~12~
ฝีเท้าหนา และเรียวเล็กสับรัวกันไม่เป็นจังหวะ ในสภาพค่อนข้างถี่ พร้อมกับเสียงหอบหายใจที่ดังแฮ่กๆเป็นระยะ
ฝูงหน้าอีโล้นหน้าปลาหมออย่างที่วาเนซซี่ว่า ตอนนี้กำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ย่างไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย
"ชั้นบอกแล้วไง ว่าชั้นไม่ได้ตั้งใจ~!" วาเนซซี่ตะโกนวีนไปด้านหลัง พลางฝีเท้าที่ซอยอยู่
"หยุดเด๋วนี้นะ! รองเท้านั่นชั้นซื้อมาแพงนะว้อยยยย 50โกลด์เชียวนะ!" อีหน้าปลาหมอนั่นกล่าว พลางวิ่งไล่ต่อ
*เงิน50โกลด์ ถือว่าหาได้ง่ายมาก เป็นเงินที่เด็กเล้กๆได้เป็นค่าขนมในแต่ละวัน
"เยอะบ้านบุพการีแกสิ! ชั้นซื้อให้ใหม่ก็ได้วะ อีด_กนิ!" เนซึมิที่พลอยเป็นลูกหลงเริ่มวีนด่ากลับไปมั่ง
"แต่มันหยามที่เหยียบส้นตรีนกรู!" มันหยุดวิ่งพักหายใจ ทั้ง2คนข้างหน้าก็หยุดยืนพักเช่นกัน
"อีนี่! ถือซะว่านวดเท้าแบบแรงๆไมได้เหรอวะ!" เนซึมิได้ตะโกนด่ากลับ
"ไม่ได้! ตามพจนานุเกรียน มันถือว่าหยาม!"
"ชั้นจะไปเผาอีหนังสือนรกแตกนั่นทิ้ง!"
"ไม่ได้!"
"จะอะไรนักหนา ส้นตรีนมรึงมีดีอะไรรึไง!" วาเนซซี่เริ่มแจมวงด่าด้วยคน
"มีสิ! ไว้ใช้เดิน!"
"ถุย!!! อรีเชี่_นิ! ส้นตรีนบ้านมรึงมีไว้แดรกชะนีเป็นอาหารว่างรึไงห๊ะ!" ทั้ง2ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง
"บ้านมรึงจิ! อีตัวนึงก็ตรีนเล้ก อรีตัวนึงก็หนูตรีนใหญ่ยักษ์มหาประลัย พวกแกน่ะมัน...!!!"
"ทำไมห๊ะ! มีปัญหาอะไรมั้ย!"
"กรูตรีนยักษ์เอาไว้ยัดปากบุพการีมรึงอ่ะ สอนมาได้ไงอรีการพูดแบบสถุนเรียกพี่ ตัวเควี่ยเรียกพ่อ กระดอเรียกปู่ ปากน่ะมีไว้พูดกะแดรก
แต่มรึงมีไว้ร้องหา ผัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งวัน! ชีวิตมรึงอ่ะมีไรดี ห๊ะ!
เกิดมาหัวก็โล้น เกรียนก็เกรียน ปัญญาต่ำต้อยที่ไปเลือกอ่านสารานุเกรียนนั่น สมองน่ะไม่มีรอยหยักเลยใช่มะ ชั้นว่าหมาแถวบ้านชั้น
สมองยังมีรอยหยักมากกว่านี้เลยอ่ะ ไม่สิ เทียบกับหมาอย่างสูงไป สมองแกอ่ะมันจุลินทรีย์ที่ไม่มีประโยชน์
คนเอาไปทำนมเปรี้ยวแล้วท้องเสีย หาประโยชน์ไมได้ในชีวิต หนักโลกมากๆ อุ๊ย รู้สึกว่ามายืนตรงนี้โลกมันหนักๆเนอะ
คงเพราะมีแกอ่ะ ที่มายืนถ่วงโลกแบบไร้ค๊า ไร้ค่าอยู่ตรงีน้ ว้ายๆ หน้าไม่อาย
อีกะหรี่ หาผัว ญาติมรึงขายตูดเป็นกิจวัตร เต้นอาร์โกโก้รูดเสาเย้ๆในยบาร์ผับไม่เลิก
ชะนี แรด สตอเบอแหล หน้าด้านขั้นขนาดศรียังทนไม่ได้ ฉาบด้วยเหล้กกล้าผสมไส้ปลาหมอ อีหน้าปลาหมอ!
