โว้ววว เผลอแปปเดียวได้บทตัวเลข 2 ตัวแล้ววว *0*
___________________________________________________________________________
บทที่ 10 ความตายที่จะมาพราก
อสุราตนนั้นหยิบแท่งเหล็กร้อนๆมา มือของเขากำมันแน่น เลิฟโลว์เอะใจอยู่ว่าทำไมสมิงตัวนั้นไม่ร้อน ตอนนี้เลิฟโลว์ถูกจับมัดมือมัดขาเอาไว้
"เจ้าคงจะสงสัยล่ะสิว่าทำไมข้าไม่ร้อน.. ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ แท่งเหล็กนี้มันไม่ร้อนสำหรับเผ่าอสุราหรอก แต่เผ่าอื่นน่ะ..จะทรมานจนไม่สามมารถบรรยายได้ โอกาส 80% ที่จะตาย.. แต่ไม่ต้องกลัว วันนี้มันยังไม่ใช่วันตายของเจ้า!"
พูดจบแท่งเหล็กร้อนๆก็สัมผัสที่ต้นแขนของเลิฟโลว์ เธอสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหลับตาปี๋
แสบ..มันร้อนมากจนไม่สามารถจะอธิบายได้เลย
แท่งเหล็กเลื่อนขึ้นแขนเนียนไปเลื่อยๆ อสุราหนุ่มดึงแขนเสื้อจนถึงไหล่ แล้วลากแท่งเหล็กร้อนไปถึงบ่าแล้วหยุดไว้ตรงนั้น ความเจ็บแสบและร้อนเริ่มเข้ากายผิวของเธอ อสุราหนุ่มตนนั้น เลื่อนแท่งเหล็กลงมาที่แขนอีก วนเวียนไปมาตรงนั้นไม่รู้จบสิ้นราวกับว่ามันกำลังดูสิ่งที่สวยงาม
ผัวะ!!
เสียงหนึ่งดังขึ้น แท่งเหล็กร้อนหลุดออกจากมืออสุราหนุ่มแล้วล้มลงไป ปรากฏภาพเบื้องหน้า
ไม้ท่อนหนึ่งลอยอยู่ เลิฟโลว์รีบเกราะแห่งสัจจะธรรมให้ตัวเอง พบว่าเทรเชอร์ฮันเตอร์หนุ่ม กุเกิ้ล กลมกลืนกับธรรมชาติจนเหมือนจริงมากใช้ไม่ตีไปที่ท้ายทอยของอสุราหนุ่ม เลิฟโลว์กำลังจะยืนขึ้น แต่ความเจ็บแสบก็ต้องปะทุเข้ามาอีกจนต้องล้มลงไปกองกับพื้น กุเกิ้ลวางไม้แล้วพยุงให้เลิฟโลว์ลุกขึ้นมา
"ไม่เป็นไรนะ เอ้า! เข้ามาได้แล้ว รีบหนีกันเถอะ"กุเกิ้ลตะโกนไปที่ต้นไม้ ด้านหลังต้นไม้มีพุ่มไม้ มันขยุกขยิกเล็กน้อยก่อนจะปรากฏร่างทุกคน
"หนอย!! แก!!"โอมด้วยความโกรธแค้น จึงเตะไปที่ท้องของอสุราหนุ่มอย่างแรง แต่มันสลบไปนานแล้ว
"ไปกันเถอะ"อาบาเช่ช่วยพยุงเลิฟโลว์อีกรอบในขณะที่เพชรเอาด้ามธนูทุบไปที่ท้ายทอยของอสุราตนนั้นอีกแล้วรีบวิ่งตามมา
"ไม่เป็นไรนะ.."บิวพูดเบาๆ ก่อนจะฟื้นฟูขั้นสูงให้เลิฟโลว์เมื่อเห็นว่าความร้อนยังสะสมอยู่ในผิวกายของเธอทำให้แดงและเลือดไหล บิวรีบนำผ้าพันแผลที่คว้าติดตัวมาห้ามเลือดและฟื้นฟูขั้นสูงอีกหลายรอบ ไม่นานเลือดก็หยุดไหล หน้าตาของเธอดูอิดโรยของจะสลบไป
แว๊บบ..ว๊าบบ..
