บทที่1...มันเกิดอะไรขึ้น....
ผมทอดสายตามองภาพเบื้องหน้าอย่างด้วยความหวาดกลัว พ่อและแม่ของผมบัดนี้พวกท่านไม่ใช่อีกแล้ว ขาของผมสั่นเทิ่มด้วยความกลัว พวกท่านจ้องมองที่ผมด้วยความกระหายก่อนจะพุ่งรงมาหาผมเพื่อ
กินสมองสั่งการไปที่ขาโดยทันที ผมเคลื่อนที่ออกจากบ้านพร้อมน้ำตาที่ไหลพราก
ทำไมกัน ทั้งๆที่เมื่อวานเรายังนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุขยังดูทีวีด้วยกันทำไมวันนี้มันช่างราวกับนรกเหลือเกิน
จู่ๆก็มีบางอย่างบุกเข้ามาในบ้านของผมมันกัดพ่อแและแม่ของผมพ่อของผมคว้าปืนออกมายิงมันหลายนัดก่อนที่ท่านจะล้มลงแล้วสิ้นใจพร้อมๆกับแม่ของผมหลังจากนั้น.....ท่านก็ฟื้นขึ้นและไล่ฆ่าผมในตอนนี้
สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือหนีเท่านั้น ผมพยายามที่จะหาใครสักคนที่เป็นคนแต่กลับพบเพียงศพที่เดินได้....
"แฮก! แฮก! แฮก!"เสียงหอบหายใจของผมดังขึ้นหลังจากที่วิ่งจากบ้านมาไกลพอสมควรผมจับลูบท้องตัวเองด้วยความหิวจริงสิผมยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าว่าแล้วก็หาอะไรกินหน่อยก็ดี ผมมองซ้ายมอง
ขวาก็เห็นร้านเซเว่นตั้งอยู่ใกล้ๆอืม....ลองเข้าไปดูหน่อยดีกว่า ผมตรงดิ่งไปที่นั้นก่อนจะเลื่อนประตูออกอย่างช้าๆ ดูเหมือนจะมีคนมาที่นี้แล้วเพราะขนมปังและน้ำหายไปเยอะมากแต่ก็ช่างเหอะตอนนี้หาอะไรเจอ
กินได้หมด ผมเอื้อมมือไปคว้าเลย์ห่อหนึ่งที่วางอยู่บนชั้น
"พลั๊ก!!!"ฉับพลันสติของผมก็เลือนลางก่อนจะล้มลงตรงพื้น.....
........ผมค่อยๆลืมเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ศรีษะ
"ตื่นแล้วหรอ?"ชายผมสีเทาปริศนากล่าวทักทายก่อนจะยื่นโอวัลตินร้อนๆให้ผม ผมรับมันมาแต่โดยดีก่อนจะเอยถาม
"เกิดอะไรขึ้น?"เขาหันมามองผมก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด
"ขอโทษทีนะฉันนึกว่านายเป็นซอมบี้เลยหยิบที่คิดเงินตรงนั้นมาฟาดหัวนาย...ขอโทษด้วยนะ"ผมพยักหน้าเป็นเชิงว่ายกโทษให้ก่อนจะลูบหัวที่กำลังโนของตัวเองเบาๆ
"นายชื่ออะไร?"ผมกล่าวถามด้วยรอยยิ้มเขาอึ้งนิ่งซักครู่เหมือนจะคิดว่าจะไว้ใจผมได้ดีไหม
"ฉันชื่อ
เชลยินดีที่ได้รู้จัก"เชลยื่นมือมาให้ผม
"เอิร์ธ"ผมยื่นมือให้เขาเช่นกัน
"แล้วนายมาที่นี้นานหรือยัง?"ผมถามเขาพร้อมซดโอวัลตินเข้าปาก
"ก็ไม่นานหรอกฉันแค่มาหาสเบียง"เขากล่าวพร้อมโชว์กระเป๋าใบใหญ่ที่อัดไปด้วยอาหารมากมาย
"แล้วนายจะไปที่ไหน?"ผมถามต่ออีก
"ก็....ไม่รู้สิไปเรื่อยๆค่ำไหนนอนนั้นยังไงซะในตอนนี้ไม่มีที่ไหนปลอดภัยหรอก..."เชลตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ
"งั้นเราไปด้วย ยังไงซะสองหัวต้องดีกว่าหัวเดียว"ผมกล่าวก่อนจะไปหยิบกระเป๋าในร้านมาเพื่อใส่ของ
"ก็ดีจะไม่เหงา"เชลยิ้มก่อนจะหยิบของต่อ
3ชั่วโมงผ่านไป...
