บทที่ 13 สะพานพระราม 8
ภาพเบื้องหน้าคือซอมบี้ตัวเขียวกลายพันธุ์ ลิ้นของมันยาวและกรงเล็บพร้อมเขี้ยวที่ยาวเฟื้อยเตรียมพร้อมจะฉีกพวกเขาเป็นชิ้นๆ มันจะดีกว่านี้ถ้าซอมบี้หญิงตัวนั้น..ไม่ใช่แม่ของบิว
"แม่ครับ!!"บิวรีบวิ่งไปพลางยิ้ม
"อย่าไป!!"อ๊อฟรั้งมือบิวไว้ แต่เขาแกะมืออ๊อฟออกแล้ววิ่งไปต่อ ซอมบี้ตัวนั้นวิ่งมาหาบิวเหมือนกัน
"อย่านะบิว!! แม่เธอตายแล้ว! ไม่เห็นรึไงว่าเขากลายพันธุ์แล้วน่ะ!!!"มีนตะโกนเตือน บิวชะงักกึกทันที ก่อนจะวิ่งกลับมา แต่สายไปเสียแล้ว..
กร้วม!!!ซอมบี้แม่ของบิวจับขาเขาจนล้มลงกับพื้นแล้วกัดเข้าที่ขาซ้าย
"เฮ้ย!!/กรี๊ดด!!"ทุกคนร้องด้วยความตกใจ มีนกับแนนถึงกับกรีดร้องออกมา แต่อองฟองต์ยังนิ่งเงียบเพราะรู้ว่าต้องเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแน่นอน
ปลายแหลมของดาบใหญ่พุ่งไปที่หัวของซอมบี้ตัวนั้นทันทีจนแหลกเหลว เอิร์ธก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วกัดปากด้วยความคับแค้นใจ
"ฉันต้องฆ๋านายทิ้ง"ปืนของออมจ่อที่คอหอยของบิวทันที แต่เอิร์ธกระชากออก
"ไม่!!! ชั้นจะไม่ฆ่าเพื่อน!!"อองฟองต์แผดเสียงลั่นจนทุกคนชะงัก ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไร้หัวใจจะห่วงเพื่อน เธอคงมีสิ่งหนึ่งเติมเต็มเข้ามาแล้ว
"แต่เขาตายแล้วนะ!! ถึงยังมีลมหายใจอยู่แต่ต้องฆ่า!! เพราะเขาถูกกัดไปแล้ว!!"ออมท้วง
"นายมันไร้หัวใจ!! ชั้นจะไม่ให้เขาไป!!"อองฟองต์ตะโกนเสียงดัง
"ตะ..แต่ว่าต้องฆ่าเขานะ"แนนที่เห็นด้วยกับออมบอก แต่อองฟองต์ส่ายหน้า
"อย่างน้อยก็ให้เขาเป็นซอมบี้ก่อนสิ!! นี่เขายังตัวเป็นๆเลยนะ!!"เธอรีบท้วงทันที
"ยัยโง่.."มีนสถบออกมา อองฟองต์หันขวับมาทันที
"เมื่อกี้เธอว่าไงนะนังตัวถ่วง"เธอจ้องหน้าหาเรื่องทันทีแต่มีนยกมือห้ามปราม
"ฉันหมายความว่าเธอโง่น่ะสิ..เธอออกจะดูฉลาด เก่งกาจและเป็นตัวนำของพวกเรา แต่เขาถูกกัดแล้วทำไมไม่ฆ่าล่ะ"มีนอธิบายจนอองฟองต์ชะงัก
"นั่นก็เพราะว่า.."เธอเงยหน้าขึ้นมา "ชั้นไม่อยากศูนย์เสียใครอีกแล้ว.."
