จริง ๆ อยากจะให้เนจังใช้อันอื่นที่ไม่ใช่ธนูนะ
แต่ถ้าจะใช้ปืนมัน เอ่อ .. ดูไม่ค่อยเท่ =_="
นึกสภาพเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ แต่ถือปืนยิงเลือดสาดกระจาย
เลยให้ใช้แต่ธนูไปก่อน = ="
บทที่ 11 โรงเก็บเรือ GN027
เท้าคู่หนึ่งวิ่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ฝนเริ่มตกโปรยปราย เมฆสีเทาปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า บดบังแสงของจันทราและดวงดาว
ในใจของเขาหวังว่า เธอจะไม่เป็นอะไรไป ฝนเริ่มตกหนัก ร่างกายที่เปียกโชกไม่ถ้อ วิ่งไปยังที่มาของเสียงอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เมื่อเขากลับมาถึง
พบประเป๋าสีดำใบหนึ่งที่เขาคุ้นเคย มีรูปคู่รักถ่ายคู่ห้อยอยู่ที่กระเป๋า นั้นคือ คาส กับ ดรีมมี่
คาสเบิ่งตากว้างทันทีที่เห็น เขานั่งคุกเข่าอย่างหมดแรงท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำและจ้องมองรูปถ่ายคู่อย่างไม่ละสายตา
น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาสีเหลืองแกมส้มอย่างไม่ขาดสาย ฝนตกหนักกว่าเดิมเหมือนท้องนภาจะร้องไห้ด้วย
แต่เพียงไม่นาน ดวงตาคู่นั้นกลับกลายเป็นสีแดงน่ากลัว ความโทสะพุ่งพล่านในตัวของคาส เขาต้องการแก้แค้นผู้ที่ลักพาตัวดรีมมี่ .. คนที่เขารักมากที่สุด
ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม สักพัก เสียงริงโทนเสียงกริ่งของเขาดังขึ้น
กริ๊งงงงงงงงงง .. กริ๊งงงงงงงงงงง ..
คาสหยิบขึ้นมาดู ชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอคือ .. ดรีมมี่ ในวินาทีนั้นความหวังผุดขึ้นมาแทนความโทสะ
แต่แล้วความหวังก็แตกสลายไปเมื่อเสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงของดรีมมี่ แต่กลับเป็นเสียงที่หยาบแข็งกระด้างของชายคนหนึ่ง
“กำลังตามหาแฟนสาวของแกรึไม่ คาส เคอร์แซง” เสียงนั้นพูดอย่างท้าทาย ความโทสะพุ่งขึ้นในตัวคาสอีกครั้ง
“แกเป็นใคร !! แกทำอะไรดรีมมี่ !!! ถ้าแกแตะแม้แต่ปลายเส้นผมเธอละก็ ชั้นไม่ไว้ชีวิตแกแน่ !!” เขาตะคอกกลับไป
“โอ้ ~ ข้ากลัวจนตัวสั่นเลย ช่วยด้วย ๆ ข้ากำลังจะโดนฆ่า !” มันพูดล้อเลียน
“ดรีมมี่อยู่ที่ไหน !!!”
“หึ อยู่กับข้านี่แหละ เจอกันที่ท่าเรือ โรงเก็บเรือชื่อ GN027 มาให้ทันก่อนที่แฟนสาวของแกจะไม่มีชีวิตอยู่ให้เจอแก”
เมื่อสิ้นเสียง คาสไม่รอช้า เท้าของเขาวิ่งไปทางท่าเรืออัติโนมัติทันที เขาชนกับร่างหนึ่งจัง ๆ
โคร้มมม !!!
มีร่าง 2 ร่างลงไปนอนอยู่บนพื้นที่เปียกแชะ
“โอย .. นี่ดูทา .. คาสหรอ” เสียงของหญิงสาวที่นิ่มนวลดั่งน้ำพูดขึ้นมา ดวงตาสีชาเย็นของเธอจับจ้องที่ร่างของคาส
คาสไม่ตอบอะไร ลุกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและวิ่งต่อ
“นี่ จะไปไหนน่ะ นี่ฝนตกนะ !!” เนจังไม่มีทางเลือก เธอวิ่งตามคาสไปจนถึงท่าเรือ คาสหันซ้ายหันขวามองหาโรงเก็บเรือ GN027
‘เนจัง รอผมด้วย !!’
