บทที่ 5. ลาก่อน..........
" ยามเช้าเมืองวิลเดอวู้ดช่างสบายจริงๆ เพราะมีป่าเขาล้อมรอบตัวเมือง ทำให้ยามเช้าอากาศเย็นสบายมาก จนไม่อยากลุกจากที่นอน จนเข้าเวลาสายนิดๆ พวกของอาริงก็ต้องเก้บข้าวของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และเตรียมตัวที่ต้องแยกย้ายไปตามที่แต่ละคนต้องไป"
อาริง : " เอาละตั๋วรถไฟก็ซื้อกันแล้วนะ เงินพอไหมที่ให้ไปอะสองพี่น้อง "
ลูฟเฟ่น : " พอซะยิ่งกว่าพออีก พวกเราสองคนพี่น้องขอบคุณพี่มากเลยที่ช่วยเหลือทุกอย่าง "
นาฟตี้ : " ใช่ๆ ไว้พวกเราเก่งๆ พี่เรียกใช้ได้เลยนะ ถ้ามีปัญหาอะ "
อาริง : " จ้า ยังไงก็มีกันแค่สองคนพี่น้อง ยังไงก็รักและดูแลกันดีๆนะ "
อาริง : " ส่วนเจ้าฟริกซ์ เอาจดหมายและเหรียญนี้ไปให้หัวหน้าสมาคมแอสซาซินเมย่านะ เมย่าเค้าจะช่วยเหลือในเรื่องสกิลที่เจ้าต้องเรียนใหม่ และสอนเทคนิคต่างๆที่จำเป็นให้ "
ฟริกซ์ : " โหๆๆ ก็บอกแล้วว่าจะเป็นนักฆ่าลอบสังหาร "
อาริง : " ฟริกซ์ จงเชื่อฉันแล้วสักวันเจ้าจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงให้เจ้าเปลี่ยนสายจากมีดไปเป้นดาวกระจายและลูกบอล แต่ถ้าไม่เชื่อก็เอาเงินที่ยมไปคืนมาทั้งต้นทั้งดอก ฮ่าๆๆ"
ฟริกซ์ : " เง้อๆ..ไหนบอกให้ไงละ " (ฟริกซ์รีบเอาถุงเงินซุกไว้ข้างหลัง กลัวโดนเอาคืน)
อาริง : " ถ้าเจ้าเชื่อที่ฉันบอกก็จะถือว่านั่นคือเงินให้ แต่ถ้าไม่เชื่อก็จะถือเป้นเงินยืม "
อาริง : " เอาละรถไฟมาละ ฟริกซ์ไหนๆเจ้าก็ไปทางเดียวกับสองพี่น้องนั้นแล้ว ฝากดูแลและส่งเค้าให้ถึงเซาเทรินฟอร์ทด้วยละ "
นาฟตี้ : " จากกันวันนี้ไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะได้เจอกันอีก มานี่สิเจ้าแผลเพียบมาขอกอดอีกที " (นาฟตี้ก็อุ้มเจ้าแผลเพียบไปฟัดอีกรอบก่อนจาก)
และแล้ว ลูฟเฟ่น นาฟตี้ และฟริกซ์ กขึ้นรถไฟและออกเดินทางไปในเส้นทางของตนเอง ส่วนอาริงก็ขึ้นรถไฟไปเมืองเรดคลิฟเพราะต้องไปทำธุระที่เมืองนั้นต่อ เจ้าแผลเพียบก็ดีใจที่ได้นั่งรถไฟใต้ดินเถื่อน
..........................................................
