กำเนิด Taenon
ประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติบน "เทน่อน(Taenon)" เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนเมื่อเหล่าชาว "เทอร์เรี่ยน(Terrian)" ผู้พเนจรเร่ร่อนจากแดนสวรรค์ "เทอร์ร่า(Terra)" มาตุภูมิที่สูญสลายนั่งเรือที่
ใช้ข้ามทะเลแห่งดวงดาวมาถึงดินแดน แห่งพันธะสัญญานี้
ชาวเทอร์เรี่ยน สร้างอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในอดีตกาลไว้มากมายเช่น
หอคอยฟรอเซนการ์ต(FrozenGart)สิ่งประดิษฐ์
ขนาดยักษ์ที่สันนิษฐานว่ามีหน้าที่ควบคุมสภาพแวดล้อมทุกอย่างของเทน่อน
ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข และรุ่งเรือง ของอารยธรรมกินเวลายาวนานหลายร้อยปี จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำลายล้างอารยธรรม
ดั้งเดิม ของชาวเทอร์ เรี่ยนไปจนเกือบหมดสิ้น และนำพา เทน่อนเข้าสู่ยุคมืดยุคมืดแห่งการล่มสลายกินเวลายาวนานนับร้อยปี
จนกระทั่ง เหล่าผู้กอบกู้ทั้ง 12 คนได้ปรากฏตัวขึ้นพวกเขาได้ค้นคว้าและหาวิธีดึงพลังจากสิ่งเรียกว่า
มาน่า(Mana) ละอองของ อนุภาคเล็กๆที่ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้ง
บรรยากาศของเทน่อน และมีต้นกำเนิดมาจากต้นไม้ยักษ์ ไทรอา(Saia)มาน่าเป็น
พลังมหัศจรรย์เพียง สิ่งเดียว ที่ใช้กอบกู้อารยธรรมของเทน่อน
ณ ยุคสมัยแห่งมาน่า
เทน่อนก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของการพัฒนา เทคโนโลยี
ศิลปะ และวัฒนธรรม พวกเขาชี้นำให้ชาวเทอร์เรี่ยนที่เหลือรอดทุกคนลืมอดีตอันน่าเศร้าเกี่ยวกับเทอร์ร่าไปซะ
และใช้ชีวิต ใหม่อีกครั้งในฐานะ "ชาวเทเนี่ยน(Taenian)" ผู้ถูกเลือกให้อยู่
ณ แดนแห่งพันธะสัญญานี้ ประชากรรุ่นใหม่ ชาวเทเนี่ยน ต่างก็มีความสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงมาน่าและสัมผัสถึงมัน
คนบางกลุ่มก็มีความสามารถในระดับสูงที่จะใช้ พลังจากมาน่า ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นมาได้
ในตอนนั้นเอง เทน่อนได้เข้าสุ่ยุคทองของมันอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ทั้ง
12 คน ยังได้ก่อตั้ง ศูนย์กลางสภาปกครอง
ขึ้นเพื่อใช้ในการออกกฎควบคุมและดูแลความสงบเรียบร้อย การพัฒนาทางสังคม
รวมไปถึงควบคุมการดึงมาน่ามาใช้ให้เป็นในทิศทางที่ทางสภาต้องการ
โดยมีนโยบายในการจัด แบ่งลำดับชั้นของผู้คนในสังคมมีแต่ผู้ที่เข้าถึงพลังมาน่า
ได้เท่านั้นถึงจะมีสิทธิในการปกครอง ในขณะที่ ผู้ที่ไม่อาจเข้าถึง
ได้ต้องทำงานในระดับที่ต่ำชั้นกว่าลงไป ซึ่งท่ามกลางเหล่าชาวเทเนี่ยนผู้ใช้พลังมาน่าได้นั้น
ได้ถือกำเนิด คนกลุ่มหนึ่งที่ไร้ ซึ่งพลัง พวกเขาเป็น เสมือนชนกลุ่มน้อยในสังคมที่ไร้สิทธิไร้เสียง
