บทเปิดตัว
บทเปิดตัวที่ 4
ตัวแทนแห่งเทพแห่งดิน
บทเปิดตัวที่ 4
ตัวแทนแห่งเทพแห่งดิน
กริ๊งงงงงงงงงง .. กริ๊งงงงงงงงงงงง ... กริ๊ .. ติ๊ด !
เสียงกริ่งริงโทนของผมดังขึ้น ชื่อคนที่โทรมาคือ ‘ดรีมมี่’ ผมกดรับสาย
“ฮัลโหวววววววว ..” คำว่า โหว จริง ๆ ผมต้องการจะพูด โหล แต่มันดั้นเป็นจังหวะเดียวที่ผมหาวซะนี่ เลยเพี้ยนไปเลย
“คาส !! ตื่นได้แล้วจ๊ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายยยยยยยย !!” เสียงสดใสของดรีมมี่ผู้ซึ่งเป็นแฟนของผมดังขึ้นในมือถือของผม
“จ๊ะ ๆ ..” แล้วเธอก็วางสายไป นี่เป็นปกติที่เธอจะโทรมาปลุกให้ผมตื่น เธอโทรมาปลุกผมทุกวัน ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและลงไปกินข้าวให้เรียบร้อย
แล้วผมเดินออกมานอกบ้าน เดินผ่านไปสักพัก พบหญิงสาวหน้าตาน่ารัก มีดวงตาสีแดงสด ผมสีแดงสดของเธอถูกมัดเป็นหางม้าเรียบร้อย
เธอกำลังยกแขนขึ้นสูงและโบกมือเรียกผม
“คาส ~~~~ !! ไปโรงเรียนกัน ~” ผมเร่งความเร็วตัวเองเพื่อไปหาดรีมมี่ และจูงมือไปโรงเรียนด้วยกัน
.. ผมละอยากจะฆ่าคนที่มันจัดว่าใครอยู่ห้องไหนจริง ๆ ผมโดนจับแยกกับดรีมมี่ซะงั้น ผมอยู่ห้อง 1 ดรีมมี่อยู่ห้อง 2 เอาว่ะ อย่างน้อยตอนพักก็เจอกันได้
โดยปกติดรีมมี่จะเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะ แต่เวลาโกรธ จะโหดบรรลัย ผู้ชายยังต้องกราบ เพราะฉะนั้นหากคุณไปทำเธอโกรธเข้า เตรียมจองวัดได้เลย
วันนี้มันน่าเบื่อจริง ๆ ที่ไม่มีดรีมมี่มานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมเวลาเรียนเนี่ย เฮ้อ !! อยากจะไปแก้รายชื่อที่บอร์ดให้ไปอยู่ห้อง 2 จริง ๆ
กว่าชั่วโมงหนึ่งจะจบ ผมรู้สึกเหมือน 1 ชั่วโมงแต่นานเป็นชาติเลย ทั้งคาบผมเอาแต่คิดถึงดรีมมี่ แม้ว่าห้องจะอยู่ติดกันก็เถอะ
เวลาเดินช้ายังกับเต่า ในวิชาการงาน ครูให้ลงไปปลูกอะไรไม่รู้ซึ่งผมก็ไม่ได้ฟัง แดดร้อนมาก !! ผมกำลังดูครูสาธิตการปลูกอยู่
ผมอยากจะรู้จัง ครูคิดยังไงมาสอนเรื่องนี้เนี่ย เรื่องนี้ผมเรียนตอน ป.5 แล้วนะ !! ผมแอบเดินออกมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่มาก มันใหญ่มากจริง ๆ นะ
ตัวผมแทบจะเท่ามดทีเดียวเมื่อเทียบกับต้นไม้ใหญ่มากต้นนี้ ผมนอนลงไปดูท้องฟ้าที่เหมือนจะสดใส
ผมเริ่มรู้สึกง่วงนอน เปลือกตาของผมมันเริ่มหย่อน ผมหลับตาไปทีนึง และเมื่อลืมตาขึ้นมาผมพบร่างชายหนุ่มคนหนึ่ง
เขาบึกบึนมาก ยังกับเฮอร์คิวลิสและตัวใหญ่ สวมชุดเกราะเต็มยศ ยังกับจะออกไปทำสงคราม มีใครปล่อยคนบ้าไว้แถวนี้หรือปล่าว เขาเท้าสะเอวอยู่เบื้องหน้าผม
ร่างกายของเขาเปื้อนดิน และยังมีเศษดินติดอยู่ เขาจ้องหน้าผมอย่างไม่กระพริบตา
“เอ่อ .. มาจ้องหน้าผมมีอะไรหรอครับ”
“คาส เคอร์แซง” เขาพูดขึ้น สงสัยคงจะเป็นครูที่มาสอนใหม่มั้ง รู้ชื่อผมซะด้วย แต่ลักษณะการแต่งตัวของเขามันไม่น่าจะใช่ครูเลย
“ครับ ?”
