Chapter 20 ขอมีความสุขซักวัน...
วันนี้ฉันตื่นตี 5 ขอให้แม่ไปส่งที่โรงเรียนเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ทันทีที่ไปถึงก็เดินตามหามด แล้วก็เจอจนได้
"เดี๋ยวอีก 10 นาทีรถก็จะมาแล้ว"ฉันบอกพลางผูกเชือกรองเท้า ก่อนจะหันไปหามด
"หนาวมากหรอ ? เสื้อกันหนาวตัวใหญ่เชียว"ฉันแซวเล็กน้อยเพื่อข่มอารมณ์เศร้า มดยิ้มนิดๆอย่างขัดเขิน
"ก็..ไม่รู้นี่ว่าที่เลยจะหนาวเท่าไหร่เลยเอามาด้วย แต่แกอ่ะ บางๆแบบนั้น ไม่หนาวหรอ"ได้ทีที่มดเล่นกลับบ้าง แต่ฉันยิ้มแล้วบอกว่า
"ไม่หรอก.."
ไม่นาน รถก็มาถึง พวกเราเช็คชื่อและขึ้นรถทันที ก่อนครูจะแจกเงินค่าอาหารจำนวน 50 บาท ชิ-_-
"เดี๋ยวเค้าไปนั่งกับเพื่อนข้างหน้าแปปนะ เอาหนมมั้ยเดี๋ยวไปเอาให้"มดยิ้มเจ้าเลห์ แต่ฉันส่ายหน้าไม่เอา
"ไม่หิวอ่ะ..ไปเถอะ อยากนั่งคนเดียวพอดี"
"อืม.."
หลังจากที่มดไป รถก็เคลื่อนตัว ฉันหันไปมองริมทางหน้าต่าง คำพูดที่อาจารย์บอกบางคำก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ก่อนจะถอนหายใจเสียงดังเฮือกใหญ่
เอาล่ะ..มาเที่ยวก็ต้องสนุกสิ..จะเครียดไปทำไมกันยัยฟองต์
หลังจากบ่นตัวเองในใจก็กลับมาฟังอาจารย์พูดต่อ แต่ก็พูดถึงคราวแนะนำสถานที่ และตลกแทน
ซึ่งเราต้องไปรับอาจารย์อีกท่านมาขึ้นรถด้วยซึ่งเขาอยู่ที่อุดรธานี นั่นเป็นทางผ่านสามารถรับได้ง่ายๆไม่เสียเวลา
ฉันชะเง้อหน้าขึ้นไปมองเพื่อนผู้หญิงร่วมห้องบางคน ซึ่งอาจารย์เปิดเพลงให้เต้น-ร้องตามสบาย ทุกคนบนรถสนุกสนานมีแต่ฉันนั่งเงียบอยู่คนเดียว
ถึงฉันอารมณ์ดีกว่านี้ก็ไม่มีทางไปเต้น+ร้องเด็ดขาด !!
เพราะฉันเต้นไม่เป็น..เสียงร้องเพลงก็ห่วยแตก แหลมจนลิงป่ายังอาย..T_T
พวกผู้หญิงที่มาด้วยคราวนี้มีแต่คนสิบเอ็ดร.ด. ฉันเบะปากนิดหน่อยเมื่อเห็นพวกนั้นกำลังเต้นอย่างเมามันส์ และหัวหน้าห้องผู้หญิงกำลังเต้น "ยั่วผู้ชาย"
ย้ำนะ ว่า เต้น "ยั่วผู้ชาย" ด้วยการทำท่าเซ็กซี่แล้วไปข้างๆผู้ชาย ..เหอะ..เซ็กเสื่อมมากกว่ามั้ง หน้าตาแบบนี้ ยัยมิ่งดูสว่างขึ้นมาทันตา
หลังจากรับอาจารย์เสร็จ พวกเราก็เดินทางต่อ มุ่งสู่เมืองเลย มดกลับมานั่งที่ก่อนจะเอาขนมมาให้ แต่ฉันกลับปฏิเสธเหลือหลายจนมดบอกว่าขอไปนั่งด้านหน้าสักครู่
หลังจากปล่อยตัวไปแล้ว ฉันจึงนั่งเงียบอีกครั้ง พลอย เพื่อนอีกคนที่ไม่เห็นแก่ตัวเลย แต่ไม่สนิทกันมากมานั่งที่ พวกเราคุยกันไปมาสุดท้ายก็สนิทกัน เธอเป็นคนนิสัยดี พูดเก่งและยิ้มสวย
"ไม่เต้นหรอฟองต์ ?"พลอยถาม แต่ฉันส่ายหน้า
"ไม่เอา ไม่มีอารมณ์เต้นแร้งเต้นกาเหมือนพวกนั้น"ฉันโบ้ยหน้าไปทางพวกฝิ่น
"ฮะฮะ ก็เหมือนกันแหละ เต้นแบบนั้น ไม่แก้ผ้าเลยล่ะ"พลอยจิกกัด มดจึงกลับมานั่งที่ คราวนี้เลยมีสามที่นั่งทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจขึ้น
รถเคลื่อนตัวถึงจังหวัดหนองบัวลำภูในเวลา 7 โมงเช้า นับว่าช้า แต่รวดเร็วสำหรับพ่อ(และฉัน-_- ขับขนาดทีนผียังอาย)
แชะ..แชะ..
ฉันถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ ฝนหยุดตกแล้ว แดดทอแสงเบาๆ แล้วพลอยก็ชี้นิ้วไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"โห ฟองต์ดูภูเขาลูกนั้นสิ สวยอ่ะ"ฉันมองตามนิ้วเธอ มีภูเขาสีเขียวอ่อนออกเข้มเล็กน้อย มีเมฆปกคลุมตรงกลาง มีแสงแดดทอแสงเล็กน้อย
"โห สวยจริงๆ ถ่ายเร็วๆ"มดเร่ง ฉันจึงรีบคว้ากล้องมาแล้วเตรียมถ่าย แต่ว่ารถก็เคลื่อนจากไปซะแล้ว..
"ว้า ถ่ายไม่ทันจนได้"พลอยหน้าหงอ ฉันยิ้มแฉ่งพลางตบบ่า
"เอาน่า ยังมีอีกเยอะ"
รถเคลื่อนผ่านสถานีตำรวจและสวนสาธารณะ ก่อนจะเลี้ยววน แล้วก็จอด
"ขณะนี้ถึงอนุสาวรีย์พระนเรศวรมหาราช ขอให้นักเรียนลงไปสักการะ กราบไหว้ ถ่ายรูปที่ละลึก และลงไปตักบาตรพร้อมๆกัน"
"เอ๋ ?"
"ตักบาตรหรอ ?"
"ไม่ได้มีอยู่ในรายการนี่นา ?"
"ของก็ไม่ได้เอามาอ่ะ"
ทั้งรถส่งเสียงเซ็งแซ่ แต่สุดท้ายก็ยอมลงไปอยู่ดี พวกเราเดินไปอนุสาวรีย์พระนเรศวรมหาราช หลังจากกราบไหว้เรียบร้อย ก็ไปตั้งแถวเตรียมตัวตักบาตร แต่ในใจยังหวั่นๆ..ไม่มีของนี่นา หมดทุกคนเลย
แต่แล้วพอแถวเดินก็เข้าใจ เขาแจกของให้.. พวกเรารับของกันคนละถุงคนละถุง ก่อนจะเดินไปนั่งบนเสื่อ เนื้อคล้ายๆเสื่อทาทามิของญี่ปุ่น
แฉะ..
พอนั่งลงไปน้ำก็ทะลักออกมาจากเสื่อ น้ำฝนนั่นแหละ.. รอบกายเรามีเด็กโรงเรียนอื่นอยู่ด้วย ทั้งเนตรนารีและลูกเสือ แต่ก็ยังมีผู้เฒ่าผู้แก่นั่งรอบกาย ไม่เว้นแม้แต่คนวัยกลาง
นานๆทีจะทำบุญ..ครั้งนี้ขอให้จิตใจสงบหน่อยละกัน..
