♥A..bees♥Venus15
Full Member
กระทู้: 516
<M.my> Smind Ly
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #105 เมื่อ: 23-04-2011, 06:57:39 » |
|
|
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #106 เมื่อ: 23-04-2011, 07:35:54 » |
|
เรื่องหยอง ๆ ชอบอ่านเหรอ สาวสวย
|
|
|
|
*.(xX Live For You Xx).*
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #107 เมื่อ: 23-04-2011, 07:37:59 » |
|
|
~
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #108 เมื่อ: 23-04-2011, 07:40:06 » |
|
มันคือเรื่องจิง จิงดิ ถ้าไปเที่ยว เหนื่อ เค้าว่าต้องไป ถ้าไม่ไปลัดดาแลนด์ เค้าว่าไปไม่ถึงเชียงไหม่ ว้ายหยอง
|
|
|
|
._Olviis_. PK ♥ "
Full Member
กระทู้: 772
ผู้หญิงนิสัยไม่ดี.
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #109 เมื่อ: 23-04-2011, 07:40:30 » |
|
หน่ากลัว
|
゙ความทรงจำ จะอยู่ในสมองตลอดไป. ゙พูดในใจ อยากลืมแต่ไม่อาจจะลืมเธอ. ゙แม้เทอจะเกลียดฉัน แต่ฉันไม่เคยเกลียดเทอ.
|
|
|
AlenNa-แนน
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #110 เมื่อ: 23-04-2011, 07:42:01 » |
|
ป๋ากินเด็ก
|
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #111 เมื่อ: 23-04-2011, 07:45:30 » |
|
เรื่องหยอง ๆ ทำไมชอบอ่านกันนะ ผมก็ชอบ อ่านแต่ไม่ค่อยชอบดูรูป มันติดตา
|
|
|
|
DIW
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #112 เมื่อ: 23-04-2011, 07:48:18 » |
|
เรื่องสยองอ่านสนุกกว่า
|
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #113 เมื่อ: 23-04-2011, 07:49:29 » |
|
เรื่องสยองอ่านสนุกกว่า
อ่านแล้วจินตนาการตาม อิอิอิอิ หยอง สุด ๆ
|
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #114 เมื่อ: 23-04-2011, 08:29:01 » |
|
"ศศิพงศ์"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปฟังสวดศพ
ป้าเพลินเป็นหญิงชราอายุ 70 เศษ อยู่บ้านใกล้ๆ กับดิฉันที่หน้า ม.เกษตร นี่เองค่ะ แกเป็นย่าเป็นยายคนเกือบทั้งซอยก็ว่าได้ แต่ป้าเพลินเป็นเพื่อนกับแม่ของดิฉันมาตั้งแต่รุ่นสาว ตอนนั้นดิฉันยังตัวกะเปี๊ยกจนเดี๋ยวนี้เกือบจะถึงหลักสี่อยู่รอมร่อแล้ว
ครอบครัวเราสนิทกันเหมือนญาติ นอกจากการไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ก็ยังมีการไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันและกัน ใครทำอาหารดีๆ ก็ตักไว้ให้กันเป็นประจำ...ป้าเพลินชอบออกมาเดินเล่นในซอยแทบทุกเย็น บอกว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด
แต่คนเราก็หนีกฎธรรมชาติไม่พ้น ไม่ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย!
แม่ของดิฉันล่วงลับไปเมื่อเกือบ 3 ปีมาแล้วด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ป้าเพลินเสียน้ำตาให้เห็นเป็นครั้งแรก ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยงานศพเต็มที่ บอกดิฉันว่า...คนรุ่นป้าพากันล่วงหน้าไปหมดแล้ว เหลือแต่ป้าคนเดียว ไม่รู้ว่าจะถึงเวลาเมื่อไหร่? แต่คงอีกไม่นานหรอก...
ตั้งแต่นั้นมา ป้าเพลินก็ดูอิดโรยอ่อนล้า เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา คิดๆ แล้วก็ใจหาย เมื่อนึกว่าชีวิตคนเรานับวันแต่จะโรยรา แก่ตัวก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ความเจ็บป่วยดาหน้าเข้ามาหา บั่นทอนสุขภาพลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันนั้น...
