บทที่ 12 ผู้สอนคนใหม่
ในค่ำคืนนั้น ที่พวกเขาได้ต่อสู้กับคาริเบียสอีกครั้ง
“นาย .. นายโดนเลือกให้เป็นตัวแทนเทพดินงั้นหรอ” ดรีมมี่ ถามขึ้นหลังจากที่พวกเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
คาสพยักหน้า มือของเขายังคงจูงมือของดรีมมี่อยู่
“ทำไมคาสถึงไม่บอกชั้นละ”
“ก็ .. ธรนีสไม่ให้ชั้นบอกใครน่ะสิ” แล้วก็ไม่พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งถึงบ้านของดรีมมี่ พวกเขาต่างโบกมือลาให้กัน
ก่อนที่จะกลับทางใครทางมัน
..ณ หน้าบ้านของเนจัง..
ฟรี่ซซี่ลอยละล่องไปยังชั้นบนเพื่อกลับไปอยู่ในอ่างปลาเหมือนเดิม เนจังเปิดประตูบ้านออกและก้าวเข้าไป
“กลับมาแล้วค่า” เนจังพูดขึ้นโดยที่ยังก้มหน้าถอดรองเท้าผ้าใบที่เปียกชื้นของเธอออก
“ไปตากฝนมาอีกแล้วใช่มั้ย” เมื่อเนจังเงยหน้าขึ้นมา พบหญิงสาวที่ค่อนข้างชราผู้เป็นแม่ของเธอยืนกอดอกอยู่
เธอมีสีหน้าที่ค่อนข้างบูดบึง
“แต่หนูก็ไม่เป็นหวัดนี่คะ” เนจังพูดเสียงเรียบ และทันทีที่เธอเดินผ่านประตูห้องครัว
มีสิ่งหนึ่งในห้องครัวที่สะดุดตาของเธอ เนจังก้าวถอยหลังกลับมาดู เพื่อมองดูให้แน่ชัด
เธอไม่ได้ตาฝาด ร่างของเด็กอายุ 10 ปี ผิวสีคล้ำผมค่อนข้างหยิกใส่เสื้อลายทางสลับสีขาวกับสีฟ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาคือ เฮมัส แน่นอน
“นี่นาย !”
“โอ้ใช่ ข้าเอง”
“ทำไมนายไม่กลับไปหาแอลลาเจสละ !! แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ข้าก็ปีนเข้ามาทางหน้าต่างน่ะสิ อ้ะ ๆ เจ้าจะถามละสิว่าพ่อแม่เจ้ารู้หรอไม่ คำตอบคือ ไม่รู้ ข้าแอบปีนเข้ามา”
“นี่นายต้องกลับไปหาแอ ..”
“คุยกับใครหรอลูก” เสียงพ่อของเธอดังแว่วมาจากห้องรับแขก เธอหันไปตามที่มาของเสียง
“อ .. เอ่อ ..ไม่ได้คุยกับใครค่ะ !” เธอพูดปด แต่เมื่อเธอหันหน้ามาอีกที เฮมัสหายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเก้าอี้ที่ปราศจากผู้นั่ง
“เฮ้อ .. ชั้นอยากรู้จัง เจ้าเด็กนั้นเที่ยวแอบเข้าบ้านคนอื่นแบบนี้หรือปล่าวนะ” เนจังพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะเข้าไปในห้องน้ำเป็นชั่วโมง
..ในวันเสาร์..
