บทที่ 11. หิมะสีแดงที่วิลโดเนีย ตอน2
เวลาตอนนี้ ตี2 2ชั่วโมงหลังจากพักรบครั้งแรก เหล่าวิสาทก็ยังผลัดกันลงเวทย์ไฟ
เพลิงอัสนีบาตที่หน้าประตูเมือง เพื่อกันไม่ให้มอนสเตอร์ออกมากัน และเหล่าผู้นำกลุ่มแต่ละคนก็มานั่งล้อมวงประชุมกัน
ฟริกซ์ : " พวกท่านว่ามันแปลกๆไหมตอนนี้ เหมือนพวกมันกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง"
ลูคัส : " ถ้าคิดในแง่ร้ายสุดๆ พวกมันคงรอนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ แต่ไม่น่าจะเป้นไปได้ เพราะนางเป็นเทพพิทักษ์ประจำเมืองของวิลโดเนี่ยนะ"
ไซเฟอร์ : " แต่ตอนนี้อะไรๆก็เป้นไปได้หมดแล้วละ ตัวอย่างก็มีให้เห้นว่าทำไมมอนสเตอร์พวกนี้ถึงคลุ้มคลั่งและออกมาอาลวาดได้ นั่นก็แสดงว่าแท่นเสาหินต้นนั้นมีพลังที่ควบคุมจิตใจเหล่ามอนสเตอร์ ทำให้เกิดอาการบ้าคลั่งและคุมสติไม่ได้ และถ้าคิดในแง่ร้ายจริงๆเหมือนที่ลูคัสบอก ที่น่ากลัวและอันตรายที่สุดก็นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ นั่นละ"
ลูคัส : " ตอนนี้เราน่าจะบุกยึดเข้าไปในเมืองได้แล้วนะ เท่าที่ดูมอนสเตอร์ในเมืองเหลือไม่กี่ร้อย พอที่เราจะบุกยึดได้แล้ว"
ฟริกซ์ : " มันก้จริงนะ แต่ข้าคิดไปอีกทางว่า ถ้าเราบุกยึดเข้าไปในเมืองได้แล้ว และถ้ากลายเป้นว่าพวกเราโดนปิดล้อมและโดนขังในเมืองซะเองละ มันจะเกิดอะไรขึ้นที่กว้างๆโล่งๆ นอกเมืองยังมีประโยชน์ต่อพวกเรามากกว่าในเมืองที่เกะกะไปด้วยบ้านและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ และอีกอย่างแผนบุกเมืองฉันก็มีคิดไว้ เช่นให้แอสสายปาดาวกระจาย วิสาทยิงเวทย์ลงมา และให้ชาร์ปซูตเตอร์และทหารปีนขึ้นไปที่กำแพงและไต่ขึ้นหลังคา และระดมยิงจากบนนั้นก็ทำได้โดยที่เราไม่เสียไพร่พล แต่ความเป้นจริงแล้วกระสุนและลูกธนูเราใกล้จะหมดเต็มที่แล้ว ฉันเลยคิดว่าเราน่าจะรอกองหนุนจากเมืองเซาเทรินฟอร์ทมาถึงก่อน ตอนนั้นละเราถึงมีคนและอาวุธครบมือจริงๆ"
เรน่า : " ความคิดเจ้าฟริกซ์มันก็ถูกอยู่นะ ขืนดันทุรังยึดเมืองตอนนี้ ก็เท่ากับว่ายึดเมืองเสียเวลาเปล่า ถ้านางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ ออกมาจริงๆและดันออกมาเป้นศัตรูกับพวกเรา"
ฟริกซ์ : " แต่ว่าพวกท่านรู้สึกไหมว่า ตอนนี้อากาศมันหนาวเย็นเกินไปไหม รู้นะว่าเป้นเมืองหิมะ แต่ฉันก็ว่าชินกับสภาพนี้แล้วนะ แต่ทำไมตอนนี้มันเริ่มเย็นและหนาวจับขั้วหัวใจแบบนี้ "
ลูคัส : " ข้าก้นึกว่าข้ารู้สึกคนเดียวเหมือนกัน เจ้าก็เป้นหรือเจ้าฟริกซ์"(ทุกคนต่างมองหน้ากัน และในจิตสำนึกนั้นก็เกิดความที่คิดที่เลวร้ายสุดๆขึ้นมา และต่างคนก้ต่างมองหน้ากัน และหันไปที่เมืองวิลโดเนีย)
ฟริกซ์ : " ทหารลาดตะเวน แอสซาซิน ที่สังเกตการณ์ในเมืองเป้นยังบ้าง "
