By. GøøGle-KunG 3.แก่นสารเรื่องที่ควรพล็อตตั้งแต่เริ่มอันว่านิยายแฟนตาซี ต้องมาคู่กะสงคราม แน่นอนเราแต่งนิยาย ไม่ใช่นิทานแอลไอซ์อินซอมบี้แลนด์ ที่เข้ามากระโดดย้องแย้งแล้วออกไป
เนื้อเรื่องร้อยทั้งร้อย เริ่มมาตัวดีจะแพ้ตัวร้าย ถูกตัวร้ายยึดครองเอกราช พอเนิ้อเรื่องมาก็จะเป็นตอนที่ตัวดีลำบากอยู่
การพล็อตเรื่องของแนวแฟนตาซี จะใช้ตัวช่วยในการทำสงคราม จัดหามาได้ก็มีเท่านี้ (เรียงตามลำดับความฮิต)
• แย่งของชิ้นหนึ่งกัน (ไม่ทราบว่าที่บ้านหล่อนบุพการีไม่สั่งสอนให้รุ้จักมีน้ำใจแก่ผู้อื่นเรอะ)
• ป้องกันตัวร้ายทำลายล้างโลก (เป็นแนวที่ห่วยแตกมาก แต่งมางี้ส่อให้เห็นถึงสมองผู้แต่งยังไม่เลยวัยป.3)
• ช่วยเหลือตัวดีที่ถูกจับไป (แทนที่จะปล่อยให้มันตายดีๆก็พอแระ- -)
• ทำตามคำสอน(บ้าๆ)ของเทพเจ้าผู้ขี้เกียจโดยสันดา_ (นับถือแบบงมงาย แล้วก็มาคิลกัน เหมือนนิกายโปรเตสแตนท์
กะคาทอลิกตอนที่เพิ่งแยกใหม่ๆ)
• เหตุปัจจัยแย่งชิงดินแดน (นี่มันแนวประวัติศาสตร์แระ ใครกล้าใช้อันนี้ถือว่าต้องเก่งมากๆ)
-------------------------
4.How to การเขียนบทนำเมื่อได้เนื้อเรื่องมาแล้ว แก่นเรื่องมาแล้ว ก็ควรเรียบเรียงให้มันดูดีมีระดับ สามารถสื่อถึงแก่เนรื่องได้ทันที โดยต้องไม่ทำลายปมเรื่องที่เราอุ๊บอิ๊บไว้
ตั้งแต่เริ่ม (ใครเผลอบอกปมเรื่องหลักจะฆ่าให้) ก็จะมีหลักดังนี้
(1) กล่าวถึงที่มาของเรื่อง ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ๆขึ้น
(2) ใครเป็นผู้ร่วมเหตุการณ์ตั้วงแต่กาลนานก่อนหน้านั้น
(3) เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นยังไงกัน ทำไมถึงเกิดขึ้น
(4) ส่งผลให้ถึงต่อเนื้อเรื่องปัจจุบันยังไง (แก่นเรื่อง)
*พิเศษ : (4) อธิบายให้เชื่อมโยงกับตัวเอกยังไง
Exam ง่ายๆ (จะใส่หมายเลขคั่นตรงจุดต่างๆ ดูเอาด้านบนว่าอยู่ส่วนใด)
*ตัวเอกในที่นี้ คือ นายA และ B จะเลือกให้ใครเป็นพระเอกหรือรองเอกก็แล้วแต่
เรื่อง "มหาสงครามกลศึกชิงนางเสน่หา"
(1) กาลครั้งหนึ่งนานแส๊นนานมาละ มีนางอัปสรผู้หนึ่งบนชั้นสวรรค์ได้จุติลงมาบนโลก ตามอายุขัยกาลเวลาที่หมด ชาวเทวดาที่ยังแย่งนางอัปสรกันอยูก้นึกเสียดาย จึงได้จุติตามลงไป
