GAMEINDY: Asura Online
หน้า: 1 ... 52 53 [54]
ผู้เขียน หัวข้อ: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)  (อ่าน 16688 ครั้ง)
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #795 เมื่อ: 11-04-2011, 15:39:41 »

บทที่49 สละได้ยิ่งชีพ

 "จะไม่มีใคร...! แย่งชิงอำนาจของข้าไปได้...! แม้แต่เจ้า...!" ถ้อยคำกระชากเสียงที่เค้นเสียงรอดไรฟัน บ่งบอกถึงความหลงระเริง

ในอำนาจที่ครอบคลุมจิตใจอันมืดมิดของนางไว้ได้อย่างดีแม้เพียงจะฟังด้วยลมปาก

 เล็บสีเขียวเข้มจิกเข้าที่หนัตรงต้นคออย่างปวดแสบปวดร้อน คงมีเขาที่เริ่มรู้เพียงคนเดียวว่าไอออร่าพิษที่วนเวียนอยู่รอบเล็บสีเขียวนี้

จะส่งความเจ็บปวดทรมานดั่งถูกพิษกันในระยะเผาขนได้อย่างที่คิดไว้กันจริงๆ

 ในวินาทีที่เขาแทบจะหมดลมหายใจนั้น แรงมุ่งมั่นที่จะต้องสู้ต่อก็เริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ คันศรที่เขายิงออกไป บัดนี้แค่ให้โดนเป้าก็ยังยากเย็น

นับประสาอะไรที่จะบั่นทอนสร้างความเจ็บปวดแก่ฝ่ายตรงข้ามได้ในคราวก่อน

 คำขอโทษขอโพยที่ดังกึกก้องอยู่ในใจ ถูกบีบแน่นเอาไว้ด้วยแรงบีบของมือนางมารที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาไร้แววที่แฝงด้วยความอำมหิต

จ้องมาที่ใบหน้าของเขาอย่างเดือดดาล มืออีกครั้งค่อยๆรวบรวมเกรียวพลังความมืดด้วยความเดือดดาลสูงสุด ก่อนจะง้างขึ้นเตรียม

ยัดเข้าใส่แก่หน้าคนที่บีบเค้นไว้อย่างจังให้สาสมแก่ใจ...!

ชั่วเสี้ยววินาทีที่วัดความเป็นความตาย ร่างผอมของนางถูกมือหนึ่งหกระชากให้ออกห่.างก่อนจะถูกรวบราวกับโซ่จองจำนธนาการ

นางดื้นพรวดพราดสุดแรงแต่ด้วยพละกำลังพื้นฐานของนายที่ด้อยกว่าคนทั่วไปปกติหากไมได้ดูดพลังใครมาอีก ก็มิสามารถจะทำให้

ร่างของตนหลุดพ้นเป็นอิสระจากวงแขนแห่งการจองจำนั้นไว้ได้

 คนที่เอลฟ์หนุ่มอยากจะเห็นด้วยสายตาจริงของตนมากที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ก็ได้ปรากฏต่อหน้าเขา ในกิริยาที่กำลังพันธนาการอีกฝ่าย

ด้วยความมุ่งมั่นและแรงกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ จึงสร้างความพิศวงให้แก่ใจของเขาได้ไม่น้อย

 "อากาช่า!?"

 ดวงหน้าที่เลอะเปรอะเปื้อนด้วยโลหิตสีแดงขุ่นที่ทะลักออกมาจากริมฝีปากของเธอ ยิ่งทำให้เห็นสภาพร่างกายยของนักเวทย์สาว

ที่เจ็บช้ำแทบปางตาย แต่ด้วยจิตใจ่มุ่งมั่นก็ยังที่จะดื้อรั้นล็อคคู่ต่อสู้ไว้สุดความสามารถและพลังที่ยังเหลืออยู่

 "เร็วเข้าคีมีเดียส...!" เธอเร่งรั้นให้เขาทำอะไรบางสิ่ง ซึ่งเจ้าตัวที่ถูกเรียกยังผงะกับคำสั่งของเธออยู่

 "ยิงมาเลย!! ชาร์จพลังให้สุดเต็มที่ ไม่ต้องสนใจชั้น!!!" นักเวทย์สาวเค้นเสียงตะโกนให้ได้ดังที่สุดเท่าที่สังขารเธอจะรับไหว