เเสงหนึ่งสะท้อนตาของโอม โอมหันไปมองก็พบสิ่งหนึ่งหลังพุ่มไม้ประกายแสงอยู่..
เลิฟโลว์ขยับตาเล็กน้อยก่อนจะเปิดเปลือกตา ทุกคนยืนเรียงหน้าพร้อมกัน ทริงค์พูดออกมาเบาๆ
"เธอฟื้นแล้ว"
"..เอ๊ะ.."เลิฟโลว์พูดเบาๆ เพชรจึงอธิบายต่อ
"เมื่อ 2 วันก่อนพวกอสุรามันมาทำสงครามกับเราดีนะที่พวกเราแจ้งเซอร์ อเล็ก สงครามเลยไปด้วยดี แต่ว่าพรุ่งนี้มันจะมาบุกเราอีกรอบ"เพชรตอบ
"ฉัน..หลับไป 2 ..วัน.. งั้นเหรอ"
"ใช่น่ะสิ.. นึกว่าตายแล้วซะอีก"ลูตอบก่อนจะจิบน้ำชาแล้วนั่งไขว่ห้างก่อนจะมองไปที่หน้าต่างอย่างไม่สนใจ พฤติกรรมของลูทำให้สะทกสะท้านใจโอมนิดหน่อย
"..อื๊บ..แล้ว เราเตรียมการอะไรรึยัง"เลิฟโลว์ลุกขึ้นนั่งถาม ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนเตียงในปราสาทของเซอร์ อเล็ก
'เรียบร้อยแล้วละ พรุ่งนี้ผมจะไปรบนะ สงครามครั้งแรกที่มันมาบุกเรา ผมไม่ได้รบเพราะเฝ้าพี่ แต่คราวนี้ผมจะรบแล้วนะ"โอมยืนขึ้นมาทันที ใบหน้าแสดงให้เห็นว่าโกรธเพียงใด
"ไม่ได้นะ! คราวก่อนนายเกือบตายไปแล้ว ถ้านายรบ แล้วนายจะมีชีวิตเหรอฮะ!!"เลิฟโลว์รีบตวาดใส่น้องชายตัวเอง ทุกคนสะดุ้งเล็กน้อย โอมตีหน้าเฉยก่อนจะตอบ
"ถ้าผมมีนี่ละ.."โอมชูคฑาอันนึง สีน้ำตาล ส่องแสงประกายสีขาว
"คฑาแห่งแสง" 'โอมเฟอร์ กาซัส'
"นาย..มี.."
"ใช่! คราวนี้พี่คงจะหมดห่วงแล้ว"โอมนั่งลงที่โซฟาสีแดงประดับลวดลายสีทองก่อนจะจิบน้ำชาตามเดิม
"อะ..อืม"เธอพูดแต่ในใจยังหวาดระหวั่นเล็กน้อย
"แล้วเป็นไง หายดีรึยัง หมอหลวงน่ะชั้นจ้างมาเลยนะ"กาเรนพูดก่อนจะปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องมา
"เอ่อ.."เลิฟโลว์รู้สึกไม่เจ็บต้นแขนอีกแล้ว ก่อนจะปลดผ้าพันแผลออก แล้วคลายออก ไม่ปรากฏแผลใดๆทั้งสิ้น
"อืม..ดี เตรียมตัวทำสงครามพรุ่งนี้เถอะ"กาเรนพูดก่อนจะนั่งลงแล้วหลับตา
เลิฟโลว์หันไปมองกระจก เบื้องหน้าเป็นสุสานหน้าโบสถ์เซาท์เทิร์นฟอร์ท
'ทำไมนะ..ทำไมถึงสังหรณ์ใจอย่างงี้ ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกเหมือนมีใคร..จะพราก จากไป..'