คุณค่าการตอบแทน
เครดิด: GooGle18940
ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อาศัยอยู่กับแม่ของฉันตามลำพัง เพราะพ่อของฉันเสียไปนานแล้ว แต่คุณแม่ก็ยังดูแลฟูมฟักฉัน ให้ความอบอุ่นแทนคุณพ่ออย่างเต็มที่
วันหนึ่งคุณแม่พาฉันไปเดินตลาด ท่านซื้อส้มมา1กิโล และกำลังจะเดินกลับบ้าน แต่ก็ได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นตลาด
เสียงโวยวายดังลั่นแบบนี้ไม่มีใครอีกนอกจาก ป้าแฉ่ม ป้าขายของชำต่างๆ ป้าแกปากจัดมาก หาเรื่องด่าคนอื่นได้ทุกเมื่อ....คุณแม่กับฉันเดินเข้าไปดู พบว่าป้าแฉ่มกำลังชี้หน้าด่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง เขาดูผอมแห้งมาก และเนื้อตัวมอมแมมด้วย แม่ฉันจึงเดินเข้าไปห้ามป้าแฉ่มและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"ก็ไอเด็กเปรตนี่! มันขโมยยาธาตุฉันแล้วมันไม่จ่ายเงิน!" ป้าแฉ่มตวาดแม่ฉันอย่างฉุนเฉียว
แม่ฉันไม่ได้พูดอะไร ก้มลงไปถามเด็กคนนั้นด้วยท่าทีอ่อนโยนมาก
"หนูไปเอายาธาตุนั่นมาทำไมเหรอจ๊ะ ที้งๆที่หนูไม่มีเงินน่ะ" แม่ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก
"แม่...แม่ผมไม่สบาย แม่เป็นไข้และปวดท้องมาหลายวันแล้วผมไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อยา ผมเลยต้อง...มาเอายานี่น่ะครับ" เด็กผู้ชายคนนั้นก้มหน้าตอบด้วยท่าทีเศร้ามากๆ
"เห็นมั้ยมันขโมยของฉัน ยังมีหน้ามาทำตัวน่าสงสารอีก!" เหมือนป้าแกจะวิ่งเข้าไปอัดเด็กคนนั้นโชคดีที่แม่รั้งไว้ก่อน
"60บาทใช่มั้ยคะนี่ค่ะ" แม่ฉันยื่นเงินให้ป้าแฉ่มเพื่อจ่ายเงินค่ายาให้เด็กคนนั้น ป้าแฉ่มสงบลงคว้าเงินแล้วเดินกลับร่านไป....
"หนูจ๊ะ เอาส้มนี่ไปนะ คนป่วยต้องกินผลไม้เยอะๆจะได้หายไวๆ เอาไปให้แม่กินนะ" แม่ส่งส้ม1กิโลที่ซื้อมาให้เด็กผู้ชายคนนั้น เขาน้ำตาคลอประนมมือไหว้แม่ฉันแล้วรับของทั้ง2วิ่งกลับบ้านไป ฉันเข้ามาจับข้อมือแม่แล้วถามอะไรบางอย่าง....
"ทำไมแม่ไปช่วยเด็กคนนั้นล่ะคะ ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย อีกอย่างใครจะไปรู้ว่าเด็กคนนั้นโกหกรึเปล่า"ฉันถามท่านด้วยท่าทีงุนงงเล็กน้อย
"...แม่เคยเห็นเขาแบกขนมครกขาย ผ่านหน้าบ้านเราบ่อยๆ เขาทำงานอย่างยากลำบากอยู่ทุกวันกับแม่ของเขา แต่ตอนนี้แม่ก็เอะใจว่าพักนี้ทำไมเขาหายไปเลย และวันนี้เราก็รู้ว่าแม่เขาป่วย ไม่มีอะไรทำกิน น้ำใจเล็กๆน้อยๆน่ะ มันช่วยให้คุณค่าชีวิตของคนดีขึ้นมากนะจ๊ะ..." แม่ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนตามเคยพลางลูบหัวฉัน นพยักหน้าหงึกๆแล้วเดินจูงมือแม่กลับบ้านไปพร้อมๆกัน....
20ปี ต่อมา ฉันอายุ30ปีแล้ว ฉันได้เข้าทำงานที่โรงงานหนึ่ง เงินเดือนก็เดือนละ10000 บาทและฉันก็ทำงานพิเศษเพิ่มได้เงินอีก5000 บาทต่อเดือน รวมแล้วรายได้ก็พอจะใช้ชีวิตอยู่กับแม่ได้ง่ายๆ
แต่แล้วสิ่งที่ผิดปกติก็เกิดขึ้น แม่ในวัยชราของฉันท่านปวดหัวอยู่บ่อยๆ ตอนแรกกินยาแก้ปวดก็หาย แต่ไปๆมาๆท่านปวดหัวถี่ขึ้นเรื่อยๆ กินยาจากคลินิกก็ยังไม่หาย ฉันกังวลมาก...ไม่มีทางเลือก จึงส่งแม่ไปตรวจอาการที่โรงพยาบาล
จากผลการเอ็กซ์เรย์ของแม่ หมอแผนกตรวจร่างกายได้บอกอาการว่า แม่มีอาการสมองอักเสบเรื้อรัง และมีก้อนเนื้อร้ายติดอยู่ที่สมอง ถ้าผ่าตัดแล้วเอาก้อนเนื้อนั้นออกมาได้ แม่ก็จะหายจากโรคนี้ แต่โอกาสที่จะผ่าตัดสำเร็จนั้นมีแค่20% และค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 250,000 บาท ฉันได้แต่ทำใจ แต่แล้วก็ตัดสินใจว่า ขอให้แม่มีชีวิตต่อไปก่อน เรื่องเงินเอาไว้ทีหลัง... โดยจะมีหมอผ่าตัดที่ชำนาญมากเป็นคนผ่าตัด....
การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี แม่หายจากโรคสมองอักเสบเรื้อรังเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉันต้องกลุ้มใจกับค่ารักษาโรค ที่ต้องจ่ายภายในหนึ่งเดือน มนุษย์กินเงินเดือน เดือนละหมื่นกว่าๆอย่างฉันจะไปจ่ายค่ารักษาที่แพงขนาดนั้นภายในเดือนเดียวได้หรือ? วันทั้งวันฉันได้แต่กลุ้มใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่มีจดหมายซองหนึ่งส่งมาที่บ้านฉัน ฉันหยิบมันขึ้นมา
ได้แต่คิดว่า น่าจะเป็นใบทวงค่ารักษา ฉันค่อยๆเปิดดูด้วยความวิตก แต่มันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด มันเป็นจดหมาย
ลายมือหวัดๆจากคุณหมอผ่าตัด ฉันจึงอ่านข้อความในนั้น มันมีข้อความสั้นๆดังนี้...
ถึงคุณวรัญญา
ค่าผ่าตัดและรักษาโรคสมองอักเสบเรื้อรัง ชำระหมดแล้ว
(ด้วย ส้ม1กิโล และ ยาธาตุ1ขวด ขอบคุณ....)
เชื่อไหมฉันร้องไห้เลย มันเป็นอย่างที่แม่เคยสอนฉันไว้จริงๆด้วย คุณค่าของการตอบแทน มันเป็นเช่นนี้เอง......
----------------------------------------------------------------------------------
ซึ้งกินใจมากมายวายวอด อ่านแล้วอยากทำความดีซักอย่าง >[]< ขอบคุณท่านแฮมเตอร์ที่ร่วมสนุกนะคะ ^^
นึกว่าคนจะลืมกระทู้นี้ไปหมดซะแล้ว =[]=^