ร่างเล็กๆ ของป้าเพลินออกมาเดินในซอยหน้าบ้านไม่ไหวอีกแล้ว นอกจากจะจับเจ่าอยู่ในบ้าน ในที่สุดก็ต้องนอนแซ่วอยู่บนเตียง นัยน์ตาสีน้ำข้าวฉายแววเจ็บปวดร้าวรานเหมือนนักโทษในกรงขังของร่างกายตัวเอง!
ดิฉันใจหายทุกครั้งที่ไปเยี่ยมป้าเพลิน กุมมือเหี่ยวย่นและเย็นชืดนั้นไว้อย่างปลอบประโลม ไม่อยากพูดปดเพื่อปลอบใจว่าคุณป้าจะหายเร็วๆ นี้...รู้ดีว่าจะไม่มีวันนั้นแน่นอน
"ป้าอยากจะออกไปเดินในซอย ขอแค่ไปยืนที่หน้าบ้านก็ยังดี!"
เสียงแหบเครือกับแววตาสิ้นหวัง น้ำใสๆ รื้นเต็มเบ้าตา บ่งบอกว่านั่นเป็นความวาดหวังที่สูงส่งเกินไปจนสวรรค์ไม่มีจะให้...กระทั่งวันสุดท้ายมาถึง เมื่อป้าเพลินนอนหลับไปตลอดกาลนานในโลกมนุษย์...
คืนแรกที่สวดศพในวัดนั่นเอง ป้าเพลินก็กลับมา!
เพื่อนบ้านพากันไปฟังสวดอภิธรรมคับคั่ง รูปถ่ายของป้าเพลินสมัยสาวๆ ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าโลงศพสีทอง...คุณน้าผ่องศรีนั่งพนมมือฟังพระสวดเสียงเยือกเย็นอยู่ดีๆ ก็เอียงหน้าเข้ามากระซิบดิฉันว่า...ป้าเพลินยิ้มให้น้าด้วยละ
คนเราตาฝาดกันได้นะคะ โดยเฉพาะในแสงไฟท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็น ชวนให้วังเวงใจ คุณน้าผ่องศรีก็ใกล้จะ 70 อยู่แล้ว...แต่ตอนขากลับที่เราลงจากรถตู้ของคุณลุงจำนงในซอย แยกย้ายกันเข้าบ้าน สามีภรรยารุ่นพี่คู่หนึ่งก็ร้องวี้ดว้ายมากระทบหูจนพวกเราวิ่งไปดู
หน้าตาซีดเซียว ปากคอสั่นทั้งคู่ ก่อนจะรวบรวมสติเล่าให้ฟังด้วยเสียงกระหืดกระหอบแทบฟังไม่รู้เรื่อง
ปรากฏว่าเดินมาจะถึงบ้านอยู่แล้ว เห็นร่างเล็กๆ ผอมๆ ของหญิงชราที่คุ้นตาเดินนำหน้า ท่าทางลอยๆ ชอบกลเหมือนเท้าไม่แตะพื้น พอสะกิดกันดูก็พอดีหญิงชราผู้นั้นหันมามองยิ้มๆ...ป้าเพลินเองค่ะ!
"คงจะตาฝาดไปเองน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก..."
ดิฉันปลอบ...แต่ทันใดนั้นก็มีกลิ่นน้ำอบไทยอวลกรุ่นมาเข้าจมูก กลิ่นน้ำอบที่รดน้ำศพป้าเพลินเมื่อตอนเย็นนี้เอง! เล่นเอาเหลียวซ้ายแลขวากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะรีบกลับบ้านใครบ้านมันทันที
ยอมรับว่าดิฉันใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น สับสนงุนงงอย่างบอกไม่ถูก...วิญญาณมีจริงหรือนี่? วิญญาณป้าเพลินเฮี้ยนถึงปานนี้เชียวหรือ?
