อีริตั้น
Sr. Member
กระทู้: 1,515
Status : Waiting for new signature!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #45 เมื่อ: 16-01-2010, 23:16:20 » |
|
Eruar’s Route “...ก็อย่างที่ว่ามานั่นล่ะนะ หนูเฟริน...” เอรัวร์ยืนอธิบายให้เฟริน่าฟังถึงส่งที่เธอเข้าใจผิดไปมากโขอยู่ ซึ่งกว่าที่เขาและโยฮานจะรู้สึกตัวและวิ่งตามเฟริน่ากลับมาอธิบายที่ที่พักได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ “พวกเราแค่ฝึกซ้อมกันตามปกติ ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เจ้าคิดนั่นหรอกนะ” โยฮานกล่าวสัมทับ “ง...งั้นเหรอคะ...ล...โล่งอกไปที...” เฟริน่าทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเบาๆ คลายสีหน้าวิตกกังวล และสักพักก็กลับมายิ้มได้เหมือนเดิม “ถ้าอย่างนั้น วันนี้พวกเราก็เข้านอนได้แล้วล่ะนะ วันรุ่งขึ้นจะได้ออกเดินทางแต่เช้า ถึงวินเดิ้ล วู้ดเร็วขึ้นไง” โยฮานเสนอความคิดเห็น พร้อมจัดแจงเตรียมพื้นที่สำหรับนอนหลับบริเวณด้านหน้ากระโจม “เอ๋? ไม่นอนข้างในกระโจมกันเหรอคะ?” เฟริน่าเอียงคอถาม ขณะกำลังหยิบหมวกวุ้นมาใส่ก่อนนอน (เพราะว่าความนิ่มจึงใช้ต่างหมอนได้) “ข้างในเอาไว้เก็บสัมภาระและให้เฟรินนั่นล่ะ พวกข้าจะคอยเฝ้ายามอยู่ข้างนอกเอง” โยฮานกล่าวและยิ้มอย่างอ่อนโยน เป็นรอยยิ้มละลายใจสาวซึ่งเขาถนัด “เย็นตะละแมน(Gentleman) จังนะเจ้า...” เอรัวร์ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆกองไฟ ปล่อยเวลาแห่งยามวิกาลไหลผ่านร่างอับหลับใหลไปอย่างช้าๆ
Another’s Route เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มลึกลับยืนหยัดอยู่ท่ามกลางกองศพนับร้อย หากแต่คราวนี้ ท่าทีของเขานั้นต่างไปจากเดิมมาก ทั้งบาดเจ็บ อ่อนแรง และเหนื่อยแทบขาดใจ เสียงหายใจหอบดังฟืดฟาดของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะจะโคน เขากำลังควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจด้วยวิธีบังคับการหายใจ ชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซเข้าไปในหมู่กองศพนั่น พลางกระชากร่างของนายกองแมดดอกที่หายใจรวยรินขึ้นมาจากกองทหารเขี้ยวทมิฬ...ร่างของมันลอยขึ้นมาตามแรงกระชากอันมหาศาล และตกลงบนพื้นอย่างแผ่วเบาไม่ต่างไปกับชีวิตของเจ้าของร่างเอง “...บอกฉันมาซะ...” ชายหนุ่มเค้นเอาลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ พ่นออกมาเป็นคำพูด เขากระชากหนังคอของมันขึ้นมา แล้วประสานสายตาที่แข็งกร้าวเข้ากับสายตาที่พร่ามัวของนายกองเขี้ยวทมิฬ “...ไกเซอร์อยู่ที่ไหน!?” เวลาผ่านไปไม่นานนักหลังจากที่ชายหนุ่มถาม นายกองแมดดอกก็แสยะยิ้มขึ้น แล้วใช้พลังชีวิตอันน้อยนิดของตนเปล่งเสียงอันแผ่วเบาออกมา “ข้า...ไม่...ทรยศ...ต่อ...พวกพ้อง...ของตน...หรอก...เจ้าปีศาจ...” สิ้นเสียงนั้น ก็มีอีกเสียงดังขึ้น “กร๊อบ!!!” ชายหนุ่มกระทืบเข้าที่หัวเข่าของมันอย่างแรง ส่งผลให้กระดูกหักผิดรูปไป! แม้จะเจ็บปวดมากสักเพียงใด แต่ก็ไม่มีเสียงร้องโหยหวนหลุดออกมาจากปากของทหารหาญเขี้ยวทมิฬตนนี้เลย จะด้วยความใจแข็ง หรือเพราะว่าอ่อนแรงจนไม่อาจจะเปล่งเสียงได้ก็ตาม “...ฉันมีเวลาไม่มากนักนะ ไม่อย่างนั้น เสียงสุดท้ายที่แกจะได้ยิน จะเป็นเสียงกระดูกลำคอของแกแหลกละเอียด!” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับใช้มือคว้ากำคอของแมดดอกไว้แน่น “...อั้ก! จ...เจ้า...เจ้าจะไม่ได้อะไรจากข้าไปทั้งสิ้น...” แมดดอกใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายอ้าปากให้กว้างแล้วพุ่งหัวของตนเข้าไปงับเข้าที่คอของชายหนุ่มอย่างจัง!!!
