บทที่ 21 ความจริง
ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม้บางครั้งอาจจะโกรธกันบ้าง แต่ก็กลับคืนดีกันตลอด จนกระทั่ง..
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ห้องนอนในปราสาทเซาท์เทิร์นฟอร์ทดังขึ้น ทุกคนที่รวมตัวกันอยู่จึงคิดว่าเซอร์ อเล็ก เคาะ โอมจึงลุกขึ้นไปเปิด
"ครับ มีอะไรเหรอครับ..."เหมือนลมหายใจหยุด ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ แววตาหม่นหมอง ผมสีน้ำเงินยาวพลิ้วไสวพร้อมชุดพาลาดิน
"ออกไป"โอมบอกเสียงแข็งกับ 'เวียส' ก่อนจะปิดประตูใส่หน้า
"ดะ..เดี๋ยว.."เวียสรีบจับประตูไว้พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
"แกมีอะไรที่จะต้องพูดอีก ห๊ะ! ยัยปิศาจ"อาบาเช่ตะคอกใส่ เวียสสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงพร้อมน้ำตาที่หยดใส่มือ โอมมองเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นทันที
“อาบาเช่ปิดเหอะ ยัยนี่มันก็แค่แสดงละครตบตาเรา ไม่รู้นะว่ามันจะมาทำร้ายเลิฟโลว์อีกเมื่อไหร่ เผลอๆมันอาจคิดอยู่ก็ได้”ลูบอกเสียงเย็นซึ่งฟังดูขนลุก
“อภัยให้ฉันได้ไหม..”
เวียสตอบเสียงเบา
“ฮะ ฮะ อภัย ตลกดีนะ สิ่งที่แกทำลงไปเนี่ย จะให้พวกชั้นพูดคำว่าไม่เป็นไรงั้นเหรอ มันคงเป็นไป..”ยังไม่ทันที่ลูจะพูดจบ เสียงหนึ่งก็ขัดขึ้น
“ได้สิ”
ทุกคนหันไปมองที่โอมทันที
“นี่! นายบ้าไปแล้วหรอ”กาเรนที่อัดอั้นมานานตะโกนใส่ แต่โอมไม่สะทกสะท้านอะไร
“ฟังเหตุผลที่เขาพูดก่อนสิ”โอมจูงมือเวียสไปนั่งที่เก้าอี้ ทุกคนในห้องมองโอมราวกับเขาเสียสติไปแล้ว
“งั้นเล่ามา”บิวบอกอย่างเย็นชา เวียสจึงเริ่มขยับปากเล่าทันที
“วันนั้น..ฉัน .. ไปล่าปิศาจกับเลิฟโลว์ พวกผีดิบใต้สุสาน แต่แล้ว.. มัน.. มันมีควันอะไรบางอย่าง สีดำ.. มันจะพุ่งไปหาเลิฟโลว์แต่ฉันผลักเธอเข้าไปในโบสถ์พร้อมปิดประตูลงกลอน แล้ว...”เวียสพูดด้วยเสียงอันสั่นเทา ทุกคนหันไปมองเลิฟโลว์ เธอพยักหน้าลงเพราะมันเป็นความจริง
“ควันนั้นมันเล่นงานฉันแทน มันหมุน..เป็น..เป็นเกลียว ..รอบตัวฉัน แล้วมันพุ่งเข้ามา มันรู้สึกเจ็บแสบและสะท้านไปทั่ว แล้วฉันก็ไม่รู้อะไรอีกเลย.. ”เวียสก้มหน้าลง
“แล้วจากนั้น ฉันจึงลงไปอีกครั้ง เวียสผมสีดำ ตาสีแดง คล้ายเทวีแห่งอาทรัม ”เลิฟโลว์ซึ่งเงียบมานานจึงเอ่ยปากเล่า
“เวียสพยามฆ่าฉัน แต่ฉันหนีขึ้นโบสถ์ได้ก่อน ราวๆ2-3ชั่วโมง ฉันจึงลงไปใหม่ พบเวียสสลบอยู่ ฉันจึงอุ้มเธอขึ้นมาที่โบสถ์ เมื่อฟื้น เธอจึงเล่าให้ฉันฟังว่า..”
