บทที่ 11
จงใจแกล้ง
ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ พยามไปให้ถึงห้องเรียนของลันซ์ คำพูดของไอ่ตี๋วอกยังก้องอยู่ในหูฉันราวกับจะตะโกนให้รับรู้ไปทั่วร่างกาย
แต่เมื่อฟังพิธีกรรมนั้นจบทำให้เลือดในกายฉันเย็นเฉียบราวกับคนไร้ชีวิตทันที
'มัน..ยากหน่อยนะหม่อน แต่ว่าพิธีกรรมนี้..ลันซ์มันรู้อยู่แล้วล่ะ
แต่ถ้าไม่สำเร็จ มันจะต้องแลกด้วยชีวิตของเธอเลยนะ
ติดอยู่ที่ว่าลันซ์มันจะสนใจยอมรับทำพิธีนี้รึเปล่า..'
แล้วใครคิดว่าฉันจะสนล่ะ !!
"แฮ่ก..แฮ่ก"ในที่สุดก็มาถึง ฉันหอบหายใจหน้าประตูห้องเรียน เอื้อมมือเตรียมจะเปิดมันเข้าไป แต่ก็ต้องชะงักค้างก่อน
เข้าไปดีไหมนะ..
ฉันหันไปมองประตูบานนั้นอีกครั้งก่อนจะลดมือลง ทบทวนคำพูดของเขา
'มันเป็นหน้าที่ของผม'
คำพูดคำนี้แทรกคำพูดของชานเข้ามาในหูฉันทันที เหมือนกับว่าจะตอกย้ำให้ฉันเสียใจเข้าไปอีก ฉันหันหลังกลับไปอย่างหมดหวัง ขณะที่กำลังเดินตามระเบียงทางเดิน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมาก็สะดุดกับใบหน้าอันคุ้นเคย
"...."
"มาทำอะไร ?"เขาถาม แต่ฉันไม่ตอบ กลับเลี่ยงเดินหนีเขาไป
"ฉันรู้เธอมาหาฉันใช่มั้ย"เสียงเขาตะโกนตามหลังมา ทำให้ฉันหยุดนิ่ง ก่อนจะตะโกนกลับไป
"ใครมันจะไปหานายกันเล่า !!..นิสัยอย่างนี้น่ะ.."ฉันปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไว้ สองเท้ารีบก้าววิ่งหนีไปทันที ก่อนที่เขาจะจับได้ว่าเป็นอะไรอยู่
หลังจากที่วิ่งมาได้สักพักแล้ว ฉันยังรู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้นของเขาที่เต็มไปด้วยคำถามและความหม่นหมอง
ให้ตายสิ..อยากจะตบปากตัวเองจริงๆเลย พูดแบบนั้นออกไปได้ไงกัน T^T
ตกค่ำ
ฉันเดินอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงนอนฟุบบนที่นอน คว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงมานั่งกดเล่นๆพลางดูเบอร์ของเขา ก่อนจะกดปุ่มโทรหาแล้วเอาแนบหูตัวเอง
"ฮัล.."
ตรู๊ดด..ตรู๊ดด..
ทันทีที่เขารับสาย ฉันยังพูดไม่จบคำด้วยซ้ำ สายก็วางไปเสียแล้ว..
ฉันพลิกตัว เอามือก่ายหน้าผาก มองหลอดไฟด้านบนด้วยแววตาเหม่อลอย ยังไม่ทันได้กระดิกไปไหนไฟก็ดับพรึ่บ
"O_o"
มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด ความมืด และ ความมืด เกิดอะไรขึ้นอ่ะ ฉันกลัวนะ T^T
แซ๋กก..
เสียงอะไรบางอย่างตรงมุมห้อง ฉันกัดปากทำท่าสงบนิ่ง แต่แล้วก็รีบกรี๊ดเสียงดังแล้วคลุมโป่งอย่างรวดเร็ว=_=
"กรี๊ดด !! โจรบุกบ้านน T[]T !!"
