฟันเหล่าซอเรียนที่อยู่ข้างๆกายอยู่
" นั้นสินะ วาเลนไทน์เป็นฝ่ายเราก็ดีแล้วละ เพราะเค้าเก่ง แต่ถ้าเค้าอยู่ฝ่ายศัครูนี่สิ เห้นถ้าจะสู้กับเค้าลำบากนะ " ราฟาเอลพูดพร้อมยิ้มแหยงๆ พอราฟาเอลพูดจบเหล่าซอเรียนที่อยู่ข้างหน้าของอลันและราฟาเอล ถูกหมัดปริศนาต่อยลอยไปไกลเลย คนที่ต่อยเหล่าซอเรียนนั้นก็คือ วุ้นราชันย์ นั้นเอง
" พวกเจ้า 2คนนี่ขนาดอยู่ในสนามรบยังมีกะใจหัวเราะกันอีกนะ " วุ้นราชันย์พูดแซว และตอนนี้ การรบภาคพื้นดินผ่านไป 1ชั่วโมงกว่าแล้ว เหล่าซอเรียนก็ล้มตายหลายพัน แต่ฝ่ายพันธมิตรแห่งแสงก็ตายไม่น้อยเช่นกันตายราวๆหมื่นกว่าๆ
"ไม่ได้การแล้ว ต้องใช้วิธีนี้แล้ว นักเวทย์ทุกคนลองผนึกพลังเวทย์ไฟ สายฟ้า หรือน้ำแข็ง ลงไปที่ดาบและลูกธนูของเหล่านักรบนะ " เซรีนผู้นำของเหล่านักเวทย์ตะโกนสั่งการ พอสิ้นเสียงของเซรีนเหล่านักเวทย์ก็ได้ผนึกพลังเวทย์ลงไปที่ดาบและลูกธนูของเหล่านักรบ จนดาบและลูกธนูที่ถูกผนึกพลังเวทย์กลายเป้นดาบและลูกธนูธาตุที่บรรจุพลังเวทย์
"เอ้าดาบเล่มไหน ธนูดอกไหนที่ถูกผนึกพลังเวทย์แล้วลองไปฟันและยิงเหล่าซอเรียนลย " พอเซรีนสั่งการเสร็จเหล่าไฟเตอร์และเรนเจอร์ และพวกสมิงที่ดาบและธนูเป็นธาตต่างๆแล้ว ก็ได้ไประดมยิงและฟันซอเรียน ผลปรากฎว่าได้ผลเกินคาด ดาบและลูกธนูที่บรรจุพลังเวทย์แล้ว สามารถฟันและยิงลูกธนูทะลุเนื้อหนาๆของเหล่าซอเรียนได้แล้วแถมยังทำให้เหล่าซอเรียนที่ถูกฟันและยิงโดยธนูธาต ติดอาการต่างด้วย ดาบและลูกธนูธาตไฟทำให้ซอเรียนเกิดการติดไฟตามร่างกายที่โดนฟันและโดนยิง ส่วนดาบและลูกธนูธาตน้ำแข็งก็ทำให้เป้าหมายมีอาการน้ำแข็งจับและเคลื่อนไหวช้าลงตามที่โดนฟันและยิง ส่วนดาบและลูกธนูธาตสายฟ้าก็ทำให้เหล่าซอเรียนเกิดอาการชาตามร่างกายและเคลื่อนไหวไม่ได้เพราะผลจาการโดนสายฟ้าซ็อต ทำให้ตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรแห่งแสง เริ่มที่จะโต้กลับได้บ้างแล้ว หลังจากที่ตกเป้นรองอยู่นานเพราะไม่สามารถทำอะไรซอเรียนได้มากนักในตอนแรก