หลังจากนั่งฟังพระสวด ก็เริ่มการใส่บาตร เพื่อนๆรีบใส่อย่างรวดเร็วจนตามไม่ทัน หลังจากหมดแล้วก็มองรอบกาย..อะเฮ้ย ! ไปกันแล้วนี่หว่า แต่ยังวิ่งเล่นแถวๆนี้อยู่เลย เลยเอาถุงไปทิ้งขยะ ก่อนจะเดินขึ้นรถพร้อมๆมดและพลอยที่รอเราอยู่
รถเคลื่อนตัวออกพร้อมพวกฝิ่นที่เอาอาหารมาล่อเช่นพวกซาลาเปา หล่อนกินหน้าตัวเองไปก่อนเถอะ อ้วนอย่างกับซาลาเปา
เนื่องจากเรานั่งท่าเทพธิดา ทำให้เข่าที่ใส่กางเกงอยู่เปียกน้ำไปหมด แอร์บนรถก็เย็นเลยต้องห่มผ้าห่ม
แต่แล้ว..บรรยากาศแบบนี้..ง่วงนอนจังเลย...
ฉันใช้เวลาหลับไป 2 ชั่วโมง ขณะนี้เวลา 9 โมงเช้า รถยังเคลื่อนไปตามทาง รอบข้างมีหมอก..หรือเมฆ
ไม่ได้พูดผิด พวกเราขึ้นบนเขาสูงชันมากเลยทำให้เห็นเมฆ คล้ายหมอก ..เพิ่งรู้ก็วันนี้แหละ
ไม่นานรถก็เคลื่อนที่เข้าคุนหมิงเมืองเลย มีหินผาสูงชันไปหมด ดูแข็งแกร่ง ทำให้ฉันเอียงคอ..
หินผา ที่ยืนหยัดอยู่บนท้องฟ้า แข็งแกร่ง และไม่พังทลาย..มันก็คล้ายๆกับฉัน..สมัยก่อนนั้น
พวกเราลงไปถ่ายรูปอย่างสนุกสนานทั้งๆที่ใจฉันยังว้าเหว่ แต่ว่ามาเที่ยวก็ให้ความรู้สึกว่ามันสนุกจริงๆนั่นแหละ..
พวกเราเดินท่องป่าชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ มองหินโน้นมองหินนี้ มองธรรมชาติอย่างมีความสุข
ฉันรักธรรมชาติ..รักต้นไม้..กลิ่นไอธรรมชาติมันทำให้รู้สึกดี..
ทำไมคนสมัยนี้มันต้องตัดต้นไม้ด้วยวะคะ-_-' เดี๋ยวแม่เอาเลื่อยเสยหัวเลยนิ
พวกเราถ่ายรูปต่างๆจนกระทั่งหมดระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ทำไมมันสั้นจริง=_=
ในที่สุดก็ถึงปลายทาง พวกเราซื้อของฝากกันอุตลุต แต่เป็นร้านค้าที่ทำจากไม้ บางร้านก็ขายสมุนไพร ของฝาก พวงกุญแจใบไม้ใส่กรอบบ้าง อะไรบ้าง
ฉันเดินไปชิมชาสมุนไพรที่เขาจัดวาง ก็พบว่ามันมีรสชาติดีมาก
"หวานจัง.."แต่ก็ชุ่มคอดี
"ถุงละกี่บาทคะ ?"ฉันถาม เขาตอบมาว่า 40 ฉันหยิบมาดูก็พบว่าเยอะมากเลยจัดการผลาญตังค์ ก่อนจะเดินไปนั่งบนศาลาซึ่งอาจารย์บอกว่าให้รอรถอีแต๊กมารับลงเขา=_=;
"ฟองต์มาดูนี่เร็ว ๆ"พลอยเรียก ฉันเดินไปหาแล้วนั่งยองๆก็พบแมวตัวหนึ่งกำลังคลอเคลียพลอย เป็นเพศเมีย ขนสีขาวงาม พอมันเห็นฉันก็กระโดดขึ้นตักทันที
"เชื่องจังเลย ทำไมจู่ๆก็กระโดดขึ้นตักล่ะ"ฉันลูบขนมันแล้วเกาคาง แต่พลอยยิ้มนิดๆ
"แกลืมไปแล้วหรอว่าแกมีสัมผัสที่หกที่สามารถสื่อสารกับสัตว์ทางโทรจิตได้"เธอเอียงคอเล็กน้อย แววตานั้นว่างเปล่าเมื่อจ้องลึกลงไป..
