สรุปแล้ว มีใครสนใจนิยายผมไหม๊เนี้ย มีแต่คนสนใจว่าผมเป็นเพศอะไร(ฮ่า) ตอนที่แล้วถึงไหนแล้วเนี้ย - -*
ขอแก้ไขจากตอนที่แล้วนะครับ ชื่อเพื่อนของจ๊ะ คือ แก้ว นะครับ ไม่ใช่ แก็ว เพราะผมดันใช้เวิร์ดแก้แบบแทนที่คำว่า ก้ ให้เป็น ก็ คำว่า แก้ว ก็เลยโดนหางเลขไปด้วยเลย
ครั้งแรกก็เลยตื่นเต้น อัพสองวัน 2 ตอนติดเลย คาดว่าต่อไปอาจจะเป็น 2วันต่อตอน 5วันต่อตอน 1สัปดาห์ต่อตอน 3สัปดาห์ต่อตอน 2เดือนต่อตอน เผลอเผลออาจจะเป็น 1ปีต่อตอนเลยก็ได้มั้ง(ฮ่า)
เมื่อเสียงเข้าเแถวดังขึ้นทุกคนก็ตรงลี่ไปเข้าแถวกัน บ้างก็กระตือรือร้นด้วยความตื่นเต้น บ้างก็เดินกระเหยาะกระแหยะอย่างไม่ใยดี บ้างก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเขาข้าแถวกันแล้ว และที่น่าอนาถที่สุดบ้างก็ไม่รู้ว่าเข้าแถวกันตรงไหน - -*
การเข้าแถวสิ้นสุดลงภายใน 13 นาที หลังจาก ผอ.ของอาชีวะนี้พูดเกี่ยวกับการเปิดเรียนจนจบ นักศึกษาพากันทยอยเดินขึ้นอาคารเรียนไป เคเดินวนอยู่บนตัวอาคารสูง 5 ชั้นอยู่พักใหญ่ ด้วยเพราะหลงทางหาห้องเรียนของตนไม่เจอ เคเรียนอยู่สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ห้อง 3 ฮั่นแน่!! อยากรู้ละสิว่ามีกี่ห้อง แต่ละแผนกจะมีจำนวนห้องที่ไม่เท่ากัน เพื่อให้เท่ากับจำนวนของอาจารย์ที่ต้องดูแลนักเรียน สำหรับสาขาคอมพิวเตอร์ฯ ปี1 นั้น มีกันอยู่ 5 ห้อง แต่ถึงจะมีห้องเยอะแค่ไหน ผมก็คงไม่สาธยายหรอกนะว่าห้องไหนเป็นห้องคิง ห้องบ๊วย เอาเป็นว่ามันถูกจัดวางนักเรียนด้วยการสุ่มละกัน
ระหว่างการโต๋เต๋ก็ผ่านกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง ปวช. ปวส. เคคุ้นหน้ารุ่นพี่บางคนเพราะจำได้ขึ้นใจเลยว่าเป็นคนที่เอาถ่านมาทาหน้าเราหลังจากกินน้ำสาบานเสร็จ นู้นเลย ผู้หยิงผมยาวคนนั้นสั่งให้เราเต้นท่าพิลึกกึกกือประกอบเพลงไก่ย่าง เอ? แต่พี่สาวใส่แว่นคนนั้นเขาเป็นคนเอาน้ำมาเสริฟ์ถึงโต๊ะเลยนี่นา ผู้ชายคนนั้นก็ด้วยเป็นคนตักข้าวเพิ่มให้เราตอนที่เราขอแบบพูนชาม แม้!! วันรับน้องนี่เหมือนได้ขึ้นนรกในสวรรค์ซะเหลือเกิน
หลังจากโต๋เต๋อยู่นานก็มาพบกับห้องคอมพิวเตอร์ ของตนซะที มีนักศึกษาบางคนเดินเข้ามาจับจองที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้ว กะคะเนคิดว่ามีเก้าอี้ซักประมาณ 30 ตัวได้ ห้องก็ไม่แคบไม่กว้างกำลังแออัดได้สบาย เคตัดสินใจไปที่นั่งริมหน้าต่างแบบบานเลื่อนกระจกใส แถวหลังสุด ก่อนจะสังเกตไปทั่วทั้งห้อง