"ยังไงเขาก็ต้องผลิตยาแอนตี้ไวรัสชนิดนี้แน่นอน!"เธอตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนทุกคนพยักหน้า
"ถ้าเขากลายเป็นพวกมันเมื่อไหร่..ชั้นขอจัดการเอง"เอิร์ธพูดขึ้น
"เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เราสัญญาว่าถ้าใครคนหนึ่งเป็นอะไรไปจะแก้แค้นให้กัน ถ้าเขากลายเป็นพวกมัน ฉันจะฆ่าเขา..เพื่อให้เขาไม่ต้องลำบากและสบายใจได้"เอิร์ธบอก บิวยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะพยุงตัวเองไปถึงสะพานพระราม 8 เพราะอยู่ด้านหน้า
"อ้าว!~ พวกเธอยังรอดได้อีกหรอเนี่ย"ตำรวจนายหนึ่งชม
"ถ้าไม่รอดแล้วจะเห็นว่ายืนหัวโด่แบบนี้หรอ"อองฟองต์สถบอย่างหงุดหงิดจนเขาน่าเหวอไป แต่ทาคุมุช่วยห้ามให้
"เอ่อ..เธออารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะครับ พาเราเข้าไปกันดีกว่า"เกิ้ลพยักหน้ากับความเห็นของทาคุมุ ด้านหน้าพวกเขาคือสถานที่สีขาวไม่มีหลังคากว้างใหญ่เป็นวงกลมสามารถให้คนอยู่ได้หลายคน
ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด
เสียงสัญญาณดังขึ้นเมื่อบิวก้าวขาเข้าไปข้างใน สัญญาณเรดาห์สีแดงส่องมาที่บาดแผลของเขา คนใส่ชุดเสื้อสีขาวเหมือนนักอวกาศสองคนมาจับตัวเขาทันที
"เฮ้ย!!"เอิร์ธตะโกนลั่นก่อนจะรั้งมือไว้
"พวกคุณจะเอาเพื่อนผมไปไหน!! ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่งั้นผมจะฆ่าคุณ!"เอิร์ธชักปืนขึ้นมา แต่บิวยังถูกลากไปเรื่อยๆจนเข้าไปในตึกร้าง
ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!!
ปืนหลายนัดรัวเร็วพุ่งเจาะร่างของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ใส่เสื้อเหมือนนักอวกาศ แต่เขาไม่สะท้กสะท้านสักนิดราวกับว่าชุดนั้นป้องกันทุกอย่าง
"อย่าห่วงน่าหนุ่มน้อย พวกเราจะเอาเขาไปรักษา เราผลิตยาแอนตี้ไวรัสได้แล้ว"ทหารนายหนึ่งเข้ามาตบบ่าเอิร์ธ เอิร์ธเขวี้ยงปืนทิ้งแล้วกล่าวขอโทษ
"เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวไม่มีที่ให้นอน"พวกเขาพาเข้าไปท่ามกลายสายตาอองฟองต์และออมที่มองตามหลังบิวไปแล้วตัดสินใจเข้าไปด้านใน
"นายคิดเหมือนที่ฉันคิดไหม"อองฟองต์ถามออม
"เเล้วเธอคิดว่าอะไรล่ะ"
"เขาไม่ได้พาไปรักษา"อองฟองต์พูดช้าๆแต่หนักแน่น ออมชะงักนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
"มะ..ไม่นี่ ฉันไปหาที่นอนก่อนล่ะ"เขาเดินไป สายตาของอองฟองต์สงบนิ่งแงไปด้วความฉงนก่อนจะสะบัดความคิดสกปรกออกจากหัวแล้วเดินตามไป
หลังจากที่พวกเขาเดินหาเต้นท์ตัวเองเรียบร้อย อองฟองต์กับออมก็เริ่มสนิทขึ้นเรื่อยๆจนพวกเขาเริ่มที่จะสัญญาว่าจะไม่มีอะไรปิดบัง!
"หนะ..หนู.."เสียงลุกแก่ๆในชุดตำรวจดังขึ้น อองฟองต์หันขวับไปทันที
"มีอะไร!"เธอถามเสียงแข็ง เขาชะงักไปก่อนจะชี้ไปที่มีน
"อะ..คะ?"มีนมองอย่างงุนงง ลุงแก่นั่นเลียปากและแววตาอย่างหื่นกระหาย อองฟองต์ผลักมีนไปก่อนจะกระชากคอเสื้อลุงนั่นขึ้นมา
"มองสายตาแบบนี้กับเพื่อนฉันมันหมายความว่าไงฮะตาแก่ ซ่าส์เหรอฮะ!!"
กริ๊ก..