วิญญาณที่ใฝ่ฝันก่อนตายอย่างรุนแรงที่จะได้ลุกจากเตียง เพื่อออกมาเดินเล่นในซอยอย่างที่เคยทำมาชั่วชีวิต...จนกระทั่งวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ได้รับอิสรเสรีตามเดิม!
ก้าวเข้าไปในบ้านที่ค่อนข้างเงียบเชียบ...กลิ่นน้ำอบไทยเย็นๆ ล่องลอยมาเข้าจมูกอีกแล้ว ดิฉันขนลุกซ่า เหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวง จนสายตาประสบกับภาพถ่ายขนาดใหญ่บนหลังตู้หนังสือ...ภาพของป้าเพลินกำลังยิ้มระรื่นเคียงคู่กับแม่ดิฉันที่ชายหาดแห่งหนึ่ง
คุณพระช่วย! รอยยิ้มของป้าเพลินกว้างขวางขึ้นทุกที ดิฉันพร่ามึนจนเดินเข้าไปหาเหมือนถูกสะกด ก่อนจะหยุดเงยหน้ามองดูรอยยิ้มกับนัยน์ตาเศร้าๆ ของป้าเพลินที่มองตอบมา...น้ำตาเอ่อคลอก่อนจะไหลรินลงมาอย่างเชื่องช้า
ดิฉันขนลุกซ่า กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น...ขอให้ไปสู่สุคติเถอะค่ะ ป้าเพลิน!
เครดิต บาย คุน ศศิพง
|
|
|
|
*.(xX Live For You Xx).*
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #115 เมื่อ: 23-04-2011, 08:30:29 » |
|
"ศศิพงศ์"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปฟังสวดศพ
ป้าเพลินเป็นหญิงชราอายุ 70 เศษ อยู่บ้านใกล้ๆ กับดิฉันที่หน้า ม.เกษตร นี่เองค่ะ แกเป็นย่าเป็นยายคนเกือบทั้งซอยก็ว่าได้ แต่ป้าเพลินเป็นเพื่อนกับแม่ของดิฉันมาตั้งแต่รุ่นสาว ตอนนั้นดิฉันยังตัวกะเปี๊ยกจนเดี๋ยวนี้เกือบจะถึงหลักสี่อยู่รอมร่อแล้ว
ครอบครัวเราสนิทกันเหมือนญาติ นอกจากการไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ก็ยังมีการไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันและกัน ใครทำอาหารดีๆ ก็ตักไว้ให้กันเป็นประจำ...ป้าเพลินชอบออกมาเดินเล่นในซอยแทบทุกเย็น บอกว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด
แต่คนเราก็หนีกฎธรรมชาติไม่พ้น ไม่ว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย!
แม่ของดิฉันล่วงลับไปเมื่อเกือบ 3 ปีมาแล้วด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ป้าเพลินเสียน้ำตาให้เห็นเป็นครั้งแรก ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยงานศพเต็มที่ บอกดิฉันว่า...คนรุ่นป้าพากันล่วงหน้าไปหมดแล้ว เหลือแต่ป้าคนเดียว ไม่รู้ว่าจะถึงเวลาเมื่อไหร่? แต่คงอีกไม่นานหรอก...
ตั้งแต่นั้นมา ป้าเพลินก็ดูอิดโรยอ่อนล้า เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา คิดๆ แล้วก็ใจหาย เมื่อนึกว่าชีวิตคนเรานับวันแต่จะโรยรา แก่ตัวก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ความเจ็บป่วยดาหน้าเข้ามาหา บั่นทอนสุขภาพลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันนั้น...
ร่างเล็กๆ ของป้าเพลินออกมาเดินในซอยหน้าบ้านไม่ไหวอีกแล้ว นอกจากจะจับเจ่าอยู่ในบ้าน ในที่สุดก็ต้องนอนแซ่วอยู่บนเตียง นัยน์ตาสีน้ำข้าวฉายแววเจ็บปวดร้าวรานเหมือนนักโทษในกรงขังของร่างกายตัวเอง!