เหมือนบุพเพสันนิวาสเล่นตลก หรือคนเขียนจงใจก็ไม่ทราบ ทำให้จ๊ะนั้นเลือกมานั่งที่นั้นตรงหน้าของเค และก้เป็นดังที่ทุกคนคิด ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้รู้ตัวเลยว่า
"นักศึกษาทุกคน วันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของพวกเรา ช่วงเช้านี้อาจารย์อยากให้นักศึกษาทุกคนทำความรู้จักกันไปก่อนนะ" อาจารย์ประจำชั้นยืนพูดอยู่หน้าห้อง "แล้วตอนบ่าย เราค่อยมาเริ่มเรียนกัน"
"อาจารย์ครับ" วุฒิที่นั่งอยู่หลังห้องยกมือขึ้น
"มีอะไรครับ" อาจารย์ที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปชะงักกับเสียงเรียกของวุฒิ
"เนคไทเนี้ย ผูกยังไงหรอครับ" เป็นปัญหาเช่นเดียวกับนักเรียนหลายหลายคน รวมทั้งตัวเคเองด้วย เพราะจนกระทั่งถึงตอนนี้ เคก็ยังไม่ได้ผูกเนคไทเลย
"แล้วทำไมเธอไม่ลองถามเพื่อนเพื่อนที่เขาผูกเป็นกันดูหล่ะ" อาจารย์ไม่ได้สอนอะไรแถมยังถามคำถามโต้กลับมาอีก
"อ้าว! แล้วผมจะถามอาจารย์ทำไมเนี้ย" เพื่อนทุกคนในห้องพากันหัวเราะกันเล็กน้อย รวมทั้งอาจารย์ด้วย
"ทำความรู้จักกันไปก่อน อาจารย์ขอตัวไปทำเอกสารก่อน" อาจารย์ถือปึกกระดาษเดินออกจากห้องไป เคควักเนคไทสีน้ำเงินออกมาจากกระเเป๋ากางเกง ก่อนจะตัดสินใจสะกิดถามผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า
"เธอเธอ" จ๊ะหันมามองหน้าเค
"อ๊ะ นาย!!/เธอ" ทั้งคู่อุทานออกมาพร้อมกัน แลเป็นจ๊ะที่เริ่มเปิดสนทนาต่อ
"นาย อีตาหัวขโมย นายโขมยกระเป๋าเงินชั้นไปใช่ไหม๊ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" จ๊ะเริ่มเอะอะโวยวายจนทำเอาเพื่อนสาวทั้งสองหันมามองเธอ
"อ๋อ กระเป๋าเงินเธอ ผมเก็บได้เมื่อเช้านี้" เคควักกระเป๋าเงินใบเดียวกับเมื่อตอนเช้าออกมา "แล้วมาหาว่าผมเป็นหัวขโมยเนี้ย ชั้นควรจะโกรธเธอไหม๊" เคโน้มตัวเข้ามาใกล้หน้าจ๊ะ
"ชั้นสิต้องเป็นฝ่ายโกรธนาย เมื่อเช้านายก็เดินมาชนชั้นจนล้ม แล้วยังมาเอากระเป๋าเงินชั้นไปอีก" จ๊ะลุกขึ้นยืนกระฟัดกระเฟียดหน้าแดงจนลมออกหู
"นี่!!!" เคลุกขึ้นมาบ้าง "เมื่อเช้าผมก็เดินมาอยู่ดีดี เธอก็เดินมาชนผมจนล้ม ขอโทษสองสามคำแล้วก็ไป ไม่ได้หันมาดูเลยของตัวเองตก" เคยื่นกระเป๋าเงินให้จ๊ะดู
จ๊ะไม่พูดอะไรตอบ แต่มือก็คว้ากระเป๋าเงินจากมือเคไป ก่อนสะบัดหน้าหนีออกไปจากห้องเรียนไป "นี่เธอ!! เดี๋ยว!!..." เคที่พยายามจะเรียกตัวจ๊ะไว้ แต่จ๊ะก็เดินหายไปซะก่อนแล้ว ปล่อยให้เคยืนถือเนคไทอยู่คนเดียว
