บทที่26 ศึกสายเลือด
“หึๆ....” เขาหัวเราะอย่างสะใจ แล้วค่อยๆคลายผ้าพันแผลที่ห่อหุ้มบางสิ่งที่ไว้อยู่ด้านหลังของเขา สิ่งที่
คลายออกมาให้เห็นทำให้ทุกคนหัวใจกระตุกวูบเลยทีเดียว มันเป็นหุ่นชัก...ที่ทำจากร่างมนุษย์
“นั่น...ศพแม่กับปู่นี่นา...!” น้ำเสียงของอาเวเทียสบอกได้ทันทีว่าเขาอยู่ในสภาวะตกใจสุดขีด
“ฉันเคยเห็น....” อากาช่าพูดอย่างแผ่วเบา “อาจารย์ฝึกวิชาลึกลับเผ่าเอลฟ์ วิชาหุ่นชัก ชื่อ เทเมียส ผู้ฝึก
วิชานี้มีจำนวนน้อยมาก เพราะเป็นวิชาที่ฝึกยาก ได้ข่าวมาว่าเทเมียสหายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน เพิ่งจะมาเจออีกทีก็ที่นี่แหละ....” สิ่งที่อากาช่าพูดออกมาเมหือนจะเป็นความจริง หมอไบรอันที่ฟังอยู่ข้างๆก็พยักหน้าตอบรับ
“งั้นฆ่ามาเป็นหุ่นชักตัวที่3เลยดีกว่า....” เทเมียสดึงหุ่นออกมา เชิดให้เข้าไปฟันอาเวเทียส แต่เขาหลบได้แล้วรีบชักหุ่นออกมาสู้เหมือนกัน คีมีเดียสเตรียมง้างธนูจะช่วยยิงซัพพอร์ตแต่ไม่ทันไรเขาก็ถูกด้ายมัดแขนมัดขาไว้ในพริบตา
“ฉันอยากสู้กับลูกฉันเดี่ยวๆน่ะ ดังนั้นคนอื่นไม่เกี่ยว” ว่าแล้ว เทเมียสก็เชิดหุ่นข้างหนึ่งขึ้นมา ปากของหุ่นพะงาบๆ แล้วปล่อยควันสีดำสนิทออกมารอบๆตัวเอง และอาเวเทียส
คนอื่นที่เหลือชักอาวุธขึ้นมาเตรียมฝ่าหมอกควันพิษ แต่อากาช่าตะโกนห้ามไว้ก่อน
“คราวนี้เราคงเข้าไปไม่ได้ วิชาหุ่นชักนี้ สามารถกำหนดจำนวนศัตรูที่ให้ต่อสู้ได้ แต่ต้องให้ชำนาญจริงๆ
ซึ่งเจ้านี่มันใช้สกิลนี้ได้ ถ้าพวกนายเข้าไปเพียงโดนแค่ปลายเล็บล่ะก็ พวกนายจะติดพิษตายภายใน1นาที!”