ดิฉันใจหายทุกครั้งที่ไปเยี่ยมป้าเพลิน กุมมือเ ห่ยวย่นและเย็นชืดนั้นไว้อย่างปลอบประโลม ไม่อยากพูดปดเพื่อปลอบใจว่าคุณป้าจะหายเร็วๆ นี้...รู้ดีว่าจะไม่มีวันนั้นแน่นอน
"ป้าอยากจะออกไปเดินในซอย ขอแค่ไปยืนที่หน้าบ้านก็ยังดี!"
เสียงแหบเครือกับแววตาสิ้นหวัง น้ำใสๆ รื้นเต็มเบ้าตา บ่งบอกว่านั่นเป็นความวาดหวังที่สูงส่งเกินไปจนสวรรค์ไม่มีจะให้...กระทั่งวันสุดท้ายมาถึง เมื่อป้าเพลินนอนหลับไปตลอดกาลนานในโลกมนุษย์...
คืนแรกที่สวดศพในวัดนั่นเอง ป้าเพลินก็กลับมา!
เพื่อนบ้านพากันไปฟังสวดอภิธรรมคับคั่ง รูปถ่ายของป้าเพลินสมัยสาวๆ ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าโลงศพสีทอง...คุณน้าผ่องศรีนั่งพนมมือฟังพระสวดเสียงเยือกเย็นอยู่ดีๆ ก็เอียงหน้าเข้ามากระซิบดิฉันว่า...ป้าเพลินยิ้มให้น้าด้วยละ
คนเราตาฝาดกันได้นะคะ โดยเฉพาะในแสงไฟท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็น ชวนให้วังเวงใจ คุณน้าผ่องศรีก็ใกล้จะ 70 อยู่แล้ว...แต่ตอนขากลับที่เราลงจากรถตู้ของคุณลุงจำนงในซอย แยกย้ายกันเข้าบ้าน สามีภรรยารุ่นพี่คู่หนึ่งก็ร้องวี้ดว้ายมากระทบหูจนพวกเราวิ่งไปดู
หน้าตาซีดเซียว ปากคอสั่นทั้งคู่ ก่อนจะรวบรวมสติเล่าให้ฟังด้วยเสียงกระหืดกระหอบแทบฟังไม่รู้เรื่อง
ปรากฏว่าเดินมาจะถึงบ้านอยู่แล้ว เห็นร่างเล็กๆ ผอมๆ ของหญิงชราที่คุ้นตาเดินนำหน้า ท่าทางลอยๆ ชอบกลเหมือนเท้าไม่แตะพื้น พอสะกิดกันดูก็พอดีหญิงชราผู้นั้นหันมามองยิ้มๆ...ป้าเพลินเองค่ะ!
"คงจะตาฝาดไปเองน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก..."
ดิฉันปลอบ...แต่ทันใดนั้นก็มีกลิ่นน้ำอบไทยอวลกรุ่นมาเข้าจมูก กลิ่นน้ำอบที่รดน้ำศพป้าเพลินเมื่อตอนเย็นนี้เอง! เล่นเอาเหลียวซ้ายแลขวากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะรีบกลับบ้านใครบ้านมันทันที
ยอมรับว่าดิฉันใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น สับสนงุนงงอย่างบอกไม่ถูก...วิญญาณมีจริงหรือนี่? วิญญาณป้าเพลินเฮี้ยนถึงปานนี้เชียวหรือ?
วิญญาณที่ใฝ่ฝันก่อนตายอย่างรุนแรงที่จะได้ลุกจากเตียง เพื่อออกมาเดินเล่นในซอยอย่างที่เคยทำมาชั่วชีวิต...จนกระทั่งวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ได้รับอิสรเสรีตามเดิม!