เธอรู้ได้ไง..ฉันยังไม่มั่นใจสักหน่อย
"ฮะฮะ ล้อเล่นน่า คงมีกลิ่นแมวติดตัวแกล่ะมั้ง"
คาวาอิสินะ..
ในที่สุดรถอีแต๊กก็มาถึง=_=; พวกผู้ชายทำท่าจะขึ้น พอเห็นผู้หญิงต่างๆก็บอกว่า
"ขอผู้ชายขึ้นก่อนเถอะคร๊าบบคุณสุภาพสตรี"
"โหย ไอ่คุณสุภาพบุรุษ ให้สุภาพสตรีขึ้นก่อนได้มั้ยเคอะ !"เพื่อนอีกคนโต้กลับ
"ไม่ต้องพูดมาก ขึ้นๆไป"ฉันบ่น พวกนั้นเลยขึ้นไป จึงเหลือผู้ชายไม่กี่คนกับผู้หญิงไม่กี่คน ไม่นานรถก็มา เมื่อจอดฉันรีบกระโดดขึ้นไม่รอใครทันที
"โห เร็วนี่นา"มดบ่นก่อนจะขึ้นตามมาบ้าง รถค่อยๆออก พวกเรามองดูรอบทาง ครูให้เวลา 1 ชั่วโมงกินข้าว - ซื้อของฝาก ซึ่งรถจะออกตอนบ่าย 1
พวกเราเดินดูของฝากไปเรื่อยๆจนฉันเจอดาบไม้..
"กี่บาทคะ ?"
"ในเมื่อพวกหนูสนใจซื้อ ความจริงราคา 400 บาท แต่ยายจะลดให้เหลือแค่ 30 บาทนะ"
"หา ! มันจะไม่ขาดทุนหรอคะ ? 30 บาทเองนะ ลดตั้งเยอะ"ฉันทำหน้าเหวอ แต่ยายเขายิ้มแล้วส่ายหน้า
"ไม่หรอก ยายก็ปลูกผักพืชสวนครัวอยู่รอดตัวเองได้ ปลูกข้าว น้อยคนนักท่องเที่ยวจะมาเยือนและซื้อ ถ้าหนูซื้อ ยายลดให้ 30 บาทนะ"
โห ! ไม่เอาไม่รู้ด้วยแล้ว !!
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"ฉันจ่ายเงินก่อนจะหยิบดาบไม้มาพิจารณา
ดาบไม้ทำอย่างประณีต..น้ำหนักคงที่ไม่หนักไม่เบามาก..
พวกเราเดินขึ้นรถ แต่ก็อายๆเหมือนกันที่เดินถือดาบไม้จนเพื่อนแย่งจะจับ แต่ฉันก็ไม่ยอม ห้ามมีรอยขีดข่วนเลยนะเฟร้ย=[]=
ทันทีที่ขึ้นรถก็กินขนมที่ซื้อจากเซเว่นเมื่อตอนขามา ก็พบเพื่อนชาย "อาร์ท" เดินขึ้นมาพร้อมดาบแท้
"เฮ้ย แกซื้อหรอ"ฉันลุกขึ้นถาม
"ใช่ คนที่นี่ใจดีมาก จาก 1000 เหลือแค่ 130"
"ชั้นก็เหมือนกันแต่ดาบไม้ นึกว่ามันแพงไม่มีเงิน ก็เลยไม่ได้ซื้อ"ฉันบอก
"ยังไงก็ลองชักดาบดูสิ"ฉันพยักหน้า แต่ก็สำรวจภายนอกก่อน
" Kashira ท้ายด้ามทำจากโลหะผสมชั้นดี Fuchi ทำจากโลหะผสมชั้นดีเช่นกัน ทำรูปกงล้อเพลิงไว้ด้วยถึง 3 วง ตัว Menuki ทำจากโลหะผสม ชุบทองเงา ฝักเป็นสีดำด้าน พ่นทรายเงา"ฉันบอกก่อนจะชักดาบออกไม่สนใจหน้าเหวอๆของอาร์ทที่ฉันรู้ละเอียดขนาดนี้
"ใบดาบทำจาก Foldedsteel ทั้งใบ มีลวดลายที่อยู่บนใบดาบ ดูดีมีเสน่ห์ เส้น Yokote เห็นได้ชัดเจน"ฉันบอกก่อนจะเอาดาบเข้าฝักแล้วส่งคืน