คำพูดของอากาช่าทำให้ทุกคนชะงักไปทันที และได้แต่เฝ้ารอความหวังว่าอาเวเทียสจะรอดออกมา
*
พอยซั่นฟิลด์ สกิลขั้นสูงของผู้ใช้หุ่นชักทุกคน มีเพียงแต่ที่ชำนาญเท่านั้นที่ใช้ได้ สกิลนี้จะปล่อยหมอกควันสีดำสนิท คลุมอยู่รอบๆผู้ใช้และเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ มากที่สุด20คน คนที่อยู่ในหมอกควันนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่คนที่อยู่ด้านนอกแล้วเผลอเอาร่างกายไปโดน คนที่อยู่ด้านนอกคนนั้นจะติดพิษตายภายในเวลา1นาที
“หึๆ....” เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายเปล่งออกมาอีกรอบ ทำให้อาเวเทียสเริ่มทนไม่ได้แล้วเชิดหุ่นเข้าไปโจมตีเขาทันที “ไอสารเลว! หัวเราะรื่นอยู่ได้! พฤกษาพันธนาการ!” หุ่นชักของอาเวเทียสชูมือข้างหนึ่งแล้วปล่อยพืชหนามจำนวนมากเข้ารัดเทเมียส “เปิดก่อนเลยรึไอ้ลูกชาย หึๆ...” ไม่ทันไรพืชหนามจำนวนมากที่พันธนาการเขาไว้ก็ขาดเป็นท่อนๆออกไปทันที “ตาฉันบ้างล่ะ.... วินด์พอปเพ็ต....” หุ่นชักทั้ง2ตัวค่อยๆลอยขึ้นมาใกล้ๆกันแล้วแต่ละตัวหมุนมือข้างหนึ่งรวดเร็วดั่งสว่าน แล้วปล่อยออกไปโจมตีอาเวเทียส
แต่อาเวเทียสรีบกระโดดหลบโดยเร็ว มือทั้ง2ข้างนั้นจึงลอยกลับมาปักเข้าที่หุ่นดังเดิม
“พอพเพ็ตเทกเกอร์!” หุ่นชักของอาเวเทียสแยกแขนออกมาเป็นปลายแหลมคมแล้วพุ่งไปหมายจะโจมตี
เทเมียสแต่หุ่นชักตัวแม่ได้เข้ามาใช้มือขยายป้องกันไว้จนมือขาดร่องแร่ง
“แม่!” อาเวเทียสร้องออกมาด้วยความตกใจแล้วนิ่งไปสักพัก “ว้า...หุ่นพังไปตัวนึงแล้วช่างเถอะยังพอมีประโยชน์อยู่....” เทเมียสยกหุ่นชักตัวแม่ขึ้นมาแล้วเชิดพุ่งเข้าไปที่อาเวเทียสด้วยความรวดเร็วจากนั้นหุ่นชักจึงระเบิดตัวมันเอง อาเวเทียสที่รับแรงระเบิดมะกี้กระเด็นออกไปอยู่ข้างๆแล้วรำพึงออกมา“แม่...!”
“แก! เอาร่างแม่ของชั้นมาทำเป็นหุ่นชักไม่พอ แกยังทำลายอย่างเลือดเย็นอีก!” อาเวเทียสตะโกนด่าทอเขาพลางน้ำตาที่ไหลพรากอาบแก้ม “ศพก็ส่วนศพ คนก็ส่วนคน พอตายแล้วจะทิ้งจะขว้างยังไงก็ได้นี่ หึๆ...!”
คำพูดที่ออกมาจากปากผู้เป็นพ่อทำให้อาเวเทียสรับรู้ได้ว่า เขาเลือดเย็นเกินกว่าที่จะอยู่ในหลักมนุษยธรรมแล้ว อาเวเทียสนิ่งชั่วครู่แล้วชักหุ่นออกมา ระดมโจมตีเทเมียสอย่างรุนแรงด้วยความแค้นทั้งหมด