" 3 วันต่อมา ที่เมืองเรดคลิฟ อาริงทำธุระที่เมืองเรดคลิฟเสร็จ เลยถือโอกาศพักผ่อนในโรงแรมเมืองเรดคลิฟ และพาเจ้าแผลเพียบไปเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดนอกเมืองเรดคลิฟ ซึ่งเจ้าแผลเพียบก็ถือโอกาศหลีหญิงที่เป้นวุ้นเค็มแถวนั้นหลายตัว ซึ่งแห้วกลับมาเกือบทุกครั้ง แต่ก็มีหนึ่งตัวที่สนใจเจ้าแผลเพียบเหมือนกัน และอาริงกับเจ้าแผลเพียบได้เที่ยวพักผ่อนอย่างสบาใจเต็มที่แล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางอีกครั้ง และพออาริงเดินออกมาถึงประตูนอกเมืองก็ได้เจอกับเหตการณ์บางอย่าง"
เจ้าแผลเพียบ : ( เจ้าแผลเพียบเอามือดึงผมอาริงเบาๆเป็นสัญญานว่าจะบอกอะไรบางอย่าง และเจ้าแผลเพียบก็ชี้มือไปทางวุ้นเค็มสาวตัวนั้น)
อาริง : " เข้าใจละ อยากจะไปบอกลาแม่สาววุ้นเค็มตัวนั้นใช่ไหมละ "
เจ้าแผลเพียบ :
อาริง : " ได้สิแต่อย่านานนะ " (อาริงอมยิ้มกับท่าทางเขินๆของเจ้าแผลเพียและอุ้มมันลงมาที่พื้น และเจ้าแผลเพียบก็รีบเดินไปหาแม่สาววุ้นเค็มนั้น)
"อาริงก็ถือโอกาศก้มลงเช็คแผนที่เดินทางและสัมภาระอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง และพออาริงเงยหน้าเพื่อจะมองเจ้าแผลเพียบอีกที กลับกลายเป้นกลุ่มคนประมาณ20คน ที่อาริงไม่ค่อยอยากเจอ และตอนนี้เจ้าแผลเพียบก็ถูกคนในกลุ่มนั้นเหยียบอยู่"
นายกองทหาร : " ไง ไม่เจอกันหลายวันเลยนะ วันนั้นทำได้แสบมากนะนังตัวดี "
อาริง : "พวกแกนี่เอง อย่ามาเหยียบเจ้าแผลเพียบนะ " (อาริงพูดจบและกำลังจะจับดาบใหญ่2เล่มที่ข้างหลัง แต่นายกองทหารก็เอาปากกระบอกปืนยาวมาจ่อหัวเจ้าแผลเพียบ )
นายกองทหาร : " จุ๊ๆๆๆ อย่าชักดาบดีกว่านะนังตัวดี ขืนชักดาบออกมานิดเดียวละก้อ ไอ้วุ้นขี้เหร่นี้พรุนไปทั้งตัวแน่ๆ แหมๆ ชื่อเจ้าแผลเพียบหรือ สมชื่อกับตัวมันจริงๆ น่าจะเพิ่มให้อีกสักแผลสองแผลจริงๆ ฮ่าๆๆ " (นายกองพูดไปและเอาเท้าขยี้เจ้าแผลเพียบ)
อาริง : " แก.. แกต้องการอะไร ถึงได้มาจองเวรกันอีก " (อาริงแยกเขี้ยวใส่ด้วยอารมโกรธ)
นายกองทหาร : " ไม่มีอะไรมาก แค่ว่างๆอยากกระทืบวุ้นเล่นเท่านั้นเอง แต่ถ้าแกสนใจอยากให้วุ้นนี้มันรอด แกนังตัวดี แกต้องยอมทนให้ลูกน้องข้ากระทืบแก 10 นาทีแล้วแกไม่ร้องสักเอะ ถ้าแกทนได้ข้าก้จะปล่อยแกและวุ้นของแกไป " (นายกองทหารพูดจบก็ก้มตัวเอาบุหรี่จี้ไปที่ตัวเจ้าแผลเพียบ ทำให้เจ้าแผลเพียบทำหน้าเจ็บปวด)
อาริง : " ก็ได้ แต่แกต้องรักษาสัญญาจริงๆนะ "
นายกองทหาร : " เป็นทหารพูดแล้วไม่คืนคำ เฮ้ย.. จับอีนังตัวดีนั่งและมัดแขนไขว้หลังไว้ และปลดดาบที่หลังมันด้วยมันจะได้ทำอะไรไมได้" (นายกองพูดจบก็ให้ทหารเอานาฬิกาทรายไปวางไว้ตรงกลางระหว่างอาริงและเจ้าแผลเพียบที่โดนเหยียบอยู่)
นายกองทหาร : " เวลาในนาฬิกาทรายนี้ทั้งหมด 10นาที ถ้าแกทนได้โดยไม่ร้องสักเอะเดียวข้าก็จะปล่อยไป เวลาเริ่มเดินแล้ว เฮ้ยพวกแก 5คนกระทืบมันได้เลย"