"ยัยบ้า ! ฉันเอง !!"เสียงหนึ่งดังขึ้น ฉันจำได้แม่นว่าเสียงนั้นคือใคร มือของฉันค่อยๆเลิ่กผ้าห่มออกจากหน้าก็พบเขาที่ยื่นหน้าเขามาจนน่าตกใจ เมื่อตาพอปรับสภาพในความมืดได้แล้วก็พบว่าเป็นเขาจริงๆด้วย
"มาทำอะไรน่ะ"ฉันถามอย่างระแวง ถึงแม้เคยนอนด้วยกัน..นอนเฉยๆน่ะ=_= แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในหน้าที่ก็หวาดๆเหมือนกันนะ..
เขายิ้มให้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูก็พบพ่อ ยัยกิ ชาน และเพื่อนๆของฉันเดินหน้ามุ่ยเข้ามา
"ไหนบอกว่าจะฉลองตอน 1 ทุ่มไงคะ ...นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะคะ TOT"กิบอกก่อนจะปิดปากหาว
"เอาน่า !"ลันซ์บอก ฉันมองทุกคนอย่างงุนงงก่อนจะขมวดคิ้ว
"นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ.."
"การแสดงไงลูก ได้ข่าวว่าน้ำตาแตกเลยไม่ใช่หรอ =O= ท่าทางพ่อคงจะได้ลูกเขยซะแล้ว"
"พ่อหมายความว่าไงน่ะ=[]= !!"ฉันหันขวับไปมา ชานยิ้มกริ่มก่อนจะอธิบายให้ฟัง
......................................................................
"ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ !!"ลันซ์ตะโกนเสียงดัง เมื่อพ่อของหม่อนวางแผนจะให้ทำอะไรบางอย่าง
"อย่างงั้นหม่อนก็น้ำตาแตกเลยน่ะซิคะ=[]="
“คิดซะว่ามันเป็นเซอร์ไพรส์ละกัน=O= ลันซ์ นายต้องทำไม่งั้นชั้นจะเปิดเผยว่านายเป็น..”
“เป็นอะไรคะ ?”กิเงยหน้าหันไปมองลันซ์ที่ทำหน้าเหมือนคนกินยาขมอยู่
“เป็นอะไรพ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าลันซ์ทำท่าเหมือนโดนไล่ออกนะ =O= กิกับชานช่วยๆกันปลอบไป ถึงวันเกิดหม่อนแล้วค่อยเฉลย”
“แล้วอย่างงั้น..เธอจะมีกระจิตกระใจจำวันเกิดตัวเองได้อยู่หรอครับ ?”ชานเงยหน้าขึ้นมาถาม
“นั่นแหละที่ฉันไม่อยากให้จำ เซอร์ไพรส์ไงล่ะเซอร์ไพรส์ ^O^”
“แต่มันยากเกินนะครับ ! ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมไม่อยากทำให้หม่อนเสียใจครับ !”ลันซ์ตะโกนเถียง แต่พ่อของหม่อนหันขวับมาจ้องดุๆจนลันซ์หน้าถอดสี
“ทำซะ ไม่งั้นชั้นจะไล่นายออกจากหน้าที่ของหม่อน !”
“ครับ !! ยอมรับทำทันทีเลยครับ !! =[]=”
......................................................................
“ทุกคน..หลอกชั้นเหรอ ! TOT”ฉันตะโกนขึ้นมา พลางมองเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะและของขวัญอีกเยอะแยะ ก็อดที่จะเปลี่ยนตาให้เป็นมันไม่ได้ แต่แล้วก็รีบกลับไปวางฟอร์มเช่นเดิม
“ที่พ่อทำไปก็เพราะอยากให้ลูกมีความสุขนะ=O=”
“ความสุขอะไรกันคะ ! หนูร้องไห้สามวันสามคืนไม่เป็นอันนอนข้าวปลาตอนเช้าก็ไม่ได้กินแม้แม่บ้านจะรินน้ำให้หนูก็ไม่เอาถึงแม้ว่าคันหนูก็ไม่เกาเพราะเขาคนเดียว TOT !”
