บทที่ 14 หญิงสาวผู้ครวญครางในห้องที่คับแคบ
"เฮ้ย!! มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ !! แนนมันถูกจับไปแล้วนะเว้ย ! ทำไมไอ่แก้วถึงยังตายได้อีก ! แล้วตอนนั้นแนนก็อยู่ในโรงพักด้วย !"อาร์มหัวเสียมากกับการที่เริ่มไม่เข้าใจว่าใครคือคนร้ายกันแน่
"เป็นไปได้ไหมถ้าคนร้ายจะมีหลายคน ?.."ฝ้ายกระพริบตาหนึ่งทีก่อนจะเอ่ยปากพูดเสียงเรียบ ทำเอาทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกริบ ปล่อยให้แต่ละคนจมอยู่กับความคิดของตนเองและไตร่ตรอง
"แล้วคนกลุ่มนี้เขาจะฆ่าพวกเราไปเพื่ออะไรกัน ?"ออฟเริ่มถามขึ้น เสียงหัวเราะเล็กๆดังขึ้น ทำเอาทุกคนหันไปมองหญิงสาวที่หัวเราะร่าอยู่นั้น
"ปริศนาให้คิดเล่นอีกข้อ"
"นั่นสินะ..สรุปแล้วตอนนี้เรามีกี่ข้อแล้วนะ.."เอฟพูดพลางลูบคางตัวเองทำท่าครุ่นคิด แต่สุดท้ายก็เกาหัวด้วยความงุนงงเช่นเคย
ไม่มีใครตอบว่ามีกี่ข้อ มีเพียงแต่ความเงียบที่ดังขึ้นมาเท่านั้น และความหวาดกลัวที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นในจิตใจของทุกคน หนำซ้ำยังทวีคูณความรุนแรงขึ้นอีก
"พวกเรา.."ฟ้าเม้นปาก ก่อนจะยิ้มหวานแล้วเอ่ยขึ้นมา
"ไปเยี่ยมแนนเย็นนี้กันดีไหม ?""แนน..แกทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร"หลังจากที่พบหน้ากัน โบว์ก็รีบถามแนนขึ้นทันที หญิงสาวที่นั่งอยู่มุมห้องขังสกปรกค่อยๆเงยหน้าขึ้นจ้องมอง เมื่อเห็นหน้าทุกคนก็กรีดร้องเสียงดังพร้อมกอดตัวเอง
"ไม่ !!! ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น !! อย่ามาถามฉัน !!"ผลจากเสียงหวีดร้องนี้ทำให้ผู้หญิงห้องข้างๆซึ่งมีผิวดำคล้ำหันมามองเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด
"เอ่อ..แก..ใจเย็นๆก่อน ค่อยๆพูดค่อยๆจา"ปายบอกเสียงห้าม ทำให้เสียงกรีดร้องของแนนค่อยๆเงียบลง ดวงตากลมโตเบิกกว้างและใบหน้าซีดเผือดหนักกว่าเก่าทำเอาทุกคนใจสั่นและสงสารเพื่อนตนจับใจ
"ถ้าฉันไม่ทำ..มัน..มันจะฆ่าฉัน..มันจะฆ่าครอบครัวฉัน..ฆ่าฉัน..ฆ่า..ฆ่า.."ริมฝีปากอันสั่นเทาค่อยๆขยับพูดอย่างยากลำบาก สายตาสอดส่องไปทั่วราวกับกลัวอะไรบางอย่างอยู่
"ใครกันแนน ? ใครกัน บอกเรามาสิ.. "แพรวถามอย่างใจเย็นที่สุด แนนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอียงคอแล้วยิ้มให้
"ถ้า..ถ้าฉันบอก..ฉันจะได้ออกจากคุกนี้..มั้ย.."