(2)เมื่อนางอัปสรได้กำเนิดบนโลกมนุษย์ นางได้เป็นมนุษย์ที่มีหน้าตาสวยงามมาก และชอบเอาดอกทองมาประดับศีรษะเป็นสัญลักษณ์ประจำตน
บุพการีของเธอจึงตั้งชื่อเธอว่า "นางวันดอกทอง" และเพื่อนบ้านอีก2บ้าน ก็ได้ให้กำเนิดลูกชายอีกหลายบ้าน นับๆแล้วก็รวมประมาน10คน มาเป็น
เพื่อนเล่นกันตั้งแต่เป้นเด็กเล็กแดง
(3)ครั้นเหล่าเด็กๆในหมู่บ้านเติบใหญ่เป็นหนุ่มสาวก็แยกย้ายออกไปยึดครองเมืองต่างๆเป็นของตน และลูกชายอีกหลายบ้านก็ต่างเพ่งเล็งนางวันดอกทองอย่างหื่นกระหาย ทั้งหมดจึงเหมือนรถไฟชนกัน เกิดศึกชิงนางขึ้น และทำสงครามชิงตัวนางวันดอกทองขึ้น จนท้ายที่สุดก็เหลือคู่แข่งชิงนางแค่2คน คือ นายA แอนด์ นายB
(4)อีบ้าทั้ง2จึงจัดทัพตีกันครั้งสุดท้าย นางวันดอกทองที่ยังไม่อยากเสียเพื่อนรักทั้งหมดของตนไปมากกว่านี้ จึง(โง่)เอาตัวเข้าแรกระหว่างที่ทั้ง2ขี่ช้างสวรรค์ปะทะกัน ร่างของนางจึงกระจัดกระจายออกเป็น32ส่วน แล้วลอยละลิ่วไปอยู่จุดต่างๆบนโลก นายAแอนด์Bเสียใจมาก จึงท้ากันอย่างลูกผู้ชายว่า
ใครที่สามารถรวบรวมชิ้นส่วนของนางวันดอกทองได้ครบก่อน เมื่อนางฟื้นคืนชีวิตขึ้นคนนั้นจะได้นางวันดอกทองมาเป็นเมียไป ทว่า นายBที่คิดเล่นสปกปรกจึงจ้องจะปลิดชีพนายAมิให้หาชิ้นส่วนได้สำเร็จก่อนตน สงครามชิงนางระหว่างทั้ง2ยังไม่สิ้นสุด การแย่งชิงชิ้นส่วนของนาวันดอกทองตามคำท้าจึงอุบัติขึ้น...
(แต่งมั่ว) อันนี้จะใช้ตัวช่วยในกรณี แย่งชิงสิ่งของกัน มาช่วยประกอบเนื้อเรื่องให้มันดูมีสีสัน
จากที่ใส่ลำดับแล้วก็คงจะพอเข้าใจกันนิสหน่อย ว่าแต่ละส่วนในการแต่งบทนำมันเป้นยังไง
ส่วนตัวเอกในที่นี้คือ นายA เนื่องจากไม่เล่นสกปรก ไม่เป็นตัวร้าย โอป่ะ=_=
ความยาวของบทนำควรไม่เกิน15-17บรรทัด เอาให้ได้ใจความ ไม่ควรยาวหรือสั้นไป
ที่สำคัญ
ห้ามบอกปมเรื่องสำคัญในเรื่องเด็ดขาด (เพราะไปๆมาๆเราจะแต่งไม่ออกเสียเอง- -)
-------------------------
5.ลักษณะการบรรยาย พรรณนา อุปมา มาถึงขั้นในการแต่งบ้าง ถ้าหากขาดการบรรยายไปนิยายก็คงไม่เป็นนิยาย โดยการบรรยายจะทำให้ผู้อ่านรู้ถึงเหตุการณ์ระหว่างดำเนินเรื่องมากขึ้น
