บทที่ 6 สิ่งลึกลับ ณ ใต้สุสาน
22.30 น.
ณ โรงแรมเซาท์เทิร์นฟอร์ท มาดามหว่อง
"เฮ้อ~"เลิฟโลว์ถอนหายใจเล็กน้อยแล้ววางแก้วไวน์แดงลง ดูเหมือนว่าทริงค์จะหงุดหงิดกับการที่ถูกเลิฟโลว์ลากลงมาให้กินเหล้าเป็นเพื่อน
"ทำไมถึงต้องมากินเนี่ย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ!!"
"ก็กินให้สบายใจไง"
"สบายใจ?"ทริงค์ถามด้วยสีหน้างุนงง
"ชั้นสังหรณ์ใจว่าพรุ่งนี้จะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น นายอาจจะหาว่าฉันบ้าก็ได้นะแต่ว่ามันสังหรณ์ใจจริงๆ"
"เอาน่า เธออาจจะคิดไปเอง ดื่มๆซะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่น"
"อือ.."เลิฟโลว์กระดกแก้วไวน์จนหมด ก่อนจะขึ้นห้องไปโดยให้ทริงค์จ่ายเงินแทนตนจนทริงค์ต้องทำหน้าเบื่อ
เช้าวันต่อมา
08.50 น.
"ปะ 8โมงเช้าแล้ว กินอะไรกันเสร็จจะได้เดินทางกัน จากนี่ไปโบสถ์ก็คงจะ 10 นาที"เลิฟโลว์มองนาฬิกาข้อมือตัวเอง เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว เลิฟโลว์ก็หยิบหมวกนักรบทองคำมาใส่ไว้ตามเดิม
10 นาทีต่อมา
"พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่รึ"ซิสเตอร์ เทเรซ่า กล่าวเมื่อเห็นเหล่าคณะเดินทางมา
"เอ่อ..เซอร์ อเล็กส่งมา"กาเรนตอบสั้นๆ ก่อนณอนจะเปิดประตูให้
ฟิ้วว...วว...
สายลมพัดผ่านเป็นเสียงหวีดหวิว ข้างในสุสานไม่ค่อยมืดนัก เพราะมีคบเพลิงไว้ตามทาง เลิฟโลว์หยิบคบเพลิงอันหนึงมาก่อนจะส่องไปตามทาง
หมับ
"ฮะ..เฮือก"กาเรนสะดุ้งหน่อยๆเมื่อมีจับที่ขาของตนเอง เลิฟโลว์ส่องไปทันที ก็พบว่ามันเป็น..ศพ!!
ศพที่คืนชีพซะด้วย หรือจะ เรียกง่ายๆว่า "ผีดิบ" หรือ "ซอมบี้"
"เราไม่ต้องการมารบกวนพวกท่าน เพียงแค่มาสำรวจเฉยๆ จงอย่าเอาเรื่องเลย"เลิฟโลว์กล่าวสั้นๆ ก่อนจะหยิบทวนมาแล้วชูไปด้านหน้าของผีดิบตนนั้น แสงสว่างพอทำให้มันต้องคลานหนีออกไป ทุกคนจึงหยิบอาวุธของตนเองขึ้นมา ยกเว้นโอมที่ต้องคอยเกาะเลิฟโลว์ไปเรื่อยๆ
ณ สุสานใต้ดิน โซน 2..
"หว๋าย น่ากลัวจังเลย"เพชรพูดเบาๆ
"..นะ..นั่นมัน.."เลิฟโลว์ชี้ไปข้างหน้าก่อนจะดึงแขนเพชรมาหลบข้างหลังโขดหิน กุเกิ้ลจึงรีบดึงบิวและทริงค์มาอีกแรง เหมือนสิ่งนั้นจะเห็น โอมรีบผลักทริงค์เข้าไป
สิ่งนั้นมันมีสีม่วง หัวไม่มี หน้าอยู่บริเวณท้อง มือซ้ายถือเกราะ มือขวาถือดาบสีม่วงดำ รองเท้าบูทสีดำมีไอสีม่วงเปล่งออกมาพร้อมกับตัวของมันและถุงมือ
มันเดินเข้ามาหาโอม ยังไม่ทันที่โอมจะวิ่งหนี ดูเหมือนมันจะวิ่งไวมาก และ
ฉึก..