คำสั่งที่น่าหวาดระแวงหากใครตีความออก ถ้าเขายิงลูกศรเสียบทะลุร่างของศัตรู ยังไงพรรคพวกของเขาที่ล็อคตัวนางไว้อยู่

ก็จะต้องพลอยโดนไปด้วย ยิ่งกว่านั้นมันเท่ากับ การฆ่าพวกพ้องของตน

 "ชั้นทำไม่ได้!" คำตอบที่เขาตอบไปได้มากที่สุดคงไม่พ้นที่จะเลือกปฏิเสธ ถ้าเขายิงลูกศรออกไป ก็เท่ากับฆ่าเพื่อนที่เหลืออยู่คนเดียวของเขา

เป็นใครก็ไม่สามารถจะทำได้ลงคอกับการฆ่าเพื่อนที่ดีที่สุดของตนด้วยมือตัวเอง

 "เร็วๆสิ!!! มันไม่มีทางเลือกแล้ว...!!! ไม่ต้องสนชั้น...!!!" กระนั้นอากาช่าก็รู้ดี หนทางสุดท้ายที่จะหยุดยั้งศัตรูเยี่ยงนางมารได้

คงจะไม่ใช่พลังเวทย์ที่แข็งแกร่ง แต่เป็นจิตใจที่แข็งแกร่งและสว่างไสวยิ่งกว่าสิ่งใด น่าแปลกที่พลังของนางมารเอลซ่าที่มีพลังแห่งความมืดมากมาย

กลับไม่สามารถทลายพันธนาการมือมนุษย์ที่ใกล้หมดแรงเต็ทนได้อย่างเหลือเชื่อ การที่เธอจะเสียสละไม่ใช่สิ่งที่ต้องเสียใจแต่ใดๆ

หากมัน้ตองแลกด้วยชีวิตเธอก็พร้อมที่จะทำมานานแล้ว ยิ่งเป็นเช่นนี้จิตใจที่ยิ่งเด็ดเดี่ยวของเธอก็ส่งผ่านออกมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

ที่จะล็อคพันธนาการตัวคู่ต่อสุ้ไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย

 กลับกันที่คีมีเดียสที่สมาธิในใจเริ่มหลุดโผ เมือ่เขารู้ตัวว่าสิ่งที่เธอบอกคือการให้ฆ่าเธอไปพร้อมๆกับศัตรู เป็นใครจะทำได้ล่ะ...!

 "แต่..! จะให้ชั้นฆ่าเธอ...!"

 "บอกแล้วไง...! จะให้บอกอีกกี่รอบว่าไม่ต้องสนชั้น!!!" บทสนทนาที่ต่อล้อต่อเถียงเริ่มใกล้หมดทุกทีไปพร้อมๆกับแรงที่เริ่มจะมากขึ้น

ตามความบันดาลโทสะของผู้ถูกพันธนาการ

 คีมีเดียสที่ยังทำใจไม่ได้จึงเลือกที่จะปฏิเสธรั้งให้เธอออกจากการเกาะกุมศัตรูเพื่อความปลอดภัยของชีวิต "แต่...!"

 "ถือว่าชั้นขอละนะ!!! รวมถึงเทพีลูซิสด้วย! ถ้านายมัวแต่ลังเล สุดท้ายชะตากรรมของทุกคนบนโลกก็จะกลายไปอยู่ในกำไลราตรีของมัน!!!"

คำกล่าวสั่งการเชิงขอร้องครั้งแรกที่เขาได้ยินจากปากอากาช่า จริงอยู่ที่พวกเขาให้คำมั่นสัญญากับเทพีลูซิสไว้แล้ว ว่าต่อให้ต้องสละชีพ

ก็จะขอถือชัยชนะครั้งนี้มาให้ได้ แต่มันต้องแลกกับสูญเสียเพื่อนอีกคนไปงั้นหรือ...?

