GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 12
ผู้เขียน หัวข้อ: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction) อัพเดทบทที่ 31(อวสาน)และบทส่งท้าย 08/08/50  (อ่าน 10237 ครั้ง)
HeadEgg
Full Member
***
กระทู้: 699


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #60 เมื่อ: 15-04-2007, 16:13:18 »

ไม่ใช่สเปคผม ผมเฉยๆครับ - -
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #61 เมื่อ: 17-04-2007, 02:56:51 »

บทที่ 14 Grand Forest ป่าแห่งเอลฟ์

          ราฟาเอล อลัน วาเลนไทน์ และโซเฟีย ทั้ง 4คนก็ได้นั่งรถไฟใต้ดินเถื่อนจาก เมืองเซาร์เทิร์นฟอร์ท ต่อมายังหมู่บ้าน Steamiless และเดินเท้า รวมเวลาที่ทั้ง 4 คนใช้เดินทาง 2 ชั่วโมงกว่า ทั้ง 4 คนก็ได้มาหยุดยืนที่หน้าทางเข้าป่า Grand Forest หรือป่าแห่งเอลฟ์ " ดูบรรยากาศรอบๆสิ สมกับเป็นป่าที่พวกเอลฟ์อาศัยอยู่เลย ต้นไม้ในป่านี้ดูแปลกตา เพราะต้นไม้ในป่านี้ทั้งใหญ่โตกว่าต้นไม้ข้างนอก แถมยังขึ้นหนาแน่นมาก แสงแดดก็แทบจะไม่สามารถส่องลงมาได้เลย แถมมีหมอกจางๆปกคลุมทั่วป่าไปหมด ทำให้บรรยากาศดูเย็นยะเยือก แค่เห้นก็รู้สึกบรรยากาศที่แปลกและหนาวเหน็บแล้ว" อลันพูดไปพลางกอดอกไปพลางและทำท่าขนลุกเพราะมองดูบรรยากาศป่าแห่งเอลฟ์ " ปะ งั้นพวกเรารีบเข้าไปในป่าก่อนดีกว่า เพราะยิ่งเราหาพวกเอลฟ์เจอเร็วเท่าไร เราจะได้รีบไปสมทบกับท่านเซอร์อเล็กช์ที่ปราสาทกลางน้ำ Metalikanar " ราฟาเอลพูดพร้อมเดินนำหน้าเข้าไปในป่าGrand Forest ทั้ง 4คน เดินเข้าไปในป่าแห่งเอลฟ์ ก็ยิ่งรู้สึกว่า พวกเค้าทั้งหมดเหมือนเข้ามาในสถานที่ต่างโลกอย่างไงอย่างงั้นเลย เพราะบรรยากาศมันแปลกมาก อีกทั้งยังมีหมอกจางๆอีก 4-5 ช.ม ต่อมาทั้ง 4คน ก็เดินเข้ามาลึกมากแล้วแต่ก็ยังไม่เจอวี่แววเอลฟ์สักคน " พี่ๆราฟาเอล เราจะเจอเอลฟ์ไหมเนี่ย เดินมาตั้งนานแล้ว ยังไม่มีวีแววจะเจอเอลฟ์เลยอะ แถมหนูก็เมื่อยแล้วด้วยอะ เรานั่งพักแถวนี้ก่อนได้ไหมอะ พอหายเมื่อยแล้วค่อยเดินกันต่ออะ" โซเฟียพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า และเอามือบีบขาตัวเองเพื่อเป็นการบอกว่าเมื่อยขามากแล้วอยากนั่งพัก " เอาสิ เราก็เดินเข้าป่ามานานแล้ว นั่งพักหน่อยก็ดี " ราฟาเอลบอก พร้อมทั้งวางกระเป๋าสัมภาระลงบนพื้นและนั่งลง พร้อมๆกับอลัน และวาเลนไทน์ " เราจะเจอพวกเอลฟ์ได้ยังไงไม่รู้จะต้องใช้เวลากี่วันละเนี่ยแผนที่ก็ไม่มีแถมต้องมาเดินในป่าที่มีบรรยากาศแบบนี้อีก พูดแล้วขนลุกอีกแล้ว มันดูเย็นยะเยือกยังไงก็ไม่รู้" อลันพูดพร้อมมองไปรอบๆที่มีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่และหมอกจางๆ " ข้าคิดว่าป่าแห่งนี้ต้องปกคลุมไปด้วยพลังอะไรสักอย่างแน่ๆเลยที่ทำให้คนธรรมดาไม่สามารถหาพวกเอลฟ์เจอได้อะ บางทีพวกเราอาจจะเดินหลงทางเป็นวงกลมอยู่ก็ได้" ราฟาเอลพูดพร้อมมองหน้าไปที่อลันและวาเลนไทน์ "ทำไมคิดแบบนั้นละหรือว่ามีอะไรที่สะกิดใจหรือที่ทำให้คิดแบบนั้นนะราฟาเอล" อลันถามด้วยสีหน้าสงสัย " ท่านเห็นต้นไม้ข้างหลังข้าไหม ตอนเดินแรกๆข้าทำเครื่องหมายกากบาทไว้ที่ต้นไม้อะ และท่านดุสิว่าท่านเห็นอะไรที่ต้นไม้ข้างหลังข้า" ราฟาเอลบอกอลันและชี้มือไปที่ต้นไม้ข้างหลังที่ราฟาเอลพิงอยู่ " ต้นไม้ข้างหลังเจ้ามีเครื่องหมายกากบาทที่กรีดมาจากดาบ งั้นแสดงว่าพวกเราเดินหลงทางเป้นวงกลมมาตลอด 4-5ช.มนี้เลยอะสิเนี่ย" อลันพูดดด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้าเพราะเห็นเครื่องหมายกากบาทที่ต้นไหมที่ราฟาเอลทำไว้ "งั้นเราคงต้องตั้งหลักพักแถวนี้ก่อนแล้วละ เพราะนี่ก็คงใกล้ค่ำแล้วละ ยิ่งอยู่ในป่านี้คงค่ำเร็วละเพราะแสงแดดส่องลงมาไม่ได้เลย"ราฟาเอลพูดพร้อมทั้งลุกขึ้นไปหาเศษไม้มาทำฟืนก่อไฟ และอลันก็ลุกขึ้นหาฟืน ปล่อยให้โซเฟียและวาเลนไทน์จัดที่จัดทางสำหรับการพักค้างแรมที่ป่าแห่งนี้