การต่อสู้บนบกตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรแห่งแสงได้เปรียบอยู่ แต่การต่อสู้บนพื้นผิวน้ำ ตอนนี้กองเรือรบของทหารและเรือโจรสลัดได้ถูกปืนใหญ่จากกองเรือดำยิงจมลงทะเลหมดแล้ว ส่วนพวกทหาร นักรบและลูกเรือโจรสลัด หลายร้อยหลายพันคนที่รอดชิวิตมาได้ก็ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง และตอนนี่กองเรือดำที่เหลืออีก หลายร้อยลำ กำลังมุ่งตรงมาที่ฝั่ง
" โธ่เว้ย กำลังได้เปรียบอยู่แท้ พวกซอเรียนมันมาเสริมอีกแล้ว กองเรือรบของเราก็จมลงหมดแล้ว " อลันพูดอย่างหัวเสีย
"เอะ...นั้น หมวกใบนั้นถ้าข้าจำไม่ผิด หมวกใบนี้มันหมวกของกับตันโจรสลัดชาวนัล แจ๊ค ดี สเปอยร์เลอร์นี่น่า ถ้าเช่นนั้นกับตัน แจ๊ค ดี สเปอยร์เลอร์ตายแล้วหรือดูสิหมวกก็มีคราบเลือดเต็มไปหมดเลย" ราฟาเอลพูดด้วยสีหน้าเศร้าและหยิบหมวกของกัปตัน แจ็ค สเปอยร์เลอร์ ขึ้นมาจากน้ำ
"โอ้ หมวกของข้าอยู่นี่เอง นึกว่าหาไม่เจอแล้ว ขอบใจนะราฟาเอลที่เก้บให้นะ " กัปตัน แจ๊ค ดีสเปอน์เลอร์ พูด พร้อมหยิบหมวกจากมือของราฟาเอลและใส่กลับไปที่หัวตามเดิม
"ท่าน.. ท่านยังไม่ตายจริงๆด้วย ตอนแรกข้าเห้นหมวกท่านลอยน้ำมาพร้อมด้วยคราบเลือด ข้าก็นึกว่าท่านตายไปแล้ว " ราฟาเอลตอนนี้มีสีหน้ายิ้มขึนมาทันที ที่เจ้าของหมวกหยิบหมวกไปใส่เหมือนเดิม
" ข้าจะรีบตายตอนนี้ได้ยังไงละ สงครามเพิ่มเริ่มเอง ข้ายังอยากที่จะรบกับพวกเจาอีกนาน ไม่ยอมตายง่ายๆหรอก ก็ดูสิ ขนาดวุ้นราชันย์มันยังมาร่วมรบเลย แล้วจะให้ข้าตายง่ายๆได้ไง ฮ่าๆๆ" กัปตัน แจ๊ค ดีสเปอน์เลอร์ พูดและหัวเราะ
" เอาน่า ไว้จบสงครามแล้วเดี๋ยวข้าจะให้วุ้นมาเต้นระบำโซวเจ้านะ แต่ตอนนี้เรารีบจัดการซอเรียนข้างหน้าต่อดีกว่า" วุ้นราชันย์พูดบอกกัปตัน แจ๊ค ดีสเปอน์เลอร์และทำท่าส่ายไปมาเพื่อให้เหมือนกับระบำวุ้น
ส่วนทางด้านของเซรีนผู้นำเหล่านักเวทย์ ตอนนี้กำลังประสพปัญหาอีกครั้ง เพราะเหล่านักเวทย์ที่บรรจุพลังเวทย์ลงที่ดาบและลูกธนู ตอนนี้ก็ค่อยอ่อนแรงลงและเพลียกันเต็มทีแล้ว
" นักเวทย์คนไหนที่พลังเวทย์หมดให้รีบไปที่ด้านหลังของสงครามเลยนะ เพราะมีเหล่าพระคอยรักษาอยู่ อดทนเดินไปให้ถึงนะ ไกลสักนิเพราะหน่วยพยาบาลไม่อยากให้อยู่ใกล้สนามรบมากนัก" เซรีนตะโกนประกาศ