ไม่มึนงงว่าตัวละครนี้มันอยู่ที่ไหน ทำHaเหวไรอยู่ ยิ่งบรรยายดีก็จะได้อรรถมากยิ่งขึ้น เหมือนซุปกระดูกหมูเคี่ยวดีคนกินก็จะอร่อยมากๆ (เทียบไปนู่น)
งั้นมาเริ่มแหัวข้อของการบรรยายกันเลยดีกว่านะ (พล่ามมาเยอะ)
การบรรยาย พื้นฐานมหาเบสิคกิ๊กก๊อกแห่งนิยาย ทุกแนวก็จำเป็นที่จะต้องมี ในหมวดแฟนตาซีมันจะเน้นเกี่ยวกับ การเปิดตัวของตัวละคร อิริยาบถของตัวละคร สถานที่ ฉากสนทนาเฉยๆ และฉากต่อสู้สงครามชะนีตบแย่งผั*กันเสียมากกว่านิยายแนวอื่น
การพรรณนา อันดับถัดมารองจากการบรรยาย ซึ่งจะทำให้การบรรยายดูสละสลวยขึ้น ในขั้นเบสิคก็ออกจะเป็นการใช้คำระดบัสูงมาช่วยในการบรรยาย
การอุปมา ส่วนท้ายที่สุด เป็นการเปรียบเทียบเหตุการณ์นั้นๆกะสิ่งต่างๆ ใช้ได้ดีมากสำหรับทุกฉาก ทำให้ผู้อ่านรู้สึกชัดเจนเข้าใจสถานการณ์เนื้อเรื่องขึ้น เหมือนติดตั้งระบบ3Dก็ว่าได้
*โดยการบรรยายต่างๆควรใช้สถานการณ์เป็นตัวบรรยาย ไม่ใช่ตัวเอกเป็นตัวบรรยายเหมือนนิยายรัก
แบ่งฉากออกได้อีกรอบ (ตัวอย่างจะใส่สีตามส่วน
บรรยาย พรรณนา แอนด์
อุปมา)
• การเปิดตัวของตัวละคร แน่นอนสำคัญมาก ในหมวดนี้จะเน้นประวัติฝีมือของตัวละครรองจากลักษณะตัวละคร อาทิ
..
นางวันดอกทองผู้มีริมฝีปากเรียวแดงดั่งสีทับทิม แก้มชมพูเหมือน
ลูกตำลึงสุก หน้าเรียวคมสวยเป็นกระกายงดงามชวนหลงเสน่หา ผมยาวสลวยสีทองจรดเอว มีปิ่นปักผมลายดอกทองประดับอยู่บนหัวเสริมประกายความงามให้แก่นางดั่งหงส์ฟ้ามากขึ้นความงามของเธอทำให้ชายหนุ่มหลงไหลในสเน่ห์ของนางอย่างหัวปักหัวปำ..
• อิริยาบถของตัวละคร จะเน้นว่าตัวละครกำลังทำอะไรอยู่
อาทิ ..
นายAขยำกระดาษสาส์นท้ารบชิงนางวันดอกทองของนายBด้วยความฉุนเฉียวเมื่อนึกว่าอาจจะต้องเสียเลือดหลั่งน้ำตากันอีกครั้ง..
• สถานที่ ระหว่างผจญภัยพวกตัวเอกก็ต้องระเห็ดร่อนเร่พเนจรไม่เคยติดต่อ ธอส. ให้อนุมัตบ้านให้ซักหลัง สถานที่แปลกตาจึงมากมายจนคนอ่านเซ็ง
อาทิ ..
เมื่อนายAเดินทางมาถึง เขาก็ได้พบบ่อน้ำพุมังกร ที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นมังกรหินจำนวนมาก พร้อมทั้งมีน้ำพุพ่นออกมาจากปากมังกร
พื้นน้ำด้านล่างดูเป็นสีเขียวมรกตดูสวยงามแก่การรับชมมองดูอย่างยิ่ง..