หน้าปลาหมอ!
หน้าปลาหมอ!!!
หน้าปลาหมออออออออ!!!"คำปิดฉากประโยคการด่าขั้นสุดท้ายของเนซึมิ คำว่า "หน้าปลาหมอ" ทำให้ฮีเริ่มจะชอกช้ำใจอย่างแรง ส่วนคนที่เหลือที่ไดสดับฟังคำด่าสารพัด
บางคนที่บรรลุพระหันละโคตรคี(ผวน)จากคำด่านี้ ก็ตายHaไปผุดไปเกิดเป็นชะนีข้างทางกันเป้นแถว
ส่วนวาเนซซี่ที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับอึ้งอ้าปากค้างกับคำด่าสารพัดที่ตนไม่เคยได้ฟังจากที่ไหนมาก่อน
เนซึมิหันมา ชี้นิ้วไปที่หัวหน้าแก๊งปลาหมอ ที่กำลังทรุดฮวบหมดกำลังใจพลางส่งซิกกัน ประมานว่า
"อีนั่นมันแพ้คำนี้เต็มๆเลยว่ะ"
"งั้นพูดซ้ำๆรัวๆ"
"โอเคจ้ะ 3 2 1"
"หน้าปลาหมอ~"
"ปลาหมอว่ายอยู่ในทะเล~"อี2ตัวนี้ เริ่มเปิดวงพูดคำแทงใจใส่หัวหน้าแก๊งหน้าปลาหมออย่างถี่รัวยิบ (ดัดเสียงแบบกระแดะด้วย)
ทำให้ฮี ทน ไม่ ได้!
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"มันกรีดร้องอย่างหวยหวน ก่อนที่สมองอันเท่าเม็ดถั่วจะระเบิดออกมาลอยกระทบพื้น ดัง แผละ!
ร่างของฮีค่อยย่อยสลายไปเยี่ยงจุลินทรีย์แสนไร้ค่าไปตามกาลเวลา (อนาถแท้)
ส่วนลูกน้องที่ได้ดวงตาแห่งกรรม จึงพาลกันกระโดดตึกแถวนั้นตายHaแบบอนาถไปตามๆกัน
วาเนซซี่ค่อยๆหันมาทางเนซึมิ ก่อนที่จะ...