แสงรุ่งอรุณส่องทอดมายังบนโลก ปลุกให้ทุกสิ่งทุกอย่างตื่นขึ้นมาจากความฝัน เลิฟโลว์ตื่นขึ้นมา มองผ่านทางหน้าต่างที่อยู่ข้าง ๆ เตียงเธอ
พบว่า น้ำท่วม เลิฟโลว์คิดว่าเมื่อคืนคงฝนตกหนัก แต่ความคิดนั้นก็สิ้นสุดเมื่อเธอลงไปข้างล่างและได้ยินข่าวที่พ่อของเธอกำลังดูอยู่พูดขึ้นมาว่า
“เมื่อคืนนี้มีฝนตกหนักกระหน่ำ ส่งผลทำให้น้ำท่วมไปทั่วโลก แต่ที่น่าแปลกคือ น้ำเหล่านั้นมีรสเค็มเหมือนน้ำตาของคนเรา
บางคนบอกว่า มันคงดูดน้ำทะเลขึ้นมาแทน แต่บางคนก็ค้านว่าน้ำทะเลเค็มกว่าน้ำตาของคนเราเกินไปบ้าง เรื่องนี้ยังไม่สามารถทราบที่มาได้
ข่าวต่อไป .. เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.04 นาฬิกา ได้มีโจรคนหนึ่งบุกธนาคารแห่งหนึ่ง ..” เธอรู้ทันทีว่าแอลลาเจสต้องร้องไห้จนน้ำท่วมโลกแน่ ๆ
“ให้ตายเถอะ ! นี่เธอร้องไห้จนน้ำท่วมโลกจริง ๆ หรอเนี้ย” เธอพูดเบา ๆ กับตัวเองก่อนที่จะถูกแอลลาเจสเรียกไปที่ห้องสีเหลืองที่โรงงานของแอลลาเจส
พวกเขาอยู่ที่นั้นพร้อมหน้าพร้อมตาและแน่นอน อยู่ในสภาพที่ใส่ชุดนอน
“เมื่อไหร่จะมีการเตือนนะว่าจะเรียกตัวมาน่ะ !!” เคนจิบ่นขึ้น
“พวกเธอได้ฟังข่าวเมื่อเช้านี้มั้ย” เลิฟโลว์ตั้งคำถามขึ้น
“ฟังสิ ! ชั้นว่านี่ต้องเป็นน้ำตาของแอลลาเจสแน่ ๆ เลย” เนจังตอบกลับ
“ชั้นว่ามันออกจะโอเว่อร์ไปหน่อยมั้ง .. เมื่อคืนนี้ก็ฝนตกนี่ ..” คาสว่า
“แต่ฝนที่ตกนั้นอาจจะเป็นน้ำตาของแอลลาเจสนะ !” ก่อนที่เนจังจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ แอลลาเจสมาหาพวกเขาที่ห้องพอดี
ตาของเธอนั้นบวมมาจากการร้องไห้
“อรุณ .. สวัสดิ์ .. จ้ะ .. ทุกคน” เสียงนั้นยังคงสั่นเครือ และเธอพูดขึ้นอย่างหมดสภาพก่อนที่จะลงไปนอนบนพื้น
เอลฟ์งานคนหนึ่งขึ้นมา
“ไม่ต้องตกใจ เธอแค่พักผ่อนไม่เพียงพอน่ะ” เอลฟ์งานคนนั้นพูดขึ้นก่อนที่จะเรียกพรรคพวกมาช่วยยกร่างของเธอไปอย่างลำบาก
“แล้วสรุป .. เธอเรียกพวกเรามาทำไมเนี้ย !!” คาสโวยวายขึ้น
“สวัสดี” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา เสียงนั้นฟังแล้วเย็นสันหลังวาบ
พวกเขาหันหลังควับไป พบร่างชายคนหนึ่ง เขามีหน้าตาที่หล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าแสบตา ผมสีทองที่ยุ่งกระเซอะกระเซิง
“คุณเป็นใคร” เลิฟโลว์ถามขึ้น
“ข้าเป็นครูสอนคนใหม่แทนการ์เดล่า การ์เดล่าไม่สบายไม่สามารถสอนเจ้าต่อได้ และตอนนี้แอลลาเจสไม่มีภารกิจให้พวกเธอทำแล้ว ไปกับข้าเถิด”
“แต่ .. เฮมั ..”
“โอ้ เฮมัสน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาไม่อยากกลับ เจ้าจะทำอย่างไรละ ในเมื่อเจ้าตัวเขาไม่ยอม เนจัง”
“คุณรู้ชื่อชั้ ..”