“ดูลาฮานสิงฉัน มันสิงชั่วครั้งชั่วคราว ดูลาฮานถ้ามันต้องการตัวฉัน มันจะสิง แต่ถ้าไม่ต้องการ มันจะออก เมื่อกี้ฉันไปคุยกับเขา แล้ว.. เขาบอกว่า จะไม่ต้องการฉันอีกแล้ว แต่ต้องการ..”เวียสบอกแทนและก้มหน้าลงอีกครั้งพร้อมน้ำตาที่ไหล
“ต้องการใคร”กุเกิ้ลถามอย่างตกใจ
เวียสชี้ไปด้านหน้าตัวเองพร้อมก้มหน้าลง
“โอม..”เลิฟโลว์มองโอมอย่างตกใจ
“มันจะตามล่าโอม มันจะจับโอมไปเชือดสดต่อหน้าชั้น..ฉัน..ฉันไม่อยาก..ฮึก..”และแล้วเสียงสะอื้นต้องเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก เธอกลั้นอยู่นานแต่ในที่สุดมันก็ต้องไหลออกมา
“ไม่เป็นไร”โอมช้อนตัวเวียสขึ้นมากอดปลอบโยน
“ไปกันเถอะ..”เลิฟโลว์หยิบทวนแห่งแสงพร้อมใส่หมวกนักรบทองคำ ตามด้วยคนอื่นๆที่สวมหมวกตัวเองพร้อมอาวุธแห่งแสงถือตามไป เว้นแต่เวียสกับโอมที่อยู่ด้วยกัน
ฟิ้ววว..วว
เสียงสายลมหวีดหวิว เลิฟโลว์ปิดประตูโบสถ์ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญด้านหน้า
“ดูนี่สิ”เพชรชี้ไปยังพื้น มีรอยเลือดเกรอะกรังเป็นหยดแนวเป็นทางจนเข้าประตูโบสถ์ ทริงค์เอานิ้วแตะไปที่เลือด
“ยังสัมผัสได้ เลือดยังใหม่”
“เลือดของเวียส”เลิฟโลว์บอก
“ไอดูลาฮาน แกอยู่ไหน ออกมานะ ชั้นจะฆ่าแก!!”เลิฟโลว์คำรามเสียงลั่นพร้อมวิ่งไป ทุกคนตกใจที่จู่ๆเลิฟโลว์วิ่งออกไปตัวคนเดียวจึงรีบวิ่งตามไปด้วย..
“อะ..โอ้ย!”เวียสร้องเบาๆเมื่อโอมจับหลังตัวเอง
“เวียส หลังเป็นอะไร??”โอมบอก
“มะ..ไม่เป็น...โอ้ย!”
“มานี่ฉันดูให้”โอมบอก แต่เวียสจับเสื้อตัวเองไว้ โอมจึงเกาท้ายทอยพลางหันหน้าไปทางอื่น
“จริงสิ เธอเป็นผู้หญิงนี่นา”โอมเดินออกไป ตามหาเมดสาวสองคนพี่น้อง แต่กลับไปพบ จึงกลับเข้าห้องมาอย่างหัวเสีย
“มาฉันดูให้เอง หันหลังมา”เวียสหันหลังก่อนจะนอนราบกับเตียง โอมปลดกระดุมด้านหลังเสื้อก่อนจะคลี่ผ้าออก ด้านหน้ายังคงมีเสื้อผ้าทับทาบไว้อยู่
“เฮ้ย! ทำไมแผลมันใหญ่อย่างงี้ล่ะเวียส”
แผลสีแดงสดใหญ่และลึก พร้อมเลือดที่ไหล่เป็นทางยาว โอมรีบไปหยิบแอกล์ฮอลล์และสำลีมาเช็ดเลือด
“เจ็บ”เธอร้องจนน้ำตาเล็ด
“ทนหน่อย”โอมค่อยๆพันผ้าพันแผลลงไป ก่อนจะติดกระดุมให้เหมือนเดิม
“เสร็จแล้ว มีแผลตรงอื่นอีกไหม”
“ไม่มี”
โอมสวมกอดเวียสอย่างแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่าที่ไหนจะอันตราย ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอ.. เวียส ฉันรักเธอนะ..”
สาวเจ้าหน้าแดงก่ำก่อนจะก้มหน้าลงพร้อมบอกไป
“ฉันก็รักเธอ”
ภาพเบื้องหน้าคือ ดูลาฮานยืนจังก้า นั่งลงที่โขดหินพลางขัดดาบ
“โลว์.. จะไหวหรอ”บิวกระซิบถามเลิฟโลว์เพราะคิดว่าเลิฟโลว์คงล้อเล่น
“ไม่ไหวก็ต้องไหว!!”เสียงของเธอดูหนักแน่นจนไม่เหมือนว่าล้อเล่นเลย..