"ยอดมากกกกก ไอหนูยักษ์เพื่อนเลิฟ!!!!" หล่อนตะโกนดีใจ จับมือถือแขน ก่อนที่จะกลับเข้ามาขรึมๆอย่างเดิม
"เปลี่ยนอารมณ์ไวจัง- -" เนซึมิบ่นพึมพำ
"เกิดมาชั้นยังไม่เคยฟังคำด่าที่ยาวเหยียดแล้วก็จี๊ดขนาดนี้มาก่อนเลย ถ้าดดนด่าเองชั้นคงหมดใจอาลัยตายเหมือนอีปลาหมอนั่นแหงๆ- -"
วาเนซซี่เอ่ยขึ้น ประมานความหมายไม่ถูกว่าด่าหรือชมกันแน่
"เหรอ? ชั้นใช้ประจำอ่ะ=_="
"มีแบบมะกี้บ่อยๆก็สนุก...จัง..." ยังไม่ทันที่วาเนซซี่จะเอ่ยครบประโยค เธอก็ล้มลงไปนอนกับพื้นเสียแล้ว
"อ้าว เฮ้? เป็นอะไรไป พาไปพักในที่ร่มๆหน่อยดีกว่า" เนซึมิบ่นอุบอิบ พลางลากวาเนซซี่ไปใต้ร่มเงาต้นไม่ใหญ่
"ที่นี่ มันไม่ปกติแน่ๆ..."1ช.ม.ให้หลัง
"อือ~" วาเนซซี่ครางเบาๆแบบคนง่วงนอน ก่อนที่จะลุกขึ้นมาหาวหวอดๆ
แล้วหันไปด้านข้างเจอหนูยักษ์ตัวเดิมนั่งแทะเมล็ดทานตะวันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
"เอาป่ะ?" มันกล่าวประโยคเดิม ในขณะที่อยู่ในอิริยาบทแดร๊กเมล็ดทานตะวัน
"ก็ดีนะ=_=" เธอพยักหน้าพร้อมยื่นมือรับเมล้ดทานตะวันมาใส่ปากเคี้ยวกรุบๆ
"อร่อยมะ- -" เนซึมิเอ่ยถามพลางในปากตนก็เคี้ยวเมล็ดทานตะวันกรุบๆอยู่
"ไม่เชิงนะ แต่มันไม่ใช่อาหารหลักคนอยู่แล้วนี่นา" เธอหันมาตอบ พลางเคี้ยวเมล็ดทานตะวันไปด้วย
"ว่าแต่ นี่ชั้นสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"ก็หล่อนอ่ะ ระหว่างพูดกันอยู่เฉยๆ หล่อนก็สลบไปดื้อๆเลย" เนซึมิตอบอย่างฉะฉาน
"ได้ยังไง? ชั้นยังไมได้รับบาดเจ็บจนเกิดเลือดอะไรนี่นา? ถ้าไม่เป็นโลหิตจางแล้วมันเพราะอะไร?" ความฉงนเริ่มผุดขึ้นในหัวของเธอ
"นั่นสินะ..." เนซึมิกล่าวตอบอย่างครุ่นคิด
"ชั้นว่า..."
"?"
"ตามที่ชั้นอ่านมาจากเอกสาร การแตกของพลังอัญมณีที่ถือเป็นแกนหลักของการดำรงสภาวะของโลกนี้
อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง กับการดำเนินชีวิตในโลกใบนี้ด้วย" เนซึมิกล่าวเชิงสันนิษฐาน
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?"
เนซึมิส่ายหน้าไปมา ก่อนที่วาเนซซี่จะเหลือบมองไปที่นิ้วตัวเอง
นัยน์ตาคมสวยได้เบิกโพล่งออกมา พร้อมกับหัวที่หันขวับไปทางคู่สนทนาทันที
"ดูที่นิ้วสิ!" เธอชี้ไปที่ปลายนิ้วของตน ประมาน1ส่วน4ของตัวเล็บ พบว่ามันสามารถมองทะลุได้เนืองๆ
ซึ่งเมื่อเนซึมิสำรวจตนเองก็พบว่า ปลายนิ้วของเขาก็เป็นเช่นนี้เมหือนกัน
"หมายความว่า..." วาเนซซี่หันมาช้าๆพลางเงหื่อที่เริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
เนซึมิพยักหน้าก่อนที่จะสรุปความ
"เรามีเวลาจำกัดในโลกใบนี้ และเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้กลับไปที่โลกเดิม!"
ยุ่งมากๆ เพิ่งกลับมาจากปีใหม่ พรุ่งนี้ต้องไปค่ายลูกเสืออีก3วัน นี่รีบถ่อมาแต่งอาจสั้นย+เละไปหน่อยขออภัยนะจ๊ะT^T
ป.ล. พรุง่นี้ไปค่ายลูกเสืออีก3วัน วันศุกร์เจอกัน=_=/