"เอ่อ..อย่างน้อยก็ลดโทษลงน่ะนะ"น้ำผึ้งตอบอย่างกระอักกระอ่วนเนื่องจากไม่รู้ว่าเพื่อนสาวจะหวีดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอีกเมื่อไหร่
แนนชั่งใจสักครู่ ก่อนจะค่อยๆเปิดปากเล่าเรื่อง
"ฉันเป็นคนฆ่า..ฟาง"เมื่อพูดคำนี้จบ อาการคลุ้มคลั่งก็ค่อยๆกลับมาอีกครั้ง เธอปรี่มาจับมือแป้งแล้วเขย่าอย่างแรง ดวงตาเริ่มอ้อนวอน
"ฉันฆ่าแค่ฟางจริงๆนะ !! เชื่อฉันเถอะ ! นอกจากนั้นฉันก็ไม่ได้ฆ่าใครอีกแล้วนอกจากฟาง !!"เธอทรุดตัวลงไปนั่งลงกับพื้น ทุกคนปล่อยแนนแล้วจ้องมองดูเพื่อนสาวสักพัก แต่แล้ว
แนนกลับเงยหน้าขึ้นมาแล้วเอียงคอ เธอหัวเราะร่วนจนหัวใจทุกคนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"ฮะฮะฮะ..ทุกอย่างมันคือฝันใช่มั้ย.."ดวงตาเธอเลื่อนลอย มือขาวเนียนค่อยๆเอื้อมไปจับมือของแป้งใหม่อีกรอบแล้วเขย่าอย่างแรง
"นี่..ปลุกฉันทีสิแป้ง..เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ ?..ปลุกฉันทีสิ..ปลุกที..ปลุก.."
"แนน ! แยกแยะให้ออกหน่อยสิ นี่มันความจริงนะไม่ใช่ความฝัน !"ว่าแล้วฝ้ายก็เริ่มต่อว่าแนนทันที ทำเอาใบหน้าซีดเผือดปรากฏอีกครั้ง
"ไม่ !! ไม่ !!! ฉันไม่ได้ฆ่าคน !! ไม่ !...คิก..คิก..ความฝันสินะ..นี่..ล้อเล่นตลกดีนะ..บอกทีสิ..ปลุกฉัน.."ว่าแล้วแป้งก็ดึงมือตัวเองกลับออกไป การกระทำเช่นนี้ ทุกคนคิดเป็นเสียงเดียวกันว่า..เพื่อนสาวของพวกเขา หญิงสาวผู้แสนใจดีคนนี้..เสียสติไปแล้ว
"พะ..พวกเราไปก่อนนะแนน เดี๋ยวไว้จะมาหาใหม่"ไนท์รีบพูดอย่างรวดเร็ว ก่อนทุกคนจะรีบเดินออกมาทันที ปล่อยให้เพื่อนสาวตัวเองส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนไม่หยุด
"ไม่ !! อยู่เป็นเพื่อนฉันที !! มันจะฆ่าฉัน !! มันจะฆ่าฉัน..ช่วยฉันที !!"เสียงกรีดร้องนี่ฟังดูช่างหดหู่เหลือเกิน..
"แนนก็เสียสติไปแล้ว..อย่างน้อยพวกเราก็ได้เบาะแสมาอย่างนึง"ภูบอกเสียงเครียด ทุกคนเงียบกริบจ้องมองไปที่เพื่อนชายตัวเองเป็นตาเดียว
"แนนถูกขู่ให้ฆ่าฟางและพยามลอบฆ่าอองฟองต์ ถ้าไม่ทำมันจะฆ่าแนน.."
"เกินไปแล้ว.."เสียงสั่นคลอของคะน้าค่อยๆดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลทั่วใบหน้าสวย
"น่าเวทนา..เกินไปแล้ว..แนน..ทำไมเธอถึงต้องเจ็บปวดอย่างเดียวดายแบบนี้ด้วย.."
ทุกคนก้มหน้านิ่ง บางส่วนก็เงยหน้ามองท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเพียงแสงจันทน์ส่องนวลท่ามกลางท้องฟ้าที่ไร้หมู่ดาว
"สิ่งที่สวยงาม..อยู่อย่างเดียวดาย"อองฟองต์ค่อยๆพูดขึ้น ก่อนจะจ้องมองท้องฟ้าด้วยแววตาเจ็บปวด
"ราพุนเซล..หญิงสาวผู้ส่งเสียงครวญครางในห้องที่คับแคบและว่างเปล่า เธอโดดเดี่ยวมาตลอด.."
"แนน..น่าสงสารเธอจริงๆนะ"นุ๊กเอ่ยขึ้นก่อนจะถอดถอนหายใจเสียงดัง
"ดึกแล้ว..กลับบ้านกันเถอะ..ระวังตัวด้วยนะ.."
สิ้นเสียงคำเตือน ร่างนับสามสิบก็แยกย้ายกันไปทิศทางที่จะมุ่งหน้าสู่ที่หมายของตนทันที