Eruar’s Route “เอาล่ะ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงแล้ว...” โยฮานพูดทันทีที่พวกเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูรั้วบานมโหฬารที่ถูกทำขึ้นมาจากไม้ ดูแข็งแรง และสวยงาม เอรัวร์ยกกระเป๋าใส่หนังบรรจุน้ำขึ้นมาดื่มเข้าไปหลายอึก ส่วนเฟริน่านั้นนั่งกองอยู่กับสัมภาระของเธออย่างเหนื่อยหอบ “หนูเฟริน ข้าก็บอกแล้วว่าจะถือสัมภาระให้ เห็นมั้ย? หอบจนพูดไม่ออกเลยเรอะ?” เอรัวร์ย่อตัวลงมาคุยกับเฟริน่า “...ม...ไม่เป็นไรค่ะ...เฟริน่าบอกแล้วว่าจะถือเอง...” เฟริน่าตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน จนแทบได้ยินแต่เสียงหอบหายใจ ริมฝีปากซีดเผือด “ท่าทางจะออกกำลังกายน้อยนะ เฟรินเนี่ย สงสัยคงต้องมาร่วมก๊วนกับพวกเราในตอนเย็นซะแล้วล่ะมั้ง?” โยฮานพูดพลางหันไปทางเอรัวร์เพื่อขอความเห็น ซึ่งเอรัวร์ก็ตอบกลับด้วยการยักไหล่เลิกคิ้ว หมายความว่า “ไม่มีปัญหา” “...เอ๋!? แต่ถ้าเฟริน่าไปทำแบบนั้น...เฟริน่าก็ต้องโดนท่านโยฮานกดน่ะสิคะ!?” “...อ...เอ่อ...ม...ไม่ใช่กดแบบนั้น” เอรัวร์ขัดขึ้นกลางคัน ก่อนที่เฟริน่าจะพูดอะไรไปมากกว่านี้... “รีบเข้าไปในหมู่บ้านกันเถอะ คิดถึงเพื่อนเก่าจะแย่แล้ว” โยฮานเร่งเร้า แถมยังเดินเข้ามาช่วยเฟริน่ายสัมภาระอีกด้วย ในขณะที่เอรัวร์ก็ให้เฟริน่าขึ้นขี่หลัง “เพื่อนเก่า?? ใครเหรอคะ?” เฟริน่าถามเอรัวร์ขึ้นอย่างสงสัย “...กิ๊กมันน่ะ...” เอรัวร์ตอบ สีหน้าเหนื่อยหน่ายในความเจ้าชู้ประตูดินของเพื่อนรักคนนี้ “เอ๋? ใครเหรอคะ??” “.......................หนึ่งในผู้ฝึกสอนแอสแซสซิน............................เมย่า...........................”.... หลังจากที่ทั้งสามเข้ามาในหมู่บ้านวินเดิ้ล วู้ดแล้ว จึงรีบหาที่พักเพื่อเก็บสัมภาระอันแสนจะรุงรัง โยฮานนั้น เมื่อจัดการกับธุระเสร็จจึงจัดการนัดหมายเวลาล่วงหน้าไว้ แล้วรีบปลีกตัวจากไปเพียงลำพัง ส่วนเอรัวร์นั้นได้ขอร้องให้เฟริน่าช่วยไปด้วยกัน เพื่อที่จะได้ช่วยกันเลือกหาอาวุธคู่มือชิ้นใหม่ให้เขา แต่ทว่าไม่ว่าจะร้านไหนๆก็ต่างพากันปฏิเสธที่จะขายให้เขาหมด ด้วยเหตุผลที่ว่า “มนุษย์นั้นอ่อนแอเกินไป