ความรู้เรื่องระบบภูมิคุ้มกัน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้เข้าใจถึงกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (เอชไอวี)
2.เพื่อให้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างระดับภูมิคุ้มกันกับโรคฉวยโอกาส
การตรวจแอนติเอชไอวี, การตรวจซีดี 4 และการตรวจไวรัลโหลด
• เป็นการตรวจเพื่อดูว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่
• แอนติเอชไอวี คือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังรับเชื้อเอชไอวี
• คือการนับจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดT ที่มีเปลือกเป็นซีดี 4 (CD 4) ในเลือด 1 ไมโครลิตร (เลือด ประมาณ 1 หยด)
• ตรวจเพื่อใช้ประเมินภาวะภูมิคุ้มกันว่าอยู่ระดับไหน
• คือการนับจำนวนไวรัสเอชไอวีในเลือด 1 ซีซี เพื่อประเมินผลการรักษาด้วยยาต้านฯ
ระบบภูมิคุ้มกันมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเชื้อโรคต่างๆ เมื่อเชื้อเอชไอวีทำลายซีดี 4 ลงจนร่างกายไม่สามารถควบคุมโรคได้ผู้ติดเชื้อจะเริ่มมีอาการป่วยในระยะเวลาที่ต่างกันโดยเฉลี่ยประมาณ 7- 10 ปีหลังติดเชื้อ ความแตกต่างระหว่างเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์สามารถวัดได้จากจำนวนเซลเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า CD4 หรือ T- Cells
จากข้อมูลศูนย์เอดส์ กรุงเทพมหานคร ระบุว่าคนที่มีสุขภาพร่างกายปกติจะมีจำนวนเซลล์ CD4 อยู่ที่ 500 - 1000 เมื่อร่างกายติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เชื้อไวรัสจะฝังตัวในเซลส์ CD4 และทำลายเซลส์ CD4 ลงเมื่อจำนวนเซลส์ CD4 ต่ำกว่า 200 ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเอดส์ นอกจากนั้นโรคเอดส์ก็สามารถเป็นได้ถึงแม้จะมีจำนวนเซลส์ CD4 มากกว่า 200 ก็ตามถ้าเป็นโรคแทรกซ้อนเช่น โรคปอดบวมปอดอักเสบ วัณโรค, มะเร็งประเภทต่างๆ, งูสวัด, เชื้อราขึ้นสมอง ฯลฯ
1.มีโรคฉวยโอกาส
2.ไม่มีโรคฉวยโอกาสแต่มีซีดี 4 ต่ำกว่า 200
ผู้ติดเชื้อ หมายถึง ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกาย ระดับภูมิคุ้มกันปกติ
ผู้ป่วยเอดส์ หมายถึง ผู้ติดเชื้อที่มีภาวะภูมิบกพร่องหรือมีโรคหรือกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากภูมิบกพร่อง
ระยะที่1 ระยะที่ไม่ปรากฏอาการสุขภาพจะแข็งแรงเหมือนคนปกติทุกประการ
ระยะที่2 ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ ระยะนี้นอกจากจะมีเลือดบวกแล้วยังมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต น้ำหนักตัวลดอย่างรวดเร็ว อุจจาระร่วงเรื้อรัง มีฝ้าขาวที่ลิ้นหรือลำคอ
ระยะที่3 ระยะเอดส์เต็มขั้น เป็นระยะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกทำลายลงมากทำให้สามารถเป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ หลายชนิด
การตรวจเลือด
• เป็นวิธีเดียวที่จะบอกได้ว่า “ติดเชื้อเอชไอวี” หรือไม่
• เป็นการตรวจหาภูมิคุ้มกัน
1.ตรวจแบบรวดเร็วจะแสดงผลภายใน 2- 3 นาทีแต่ความแม่นยำจะต่ำ
2.ตรวจขั้นต้นเป็นวิธีการที่ใช้โดยทั่วไปเรียกว่า อีไลซ่า และ พีเอ ทราบผลภายใน 3 วันและให้ ความแม่นยำสูงถึง 99.8 %
3.ตรวจยืนยัน มีหลายวิธีการ แต่ที่นิยมใช้คือ เวสเทิร์น บล็อท มีควมแม่นยำสูง
ผลการตรวจเลือด มี 2 แบบเท่านั้น
1.ผลเลือดบวก – ติดเชื้อเอชไอวี
2.ผลเลือดลบ – ไม่ติดเชื้อ/ยังไม่พบเชื้อ
คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทยให้บริการตรวจหาแอนติบอดี้เชื้อเอชไอวี ระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.30 น.- 16.00 น. และวันเสาร์เวลา07.30น.- 15.00น.เว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์