“โอ๊ะๆใจร้อนนี่ งั้นข้าเอาจริงบ้างล่ะ!” เทเมียสเชิดหุ่นชักตัวปู่ขึ้นแล้วแยกแขนแยกขาเปลี่ยนเป็นปลายแหลมเข้าไปรุมแทงอาเวเทียส จากนั้นจึงย้อนกลับมาประกอบดังเดิม “อั่ก!”อาเวเทียสถึงกับกระอักเลือดออกมา เขารู้สึกได้ว่าตัวเขาในตอนนี้สติเริ่มจะลืมเลือนไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายตัวเองได้จึงได้แต่กัดฟันทรุดอยู่กับพื้น
“หึๆ.... โดนสกิล นัมบ์ไนฟ์ เข้าไปตอนนี้แกคงโดนยาชาเข้าไปแล้วคงจะขยับไม่ได้ล่ะนะ” เขายิ้มฉีกแล้วค่อยๆเดินเข้ามา ชูหุ่นชักตัวปู่ ตาของมันแดงก่ำพร้อมจะฉีกคนที่อยู่เบื้องหน้าเป็นชิ้นๆ
“บ๊ายบาย ไอลูก…” สิ้นสียงของเทเมียสหุ่นชักตัวปู่ก็อ้าปากพร้อมปล่อยควันพิษสีม่วงคล้ำออกมาใส่
อาเวเทียสเต็มๆ
*ควันพิษของหุ่นชัก แบ่งออกได้หลายระดับตามสี ซึ่งสีดำจะเป็นควันพิศที่แรงที่สุด เบาที่สุดจะเป็นสีเขียว
ส่วนสีม่วงคือพิษระดับกลางๆแต่ก็ใช้สามารถฆ่าคนได้เหมือนกัน
เขายิ้มฉีกอีกครั้งพร้อมหัวเราะอย่างสะใจ ก่อนที่จะหันหลังเดินออกไป แต่เมื่อหมอกควันจางลง สิ่งทิ่อยู่เบื้องหน้าทำให้เขาตกใจมิใช่น้อยพร้อมนิ่งชั่วครู่ เพราะร่างของอาเวเทียส ตอนนี้ถูกห่อหุ้มด้วยหุ่นชักที่ขยายส่วนกลายเป็นเกราะกำบังเจ้าของ ทำให้อาเวเทียสรอดตายจากควันพิษเมื่อกี้
หุ่นชักของอาเวเทียสค่อยๆคืนสภาพและประกอบดังเดิม อาเวเทียสที่นอนกัดฟันต่อสู้กับฤทธิ์ยาชาอยู่ บัดนี้เขาได้ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเล็งนิ้วพร้อมต่อสู้อีกครั้งไปด้านหน้าด้วยลมหายใจถี่ที่ยังเหลืออยู่
“สมเป็นลูกฉัน ยังรอดตายได้อีกเหรอเนี่ย...” เขาปรบมือเบาๆด้วยท่าทียิ้มกริ่ม แววตาสีฟ้าเมื่อกี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงสด เป็นสัญญาณวาตอนนี้เทเมียสอยู่ในสถานะต่อสู้เอาจริงเต็มที่
“ไม่ต้องมาพูด!” อาเวเทียสชักหุ่นเข้าไปจับล็อคเทเมียสพร้อมหมุนตัวทำให้ด้ายที่ติดอยู่กับหุ่นชักพันร่าง
เทเมียสแน่น “บลัดเทรด!” เทเมียสทรุดลงทันใด ส่วนอาเวเทียสเหมือนจะมีพละกำลังขึ้นประกอบกับที่หายจากฤทธิ์ยาชาแล้ว “ตอนนี้เลือดแก ก็ถูกสับเปลี่ยนกับเลือดฉันแล้ว ตอนนี้แกจะเหลือ พลังชีวิตน้อยเต็มที่แล้วน่ะสิ” อาเวเทียสพูดด้วยท่าทีสมประกอบอีกครั้ง “ลูกเล่นเยอะนี่ มาสู้กันจริงๆเลยดีกว่า!”