ไม่สามารถจะใช้อาวุธของพวกสมิงได้” “ให้ตายสิ! มันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว! น่าหมั่นไส้เป็นบ้า!” เอรัวร์บ่นอุบอิบมาตลอดทาง โดยที่เฟริน่าเองก็จนปัญญาจะปลอบใจเขา “แต่ว่า ที่พวกเขาพูดมันก็มีส่วนถูกนะคะ ของใหญ่ตั้งขนาดนั้น ยกไม่ไหวหรอกค่ะ” “ที่เจ้าพูดมามันก็ใช่ แต่ถึงจะใช้มีดของพวกนั้น มันก็ยังสั้นเกินไปสำหรับระยะโจมตีที่ข้าถนัด เพราะฉะนั้น ที่ข้าต้องการตอนนี้คือคนที่สามารถสร้างอาวุธชิ้นใหม่ขึ้นมาสำหรับข้าโดยเฉพาะได้ แต่พอพูดไปแบบนั้น เจ้าพวกเผ่าสมิงก็พากันปฏิเสธหนักกว่าเดิมอีกนะ...ข้าเองก็บอกโยฮานแล้วว่าความคิดนี้มันไม่ค่อยเข้าท่าเสียเท่าไหร่นัก...” เอรัวร์พูดด้วยสีหน้าหนักใจ ดูท่าว่า การที่เขาเสียดาบไปนั้นจะเป็นเรื่องลำบากพอดู “...ต้องการคนตีดาบเล่มใหม่ให้อย่างนั้นเหรอ? พ่อหนุ่ม...” เสียงแหบห้าวของวัยชราดังขึ้นจากทางข้างหลัง เมื่อเอรัวร์หันกลับไปดูก็พบกับชนเผ่าสมิงเพศผู้แก่ชราตนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้านของตน... “ท่านคือ?” เอรัวร์ถาม “ก็แค่สิงห์แก่ตัวหนึ่งน่ะ ข้าชื่อ โค จิน เคง...” “ข้าบอกว่ากำลังหาอาวุธใหม่ก็จริง...แต่ไม่ได้พูดว่าจะหาดาบเล่มใหม่...ทำไมท่านถึงรู้ว่าข้าต้องการดาบล่ะ?” เขาถามด้วยความสงสัย ซึ่งโค จิน เคงก็ยกนิ้วขึ้นชี้พลางเอ่ยเสียงเรียบ “เริ่มจากถุงมือหนังของเจ้า หนังมันสึกตรงบริเวณวงนิ้วโป้งและนิ้วชี้ นอกจากนั้นหนังตรงบริเวณข้อนิ้วที่เหลือซึ่งเป็นส่วนที่จะสัมผัสเวลากำของก็สึกหรอด้วย แปลว่าเจ้าใช้อุปกรณ์ที่ต้องจับยึดด้าม กล้ามเนื้อแขนท่อนปลายของเจ้าก็มีขนาดใหญ่ ถ้าหากเจ้าใช้หอกหรือขวานกล้ามเนื้อต้นแขนจะต้องใหญ่กว่านี้ จาก สองข้อสันนิษฐานนี้แปลว่าได้ว่าเจ้าจะต้องใช้มีดหรือดาบเป็นอาวุธ และที่ข้าแน่ใจว่าเจ้าใช้ดาบก็เพราะประโยคที่เจ้าพูดเมื่อก่อนหน้าว่า มีดของเผ่าเรามีระยะสั้นเกินไปสำหรับเจ้า แสดงว่าเจ้าเป็นพวกชำนาญเพลงดาบยาว...” โค จิน เคง ร่ายสรุปยาวเหยียด แต่มันก็ละเอียดและชัดเจนพอ แม้กระทั่งเอรัวร์ก็ยังตกใจถึงความช่างสังเกตของสิงห์เฒ่าตนนี้ “...ท่านสามารถหาดาบให้ข้าได้งั้นเหรอ?” เอรัวร์มองด้วยสายตาทึ่งระคนตื่นเต้น “...เปล่า...” “...ข้าสามารถตีดาบเล่มใหม่สำหรับเจ้าโดยเฉพาะให้ได้...”...