ก้าวเข้าไปในบ้านที่ค่อนข้างเงียบเชียบ...กลิ่นน้ำอบไทยเย็นๆ ล่องลอยมาเข้าจมูกอีกแล้ว ดิฉันขนลุกซ่า เหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวง จนสายตาประสบกับภาพถ่ายขนาดใหญ่บนหลังตู้หนังสือ...ภาพของป้าเพลินกำลังยิ้มระรื่นเคียงคู่กับแม่ดิฉันที่ชายหาดแห่งหนึ่ง
คุณพระช่วย! รอยยิ้มของป้าเพลินกว้างขวางขึ้นทุกที ดิฉันพร่ามึนจนเดินเข้าไปหาเหมือนถูกสะกด ก่อนจะหยุดเงยหน้ามองดูรอยยิ้มกับนัยน์ตาเศร้าๆ ของป้าเพลินที่มองตอบมา...น้ำตาเอ่อคลอก่อนจะไหลรินลงมาอย่างเชื่องช้า
ดิฉันขนลุกซ่า กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น...ขอให้ไปสู่สุคติเถอะค่ะ ป้าเพลิน!
เครดิต บาย คุน ศศิพง
|
~
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #116 เมื่อ: 23-04-2011, 08:31:45 » |
|
ในบรรดาลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับทั่วโลกมีสิ่งหนึ่งที่ถูกเล่าขานสืบเนื่องกันมา นั่นก็คือ ปรากฏการณ์ 8" ประการ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เชื่อมระหว่างเรากับโลกแห่งวิญญาณไม่มีใครรู้ถึงความเป็นมาของหมายเลขนี้ และก็ไม่มีใครกล้าติดใจสงสัยมัน เช่นเดียวกับความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้อื่นๆ ใครก็ตามที่พยายามไขความจริงของ "8" ปรากฏการณ์นี้ ...พวกเขาเหล่านั้นมักไม่มีโอกาสกลับมาเล่ารายละเอียดให้ฟัง...
ปรากฏการณ์ที่ 1 : ผีถ้วยแก้ว ...หากบ้านของคุณมีผีมากกว่าหนึ่งตน มีอยู่ที่หนึ่งที่พวกมันจะไปอยู่รวมกัน... แม้ว่าผีที่อยู่ในถ้วยมักมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น แต่ส่วนใหญ่มักชอบความสันโดษ แต่ผีไม่ได้สิงในถ้วย ทุกใบ หากใบไหนมีผีสิงอยู่ ระหว่างมันออกหากิน ให้คว่ำถ้วยใบนั้นบนจานรองเสีย เพื่อที่มันจะได้กลับเข้ามา ไม่ได้ วิญญาณประเภทนี้สามารถรับรู้ถึงการปรากฏตัวของคนผ่านรอยสัมผัสวย หรือบางครั้งก็ในรูปของคราบที่ถูกทิ้งไว้บนใบชา หรือคราบกาแฟ หากอยากรู้ถึงโชคชะตาให้จับคู่ถ้วยกับชามให้ถูกต้อง การที่จะได้พบพวกมัน คุณต้องพยายามสอดส่ายตอนที่ไล่มันออกจากถ้วย ผีมักจะทะเลาะกันเพื่อแย่งชิงที่สิงสู่ และมักจะได้เห็นรอยแผลที่แสดงให้เห็นอยู่เสมอ
คำเตือน : ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้เก็บรักษาถ้วยและชามที่เข้าชุดอย่างน้อยหนึ่งชุดไว้ในบ้านเสมอ
ปรากฏการณ์ที่ 2 : เสียงเรียกตอนอาหารมื้อค่ำ
...อาหารเป็นของสำหรับสิ่งมีชีวิต ดังนั้นผีจึงไม่สามารถกินอาหารได้ แต่ถ้าพวกมันลืมไปว่าสถานะของพวกมันคืออะไร พวกมันก็จะต้องตายเพราะความหิวโหย... คนที่ชะตาไม่ถึงฆาตมักมีความสับสน จริงอยู่พวกมันอาจสำเหนียกว่าร่างกายดับสูญไปแล้ว แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถรับได้ว่า ตนเองตายไปแล้วจริงๆ หากอยากมองเห็นวิญญาณพวกนี้ ให้นำอาหารไปวางไว้บริเวณจุดที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ หลังจากให้อาหารแล้วก็ให้เคาะหม้ออาหารด้วยช้อนส้อมหรือตะเกียบ เสียงดังกล่าวจะทำให้วิญญาณตายโหงเหล่านั้นนึกว่าได้เวลาที่จะต้องกินอาหาร แล้ว