“ไม่ต้องพูดอะไร กลับกันเถิด” พวกเขาเกาะกลุ่มกระซิบก่อน
“หมอนั้นหน้าตาดูไม่น่าไว้ใจเลยนะ” เนจังพูดเบา ๆ ขึ้นมา
“แต่เขาบอกมาสอนแทนการ์เดล่านี่” แฟงกระซิบกลับ
“แต่เขาอาจโกหกก็ได้นะ” เลิฟโลว์ว่า
“โอ้ จงอย่าได้ระแวงข้าไป ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก มาเถิด” เสียงนั้นราบเรียบ พวกเขาสบตากัน และยืนนิ่ง
“จริงสิ ข้าลืมแนะนำตัว ข้าชื่อ ไทม์ลิมบัส เทพแห่งเวลา เจ้าไว้ใจข้าได้ มาเถิด” พวกเขายังคงยืนนิ่ง
ไทม์ลิมบัสดีดนิ้วดังเป๊าะเพื่อเคลื่อนย้ายพวกเขา หมอกหนาห้อมล้อมพวกเขาไว้ เมื่อควันจางหายไปพบว่าพวกเขาอยู่ในสวนของการ์เดล่า
พวกเขารู้ดีว่าการ์เดล่าหวงสวนแห่งนี้มาก ถ้าเธอไม่อนุญาต เธอคงจะออกมาโวยวายใส่และจ้องฆ่าตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้กลับไร้วี่แวว
พวกเขาเริ่มคิดว่าไทม์ลิมบัสพูดความจริงเพราะการ์เดล่าไม่ได้ปรากฏตัวมาเลยแม้แต่เงา ไทม์ลิมบัสยื่นกระดาษให้พวกเขา
“อ่านสิ” เขาบอก แล้วพวกเขาก็ก้มหน้าอ่าน
ถึง .. นักรบทั้ง 5
ตอนนี้ข้าไม่สบาย ข้าป่วยหนัก ไม่สามารถจะมาสอนพวกเจ้าได้ ข้าต้องอยู่ที่เอนทรีชั่ลรักษาตัวสักพัก
อ้อลืมไป เจ้าไม่รู้จัก เอนทรีชั่ล มันเหมือนโรงพยาบาล แต่เป็นของพวกเทพแค่นั้น
ข้าได้ส่งคนไปสอนแทนข้าเรียบร้อยแล้ว เขาชื่อ ไทม์ลิมบัส เมื่อข้าหายดีแล้วข้าจะกลับไปสอนเจ้า
จาก การ์เดล่า
พวกเขาเงยหน้ามามองไทม์ลิมบัส
“เอาละ อ่านจบแล้วใช่มั้ย ข้ามีภารกิจฝึกฝนสำหรับพวกเจ้าโดยเฉพาะ” ไทม์ลิมบัสส่งรอยยิ้มที่อ่อนหวานมาให้พวกเขา
แต่พวกเขากลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นน่าสะพรึงกลัว
“ภารกิจอะไรหรอครับ” ในที่สุด เคนจิก็ถามขึ้นมา
“จงไปตามหา ขวานใหญ่โลกาพินาศ มา” ทันทีที่พูดชื่อขวาน พวกเขาสะดุ้งทันที ยกเว้นไทม์ลิมบัส
“เอ่อ .. ขวานนั้นมันอันตรายไม่ใช่หรอคะ ดูจากชื่อ” เลิฟโลว์ถามอย่างหวาดหวั่นเล็กน้อย
“ใช่ มันอันตรายมากหากตกไปอยู่ในมือของออรินัส เจ้ารู้แล้วใช่มั้ยว่าออรินัสกำลังจะกลับมา” พวกเขาพยักหน้า
“ดีมาก จงไปตามหาก่อนที่ออรินัสจะกลับมา” พวกเขาสบตากันอีกรอบก่อนที่แฟงจะถามว่า
“มันอยู่ที่ไหนละครับ”
“หุบเขาปิศาจ” ไทม์ลิมบัสพูด
“ข้าจะส่งพวกเจ้าไปยังที่แห่งนั้น โปรดกลับมาอย่างปลอดภัย”
“ด .. เดี๋ยวสิ !! พวกเรายังอยู่ในชุดนอนเลยนะ จะให้พวกเราไปสู้กับปิศาจด้วยสภาพนี้น่ะหรอ” เลิฟโลว์ค้านขึ้น
“โอ้ใช่ ข้าลืมไปเสีย” ไทม์ลิมบัสดีดนิ้วดังเป๊าะ กลุ่มหมอกห้อมล้อมตัวพวกเขาอีกครั้ง ทันทีที่หมอกจาง
พวกเขาอยู่ในเกราะนักรบเต็มยศพร้อมกับอาวุธประจำตัวของพวกเขาในมือ
“โอเค ! ส่งพวกเราไปเลย” เนจังพูดอย่างมั่นใจ
“ขอให้โชคดี” ไทม์ลิมบัสอวยพรก่อนที่จะถูกไทม์ลิมบัสส่งไปยังหุบเขาปิศาจ ..