|
กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
|
|
|
อีริตั้น
Sr. Member
กระทู้: 1,515
Status : Waiting for new signature!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #46 เมื่อ: 16-01-2010, 23:18:27 » |
|
โอ๊ะ ขึ้นหน้าใหม่พอดีเลย ฝากป๋ากบปักหมุดคืนด้วยนะครับ แล้วก็อาทิตย์หน้า 22-30 มหา'ลัยปิดเพราะเป็นเจ้าภาพงานกีฬามหา'ลัย ต้องเอาหอนักศึกษาไปให้นักกีฬาใช้ ช่วงที่หยุดก็จะเอามาลงแบบมาราธอนให้นะครับ ทุกท่าน
|
กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
|
|
|
/人◕ ‿‿ ◕人\
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #47 เมื่อ: 16-01-2010, 23:39:56 » |
|
เหอๆ... งั้นก็ดีสิ อี้อยู่ ปีไหนแล้วอ่า >[]<
|
|
|
|
FeXT
Sr. Member
กระทู้: 1,571
อะไรกันเล่า~!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #48 เมื่อ: 16-01-2010, 23:47:39 » |
|
^ ^ ^ ตาอี้อยู่ปี1จ๊ะ
ช่วงนี้โปรเจคเยอะ จะพยายามเจียดเวลามาทำในส่วนของตรงนี้ให้นะ อย่าน้อยใจล่ะถ้าหลายๆงานฉันดอง
แล้วก็...ชอบตรงการขยายบุคลิกของตัวละครให้เด่นชัด อย่างตัวละครที่ชอบสังเกต แ้ล้วก็ได้ขยายรายละเอียดของเอรัวร์ด้วย มันทำให้จินตนาการภาพตามได้ง่ายขึ้นน่ะ ถึงรูปลักษณ์อะไรเทือกนี้ แล้วก็นิสัยปลีกย่อยด้วย
ปล. ตาอี้ดองนานมาก รีบๆขยายเรตติ้งเร็ว!
|
>สนับสนุนการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง< การตอบกระทู้ ควรคำนึงถึงความเหมาะสม และความเป็นสุภาพชนของตน
|
|
|
อีริตั้น
Sr. Member
กระทู้: 1,515
Status : Waiting for new signature!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #49 เมื่อ: 16-01-2010, 23:49:22 » |
|
เหอๆ... งั้นก็ดีสิ อี้อยู่ ปีไหนแล้วอ่า >[]< ปี 1 มธ. ครับหนู -..-
|
กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
|
|
|
/人◕ ‿‿ ◕人\
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 4 29/12/2009
« ตอบ #50 เมื่อ: 16-01-2010, 23:59:32 » |
|
เหอๆ..
งั้นปั่นไวๆนะ เค้าติดตามอยู่ >[]<
|
|
|
|
/人◕ ‿‿ ◕人\
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 5 16/01/2553
« ตอบ #51 เมื่อ: 17-01-2010, 01:15:10 » |
|
พี่กบปักหมุดไวจัง ..
นึกว่านอนแล้วซะอีก -[]-
|
|
|
|
อีริตั้น
Sr. Member
กระทู้: 1,515
Status : Waiting for new signature!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 5 16/01/2553
« ตอบ #52 เมื่อ: 22-01-2010, 23:38:22 » |
|
Eruar’s Route “ทางนี้ค่ะ!!” เฟริน่าร้องบอกอย่างเร่งร้อน ในระหว่างออกเท้าวิ่งอยู่ในป่าใหญ่ของวินเดิ้ล วู้ด โดยมีเอรัวร์วิ่งตามมาจากด้านโดยไม่ให้คลาดสายตา “ตัวใหญ่บะเริ่มเทิ่ม ทำไมถึงได้วิ่งเร็วนักนะ!?” เขาสบถเบาๆถึงสิ่งที่ทั้งสองกำลังวิ่งไล่ตามกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นี่ พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันก่อน... “เผอิญว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีพายุฝนลูกใหญ่ผ่านมาที่หมู่บ้านของพวกข้า รั้วที่หลังบ้านข้าก็เลยหัก ทำให้สัตว์เลี้ยงของข้ามันหลุดออกไปหลายตัว แต่มันเหลืออยู่อีกตัวที่หนีเข้าไปในป่า ข้าเองก็แก่มากแล้ว จะให้เข้าไปบุกป่าฝ่าดงแบบนั้นคงจะไม่ไหว ก็เลยอยากจะวานพวกเจ้าให้ช่วยกันสะกดรอยตามมันไปแล้วพามันกลับมาที่บ้านที...” โค จิน เคง กล่าวจบ แล้วยกถ้วยน้ำชาร้อนขึ้นมาจิบ “แล้วเจ้าตัวที่หลุดออกไปเนี่ย คือตัวอะไรเหรอลุง?” เอรัวร์ถาม “...