 ความคิดชั่งน้ำหนักทั้งสองตีปนเปกันในหัว ไม่ว่าอย่างไรเขาก้จำเป็นที่จะต้องเลือก ความสุขส่วนตนที่รั้งไว้ได้ สุดท้ายมันก็อาจจะหายไป

ถ้าความสุขส่วนรวมถูกทำลายไปหมดเพราะเขา การตัดสินใจที่แน่วแน่เริ่มกระจ่างขึ้นออกมา จิตใจที่สงบลงทำให้มือไม้สามารถหยิบจับ

อาวุธตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง สายธูที่ถูกง้างขึ้นพร้อมลูกศรเวทย์ขนาดยักษ์ที่เปล่งแสงขึ้นเจิดจ้ากว่าเดิมอยู่ในชั่วอึดใจ

 การตัดสินใจของเขา... จะแสดงออกมาจากการยิงลูกศรเวทย์นี้ออกไป...!

 "..ขอโทษนะ.."

 ชั่วเสี้ยววินาทีที่แสนจะยาวนานในสายตาของพวกเขา ลูกศรเวทย์แสงที่กำลังค่อยๆเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า หากความจริงมันกำลังพุ่งด้วยความเร็ว

สูงสุดพุ่งเข้าสู่เป้าหมายด้วยประกายแสงเจิดจ้า ตามที่ความคิดของผู้ยิงมันออกไป...!

  ฉึก...!

 เสียงลูกดอกที่พุ่งแทงทะลุร่างกาย พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของผู้ที่ถูกโจมตีกรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็ปบวด หากร่างของนางมารเอลซ่าที่

กำลังเจ็บแสบทรมานด้วยประกายแสงที่ยังพุ่งออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มือที่พันธนาการร่างซูบของนางค่อยๆลดลงไป

พร้อมๆกับสายโลหิตสีแดงเข้ที่ค่อยๆไหลรินออกมาจากอกของเธอที่ลูกศรพุ่งทะลุแทงร่างของเธอเช่นกัน

 ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของอากาช่าเธอใช้มันโดยการเอื้อมมือที่สั่นระทวยใกล้หมดแรงลงทุกขณะ กระชากกำไลตรีออกจากมือทั้งสองข้าง

จากนางมารเอลซ่าที่กำลังเปิดช่องว่างกรีดร้องเจ็บปวดกับแผลขนาดยักษ์กลางลำตัว ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆลดมือออกจากการเกาะกุม

แล้วค่อยๆถูกแรงโน้มถ่วงโลกทิ้งร่างลงไปกลางเหวแห่งความมืดมิดโดยในมือทั้งสองยังถือกำไลราตรีที่ชิงออกมาได้แน่น

 รอยยิ้มที่ไม่ควรจะผุดออกมาในการที่จะหมดลมหายใจด้วยฝีมือของเพื่อนเธอเอง หากมันกลับกลายเป็นความอิ่มเอมใจสำเร็จในสิ่งที่เธอกำลังทำ

มันดีแล้ว... แค่ชีวิตของเธอเท่านี้ก็จะสามารถปลดปล่อยดวงวิญญาณนับแสนล้านดวงได้

 มือที่โชกด้วยเลือดจากแผลของตนค่อยๆฝืนลมหายใจท่องคาถาเรียกเวทย์ทุกสรรพธาตุขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยมันให้ทำลายสิ่งที่ถืออยู่ในมือเสีย

เปลวไฟที่ค่อยๆแผดเผา สายน้ำที่เกรียวคลื่นกระทบรุนแรง ภูผาที่แข็งแกร่ง และ สายลมที่พัดพาทำลายล้างทุกสิ่ง

กำลังสถิตขึ้นภายใต้กำมือของเธอ แม้มันจะทำให้เจ้าของร่างต้องเจ็บปวดดั่งใช้มีดกรีดข้อมือตน ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับกำไลราตรี

ในมือก็เป็นไปตามที่เธอคาดหวัง...!

 ในที่สุดกำไลราตรีที่เป็นคุกจองจำพันธนาการดวงวิญญาณทั้งหลายได้ปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆไม่เหลือชิ้นดี

รอยยิ้มที่ผุดกว้างขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในขณะที่สติพร่าเลือนยังสั่งการให้อากาช่าขยับริมฝีปากกล่าวบางสิ่งที่ควรจะพูดมากที่สุดในตอนนี้

ก่อนที่ร่างของเธอกำลังจะสลายไปด้วยพลังโจมตีเวทย์เฮือกสุดท้ายของตนเอง

 "ขอบ..คุณ..นะ..."