คำเตือน : อย่าหยุดเคาะช้อนส้อมหรือตะเกียบจนกว่าอาหารจะหมดไปจากจาน
ปรากฏการณ์ที่ 3 : เล่นซ่อนหา
...กำลังมองหาที่ซ่อนที่ไม่มีใครหาเจออยู่ใช่ไหม ลองหลบอยู่หลังวิญญาณดูสิ… ผีที่ยังตัดความเป็นคนไม่ขาดมักชอบสังเกตอะไรรอบตัวเสมอ แม้ว่ารายการทีวียามดึก หรือการเล่นไพ่คือ สองสิ่งที่พวกมันโปรดปราน แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่เทียบเท่ากับการเล่นซ่อนหา การเล่นเกมแบบนี้ในสวนสาธารณะตอนกลางคืน มักมีผีขี้เล่นเข้ามาร่วมสนุกอยู่เสมอ โดยพวกมันมักจะช่วยบังผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไว้ วิญญาณพวกนี้จะบังไม่ให้คนซ่อนได้เห็นภาพเบื้องหน้า หากไม่มีแมวดำผ่านเข้ามา คุณก็จะไม่เห็นอะไรอีกต่อไป
คำเตือน : ให้สวมนาฬิกาข้อมือทุกครั้งที่เล่นเกมนี้
ปรากฏการณ์ที่ 4 : ดินฝังศพ
...การจะได้เห็นวิญญาณกับตา คุณต้องหาดินที่ฝังร่างพวกมันให้ได้เสียก่อน… ดินมักจะซึมซับเอาวิญญาณของศพที่เพิ่งตายใหม่ๆ ยิ่งดินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งซึมซับวิญญาณมาก เท่านั้น ดินที่สกปรก หากป้ายดินดังกล่าวที่บริเวณตา จะทำให้เห็นว่าผีกำลังทำอะไรอยู่ จงอย่าทำอย่างที่ว่าบริเวณที่ผีชุมนุมกันอยู่ เพราะพวกมันจะพาคุณไปอยู่กับมัน
คำตือน : ให้อยู่ห่างจากแสงสีขาวสว่างจ้าเอาไว้
ปรากฏการณ์ที่ 5 : หว่างขา
...คือ ช่องทางจากโลกนี้สู่อีกโลกหนึ่ง... คนเราอาจจำไม่ได้แล้วว่าเราเกิดขึ้นมาในโลกนี้ได้อย่างไร แต่แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าตัวเองเองออกมาจากหว่างขาแม่ของเรา หากอยากมองเห็นโลกอีกโลกหนึ่งให้ลองก้มมองลอดหว่างขาตัวเองดู แต่อย่ามองนาน จนคนในอีกโลกที่เราเห็นรู้ตัวเข้า เพราะคุณอาจถูกลากเข้าไปในโลกของมันเพื่อเกิดใหม่
คำเตือน : ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องระวัง ยกเว้นเฉพาะคนท้อง
ปรากฏการณ์ที่ 6 : การเดินผ่าทางสามแพร่ง
...เคยไปที่ประตูที่ยังถูกปิดตายกันไหม ใครบางคนได้ใช้มันตลอดเวลา... เช่นเดียวกับในโลกของเรา คนในอีกภพหนึ่งก็มีสื่อที่ที่เชื่อมต่อระหว่างมิติเหมือนกัน ประตูที่ถูกล็อคเหล่านี้คือ กล่องใส่จดหมายส่วนตัวของพวกมัน การผ่านเข้าไปจะทำให้คุณเปรียบเสมือนกับจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกส่งไปให้ใคร บางคนที่ต้องการ อ่าน คุณอยู่
คำเตือน : จงหุบปากไว้ตลอดเวลา
ปรากฏการณ์ที่ 7 : เสียงโหยหวนยามค่ำคืน