• ฉากสนทนาเฉยๆ เป็นฉากที่ตัวละครคุยกันตามสถานการณ์ อาจจะมาในช่สวงก่อนต่อสู้ อาทิ
.."xxxx"
นายAกล่าวเสียดสีเชิงด่านายBอย่างต่อเนื่องโดยน้ำเสียงดุดันและเกรี้ยวกราด / "#$%"
นายBสวนกลับพลางกรีดร้องออกมา.. •
ฉากต่อสู้ เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยากของนักแต่งนิยายทั่วไปเป็นอันมาก 75%ของนักแต่งทั้งหมด เวลาสู้กันก็จะต้องมี
-ตัวเอกแอนด์ตัวร้ายสู้ๆกันอยู่งัดสกิลHaไรไม่รุ้และไม่ทราบว่าได้จากไหนมาตะโกนใช้อย่างคล่องแคล่ว จนสุดท้ายสกิลก็ล้นจนจำไม่ได้
-100% ตัวดีคนแรกจะสู้ได้สูสีมาก และสุดท้ายก็จะพลาดพลั้งจนเกือบตาย ไม่เคยจัดการบอสรองด้วยตัวเองนอกจากบอสใหญ่
-95% พอตัวดีกะลังจะพลาดจะตายHa ก็จะมีฝั่งตัวเอกมาช่วยอย่างกระทันหัน (ไม่ทราบว่ามันเหาะมาจาหนใด) อีตัวดีตัวที่มาช่วยก็จะเก๊กเท่
และปราบอีฝ่ายตัวร้ายได้อย่างว่องไว
-90% เมื่อตัวดีถูกตัวร้ายสปีชี่1แทงข้างหลัง ตัวดีที่เหลือก็จะ "นายA!!!(ชื่อตัวละครเป็นต้น)" ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
-80% ฉากที่ตัวร้ายจะถูกฆ่า มันจะกรีดร้องอย่างโหยหวน หรือไม่ก็จะ "ฝากไว้ก่อนเถอะ~!"
(โทดทีเค่อะ ตัวดีนะเคอะไม่ใช่ธนาคารกสิกรไทย ถึงฝากได้ทุกเรื่องน่ะ= =)
-100% ตัวประกอบที่ถูกฆ่า จะได้รับการบรรยายฉากตอนตายนั้นไม่ถึงครึ่งบรรทัด (แค่ ตัวประกอบถูกฟันเข้าที่ท้องสิ้นใจตาย ณ ตรงนั้น)
-100% ในขณะที่พวกตัวเอก+ตัวประกอบเอก พอจะตายพร่ำเพ้อสั่งเสียช่วยส่งฉลากแป้งเบบี้มายด์ด้วยเป็นครึ่งตอน-1ตอน
-95% บอสใหญ่ต้องถูกตัวเอกฆ่า ในสภาพที่ถูกตัวประกอบเอกไล่ยำจนเกือบจะตายHaอยู่แล้ว (อีพวขี้ลาสช็อต!)
-90% ตัวร้ายบอสใหญ่ๆ ได้แค่ กรี๊ดดดด! ก่อนตาย ไม่มีการสั่งเสียกับลูกน้องตนเองเลยแม้แต่น้อย
โอเค บอกสถิติเสร็จแล้ว มาดูวิธีบรรยายฉากพวกนี้กันดีกว่า
♠
การบรรยายฉากต่อสู้ฉากต่อสู้ บรรยายเหมือนการบรรยายทั่วไป มักมาหลังคำพูดต่างๆโดยใช้คำสันธ่าน (พร้อม ก่อนที่จะ พลาง ETC.)
ไม่ก็จะขึ้นบรรทัดใหม่บรรยายฉากสู้สดๆเลย อาทิ
-"หล่อนแย่งผัวชั้นเหรอ!" นายAตะโกนด่านายB พร้อมรัวตุ๊กตาบลายด์ที่เป็นอาวุธในมือของตนฟาดใส่หัวนายBไม่ยั้ง
เพี๊ยะ! (ซาวด์เอฟเฟก) ฝ่ามือหนาของนายBประลงบนหน้านายAเต็มแรง
-นายAที่รับไม่ได้จึงกระหน่ำเอาตุ๊กตาบลายด์เคาะหัวนายBไปเรื่อยๆ ในขณะที่นายBพยายามหลบและหาจังหวะตบสวนกลับไปด้วยความว่องไว
♠
การประยุกต์วิธีต่อสู้ไม่ควรนำสกิลบลาๆ ที่อยู่ดีๆคิดขึ้นเองได้มาใช้ในทุกๆตอน (ใช้มาเองเสียมาเอง= =) เพราะไปๆมาๆเราจะจำสกิลเสียเองไม่ไหว รวมถึงน่าเบื่อด้วย
