บทที่ 1 ฉันคือ 'เลียส'
ในห้องน้ำชา ณ โรงแรมเมืองเซาท์เทิร์นฟอร์ท หญิงสาวผมสีน้ำเงินเข้ม ด้านหนึ่งมัดไว้ด้านหน้า อีกด้านหนึ่งปล่อยให้ยาวสยายถึงเอว ทรงผมไม่เหมือนใครทำให้ผู้คนมองอย่างแปลกตานัก
หญิงสาวยกแก้วกาแฟมาจรดปาก ก่อนจะดื่มมันเข้าไปแล้ววางลงบนโต๊ะพร้อมหันไปมองด้านนอก
ฉันชื่อ เลียส การ์ เป็นเด็กสาวเร่ร่อนธรรมดา พ่อแม่ถูกฆ่าตายตั้งแต่วัย 6 ขวบด้วยบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านในถ้ำน้ำแข็งเมืองวินโดเนีย
แต่แล้ววันหนึ่งฉันได้ไปช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง พวกพ่อแม่เพื่อนเขามาเห็นจึงรับฉันไปเลี้ยงแต่ฉันกลับปฏิเสธเพราะความเกรงใจ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรับฉันไว้อย่างดี เขาใจดีกับฉันมากจนฉันทำตัวไม่ถูก
เมื่อไปถึงบ้านเขาเขากลับเล่าให้ฉันฟังว่าเมื่อ 20 ปีก่อนฉันได้เป็นนักรบแห่งแสงคนหนึ่งและเป็นเพื่อนของนักรบแห่งแสง คนรักของอา 'โอม' น้องชายของนักรบแห่งแสง ผู้ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ เขาบอกฉันว่านักรบแห่งแสงคนนั้นชื่อ เลิฟโลว์ ส่วนคนรักของอาโอมนั้นชื่อ เวียส ซึ่งรวมๆกันแล้วฉันชื่อเลียส และทำผมเหมือน 2 คนนั้นด้วย แน่นอนว่าผมและหน้าด้านซ้ายเหมือนเลิฟโลว์ ส่วนผมและหน้าด้านขวาเหมือนเวียส ส่วนนามสกุล การ์ ของฉันคงมาจากคำว่า กาซัส ของเลิฟโลว์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคงเป็นของเวียสเพราะเวียสไม่มีนามสกุล
อาโอมยื่นทวนที่นักรบแห่งแสงคนนั้นใช้มาให้ฉัน แทนที่จะสลักชื่อ เลิฟโลว์ กาซัส แต่มันกลับกลายเป็นชื่อฉันซะเอง
เหมือนฝันอยู่ แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องจริง
จะมีใครเชื่อฉันไหมนะว่าเรื่องที่ฉันพูดมาทั้งหมดเนี่ยเป็นความจริง
ถ้าทุกคนไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน
ว่าฉันคือนักรบแห่งแสงคนใหม่ คนที่จะต่อกรกับเทวีอาทรัม ผู้ที่สัญญาว่าจะกลับมาในปีนี้ และฉันจะได้ร่วมงานกับคนใหม่ๆ ที่เป็นนักรบแห่งแสงคนใหม่เช่นกัน ไม่รู้ว่าจะถูกชะตารึเปล่า
ฉันลุกขึ้นออกจากโรงแรมเมืองเซาท์เทิร์นฟอร์ทไปพร้อมกับเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเถื่อนพร้อมนั่งรถไฟไปยังเมืองเซาท์เทิร์นไชร์ บ้านใหม่ของ แม่เพชร และ พ่อทริงค์
เขาไม่ใช่พ่อแม่ฉันจริงๆหรอก เขาเป็นพ่อแม่ของเด็กผู้หญิงที่ชื่อพิงค์ คนที่ฉันช่วยไว้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว แต่เขารับดูแลฉันไว้ทำให้คิดว่าเขาเป็นพ่อแม่ฉันจริงๆ
อากุเกิ้ล และ อาบิว ก็เปิดร้านขายของเล่นเด็กๆพร้อมอาวุธ ขายยาต่างๆไว้ในร้านใกล้ๆบ้านของแม่เพชรและพ่อทริงค์เหมือนกัน
ส่วน น้าลูและน้าอาบาเช่ ทั้งสองคนเป็นนักรบแห่งแสงสมัยก่อน น้าลูและน้าอาบาเช่เดินตามทางตัวเองไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
น่าสงสารอากาเรน เขาหลงรักเลิฟโลว์แต่เธอกลับต้องมาตาย เขาตามหาหญิงที่ต้องการทดแทนเขาแทนเลิฟโลว์ นานแล้วเขายังไม่เจอสักที
กริ๊งง กริ๊งง กริ๊งง..