“นี่ คาส .. นายมาทำอะไร .. ที่นี่” เนจังถามอย่างหอบเล็กน้อย คาสไม่ตอบคำถามของเธอ
เขาเหลือบเห็นโรงหนึ่ง GN027 และวิ่งตรงไปที่โรงเก็บเรือนั้นทันที คาสถีบประตูดังปัง ประตูไม้กระทบกับผนังไม้อย่างรุนแรงจนเกือบหัก มีเนจังและฟรี่ซซี่ตามมาติด ๆ
ในโรงเก็บเรือนั้นมีทางที่ไว้ให้เดินอยู่ข้าง ๆ แต่ตรงกลางเป็นน้ำที่มีเรือผูกเชือกไว้กับไม้อยู่
คาสกวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้วสายตาของเขาก็สะดุดกับร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง เขาจำผมสีแดงของเธอได้ .. ดรีมมี่ ..
ร่างนั้นถูกมัดไว้กับเก้าอี้และมีผ้าสีขาวปิดปากไว้ เนจังอึ้งในสิ่งที่เห็นไปสักพัก
“ดรีมมี่ !!!” คาสพุ่งตัวไปหาดรีมมี่ทันที แต่ดรีมมี่ส่ายหน้าอย่างดิ้นรนเหมือนจะห้ามมาช่วย
“ทำไมละ ดรีมมี่ ชั้นมาช่วยเธอนะ !!” คาสพูดขึ้นแต่แล้วประตูไม้ถูกปิดอัติโนมัติ มีร่างหนึ่งยืนขวางประตูไม้อยู่
ร่างนั้นใหญ่มาก พวกเขาสูงเท่าเอวของเขาเท่านั้น ดวงตาสีดำสนิทจ้องมาที่พวกเขาอย่างอาฆาต ทันทีที่พวกเขามองเห็นจมูกที่งอเหมือนตะขอ
‘นี่มัน ..’
“คาริเบียส !!!” เนจังอุทานขึ้นมา
“ข้าว่าแล้วว่าแกต้องมา ..” คาริเบียสแสยะยิ้ม
“คราวก่อนพวกเราล้มแกได้ ครั้งนี้ก็ต้องได้ !!” เนจังค้าน
“โอ้ ไม่ๆๆ ข้าแกล้งทำเป็นแพ้เอง อีกอย่างพวกแกมีแค่ 2 คน จะต่อกรกับข้าไหวเรอะ”
“3” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา เจ้าของเสียงนั้นมีดวงตาและผมสีแดง ดรีมมี่นั้นเอง
คาสแก้มัดดรีมมี่เสร็จพอดีในขณะที่คาริเบียสพูดกับพวกเขา
“แกเป็นแค่มนุษย์ มีแต่ตายเปล่า ๆ”
“ไม่ลองก็ไม่รู้” เธอรีบวิ่งตรงไปหาริเบียสอย่างรวดเร็ว คาสพยาบาลจะคว้าข้อมือเธอไว้แต่พลาด
ดรีมมี่วิ่งไปอย่างรวดเร็วแต่ไต่ขึ้นไปจนถึงหัว เธอไม่คอยท่า รีบเอาเท้าที่สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวของเธอเตะหน้าคาริเบียสไปทางขวาทันที
หน้าคาริเบียสหันไปทางขวา 90 องศาตามแรงที่ถูกเตะ ดรีมมี่กระโดดหมุนตัวกลับออกมา 360 องศาอย่างสวยงาม
“เฮ้ ! ทำไมนายไม่บอกละว่าเธอทำอย่างนั้นได้น่ะ” เนจังถามขึ้นคาสเบา ๆ
“ชั้นก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าดรีมมี่ทำแบบนี้ได้”
“เอ่อ .. ดรีมมี่ใช่มั้ย เธอฟันดาบเป็นมั้ย” เนจังต้องตะโกนถามเพราะเสียงฝนตกและลมนั้นดังมากราวกับพายุ
“เป็นสิ ! ทำไมหรอ” เนจังไม่พูดอะไร เธอคว่ำมือใส่น้ำ แล้วน้ำก็ขึ้นมาจากผิวน้ำก่อตัวเป็นรูปดาบ ดรีมมี่อึ้งกับสิ่งที่เนจังทำไปพักใหญ่
“รับ !!” เนจังโยนดาบให้ดรีมมี่ ดรีมมี่เกือบจะรับไม่ได้เพราะยังอึ้งในสิ่งที่เนจังทำอยู่
“เจ้าพวกอ่อนหัด !!!” เสียงที่เดือดดาลของคาริเบียสดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น เนจังสร้างน้ำให้ก่อตัวเป็นธนูอีกครั้ง ดรีมมี่จ้องเนจังอย่างไม่เชื่อสายตา
“นี่ อย่ามั่วแต่อึ้ง !!” เนจังพูดขึ้นเพื่อเรียกสติของดรีมมี่กลับคืนมา
“ใช้ธนูอีกแล้วหรอ” คาสถามเธอ
“ชั้นถนัดธนูนี่” เนจังยิงลูกธนูที่คมกริบจนแค่มองดูยังบาดตาได้ไปที่ขาซ้ายของคาริเบียส เลือดสีทองไหลออกมา
คาส หยิบดาบเล่มใหญ่ขึ้นมา และวิ่งไปอยู่ข้าง ๆ ดรีมมี่ ผู้ซึ่งกำลังอึ้งในสิ่งที่เห็น
“คาส ! นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ ทำไมเขาเลือดสีทอง แล้วคาสไปเอาดาบมาจากไหนแล้วทำไมเพื่อนเธอปั้นน้ำเป็นอาวุธได้ และปลาทองลอยในอากาศได้ยังไง !!”