(จำลองเหตุการณ์) ลองนึกถึงการ์ตูนช่อง9ที่ไทยทำอนิเมขึ้นมาเองตอนเช้า เมื่อประมาน2-3ปีก่อน "ซุปเปอร์มอลต์" (เย้ๆ)
โดยเนื้อรเองมีอีหัวทองจากดาวกะหรี่ขายข้าวเป็นอย่างเดียว และแดรกได้แต่โกโก้สีอ่อนผสมน้ำตาลปริมาณมากต่อ1แก้วเพื่อเติมพลัง
สกิลที่มันมีคือ คลื่นพลังแสงอาทิตย์ และ หมัดแสงอาทิตย์
ในทุกตอน (ย้ำว่า ทุกตอน) พอสู้กะตัวร้ายมันก็จะ "คลื่นพลังแสงอาทิตย์! / หมัดแสงอาทิตย์!" ใส่ตัวร้าย ร้อง ว้ายยยยยย
แล้วตัวร้ายก็ตายHa เย้ๆ
โอเค เป็นพวกเอ็ง เบื่อหรือไม่ที่อีนี่มีปัญญาทำได้แค่เตะต่อยธรรมดา(บินไปต่อยให้ถอยๆๆๆ)กะปล่อยพลังมาอัด ไม่มีHaไรเลย - -
* ตัวละคร1ตัวละครควรมีสกิลไม่เกินประมาน 5-6สกิล ท่าไม้ตาย 1-2ท่า
ดังนั้นวิธีที่จะออกแบบบทต่อสู้ให้ดีที่สุดคือ
การประยุกต์เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากพอสมควรสำหรับนักแต่ง จำเป็นต้องใช้จินตนาการอย่างมาก (ขนาดข้าพเจ้าเองยังเครียดกะตรงีน้เหมือนกัน)
โดยอาจจะพิจารณาจากคุณสมบัติสกิล และ สถานการณ์การต่อสู้นั้นๆ ให้ออกแบบบทได้ถูกต้องแก่ตัวละคร
ยกตัวอย่างง่ายๆ
นายB มีพลังจิต จะคยั้นคยอให้นายAคนืของกลับมา ในขณะที่นายBมีพลังกักขังสิ่งของที่ตนกำหนดจนกว่าตนจะตายHa
และนายAไม่สามารถใช้พลังได้นานกว่า2นาที ควรจะทำยังไง?
ก.บู๊กันแม่มเลย เอาสกิลใหม่ๆเกีย่วกะพลังจิตมาใส่ ให้นายAสู้นายBชนะแล้วแย่งของมา ( X )
ข.
นายBจึงใช้พลังจิตจากมือถล่มก้อนหินขนาดยักษ์ที่อยู่บนหัวของนายBลงมาทับมันให้ตายHaทันที ( O )แน่นอน การประยุกต์ในที่นี้ก็คือ ข้อข.ไข่ ซึ่งในการแต่งจริงจะไม่มีใครมานั่งแต่งโจทย์ให้เรา นอกจากว่าเราจะเป็นคนเขียนโจทย์
คือเงื่อนไขเนื้อเรื่องในแต่ละตอน ให้ว่าทำไมจะต้องสู้ในรูปแบบไหน แล้วจะใช้ประยุกต์ยังงให้มันดูไม่ปัญญาอ่อนหรือเรียบง่ายเกิน
(ที่ยกตัวอย่างมานี่โคตรง่ายเลยขอบอก กรุณาควรคิดให้มันพลิกแพลงให้มันได้มากกว่านี้= =)
-------------------------
[พิเศษ] ข้อควรระวังในการแต่งนิยายแฟนตาซี1.
กลายเป็นนิยายเด็กปัญญาอ่อน เพราะพล็อตเรื่องไม่ดีตัวร้ายคิดได้แค่ทำลายล้างโลกส่วนตัวดีกระแดะอยากเป็นฮีโร่พิทักษ์โลก
2.
ตัวละครล้น เพราะบทไหนไม่รู้อยากมีเพิ่ม แนะนำว่าควร
ลบมันทิ้งให้ตายๆไปซะบ้าง ไม่งั้นจะเลือกมาใช้ในแต่ละบทยาก
3.
ตัวละครต่อ1ฉากเยอะแบ่งบทไม่ไหว 1ในผลกระทบจากข้อ2 ใน1บทนับเอาทีมเดินทางนับ10 ก็ต้องบรรทัดนึง Aพูด Bพูด
แนะนำว่าถ้าไม่คิลลบทิ้งก็ออกบทให้มัน
กระจายตัวดีกว่า หลังๆค่อยมารวมกันใหม่
4.