"ตอนนี้เหล่านักเวทย์พักก่อนเลยนะ เดี่ยวเหล่าเรนเจอร์สายมีดจะใช้ท่าไม้ตายบ้างแล้ว ขอบคุณนะเหล่านักเวทย์ที่สู้รบถ่วงเวลาให้พวกเรนเจอร์สายมีดมีเวลารีดเร้นพลังที่จะใช้ท่าไม้ตาย" สการ์เล็ต ผู้นำของเหล่าเรนเจอร์พูดด้วยสีหน้ายิ้มขอบคุณเซรีน
" เอาละเหล่าเรนเจอร์สายมีทั้งหลาย รวมคนแยกเป็น 2กลุ่ม กลุ่มแรกรวบรวมพลังใช้สกิลแทงติดโป๊ะเชะและใช้สกิลแทปลิดชีพผสมไปด้วย เพื่อที่จะได้ใช้มีดแทงทะลุชุดเกราะเข้าไปตัดขั้วหัวใจมันได้ ถ้ากลุ่มแรกจดัการแล้วยังล้มมันไม่ได้ กลุ่ม2ก็ให้ใช้ท่าและทำเหมือนกลุ่มแรกแล้วจู่โจมเข้าไปที่จุดเดิม ที่กลุ่มแรกแทงไว้แล้ว เพื่อตอกย้ำแผลอีกครั้งเพื่อให้มันตายให้ได้ จัดการได้เลยลุย" สการ์เล็ต ตะโกนสั่งการเหล่าเรนเจอร์สายมีด และเรนเจอร์ทั้งหมดก็ได้รีดเร้นพลังใช้สกิลแทงติดโป๊ะเชะเพื่อที่จะให้มีดแทงทะลุชุดเกราะและใช้สกิลแทงปลิดชีพแทงซ้ำเข้าไปอีกทีเพื่อตัดขั้วหัวใจ และเรนเจอร์กลุ่มแรกก็ได้พุ่งจู่โจมเหล่าซอเรียนด้วยความรวดเร็วและใช้มีดแทงที่หน้าอกขอเหล่าซอเรียนทะลุเกราะ มีดเกือบทุกเล่นได้ปักลงไปทีอกข้างซ้ายของเหล่าซอเรียน แต่ยังไม่ลึกพอถึงหัวใจแต่ก็ทำให้เหล่าซอเรียนได้รับบาดเจ็บ จนขยับไม่ค่อยไหว สการ์เล็ตเลยสั่งการให้เรนเจอร์กลุ่มที่2 จู่โจมต่อ โดยทำเหมือนกล่ม 1 ใช้มีดที่มีสกิลแทงโป๊ะเซะและสกิลปลิดชีพ แทงไปที่แผลเก่าที่อกด้านซ้ายของเหล่าซอเรียน และการแทงครั้งที่2 นี้ เป้นการแทงย้ำไปที่แผลเก่าที่กลุ่ม1ทำไว้ ทำให้การแทงครั้งนี้มีดเกือบทุกเล่นได้แทงทะลุตัดขั้วหัวใจ ให้เหล่าซอเรียนเกือบหลายร้อยตัวตายภายใต้การโจมตีนี้
"เอาละ ได้ผล เหล่าเรนเจอร์ อย่ายอมแพ้ ใช้แผนเดิมต่อได้เลย สู้ๆๆ" สการ์เล็ต ตะโกนด้วยความยินดีที่แผนการที่เค้าคิดได้ผล และตัวเค้าเองก็ได้รบต่อในแผนนี้สัก 5-6ครั้ง ทำให้เหล่าซอเรียนล้มตายไปอีกประมาณ2000-3000ตัว จนเหล่าซอเรียนที่เหลือเกือบหมื่นเริ่มที่จะไม่ค่อยกล้าบุกตรงๆแล้ว และพอดีกับเหล่านักเวทย์ที่ไปพักฟื้นพลังทะยอยกลับมาประจำที่สนามรบต่อ และเซรีนและสถายเล็ตก็ใช้แผนเดิมที่บรรจุพลังเวทย์ลงไปที่อาวุธและธนู ทำให้ตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรแห่งแสงได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ และเหล่าซอเรียนก็ค่อยๆล้มตายลงเรื่อยๆ จนกระทั่งการรบผ่านไป 4 ช.