หลังจากที่เราสองคนได้ทำการหาสเบียงเสร็จสิ้นก็เดินทางออกจากเซเว่น สองข้างทางที่เราเดินมีแต่เหล่าซอมบี้ที่เดินกันยั่วเยี้ยรถยนต์ถูกจอดระเกะระกะอย่างไร้ค่าทั้งๆที่บางคนทำงานทั้งชีวิตเพื่อซื้อมัน
"โอ๊ะ!!!"จู่ๆเชลก็อุทานขึ้น ผมหันไปมองเชลและพบว่าเขากำลังจับจ้องไปที่รถเบนซ์คันงามที่จอมสงบนิ่งท่ามกลางถนน
"อะไรหรอ?"ผมเดินเข้าไปถามเชลที่กำลังจ้องที่รถเบนซ์คันนั้นด้วยสายตาหลงใหล
"เอิร์ธฉันอยากขับรถคันนั้นเราขับรถคันนั้นไปเถอะ"สิ้นเสียงเขาเดินไปที่รถคันนั้นโดยไม่ฟังความเห็นผมเลย
"อ่า~เหมือนฝันเลย"เขาฉีกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะบิดกุญแจรถที่ถูกเสียบค้างอยู่ ผมเปิดวิทยุในรถขึ้นเพื่อฟังข่าว
'ขณะนี้รัฐบาลได้ทำการควบคุมเชื้อโรคได้แล้วขอให้ประชาชนทุกท่านอยู่ในบ้านเพื่อรอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลหากมีใครติดเชื้อกรุณานำไปแยกตัวไว้อีกห้องกรุณางดการเดินทางทุกรูปแบบเพื่อความ
ปลอดภัยของท่านหากท่านพบผู้ติดเชื้อกรุณาทำให้ศรีษะของผู้ติดเชื้อเสียหายอย่างรุนแรง ขอให้ท่านโชคดี'
"ควบคุมได้งั้นหรอ!แบบนี้นะหรอที่เรียกว่าควบคุมได้!ตลกบริโภคหรือเปล่าวะ!"เชลสบถด้วยอารมณ์ฉุนสุดขีดผมจึงเอื้อมมือไปปิดวิทยุ
"แล้วเราจะไปไหนกันต่อ"ผมถามเชลที่กำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ
"ไปไหนก็ได้ที่มันปลอดภัย!"เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงโมโหก่อนจะเคลื่อนรถ
4ชั่วโมงผ่านไป เราขับรถมาบนถนนที่มีแต่ซากศพเกลื่อนกราดไม่มีแม้แต่เงาของคนซักคนที่หลงเหลือไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้....
"เราพักกันตรงนั้นเถอะ"ผมชี้ไปที่โรงแรมที่สภาพพอดูได้ที่สุดอย่างน้อยศพก็ไม่ค่อยมีให้เห็นละกัน เชลขับรถเข้าไปจอดในโรงแรม เราทั้งสองพยายามเคลื่อนตัวอย่างเงียบเพื่อไม่ให้พวกซอมบี้รู้ตัวว่าเราอยู่ที่นี้
พวกเราหากุญแจห้องก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเข้าไปข้างใน ผมปิดม่านและประตูอย่างแน่นหนาเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีซอมบี้ตัวไหนเล็ดลอดผ่านเข้ามาหาพวกเราได้
"เราจะผลัดเวรเฝ้ายามกันนะ"เชลกล่าวก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
"อะ...อืม"ผมกล่าวพร้อมมองเชลที่เหยียดตัวนอนอย่างสบายใจแต่เอ๊ะ แล้วเฝ้ากันคนละกี่ชั่วโมงละ ผมเขย่าตัวเชลให้ตื่นขึ้นแต่เขาไม่ยอมตื่นแถมยังผลักมือผมออกไปอีก สงสัยคงไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วเรา