ก็แค่ร็อกกี้ตัวหนึ่งน่ะ...หึหึหึ...” พูดจบ สิงห์เฒ่าก็แค่นหัวเราะขึ้นมาเบาๆในลำคอ แล้วจิบน้ำชาต่อ... 3 ชั่วโมงก่อนหน้า เอรัวร์และเฟริน่ายืนตรวจสอบร่องรอยตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งดูจากรอยเท้าที่มันทิ้งไว้เป็นทาง แสดงว่าเจ้าร็อกกี้ได้หลุดเข้าไปในป่าตามที่สิงห์เฒ่ากล่าวมาจริง “ดูจากขนาดรอยเท้าและความลึกที่จมลงไป คงจะตัวใหญ่น่าดู...” เอรัวร์นั่งยองๆลองเพื่อตรวจสอบรอยเท้าของร็อกกี้ “ท่านเอรัวร์ อย่าแย่งหน้าที่กันสิคะ เฟรินเป็นพรานนะคะ” เฟริน่าค้อนมองเอรัวร์ตาเขียวปัด ดูแล้วน่ารักไม่หยอกสมกับบุคลิกเด็กใสซื่อของเจ้าหล่อน “...อะ ขอโทษๆ งั้นเชิญหนูเฟรินปฏิบัติหน้าที่ได้เลยจ้า...” เอรัวร์หัวเราะแห้งๆ แล้วหลีกทางถอยหลังเพื่อให้เฟริน่าเข้ามาตรวจสอบได้สะดวก เธอจึงจัดแจงเอามือคลำดิน และก้มลงดมกลิ่นไปทั่วตั้งแต่รอยเท้าจนไปถึงรั้วไม้ “...เป็นตัวเมียค่ะ...” เฟริน่าลุกขึ้นปัดเศษดินออกจากแขนขา “หือ? รู้ได้ไงน่ะ?” “ก็เมื่อครู่ เฟรินลองดมกลิ่นน่ะค่ะ จากตำแหน่งรอยเท้า และตำแหน่งที่คุณลุงบอกว่ามันชอบอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันไม่มีกลิ่นฉุนที่เป็นกลิ่นจากตัวผู้มักจะขับออกมาเพื่อประกาศอาณาเขตของตน มีแต่กลิ่นตามตัวแบบธรรมชาติเท่านั้น...” “แบบนี้เราก็ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องที่มันจะติดสัดจนตกมันสินะ?” เอรัวร์ถอนหายใจโล่งอก... “...มันอันตรายกว่าอีกค่ะ...” แต่สีหน้าของเฟริน่ากลับเคร่งเครียดมากกว่าเดิม จนเขาเองก็พลอยรู้สึกใจหายไปด้วย “...เจ้านี่มัน...กำลังท้องแก่...”... เวลาปัจจุบัน “กระเตงลูกเป็นครอกแต่ทำไมถึงได้หนีไวขนาดนี้เนี่ย? เวลาแค่ไม่กี่วันไปต่อไหนถึงไหนกันแล้วนะ?” เอรัวร์บ่นพลางหยุดพักหายใจกับเฟริน่า “ก็สัญชาตญาณการเอาตัวรอดไงคะ...ยิ่งมีลูกต้องปกป้องด้วย...คงตกใจเพราะเสียงฟ้าผ่าน่ะค่ะ...” เฟริน่าพูดไปหอบไป... “งั้นเราเปลี่ยนเป็นเดินตามไปจนกว่าจะหายเหนื่อยละกัน ยังไง 2-3 วันนี้เจ้าโยฮานก็ยังไม่ติดต่อมาแน่นอน” “...ค่ะ...” แต่ทันใดนั้น เฟริน่าก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่พื้น เธอจึงรีบก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา มันมีลักษณะเป็นก้อนดินสีเหลืองเขียวมีเศษหญ้าแซมอยู่ เฟริน่าดมกลิ่มมันสักพัก “หือ? นั่นมันอะไรน่ะหนูเฟริน?” เอรัวร์ถามพลางจะหยิบขึ้นมาดูด้วย แต่เฟริน่าตัดสินใจหยิกก้อนที่อยู่ในมือขึ้นมาเล็กน้อยแล้วใส่เข้าปากของเธอโดยไว เคี้ยวหยับๆอยู่สักพักจึงคายมันออกมา “มูลของมันน่ะค่ะ...” เฟริน่ายังคงคายน้ำลายของตนออกมาเพื่อให้กลิ่นหมดไปจากปาก ส่วนเอรัวร์ก็ยืนตัวแข็งค้างไปแล้วกับวิธีการชันสูตรอันแสนจะลงทุนของเธอ... “...ถ้าคำนวณจากความขมและความเปรี้ยว อาหารที่กินก็น่าจะเป็นหญ้าสดแถวๆริมป่า และก็เพิ่งย่อยได้ไม่นาน...น่าจะนำเราอยู่ประมาณ 2-3 กม.ค่ะ...” “...ร...