“เจ้า .. คือตัวแทนของข้า เจ้าคือนักรบแห่งธรณี” เอ่อ .. หัวของเขาไปกระแทกมาหรือปล่าว
“ขอโทษนะครับ ทักผิดคนแล้วหละ” แล้วผมก็รีบเดินหนีไป โดยเขายังคงจ้องผมอยู่
เขาพูดอะไรเบา ๆ สักอย่างที่ผมไม่ได้ยิน แต่เขาคงจะพูดว่า ‘ไม่ผิดแน่ ..’
.. หลังเลิกเรียน ผมพาดรีมมี่ไปส่งที่บ้าน และ โบกมือลา ก่อนผมจะกลับบ้าน เดินไปพักใหญ่ จวนจะถึงบ้านแล้วผมก็พบคนบ้าที่ผมเจอตอนวิชาการงานนั้น !!
เขายังแต่งตัวเหมือนเดิม ร่างกายยังคงเปื้อนดินเหมือนเดิม
“คาส เคอร์แซง เจ้าถูกเลือกไว้แล้ว”
“ถ้าเป็นเรื่องเดิมที่คุณบอกผมตอนวิชาการงานเมื่อกี้ เสียใจด้วยครับ จำผิดคนแล้วครับ” แล้วผมก็พยายามจะเดินหนีเขา
แต่เนื่องจากเขาตัวใหญ่ และ ทางเดินก็แคบ ร่างกายของเขาจึงบังทางเดินไว้จนผมไม่สามารถเดินไปได้ต่อ
“คาส เคอร์แซง นักรบผู้กล้าของข้า โปรดรับไว้” แล้วเขาก็ยื่นดาบที่ยาวใหญ่ และทำมาจากดิน มันดูแหลมและแข็งแรงมาก
“เอ่อ ไม่ละครับ ผมใช้ดาบไม่เป็น อีกอย่างมันอันตรายนะครับ แล้วคุณไปหามาจากที่ไหนเนี่ย !!”
“รับไว้เถิด นักรบของข้า”
“ผมไม่ใช่นักรบอะไรของคุณทั้งนั้น !!” ผมพยายามหาทางที่ผมจะเดินผ่านไปได้ แต่เขาบังไว้ซะหมด
“เจ้าต้องยอมรับว่าเจ้าคือนักรบของข้า แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
“เออก็ได้ !! แล้วคุณเป็นใคร”
“ข้าคือ เทพแห่งธรณี ธรนีส” อืม .. ชื่อคล้องจองกันดีนะ แต่ผมคิดว่าคนนี้คงบ้าไปเรียบร้อยแล้วล่ะ เหอะ เทพมีที่ไหนกันล่ะ
“รับไปเถิด คาส เคอร์แซง” แล้วผมก็ต้องจำใจรับดาบนั้นมา ไม่งั้นผมได้อดกลับบ้านแน่
“แล้วเจอกันอีก คาส เคอร์แซง” แล้วทันใดนั้น ก็มีดินผุดขึ้นมาจากพื้นดินมาครอบตัวเขาไว้
และเมื่อดินทลายลง เขาก็หายไปด้วย โอ้นี่เมื่อกี้ผมเห็นแบบนั้นใช่มั้ย !! แต่ปัญหาที่ต้องคิดหนัก คือ ผมจะทำไงกับเจ้าดาบนี่ดี !
ขืนเอาเข้าบ้าน ได้โดนพ่อแม่ดุเป็นชั่วโมง ผมตัดสินใจ โยนมันไว้กลางทางตรงนั้นแล้วดิ่งเข้าบ้านไปเลย
ผมกินข้าวและอาบน้ำ ขึ้นไปบนห้อง จะโทรไปหาดรีมมี่ แต่เมื่อขึ้นห้องไป ผมพบว่า ดาบที่ชายบ้า ๆ นั้นที่ให้มา มันอยู่บนพื้นที่ห้องของผม
ใครเอามันมาไว้ละเนี่ย !! ผมโยนมันออกนอกหน้าต่าง และดูให้แน่ใจว่าผมโยนมันออกไปแล้ว แล้วผมก็หันหลังกลับมากดเบอร์ดรีมมี่ต่อ
“ข้าว่าแล้ว เจ้าต้องทำอย่างนี้ คาส เคอร์แซง” ผมหันหลังไป พบชายคนนั้นยืนอยู่ข้างหลังผมพร้อมกับถือดาบที่ผมโยนไปเมื่อกี้อยู่ในมือ
ผมแน่ใจว่าผมโยนมันลงไปแล้วนะ !! แล้วเขาเอากลับมาได้ไง และ เข้ามาได้ยังไง !!
“นี่คุณบุกถึงห้องของผมเลยหรอ !!”