"นี้จ๊ะ ไม่ไปขอบคุณเขาหน่อยหรอ เขาอุส่าเก็บกระเป๋าเงินมาคืนนะ" แก้วเดินตามจ๊ะออกมาจากห้อง
"คนแบบนั้นหน่ะ ช่างมันเถอะ" จ๊ะมองออกไปนอกระเบียง มองท้องฟ้ากว้างสีฟ้าใส ที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา
"จ๊ะลองคิดดูดีดีนะ ในกระเป๋าเงินมีเงินอยู่ตั้งหลายหมื่น ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริงจริง เขาคงเชิดเงินหนีไปเที่ยวหมดแล้ว" แก้วพยามยามอธิบายอย่างสุดความสามารถ
"จ๊ะเริ่มรู้สึกสำนึกผิดขึ้นมานิดนิด บวกกับความเชื่อใจในเพื่อนคนนี้ที่ตนไม่เคยผิดหวังเลยตั้งแต่สมัยอยู่ประถม "ก็ได้ แค่ไปขอโทษก็พอใช่ไหม๊"
"ดีมาก" แก้วพยักหน้ายิ้มยิ้มให้จ๊ะ ก่อนที่จ๊ะจะเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่ก็ไม่ปรากฏร่างของเคอยู่แล้ว แต่กระเป๋ายังอยู่ เคหายไปไหน
"นี่... มีใครเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนี้มั้ง" จ๊ะชี้ไปทั่วเก้าอี้ตัวหนึ่ง
ทุกคนในห้องก็ไม่รู้เช่นกัน และก็ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นคนถาม เพราะต่างคนต่างก็เป็นเด็กใหม่กันทั้งนั้น จ๊ะ เดินไปที่หน้าต่างโดยหวังว่าการมองจากมุมสูงจะช่วยให้ควานหาตัวเคได้ง่ายขึ้น และเป็นจริงดังนั้น เธอเห็นเคนั่งอยู่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ จ๊ะรีบสาวเท้าก้าวลงบันไดไปหาเป้าหมายในทันที ก่อนจะเจอเคนั่งฟุบโต๊ะอยู่
"นาย..." จ๊ะเรียกเสียงไม่ดังนักจากระยะ 3 เมตร เคเงยหัวขึ้นมามองอย่างช้าช้า
"มีอะไรอีก เงินในกระเป๋าหายหรอ หายไปเท่าไหร่หล่ะเดี๋ยวผมใช้คืนให้ หรือถ้ายังด่าไม่สะใจก็ด่ามาเลย ผมจะนั่งฟังตรงนี้แหล่ะ" เคพูดเอื่อยเอื่อย
"(
นี้ เราทำเกินไปรึเปล่าเนี้ย)" จ๊ะคิดในใจ "ช...ชั้นจะมาขอโทษนาย เรื่องเมื่อกี้เนี้ย"
"แค่ขอโทษเองหรอ" เคพูดเสียงแข็ง
"ทำไม นายจะให้ชั้นทำอะไรอีกหล่ะ กราบนายงามงาม หรือต้องจ่ายเงินค่าทำขวัญนายถึงจะพอใจ" จ๊ะก้าวเท้าเข้ามาใกล้เค โกรธเป็นฟืนเป็นไฟนี้ถ้าในมือมี สปาต้าอยู่ คงเฉาะหัวเคไปแล้ว
"ผูกเนคไทให้ที" เคยื่นเนคไทสีน้ำเงินมาตรงหน้า จ๊ะเดินเข้ามาอย่างหงุดหงิดก่อนจะคว้าเนคไทนั้นจากมือเคไป อย่างไม่เต็มใจนัก
"แค่ผูกให้ก็พอใช่ไหม๊" จ๊ะลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับเค ก็จะเอื้อมมือพาเนคไทไปอ้อมหลังคอของเค จ๊ะผูกถูกผูกผิดอยู่นานด้วยความสับสนระหกว่างซ้ายและขวา