“แล้วทำไมตาเธอเป็นสีแดงละคาส แล้ว ทำไมปลาทองพ่นน้ำแข็งได้ !!” เธอถามต่อ
“เดี๋ยวชั้นอธิบาย ตอนนี้ไปสู้กับมันกันเถอะ” แล้วคาสก็จับมือของดรีมมี่ ทั้งคู่สบตากันก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาคาริเบียสด้วยกัน
และเมื่อถึงตัวของคาริเบียสพวกเขาก็แยกทิศกันไป ดรีมมี่ไปทางขวา คาสไปทางซ้าย และเริ่มฟันตามร่างกายของคาริเบียส
‘เนจัง ! น้ำน่ะน้ำ !!’ แล้วทันใดนั้น เนจังก็นึกอะไรออกเหมือนมีคนเปิดหลอดไฟในหัวของเธอ
เนจังสร้างบาเรียใส่คาส ดรีมมี่ ฟรี่ซซี่และตัวเองขึ้นมา
“นี่มันอะไรกัน !!” ดรีมมี่ถามขึ้นในขณะที่มองไปรอบ ๆ เนจัง แบมือหงายขึ้น และเริ่มยกแขนขึ้นมาสูงขึ้น้เรื่อย ๆ
พร้อมกับผิวน้ำที่กำลังสูงขึ้นตามแขนของเนจัง น้ำก่อตัวเป็นคลื่นยักษ์ แต่คลื่นนั้นมีน้ำที่ก่อตัวเป็นหนามแหลมไปทั่วคลื่นที่เนจังสร้างขึ้นมา
“เฮ้ย ! สึนามิกลายพันธุ์หรอ !!” ดรีมมี่เบิ่งตาโตจ้องมองคลื่นยักษ์ที่เนจังสร้างขึ้นมา เนจังเลืกยกแขนสูงและปัดไปทางคาริเบียส
ซ่าาาาา .. โคร้มมมม !!