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่สิ่งที่กลับมาคือ ร่างของแอสซาซินและทหารที่แอบสุ่มดูสถานการณ์ตามกำแพงและหลังคา ปลิวตกลงมายังกลุ่มของฟริกซ์ ร่างนั้นมีสีหน้าตกใจและหวาดกลัวและถูกแช่แข็งไปทั้งตัว และยังไม่ทันที่ทุกคนจะหายตกใจ ก็มีแท่งผลึกน้ำแข็งพุ่งออกมาจากในเมืองออกมาจากทางประตูหน้า ที่ตอนนี้ไฟจากเพลิงอัสนีบาตค่อยหายไปจากไอเย็นที่เย็นมากมาปกคลุมและบินข้ามกำแพงมาจำนวนมาก
ไซเฟอร์ : " ทุกคนหาที่กำบังเร็ว พวกเราโดนโจมตีแล้ว"
พาราดินที่มีโล่ก้รีบยกโล่มาบังแท่งผลึกน้ำแข็งนั้นไว้ และอีกหลายคนที่หลบตามต้นไม้ และมีคนอีกจำนวนมากที่ตายเพราะแท่งผลึกน้ำแข็งนั้นเพราะหลบไม่ทัน และวิสาทที่ร่ายเวทย์ไฟอยู่ 3คนแถวบริเวณหน้าประตู ก็ตายเช่นกันเพราะโดนแท่งผลึกน้ำแข็งพุ่งมาทางประตูหน้าแบบไม่ทันมอง การโจมตีที่ไม่ตั้งตัวนี้ทำให้กองกำลังของพวกฟริกซ์สาหัสทีเดียวเพราะการโจมตีนี้เป้นแท่งผลึกน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งมาเหมือนสายฝนไม่มีผิดทั้งเยอะและยาวนาวเกือบ 5นาทีทำให้มีคนตายเป้นร้อยคนเพราะตั้งรับไม่ทัน จนทุ่งหิมะหน้าเมืองกลายสภาพเป้นทุ่งแท่งผลึกน้ำแข็ง และสิ่งที่พวกไซเฟอร์กลัวที่สุดก็ปรากฎกายออกมายังหน้าประตูเมือง
นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่เป้นเทพผู้พิทักษ์รักษาเมืองวิลโดเนี่ย ซึ่งต้องใช้ร่างผู้หญิงสาวบริสุทธิ์เข้าไปในถ้ำน้ำแข็งเพื่อที่จะได้รับพลังวิญญาณมาสถิตย์ในร่างตนและเป้นนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ เพื่อคอยปกปักษ์รักษาเมืองและชาวเมืองมาตลอดจากรุ่นสู่รุ่น แต่จากเหตการณ์นี้นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ที่ถูกพลังชั่วร้ายของแท่นเสาหินดำต้นนั้นควบคุม เธอก็ไม่ใช่เทพพิทักษ์เมืองนี้อีกต่อไปแล้ว และพร้อมที่จะสังหารทุกคนที่ย่างกายเข้ามาในเมืองและอนาบริเวณรอบๆเมือง
ฟริกซ์ : " ซวยของจริงแล้วละ นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ เธอไม่ใช่เทพพิทักษ์แล้ว "
ลูคัส : " ที่ซวยกว่านั้น เราจะยันได้ถึงเช้าจนกองหนุนมาไหมเนี่ย ขนาดแค่มอนสเตอร์ธรรมดายังต้องคิดหนักเลยว่าจะยันถึงเช้าไหม แต่นี่เป้นถึงระดับเทพพิทักษ์ประจำเมืองเลย และที่สำคัญถ้าเจ้าเรนาร์ดรู้ว่าเธอคนนั้นเป้นแบบนี้จะรู้สึกอย่าไงไร
ฟริกซ์ : " เธอที่ว่าคือนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ นะหรือ แล้วมันเกี่ยวกับเรนาร์ดยังไง"