ใช้คำบรรยายในฉากสนทนาซ้ำๆ ไม่รู้จะบรรยายว่าอะไรก็ "xxx"พูด พูด พูด ใช้เป็นแค่
"พูด" จนคนอ่านเบื่อรู้สึกคิดว่า "อีคนแต่งมันไม่มีปัญญาแต่งการบรรยายดีกว่านี้เหรอฟะ" อาจใช้
"กล่าว , เอ่ย etc." มาใช้ช่วย
บรรยาย และก็เติมช่วยบรรยายไปด้วยเพื่อบอกอารมณืตัวละคร เช่น "xxx" Aกล่าว
อย่างฉุนเฉียว / ด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด etc.5.
อีโมชั่น T^T T[]T O0O O_O =_= -..-นิยายแฟนตาซีนะเคอะ
ไม่ใช่นิยายฮาorของสำนักพิมพ์แจ่มใสบรรลัยสติปัญญาหน้าด้านอ่านไม่รู้เรื่อง ดังนั้นอย่าใช้เด็ดขาด
6.
ทำได้แค่ปล่อยสกิล ใช้การประยุกต์การต่อสู้มาช่วย สกิลเดียวใช้ได้ตั้งหลายอย่างรู้ไว้
7.
ตั้งชื่อตัวละรไม่เป็น เอาให้มันดูเข้ากะเผ่าพันธุ์ตัวละคร อย่างเผ่าเอลฟ์ชื่อจะดูแฟนตาซีขึงขังกระแดะๆนิสๆ
เช่น มัลเฟียส ออเรสต้า เผ่ามนุษย์อย่างเรียบง่ายออกหรั่งๆ เลโอ ลิมเบิร์ท หรือถ้าใครจะประสงค์ให้ตัวละครมีเอกลักาณ์
ก็แนะนำให้แถชื่อสดตามแต่ตัวเองจะต้องการ (ถ้ามา A , B , แดง , ดำ หรือ Az@ , Dek_B_Z@ จะฆ่าให้ นิยายนะไม่ใช่เกม)
8.
ชื่อตัวละครเบสิคมากๆ เรียบเรียงมาให้ดู จะได้รู้ว่าไม่ควรเอาไปตั้งเพราะจะเสียความเป็นเอกลักษณ์
พระเอก : จอร์จ , ปีเตอร์ , เฟรดดี้ , จอห์น , บอย , เอ็ด , เอ็ดดี้ , โจ , เบ็ก , บิ๊ก , แช็ค , เบน , แฮร์รี่ , วิลเลี่ยม , อัลเลน ฯลฯ
นางเอก : ซาร่า , ซูซาน , ซูซี่ , ลูซี่ , แอนนา , โอลีฟ , จูลี่ , จูเลีย , มาเรีย , มินนี่ , กิ๊บซี่ , โบว์ , เอมี่ , ลาร์ล่า , ลีน่า , เอลซ่า ฯลฯ
ตัวร้าย : ดาร์ก , ลอร์ด , เดวิ่ล , เด๊ด ฯลฯ
9.
ไม่ใช่ฝั่งไหนดีก็ดีมาก ฝั่งไหนเลวก็เลวมากเกิน พระเอกนางเอกไม่มีอาชีพพระ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตได้ กรุณาแต่งให้มันมีนิสัยชั่วบ้างเล็กน้อย
ส่วนตัวร้ายก็ต้องมีส่วนดีมีเหตุผลนิดหนึ่งเช่นกัน
10.
ตัวเอกเริ่มมาให้มันเทพน้อยหน่อย ตัวเอกนะเคอะไม่ใช่เทพเจ้าพระพุทธเจ้าเดิน7ก้าวได้ตั้งแต่ประสูติ
เริ่มมาแม่มเทพมีสกิลทำลายล้างคนชั่วหมด ชาตินี้มันจะสนุกมั้ย (แต่ฝ่ายชั่วเริ่มมายังเจือกเก่งกว่ามันอีก) มันจะดูไม่สมดุล
(ข้อ9-10 เครดิต : ทีมงานเบื้องหลัง(ผู้ซุ่มยอดเยี่ยมแห่งบอร์ด))