          ตกค่ำทั้ง 4 คน ก็ก่อไฟกินอาหารและนอนหลับพักผ่อน และพลัดเวรกันมาเฝ้ายาม โดยที่ราฟาเอลเฝ้ายามก่อน 3ช.ม และตามด้วยอลัน และวาเลนไทน์ ผลัดกัยไปแบบนี้  แต่พอถึงเวลาที่อลันมาเฝ้ายาม ได้ 2ช.มกว่าๆ อลันก็เห็นวาเลนไทน์ ลุกขึ้นมาพร้อมทั้งแหนบดาบยาวแกร่งและดาบสมิงไว้ที่เอว และเดินมาทางอลัน " อ้าววาเลนไทน์ยังไม่ถึงเวลาของเธอเลยนะถ้าจะมาผลัดเวรยามกันอะ " อลันพูดบอกวาเลนไทน์ แต่วาเลนไทน์ก็เฉย และก็เดินผ่านหน้าอลันไปและเดินตรงไปที่ป่าต่อ จนอลันแปลกใจและรีบปลุกราฟาเอลและโซเฟียให้ลุกขึ้นมาดูวาเลนไทน์ โซเฟียเห็นดังนั้นก็รีบเดินไปหาวาเลนไทน์และดึงมือของวาเลนไทน์เอาไว้ "พี่วาเลนไทน์จะเดินไปไหนอะ นี่คำมึดดึกดื่นแล้วน่า ไว้รอพรุ่งนี้เช้าแล้วค่อยออกเดินทางก็ได้" โซเฟียพูดพร้อมดึงมือวาเลนไทน์ไว้ แต่ก็ไม่มีปฎิกิริยาตอบจากวาเลนไทน์ ทั้ง 3คนก็รู้แล้วว่าเกิดสิ่งผิดปกติกับวาเลนไทน์แล้ว และทั้ง 3 ก็รีบเก็บข้าวของและจำใจเดินตามวาเลนไทน์ไปเพราะอยากรู้ว่าเธอจะไปไหน ทั้ง 3คน เดินตามวาเลนไทน์มาสักครู่ก็เห็นวาเลนไทน์เดินผ่านระหว่างต้นไม้ใหญ่ 2ต้น และก็เดินหายไปในช่องว่างทางเดินระหว่างต้นไม้ทั้ง 2ต้นนั้น อลัน ราฟาเอลและโซเฟียต่างตกใจกับเหตการณ์นั้น และก็ได้รีบวิ่งตามวาเลนไทน์เข้าไปในช่องว่างทางเดินระหว่างต้นไม้ใหญ่ทั้ง 2ต้น พอทั้ง 4 คนเดินผ่านช่องว่างทางเดินระหว่างต้นไม้ใหญ่2ต้น ก็ผ่านเข้ามาถึงชั้นกลางของปาเอลฟ์ " ที่แท้ป่าแห่งนี้ถูกลงมนตราไว้ทำให้คนที่เข้ามาหลงทางเดินเป็นวงกลมวกกลับมาที่เดิมตลอด และทางเข้าก็อยู่ระหว่างต้นไม้ใหญ่ 2ต้นนี้เอง และบรรยากาศก็ดูดีขึ้นด้วยไม่มีหมอกแล้ว แล้ววาเลนไทน์เค้ารู้แล้วเดินมาได้ยังไงละเนี่ย " ราฟาเอลพูดพร้อมทั้งมองรอบๆตัว ตอนนี้บริเวณที่พวกเค้ายืนอยู่หมอกได้หายไปหมดแล้วแต่ข้างหลังป่าที่พวกเค้าอยู่ปะกี้ ยังมีหมอกอยู่เลย พอราฟาเอลพูดจบ วาเลนไทน์ก็ล้มทั้งยืน ดีที่อลันยืนอยู่ใกล้ๆเลยรับตัววาเลนไทน์ไว้ได้ทัน สักแป๊ปต่อมา วาเลนไทน์ก็ฟื้นและมองไปรอบๆพร้อมสะดุ้งและดีดตัวออกทั้งทีเพราะว่าวาเลนไทน์ยังอยู่ในอ้อมแขนของอลันอยู่เลย "ไม่ต้องตกใจไปหรอกวาเลนไทน์ ฉันไม่กอดเธอหรอก เธอแค่หมดสติทั้งยืนไปครู่อะ พอดีฉันอยู่ใกล้ๆเลยรับตัวเธอไว้ทันอะ" อลันพูดยิ้มๆที่เห้นวาเลนไทน์ตกใจเพราะอยู่ในอ้อมแขนของอลัน วาเลนไทน์มองหน้าอลัน ราฟาเอล และโซเฟียอย่างงง และกำลังจะเขียนถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ราฟาเอลรู้ทันเลยชิงอธิบายก่อน "อยู่ๆเธอก็เดินออกมาจากที่พักอะ ไม่ว่าใครจะเรียกหรือดึงมือเธอยังไงเธอก็ไม่สนใจอะ เธอก็ยังเดินนำพาให้พวกเราผ่านป่าวงกตมาได้อะ เธอเป็นอะไรไปหรือเปล่าหรือจำอะไรได้ไหมในช่วงเวลาประกี้อะ" ราฟาเอลถาม วาเลนไทน์ก็ได้แต่ส่ายหน้าปปละทำสีหน้าแบบงงๆ และทุกคนก็ยังงงกับเหตการ์ของวาเลนไทน์อยูเลย
 
           อีกฝากนึงของป่า " เอ๊ะ.. มีโทรจิตจากต้นไม้ในป่าว่ามีผู้บุกรุกเดินผ่านป่าที่เผ่าเอลฟ์ของเราใช้เวทย์มนต์สะกดทางเดินป่าให้คนที่เดินเข้าป่ามาหลงทาง แต่พวกนั้นผ่านมาได้ยังไง" เอลฟ์สาวนางหนึงพูดขึ้นมาเพราะมีสัญญานโทรจิตจากป่าโทรจิตมาบอกว่ามีผู้บุกรุกเดินทะลุผ่านเขตมนตราเข้ามายังส่วนกลางของป่าเอลฟ์ได้แล้ว เอลฟ์นางนี้เลยรีบวิ่งอย่างเร็วไปที่ทางเข้าต้นไม้ใหญ่ 2ต้น และเห้นพวกวาเลนไทน์กำลังยืนอยู่ ฟิ้ว......พลุบ (เสียงธนูยิงลงมาที่พื้นแถวๆที่พวกราฟาเอลยืนอยู่) " นี่เป้นการยิงเตือน พวกท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอันใด สถานที่นี้ไม่ต้อนรับคนนอก ขอให้พวกท่านออกไปซะก่อนที่ฉันจะยิงธนูใส่พวกท่านจริงๆ " เอลฟ์สาวพูดเตือนพร้อมทั้งง้างธนูพร้อมที่จะยิงได้ทุกมื่อ พวกราฟาเอล รีบหันไปเจ้าของเสียงและเจ้าของลูกธนูที่ยิงลงมาที่พื้นข้างหน้าของพวกตน เจ้าของเสียงเป้นสาวชาวเอลฟ์ หน้าตาสวย ผมยาวสีทองถึงกลางหลัง มีหูที่ยาวเป็นแบบเฉพาะของเผ่าเอลฟ์ ส่วนชุดเป้นชุดคล้ายๆแบบแนวนักธนูในป่า แต่ดูทะมัดทะแมน และเอลฟ์นางนี้มีนามว่า " คิกิ " " ที่พวกข้าบุกรุกมายังสถานที่นี้ เพราะข้ามีข่าวสารที่สำคัญมากบางอย่างที่จะมาแจ้งให้ผู้นำเอลฟ์ได้ทราบ " อลันพูดพร้อมทั้งชูสารน์ที่ม้วนให้เอลฟ์นางนี้ดู แต่ยังไม่ทันที่สาวเอลฟ์ จะพูดตอบก็มีโทรจิตส่งมายังที่สมองของเอลฟ์สาวคนนี้ {{ คิกิ เจ้านำทางให้พวกเค้าเข้ามาหาข้าที }} เสียงโทรจิตเป้นเสียงของผู้นำเผ่าเอลฟ์ {{ แต่ว่า เราจะไว้ใจพวกเค้าได้มากน้อยเพียใดละท่านผู้นำ เค้าสามารถผ่านเขตมนตราของเรามาได้อย่างง่ายดาย แสดงว่าพวกนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ}} คิกิ ส่งโทรจิตตอบกับไปถึผู้นำเอลฟ์ {{ เอาเถอะน่า เจ้าทำตามที่ข้าบอกละกัน แล้วข้าจะเล่าให้ฟังพร้อมกับพวกนั้นนะ}} ผู้นำเผ่าเอลฟ์ก็ส่งโทรจิตตอบกับมายังคิกิ " พวกเจ้าเดินตามข้ามาทางนี้ ประกี้ท่านผู้นำเอลฟ์ได้ส่งโทรจิตบอกให้ข้านำทางพวกเจ้าให้ไปพบกลับท่านผู้นำเผ่าเอลฟ์ของเรา" คิกิพูดและเก็บคันธนูพร้อมทั้งเดินนำหน้าพวกของราฟาเอล และพาพวกราฟาเอลไปยังใจกลางป่าGrand Forest เป็นที่อยู่ของเอลฟ์ทั้งมวล.....................
ลูคัส
Jr. Member
**
กระทู้: 150