ลูคัส : " มันเป้นเรื่องน่าเศร้าของเรนาร์ดมันนะ ไว้ถ้ารอดชีวิตไปได้ก็ไปถามมันเองละกัน เข้าไม่อยากเล่า"(ลูคัสพูดจบก็ชี้ให้ฟริกซ์ดู ก็เห็นนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ เสกอัญเชิญอัศวินน้ำแข็งประมาณ 20 ตัวมาและเสกผู้รับใช้และผู้เฝ้ามองแห่งนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ประมาณ300ตัว มายืนข้างหน้าเธอเพื่อเตรียมตัวบุก ระยะห่างจากกองทัพน้ำแข็งกับพวกฟริกซ์ประมาณ 30-40เมตร)
ไซเฟอร์ : " เตรียมพร้อมรบ " (ไซเฟอร์ออกคำสั่ง และมองไปยังนักรบที่รอดชีวิตเหลือแค่ประมาณไม่ถึง200คน ในใจคิดว่าคงต้องมาตายที่นี่กันหมดแน่นอน)
นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ : " ฆ่าพวกมันให้หมด จงเอาเลือดพวกมันมาล้างเลือดของพวกมอนสเตอร์ที่ตายไปก่อนหน้านี้"(สิ้นเสียงนางพญาน้ำแข็ง มอนสเตอร์ทั้งหมดก็บุกเข้ามา เว้นแต่นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ที่ยืนดูที่หน้าประตูเมือง และเหลืออีก 20เมตร ก่อนที่มอนสเตอร์เหล่านั้นจะถึงเหล่านักรบที่เหลือรอด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังพวกเค้า)
นาฟตี้ : "
แสงอัสนีบาต " (เวทย์สายฟ้ากระหน่ำลงมาที่เหล่ามอนสเตอร์น้ำแข็งในกลุ่มแรกที่กำลังวิ่งมาถึงพวกนักรบ) "
วายุคลั่ง" (และจบด้วยเวทย์สายฟ้าขนาดใหญ่อีกหนึงชุดและยังมีเหล่าจอมเวทย์วิสาทอีกเกือบ 10คนที่ร่ายเวทย์สายฟ้าสมทบลงไปอีก พวกนักรบที่เห็นมอนสเตอร์จำนวนมากโดนสายฟ้าเล่นงานก็ถึงกับไชโยโห่ร้องขึ้นมา เพราะกองหนุนบางส่วนได้มาถึงแล้ว)
ภาพที่พวกฟริกซ์เห้น คือนาฟตี้ อาเวีย กับพวกวิสาท 10คนและนักรบอีกประมาณ 200คน ได้ขี่เจ้าหมาป่าบลาววูฟมา จึงทำให้กองหนุนบางส่วนมาถึงก่อนกำหนดเวลามาก และทันเวลาที่พวกเค้ามาช่วยเหลือได้ทัน
อาเวีย : " ไงเจ้าฟริกซ์ยังอยู่จริงๆด้วย ข้าคงไม่มาช้าไปนะ อุตสาห์ขี่เจ้าพวกหมาป่าบลาววูฟมาเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ "
ฟริกซ์ : " ก็เกือบไปแล้วละ ถ้ามาช้าอีก10นาที แกคงเห้นศพพวกข้านอนจมกองเลือดแถวนี้กันแล้วละ"
นาฟตี้ : " พี่ฟริกซ์ " (นาฟตี้รีบวิ่งมากอดฟริกซ์ทันทีพร้อมด้วยน้ำตาที่ดีใจที่เห็นฟริกซ์ยังไม่ตาย)
ฟริกซ์ : " เบาๆๆ รู้แล้วว่าเป็นห่วง แต่พี่จะตายเพราะเธอนี่ละกอดรัดซะกระดูกแทบหัก แล้วนี้นึกไงถึงได้ขี่เจ้าพวกหมาป่าบลาวูฟมาละ มันเป้นหมาป่าพันธดุร้ายที่สุดนะ "
นาฟตี้ : " พอดีไปเจอพี่สาวคนนั้นกลางทางกำลังจะมุ่งหน้ามาทางนี้เหมือนกันและเค้าบอกว่าให้ขี่เจ้าพวกนี้มา เพราะถ้าเดินหรือวิ่งจะไม่ทันการ เพราะเค้าบอกว่าสังหรใจบางอย่าง" (นาฟตี้ชี้ไปทางยูนะ ที่ตอนนี้เอาเนื้อมาแจกจ่ายให้กับเหล่าหมาป่าบลาววูฟเป็นค่าตอบแทนที่ให้นั่งมา)
ฟริกซ์ : " ยูนะ นักล่าอันดับ1เนี่ยนะ แล้วเค้ามาทำไมที่นี่ละ ไม่ได้อยู่ที่เมืองอื่นทำภาระกิจหรือ"