นายทหาร 5คน : " ครับท่าน"
" เวลาผ่านไป 2 นาที แต่มันช่างเป้นเวลาที่ช้าและยาวนานสำหรับอาริงและเจ้าแผลเพียบ"
เจ้าแผลเพียบ : (เจ้าแผลเพียบหวนนึกถึงวันแรกที่เจอกับอาริง ที่อาริงถอดเสื้อให้ดูร่างกายที่เป้นแผลเป้นเหมือนกับมัน มันถึงได้ยอมเปิดใจกับอาริงเพราะทั้งสองเป้นพวกชะตากรรมเดียวกัน แต่ตอนนี้ตัวมันเองกลับเป็นต้นเหตให้อาริงมีบาดแผล มันเลยคิดว่า ยังไงถ้ามันจะต้องตายก็ไม่อยากให้อาริงมีแผลอีก มันเลยเอามือแกะใบไม้แปะหัวที่อยู่บนหัวมันออก และเอาด้านที่เป้นเข็มที่ไว้สำหรับติด เอาเข็มนั้นทิ่มลงไปที่ขาของนายกองทหาร จนนายกองทหารสะดุ้งและยกขาขึ้นด้วยความเจ็บจี๊ดๆ และตัวมันเองก็รีบคลานไปหาอาริงอย่างสุดกำลังและน้ำตาไหลอาบสองแก้ง และก็เรียกชื่อ "ริงๆๆๆ")
อาริง : " อย่ามานะเจ้าแผลเพียบ ฉันทนได้" (อาริงตะโกนสั่งเจ้าแผลเพียบ)
นายกองทหาร : " ไอ้วุ้นระยำนี่เอาไว้ไม่ได้แล้ว ยิงมันเลยดีกว่าข้าก็อยากจะยิงมันเต็มทีแล้ว" (พูดจบนายกองทหารก็ยิงปืนไปที่เจ้าแผลเพียบ 6 นัดซ้อน และ 6นั้ดนั้นโดนเจ้าแผลเพียบทุกนัด)
อาริง : " เจ้าแผลเพียบ " (อาริงตะโกนเสียงดังมากพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม)
นายกองทหาร : " ช่วยไมได้มันเสือกทำตัวมันเอง แต่ถึงยังไงแกและมันก็ต้องตายอยู่ดี เพราะข้าไม่ปล่อยพวกแกอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ"
อาริง : " อ๊ากๆๆๆ พวกแก....พวกแก ต้องตายหมดทุกคน " (อาริงตะโกนด้วยเสียงที่ดังด้วยแรงอาฆาต และกระชากเชื่อกที่มัดอยู่ที่มือจนขาด)
นายกองทหาร : " พวกเรายิงมันเลย "
(สิ้นเสียงสั่งกระสุนทุกลูกพุ่งตรงไปยังอาริงที่เป้นเป้าหมาย และอาริงก็รู้เช่นกัน จึงใช้เชือกนั้นรัดที่คอของพลทหาร 5คนที่กระทืบอาริงนั้นเป้นโล่รับกระสุนแทนทั้งหมด พอสิ้นเสียงปืน อาริงก็โยนศพพลทหาร5คนที่มาเป้นโล่รับกระสุนแทนทิ้งไปข้างๆ)
อาริง : " สกิลคลุ้มคลั่ง " (สิ้นเสียงการใช้สกิล รอบๆตัวของอาริงก็มีไอสีดำๆปะทุออกมาทั้งตัวและปกคลุ่มร่างของอาริง และมีแรงกดดันมหาศาลถึงกับเกิดแรงลมกระแทกไปยังกลุ่มนายกองทหาร จนหลายคนเซและล้มไป)
นายกองทหาร : " เฮ้ย..บ้าแล้ว นั้นมันสกิลของเบอร์เซิรกเกอร์นี่น่า ทำไมอีนังตัวดีมันใช้ได้" (นายกองพูดด้วยเสียงที่สั่นกลัวและตกใจ และทหารคนอื่นๆก็เช่นกัน)
อาริง : " ได้เวลาตายของพวกแกแล้ว" (อาริงตะโกนใส่ด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน เขาเล็กๆบนหัวของอาริงที่ตอนแรกมันเล็กมาจนผมปิดมิด แต่ตอนนี้งอกและใหญ่ขึ้นมาเห็นเด่นชัด )
นายกองทหาร : " โชคดีแล้ว มันเป้นพวกลูกครึ่งเผ่าอสุรานี่หว่า พวกเรายิงมันเลย เผ่าหายากแบบนี้คงได้ราคางามไม่ว่าจะเอาไปขายหรือจับไปส่งให้ทางการ " (ความโลภเห้นแก่เงินทำให้นายกองทหารลืมความตายที่กำลังมาเยือนไป)