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ฉันยิ้มทักทายให้อากุเกิ้ลและอาบิว
“สวัสดีค่ะ 17 นาฬิกาแล้วนะ ปิดร้านได้แล้วนะคะ วันนี้ขายได้เยอะไหมคะ”
“เยอะมากเลยล่ะ เด็กเต็มร้านเลย อาสองคนเกือบไม่ไหว”อากุเกิ้ลทำหน้าจะเป็นลม
“ปะ เดี๋ยวหนูช่วยเก็บของที่ร้านนะคะจะได้ไปหาพ่อทริงค์แม่เพชรไวๆ”ฉันยิ้มรับแล้วช่วยเขาจัดของเก็บโต๊ะที่ร้านของจะล็อคร้านแล้วเดินไปบ้านหลังข้างๆ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
แอ้ด...
“แม่เพชร หนูพิงค์ล่ะคะ”ฉันสวมกอดแม่(บุญธรรม)ที่รักของฉันก่อนจะถามหาหนูพิงค์ เธออายุ 12 ปีแล้วซึ่งตรงกับฉันที่อายุ 19 ปี (ขอเปลี่ยนเป็นอายุ 19 นะความจริงจะ 27 แต่ว่าแก่เกินไป- -)
“น้าเลียสส^O^”หนูพิงค์รีบวิ่งมาสวมกอดฉันอย่างรวดเร็ว ฉันหอมแก้มตอบก่อนจะเข้าไปในบ้านแล้วรับประทานอาหารในบ้าน วันนี้แปลกแฮะนักรบแห่งแสงคนเก่ามารวมตัวที่บ้านกันหมดเลย
วิ๊ง..วิ๊ง..
แสงจากแส้ของอากุเกิ้ลกระพริบถี่ๆจนเขาต้องหยุดกินแล้วหันไปมองก็พบว่ามีชื่อสลักไว้
“กุเกิ้ล ทูลบาร์ เฮ้ย! ชื่อเหมือนชั้นแต่นามสกุลไม่ใช่”อากุเกิ้ลดูตกใจมากซึ่งตรงกับฉันด้วย
วิ๊ง..วิ๊ง..
แสงสว่างส่องที่คฑาของอาโอมจนเขาต้องกระพริบตาถี่ๆหันมาดู
“แพรรี่ แซนเรี่ยน ใครกันเนี่ยแต่ชื่อเพราะดีนะ”อาโอมอ่านชื่อที่สลักไว้ น้าลูตีหน้านิ่งก่อนจะมองอาวุธตัวเอง ลูกแก้วของอาบาเช่ คันศรธนูของแม่เพชร ขวานของพ่อทริงค์ มีดสั้นของอากาเรน ก่อนจะบอกว่า
“สงสัยเจอแค่ 2 คนเพราะพวกเรายังไม่ส่องสว่าง คงต้องรีบตามหาแล้วล่ะเพราะว่าไม่รู้ตอนไหนยัยอาทรัมมันจะมา”ลูทำหน้าบูดก่อนจะกินข้าวต่อ
“สงครามมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วล่ะ..”อาบาเช่ยิ้มทิ้งท้าย รอยยิ้มของเธอถ้ามองแล้วจะเห็นว่าน่ารักแต่ถ้าดูดีๆแล้วใงไปด้วยความน่ากลัว
“เอ่อ..สงสัยล่ะสิใช่มั้ยจ๊ะหนูเลียสว่าทำไมน้ายิ้มแบบนั้น คือว่า ที่น้ายิ้มแบบนั้นเพราะน้าจะได้สู้อีกน่ะสิ ฮ่าๆๆ”อาบาเช่หัวเราะอย่างสนุกสนาน คำพูดของน้าเขาถึงกับทำให้ฉันแอบหัวเราะตามไปด้วย
“เฮ้ออ.. ต้องเอาตัวเองเสี่ยงอีกแล้วน่ะสินะ”ฉันพึมพำเบาๆก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
สงครามมันใกล้เข้ามาแล้ว..