 เสียงที่แหบพร่ากลับสามารถสื่อสารส่งต่อไปยังผู้ที่เธอเอ่ยถึงได้ชัดเจน หยาดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาจากนัยน์ตาคมของเอลฟ์หนุ่ม

เป็นสัญญาณให้รู้ว่า อากาช่า เพื่อนที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขา บัดนี้ได้หลับใหลไปชั่วนิรันดร์แล้ว...

 "ไม่...ไม่...!!! ม่าย...!!!"

 เสียงกรีดร้องที่แผดดังขึ้นจากอดีตเจ้าของวัตถุที่เพิ่งแตกสลายไป ยิ่งบาดแก้วหูของใครหลายๆคน สิ่งที่นางอุตส่าห์สะสมมาตลอดชีวิต

มันแตกสลายถูกทำลายไปอย่างไม่เหลือชิ้นดี! ดั่งดวงใจของนางที่ถูกบดขยี้ทิ้ง มันไม่เหลืออะไรอีกต่อไปแล้ว...!



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #796 เมื่อ: 11-04-2011, 15:41:55 »

ตอนที่50 จุดจบอันเป็นนิรันดร์

 เขาไม่รู้หรือไม่ว่าเขาทำถูกหรือผิด ที่จำต้องสังหารพวกพ้องตัวเองด้วยมือของเขา และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อตนสูงสุด

ถ้าไม่ได้อากาช่า ก็ไม่รู้ป่านน้เขาจะค้นพบพลังที่แท้จริงเมื่อไหร่ แม้แต่จะมีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้

หากมันเป็นคำขอร้องสุดท้ายในชีวิตของเธอ แม้มันจะทำให้คีมีเดียสรู้สึกเสียใจมากเท่าไหร่ ก็คงคุ้มที่ได้ตอบแทนตามคำขอ

ของเจ้าตัวเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน

 สภาพศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเขายิ่งน่าหวาดกลัวขึ้นเป็นเท่าทวี เรือนผมสีดำสนิทค่อยๆกลายเป็นสีขาวโพลน ใบหน้าที่ซีดจางอยู่แล้ว

กลับค่อยๆซูบหายไป ผิวหนังที่เริ่มเห-รี่ยวยาน ริมฝีปากแห้งกรัง พลันเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเป็นยายแก่เฒ่าที่แสนจะอัปลักษณ์สายตายิ่งนัก

 "เจ้า...!!!" นางคำรมด้วยเสียงแหบแห้ง เมื่อหมดฐานพลังงานคือกำไลราตรี พลังในการคงกระพันรวมถึงพลังในการต่อาก็คงจะแทบไม่เหลือ

 "ฮะฮะฮ่า...! เจ้าโง่!!! ในเมือ่เป็นเช่นนี้ก็คงจะหมดเวลาสำหรับทุกสิ่ง!!!"

 คำพูดที่แหบพร่าทำให้คนฟังยิ่งฉงนใจ ในเมื่อนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้แล้ว นางจะทำอะไรต่อได้?

 "ทุ่นระเบิดที่ข้าให้แมลงเม่าความมืดไปโปรยทั่วสารทิศของโลก ถ้าเพียงแค่ข้าขยับปากให้มันระเบิด โลกทั้งโลกนี้ก็ต้องเป็นจุนไป!!!"

นัยน์ตาที่เบิกโพรงขึ้นด้วยความตกใจสูงสุด ไฉนที่กำลังจะจัดการตัวต้นเหตุได้แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถที่จะให้โลกที่เขา

กำลังปกป้องคงกระพรันต่อไปได้ มือที่รัวยิงลูกศรเข้าโจมตีขัดขวางกลับถูกเกราะวิญญาณด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนางเรียกขึ้นมา

ก็สามารถถ่วงเวลานานพอได้ที่จะขยับปากสวดคาถายืนยันการระเบิดทำลายล้างโลกครั้งนี้

 "ในเมื่อข้าไม่ชนะ! ก็อย่าหวังว่าจะมีใครชนะ!!!" นางมารเอลซ่าคำรามอย่างเหลืออดก่อนเริ่มสวดคาถายืนยันการระเบิดทำลายล้าง...!

 ชั่วเสี้ยววินาที สติของเอลฟ์หนุ่มดับวูบลงกระทันหัน ไม่นะ...! ความเป็นความตายของโลกกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

ทำไมต้องมาสลบตอนนี้ด้วย...!