...ว่ากันว่า ผีไร้บ้านคือ ผีที่โศกเศร้าที่สุด แม้ว่าจะอยากร้องไห้เพียงใด แต่ตาของมันก็แห้งขอด ในทุกค่ำคืน กลางถนนที่มืดมิด หากน้ำตาคุณไหลออกมา พวกมันจะปรากฏตัวทำให้คุณต้องกลัวจนหัวหด… พวกวิญญาณที่ล่องลอยเหล่านี้ มักเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย พวกมันไม่มีที่จะไป และติดอยู่กับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ผีพวกนี้มักทรมานกับความเจ็บปวดที่เกิดจากการทำร้ายตัวเอง และความเศร้าที่เกิดจากความรู้สึกผิดที่ทำเช่นนั้นลงไป ผีพวกนี้มักมีความอ่อนไหว ความเศร้าเพียงน้อยนิด ก็ทำให้คิดมากไปนานแสนนาน พวกมันมักจะเตือนคนที่คิดจะฆ่าตัวตายด้วยภาพสยองขวัญที่สุดเท่าที่คุณเคย จินตนาการมา
คำเตือน : ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครก็ตามที่ยิ่งกลัวยิ่งร้องไห้
ปรากฏการณ์ที่ 8 : ชุดงานศพ
…ลองสวมชุดคนตาย ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาตายดูซิ แล้วลองกลั้นลมหายใจดู การเดินทางสู่ปรโลกจักเริ่มต้น … หากอยากรู้ว่าภพหน้าเป็นอย่างไร ก็ลองจัดงานศพปลอมๆ ให้ตัวเองด้วยการขอยืมโลงศพจากคนตายที่รอฌาปนกิจมาลองนอนดู จงอย่าลืมนำเหรียญติดตัวไปด้วยหลายๆ เหรียญ เพราะการลองทำเช่นนั้นคุณจะต้องจ่ายด้วยอะไรบางอย่าง
คำเตือน : อย่าใช้เงินจนเกินเครดิตล่ะ นักแสดง
|
|
|
|
*.(xX Live For You Xx).*
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #117 เมื่อ: 23-04-2011, 08:35:01 » |
|
ปรากฏการณ์ที่ 3 : เล่นซ่อนหา
...กำลังมองหาที่ซ่อนที่ไม่มีใครหาเจออยู่ใช่ไหม ลองหลบอยู่หลังวิญญาณดูสิ… ผี ที่ยังตัดความเป็นคนไม่ขาดมักชอบสังเกตอะไรรอบตัวเสมอ แม้ว่ารายการทีวียามดึก หรือการเล่นไพ่คือ สองสิ่งที่พวกมันโปรดปราน แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่เทียบเท่ากับการเล่นซ่อนหา การเล่นเกมแบบนี้ในสวนสาธารณะตอนกลางคืน มักมีผีขี้เล่นเข้ามาร่วมสนุกอยู่เสมอ โดยพวกมันมักจะช่วยบังผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไว้ วิญญาณพวกนี้จะบังไม่ให้คนซ่อนได้เห็นภาพเบื้องหน้า หากไม่มีแมวดำผ่านเข้ามา คุณก็จะไม่เห็นอะไรอีกต่อไป
คำเตือน : ให้สวมนาฬิกาข้อมือทุกครั้งที่เล่นเกมนี้
ไม่เข้าใจอะพี่ ว่าทำไมต้องใส่นาฬิกา ?
|
~
|
|
|
DOmAkAjanG.CBZ
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #118 เมื่อ: 23-04-2011, 08:38:04 » |
|
อ๋อเดี๋ยวไม่รู้เวลา อะ ว่าเราเล่นซ่อนแอบตอนกี่โมง เดี๋ยวไม่ดึกพอ
|
|
|
|
*.(xX Live For You Xx).*
|
|
Re: ลัดดาแลนด์
« ตอบ #119 เมื่อ: 23-04-2011, 08:40:02 » |
|
อ๋อเดี๋ยวไม่รู้เวลา อะ ว่าเราเล่นซ่อนแอบตอนกี่โมง เดี๋ยวไม่ดึกพอ
ผมก็ทำบ่อยนะ ไอเคาะ ช้อนส้อม อะ แต่ถ้าไปเดินกลางป่าแล้วเคาะนี้ คงจะโดนจัดเต็มแน่
|
~
|
|
|
|