เทเมียสควบคุมหุ่นชักตัวปู่ให้มากระชากด้ายที่พันตัวอยู่หลุดออก อาเวเทียสจึงรีบชักหุ่นกลับอย่างรวดเร็ว
“พ็อปเพตไฟเยอร์!” หุ่นชักตัวปู่จึงเปลี่ยนสภาพกลายเป็นค้างคาวอาฆาตขนาดยักษ์ แล้วอ้าปากปล่อยไฟออกมาเผาอาเวเทียส แต่อาเวเทียสรีบใช้หุ่นแยกส่วนออกมาเป็นเกราะป้องกันอีกครั้ง ทำให้หุ่นชักอาเวเทียสค่อยๆสึกกร่อนไปบางส่วน “คอฟฟินพ็อปเพต!” เทเมียสชักหุ่นขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้มันแยกแขนแยกขาออกแล้วเอาตัวที่เหลืออยู่ขยายเป็นรูปโลงจากนั้นจึงจับอาเวเทียสที่ยืนอยู่เข้าโลง จากนั้นแขนและขาที่แยกออกมาเป็นปลายแหลมก็พุ่งเข้ารุมแทง พร้อมหมุนเป็นเกลียวสว่าน แต่แทนที่จะมีเลือดไหลออกมากลับกลายเป็นเศษหินก้อนหนึ่งกระเด็นออกมาเท่านั้น
“ตัวปลอมหรอกหรือ? แล้วมันไปไหนหว่า...?”เทเมียสเกาหัวยิกๆ พร้อมหันหน้ามองไปมา
อาเวเทียสตอนนี้หลบอยู่ในหมอกควันพิษกลุ่มหนึ่งซึ่งโชคดีที่หมอกควันพิษนี้ไม่ทำให้อาเวเทียสบาดเจ็บจึงใช้หลบซ่อนได้ “(ดีนะที่เราใช้วิชา เอาสิ่งของรอบๆตัวมาเปลี่ยนเป็นตัวก๊อปปี้ งั้นคงตายไปแล้ว)”
อาเวเทียสรำพึงคิด ก่อนที่จะซุ่มดูท่าทีของเทเมียสไปสักพักหนึ่ง
“เอาล่ะ....” อาเวเทียสเริ่มเล็งหุ่นชักที่มือของมันเปลี่ยนเป็นใบมีดที่แหลมคมสามารถตัดคอเป้าหมายได้ในพริบตา ไปที่เทเมียส แต่ก่อนที่อาเวเทียสจะเชิดหุ่นโจมตีเล็งจุดตายกลับมีบางสิ่งพุ่งมาถากหน้าอาเวเทียสแบบฉิวเฉียดทำให้เกิดแผลของมีคมเป็นรอยยาวที่หน้าของอาเวเทียส จังหวะนั้นเทเมียสก็พุ่งเข้ามาใช้หุ่นชักตะบบอาเวเทียสลงนอนกับพื้นแล้วปล่อยควันพิษสีม่วงอีกครั้ง คราวนี้อาเวเทียสไม่ได้ทันตั้งตัวจึงโดนควันพิษสีม่วงไปเต็มๆ เมื่อควันพิษจางลงก็พบอาเวเทียสนอนน้ำลายฟูมปากอยู่
“โอ้...อีก3นาที ลูกก็จะไปสบายแล้วล่ะนะ....หึๆ....”เทเมียสหัวเราะเยาะเย้ยอาเวเทียสที่กัดฟันต่อสู้กับพิษที่ซึมเข้าทั่วร่าง โอกาสรอดของอาเวเทียสตอนนี้ริบหรี่ลงทุกที อาเวเทียสพยายามคุมสติที่เหลืออยู่คุมหุ่นชักให้พยุงตัวเองขึ้นมา พร้อมกับตั้งท่าเตรียมต่อสู้อีกครั้ง
“หึ....อึดดีนี่ แต่จะเอาชนะข้าด้วยสภาพแบบนี้เหรอ ไม่มีวัน....” เขาหัวเราะพลางยิ้มฉีก
“ภายใน3นาทีนี้...ก็ฆ่าแกได้แหละน่า!!!!” อาเวเทียสกัดฟันชักหุ่นออกมาอีกรอบ