เว็บไซต์
Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #62 เมื่อ: 17-04-2007, 07:32:44 »

ราฟาเอล..............   เบนิเตซหรือเปล่าหว่า(โค้ชทีมลิเวอร์พูล)      ใช่คนเดียวกันไหม    ฮา



ข้าไม่นับถือเทพองค์ใด ข้าไม่ศรัทธาในสิ่งใด สิ่งที่ข้าเชื่อและศรัทธาคืออาวุธและพลังของข้าเท่านั้น

อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #63 เมื่อ: 17-04-2007, 12:23:51 »

อ้างจาก: domon ที่ 17-04-2007, 07:32:44
ราฟาเอล..............   เบนิเตซหรือเปล่าหว่า(โค้ชทีมลิเวอร์พูล)      ใช่คนเดียวกันไหม    ฮา
นั้นลุงมามุขนี้เลยหรือ ถ้างั้นเซอร์อเล็กที่ปกครองเมืองเซาร์เทิร์ฟอร์ทก็เป็นท่านเซอร์อเล็กเฟอกูสัน (โค้ชทีมแมนยู)อะสิท่า^^
ปล. กว่าจะได้ปักมุด TT (ดีใจจังปักมุดสักที^^)
SMOTOKING ~~"
Full Member
***
กระทู้: 922


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #64 เมื่อ: 17-04-2007, 20:24:57 »

ยินดีด้วย^^"

€ ~ o น่ า ร๊ า ก ใ ช่ มั๊ ย o ~ €


คลิกหน่อยน๊าาาาาา



HeadEgg
Full Member
***
กระทู้: 699


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #65 เมื่อ: 17-04-2007, 22:01:45 »

อลัน เชลเลอร์ เปนใครไม่รุ ชื่อคุ้นๆ

ปล. เอาด้วย 555555555+ Cheesy
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #66 เมื่อ: 18-04-2007, 01:47:55 »

บทที่ 15 ผู้นำเอลฟ์และการตัดสินใจ....
   