เพื่อชดเชยในจุดด้อยของพวกเขา คนกลุ่มน้อยเหล่า นี้ได้ เริ่มศึกษาเศษซากความรู้ศาสตร์โบราณที่สาบสูญของบรรพบุรุษชาวเทอร์เรี่ยน
และนำมันมาใช้ ศาสตร์ลึกลับที่ทำให้สิ่งไร้ ชีวิตนั้นเคลื่อนไหว
ด้วยพลังใหม่..พวกเขาเรียกตัวเองว่า นักเล่นแร่แปรธาตุ(Alchemist)
นักเล่นแร่แปรธาตุเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางเงามืดของสังคมอันรุ่งเรืองของเทน่อนเหล่าผู้คนที่ไม่สามารถ
ใช้พลังมาน่าได้ หรือเหล่าผู้มีพลังมาน่าเล็กน้อยแต่อยากแสวงหาซึ่งอำนาจต่างหลงใหลและศึกษาในศาสตร์โบราณนี้
ท้ายที่สุดจุดแตกหักก็มาถึงเมื่อ
ศูนย์กลางสภาปกครอง เล็งเห็นว่าเหล่านักเล่นแร่แปรธาตุนั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงระบอบ
การปกครองของเทน่อน ศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุกลายเป็นศาสตร์ต้องห้ามที่ผิดกฎหมาย
และต้องถูกกวาดล้าง เหล่า นักเล่นแร่แปรธาตุจำนวนไม่น้อยถูกจับ
บ้างก็ถูกประหารหรือถูกฆ่าเพราะขัดขืน ท่ามกลางความสับสนอลหม่านเหล่านัก
เล่นแร่แปรธาตุต้องหนีตาย พวกเขาเลือกที่มั่นใหม่อยู่กลางทะเลทรายอันแสนเวิ้งว้างของเทน่อน
สร้างป้อมปราการ บาเบล(Babel) ขึ้นจากความรู้ที่พวกเขามี
และประดิษฐ์สุดยอดทหารของพวกเขาเพื่อใช้ในการทำสงคราม
โฮมุนคิวลัส
Homunculus สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากสุดยอดของวิชาการเล่นแร่แปรธาตุได้ถือกำเนิดขึ้นมาและกลายเป็นกอง
กำลังหลักที่ใช้ต่อต้านกับกองกำลังของ ศูนย์กลางสภาปกครอง
สงครามได้ปะทุขึ้นแทบทุกพื้นที่ของเทน่อน กินเวลานานเกือบ 1 ร้อยปี ที่การสู้รบอันแสนโหดเหี้ยมได้ดำเนินเรื่อยไปและ
ณ ช่วงปลายของ หนึ่งร้อยปีแห่งสงครามนี้เอง มีเรื่องราวของทหารแห่งศูนย์กลางสภาการปกครอง
หน่วยหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วย
"เรเซล(Rayzel)" ยอดทหารผู้เจนศึก
มีความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย มาพร้อมกับจรวดคู่ใจของเขา
"ซาร่าห์(Sarah)" Ranger
สาวผู้คล่องแคล่ว สามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนในสนามรบได้อย่างว่องไว
"ลิลลี่(Lilly)" จอมเวทย์เพียงหนึ่งเดียวในหน่วยนี้
เธอเป็นคนที่มีพลังทำลายรุนแรงที่สุด
ทั้งสาม ได้ร่วมมือกันต่อสู้ในปฏิบัติการครั้งสุดท้ายของ
หน่วย ซึ่งปฏิบัติการนั้นมีชื่อว่า "สายฟ้าฟาดแห่งบาเบล" เพื่อช่วยเหลือ
เหล่าสหายร่วมรบที่ถูกศัตรูจับตัวไป ล้างสมอง ให้ทันเวลา ก่อนที่ศูนย์กลางสภาปกครองจะมีคำสั่งยกพลครั้งสุดท้ายเพื่อทำ
สงครามตัดสินขั้นเด็ดขาดกับ เหล่านักเล่นแร่แปรธาตุ และปิดฉากสงครามอันบ้าคลั่งหนึ่งร้อยปีนี้ในท้ายที่สุด