ม เหล่าซอเรียนก็ตายหมด ไม่เหลือรอดสักตัว และตอนนี้ในสนามรบก็มีแต่เสียงดังไปทั่ว มีแต่เสียงไซโยโห่ร้อง ด้วยความยินดีที่พวกเค้าชนะแม้แต่คนที่บาดเจ็บก็ยังพยายามยืนไชโยโห่ร้อง และฝ่ายกองทัพของท่านเซอร์อเล็กซ์ หลังจากที่รบกันร่วม 4ช.ม มีกำลังพลเหลือเพียง 40000 คน เศษ จากแสนกว่าคน แต่ความดีใจในชัยชนะครั้งนี้ก็ต้องโดนหยุดด้วยเสียงของท่านเซอร์อเล็กซ
" พวกเราชนะก็จริง ข้าก็อยากจะพักและให้พวกเราได้พักเหนื่อยหลังจากการรบครั้งนี้นะ แต่...ข้าได้ข่าวจากที่ข้าส่งทหารให้ไปดูลาดเลาการสู้รบอีก 3 เมือง ปรากฎว่าเมือง Nortern Fort ที่อยู่ใกล้ๆกับเราไม่มีปัญหา เพราะเมืองนั้งก็ชนะศึกแล้วเพราะเมืองนั้นเหล่าซอเรียนบุกน้อยกว่าของเรา แต่อีก2เมืองชายฝั่งเมือง Western Fort และSteel Run ตอนนี้กำลังรับศึกกับซอเรียนอยู่เหมือนกัน ข้าไม่อยากบอกกับพวกเจ้านะ แต่ยังไงก็ต้องบอก กองกำลังซอเรียนที่เราเจอและรบเมื่อครู่นี้ คาดว่ามันเป้นเพียงแค่ 1ใน10 ของกองกำลังจริงเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น 2เมืองชายฝั่งWestern Fort / Steel Run ตอนนี้ต้องตกอยู่ในสภาวะที่หนักหนากว่าเรามาก ถึแม้ว่า 2เมืองนั้นจะมีทหารและเหล่าผู้กล้ามากกว่าเราหลายเท่า แต่ข้าไม่รู้ว่า2เมืองนั้นเค้าจะรู้เทคนิคการรบแบบพวกเราไหม ที่ทำให้เราชนะเหล่าซอเรียนพวกนี้มาได้" ท่านเซอร์อเล็กซ์ พูดเสร็จแล้วหยุดถอนหายใจยาวๆ และเริ่มพูดต่อ
" ข้าอยากจะไปสนามรบอีก 2เมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ข้าก็เห้นใจกับพวกเราที่รบกันมาถึง 4 ชั่วโมงกว่าๆ ข้าเลยอยากให้พวกเราจะพักเหนื่อยและรักษาบาดแผลกันให้เวลาพัก 1 ช.ม พอครบ1 ช.มเราจะเดินทางไปที่ 2เมืองชายทะเลWestern Fort / Steel Run ต่อเลย มีใครจะไปร่วมรบกับข้าอีกไหม รบกันให้เหล่าซอเรียนได้รู้จักพิษสงของมนุษย์" ท่านเซอร์อเล็กซ์ ตะโกนถามเหล่านักรบทุกคน และเสียงที่ท่านเซอร์อเล็กซ์ ได้ยินคือเสียงที่ทุกคนตอบรับที่จะไปรบต่อที่เมืองชายฝั่งที่เหลือ