“ดาบใหญ่เล่มนี้อาจดูเหมือนดาบธรรมดาที่ทำจากดิน .. แต่พลังของมันช่างมหาศาล” เขาพล่ามอะไรของเขานะ
“ช่างเถอะ แล้วก่อนหน้านั้น ที่คุณหายไปได้ยังไง คุณทำได้ยังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น คุณเล่นกลหรอ”
“ข้าบอกแล้ว ข้าเป็นเทพแห่งธรณี ข้าสามารถควบคุมดินได้” เรื่องนี้ยังไม่จบอีก !
“จะบอกว่าผมเป็นนักรบอะไรของคุณอีกใช่มั้ยล่ะ ผมบอกไปหลายรอบแล้ว ผมไม่ใช่นักรบหรือตัวแทนอะไรของคุณทั้งนั้น !!”
“โอ้ ใช่เจ้าแน่นอน ข้าพนันได้เลย”
“เอาเถอะ พูดให้ตายผมก็ไม่มีวันเชื่อหรอก !!”
“ข้าไม่พูดหรอก แต่ข้าจะให้เจ้าดู” แล้วเขาก็เอานิ้วแตะหน้าผากของผมเบา ๆ
แล้วจากนั้นผมก็รู้สึกมึน และ เวียนหัวมาก แล้วรอบ ๆ ผมก็เปลี่ยนไป ผมอยู่ในห้องห้องหนึ่ง ในห้องนั้นเต็มไปด้วยตุ๊กตา และของเล่นที่เกลื่อนกลาดบนพื้น
และมีเปลเด็กอยู่ตรงกลางห้อง ผมเดินเข้าไปดู ผมรู้สึกคุ้นใบหน้าเด็กคนนี้มาก .. จนกระทั่งเมื่อผมมองดี ๆ ผมก็รู้ทันทีว่าคือใคร .. เขาคือ ผมตอนยังเป็นเด็กทารกนั้นเอง
ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจ เขาทำได้ยังไง และ เขาต้องการให้ผมดูอะไร และ ผมก็เข้าใจทันที เมื่อมีชายร่างหนึ่ง ที่อยู่ ๆ โผล่มาจากไหนไม่รู้ผมไม่ได้มอง
แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ใช่พ่อของผม แต่เป็นชายคนนั้นที่ผมเจอในวิชาการงาน และในห้อง เขาคือคนเดียวกัน ผมเบิ่งตาโต โตจนตาจะเท่าลูกเทนนิส
ผ่านมาตั้ง 10 กว่าปี แต่ทำไมเขายังดูหนุ่มอยู่เลย นั้นแหละที่ผมประหลาดใจ
แล้วเขาก็เดินมาถึงเปลของผม เขาเดินทะลุร่างของผมไปเหมือนเดินผ่านอากาศ และเขาก็จ้องมองผมในตอนเด็กทารกที่ยังนอนเล่นอยู่ในเปลไม่ยอมนอนซะที
แล้วเขาก็เอานิ้วแตะหน้าผากเด็ก มีแสงสีน้ำตาลอ่อน ๆ เรืองแสงออกมาที่ปลายนิ้วเขา และแสงนั้นก็ไหลเข้าไปในร่างกายของเด็ก
“เจ้าคือผู้ถูกเลือกแล้ว .. เด็กน้อย ..” เขาพูดขึ้น แล้วร่างกายของเขากลายเป็นทรายและลมก็พัดหายไป
แล้วรอบ ๆ ตัวผมก็เปลี่ยนอีกครั้ง กลับสู่ปัจจุบัน ผมล้มลงไปกับพื้น รู้สึกเวียนหัวจนแทบจะยืนไม่อยู่ ผมมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
และไม่เชื่อตัวเองว่า ผมเชื่อเรื่องพวกนี้ไปแล้ว !!
“เป็นอย่างไร เจ้าเชื่อข้ารึยัง” เขายิ้มมาให้ผม ผมพยักหน้าอย่างช้า ๆ
“ดีมาก แล้วเราจะเจอกันอีก บนฟ้า .. เมื่อเหล่านักรบทั้ง 5 คน พร้อมที่จะได้รับการฝึกฝนและเรียกพลังที่แท้จริงที่อยู่ในตนเองออกมา และจงเก็บไว้เป็นความลับ”
เขาพูดเรื่องอะไร พลังที่แท้จริงที่อยู่ในตนเอง ? และ บนฟ้า ? จะเจอกันบนฟ้าได้ยังไง
แล้วเขาก็กลายเป็นรูปปั้นหินสีเทาไป แล้วก็พังทลายลงเองอย่างไม่มีสาเหตุ และ ผมก็ต้องเก็บกวาดเศษรูปปั้นหิน !! ทิ้งความงุนงงไว้ให้กับผมก่อนเขาจะกลายเป็นรูปปั้น
ผมรีบเก็บกวาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่พ่อแม่จะมาเห็น และผมก็ไม่รีรอเมื่อจัดการรูปปั้นนั้นเสร็จ ผมกดเบอร์โทรมาดรีมมี่ทันที
“ฮัลโหล คาสหรอ ?” ทันทีที่ผมได้ยินเสียงของดรีมมี่ อารมณ์ของผมดีขึ้นมาทันที จาก งุนงง