          ราฟาเอล อลัน วาเลนไทน์ และโซเฟีย ก็เดินตามคิกิไป เพราะคิกิเป็นคนเดินนำทางเพื่อพาพวกอลันไปหาผู้นำของเผ่าเอลฟ์บรรยากาศโดยรอบที่พวกอลันเห้น เป็นบรรยากาศและทิวทัศน์ ที่สวยงามแปลกหูแปลกตามาก แม้จะเป้นยามค่ำคืน เพราะมีทั้งต้นไม้ที่แปลกตา และดอกไม้ที่สวนงามมากขึ้นอยู่เต็มไปหมด สักครู่คิกิก็กล่าวเชิญให้พวกของอลัน เดินตามเค้าขึ้นบันไดวนรอบต้นไม้ใหญ่ไปสู่ชั้นบนที่เป้นปราสาทเล็กๆสีขาวของต้นไม้ใหญ่ที่ทำเป้นที่พักของผู้นำเอลฟ์ และแล้วพวกอลันก็เดินขึ้นมาถึชั้นบนสุดของปราสาทเล็กๆสีขาวบนต้นไม้ และพวกอลันก็ได้เห้นผู้นำของเหล่าเอลฟ์ ที่นั่งอยู่บนบัลลังที่แกะสลักจากไม้สีขาว พวกอลันก็โค้งคำนับทำความเคารพแก่ผู้นำเอลฟ์ เท่าที่พวกอลันดู ผู้นำของเผ่าเอลฟ์ยังดูเป้นชายวันกลางคนอยู่เลย ผมสีทองยาวตัวไม่สูงใหญ่มากนัก และใส่มงกุฎสีเงินเป็นทรงดอกไม้สีเงินพันรอบเป้นวงมงกุฎ " ข้าเป็นผู้นำของเผ่าเอลฟ์ มีนามว่า " เฮรอส " และข้าขอเชิญเหล่าผู้กล้าที่เดินทางมายังป่าเอลฟ์แห่งนี้นั่งพักกันก่อน " ผู้นำเอลฟ์แนะนำตัวและผายมือเชิญให้พวกอลันนั่งที่เก้าอี้ไม้สีขาวที่แกะสลักไว้สวยงาม ที่แยกไว้ฝั่งละ 2ตัว  ผู้นำเอลฟ์ก็ให้เหล่าสาวชาวเอลฟ์ยกน้ำและอาหารว่างมาต้อนรับพวกอลัน " ข้าชื่อ อลัน ส่วนนักดาบชายผมสีแดงชื่อ ราฟาเอล และน้องสาวเค้าผมมีสีแดงเหมือนกันชื่อโซเฟีย และนักดาบสาวผมสีดำยาวชื่อ วาเลนไทน์ พวกเรามาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องสำคัญมากและมีสารน์จากผู้นำมนุษย์ส่งถึงผู้นำของเผ่าเอลฟ์" อลันพูดแนะนำตัวจบและหยิบสาน์ที่เป้นกระดาษม้วนที่ตีตราอณาจักรเมทันลิก้า ยื่นให้กับคิกิเพื่อที่จะใหคิกิเดินเอาไห้กับผู้นำเอลฟ์ พอท่านเฮรอส ได้อ่านสารน์จบก็ถอนหายใจยาวมา 1ครั้ง " เป็นตามที่ข้าคิดไว้เลยว่าแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมานี้มันคือคำทำนายในสมัยก่อนแน่ๆ และมันก็จริงอย่างที่ข้าคิดไว้เลย มหาสงคราต้องกลับมาอีกครั้งแน่ สงครามครั้งที่แล้วข้าก็ร่วมรบด้วย และข้านี่เองละที่พาเหล่าเอลฟ์ที่รอดตายจากสงครามครั้งนั้นมาอาศัยอยู่ที่ป่าแห่งนี้" ท่านเฮรอสเล่าจบก็ถอนหายใจยาวๆอีก 1ครั้ง บงบอกว่าเรื่องที่ท่านเฮรอสกำลังกลุ้มใจต้องกลับมาอีกครั้งแน่ " นั้นก็เป้นเรื่องจริงสิค่ะ ที่ว่าพวกเอลฟ์มีอายุยืนยาวเป็นอมตะ" โซเฟียถามด้วยอาการที่อยากรู้อยากเห็น " อายุยืนนานละใช่ แต่ไม่อมตะเหมือนกับที่เจ้าคิดหรอก เห็นข้าแบบนี้ก็เถอะ ข้ามีอายุมา 500 ปีแล้ว ส่วนคิกิ เอลฟ์สาวที่นำเจ้ามานี่ อายุ 150 ปีเห้นจะได้ เพราะพวกเราอายุยืนนานแบบนี้ละทำให้เราเห้นโลกเปลี่ยนแปลกไปมากมาย จนบางครั้งพวกข้าก็คิดกันไปว่า เหตใดที่เผ่าพันธ์เอลฟ์ถึงมีอายุยืนนานขนาดนี้" ท่านเฮรอส พูดพลางมีสีหน้าเรียบเฉย พอโซเฟียได้ฟังท่านเฮรอสอธิบายก็หายสงสัย " แล้วเจ้าไม่สงสัยอีกข้อหรือ ว่าทำไม นักดาบสาวคนนั้นถึงได้เดินนำทางพวกเจ้า จนผ่านเขตมนตราเข้ามายังใจกลางป่านี้ได้ละ" ท่านเฮรอสพูดพลางมีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก " อย่าบอกนะว่านั่นเป็นฝีมือของท่านนะ ท่านเฮรอส" คิกิ ชิงถามก่อนพวกอลัน "คงงงละสิ คิกิ ที่ข้าส่งกระแสจิตเข้าไปยังนักดาบสาวคนนั้นและสะกดจิตนักดาบสาวคนนั้นนำทางพวกเค้ามาถึงนี้ได้อะ เพราะข้ามีลางสังหรว่า พวกเค้า 4คนที่มานี่ ต้องมีประโยชน์ต่อมหาสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นมาแน่ๆ โดยเฉพาะ นักดาบสาวคนนั้นด้วยแล้ว ข้ารู้สึกว่ามีพลังบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวนาง ทำให้ข้าสามารถส่งกระแสจิตถึงนางได้คนเดียวโดยง่ายดาย " ท่านเฮรอสอธิบายพร้อมทั้งมีรอยยิ้มให้กับวาเลนไทน์ ทั้งๆที่ตอนนี้วาเลนไทน์ยังทำหน้างงๆและหันหน้าไปทางพวกอลันและโซเฟีย ซึ่งตอนนี้ทั้งอลัน ราฟาเอล และโซเฟีย ต่างหมดข้อสงสัยกับพฤติกรรมแปลกๆของวาเลนไทน์ในป่าแล้ว " งั้นมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะ ข้าและพวกเหล่าเอลฟ์จะร่วมทำศึกครั้งนี้ด้วย เพราะยังไงถ้าฝ่ายมนุษ์ยแพ้ ป่าแห่งนี้ก็คงไม่เหลือซากแน่นอน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมีสารน์จากข้าส่งให้กับเจ้าเอาไปให้กับผู้นำของฝ่ายมนุษย์ และจะมอบสิ่งที่ยืนยันว่าเผ่าเอลฟ์ของเราจะร่วมทำศึกครั้งนี้ด้วย ตอนนี้ขอให้พวกเจ้าพักผ่อนกันก่อนเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้วด้วย  เพราะข้านำตัวพวกเจ้ามาตอนดึกนี่เนอะ" ท่านเฮรอสพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นและยืนยันว่าเอลฟ์ร่วมทำศึกนี้แน่ และพูดให้พวกอลันไปพักผ่อนตามสบาย โดยมี คิกิ เป็นคนเดินนำพาไปตามห้องที่พัก ขอแต่ละคน