"ท่านเซอร์อเล็กซ์ นายใหญ่เหนือหัวของเหล่าเอลฟ์มาถึงแล้วค่ะ " คิกิพูดแจ้งข่าวกับเซอร์อเล็กซ์
"โอ้ รีบๆเชิญหัวหน้าเอลฟ์มาหาข้าเลย ข้าก็อยากจะขอบคุณเค้าโดยตรงเหมือนกันที่อุตสาห์มาร่วมรบด้วย" เซอร์อเล็กซพูดด้วยสีหน้ายินดีทันที่ที่ได้ข่าว่าหัวนหน้าเอลฟ์มาร่วมรบแล้ว
" ข้ามาช้าไป หวังว่าท่านคงให้อภัยข้านะ ที่ศึกเมืองนี้ข้ามาไม่ทัน เพราะข้าติดที่ต้องขนเหล่าอาวุธและเหล่าลูกธนูนี้มาใช้ในสนามรบ " ผู้นำเอลฟ์ พูดพร้อมชี้มือไปทีเหล่ากองทัพเอลฟ์ประมาณ 10000คนเศษ พร้อมด้วยอาวุธและลูกธนูที่พวกเผ่าพันธ์เอลฟ์เป็นคนสร้าง
" ไม่เป็นไรหรอก ข้าสิต้องขอขอบคุณท่านที่อุตสาห์มาร่วมรบกับพวกเรา แถมยังเอาเหล่าอาวุธที่เอลฟ์ตีขึ้นมาให้อีก ข้าไม่รู้จะบอบคุณท่านยังไงแล้ว" เซอร์อเล็กซ์พูดและจับมือกับผู้นำเอลฟ์
" คิกิ เจ้ารีบนำกองทัพที่ข้าพามา เข้าไปเสริมกับกองทัพท่านเซอร์อเล็กซ์เลยนะ และแจกจ่ายอาวุธใหม่ด้วย เออ เกือบลืม เอายาสมาลแผลของเผ่าเอลฟ์เราไปทาให้กับเหล่าทหารและนักรบที่บาดเจ็บด้วยนะ เจ้าก็รู้ว่ายาของเผ่าเราดีขนาดไหน" ผู้นำเอลฟ์ สั่งการกับคิกิ คิกิรับคำสั่ง และได้สั่งการให้เหล่ากองทัพเอลฟ์ไปแจกจ่ายยาและอาวุธให้กับเหล่านักรบ
" ดาบและลูกธนูที่เผ่าเอลฟ์ของเราสร้างขึ้นมานี้ อาวุธเหล่านี้สร้างมาจากแร่มิสทรี ที่บริสุทธิ์ที่สุด มีพลังอำนาจในการฟันและยิงทะลุทะลวงเกราะหนาๆได้ และยาที่แจกจ่ายอยู่นี้มันจะช่วยพวกท่านฟื้นฟูพลังและรักษาอาการบาดเจ็บได้และเห็นผลทันที " คิกิ ตะโกนบอกเล่าเรื่องอาวุธและอย่าง พอคิกิพูดจบก็มีเสียงแสดงความยินดี ที่เผ่าเอลฟ์มาช่วย แถมสร้าดาบและลูกธนูที่มีพลังในการทะลุทะลวงเกราะให้อีก และมียาฟื้นฟูแบบสุดยอดมาให้ด้วย เหล่าทหารเลยรีบแจกจ่ายอาวุธและรีบฟื้นฟูพลังเพื่อที่จะไปช่วยอีก 2เมืองทะเลWestern Fort และ Steel Run และพร้อมที่จะไปรบต่อ หลังจากพัก 1ช.ม ทหารและนักรบก็ได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว ทุกคนก็ได้ทะยอยเดินทางสู่สนามรบเมืองทะเลWestern Fort และ Steel Run การรบสนามที่ 2ของพวกเค้ากำลังจะเริ่มขึ้นอีกแล้วผลจะเป้นยังไงน่า.............