เหรอ...?...” เอรัวร์รู้สึกทึ่งในตัวของเฟริน่าอย่างแรง ทั้งด้านความสามารถในการสะกดรอย และความ”กล้า” ในหลายๆความหมาย แต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะเข้าใจถึงสายตาของเขาที่ส่งมาให้ จึงยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกสัตว์กินพืชลำไส้ไม่สกปรกขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็กินแต่พืชนี่นา กลิ่นก็เหม็นสาบน้อยกว่าพวกกินเนื้อตั้งเยอะ...” ...ถึงอย่างนั้นก็ยังทึ่งอยู่ดี... “รีบไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวจะโดนทิ้งระยะห่างไปอีก...” ว่าแล้วก็เริ่มออกวิ่ง ทำให้เอรัวร์ต้องวิ่งตาม “นี่ หนูเฟริน...ข้าเพิ่งจะนึกอะไรออกได้” “ทำไมเราถึงไม่ลองคำนวณดูล่ะ ว่าจุดหมายปลายทางของเจ้าร็อกกี้นั่นอยู่ที่ไหน อาจจะพอมีทางอ้อมไปดักได้นะ ถ้าตัดเอาพื้นที่ที่มีสัตว์กินเนื้ออยู่เยอะๆออก” “ทำไม่ได้หรอกค่ะ...เพราะว่าป่าทางฝั่งนี้มันใหญ่และก็ไม่มีพวกกินเนื้อขนาดใหญ่อาศัยอยู่ด้วย เพราะพวกชาวนัลก็อพยพเข้าไปอยู่ในป่าวงกตกันหมดแล้ว ดังนั้นเราไม่สามารถจำกัดพื้นที่ลงได้เลย คงทำได้แต่ตามรอยไปเรื่อยๆนั่นล่ะคะ...” หลังจากที่วิ่งตามกันไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ทั้งสองเลยตัดสินใจที่จะหยุดพักกันก่อน เนื่องด้วยเจ้าร็อกกี้เองก็เป็นสัตว์ที่หากินกลางวัน แถมยังตั้งท้องแก่ คงจะมีแรงวิ่งไปได้ไม่มาก...เอรัวร์พบทำเลดีๆข้างแม่น้ำ จึงจัดการก่อไฟขึ้นทันที เฟริน่าเองหลังจากชำระคราบไคลเสร็จก็มานั่งผิงไฟข้างๆเอรัวร์ “ไหนๆก็ว่างๆกันแล้ว มาคุยกันซะหน่อยสิ หนูเฟริน” เอรัวร์กล่าวเชื้อเชิญ พลางยื่นถ้วยใส่นมร้อนให้ ซึ่งเฟริน่าก็ทำตามอย่างว่าง่าย “หนูเฟริน...เป็นชาร์ปชูตเตอร์สินะ? ไปไงมาไงเหรอถึงได้มาทำงานกับสาธุคุณ มอร์เร่ย์น่ะ?” “...เฟรินเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่ค่ะ...” เฟริน่าเอ่ยคำออกมาอย่างยากลำบาก แล้วดื่มนมอุ่นๆเข้าไปหนึ่งอึก... “เฟรินจำหน้าตาพ่อแม่ตัวเองไม่ได้ ความทรงจำแรกสุดที่มีคือถูกชนเผ่าอสุราตนหนึ่งเก็บมาเลี้ยงตอน 10 ขวบค่ะ...” “หล่อนเป็นคนที่ดีมากๆ สอนอะไรเฟรินหลายๆอย่าง และยังใจดีแถมอ่อนโยนมากๆด้วย...เป็นเหมือนทั้งพี่สาว เพื่อน แล้วก็แม่สำหรับเฟรินเลยล่ะค่ะ” เธอหันมายิ้มให้กับเอรัวร์ เป็นรอยยิ้มที่เด็กที่มีความสุขที่สุดในชีวิตเท่านั้นที่จะมีได้ “เธอคงเป็นคนสำคัญมากสินะ?” เอรัวร์ถามและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ถึงแม้เฟรินจะไม่ตอบแต่เขาเองก็รู้ได้อยู่แล้วจากรอยยิ้มบนใบหน้าไร้เดียงสานั่น “ตาเฟรินถามบ้างแล้วค่ะ...” “ท่านเอรัวร์เนี่ย เป็นอะไรกับท่านโยฮานเหรอคะ? แล้วมาเจอกันได้ยังไง? แล้วกิ๊กของท่านโยฮานเนี่ยมีกี่คนกัน? แล้วตัวจริงของท่านโยฮานคือใครเหรอคะ? ใช่ท่านเอรัวร์รึเปล่า? แล้วเฟรินจะมีโอกาสได้เป็นกิ๊กท่านโยฮานมั้ยคะ?” เอรัวร์เองเมื่อเจอคำถามยิงเข้าเป็นชุดเหมือนปืนกลใส่แบบนี้ก็เล่นเอาตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน “ใจเย็นเย้นนนนนน เดี๋ยวข้าจะเริ่มตอบจากคำตอบสั้นๆก่อนก็แล้วกัน เข้าใจนะ?” เขาพยายามปรามเฟริน่าให้ใจเย็นลง ซึ่งเธอเองก็พยักหน้ารับอย่างแข็งขัน “อืม เอาจาก