“พอพเพ็ตอินดิวส์!” หุ่นชักของอาเวเทียสพุ่งเข้าไปจ้องตาหุ่นชักตัวปู่ ตอนนี้หุ่นชักตัวปู่เริ่มผุกร่อนลงทันใดเพราะสกิลนี้ทำให้อาวุธของฝ่ายตรงข้ามสึกกร่อนได้ในพริบตา “บูสแอกแทก!” หุ่นชักอาเวเทียส เปิดผ้าที่คลุมตัวมันอยู่ออกมาเป็นมีดราวๆ10กว่าเล่ม เข้าไปรุมฟันหุ่นชักตัวปู่อย่างถี่ยิบ
“ซุปเปอร์ซัดเดิร์นบลัด!” หุ่นชักอาเวเทียสพุ่นพิษออกมาใส่หุ่นชักตัวปู่เต็มๆ คราวนี้หุ่นชักตัวปู่ก็สลายไปในพริบตา “(สู่สุขตินะครับปู่....)” อาเวเทียสรำพึง ตอนนี้เวลาชีวิตของอาเวเทียสเหลืออยู่ 1นาที 30วิ
“ตอนนี้อาวุธแกคงไม่เหลือแล้วสินะ....” อาเวเทียสชี้นิ้วไปที่หน้าของเทเมียส
“ไม่ใช่....หึๆ...!” เขายิ้มฉีกพร้อมกระชากผ้าคลุมออกมา สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าทำให้อาเวเทียสตกตะลึงมิใช่น้อย ร่างของเทเมียส ตอนนี้กลายเป็นหุ่นชักไปครึ่งร่าง...
“ร่างนี้คงเอาจริงได้สินะ เฮะๆ...!!!” เขายิ้มฉีกหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วพุ่งเข้ามาเอามือข้างซ้ายที่เป็นหุ่นฟันอาเวเทียสไปจังๆ อาเวเทียสกระเด็นออกไปแต่ยังพอตั้งหลักได้ จึงรีบเชิดหุ่นเป็นเกราะป้องกันอย่างรวดเร็ว “ไม่รอดหรอก!” เทเมียสพุ่งเข้ามามือข้างซ้าย มันแยกส่วนเป็นใยสีดำแล้วเอามือข้างซ้ายต่อย
เกราะป้องกันทะลุจังๆ อาเวเทียสรีบรวบหุ่นเป็นร่างเดิมแล้วกระโดดถอยห่างจากนั้นเชิดหุ่นขึ้นไปบนฟ้า
“เรนนิดเดิ้ล!!!” หุ่นชักของอาเวเทียสกางตัวออกมาเหมือนกระรอกบินแล้วปล่อยเข็มเล็กๆจำนวนมหาศาลตกลงมารุมแทงเทเมียส ทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่ “เข็มพวกนี้เป็นเข็มพิษนะ...” แน่นอนตอนนี้
เทเมียสเริ่มรู้สึกว่าพลังชีวิตค่อยๆลดไปเรื่อยๆบวกกับเลือดจากบาดแผลมากมายทั่วครึ่งร่างทำให้เลือดไหลไม่หยุด พลังชีวิตจึงลดเร็วยิ่งขึ้น
“คิดว่าฉันจะหยุดง่ายๆแค่นี้เหรอไง!” ครึ่งร่างของเทเมียสค่อยๆแปลสภาพเป็นกระดูกอันแหลมคมพร้อมอาบด้วยพิษขั้นรุนแรง มือข้างซ้ายของเขาได้ขยายเป็นขนาดใหญ่ แล้วตะบบลงมาด้วยวามรวดเร็วทำให้อาเวเทียสหลบไม่ทันโดนไปเต็มๆ มือข้างซ้ายได้ปล่อยมีดรุมแทงอาเวเทียสอีกรอบ คราวนี้อาเวเทียสได้นอนกระอักเลือดอยู่กับพื้น แต่ก็ยังพอจะลุกไหววิ่งหนีไปตั้งหลักอีกรอบ