 ความกระวนกระวายในใจของคีมีเดียสถูกดับลง ลำแสงที่สา.ดส่องเข้ามา ทำให้เขาเริ่มสงบอีกครั้ง

 "คีมีเดียส... เจ้าคงจำน้ำเสียงข้าได้" เสียงที่ทรงพลัง และอบอุ่นอย่างพรรณนาไม่ถูก คงไม่พ้นใครนอกจาก...

 "เทพีลูซิส" เอลฟ์หนุ่มอุทาน ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองสิ่งรอบๆตัวหลังจากลืมตาขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นสีขาวทอแสงไร้จุดหมายปลายทางใดๆ

 "ฟังข้าให้ดี สมาธิที่หลุดโผตอนนี้ของเจ้าไม่สามารถยับยั้งโทสะของนางมารเอลซ่าได้ พลังสูงสุดที่เจ้าใช้ยิงไปก็

เป็นพลังงานเฮือกแทบจะสุดท้ายของเจ้า..." ผู้เป็นเทพีแห่งแสงเอ่ยเสียงขรึม

 "แล้วจะให้ข้าทำเช่นไร! ในเมือ่เป็นเช่นนี้แล้ว...!"

 "เจ้ายอมสละชีวิตเหมือนพวกพ้องของเจ้าได้หรือไม่...?" เทพีลูซิสขัดคำพูดสติหลุดของเอลฟ์หนุม่ที่อยู่ตรงหน้าด้ยน้ำเสียงอันนุ่มนวล

พร้อมคำถามวัดใจเขาที่ผุดขึ้นมา

 "...ข้ายอม..." เขาไม่ลังเลที่จะตอบตัวเลือกอื่น ในเวลานี้ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการปกป้องรักษาสันติภาพโลกนี้ไว้

แม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตเขาก็ตามที...

 "ข้าเสียใจที่มันต้องลงเอยแบบนี้... แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือก ข้าก็ขอให้เจ้าทำให้มันสำเร็จคุ้มค่ากับชีพที่เจ้าแลกไป..."

เทพีลูซิสเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนที่ทุกอย่างตรงนั้นจะมืดลงไปในบัดดล...

 ดวงตาสีฟ้าอ่อนเบิกขึ้นอีกครั้ง พลันมองเห็นสิ่งตรงหน้าคือนางมารที่กำลังสวดคาถาไปได้ถึงครึ่งบทแล้ว เขาค่อยๆยันตัวลุกขึ้น

คว้าคันศรโลหิตขนาดยักษ์ขึ้นมาง้างออก...!

 'เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าคุณสมบัติที่มีต่อผู้ถือมันคืออะไร?' เสียงที่คุ้นเคยดังก้องขึ้นในโสตประสาทของเขาเหมือนถามใจอีกครั้ง

คีมีเดียสพยักหน้าอย่างแน่วแน่กับการตัดสินใจของตน

 'ถ้างั้น เจ้าจงตั้งสมาธิให้มั่น... หลอมรวมจิตใจกับลูกศรที่จะปล่อยให้แล่นพุ่งออกไปเป็นครั้งสุดท้าย...'

 ว่าแล้วคีมีเดียสก็ข่มตาลง ตั้งจิตมั่นดั่งหลอมรวมกับลูกศรในมือ ที่มีเป้าหมายคือหยุดยั้งเป้าหมายไว้ให้จงได้

วิญญาณโปร่งใสของเขาค่อยๆถอดออกจากร่างเป็นดวงแสงอันเจิดจ้า ก่อมันจะหลอมรวมกับลูกศรในมือของเขา

 ทันทีที่ร่างไร้วิญญาณหมดแรงง้างสายธนู ลูกศรที่ง้างไว้อยู่นานก็ถูกปล่อยแล่นออกไป...!

 ลูกศรทื่ชี้ชะตาแห่งโลกใบนี้ ที่หลอมรวมไว้กับวิญญาณที่เขาแลกต่อมัน ขอให้มันจงดับชีพคนชั่วช้าอย่างนางมารเอลซ่าให้หลับใหลไปชัว่นิรันดร์!

 ฉึก...!