คลื่นยักษ์ถล่มใส่คาริเบียสอย่างรุนแรง โรงเก็บเรือพังเป็นเศษไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในโรงเก็บเรือแล้ว
แตพวกเขาที่อยู่ในบาเรียที่เนจังสร้างไว้ ไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนแม้แต่น้อย
พวกเขาเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเนจังถ่มคลื่นยักษ์ใส่ พบร่างของคาริเบียสลงไปนอนอยู่บนพื้น เลือดสีทองของเขาท่วมตัว
เนจังถอนบาเรียให้กับทุกคนออก และเริ่มย่องไปดูคาริเบียสอย่างผวาเล็กน้อย ม่านตาที่ปิดอยู่ ลืมตาขึ้นมากะทันหัน พวกเขาเกิดอาการสะดุ้งเล็กน้อย
“คิดว่าแค่นี้จะล้มข้าได้รึ” คาริเบียสพูดท้าทาย และลุกตัวขึ้นมา เลือดสีทองนั้นหดกลับเข้าไปในร่างกาย
ลมพัดกระหน่ำมากจนต้นไม้เอียงประมาณ 146 องศา ดรีมมี่ที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอรู้ว่าเวลานี้ต้องสู้แล้ว
ดรีมมี่กระโจนเข้าไปหาคาริเบียสพร้อมกับดาบที่สร้างจากน้ำที่เนจังสร้างขึ้นมาให้ ดรีมมี่ฟันขาของคาริเบียส เลือดสีทองกระเซ็นออกมา
คาสเหวี่ยงดาบเล่มใหญ่ของเขาใส่คาริเบียสอย่างเต็มแรง คาริเบียสส่งเสียงร้องโหยหวนไปทั่วเมือง เนจังที่สั่งให้น้ำโจมตีใส่คาริเบียสไม่ยั้งในระหส่างที่เธอยิงธนูใส่คาริเบียส
ฟรี่ซซี่กำลังพ่นน้ำแข็งออกจากปากใส่หน้าของคาริเบียสเต็ม ๆ ดรีมมี่วิ่งออกมาห่างจากคาริเบียส
“ไปไหนน่ะดรีมมี่ !!” คาสตะโกนถาม ดรีมมี่ไม่ตอบเมื่อเธอวิ่งไปสักพักหันหลังกลับมาและวิ่งอีกครั้ง
ดรีมมี่วิ่งพุ่งไปยังคาริเบียส และวิ่งไต่ตัวคาริเบียสอีกรอบเมื่อถึงหัว ดรีมมี่ไม่รีรอเธอตัดหัวของคาริเบียสทันที
ฉัวะ !!
เลือดสีทองนั้นสาดกระเซ็นไปทั่ว หัวของเขาไม่ได้อยู่บนร่างที่ใหญ่สูงตระหง่านอีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้มันอยู่บนพื้น
ดรีมมี่ทรงตัวไม่ค่อยอยู่เพราะร่างกายไร้หัวของคาริเบียสไม่มีการสั่งการอะไรอีกแล้ว ร่างกายจึงเซ
“ว๊ายย !!” ดรีมมี่อุทานขึ้นมาเมื่อเธอกำลังตกลงมาจากไหล่ของคาริเบียสที่ไม่มีหัว
“ดรีมมี่ !!” คาสทิ้งดาบเล่มใหญ่ลงกับพื้นแล้ววิ่งไถลตัวไปรับร่างของดรีมมี่ทันที
ตุ้บ !!
คาสรับร่างของดรีมมี่ไว้ทันอย่างหวุดหวิด ดาบที่ทำจากน้ำสลายตัวกลายเป็นน้ำไป ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางสายฝนที่ตอนนี้เริ่มหยุดตกแล้ว
“คาส .. น .. นี่มันเรื่องอะไรกัน ..” ดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความงุนงน สบตากับคาสที่ตอนนี้ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแกมส้มแล้ว
“เดี๋ยวชั้นจะอธิบายระหว่างทางให้ ตอนนี้ลงไปได้แล้ว ชั้นหนัก” ดรีมมี่หัวเราะคิกคักเล็กน้อย่อนที่จะลงจากบนตัวของคาส
“ดรีมมี่ ชั้นขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้นะ .. รู้มั้ยที่ชั้นไม่เจอเธอน่ะ ชั้นคิดถึงเธอมากเลยนะ !” คาสพูดจบ ดึงตัวดรีมมี่เข้าไปในอ้อมกอดของเขาทันที
ดรีมมี่กอดกลับ
“ชั้นก็คิดถึงเธอมากเหมือนกันนะ คาส” ดรีมมี่ตอบกลับและกอดคาสแน่นกว่าเดิม เนจังกระแอม
“เอ่อ .. ชั้นว่าพวกเธอคงไม่มายืนหวานกันที่นี่ทั้งคืนหรอกนะ” คาสกับดรีมมี่ผละออกจากกันแล้วมาจูงมือกันแทน
“กลับกันเถอะ” คาสส่งรอยยิ้มให้ดรีมมี่ เธอยิ้มตอบกลับมา และเดินจูงมือกันไป เนจังเดินอยู่ข้าง ๆ ดรีมมี่
และมีฟรี่ซซี่อยู่ข้าง ๆ เนจัง ในขณะนั้นควันสีดำก่อเป็นร่างผู้สวมคลุมดำอีกครั้งหนึ่งข้าง ๆ ศพของคาริเบียส
“หึ .. ดูเหมือนข้าต้องออกโรงเองแล้วสินะ ..” เขาพูดขึ้น และแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวก่อนที่จะสลายหายเป็นควันไปอีกครั้ง ..