“อึดดีนี่!” มือข้างซ้ายของเทเมียสพุ่งตามอาเวเทียสไปพร้อมเข้าบีบร่างอาเวเทียส อาเวเทียสได้แต่ร้องครวญครางด้วยความทรมาน ณ ตอนนี้กระดูกแทบทุกส่วนของร่างอาเวเทียสแตกหมด แค่จะขยับทีเดียวก็เจียนจะตาย เวลาชีวิตของเขาเหลืออีกแค่ 20 วินาที
"เทาท์ซั่นไนฟ์!" หุ่นชักของอาเวเทียสพุ่งเข้าไปเกาะครึ่งร่างของเทเมียส ทันใดนั้นก็มีดมีนับร้อยผุดขึ้นมาจากตัวหุ่นชักแทงครึ่งร่างของเทเมียสเป็นูพรุนหลายจุดแล้วรีบถอยออกมา
"ฆ่ามัน..." มือข้างซ้ายของเทเมียส ยืดยาวออกมาแล้วพยายามปัดอาเวเทียส ด้วยเหตุผลที่ว่าอาเวเทียสตอนนี้ขยับตัวแทบไม่ได้จึงทำให้เขาโดนเต็มๆ จนลอยขึ้นฟ้า
"ตายซะ....ฮันเดรตนิดเดิ้ลทรี!" มือข้างซ้ายของเทเมียสขยายวงกว้างขึ้นกว่าเดิมแล้วยื่นไปใต้อาเวเทียสที่ลอยอยู่บนอากาศ
ได้มีต้นไม้เข็มขนาดใหญ่และแหลมคมนับร้อยผุดขึ้นมาจากฝ่ามือนั้นแล้วพุ่งขึ้นฟ้าเข้ารุมแทงอาเวเทียส
(ไม่มีทางเลือกแล้ว...มีแต่วิธีนี้เท่านั้น)อาเวเทียสที่อยู่ในสภาพใกล้หมดลมหายใจเต็มทีกระเด็นออกไปไกลกว่าเดิม เขาจึงรวบรวมพลังชีวิตแห่งเอลฟ์เฮือกสุดท้ายกระโดดลงมาเกาะครึ่งร่างขนาดใหญ่ของเทเมียสพร้อมหุ่นชัก
"ออกไปนะโว้ย!!!!" เขาพยายามสะบัดครึ่งร่างนั้นสุดขีดแต่อาเวเทียสก็ยังคงเกาะไว้แน่น แล้วชูมือขึ้นมาเอาหุ่นชักไว้อยู่ข้างๆตัว
"พ็อปเพต...เอ็กซ์โพร์ซีบ..." ร่างหุ่นชักค่อยๆขยายขึ้นคลุมตัวอาเวเทียสและขยายไปทั่วร่างของเทเมียสจากนั้นจึงระเบิดขั้นรุนแรงสูงสุด
"ไม่.....! ไม่~~~!" ร่างของเทเมียสสลายเป็นจุนไปพร้อมกับแรงระเบิด อาเวเทียสได้กระเด็นออกมาจากหมอกควันพิษพร้อมซากหุ่นชัก
ทุกคนทีเหลือจึงวิ่งเข้ามาดูอาการอาเวเทียสสภาพตอนนี้ร่างของเขาแหลกเหลวแทบไม่มีชิ้นดี คีมีเดียสตะโกนเรียกสติอาเวเทียส
หน่วยพยาบาลรีบเข้ามารักษาโดยขั้นสูงสุด แต่ก็ยื้อชีวิตไม่ไหวด้วยอาการพิษที่หลงเหลืออยู่ อาเวเทียสพยายามขยับปากแล้วพูดคำ
สุดท้ายออกมาให้ทุกคนได้ยินเป็นครั้งสุดท้าย....
"...ลาก่อนนะ.....ทุกคน..." มือของอาเวเทียสตกไป ลมหายใจที่ยังแผ่วเบาอยู่เมื่อกี้กลับหายไปอย่างไม่มีวันกลับ
ณ บัดนี้ ชีวิตอาเวเทียสได้จบลงแล้ว........