ดาบของมันเสียบเข้าที่ไหล่ของโอม โอมทำหน้าเจ็บปวดก่อนจะกัดฟัน แล้วล้มลงไป
"กระแทกขวาน!!"เสียงของทริงค์ดังขึ้น ก่อนจะสับไปที่ลำตัวของเจ้าตัวนั้นจนเกิดอาการมึน เลิฟโลว์รีบดึงดาบนั่นออกแล้วเขวี้ยงไปไกล ก่อนจะฉุดมือเพชรและโอมวิ่งหนี ตามมาด้วยบิวและกุเกิ้ล จากนั้นทริงค์ก็ตามมา
ณ หน้าสุสาน
"ทำใจดีๆนะ"เลิฟโลว์ตบหน้าโอมเบาๆ บิวบอกให้เลิฟโลว์ถอย ก่อนจะรักษาขั้นสูง แต่แล้วมันก็ไม่หาย
"ไม่หาย..ทำไงดี"บิวบอกเบาๆ เลิฟโลว์จึงเอ่ยปากถามบิว
"เฮ้ย แล้วรักษาขั้นสูงนายเนี่ย นายเรียนมาเยอะเท่าไหร่!!"
"เอ่อ..ฉะ..ฉันเรียนมาแค่ระดับ 1 ขั้นแรก ขั้นอื่นฉันยังไม่ได้เรียนน่ะ"บิวก้มหน้ารู้สึกผิด โอมกุมไหล่ตัวเองไว้ เลือดเริ่มหยดออกเรื่อยๆ เลิฟโลว์ยืนขึ้นก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นแล้วคิดอะไรบางอย่าง
"ปัดโถ่เว้ย!!"
"เลิฟโลว์ เรารีบพาโอมไปหาท่านสาธุ คุณมอเรย์ กันเถอะ"เพชรรีบไปเขย่าแขนเลิฟโลว์ ดูเหมือนจะคิดออก ทริงค์รีบอุ้มร่างของวิซาร์ดหนุ่มเข้าประตูไป แล้ววางลงที่เก้าอี้ในโบสถ์ กุเกิ้ลและบิวช่วยกันปิดประตูทันทีแล้วลงกลอนล็อค สักพักท่านสาธุ คุณมอเรย์ก็มา เดินไปที่ร่างของโอม แล้วพูดอะไรบางอย่างที่ไม่ได้ยินแต่ปากขยับเร็วมาก
ดวงตาของโอมปิดลงช้าๆ เลิฟโลว์รีบเดินไปหาทันที
"ท่านทำอะไร"
"ฉันรักษาเขาแล้ว พรุ่งนี้คงจะฟื้น พาเขากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ อะ ผ้าพันแผล พันที่รอบไหล่เขานะ อย่าให้เลือดไหลออกมาอีก"ท่านสาธุ คุณมอเรย์ ยื่นผ้าพันแผลไปให้ เลิฟโลว์รับมาแล้วจากนั้นก็กลับโรงแรมกัน
เลิฟโลว์พันผ้าพันแผลให้โอมในขณะที่หลับสนิทพลางคิดไปว่า
'พ่อกับแม่ตายเพราะสิ่งที่อยู่ในสุสาน.. แต่เอ.. ไม่ใช่เจ้าตัวนั้นหรอกเหรอ มันดูเกรงขามจนน่ากลัว ทางการก็ส่งคนลงไปเยอะแต่กลับไม่มีใครกลับมา
แค่พ่อแม่มันพรากจากพวกเราไปแล้ว ถ้ามันพรากคนของชั้นอีกละก็ ฉันไม่ไว้อภัยให้มันแน่
นับวันรอได้เลย ดูลาฮาน..'
________________________________________________________________________
อะ ปริศนาชวนให้คิดกันเล่นๆอีกรอบว่าทำไมฟองต์ถึงรู้ชื่อดูลาฮาน