          รุ่งอรุณของวันใหม่ที่ใจกลางป่าเอลฟ์ วาเลนไทน์ที่ตื่นก่อนใครเพื่อนก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาเดินที่ข้างล่างหน้าปราสาทต้นไม้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ที่ปลดภัยแต่วาเลนไทน์ก็ยังพกดาบสมงแนบไท่เอวตลอดไม่เคยให้ห่างตัวเลย และวาเลนไทน์ก็เดินดูบรรยากาศที่เหมาะเจาะกับที่แสงแดดส่องลงมาต้องกระทบกับน้ำค้างที่อยู่บนเหล่าใบไม้ และดอกไม้ ที่แปลกตาและสวยงาม ทำให้พวกวาเลนไทน์คิดว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่สวยงามแบบนี้อยู่ในพื้นแผ่นดินนี้อีก และขณะที่วาเลนไทน์กำลังเพลินกับการเดินชมต้นไม้และดอกไม้ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาที่ข้างหลังวาเลนไทน์ " ดอกไม้และบรรยากาศของที่นี่สวยไหม " เสียงที่ว่าคือท่านเฮรอสนี่เองที่กำลังทักทายวาเลนไทน์ วาเลนไทน์พยักหน้าตอบและยิ้มเล็กน้อยให้กับท่านเฮรอส " ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าพูดไม่ได้จริงๆหรือเจ้าทำเป้นใบ้ไม่พูดกับเพื่อนๆของเจ้า แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงมีเรื่องหนักใจหรือเรื่องร้ายแรงบางอย่างที่ไม่อาจเปิดเผยได้ และไม่อยากให้ใครรู้ เจ้าก็เลยทำเป้นพูดไม่ได้ซะเลย เจ้าว่าที่ข้าพูดมาถูกต้องไหม" ท่านเฮรอสถามด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนและเหมือนรู้ความคิดของวาเลนไทน์ วาเลนไทน์ก็มีเพียงสีหน้าเรียบเฉยแต่อ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้ทำท่าทางหรือสีหน้าตอบท่านเฮรอสแต่ประการใด " เจ้าไม่ต้องตอบหรือทำสีหน้าใดๆหรอกนะ ข้าก็แค่ถามสันนิฐานดูเล่นๆ" ท่านเฮรอสพูดยิ้มๆเดินกลับขึ้นไปที่ปราสาทต้นไม้ปล่อยให้วาเลนไทน์เดินดูต้นไม้และดอกไม้ตามปกติ สักพัก อลัน ราฟาเอล และโซเฟียก็ตื่นและลงมาหาวาเลนไทน์ข้างล่างและเดินดูดอกไม้และมีสีหน้าตื่นเต้นที่ได้เห็นบรรยากาศยามเช้าที่แสนวิเศษแบบนี้ในป่าเอลฟ์เหมือนวาเลนไทน์  สักพักใหญ่ๆ ก็มีสาวชาวเอลฟ์ เดินมาเชิญให้พวกอลันขึ้นไปหาท่านเฮรอสที่ห้องโถงเมื่อคืน และเมื่อพวกอลันได้เห้นท่านเฮรอสก็ได้ทำความเคารพโดยการก้มห้วเล็กน้อยให้กับท่านเฮรอส " เอาละเรื่องที่เราคุยกัยไว้เมื่อคืน นี่เป้นม้วนสารน์ที่ผู้นำเอลฟ์จะส่งให้กับผู้นำของฝ่ายมนุษย์ " ท่านเฮรอสยื่นสารน์ให้สาวใช้ชาวเอลฟ์เพื่อที่สาวใช้ชาวเอลฟ์จะได้นำม้วนสารน์นี้ส่งให้กับอลัน อลันพอได้รับสารน์สำคัญนี้แล้วก็ได้เก็บไว้ที่ตัวเองโดยใส่ไว้ที่กระเป้าเน็บอยู่ที่เอวของอลัน " และนี่ก็คือ สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเผ่าเอลฟ์จะร่วมรบกับฝ่ายมนุษย์ในมหาสงครามที่กำลังจะเกิดในไม่ช้านี่แน่นอน " ท่านเฮรอสลุกขึ้นยืน และชี้ไปที่ประตูด้านขวามมือ และประตูก็เปิดออก เป็นนักรบเอลฟ์สาวนางหนึ่งที่วันนี้แต่งตัวในชุดนักธนูของเอลฟ์สีเขียว มีทั้งธนูและสัมภาระติดตัวเพื่อร่วมเดินทางไปด้วย เอลฟ์สาวคนนั้นก็คิอ คิกิ นั้นเอง " หา คิกิ จะไปด้วยหรือ" อลัน ราฟาเอล และโซเฟียต่างพูดพร้อมกัน " ใช่ เพราะจะเป้นเครื่องยืนยันที่หนักแน่นว่า เผ่าเอลฟ์ขอเราจะร่วมรบด้วยแน่นอน พวกเจ้าจงให้คิกิร่วมเดินทางเป้นสหายไปด้วยอีกคนนะ หวังว่าคไม่มีปัญหานะ" ท่านเฮรอสพูดจาฝากฝังให้ คิกิ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะสหายคนหนี่ง " และก่อนที่สงครามจะเริ่ม ข้าจะรวมรวมเหล่าเอลฟ์ที่อยู่ในป่านี้ทั้งหมด ให้มาเตรียมพร้อมและตีเกราะตีอาวุธไว้ให้พร้อมด้วยอีกทางนึง และถ้าวันไหนที่สงครามทำท่าจะเริ่ม คิกิ เค้าจะสื่อสารติดต่อกับพวกข้าเองและพวกเอลฟ์ก็จะยกกำลังไปช่วยรบด้วย" ท่านเฮรอสพูด ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและยืนยันเป้นแน่ชัดว่าเอลฟ์จะร่วมรบแน่นอน "เรื่อง คิกิ คงไม่มีปัญหาละ ดูสิน้องข้าไปจับมือและดึกคิกิมาแล้ว ท่าทางจะชอบมากซะด้วยที่มีพวกมาร่วมเดินทางอีกคน" ราฟาเอลพูดด้วยสีหน้ายิ้ม ที่เห็นน้องสาวของตนเดินไปจูงมือคิกิให้มาเข้ากลุ่ม " งั้นพวกเราขอตัวลาก่อนละกัน เพราะต้องรีบแจ้งเรื่องให้ทางผู้นำฝ่ายมนุษย์ทราบโดยเร็ว เพราะตอนนี้ กำลังมีการชุมนุมเหล่าผู้นำเมืองต่างๆ อยู่ที่ปราสาทกลางน้ำMETALIKANAR หารือเรื่องสงครามนี่ละ" อลันพูดพร้อมทำท่าโค้งคำนับลาท่านเฮรอส และกลุ่มนี้ก็มีสหายเพิ่มมาอีกนึงเป็นเอลฟ์สาวสวยเสียด้วย นามว่า คิกิ  และทั้งหมดก็ได้ลาท่านเฮรอสและเร่งเดินทางออกจากป่าGrand Forest โดยมี คิกิเป้นคนพาเดินออกจากป่า และพอออกจากป่าได้ อลันก็รีบพาทั้งหมดขึ้นรถไฟใต้ดินเถื่อนมุ่งหน้าตรงไปที่ปราสาทกลางน้ำMETALIKANAR .............................
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #67 เมื่อ: 18-04-2007, 15:04:20 »

บทที่ 16 การประชุมเหล่าผู้นำที่ปราสามกลางน้ำMETALIKANAR และ...........