“ลูกจะพูดคำคล้องจองอีกนานไหม”
“ขอโทษค่ะ ลืมตัว=_=”
ให้ตายสิ..หักมุมแบบตามไม่ทันเลยนะ สรุป..ฉันโง่=_=^
ฉันเหลือบตาไปมองทุกๆคนก่อนจะถอนหายใจ
“คราวหลัง..ถ้าจะจัดงานวันเกิดให้ ธรรมดาๆก็ได้นะ แบบนี้มันยุ่งยาก”
ทุกคนหน้าสลดลงทันที แต่ฉันกลับยิ้มหวาน
“แต่ฉันชอบ !”
ไฟในห้องถูกเปิดขึ้นทันที หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อกินเค้กไปด้วย ลันซ์จึงคุยกับฉันเหมือนเก่า
“ตกลง นายช่วยเข้าร่วมพิธีเปลี่ยนร่างได้ไหม ?”ฉันถาม ลันซ์ชะงักกึกก่อนจะหันมามองฉัน
“ทำไม ?”
“ฉันอยากให้นายเป็นมนุษย์”
“แต่มันเสี่ยงเกินไปชั้นทำไม่ได้หรอกน่า”เขาบอก
“แต่ฉันอยากให้นายทำนี่ มันเป็นคำสั่งนะ !”ฉันตอบเสียงเข้ม ทำให้เขาถอดถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ถ้าเธออยากให้มันเป็นแบบนั้น ชั้นก็ยอมทำพิธีก็ได้”
ฉันยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะสะดุ้งมองหน้าเขาเมื่อจู่ๆก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้โดยไม่ทันรู้ตัว
“แต่ถ้าเธอเป็นอะไรไปชั้นจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย”
“ละ..ลันซ์”ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อเขาขยับหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ภายในห้องเงียบสงัด ทุกคนออกไปแยกย้ายกลับบ้านหรือนอนกันหมดแล้ว มีเพียงเสียงลมหายใจของเขาและฉันเท่านั้น ริมฝีปากเขาเคลื่อนมาประชิดก่อนจะกดมันลงอย่างมั่นคง แรกๆฉันหายใจติดขัดแต่สุดท้ายก็ปล่อยอารมณ์ตัวเองไปตามใจต้องการ
จูบนี้มันเป็นเพียงสิ่งที่บอกความรู้สึกของเขา ความหมายในตัวเขา ที่ถ่ายทอดลงมาตัวฉันผ่านริมฝีปากคู่นี้ ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเลวร้าย แปลกปลอม หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เกินเลย มีเพียงความบริสุทธิ์เท่านั้น
เขาถอนริมฝีปากออกไปก่อนจะมองหน้าฉัน ฉันถลึงตาใส่เขาก่อนจะก้มหน้างุดด้วยความอาย รู้สึกได้ทันทีว่าเขาแอบหัวเราะเบาๆอยู่
“ฉันรักเธอ”
ฉันเบิกตาโพล่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นไป
“ตะ..ตะกี้พูดว่าอะไรนะ=O=”
“ให้ตายสิ”เขาขยี้ผมตัวเองจนฟู ก่อนจะมองหน้าฉันจนสังเกตได้ว่าแก้มเขามีเลือดฝาดเรื่อๆ
“เธออย่าให้ฉันพูดมากนักได้ไหมเนี่ย ฉันอายเป็นนะ”
“ฮะฮะ ! ไม่ยักรู้ว่าคนอย่างนายจะมีความรู้สึกกับเขา”ฉันหัวเราะจนกลิ้งหงายตัวล้มบนที่นอน
ว่าแล้วก็เด้งตัวขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะยิ้มให้
“ถึงแม้นายจะเป็นปิศาจ แต่ก็เป็นปิศาจที่น่ารักที่สุดเลยล่ะ ^O^”
“แต่ฉันกำลังจะเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ”เขาเอียงคอพลางยิ้มให้
“ไม่แน่นะ..คิกๆ”
พวกเราสองคนหันหน้าไปทางอื่นก่อนจะปล่อยความขบขันออกมา
ไม่รู้ว่าทำไมนะ..แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขเหลือเกินจนอยากจะหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้แค่เท่านี้..