ปืนกระบอกหนึ่งจ่อมาที่หัวของอองฟองต์อย่างรวดเร็ว เธอถึงกับชะงัก
"ปล่ยท่านเดี๋ยวนี้ รู้ไหมว่าเขาเป็นคนคุมที่นี่ ถ้าไม่อยากเฉดหัวออกไปปล่อบเขาซะ"ทหารนายหนึ่งบอกเสียงเรียบ อองฟองต์ปลายตามอง่ก่อนจะวางลงกับพื้น
"ไม่เป็นไรๆ ฉันไม่ถือโกรธ เด็กๆคงจะเสียขวัญกับเหตุการณ์อยู่น่ะ ไปเถอะพวกเรา"สารวัตรลุงแก่นั่นเดินจากไปพร้อมกองกำลังทหาร อ๊อฟรีบวิ่งเข้ามาแล้วถามอองฟองต์ว่าเกิดอะไรขึ้น อองฟองต์ชี้ไปที่ลุงนั่นแล้วพูดอธิบาย
"มีน อย่าไปใกล้มันนะ ไอนั่นมันข่าวลือเยอะจะตายว่าทำอนาจารกับผู้หญิงมาเยอะ มันชื่อหมาย แต่มันมีเงินเลยรอดกลับมา"อ๊อฟเตือนมีนก่อนจะหันมาหาอองฟองต์
"ขอบคุณเธอมากนะ"อองฟองต์ยิ้มแล้วส่ายหน้า
"ไม่เป็นไร ก็เราเป็น
เพื่อน กันนี่"รอยยิ้มสวยผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวเล็กจนคนที่มองมาหลากหลายสายตาถึงกับนิ่งเหมือนถูกมนต์สะกด
"ขอบคุณนะ แล้วเธอก็ระวังด้วยละ ยิ่งหน้าตาดีๆอยู่"มีนยิ้มปนขำ อองฟองต์ยิ้มตาม
"อื้อ"
อองฟองต์ขอตัวสองคนนั้นเดินมาหาออม ระหว่างที่พวกเขานั่งชมดาวแล้วคุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อยๆ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
"ออม"
"ดาว"ออมหันไปก็พบหญิงคนหนึ่ง ใส่ชุดรัดรูปแล้วเดินมาใกล้ๆ
"ขอคุยหน่อยสิ"เธอคนนั้นบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป ออมทำท่าจะตามไปแต่อองฟองต์รั้งมือไว้ก่อน
"ใครน่ะ"
"ขอโทษ ฉันรีบ"เขาบอกปัดแล้วทำท่าจะเดินไปอีก แต่อองฟองต์ยังจับไปปล่อย
"บอกหน่อยไม่ได้หรอ ไหนบอกว่าจะไม่มีความลับให้กันไง"เธอท้วง
"เดี๋ยวบอกน่า"เขาสะบัดมือออกจนอองฟองต์ชะงัก แทบไม่อยากเชื่อสายตาและความรู้สึกตัวเองว่าเขาจะรำคาญ
ออมเดินตามผู้หญิงที่ชื่อดาวไป อองฟองต์อดที่จะสงสัยไม่ได้ จึงแอบตามไปดู ทั้งคู่ใส่ชุดอวกาศนั่นซึ่งเรียกว่าชุดป้องกันเชื้อโรค แล้วเดินเข้าไปที่ประตูบานหนึ่ง
อองฟองต์ใส่ตามแล้วรีบเดินเข้าไป สารวัตรลุงหมายอะไรนั่นเดินมาขวางไว้ก่อน
"หนู จะรีบไปไหนจ๊ะ มาคุยกับพี่ก่อนสิ"
"โทษ ฉันรีบ"เธอตอบปัดๆอย่างรำคาญแล้วพยามแทรกตัวเข้าไปให้ประตูให้ได้
"อ๋อ จะเข้าไปหาแฟนหรอ"ลุงนั่นหัวเราะคิกคัก
"อย่ามาขวางทาง!!!"
"เข้าไปไม่ได้หรอกจ้ะ แฟนหนูได้รับสิทธิพิเศษให้เข้าไปเพราะดาวเชิญให้เข้า หนูเข้าไม่ได้หรอก"
ความอดทนอองฟองต์ขาด เธอถอนเสื้อชุดนั่นออกแล้วกระชากผ้าพันแผลแล้วเขวี้ยงไปที่หน้าของลุงนั่น พลางโชว์ลายสักให้ดู
"ให้ฉันเข้าไป ไม่งั้นแกตาย"เธอขู่
"มีหลักฐานอะไรอีกละจ๊ะ"ลุงนั่นล้อเลียนทั้งๆในใจก็หวาดหวั่น เธอหยิบนามบัตรให้ดูจนลุงหมายเบิกตากว้าง ก่อนจะหยิบอีกนามบัตรให้ดู
"ชะ..ชะ..เชิญครับ!!"เขาพูดเพราะทันทีที่เห็นนามบัตรใบที่ 2
"หึ ง่ายๆก็สิ้นเรื่อง"เธอใส่ชุดแล้วเดินตามเข้าไป
นามบัตรแผ่นที่ 2 มันคืออะไร?