         2 วันผ่านไป ฝนตกตลอด 2วันที่ผ่านมา อีกด้านหนึงของอณาจักร ณ. ห้องประชุมที่ปราสาทกลางน้ำMETALIKANAR  ตรงกลาห้องประชุมมีโต๊ะประชุมสีเหลี่ยมขนาดใหญ่และยาวมีตราของอณาจักรเมทัลลิก้าอย่ที่กลางโต๊ะ และมีเหล่าผู้นำของแต่ละเมืองนั่งประชุมกันหลายคน และมีผู้ปกครองปราสาทกลางน้ำMETALIKANAR นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เป็นชายวัยสูงคน อายุประมาณ 60กว่าๆ ผมสีขาวและมีมงกุฎทองใส่ที่หัวบ่งบอกว่าเป็นกษัตย์ ของอณาจักรนี้ กษัตย์องค์นี้มีนามว่า " อาเทอรียที่ 3" " ตามที่พวกเราได้ประชุมกันมาถึง 2วันแล้วและประชุมปรึกษาหารือเรื่องต่างและเหล่าเหตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นของแต่ละเมืองแล้ว  ทุกคนคงจะเข้าใจเหตผลแล้วนะที่ต้องเรียกประชุมเหล่าผู้นำของหัวเมืองต่างๆให้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่นี่" กษัตย์อาเทอเรียที่3 กล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่นุ่มนวลแต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่น เหล่าผู้นำทุกหัวเมืองต่างก็พยักหน้าเข้าใจเหตผลที่มาประชุมและหารือกันใน2วันที่ผ่านมา " ด้วยนามของกษัตย์อาเทอเรียที่3 ขอให้เหล่า ผู้นำหัวเมืองต่างๆรีบระดมพลและอาวุธเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่า คำพยากรณและสงครามจะเริ่มตอนไหน ขอให้ทุกคนตรียมตัวให้พร้อมที่สุด "กษัตย์อาเทอเรียที่3 สั่งการโดยที่ทุกคนรับทราบกันโดยทั่วกัน สักพักก็มีทหารเดินอย่างรีบร้อนและเปิดประตูห้องประชุม และกล่าวรายงานต่อกษัตย์อาเทอเรียที่3 ว่า "ขณะนี้ ตามที่ทหารเรือและนักวิชาการของเราได้ออกลาดตะเวนทางทะเลด้านเหนือ แถวเมืองWestern Fort และ แถวหมู่บ้าน Steel Run เพื่อที่จะไปลาดตะเวนดูน้ำวน ก็สังเกตว่าขณะนี้ มหาน้ำวนที่เคยมีขนาดใหญ่และเชี่ยวกราด ขณะนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ละเล็กละน้อยแล้ว และเท่าที่นักวิชาการทั้งหลายสังเกตดูขนาดและความแรงของมหาน้ำวนเริ่มจะอ่อนกำลังลงและนักวิชาการทั้งหมดต่างลงความเห้นว่า คาดว่าอีกไม่กี่เดือน คงจะไม่มีมหาน้ำวนแล้ว พะยะค่ะ" ทหารลาดตะเวนกล่าว ทูลต่อกษัตย์อาเทอเรียที่3 แค่ข่าวนี้ข่าวเดียวก็ทำให้เหล่าผู้นำของแต่ละเมืองและ กษัตย์อาเทอเรียที่3 ตกใจเป้นอย่างมาก ว่าแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่แล้วมันจะมีผลกระทบถึงเพียงนี้เชียวหรือ " พวกท่านเหล่าผู้นำของแต่ละเมือง คงต้องรีบหากำลังพลและอาวุธแล้วละ ข้าคาดว่าอีกไม่นานแน่ที่น้ำวนหมดลง พวกเหล่าเซอเรียนที่ดุร้ายที่สุดต้องบุกมาแน่นอน และมหาสงครามต้องเกิดขึ้นอีกครั้งแน่" กษัตย์อาเทอเรียที่3 กล่าวด้วยสีหน้าที่หนักใจที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามกับพวกเซอเรียนได้แน่ๆ

          " และสงครามครั้งนี้ พวกเผ่าเอลฟ์จะร่วมทำสงครามกับพวกเราด้วย" ทุกคนต่างหันไปทางเสียงที่พูดแทรงขึ้นมาซึ่งอยู่ทาประตูหน้าที่ทหารลาดดะเวนเข้ามารายงานตะกี้ เป็นกลุ่มของอลันนั้นเองที่แต่งชุดคลุมฝนอยู่มีฮูดคลุมที่หัว มีทั้งอลันที่พูดตะกี้ ราฟาเอล โซเฟีย วาเลนไทน์และคิกิที่อยู่ในชุดฮูดคลุมหัวไว้ " พวกเจ้าเป็นใครบังอาจเข้ามาในห้องประชุมของเหล่าผู้นำนี้ได้ยังไงกัน และเจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกเอลฟ์จะเข้าร่วมสงครามด้วย พวกมนุษย์ไม่ได้ติดต่อกับพวกเอลฟ์นานเป็นร้อยกว่าปีแล้ว " ผู้นำของเมืองหนึ่งลุกขึ้นยืนพูดด้วยน้ำเสียงโมโห " ขอประทานโทษด้วยที่เหล่าลูกน้องของข้าเข้ามาโดยพละการ คนพวกนี้ เป็นคนของข้าเอง ข้าได้ใช้ให้พวกเค้าเข้าไปที่Grand Forest ป่าแห่งเอลฟ์ เพื่อไปติดต่อและส่งข่าวสารกับพวกเอลฟ์เอง ข้าเองก็ลืมแจ้งให้เหล่าผู้นำและกษัตย์อาเทอเรียที่3 ขออภัยให้ข้าด้วยเถอะนะ" ท่านเซอร์อเล็กซ์รีบลุกขึ้นมาอธิบายเรื่องต่างๆให้เหล่าผู้นำและกษัตย์อาเทอเรียที่3 ทราบ " แล้วที่เจ้าพูดตะกี้เป็นความจริงหรือนักดาบหนุ่ม" กษัตย์อาเทอเรียที่3 ถามอลันที่พูดตะกี้ "นี่พะยะค่ะ เป็นสารน์จากผู้นำเอลฟ์" อลันยื่นสารน์จากผู้นำเอลฟ์ให้ทหารคนสนิทของกษัตย์อาเทอเรียที่3 แล้วทหารคนสนิทก็นำสารน์นี้ให้กับกษัตย์อาเทอเรียที่3 ทรงอ่าน พอกษัตย์อาเทอเรียที่3 อ่านสารน์จนจบก็มีสีหน้ายิ้มขึ้นมา " พวกเอลฟ์ได้ส่งสารน์มาจริงๆ ที่นี้พวกเราก็มีพันธมิตรร่วมรบอีกหนึ่งแล้ว ข้าดีใจจริงๆที่พวกเอลฟ์ยังไม่ลืมมนุษย์อย่างพวกเรา " กษัตย์อาเทอเรียที่3 กล่าวด้วยสีหน้าและเสียงที่ดีใจ " และนี่เป็นหลักฐานอีกอย่างที่ผู้นำเอลฟ์ยืนยันหนักแน่นว่าเผ่าเอลฟ์ของเค้าเข้าร่วมรบแน่ " อลันพูดและหันหน้าไปที่คิกิที่ตอนนี้ คิกิ ก็ถอดชุดฮูดคลุมหัวออก ให้ทุกคนเห็นว่าเค้าคือคนเผ่าเอลฟ์ ทุกคนในฟ้องประชุมต่างตกตะลึงเพราะน้อยคนนักที่จะเคยเห้นพวกเอลฟ์ "โอ้ ท่านผู้นำเอลฟ์ให้เกียรติ ถึงขนาดส่งเอลฟ์นางนี้มาเป็นตัวแทนและหลักฐานว่าร่วมรบแน่นอนเลยหรือ ข้าในฐานะกษัตย์ของอณาจักรนี้ ขอขอบคุณผู้นำเอลฟ์และเผ่าเอลฟ์มากลย"  กษัตย์อาเทอเรียที่3 กล่าวขอบคุณผู้นำเอลฟ์ผ่านทาง คิกิ "ข้าก็แค่ร่วมเดินทางและสังเกตการณ์ และคอยดูเหตการณ์ต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้และ มีหน้าที่ส่งข่าวสารน์ต่างๆถึงผู้นำเอลฟ์ของพวกเราโดยตรง" คิกิอธิบายให้เหล่าผู้นำและกษัตย์อาเทอเรียที่3 ทราบ ขณะนั้นเอง วาเลนไทน์ก็เดินไปที่หน้าต่างแบบสงสัยบางอย่าง และมีสีหน้าตกใจอย่างมากกับภาพที่เห้นอยู่นอกหน้าตา และวาเลนไทน์ก็เอาด้ามดาบเคาะที่หน้าต่างดังมาก จนทุกคนในห้องประชุมต่างหันไปมองวาเลนไทน์ และวาเลนไทน์ก็ชี้มือให้ทุกคนในห้องดูสิ่งผิดปกติที่นอกหน้าต่าง และเท่านั้นเอง ทุกคนที่เห็นเหตการณ์นี้ต่างก็ตกใจเป้นอันมาก เพราะมันคือคำพยากรณ์ที่2 " ฝนตกเป็นสายเลือด " ฝนเลือดนี้ตกเป็นเวลา 1 ชั่วโมง และก็กลายเป้นฝนธรรมดาเหมือนเดิม ใน 1 ชั่วโมงที่เกิดฝนตกเป็นสีเลือดนี้ ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมตกอยู่ในอาการตึงเครียด และบรรยากาศข้างนอกก็เป้นสีแดงไปหมดดูแล้วช่างน่ากลัวและน่าขนลุกเป้นยิ่งนัก ทุกอย่างถูกย้อมแดงไปหมด " เอาละ คำพยากรณที่ 2 ก็ออกมาแล้ว ข้าขอให้ท่านผู้นำหัวเมืองทุกท่าน เตรียมดำเนินงานได้แล้ว มหาสงครามกำลังนับเวลาถอยหลังแล้วละ พวกเราถ้าร่วมใจกัยทุกเผ่าพันธ์ พวกเราไม่แพ้แน่ๆ" กษัตย์อาเทอเรียที่3 พูดปลุกขวัญกำลังใจและสั่งการให้เหล่าผู้นำรีบกลับไปดำเนิกการทันที และเหล่าผู้นำทั้งหลายก็ได้แยกย้ายกันกลับไปตามเมืองของตัวเอง รวมทั้งพวกของท่านเซอร์อเล็กและอลันด้วย................