อย่าคิดจะเป็นกิ๊กมันเลยนะ ข้าเสียดายอนาคตดีๆของเจ้าน่ะ แล้วก็ข้าเป็นแค่เพื่อนสนิทกับมันเท่านั้น ไม่ได้เป็นอะไรอย่างอื่น เพราะเราทั้งสองต่างก็สนใจในตัวของผู้หญิง ไม่ชอบไม้ป่าเดียวกันน่ะ...” เอรัวร์พักหายใจ “ส่วนเรื่องตัวจริงของมันก็ต้องถามเอาเองล่ะนะ แต่เห็นเจ้านั่นก็บ่นๆอยู่ว่า คนที่อยากได้เป็นตัวจริงเขาดันไม่เล่นด้วยนี่สิ ส่วนเรื่องกิ๊กก็คงพอๆกับจำนวนของวุ้นหน้าหมู่บ้านไชร์ที่เจ้าจะพบได้ในตอนเช้าน่ะนะ...” นับว่าเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ทีเดียว สำหรับชายคนหนึ่ง... “...เอาล่ะ งั้นก็ถึงตาเรื่องสำคัญละ” เอรัวร์พักดื่มน้ำครู่หนึ่ง จึงเล่าให้เฟริน่าฟัง “ข้าน่ะ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ เป็นผลมาจากการปฏิวัติใหญ่เมื่อราว 10 ปีก่อนน่ะ หลังจากนั้นข้าก็ได้พบกับหลวงพ่อมอร์เร่ย์ ท่านจึงรับข้ามาเลี้ยงไว้ ส่งเสียเลี้ยงดูข้าอย่างดี เมื่อข้าสำเร็จการศึกษาระดับเบื้องต้น หลวงพ่อก็ต้องไปรับภารกิจประจำที่โบสถ์ในเซาเทิร์น ฟอร์ท ข้าก็ได้ติดตามมาด้วย และได้พบกับแคสก้าและพี่โจ หลวงพ่อจึงให้ข้าอาศัยอยู่กับสมาคมไฟเตอร์และได้ร่ำเรียนวิชาดาบมาด้วย...และช่วงเวลานั้นเอง ที่ข้าได้พบกับโยฮาน...” “...เป็นเรื่องเมื่อราว 6 ปีที่แล้ว ข้าพบโยฮานนอนสลบไสลอยู่ที่หน้าทางเข้าโบสถ์ ข้าจึงไปตามคนมาช่วยเขา และก็ได้รู้จักกัน จากนั้น เราก็ตัวติดกันอย่างกับตังเมเลยทีเดียว ฮะๆๆ...” เอรัวร์นึกย้อนไปถึงภาพความหลังเก่าๆ จนอดขำไม่ได้... “...เจ้านั่นน่ะ เป็นคนที่อ่อนโยนมาก แถมฉลาดหัวไว พูดจาดีรู้จักเอาใจ แถมยังชอบชวนทำอะไรสนุกๆอยู่เรื่อย เราถึงได้สนิทกันถึงขนาดนี้ไงล่ะ...แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบ้างที่ทะเลาะกันนะ ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย แต่เจ้านั่นน่ะสุดยอดไปเลย เล่นบอกว่า “โกรธเท่าไหร่ก็ใส่มาให้เต็มแรงเลย เพราะว่านั่นเป็นหน้าที่ของเพื่อนที่จะต้องแบกรับความทุกข์ของเพื่อนเอาไว้”...เท่านั้นล่ะ ข้าก็ร้องไห้โฮลั่น หลังจากซัดมันไป 4-5 หมัดแล้วน่ะนะ...” รอยยิ้มละไมคนละแบบกับโยฮานผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเอรัวร์ ซึ่งมันทำให้เฟริน่ารู้สึกใจเต้นมากกว่า “...มิตรภาพเนี่ย...ดีจังเลยนะคะ...เฟรินเองก็ชักอยากจะมีเพื่อนบ้างแล้วสิ...” เฟริน่ากล่าวเสียงใส “มีได้สิ...ข้านี่ไง ข้ากับโยฮานจะเป็นเพื่อนให้เจ้าเอง” เอรัวร์ตอบรับ แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวของเฟริน่าเบาๆ “กับท่านโยฮานจะยอมเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ แต่เฟรินชักอยากจะเป็นกิ๊กกับท่านเอรัวร์ซะแล้วสิ” ว่าแล้วเธอก็โดดเข้าไปกอดแขนของเอรัวร์เข้าอย่างจัง พรากซุกหน้าไปมาเหมือนกับลูกหมาไม่มีผิด “ว้าก! ทำอะไรน่ะหนูเฟริน!? ข...ข้าไม่สนเด็กหรอกนะ!” เอรัวร์ลนลานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนคงไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้จากสตรีก็เป็นได้ “...หมายความว่าถ้าเฟรินโตก็จะยอมเป็นกิ๊กด้วยใช่มั้ยล่ะคะ? ดีใจจัง ฮิๆ” และแล้วเสียงหัวเราะแห่งความสุขของเธอ ก็พัดผ่านไปพร้อมกับค่ำคืนอันหนาวเหน็บในผืนป่าวินเดิ้ล วู้ด...
