“อ๋อ พี่คาร์ลนั้นนะเหรอ...เป็นพี่..”
“เป็นพี่ชายฉันเองแหละ”แต่ยังไม่ทันที่ลีน่าจะได้ตอบ เซลก็แทรกขึ้นมาซะก่อนและเมื่อทั้งสามคนวิ่งมาถึงหน้าหมู่บ้านก็พบกับเด็กหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาล
และตาสีอำพันที่กำลังหมดแรงและอ่อนล้าและยิ่งกว่านั้น หน้าตากลับเหมือนเฟริน่าอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
“เฟ...เฟริน่า”เด็กหนุ่มคนนั้นพูดอย่างเหนื่อยล้าเต็มทีแล้วตาของซิลก็มองไปเห็นใบหน้าของเฟริน่าผู้เป็นน้องสาว
“พี่ซิล...พี่ซิลจริงๆด้วย”การกะทำไวเท่ากับความคิดเมื่อเฟริน่าพูดเสร็จก็รีบวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดของตนทันที และซิลก็กอดน้องสาวสุดที่รัก
ของตัวเองตอบเพื่อให้แน่ใจว่าน้องสาวของเค้ามาอยู่ที่นี้แล้ว
“เออ....ก็ได้จะขัดจังหวะอะไรตอนนี้หรอกนะ แต่ว่า เฟริน่า นั้นพี่ชายของเธอรึ”มาคาลอฟที่ยืนมองอยู่ได้สักพักนึงแล้วเริ่มถามด้วยความ งง
“อื้ม ซิลเป็นพี่ชายฉันเองแหละดูสิ หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ เพราะเราเป็นฝาแฝดกันนะ”เฟริน่าตอบเมื่อกอดกับพี่ชายตัวเองจนจุใจแล้ว
“ถ้างั้นก็รีบๆพาไปปฐมพยาบาลดีกว่าไหม เฟริน่าเดี๋ยวพี่ชายของเจ้าก็อาการหนักกว่าเดิมหรอก ดูสิแผลเต็มตัวไปหมดแล้ว”
“โอ๊ย!! เบาๆหน่อยสิ!ฉันเจ็บนะ”ซิลร้องเสียงหลง เมื่อกำลังจะถูกทำแผลโดยฝีมือของลีน่าและมาคาลอฟ และมีเซลและเฟริน่านั่งให้กำลังใจซิลอยู่
ข้างๆและเมื่อซิลหันไปมองเฟริน่าอย่างทรมานและน่าสงสารและส่งสายตาอ้อนวอนมาทางน้องสาว อย่างกับว่าจะบอกว่า ไม่ไหวแล้ววว
“เอ้า เสร็จแล้วหยุดร้องได้แล้วละ การทำแผลให้เจ้าเนี่ย ลำบากมากไปโดนอะไรมามั่งเนี่ยหือ”มาคาลอฟพูดและปล่อยมือจากตัวของซิล พร้อมกับ
ตรวจสอบดูอีกทีว่ามีตรงไหนที่บาดเจ็บอีกรึเปล่าเพื่อความเรียบร้อย
“นั้นสิซิล นี่พี่ไปโดนอะไรมามั่งนะ บอกฉันหน่อยได้ไหม?”เฟริน่าถามด้วยใบหน้าที่หน้าสงสัยและเดินเข้ามาใกล้ซิลมากขึ้น
“เรื่องนี้พี่ยังบอกไม่ได้ แต่เอาไว้ถ้าพี่พร้อมแล้วพี่จะบอกนะเฟริน่า”ซิลพูดและยิ้มเพื่อไม่ให้น้องสาวเป็นห่วง แต่ถึงยังนั้น ถึงเฟริน่าจะเข้าใจว่าที่พี่ชายไม่
ยอมบอกเพราะเป็นห่วงตัวของเธอ ก็กลับทำให้เป็นห่วงหนักกว่าเก่าด้วยซ้ำ
“เอ...จริงสิจะว่าไป เฟริน่าตั้งแต่มาถึงที่นี้ฉันยังไม่เห็นเธอกางปีกเลยสักครั้งนะ”
ขอโทษนะค่ะที่แต่งน้อยไปแต่พอดีมะค่อยมีเวลาอ่ะค่ะ งานเยอะมาก แต่ก็จะพยายามมาแต่งเรื่อยๆน่ค๊า