คำพยากรณ์ ที่2 ฝนตกเป็นสายเลือดได้อุบัติขึ้นมาแล้ว ไม่ช้านี้ อะไรเกิดขึ้นอีก มหาสงครามได้เริ่มนับเวลาถอยหลังแล้ว.................
HeadEgg
Full Member
***
กระทู้: 699


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #68 เมื่อ: 18-04-2007, 21:33:33 »

เอ่อ.. ตะกี๊ครับ ม่ายช่ายประกี๊
ลูคัส
Jr. Member
**
กระทู้: 150


เว็บไซต์
Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #69 เมื่อ: 19-04-2007, 05:46:27 »

รีบจัดจนพิมพ์ผิดไปเยอะเลย  แต่ก็สนุกดีนะ  จะรออ่านตอนต่อไปครับ



ข้าไม่นับถือเทพองค์ใด ข้าไม่ศรัทธาในสิ่งใด สิ่งที่ข้าเชื่อและศรัทธาคืออาวุธและพลังของข้าเท่านั้น

<•KoddJaMann•>
Full Member
***
กระทู้: 523

เรารู้จาย...เพราะเรา...ฮั้วกาน...


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #70 เมื่อ: 19-04-2007, 17:30:25 »

อ่านมารทอน 14ตอนรวด เหอะๆๆ

ดีนะที่เป็นจอ LCD ไม่งั้นปวดตาตายเลย

*******KoddJaMann*******
   ///////ตลิ่งชันมาสเตอร์\\\\\\\

คลิกที่รูปเพื่อไปยังบอร์ดการ์ตูนของผมเอง
IMMORTAL
Jr. Member
**
กระทู้: 84


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #71 เมื่อ: 20-04-2007, 14:35:28 »

ให้ดู 3วินาทีนะครับ แล้วคิดว่าเป้นรูปอะไร
IMMORTAL
Jr. Member
**
กระทู้: 84


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction) ให้ดู 3วินาทีนะครับ แล้วคิดว่าเป้นรูปอะไร
« ตอบ #72 เมื่อ: 20-04-2007, 14:38:27 »

มันเป้นรูปปลาโลมา 8ตัวครับ เด็กมองจะรู้ทันทีเลย เป็นภาพสำหรับเด็กที่มีอายุ5-10ขวบ
¤MԾդщΊN¤
Hero Member
*****
กระทู้: 3,921

۩~♥ถ้าไม่รักเธอแล้วจะให้ไปรักใคร♥~۩


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #73 เมื่อ: 20-04-2007, 14:42:06 »

รูปขวดเหล้าสาเก ลายผู้ชายกอดผู้ฉิงจากข้างหลัง เมื่อผู้ฉิงโชวเต่า(รักแร้) ผู้ชายหันหน้าหนี
อาริงกิ๊งกิ๊ง
Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 7,353


Re: นิยาย PJ1. (แนวFan Fiction)
« ตอบ #74 เมื่อ: 21-04-2007, 02:01:42 »

