ตอนที่ 2 สมบัติบรรพชน
ราตรีที่มืดมนได้ย่างกรายมาปกคลุมท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง ศาลเจ้าได้ตกอยู่ใต้ความมืดมิดอีกครั้งหนึ่ง
เมฆที่มืดมิดได้บดบังดวงดาวเสียสิ้น แม้จะเป็นคืนเดือนมืดที่มองไม่เห็นจันทราที่เจิดจ้าอยู่แล้ว ทำให้บรรยากาศรอบข้างศาลเจ้าดูน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
หลังบานประตูศาลเจ้า มีเพียงแสงเทียนที่เป็นแสงสว่างส่องภายในห้องเก็บสมบัติของศาลเจ้า เงาของคนสองคนที่ทอดลงบนบานประตู นั่งคุยกันด้วยบรรยากาศที่หนักอึ้ง
ราวกับว่า มีแรงกดดันมหาศาลอยู่ในห้องนี้
“ยูมิ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าโจรพวกนั้นไม่ได้ตายด้วยน้ำมือมนุษย์?” ผู้เป็นพ่อกล่าวกับลูกสาวของตนด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือคะ ท่านพ่อ เกี่ยวกับเรื่องสมบัติหรือคะ” เธอถามผู้เป็นบิดาด้วยความสงสัย
“สมบัติที่ตระกูลเราปกป้องมาตลอด ในตอนนี้ได้ถูกโจรขโมยไป และคนที่ขโมยก็ได้ตายไป” เขาตอบบุตรสาวพร้อมกับเล่าต่อ
“จากอดีตกาล สู่ปัจจุบัน เราได้สืบสายเลือดมิโกะ ที่คอยปกป้องสิ่งนั้นมาเสมอ” “สายเลือดของมิโกะที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สุด จากรุ่น สู่รุ่น 100 กว่าปีแล้ว ที่เราช่วยเหลือมนุษย์จากสิ่งชั่วร้าย” เขาเล่าด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดกว่าเดิม
“และในขณะนี้ ความชั่วร้ายนั้น ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว หายนะ กำลังจะมาทำร้ายมนุษย์อีกครั้ง”“ยังไงคะ หนูไม่เข้าใจ” ยูมิถามพ่อด้วยความสงสัย แต่ก็พอจะรู้แล้วว่า เธอต้องทำอะไร ในภายภาคหน้า
“มันเป็นสมบัติ สมบัติที่บรรพชนส่งต่อมา เพื่อจะสะกดความชั่วร้ายนั้นไว้ และตอนนี้ มันได้หายไปแล้ว..” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ฟุกุชูว โยวไค” เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ
อีกด้านหนึ่งของเมือง“เป็นกำไลที่สวยจริงๆ ถึงแม้จะเก่า แต่หยกอำพันธ์แบบนี้ หายากนะ” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวชื่นชมกำไลที่ตนได้เห็น
“ใช่ สวยมาก ฉันได้มาจากศาลเจ้าแห่งหนึ่งน่ะ” เนสุมิบอกกับเพื่อนของเธอ
“ครั้งแรกที่ได้เห็นมัน ฉันก็คิดว่าอยากได้มากเลยล่ะ ไม่รู้ทำไม” เธอพูดไปพร้อมกับดื่มวอดก้าที่อยู่ในแก้วจนหมด
เวลาผ่านไปท่ามกลางไปแสงสีตระการตาในผับใจกลางเมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยว ปลดปล่อยความเหน็ดเหนื่อยหลังทำงานที่ดีเยี่ยมสำหรับสาวโสดทั้งสอง
อีกทั้งที่แห่งนี้ยังเป็นที่ๆจะสามารถพบผู้ชายโสดที่มาเที่ยวด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งถึงเวลาปิดผับ หญิงสาวทั้งสองจึงต่างคนต่างเดินทางกลับไปยังที่พักของตน
“พักผ่อนซะนะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เดี๋ยวไปช๊อปปิ้งกัน” เนสุมิบอกกับเพื่อนที่เดินแยกไปอีกทางหนึ่ง
“โอเค วันพรุ่งนี้เจอกันนะ เดี๋ยวแกมาปลุกชั้นที่ห้องด้วยล่ะ” เพื่อนของเธอตอบกลับเสียงดังลั่นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
เมื่อเนสุมิกลับถึงห้อง เธอเหน็ดเหนื่อยมาก จึงได้เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนจะนอนหลับด้วยความเหน็ดเหนื่อยผสมกับความเมา
อีกด้านหนึ่งเพื่อนสาวของเธอ เมื่อกลับถึงห้องจึงต้องการจะไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเช่นเดียวกัน แต่ว่าวันนี้ห้องของเธอดูวังเวง ราวกับไม่ได้อยู่กลางเมือง
ทั้งๆที่ปกติ จะต้องได้ยินเสียงการ์ตูนอนิเมะของโอตาคุข้างห้องเป็นประจำ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าดีซะอีกที่จะได้นอนสงบๆ
เธอเดินไปเปิดไฟห้องน้ำและถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ทีละชิ้น และพร้อมจะเดินเข้าห้องน้ำ
“สบายจัง วันนี้ไม่หนวกหู” เธอพูดด้วยความสบายอารมณ์ พร้อมกับทิ้งตัวลงในอ่างอาบน้ำที่เตรียมน้ำอุ่นไว้พร้อมแล้ว
สักพัก เธอก็ต้องพบกับความแปลกประหลาด เมื่อไฟห้องน้ำดับลง มีแต่ความมืดมิด ที่มองเห็นได้แค่ระยะเอื้อมมือ
เธอพยายามหาทางที่จะออกจากห้องน้ำที่มืดมิดนี้ไปโดยการคลำไปเรื่อยๆ และเธอก็สัมผัสบางอย่างได้ เธอก้มลงเพื่อดูว่า เธอจับอะไรไว้
แต่เธอก็ต้องตกใจ เมื่อสิ่งที่เธอจับไว้นั้นเป็น
ลูกตาของมนุษย์ !!! เธอตกใจมาก จึงรีบเงยหน้าขึ้นมา และเธอก็พบกับ ใบหน้าขาวซีดที่ห้อยหัวลงมาจากเพดาน เบ้าตากลวงโบ๋ และหลุบลึกเห็นเป็นกะโหลก
เส้นผมที่ยามยืดจรดพื้น ระยะห่างออกไปเพียงไม่ถึงคืบ และเลือดที่ไหลลงมาจากด้านบน
มันจ้องเธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ และค่อยๆ อ้าปากออก เลือดที่ไหลออกจากปากของมันพุ่งเหมือนท่อน้ำประปาแตก โดนที่หน้า และตัวของเธอจนเปียกโชก
ใบหน้าขาวซีด เริ่มเปลี่ยนไป ผิวหนังเริ่มเปื่อยทีละนิด ทีละนิด ราวกับศพที่เริ่มเน่า และส่งกลิ่นเหม็นแรงขึ้น แรงขึ้น
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและมืดมิดของรัตติกาล...
โปรดติดตามตอนต่อไปปล.1 ฟุกุชูว แปลว่า ความอาฆาต ส่วนโยวไค แปลว่า ปิศาจร้าย รวมๆแปลว่า ปีศาจอาฆาต นั่นแหละ
ปล.2 แนะนำ และ ขอบคุณที่ติดตามครับ By. -ChiVas-