 แสงที่ลอดออกจากปลายลูกศรซึ่งเจิดจ้ากว่าสิ่งใดๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของนามารที่แผดดังขึ้นอีกครั้ง

ดวงแสงที่สว่างจ้าขึ้นค่อยๆเผาผลาญร่างกลายของนางให้กลายเป็นเถ้าธุลีได้ภายในชั่วพริบตา

เสียงกรีดร้องจึงสงบลงเมื่อต้นตอของร่างสลายตกลงสู่เบื้องเหวพร้อมการสลายมลายหายไปของความชั่วทุกสิ่ง

พลันลูกศรเวทย์แสงอันจิดจ้าก็ค่อยๆดับลงก่อนสายกลายเป็นริ้วแสง

พร้อมๆดวงชีพของเอลฟ์หนุ่มคีมีเดียสผู้เป็นตำนานโบยบินขึ้นสู่นภาอันกว้างไกล...

 
...บทส่งท้าย...

 แสงสว่างที่เจิดจ้าค่อยๆแผ่ความยิ่งใหญ่ไปทั่วผืนนภา พื้นดินทรายที่แห้งแล้งไร้ชีวิตชีวาทุกส่วนกำลักลายสภาพ

เป็นทุ่งหญ้าป่าดงเขียวชอุ่มเป็นที่รื่นรมณ์ยิ่ง

 เหล่านักรบฝ่ายแสงทั้งหมดต่างโห่ร้องดว้ยความดีใจที่ทุกอย่างที่พวกตนเฝ้ารอมานานก็ได้สำเร็จลุล่วงไปพร้อมกัน

 ดวงวิญญาณที่ถูกปลดปล่อยทั้งหลายจากกำไลราตรีก็คืนสู่ร่างของคนตายที่สภาพศพยังไม่เน่าเปื่อย

สร้างความหฤหรรษ์ให้แก่บันดาลผองเพิ่อนญาติๆศพต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน

 มนุษย์ฝ่ายความมืดทั้งหลายได้ถูกจองจำไว้ในคุกที่มืดมิดที่สุดตามโทษที่เขาเคยก่อกรรมไว้

 เหล่ามอนสเตอร์ทั้งหลายถูกลบเลือนความทรงจำที่เคยเข่นฆ่าทั้งหมดกลับสู่พื้นที่ธรรมชาติของตน

 ศาสนาเทพีลูซิสได้แข็งแกร่งขึ้นก่อเป็นรกรากของทุกๆอย่าง เหล่านักรบทั้งหลายตจัดสินใจเข้าบวชอุทิศส่วนกุศลแก่สงครามเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง

พร้อมสันติสุขที่กลับมาสู่ผืนโลกทุกหนแห่ง...

  ภารกิจที่เทพีลูซิสแห่งแสงได้มอบหมายให้เหล่านักรบฝ่ายแสง
 
 บัดนี้เขาได้ทำมันให้สำเร็จลุล่วงแล้ว... แม้จะไม่ได้เฝ้าอยู่ดูผลงาน แต่ความสุขใจที่ท่วมท้นก็ทดแทนได้...

สมคำร่ำรือของผู้เป็นตำนาน เขาและเหล่าผองนักรบได้ทำให้สันติภาพของโลกกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้สงครามครั้งนี้จะต้องแลกด้วยเลือดเนื้อเพียงแต่เท่าไหร่ แต่คติอันเป็นถาวรแก่โลก 'ธรรมะย่อมชนะอธรรม' ก็ยังถูกต้องเสมอ

 และเรื่องราววีรกรรมอันดีงามทั้งหมด จะถูกจารึกลงรอยประวัติศาสตร์ไปเป็นที่นิรันดร์...

...จบบริบูรณ์...



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #797 เมื่อ: 11-04-2011, 15:44:22 »

กรี๊ดดดดดดดดดด รัก

ในที่สุดก็จบแล้ว

ถึงมทันจะเน่าแต่ก็ภูมิใจมากที่เขียนได้จนจบ

รวมระยะเวลาปาไป2ปีกว่า!

กาไรด้เขียนคำว่า จบบริบูรณ์ ต่อ1เรื่องยาวเป็นอะไรที่ดีที่สุดสำหรับนักเขียนเลย

และก็ขอทำลายสถิติเรื่องที่สามารถจบได้ในจำนวนตอนที่มากที่สุด! (ครึ่งร้อย!)