อาริง : " ชาติชั่ว.." (อาริงตะโกนด่าเสร็จก็ก้มตัวพุ่งไปหยิบดาบใหญ่ 2เล่มที่พื้น และพุ่งตัวไปข้างหน้าหาเหล่ากลุ่มทหาร ดาบใหญ่มือซ้ายอาริงยกไว้บังเหล่ากระสุน และอาริงใช้ดาบมือขวาขว้างไปหากลุ่มทหารนั้น ดาบใหญ่พุ่งด้วยความเร็วเสียบเข้ากลางอกและท้องของทหาร3คน และด้วยความแรงดาบที่มีศพทหาร3คนติดอยู่ก็พุ่งไปปักคากับต้นไม้ต้นใหญ่ และพอถึงระยะฟันดาบมือซ้ายของอาริงก็บั่นหัวทหารไปอีก4คน และก่อนที่ทหารจะยกปืนยิง อาริงก็ตะโกนคำรามด้วยเสียงอันดัง ทำให้ทหารบางคนถึงกับสลบและบางคนปืนหลุดจากมือ และอาริงก็เดินไปถอนดาบที่ปักจากต้นไม้ออกมา โดยเอาเท้ายันศพทั้ง3ที่ติดอยู่กับดาบออก และหันมาทางนายกองทหาร และทหารที่เหลืออีก 5คน)
พลทหาร : " ไม่ไหวแล้วครับท่าน ใครจะไปสู้กับปีศาจแบบนี้ได้ละ"
นายกองทหาร : " พวกแกนั่นละต้องไปสู้ " (นายกองทหารจึงถีบหลังทหาร 5 คนไปข้างหน้าหาอาริง)
อาริง : (ตอนนี้อาริงเดินมาพร้อมด้วยไอดำของสกิลคลุ้มคลั่งรอบๆตัว ฟันทหารที่กลางหัวและกดลงพื้นทำให้ทหารตัวขาดครึ่งซีกไปอีก 2คน ทหารอีก 3คนโดนฟันกลางลำตัวขาดเป้น 2ท่อนเหมือนกัน ตอนนี้เหลือแต่นายกองทหารคนเดียวที่ตอนนั้นขาพับขาอ่อนหมดแรงเพราะความกลัวนั่งอยู่ที่พื้น และอาริงก็เดินมาหยุดตรงหน้านายกองทหารแล้ว และยังไม่ทันที่นายกองทหารจะได้ทันพูดอะไรเพียงแค่อ้าปากจะพูด อาริงก็เอาดาบใหญ่ในมือขวาเสียบเข้าไปในปากจนปลายดาบทะลุปักไปยังพื้นดินและดาบใหญ่มือซ้ายก็เสียบเข้าไปที่อกจนปลายดาบทะลุอกถึงหลังจนปลายดาบปักถึงพื้นดิน นายกองก็ทำได้แค่ดิ้นทุรนทุรายไม่เท่าไรก็สิ้นใจตายคาดาบใหญ่ ทั้ง 2เล่ม และอาริงก็ดึงดาบใหญ่ออกมาและเหน็บไว้ที่หลังดาบเดิมซึ่งตอนนี้อาริงได้หยุดอาการสกิลคลุ้มคลั่งและเขาที่งอกยาวก็กลับมาเล็กลงและผมมาปิดไว้เหมือนเดิมและเดินกลับไปหาเจ้าแผลเพียบที่นอนตายอยู่ที่พื้น)
อาริง : " เจ้าแผลเพียบ ทำไมแกถึงทิ้งฉันไว้ให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว" (อาริงร้องไห้และซบหน้าลงบนตัวเจ้าแผลเพียบอยู่นาน จนคนในเมืองออกมาดูเหตการณ์หลายคนแล้ว และมีเสียงหวีดร้องตามมาเพราะภาพที่ชาวเมืองเห้นตอนนี้คือภาพของเหล่าศพทหาร15-20ศพ)
อาริง : " เราไปกันเถอะเจ้าแผลเพียบ กลับไปยังที่ๆเรามา"(อาริงเดินอุ้มศพเจ้าแผลเพียบและหายไปด้วยความไวและเดินเข้าไปในป่าที่เป้นทางมุ่งหน้าไปเมืองเซาเทรินไซร์)
" 10 ชั่วโมงผ่านไป ชายป่าแถวเมืองเซาเทรินไซร์ในยามมึด อาริงก็อุ้มเจ้าแผลเพียบมาฝังไว้ใต้ต้นไม้ ต้นเดียวกันกับที่ได้นอนกอดเจ้าแผลเพียบในคืนแรกที่เจอกันและอาริงก็เอาใบไม้แปะหัวของเจ้าแผลเพียบมาติดที่หัวของตนเองแทน และอาริงก็นอนร้องไห้คร่ำครวญทั้งคืนและนอนกอดหลุมศพเจ้าแผลเพียบและอาริงก็ร้องไห้ทั้งคืนจนน้ำตาไหลเป็นสายเลือด ช่างเป้นคืนที่โหดร้ายและยาวนานของผู้หญิงคนนึงที่ความตายมาพรากชิวิตอันเป้นที่รักไป ...................."