"เอ๊!? ซ้ายทับขวาสอดเข้า เอ๊ย!!~ ไม่ใช่ไม่ใช่ เอาใหม่นะ" จ๊ะแก้เนคไทเข้าเข้าออกออกจะสิบกว่าครั้งแล้ว เคได้แต่นั่งจ้องความเปิ่นของจ๊ะอยู่สองนาน จนจ๊ะเอะใจหันขึ้นมามอง "นี่!! จะมองอะไรกันนักกันหนา"
"ก็มองคนน่ารักไง ^_^"
จ๊ะอึ้งกิมกี่ จนอาการเขิลล์ขึ้นมาในทันที "(
นี้เขาชมเราว่าน่ารักหรอเนี้ย จะทำยังไงดีเนี้ย ยังไม่เคยมีใครชมว่าเราน่ารักมาก่อนเลย จะมีพูดต่อหน้าก็ครั้งนี้แหล่ะ) นะ...นายว่าชั้นน่ารักงั้นหรอ" สีชมพูบางบางเริ่มปรากฏบนแก้มของจ๊ะ
"(
เฮ้ย!! นี่ตูพลั้งปากอะไรออกไปว่ะ) เอ่อ... " เคแทบพูดไม่ออก มันเหมือนมีอะไรมาจุกตรงลำคอหายใจติดติดขัดขัด จนหัวมึนงงไปหมด
บรรยากาศที่กดดันทำเอาทั้งสองเงียบ โดยไม่มีใครกล้าเปิดบทสนทนาก่อนเลย เป็นบรรยากาศที่ชวนให้อึดอัดอยู่ในอก
"ชั้นนึกได้ว่า! ว..ว่ามีธุระ ชั้นไปก่อนนะ" จ๊ะลุกขึ้นหนีขึ้นอาคารไป เคได้แต่มองแผ่นหลังของจ๊ะที่เริ่มเล็กลงเรื่อยเรื่อย
"(
ใช่!! ชั้นชมว่าเธอน่ารัก!! เธอน่ารักมากได้ยินไหม๊!!? ชั้นรักเธอได้ยินไหม๊!!)" เคได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองปล่อยให้จ๊ะเดินขึ้นอาคารเรียนไป
-ถ้าเธอหันหลังกลับมามองฉัน ฉันคงยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า "ฉันรักเธอนะคนน่ารัก" นี่สินะคือ รักแรกพบ!-
♫ เธอจะมีใจหรือเปล่า? เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า? ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร? เธอจะมีใจหรือเปล่า? มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจแต่ไม่อยากถาม!~ กลัวรับมันไม่ไหว!!?~♫
จ๊ะเดินขึ้นอาคารเรียนไปแล้ว แต่เคก็เหมือนจะพึ่งนึกอะไรบางอย่างออกหลังจากวินเวียนกับความรักที่เข้ามาแทงอกจนเบลอไปทั้งหัว "เว้ย!! ลืมถามชื่อเธอซะได้ โธ่! นางฟ้าของเราหายเข้ากลีบเมฆไปซะแล้ว" เคถึงกับเครียดอย่างหนัก
"(
คนบ้า!! อยู่อยู่ก็มาชมเราว่าน่ารัก)" จ๊ะหยุดชะงักอยู่ตรงบันได หันมองไปด้านหลังโดยเผลอคิดไปว่าเคอาจจะเดินตามมาก็ได้ "(
แล้วนี่เราจะทำหน้ายังไงเวลาเจอเขาอีกเนี้ย)" จีะก้าวเท้าขึ้นบันไดไปอย่างช้าช้า ใบหน้าเรียวงามเริ่มแสดงอาการเขิลล์ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อลองนึกถึงคำพูดของเคเมื่อกี้นี้ "(
เอ่อ? แล้วเขาชื่ออะไรน้า?)" จ๊ะเองก็ไม่รู้เช่นกัน
.
นี้คือจุดสุดท้ายของคนที่คิดว่า "เฮ้ย!! ทำไมมันเยอะกว่าเมื่อวาน"
ปล.เห็นหน้าเยอะเยอะเนี้ย ไม่ใช่ว่าคนอ่านเยอะหรอกนะ แต่คนอ้างอิงเยอะมากกว่า เฮ้ออออออออออ