ปลื้มมากๆน้ำตาแทบจะเล็ดTwT

 ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานเน่าๆนี้เสมอมาตั้งแต่ต้นจนจบ หวังว่าคงจะสนุกที่ได้อ่านผลงานห่วยตอนต้นเกือบดีตอนปลาย

เปิดให้แสดงความคิดเห็นไปรเอยๆ หลังสงกรานต์ค่อยมาล็อค

 ขอบคุณจากใจจริงๆ Cry



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
-ChiVas-
Hero Member
*****
กระทู้: 3,503

/人◕ ‿‿ ◕人\


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #798 เมื่อ: 11-04-2011, 15:51:58 »

ว่าแล้วก็ตายทั้งคู่ ไม่ผิดจากที่คิดเลยจริงๆ  Evil

จบแล้ว บทส่งท้ายช่างไพเราะ เพราะพริ้ง ปิ๊งๆๆ  Smiley

ไว้อาลัยหมาน้อย ไปตายสักทีเหอะ
ระวังกระทู้กลายพันธุ์!! Shocked
●♫•Kαnαмe Äi•♫●
Hero Member
*****
กระทู้: 2,201

คำคมที่เจ็บปวดที่สุด คือเธอมันแย่ที่สุด!


เว็บไซต์
Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #799 เมื่อ: 11-04-2011, 23:09:30 »

-o- จบได้ซึ้งมาก(?)สำหรับเค้านะ

สงครามที่แลกด้วยหลายสิบชีวิต ความพยามที่ทุกคนตั้งใจ

ทุกสิ่งหวนคืน อิสระภาพบังเกิด ทุกคนคือตำนาน

แม้ต้องตายก็ยอมขอแค่โลกสงบสุข เฮ้อ~ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ TT

ถ้าไม่ใช่ฟิกเกมแล้ว(สมมุติ)เป็นหนังสือคงขายดีแน่เลย ซึ้ง และดี ทุกอย่างของการเสียสละ

คือสิ่'ที่ยิ่งใหญ่ TT

ปล.เซ็งมากตัว ก กับ ง กดติดยากมาก - -

เอิร์ธคุงขอรับกระผม
Hero Member
*****
กระทู้: 8,586

กุเบื่อ...


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #800 เมื่อ: 11-04-2011, 23:15:31 »

ตอนจะตายนี้ง่ายชิบ- - Evil จะบอกว่าบมจบเลขสวยมากเลย >:D50พอดี laugh

一番の宝物
Hero Member
*****
กระทู้: 6,540

.......


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #801 เมื่อ: 12-04-2011, 12:13:29 »

จบซะที

ซึ้งมากคุณเธอ ชั้นชอบบบ..

ตายHaหมดเลย=__=



GøøGle-KunG
Hero Member
*****
กระทู้: 10,361


ถึงเวลา ก็ขอให้โชคดีกะที่ใหม่


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #802 เมื่อ: 12-04-2011, 12:17:42 »

อ้างจาก: 一番の宝物 ที่ 12-04-2011, 12:13:29
จบซะที

ซึ้งมากคุณเธอ ชั้นชอบบบ..

ตายHaหมดเลย=__=
จบแบบรอดมันเหมือนนิทานเด็กเล่น แบบนี้แหละ ดีแล้ว Evil



บุย บอร์ดเก่า ไปให้พ้น บอร์ดใหม่
~๖♥็♫ไอ้กึ่งเพี้ยน♫♥็๙~
Jr. Member
**
กระทู้: 189

ความพยายามมีแค่3 ครั้งเกินกว่านั้นตูจะไม่ทำอีกแล้ว


Re: Fic.asura "ตำนานบทราตรีเเห่งวิญญาณ" บทที่ 44 (อัพเดท 18/03/54)
« ตอบ #803 เมื่อ: 13-04-2011, 10:41:27 »

อุตส่าห์ทนดูจนจบกลับไม่พบความตื่นเต้นเลย Embarrassed Embarrassed จบแบบชีวิตแลกชีวิตช่างคิดเนอะ แต่ไม่ยักจะเข้าตาเลยอ่ะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย วัยชราหมดไฟอ่ะ
ป้าย:
หน้า: 1 ... 52 53 [54]