"อืม..ฉันคงต้องมองเธอใหม่แล้ว"อาร์ทบอกก่อนจะหันหลังไป
"แต่นี่ไม่ใช่ดาบจากญี่ปุ่น"ฉันบอก ทำให้อาร์ทชะงัก
"เพราะถ้าเกิดเป็นของญี่ปุ่นราคาจะแพงมาก เพราะถือเป็นของประจำชาติเขา"
"เก่งจริงๆ"เขายิ้มให้พลางปรบมือ ฉันยิ้มให้คืน สุดสายตาของฉันคือดาบเล่มนั้น
หลังจากนั้นไม่นานรถก็ออก เริ่มการจับรางวัล ปรากฏว่าพลอยได้รางวัลเป็น..ลูกฟุตบอล=_=;
แอร์รถคันที่ 1 เสีย จอดรถไม่ได้ ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ประมาณ 4 โมงเย็นพวกเราก็ถึงวัดถ้ำเอราวัณ ขึ้นบรรได 662 ขั้นจะถึงถ้ำเอราวัณที่อยู่ชั้นบนให้กราบไว้พระพุทธรูปที่มีองค์ใหญ่มาก
แต่ห้ามขอเกี่ยวกับความรัก..ไม่ฉะนั้นคนที่ขอจะโดนตะขาบกัดทุกคน
ทุกคนขึ้นบรรไดไปอย่างตื่นเต้น แต่ฉัน พลอย และมดหยุดซื้อน้ำก่อน ซึ่งเป็นโกโก้ ก่อนจะขึ้นไป
ขึ้นไปไม่นานพวกเราก็เหนื่อยหอบ..ทำไมมันเยอะอย่างงี้ ถ้าลงมาก็เป็น 662 * 2 ... 1324 ขั้น โอยตาย..
บางขั้นก็มีตะขาบด้วยใหญ่ยักษ์จนฉันสะดุ้ง ในที่สุดก็ถึงถ้ำ ที่เพดานมีน้ำจากน้ำฝนไหลออกมา เย็นชุ่มฉ่ำ
มีทางให้เข้าไปอีก เพื่อนๆคงอยู่ในนั้น แต่จู่ๆก็กรูกันออกมาจนฉันถาม
"อ้าว ? มีอะไรทำไมออกมากันล่ะ"
"ครูบอกว่าไม่ต้องเข้าไปเผื่อหลงแม้จะมีแสงไฟก็เถอะ อีกอย่าง ถ้าหลงแล้วออกมาไม่ได้เพราะในนั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ คนที่หลงถ้าออกมาได้ก็โชคดี"
"อ๋อ.."ฉันบอก ทุกคนเดินออกจากถ้ำลงไปซื้อของกิน ไม่นานเพื่อนชายอีกคนก็เดินเข้ามา ฉันจึงเตือน ก่อนจะหันไปมองพลอยและมดที่กำลังออกจากถ้ำ ฉันจึงหันไปเรียก แต่ก็พบว่ากำลังยืนเล่นน้ำที่ออกจากถ้ำอยู่=[]=
ฉันซื้อขนมมากินก่อนจะขึ้นรถแล้วผล็อยหลับไป ตื่นขึ้นมาอีกทีทุกคนก็ทะเลาะกันแล้วทั้งชายทั้งหญิงแบ่งแยกสองฝั่ง
แต่ฝ่ายหญิงมันอยู่หน้า ฝ่ายชายมันอยู่หลัง ที่นั่งฉันก็อยู่หลัง เง้อ=[]=
ถึงแม้พวกผู้ชายจะไล่ฉันไปด้านหน้า แต่ฉันก็ยังดื้อ ตรูไม่ปายย ตรูจะอยู่ !!
ไม่นานรถก็ถึงโรงเรียน ฉันเดินขึ้นรถกลับบ้านทันทีอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดู
สายเรียกเข้า
ออม (27)
เฮ้ย !! O[]O