อาเวีย : " ข้าก็ไม่รู้นะ เพราะท่านเซอร์อเล็กซ์ก็ไม่ได้พูดถึงว่ายูนะจะมา ข้าก็เพิ่งเจอยูนะกลางทางนี่ละ เค้าก็ขี่เจ้าปลาววูฟมาและมาเจอพวกเรากลางทาง เค้าเลยไปพูดเจรจากับจ่าฝูงบลาววูฟที่เค้าขี่มา และจ่าฝูงหมาป่าบลาววูฟมันก็หอนร้องเรียกพวกมา แค่ 5 นาทีก็มีหมาป่า 200ตัว มาให้พวกเราขี่กันมานี่ละ"
ลูคัส : " อ้าวเฮ้อ พวกแกจะคุยกันอีกนานไหม มารบนะโว๊ยไม่ใช่มาคุย " (ลูคัสตะโกนสั่ง จนทำเอาคนที่กำลังคุยกันสะดุ้งโหยง และต้องรีบกลับตัวไปรบ)
ไซเฟอร์ : " แล้วลูกกระสุนกับธนูละ พวกเจ้าเอามาไหม "
อาเวีย : " มันหนักมาก บลาววูฟมันแบกมาไม่ไหว ข้าเลยเอามาแค่บางส่วน เพื่อเอามาใช้ก่อน อีกไม่นานกองหนุนที่เหลือก้มาถึงแล้วละ เพราะพวกนั้นวิ่งตามมา"
ไซเฟอร์ : " ก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้เอามาเลย รีบๆเอาไปแจกจ่ายซะ"
สถานการณ์พลิกกลับ เมื่อพวกนาฟตี้มาทัน ถึงจะมาแค่200คนก่อน แต่เพราะมีวิสาทสายเวทย์สายฟ้าหลายคนเลยทำให้กำจัดพวกมอนสเตอร์ธาตน้ำได้ง่ายมากขึ้น และไม่นานมอนสเตอร์ที่บุกมาก็ตายหมด เหลือแต่อัศวินน้ำแข็งที่นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ เสกอัญเชิญมาอีก200-300 ตัว ซึ่งนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่สั่งให้บุก และตัวนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่เองก็ปล่อยพายุแท่งผลึกน้ำแข็งใส่พวกนักรบอีก แต่คราวนี้พวกนักรบตั้งรับทัน ทหารและชาร์ป บางส่วนก็ยิงกระสุนและธนูสกัดผลึกน้ำแข็งนั้นไว้ และผลึกที่เล็ดลอดตกลงมาพวกแอสก็ใช้บอลสายฟ้าปาไปที่ผลึกน้ำนั้นทำให้ เหล่าผลึกน้ำแข็งนั้นแตกกระจาย และผลึกที่เหลือพาราดินก็ช่วยกันเอาโล่รับไว้ได้ ถึงแม้จะมีคนที่หลบไม่ได้และตายก้หลายสิบคน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนพายุผลึกน้ำแข็งแล้วเท่ากับว่าเสียกำลังพลน้อยมากๆ
ส่วนอัศวินน้ำแข็ง ก็เข้าปะทะกับพาราดิน เบรดมาสเตอร์ เบอร์เซอร์เกอร์ และแอสซาซิน แม้พวกนักรบจำนวนจะน้อยกว่าอยู่ครึ่ง แต่เหล่านักรบนั้นชาญศึกมากกว่า จึงค่อยๆล้มอัศวินน้ำแข็งได้ทีละตัวๆจนเกือบจะหมด นางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ ก็เสกอัศวินน้ำแข็งออกมาอีก200-300ร้อยตัว และเสกผู้รับใช้และผู้เฝ้ามองแห่งนางพญาน้ำแข็งไอซ์ซี่ออกมาอีกเกือบ500ตัว เสกหมีขาวโพลี่เบร์ประมาณ300ตัว และเสกหมาน้ำแข็งวินโดเนี่ยฮัสกี้เกือบ 500ตัวซึ่งน่าจะเป้นทัพใหญ่แล้ว ซึ่งพอดีกับกองหนุนอีก 800คนมาถึงพอดี จึงเกิดการปะทะกันครั้งใหญ่ขึ้น เลือดแดงฉานไปทั้งหน้าเมืองหิมะไม่ว่าจะเป้นเลือดมอนสเตอร์และเลือดของเหล่านักรบสงครามที่เมืองวิลโดเนี่ยใกล้ถึงจุดแตกหักแล้ว .........................