บทที่ 17 แผนการรวบรวมเหล่าสหายร่วมรบใหม่ๆ

          ในการเดินทางกลับโดยนั่งรถไฟใต้ดินเถื่อนกลับเมืองเซาเทิร์นฟอร์ทนั้น คณะเดินทางของท่านเซอร์อเล็กซ์ ก็ได้ประชุมปรึกษาหารือเรื่องการหากำลังพลมาเสริม " คาดว่าเราต้องหากำลังพลมาเสริมอีกเยอะเลยละ เพราะเท่าที่ข้าได้คุยกับเหล่าผู้นำของแต่ละหัวเมือง เค้าก็กำลังรวบรวมคนกันอยู่ แต่เอาเข้าจริงๆข้าคิดว่าคงไม่มากมายพอที่จะต่อกรกับเหล่าซอเรียนแน่ เราต้อหากำลังมาเสริมอีก แต่เราจะหาจากที่ไหนได้ละ "  เซอร์อเล็กซ์พูดพร้อมทำท่าคิดหาหนทางที่จะหากำลังใหม่ๆมาเสริม " ถ้าเราเอาพวกมอนสเตอร์มาช่วยรบด้วย จะได้ไหมเน้อ" โซเฟียพูดขึ้นมาลอยๆ " ตะกี้เจ้าว่าไงนะหนูน้อย พูดใหม่สิ" เซอร์อเล็กถามโซเฟียด้วยอาการที่ไม่แน่ใจกับคำพูดที่โซเฟียพูดขึ้นมาลอยๆ " ตะกี้หนูแค่พูดขึ้นมาลอยๆว่า ถ้าเอามอนสเตอร์มาช่วยรบด้วยจะได้ไหมเน้ออะค่ะ เพราะหนูนึกถึงตอนที่สมิงโฉดมาบุกหมู่บ้านเซาร์เทิร์นไซด์ของหนู ลุงวุ้นราชันย์และพวกวุ้นทั้งหลายเค้ายังมาช่วยพวกหนูรบเลยอะค่ะ" โซเฟียพูดพร้อมกำทำท่ายิ้มเวลาที่พูดถึงวุ้นราชันย์ที่เคยมาช่วยรบปกป้องหมู่บ้านของตน " โอ้ เป็นความคิดที่ดีนะ แต่ติดที่ว่าพวกเราไม่รู้จักและสนิทกับมอนสเตอร์เหมือนกับพวกเจ้านะสิ แล้วจะมีมอนสเตอร์ไหนมาช่วยเราได้อีกละ" เซอร์อเล็กซ์พูดไปและคิดไปว่าจะมีมอนสเตอร์ที่ไหนจะมาช่วย " ถ้าพูดถึงมอนสเตอร์ที่มีความสามารถในการรบและมีความเก่งกาจพอตัว ข้านึกได้อยู่ 1กลุ่ม เป็นลูกหลานของเผ่าสมิงข้าเองละ แต่พวกนั้นมันไม่ชอบอยู่ตามป่าเขา แต่มันชอบอยู่ตามชายทะเลแถวเมืองเรดคลิฟ และออกไปเป็นโจรสลัด  พวกนั้นคือ กลุ่มโจรสลัดชาวนัล และหัวหน้าของกลุ่มคือชื่อ แจ๊คหรือที่ใครๆรู้จักในชื่อของ แจ็ค ดี สปอยเลอร์ เค้าเป็นลูกชายคนเล็กของข้าเอง แต่ว่าข้าก็ไม่ได้ติต่อกับเจ้าลูกชายบ้านี่นานแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเค้าจะยอมช่วยไหม " ผู้เฒ่าสมิง พูดพร้อมทำท่ามีรอยยิ้มนิดๆ ที่ได้มีโอกาศอวดลูกชายคนเล็ก " เรื่องนี้ไม่ต้องเป้นห่วงเลยท่านผู้เฒ่าสมิงเดี๋ยวพวกเราทั้ง 5 จะไปช่วยพูดให้เอง และจะอธิบายเรื่องต่างๆที่เกิดกับหมู่บ้านสมิง และเหตการณ์ที่กำลังจะเกิดเรื่องของสงครามในอนาคตด้วย " อลันพูดและเอามือตบอกตัวเองเบาๆแสดงท่าทางที่มั่นใจมาก " ถ้าได้แบบนั้นก็ดีสิ พอข้าฟังท่านผู้เฒ่าสมิงพูดข้าก็กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้ใครไปเจรจา ถ้าเป็นพวกเจ้าข้าก็ยินดีที่ให้ไปเจรจาเพราะขนาดเผ่าเอลฟ์พวกเจ้ายังทำได้เลย แล้วข้าจะจัดเงินไว้ให้ใช้ในการเดินทางครั้งนี้ " เซอร์อเล็กพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเป้นอันมาก " งั้นเดี๋ยวข้าจะเขียนจดหมายและเอาตราสมิงของผู้ใหญ่บ้านแนบเอาไปให้เจ้าลูกชายบ้าของข้าดูด้วยละกัน มันจะได้เชื่อว่าข้าใช้ให้มา" ผู้เฒ่าสมิงพูดพร้อมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม " งั้นพวกเจ้าก็พักค้างคืนที่เมืองเซาร์เทิร์นฟอร์ทก่อนสักคืนละกัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทาง" เซอร์อเล็กซ์บอกด้วยสีหน้ามีรอยยิ้ม ในขณะที่ทุกคนกำลังประชุมปรึกษาหารือและพูดกันอย่างออกรสชาติ แต่อีกมุมหนึ่งที่ไม่มีใครทันสังเกตุ วาเลน์ไทน์ก็นั่งมองออกไปที่นอกหน้าต่างของรถไฟเถื่อนและใจลอยคิดถึงเรื่องหนึ่งอยู่ ซึ่งเค้าคิดว่าสักวันเค้าจะบอกเรื่องบางอย่างด้วยตัวเค้าเองให้กับพวกราฟาเอลได้รู้ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้

          1 ชั่วโมงต่อมา คณะของท่านเซอร์อเล็กซ์ก็นั่งรถไฟใต้ดินเถื่อนมาถึงเมืองเซาร์เทิร์นฟอร์ท ทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันไปพัก " คืนนี้ผู้เฒ่าสมิงจะพักกับข้าที่ปราสาทนะ พรุ่งนี้เช้าก่อนพวกเจ้าจะเดินทางให้ไปหาข้าและผู้เฒ่าสมิงที่ปราสาทข้านะ " เซอร์อเล็กซ์กล่าว และเดินพาผู้เฒ่าสมิงไปยังปราสาทด้านในสุดของตนเอง ส่วนพวกที่เหลือก็แยกย้ายกันไปพัก แต่ครั้งนี้วาเลนไทน์ไปพักกับพวกอลันด้วยโดยมีคิกิไปพักด้วยอีกคน ขณะที่พวกราฟาเอลเดินไปยังบ้านของอลัน ชาวเมืองและเหล่านักรบก็มองมากลุ่มราฟาเอลเหมือนเดิมแต่คราวนี้ ไม่ได้มองที่วาลนไทน์ แต่มองที่ คิกิ เอลฟ์สาวสวย จน คิกิ ต้องเอาฮูดมาคลุมที่หัวตัวเองอีก เพราะไม่อยากตกเป้นเป้าสายตาอีก " เอาน่า คิกิ ทนหน่อยเดี๋ยวก็ชิน เพราะถ้าเธอเดินทางไปกับพวกเรา เธอก็ต้องเจอสายตาของชาวบ้านแบบนี้ตลอดทางละ เพราะไม่เคยมีใครเห้นเอลฟ์มานานแล้ว " ราฟาเอล พูดพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆเพื่อไม่ให้ คิกิ เครียดกับสายตาของชาวเมือง  " ข้าของเวลาหน่อยละกัน เพราะข้าก็ไม่เคยออกมาจากป่าเอลฟ์เลย ข้าเลยไม่ชินกับสายตาของชาวเมืองที่มองข้าแบบนี้อะ " คิกิพูดและก็เดินเอาฮูดถลุมหัวเหมือนเดิม " เอาละถึงบ้านข้าแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ข้ากับราฟาเอลจะนอนห้องข้างล่าง พวกเจ้าผู้หญิง 3คน ก็พักห้องเดียวกันนะห้องชั้นบน เดี๋ยวข้าจะยกเตียงไปให้อีก 2เตียง สำหรับวาเลนไทน์ละคิกิ " อลันพูดพร้อมกับสีหน้าที่เหนื่อยแน่ที่ยกเตียงขึ้นไปชั้น2 " เอาน่าเพื่อสาวสวย 3คน จะได้นอนสบายๆ สู้ๆๆ" โซเฟียพูดให้กำลังอลันและราฟาเอล ที่กำลังจะยกเตียงขึ้นไปชั้น2 และโซเฟียก็เดินไปห้องคร้วเพื่อทำอาหารเย็น วาเลนไทน์เดินออกไปนอกบ้านเพื่อหาซื้อของส่วนตัว ส่วนคิกิ ก็เดินสำรวจบ้านและดูหนังสือตามตู้หนังสือ และหลังจากทั้งหมดกินอาหารแล้ว ทั้งหมดก็ได้พักผ่อนกันที่บ้านของอลันเพื่อเตรียมตัวสำหรับภาระกิจใหม่พรุ่งนี้................
ป้าย:
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 12