|
กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
|
|
|
อีริตั้น
Sr. Member
กระทู้: 1,515
Status : Waiting for new signature!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 5 16/01/2553
« ตอบ #53 เมื่อ: 22-01-2010, 23:42:14 » |
|
เสร็จแล้ว รีบลงไปหน่อยยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลย ตอนนี้ยาวกว่าปกติเล็กน้อย กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายาวขนาดนี้ดีมั้ย? รึว่าอย่างเดิมดีแล้ว ยังไงก็ลองท้วงเรื่องความยาวแล้วก็คำผิดมาละกันนะท่านผู้อ่าน จะได้แก้ให้ เนื้อยเหนื่อย หวังว่าจะมีรูปประกอบมาไวๆนะ
|
กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก? คลิกที่รูปเลย!
|
|
|
SchwarzerHare (กระต่ายป่าสีดำ)
Asura Tester
Hero Member
กระทู้: 2,538
♂ Rikku เทสเตอร์ดาวเดียว
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 5 16/01/2553
« ตอบ #54 เมื่อ: 22-01-2010, 23:46:17 » |
|
เพิ่งจะเข้ามาอ่านหัวข้อนี้ ป้าด...เรื่องยาว ตาลาย ไว้ติดตามผลงานของตาอี้ใหม่ละกัน
|
|
|
|
|
กร็วก
Asura Tester
Sr. Member
กระทู้: 1,433
กร็วก???........มันเป็นใครหว่า???.......นั้นอ่ะดิ?
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 6 22/01/2553
« ตอบ #56 เมื่อ: 22-01-2010, 23:58:47 » |
|
ในฐานะคนอ่านนิยาย จะอ่านนิยายทั้งเล่มจนจบรวดเดียว หรือ อ่านหน้าเดียวไว้อ่านหน้าสองต่อวันพรุ่งนี้ มันก็ยังคงเป็นนิยายเรื่องเดิมที่รอให้เราอ่านจนจบอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้ว จะสั้นจะยาว ก็ขอให้รวบรวมเนื้อความสำคัญสำคัญไว้ในตอนนั้นให้หมดจด อย่าข้างคามากเกินความจำเป็นอ่ะครับ สรุปแล้วว่า แต่งตามใจทั่นเถิด เราจะเป็นคนอ่านเอง
|
หัดไปอัพบอร์ดบ้างสิย่ะ รู้นะว่าแกอู้!!!!!
|
|
|
/人◕ ‿‿ ◕人\
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 6 22/01/2553
« ตอบ #57 เมื่อ: 23-01-2010, 01:02:40 » |
|
อ..อึ!! ... (อาฟเตอร์ช็อก)
|
|
|
|
FeXT
Sr. Member
กระทู้: 1,571
อะไรกันเล่า~!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 6 22/01/2553
« ตอบ #58 เมื่อ: 29-01-2010, 20:33:03 » |
|
โอ้...
ดูจากจำนวนการเข้ากระทู้ ...1,016ครั้ง
...เดี๋ยวต้องวาดฉลอง1000hitsสินะ
|
>สนับสนุนการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง< การตอบกระทู้ ควรคำนึงถึงความเหมาะสม และความเป็นสุภาพชนของตน
|
|
|
FeXT
Sr. Member
กระทู้: 1,571
อะไรกันเล่า~!
|
|
Re: Break the World - Asura Fan Fiction Ch. 6 22/01/2553
« ตอบ #59 เมื่อ: 21-02-2010, 19:05:00 » |
|
ช่วงนี้เข้าสู่1อาทิตย์ก่อนสอบซะแล้ว เลยไม่ค่อยได้วาดรูป+ CGเลย แปะเพื่อความขลังซะหน่อย ถือว่าฉลอง1000hitsละกัน = =" (อาจมีเผาไปบ้าง...)
|
>สนับสนุนการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง< การตอบกระทู้ ควรคำนึงถึงความเหมาะสม และความเป็นสุภาพชนของตน
|
|
|
|